สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก
สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก


**เรื่องนี้เป็นเรื่องของภัทรา และเขตแดน พ่อและแม่ของภิตะวัน จากเจ้าสาวแสนแสบค่ะ
และก็เป็นเพื่อนสนิทของ อมาวตี จาก สะดุดรัก ลวงใจค่ะ (ตีพิมพ์ไปแล้วกับดอกหญ้า 2000ค่ะ)


** เรื่องนี้เคยลงที่เด็กดีจนจบเรื่องแล้วนะคะ อันนี้เป็นฉบับรีไรท์ค่ะ**


รัตน์ๆ เอามาลงอีกครั้ง ระหว่างรอหนังสือออก ซึ่งตอนนี้เงียบหายไปเลย
หลังจากบอกว่าจะปิดต้นฉบับ T-T (หลอกให้เค้าดีใจตลอดเลย กระซิกๆ T^T)
เจ้าสาวแสนแสบที่ลงไว้ก็กระดึ๊บๆ มากด้วย ก็เลยรู้สึกผิดเล็กน้อย หุหุ


เอาเป็นว่าไว้อ่านกันเล่นๆ ละกัน


จะลงจนกว่าหนังสือจะออก ถ้าหนังสือออกช้า ก็ลงจนจบเลยค่ะ
แต่ขออนุญาตลบเมื่อลงครบทุก 5 ตอนนะคะ



อยากรู้ว่าตะวันได้เชื้อ(บ้า)มาจากใคร ต้องลองอ่านดูค่า ^^





สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก



คำโปรย



เมื่อสาวแสบ แสนซน เจ้าแผนการ หวังทวงคืนรักแรกเมื่อครั้งวัยเยาว์


ทว่าปฏิบัติการครั้งนี้ดูจะมีอุปสรรคไม่น้อย เมื่อต้องฝ่าด่านน้องชายจอมเจ้าชู้และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์ ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวางเธอในทุกวิถีทาง


มาลุ้นกันว่า...สาวป่วนอย่าง “ภัทรา” จะสามารถเอาชนะใจชายในฝันได้สำเร็จ หรือจะหลงเสน่ห์ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ก่อนกัน



...จะรอให้คนบนฟ้าเป็นผู้กำหนด หรือเราจะลิขิตทางเดินรักด้วยตัวเอง!...






ตัวละคร



ภัทรา (ภัทร)

สาวสวยร่างเล็ก ทว่าอวบอัด ชอบกลั่นแกล้งชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน....

สิ่งที่ถนัดที่สุด คือ การทำเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องใหญ่





เขตแดน (แดน)

ทายาทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย หล่อเหลา เจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ ขี้เล่น และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์..





สุดเขต (เขต)

พ่อหม้ายลูกติด พี่ชายคนเดียวของเขตแดน ผู้กุมบังเหียนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เจ้าของนัยน์ตาเศร้า ด้วยภาพความทรงจำในอดีตยังฝังแน่นอยู่ในใจ ไม่อาจลบเลือน






ภัคจิรา (ภัค)

ญาติสาวผู้พี่ของภัทรา สไตลิสสาวบ้างาน

ชีวิตของเธอมีเพียงสิ่งเดียว...คือ "งาน" เท่านั้น!






ภูผา (ภู)

ชายหนุ่มผู้พกความแค้นมาเต็มพิกัด หวังกอบกู้กิจการของครอบครัวที่ล้มละลาย พร้อมกับทำลายศัตรูคู่อริให้สิ้น ทว่าคำพิพากษาของเขา กลับหวนทำร้ายตัวเขาเองโดยไม่รู้ตัว...

เพราะคำว่า "รัก" เพียงคำเดียว





Tags: สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก

ตอน: ฉันนี่แหละภัทรา! (ต่อ)


บทที่ 1 : ฉันนี่แหละภัทรา! (ต่อ)

“ไอ้อ๊อด! อย่าอยู่เลย!!!”
ภาพเด็กหญิงตัวเล็กทว่าใจใหญ่กระโจนเข้าดึงทึ้งขนยาวๆ ของเจ้าอ๊อดดี้ สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นการใหญ่ ทำเอาเด็กหนุ่มสองคนต้องรีบเข้าไปห้ามปราม ด้วยเพราะเกรงว่าอาจเกิดอันตรายกับหนูน้อยได้
“นี่แน่ะๆๆๆๆๆ ตายซะเถอะไอ้อ๊อด!!!”
ภัทรากระโดดเตะเจ้าสิ่งมีชีวิตสี่ขาตรงหน้าอย่างแรง ทว่าเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวหาได้มีท่าทีโกรธขึ้งแต่ประการใด กลับทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย คล้ายกับว่าดีใจที่มีใครมาเล่นกับมันซะอย่างนั้น
“ยิ้มทำไม ไม่ได้เล่นด้วย กะลังโกรธเข้าใจมั้ย!” หนูน้อยตะโกนใส่หน้าเจ้าอ๊อดดี้ ทำราวกับว่ามันฟังที่เธอพูดรู้เรื่องอย่างนั้นแหละ
“ยัยม้าดีดกะโหลก! บุกรุกบ้านชาวบ้าน แล้วยังจะมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงเขาอีก!” เสียงห้าวจากเด็กหนุ่มผู้ที่เป็นเจ้าของสัตว์สี่เท้าเอ่ยขึ้น พร้อมกับรีบพาเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวหลบไปอีกทาง เพราะรู้ว่าเจ้าอ๊อดดี้สุนัขของตนคงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของยัยเด็กผู้หญิงบ้าตรงหน้าเป็นแน่ เพราะมันคงเข้าใจว่าเจ้าหล่อนคงกำลังเล่นกับมันอยู่
พร้อมๆ กับที่วงแขนแข็งแรงของเด็กหนุ่มอีกคนเข้ามาขัดขวางภัทราไว้...
“น้องภัทร!”
เสียงคุ้นหูของผู้เป็นมารดาที่ดังแว่วมา ทำเอาภัทราชะงักไปชั่วขณะ ราวกับโดนจี้จุดเหมือนหนังจีนกำลังภายใน ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะหันไปหามารดาพร้อมรอยยิ้มจืดเจื่อน
“ก่อเรื่องอีกแล้วหรือเรา” ภัสราเอ่ยกับบุตรสาว ด้วยเพราะมองสถานการณ์โดยรอบ ก็พอจะเดาได้ว่ามีอะไรๆ เกิดขึ้นบ้าง ซึ่งสาเหตุก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน น่าจะมาจากบุตรสาวเจ้าปัญหาของตนนั่นเอง
ภัสราตามหาบุตรสาวจนทั่วทั้งตัวบ้าน และบริเวณโดยรอบบ้านก็ไม่เจอ ทว่าจู่ๆ อะไรบางอย่างทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าลูกสาวที่น่ารักของตนน่าจะมาเล่นซุกซนที่นี่เป็นแน่
“ป่าวน้า...น้องภัทรไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ก็นายคนนี้น่ะ” นิ้วป้อมชี้ไปยังหนุ่มน้อยเจ้าของสุนัขตัวใหญ่
“ไม่ยอมดูแลหมาให้ดี ปล่อยให้มันมาทำร้ายเจ้ามิลค์จนขนร่วงเกือบหมดตัว...ดูสิ!”
เด็กหญิงกล่าวรัว แม้จะแอบบิดเบือนความจริงไปบ้าง เพราะอันที่จริงขนของเจ้ามิลค์แต่เดิมก็มีน้อยอยู่แล้ว กับทั้งต้องวิ่งหนีใครบางคนสุดชีวิต จะไปเกี่ยวโน่นเกี่ยวนี่และร่วงเพิ่มขึ้นบ้างก็คงไม่แปลก
“แต่ที่นี่มันไม่ใช่บ้านเรานะลูก” ภัสรากล่าวกับบุตรสาวด้วยเหตุและผล หวังว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะเข้าใจ..เฮ้อ! ลูกใครหว่า...
“ใช่..บ้านเธอน่ะ หลังโน้น...ส่วนหลังนี้น่ะ บ้านฉัน!” เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของอ๊อดดี้กล่าวแทรก พลางแสยะยิ้มคล้ายกับว่าตนนั้นกำลังถือไพ่ที่เหนือกว่า ด้วยเห็นอยู่เต็มตาว่าคนที่ทำผิดคือใคร ก็ไหนจะข้อหาบุกรุกบ้านคนอื่น แล้วไหนจะมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงในบ้านอีกนี่นะ
“จะบ้านใครก็ช่าง น้องภัทรไม่เห็นจะอยากรู้” ภัทรากล่าวพลางมองตาขวางไปยังเด็กหนุ่มคนดังกล่าวอย่างไม่เป็นมิตร
“ช่างเถอะครับ ไม่ได้มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว” เด็กหนุ่มท่าทางสุภาพซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลกล่าวขึ้น
“ผมชื่อ “สุดเขต” ครับ เรียก “เขต” ก็ได้ นี่น้องชายผมครับ “นายแดน”
สุดเขตพนมมือไหว้หญิงสูงวัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนบ้านของตนด้วยความเคารพ จนภัสราอดชื่นชมในความเป็นผู้ใหญ่เกินตัวของเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้
“น้าชื่อภัสราจ้ะ อยู่บ้านข้างๆ นี่แหละ ส่วนเจ้าตัวยุ่งนี่ก็ “ภัทรา” ลูกสาวน้าเอง น้าขอโทษด้วยนะจ๊ะที่น้องภัทรมาทำความยุ่งยากให้กับที่นี่” ภัสรากล่าวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“คุณแม่ก็!..น้องภัทรไม่ได้เป็นตัวยุ่งซะหน่อย...เจ้าตัวนั้นต่างหากล่ะ รังแกเจ้ามิลค์ก่อน” เด็กหญิงตัวน้อยเถียงข้างๆ คูๆ ไม่วายมองไปยังสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อย่างเอาเรื่อง
“ไม่เอาค่ะน้องภัทร ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก ทำผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ...มานี่! ตามแม่กลับบ้านเลย เห็นทีเราต้องชำระความกันยาวแล้วคราวนี้ ทั้งเรื่องเมื่อวาน ทั้งเรื่องวันนี้ สงสัยต้องมีคนอดข้าวเย็นบ้างแล้วล่ะ” ภัสราเอ่ยขู่บุตรสาว พร้อมกับถูลู่ถูกังเด็กน้อยพากลับบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างกันแค่เพียงรั้วกั้นเท่านั้น
“ไม่เอา...น้องภัทรยังไม่อยากกลับ!!” เด็กน้อยขืนตัวสุดฤทธิ์ ทว่าท้ายที่สุดก็ถูกมารดาอุ้มไปจนได้ โดยมีเจ้ามิลค์วิ่งตามเจ้านายของมันไป ทั้งนี้ไม่ใช่ว่ามันแสนรู้หรือซาบซึ้งที่นายหญิงของมันเข้าไปช่วยเหลือให้พ้นภัยแต่อย่างใด หากแต่ไม่อยากถูกปล่อยไว้ ณ ที่แห่งนี้ตามลำพัง ด้วยยังไม่อยากเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้าหมาตัวใหญ่ จนพาลต้องสังเวยชีวิตน้อยๆ ของมันต่างหาก


***********************************************


ท่ามกลางความมืดมิดของยามราตรีกาลที่ปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า มีเพียงแสงระยิบระยับจากดาวดวงเล็ก นับร้อยนับพันที่กระจายไปทั่วฟ้ากว้าง ราวกับคอยจ้องมองทุกการกระทำของผู้คน คล้ายกับจะรู้ว่าในคืนเดือนดับคืนนี้จะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น
เงาตะคุ่มของใครบางคนที่ค่อยๆ ย่องหลบตามสุมทุมพุ่มไม้ เป็นเหตุให้เกิดความสั่นไหวของต้นไม้ใบหญ้าเป็นระยะๆ ทว่าด้วยเป็นเวลาที่ทุกคนพากันเข้านอนกันหมดแล้ว จึงไม่มีใครสังเกตเห็นแขกไม่ได้รับเชิญ ที่มาเยือนในยามวิกาลคืนนี้
“หนอยแน่ะ ไอ้อ๊อด! แกล้งน้องมิลค์งั้นเหรอ!” เสียงแหลมเล็กดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏกายของเด็กหญิงตัวเล็ก ที่ดูเหมือนจิตใจจะยิ่งใหญ่เกินตัว ด้วยที่บุกรุกมาในยามค่ำมืดเช่นนี้ ก็หมายมาเอาคืนให้ลูกน้องตัวสนิทที่โดนรังแก...ด้วยถือคติ... บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ!
ภาพสุนัขตัวใหญ่อันเป็นจุดหมายปลายทาง นอนหลับปุ๋ยอยู่ไม่ไกล ดูท่ามันหาได้รู้เลยว่ามัจจุราชตัวน้อยกำลังมาเยือนในอีกไม่กี่อึดใจนี้แล้ว
เท้าเล็กๆ ค่อยๆ ย่างไปยังเป้าหมายอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตจับจ้องเจ้าสัตว์สี่เท้าด้วยความแน่วแน่…จนในที่สุดก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของมัน ว่าแล้วจึงใช้ปลายเท้าเตะเขี่ยร่างหลับใหลให้ตื่นขึ้นมา
ทว่าเจ้าอ๊อดดี้หาได้คิดเช่นนั้น ทันทีที่ปลายเท้าน้อยๆ แตะไปโดนเท่านั้นแหละ เจ้าหมาตัวใหญ่ก็คุดคู้ไปมา หยอกล้อกับสิ่งแปลกปลอมอย่างสนุกสนาน ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวผู้บุกรุกที่มาพร้อมรังสีอำมหิตแต่อย่างใด
"ไอ้อ๊อด หยุดเดี๋ยวนี้นะ...มะได้มาเล่นด้วย! รู้ป่าว..." เด็กน้อยเอ่ยห้ามเสียงดัง
ทว่าเมื่อเห็นขนปุยๆ ของมัน ก็อดเอามือไปลูบๆ คลำๆ ดูไม่ได้ ลูบไปลูบมาชักเพลิน ด้วยเพราะเจ้าอ๊อดดี้หาได้หลบหนีหรืออิดออดแต่ประการใด หากแต่กลับยินดีให้อีกฝ่ายเล่นหัวเล่นหางด้วย คล้ายกับดีใจที่มีเพื่อนใหม่มาเล่นกับมันเสียมากกว่า และหากว่ามันพูดได้คงพูดประมาณว่า... ‘เอ๋งๆ มาเล่นกันนะครับ’…เป็นแน่
“สนุกดีแฮะ...เอ้า! ไปคาบมา” ภัทราโยนเศษท่อนไม้ไปในอากาศ พร้อมกับที่เจ้าอ๊อดดี้กระดิกหางรับคำสั่ง และไปคาบท่อนไม้ท่อนดังกล่าวกลับมาอย่างรวดเร็ว
“แสนรู้นะเนี่ย...เฮ้ย! ไม่ใช่!...เราจะมาเอาคืนนะ ไม่ได้มาเล่นด้วยซักหน่อย”
เด็กน้อยเริ่มมึนงงกับการกระทำของตัวเอง ทว่าเจ้าหมาตัวใหญ่ก็ยังคลอเคลีย ออดอ้อนอยู่ไม่ห่าง แล้วอย่างนี้ใครจะทนไหวกันล่ะ ก็เธอน่ะแค่เจ็ดขวบเองนี่ จะทนสิ่งยั่วยุตรงหน้าได้ยังไง
ไม่นานร่างน้อยๆ ก็ลงไปนั่งเล่นจ้ำจี้กับเจ้าอ๊อดดี้ คล้ายกับเป็นเพื่อนเล่นต่างเผ่าพันธุ์กันเสียอย่างนั้น
“น้องภัทร! ทำอะไรอยู่เนี่ย!!” ภัทราเตือนสติตัวเองอีกครั้ง หลังจากสนุกสนานเพลิดเพลินกับเจ้าอ๊อดดี้เป็นนานสองนาน จนลืมจุดมุ่งหมายตอนแรกของตนเสียสนิท
“เอาเถอะ ฉันจะอภัยให้แกครั้งนึง ถือว่าทำทานก็แล้วกัน” เด็กหญิงตัวน้อยพูดกับเจ้าอ๊อดดี้ ขณะที่ฝ่ามือขนาดเล็กยังลูบขนอีกฝ่ายไปมาไม่ได้หยุด พร้อมๆ กับที่เจ้าหมาตัวใหญ่กระดิกหางอย่างแสนรู้ และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปยังตัวตึกสีขาวขนาดใหญ่ตรงหน้า จึงเห็นว่ามีอยู่ห้องนึงที่ยังเปิดไฟสลัวๆ อยู่ภายใน ทำให้ภัทราฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ก็เธอยังไม่ได้กล่าวคำขอบคุณใครคนนั้นสักครั้งเลยนี่นา...เค้าช่วยเธอไว้ตั้งหลายหน...
‘พี่สุดเขต เอ...หรือจะเรียก...พี่เขตดีนะ จะได้ฟังดูสนิทสนม อิอิ...’ เด็กหญิงแก่แดดคิดในใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของชื่อ “สุดเขต” ชื่อที่ได้ฟังครั้งเดียวเธอก็จำได้ไม่ลืม
ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังหน้าต่างสูงบานนั้นอย่างหมายมาด ก่อนจะมองหาเส้นทางปีนป่ายตามที่ตนถนัด ไม่นานร่างเล็กๆ ก็พาตัวเองห้อยโหนอยู่บนต้นไม้สูงใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านสาขาแผ่ไปยังตัวอาคารสีขาวหลังใหญ่ ไม่ไกลไปจากหน้าต่างที่มีแสงรำไรเท่าไหร่นัก
ในที่สุดร่างป้อมๆ ของภัทราก็มายืนอยู่บนระเบียงของห้องพักห้องดังกล่าวได้สำเร็จ...เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าของห้องได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากระเบียงด้านนอก เป็นเหตุให้ต้องเปิดประตูออกมาดู
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ร่างของผู้บุกรุกที่ด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าประตูก็เสียหลักล้มลงมา ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดไปยังอีกฝ่าย ซึ่งผู้เสียหายคงจะไม่ว่าอะไรเท่าไหร่ ถ้าตอนล้มแม่โจรสาวตัวน้อยไม่เอาศีรษะมากระแทกกับปลายคางเขาเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!!!...ใครวะ!”
เด็กหนุ่มเจ้าของห้องร้องโวยวาย ขณะจับปลายคางด้วยความเจ็บปวด พลางมองดูผมฟูๆ ของใครบางคนที่เข้าปาก เข้าจมูกของตนอย่างอารมณ์เสีย และเท่านั้นยังไม่พอยังพาลำตัวอ้วนกลมมานั่งอยู่บนหน้าอกเขาอีก
“ยัยแสบมาได้ยังไงเนี่ย!!”
“นาย!” ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ
“เออ! ฉันน่ะสิ นึกว่าใคร!” เสียงตอบกลับบอกให้รู้ว่าผู้พูดโมโหขนาดไหน
“จะนั่งตรงนี้อีกนานมั้ย! ตัวหนักยังกะแม่ช้าง ทับลงมาได้” เขตแดนบ่นว่าอีกฝ่าย เป็นเหตุให้ร่างแม่ช้างที่ว่าต้องรีบย้ายที่อยู่ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ขณะที่อีกฝ่ายก็ชันศอกลุกขึ้นตามมา
“ฉัน..เอ่อ…” ภัทราอยากจะกล่าวขอโทษอีกฝ่ายที่ตนนั้นเข้าห้องผิดแล้วยังไปล้มทับเจ้าของห้องเข้าให้อีก ทว่าปากกลับไม่เป็นใจ ด้วยไม่คุ้นชินกับการเอ่ยคำนี้มากนัก
“อ้ำอึ้งอะไรอยู่ได้ จะพูดก็พูดซะทีสิ! ” เสียงขู่กรรโชกของคนตรงหน้า ทำเอาหนูน้อยที่กำลังสำนึกผิดเริ่มขมวดคิ้วด้วยความโมโห ‘นี่ใช่น้องชายพี่เขตจริงรึเปล่า หน้าตาก็คล้ายๆ กัน ทำไมนิสัยถึงต่างกันราวฟ้ากับเหวได้ขนาดนี้นะ!’
“ช้าซะ! ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แค่ออกไปจากห้องของฉันก็พอ” ร่างสูงเอ่ยไล่ ว่าพลางดันหลังของร่างเล็กกะทัดรัดให้ออกจากห้องของเขา แต่ต้องออกคนละทางกับตอนเข้า เพราะเขาไม่อยากให้แม่โจรตัวน้อยพลัดตกลงมาแข้งขาหักเสียก่อน ทว่าเสียงกรีดร้องผิดปกติจากอ๊อดดี้ทำให้คนทั้งคู่ต้องหยุดชะงัก ก่อนที่จะกรูกันออกมาดูตรงระเบียงว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือภาพสุนัขสี่ขา ขนยาวสีเหลืองทองตัวใหญ่ที่เลี้ยงไว้ กำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความกระวนกระวาย ไม่ใช่ว่าดีใจที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่หรือมีใครมาเล่นด้วย หากแต่เป็นปลายหางที่ลุกเป็นไฟของมันนั่นเอง
“อ๊อดดี้!!” ทั้งคู่เอ่ยออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“ยัยเด็กบ้า เธอทำอะไรอ๊อดดี้?” เขตแดนเอ่ยพลางมองหน้าอีกฝ่าย ที่ยังตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะแม้ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะมาเอาคืนเจ้าสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ตัวดังกล่าว ทว่าก็ไม่ได้อยากให้เกิดอะไรร้ายแรงแบบนี้กับมันเสียหน่อย ที่สำคัญตอนนี้เธอกับมันเป็นเพื่อนกันแล้วนี่นา ใครจะอยากทำร้ายเพื่อนกันล่ะ
และคนอย่างเธอ...ถ้าลองเป็นเพื่อนกับใครแล้ว...ให้ตายแทนยังได้!
เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบสาวเท้าออกจากห้องไปยังด้านนอกอาคาร เพื่อช่วยเจ้าหมาเพื่อนยาก หากแต่ก่อนออกไม่ลืมหยิบถังน้ำที่บรรจุน้ำสะอาดไว้จนเต็มติดมือไปด้วย หมายนำไปช่วยดับไฟให้เจ้าอ๊อดดี้ ทว่าเมื่อออกมายังสนามหญ้าหน้าบ้าน ก็ไม่เห็นแม้เงาของเจ้าสุนัขตัวโปรดเสียแล้ว
“มันไปทางนั้น” ภัทราชี้ไปยังเส้นทางที่เจ้าอ๊อดดี้วิ่งตื่นไป เนื่องด้วยเจ้าตัวปีนป่ายลงมาทางต้นไม้ต้นเดิม จึงลงมาทันเห็นว่าเจ้าอ๊อดดี้วิ่งไปทางไหน
เขตแดนรีบสาวเท้าไปยังเส้นทางดังกล่าวในทันที ด้านภัทราหวังตามไปช่วยเพื่อนใหม่ด้วยอีกคน ทว่ากลับเห็นเจ้าสิ่งๆ หนึ่งตกอยู่ตรงพื้นเสียก่อน...ตะเกียงขนาดย่อมที่เธอพกติดตัวมาด้วยเพื่อช่วยนำทางให้เธอในคืนฟ้ามืดคืนนี้ มันนอนแน่นิ่ง ขณะที่ของเหลวด้านในหกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนพื้นหญ้าไปหมด ภัทราถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อคิดว่าโชคดีที่ไม่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ไม่อย่างนั้นเธอต้องโดนแม่ดุแน่ๆ
เพลิงไหม้!!
เท่านั้นแหละเด็กหญิงตัวน้อยจึงได้ข้อสรุปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด...เมื่อรู้อย่างนี้ก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกผิดมากขึ้น ด้วยเพราะความเลินเล่อของตนทำให้เจ้าอ๊อดดี้เพื่อนใหม่ต้องตกที่นั่งลำบาก ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
“อ๊อดดี้! รอก่อนนะ น้องภัทรจะรีบไปช่วยเดี๋ยวนี้ล่ะ” ถ้อยคำที่กล่าวคล้ายเป็นสัญญาใจให้กับตัวเอง...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจะต้องช่วยเหลือเพื่อนสี่เท้าของเธอให้จงได้ โดยไม่ได้ดูตัวเองเลยว่ายังเด็กเล็กขนาดไหน และแทนที่จะได้ไปช่วยจะกลายไปเป็นตัวถ่วงหรือเปล่าก็ไม่รู้
ภัทราวิ่งตามมาจนสุดปลายทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ ติดกับที่ดินของชาวบ้าน หากแต่สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาเท้าน้อยๆ ถึงกับผงะ ด้วยไม่คาดคิดว่าเรื่องราวเล็กๆ จะบานปลายไปได้ไกลถึงเพียงนี้
ยุ้งฉางข้าวขนาดใหญ่พอประมาณ บัดนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงอาคารเดิมอยู่เลย ด้วยเพราะเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงและได้ลมช่วยพัดทำให้ไฟโหมกระพืออย่างรวดเร็ว เป็นผลให้สิ่งก่อสร้างตรงหน้าคล้ายกับเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่มากกว่าตัวอาคารสำหรับใช้งาน
ร่างน้อยยืนตื่นตะลึงอยู่ชั่วครู่กับภาพที่เห็น ทว่าอึดใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของเจ้าสี่ขาเพื่อนใหม่ขึ้นมา
“อ๊อดดี้!” ภัทราหันรีหันขวางเป็นการใหญ่ หวังว่าจะเจอเจ้าสุนัขตัวโตกับเจ้านายของมันอยู่รอบๆ ตัวเธอ ทว่าไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตทั้งสอง
“น้องภัทร!”
เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นทำให้ภัทราหันไปมอง ด้วยคิดว่าคงจะเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นเจ้าของเจ้าอ๊อดดี้ ทว่าเมื่อพิศดูชัดๆ จึงรู้ว่า..ไม่ใช่ หากแต่เธอก็ใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเขาอาจช่วยเธอตามหาเจ้าอ๊อดดี้กับใครคนนึงจนเจอได้
“พี่สุดเขต! เจ้าอ๊อดดี้ค่ะ เจ้าอ๊อดดี้ไม่รู้อยู่ไหน” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยรัว ก่อนจะชี้ไปยังเปลวเพลิงเบื้องหน้า
“น้องภัทรไม่รู้ว่าเจ้าอ๊อดดี้อยู่ในนั้นรึป่าว...ฮือๆ” เด็กน้อยกล่าวพลางสะอื้น น้ำตาหยดเล็กๆ ปริ่มขอบตา ด้วยเพราะความเป็นห่วงเจ้าอ๊อดดี้ กับทั้งรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“รออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหน!”
สุดเขตสั่งอีกฝ่ายเสียงเข้ม ก่อนจะรีบวิ่งไปยังยุ้งฉางข้าวที่เปลวไฟกำลังลุกท่วม ทั้งนี้เด็กหนุ่มวิ่งตามภัทรามา ด้วยเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวนผิดปกติของสุนัขตัวโปรด กับทั้งน้องชายของเขาก็ไม่อยู่ในห้อง เป็นผลให้คนเป็นพี่ต้องรีบออกตามหา หากแต่ยังดีที่เขากำชับเหล่าคนใช้ในบ้านที่มาด้วยกัน ให้ช่วยกันตามหาด้วย ดังนั้นคิดว่าไม่นานคนเหล่านั้นน่าจะตามมาช่วยเหลือ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าพ่อและย่าของเขารู้เข้าจะว่ายังไง
“แดน! อ๊อดดี้!” สุดเขตตะโกนเรียกชื่อน้องชาย พร้อมสุนัขที่เลี้ยงสุดเสียง ขณะสาวเท้าวิ่งไปยังกองเพลิงเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็มีผู้คนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ พากันมาช่วยดับไฟ ทว่าหาได้ทำให้กองเพลิงตรงหน้าลดความแรงลงได้ไม่
“ลุงคะ...ลุง...ช่วยด้วยค่ะ...พี่เขต อ๊อดดี้ และก็...เอ่อ...น้องชายพี่เขต เค้าติดอยู่ในกองไฟ...” ภัทราละล่ำละลักกล่าวแทบไม่เป็นภาษาด้วยความตกใจ ด้วยหวังให้ใครต่อใครที่มาช่วยกันดับไฟ ออกไปตามหาคนเหล่านั้นที่หายตัวไป
“หนูหลบหน่อย อย่ามาเกะกะ คนเค้ากำลังช่วยกันดับไฟ” ชายแก่คนดังกล่าวหาได้สนใจในสิ่งที่หนูน้อยกล่าวออกมา หากแต่มุ่งมั่นเพียงแต่จะดับไฟ ด้วยเพราะเขาเป็นเจ้าของยุ้งข้าวหลังนี้นั่นเอง
ภัทราอยากจะขอความช่วยเหลือกับคนอื่นๆ ทว่าแต่ละคนต่างกำลังกุลีกุจอขนน้ำมาช่วยกันดับไฟ ไม่มีช่องว่างให้เธอเข้าแทรกได้เลย
“พี่เขต อ๊อดดี้ ตาบ้านั่น...ทำไมยังไม่กลับมาซะที”ร่างเล็กเขย่งปลายเท้าชะเง้อชะแง้มองเท่าไหร่ ก็ยังไม่เห็นใครสักคน ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง จนพาลโทษตัวเอง ว่าที่ทุกคนต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะความประมาทเลินเล่อของเธอเอง พร้อมๆ กับที่หยาดน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลรินอาบแก้ม น้ำตาที่ไม่เคยไหลมาก่อน ด้วยเพราะเจ้าตัวไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็น และคนอย่างเธอเคยแต่จะทำให้คนอื่นเสียน้ำตา ไม่คิดว่าวันนี้ต้องมาเสียน้ำตา และเสียใจอย่างมหันต์กับความผิดที่เธอก่อไว้แบบไม่ตั้งใจ
“ฮือๆ น้องภัทรขอโทษ...” ภัทราทรุดตัวลงร่ำไห้ หากแต่เพียงครู่เดียวร่างน้อยๆ ก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่น...ในเมื่อเราเป็นคนก่อเรื่อง เราก็ต้องแก้ไขเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง!
ร่างเล็กๆ ไม่รอช้าวิ่งตรงไปยังกลุ่มควันไฟตรงหน้าทันที ไม่สนใจเสียงห้ามปรามจากผู้คนรอบข้าง
“หนูๆ อย่าเข้าไป!!”
ทว่าดูเหมือนจะช้าไปเสียแล้ว ควันไฟที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณบดบังร่างน้อยๆ ของเด็กหญิงในที่สุด
“อ๊อดดี้! พี่เขต! นายปากจัด! อยู่ไหน” ภัทราตะโกนฝ่าควันไฟที่ลอยอยู่โดยรอบ หวังให้คนเหล่านั้นตอบกลับมา ทว่าด้วยไอความร้อนและควันไฟที่กระจายอยู่รอบตัว ทำให้สำลักน้ำหูน้ำตาไหล ไม่สามารถหายใจเข้าออกตามปกติได้
“อ๊อดดี้ น้องภัทรขอโทษ...” เด็กน้อยพึมพำ ขณะนอนบิดตัวเร่าๆ ด้วยสำลักควันไฟ พร้อมๆ กับที่ข้างกายเต็มไฟด้วยเปลวเพลิงที่ลุกลามมาใกล้...ใกล้มากจนน่ากลัว
หากแต่ก่อนที่สติสัมปชัญญะส่วนสุดท้ายจะหลุดลอยไป ภัทรากลับเห็นภาพใครคนนึง เจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยเธอไว้ อ้อมอกที่อบอุ่นของเขาทำให้เธอรู้ว่า นับจากนาทีนี้ไปเธอจะปลอดภัย…
...พี่เขต...
สุดท้ายเด็กหญิงตัวน้อยก็สลบไสลไปในอ้อมกอดแข็งแรง ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในที่สุด


***********************************************

ณ โรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่
“คราวนี้น้องภัทรทำเรื่องใหญ่เลยคุณ”
ภัสรากล่าวพลางหันไปมองหน้าสามีเชิงปรึกษา ขณะที่ร่างน้อยๆ ของลูกสาวนอนหมดสติอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตปิดสนิท แก้มยุ้ยๆ และริมฝีปากที่เคยชมพูเปล่งปลั่ง บัดนี้กลับซีดเผือดคล้ายไม่มีเลือดมาเลี้ยง ทั้งยังต้องหายใจด้วยอุปกรณ์ช่วยหายใจ เพื่อให้ได้รับออกซิเจนที่บริสุทธิ์
“นี่ดูซิ! ไปทำยุ้งฉางข้าวของชาวบ้านข้างๆ เค้าไฟไหม้หมดทั้งหลัง”
“เอาน่าคุณ ลูกคงไม่ได้ตั้งใจหรอก ลูกยังเด็กอยู่เลยนะ” ศรัทธาเอ่ยปลอบภรรยา
“ก็เพราะว่ายังเด็กน่ะสิ ฉันถึงคิดว่ายังสอน ยังสั่งกันได้ แต่นี่อะไรก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวันทีเดียว”
“ใจเย็นๆ น่าคุณ ลูกกลับมาปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ”
“ไม่รู้ล่ะ คุณต้องจัดการกับลูกขั้นเด็ดขาด ลูกคุณนี่นา”
“อ้าว! คุณพูดอย่างกับว่าน้องภัทรไม่ใช่ลูกคุณงั้นแหละ”
“ไม่รู้ล่ะ คุณชอบตามใจแกจนเสียเด็ก คุณนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบ” ภัสราเอ่ยโทษสามี
ศรัทธาส่ายศีรษะ...เฮ้อ! แม่ลูกนิสัยเหมือนกันยังกะอะไรดี แต่ก็เอาเถอะ ยังไงซะคราวนี้บุตรสาวของเขาก็ก่อเรื่องร้ายแรงเกินไปจริงๆ เห็นท่าว่าคงต้องทำโทษอย่างที่ภรรยาบอกไว้ วันหลังจะได้ไม่กล้าทำอีก
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องกักบริเวณ ห้ามออกจากบ้านซักเดือนนึงเป็นไง” ศรัทธาเอ่ยถาม พร้อมกับที่ภรรยาพยักหน้าเป็นคำตอบเห็นด้วย


***********************************************



3 วันต่อมา
“ไม่เอา! น้องภัทรจะไปบ้านพี่เขต ปล่อยน้องภัทรนะ!” เด็กหญิงภัทราขืนตัวไปมา เนื่องด้วยเธอถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้าน ทำให้ไม่สามารถออกไปไหนต่อไหนได้ แม้แต่บ้านหลังข้างๆ ที่มีเพียงรั้วสีขาวกั้น เธอก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเช่นกัน
“น้องภัทรจะไปหาพี่เขต แล้วก็เจ้าอ๊อดดี้” เด็กน้อยร้องโวยวาย ทว่าปุยฝ้ายที่เป็นพี่เลี้ยงก็หาได้ตามใจเหมือนอย่างเคย ด้วยเพราะหนนี้ถูกกำชับให้เฝ้าภัทราไว้ อย่าให้หลุดไปก่อเรื่องที่ไหนได้อีก จนกว่าเจ้าตัวจะสำนึก
“ทุกคนที่บ้านหลังนั้นปลอดภัยดีค่ะ ไม่ต้องไปหรอกค่ะ” ปุยฝ้ายกล่าวตอบ และแม้จะรู้สึกสงสารอย่างไร หากแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งเจ้านาย ทำให้ไม่สามารถปล่อยตัวเด็กหญิงตัวน้อยไปได้จริงๆ
“นะคะๆ พี่ปุยฝ้าย น้องภัทรเป็นห่วงเจ้าอ๊อดดี้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณน้องภัทร...อย่าดื้อสิคะ พี่ปุยฝ้ายก็บอกแล้วไงว่าเจ้าอ๊อดดี้ปลอดภัย นี่ค่ะ..คุณน้องภัทรมาเล่นกับเจ้ามิลค์ดีกว่า ดูซิไม่อยู่หลายวัน มันเหงาน่าดู”
ไม่นานแมวน้อยไร้ขนก็ถูกส่งมายังเด็กหญิง เจ้าแมวตัวดังกล่าวทำหน้ากล้าๆ กลัวๆ ด้วยเพราะรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับเจ้านายตัวน้อยของมัน ที่ไม่รู้ว่าจะหวังดีพามันไปทำอะไรอีก
“ไม่เอา! น้องภัทรจะเอาเจ้าอ๊อดดี้เท่านั้น!!!” เด็กน้อยร้องโวยวายลั่นบ้านที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจตัวเอง ทว่าการมาปรากฏกายของใครคนนึงทำให้เจ้าตัวต้องหยุดชะงัก
“นังปุยฝ้าย!” ลุงกล่ำซึ่งเป็นคนดูแลบ้านข้างๆ กล่าวเรียกเด็กสาวที่เป็นพี่เลี้ยงของภัทรา
“ว่าไงลุง มีอะไรรึเปล่า”
“เอ้านี่! คุณหนูฝากมาให้คุณหนูภัทราน่ะ” กล่ำกล่าวพร้อมกับยื่นถุงกระดาษใบเล็กให้เด็กสาว
“อะไรหรือลุง”
“ไม่รู้สิ...เอ็งเปิดดูเองละกัน”
“ลุงกล่ำ!! ” เด็กหญิงตัวน้อยร้องตะโกน
“เจ้าอ๊อดดี้เป็นยังไงบ้าง แล้วพี่เขต...” ภัทรากล่าวถามชายแก่สูงวัยอย่างร้อนรน ด้วยอยากรู้ความเป็นไปในบ้านหลังนั้นเหลือเกิน
“เอ่อ...คือว่า คุณหนูทั้งสองแล้วก็เจ้าอ๊อดดี้กลับกรุงเทพไปกันหมดแล้วล่ะครับ” กล่ำกล่าวตอบตามจริง ด้วยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คุณหนูของเขาบาดเจ็บ แม้จะเพียงเล็กๆ น้อยๆ แต่นั่นก็ทำให้คุณผู้ชายของเขาอารมณ์เสียมากที่บุตรชายไปก่อเรื่องและทำความยุ่งยากให้ชาวบ้านแถบนี้ คุณผู้ชายจึงรีบพาตัวกลับกรุงเทพ ที่สำคัญได้ยินมาว่าพอรักษาตัวจนหายจะส่งไปเรียนต่อเมืองนอก
“กลับไปหมดแล้วเหรอ” ภัทราหันไปมองบ้านสีขาวข้างๆ ตาละห้อย
“ครับ นี่เห็นว่าจะถูกส่งตัวไปเมืองนอก”
“เมืองนอกคือที่ไหนคะพี่ปุยฝ้าย น้องภัทรไปบ้างได้รึป่าว” ดวงตากลมโตแหงนมองพี่เลี้ยงคนสนิท อย่างรอคอยคำตอบ
“นะคะๆ พี่ปุยฝ้ายพาน้องภัทรไปนะ” อุ้งมือเล็กเขย่าแขนพี่เลี้ยงไปมา
“ไม่ได้หรอกค่ะ เมืองนอกก็คือต่างประเทศ ไกลจากที่ๆ เราอยู่เยอะเลยค่ะ ต้องนั่งเรือบินข้ามไปแน่ะ” ปุยฝ้ายอธิบาย
“ไม่เอา! น้องภัทรจะไปหาเจ้าอ๊อดดี้ แล้วก็พี่ชาย” ภัทราโวยวายอีกครั้ง เป็นผลให้พี่เลี้ยงต้องหยิบของในถุงกระดาษออกมา หวังว่ามันจะช่วยปลอบให้เด็กน้อยสงบลงได้
“น้องภัทรค่ะ ดูนี่สิคะ พี่ชายใจดีข้างบ้านฝากมาให้” ปุยฝ้ายกล่าวพร้อมส่งตุ๊กตาสุนัขตัวตัวเล็ก ขนสีน้ำตาลปุกปุย ดูคล้ายๆ เจ้าอ๊อดดี้ให้อีกฝ่าย
เด็กหญิงหยุดโวยวายทันที ก่อนจะคว้าตุ๊กตาตัวดังกล่าวมาดู ดีใจที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ กับทั้งเป็นของที่พี่ชายข้างบ้านฝากมาให้อีกด้วย เธอจะรักษามันเท่าชีวิตเลยทีเดียว
...สักวันน้องภัทรจะต้องหาพี่ชายให้เจอ...
น้องภัทรสัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวที่ดีให้แก่พี่ชาย...รอน้องภัทรก่อนน้า...
ภัทราเอ่ยคำสัญญาไปกับสายลมและท้องฟ้ากว้าง หวังจะให้มันพัดพาข้อความเหล่านี้ไปยังใครคนนึงที่เธอคิดถึง




ฝากน้องภัทรไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

รัตน์ๆ จ้า^^



รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 12:28:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 12:28:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2526





<< บทที่ 1 : ฉันนี่แหละภัทรา!   บทที่ 2 (I) >>
panon 24 พ.ค. 2554, 13:28:41 น.
รับไว้นานแย้ววววววววววววววววว


ปูสีน้ำเงิน 25 พ.ค. 2554, 01:35:34 น.
ช่างเป็นเด็กที่เอาแต่ใจซะจริงๆ


แว่นใส 25 พ.ค. 2554, 08:35:18 น.
คนที่ช่วยเป็นเขตแดนไม่ใช่สุดเขตน๊าน้องภัทร


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account