บ้านนราธร (ภาคต่อของทรัพย์สิดีฯ)
ถ้าใครเคยอ่านทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก นี่คือภาคต่อ ที่มีตัวละครคือลูกๆทั้งสามค่ะ การแหกกฏของตระกูลนราธรได้เริ่มขึ้นในรุ่นนี้ มีตัวเอก 3 คน คือ นรนทร์ ลูกชายคนโต ที่ไม่ต้องการดูแลบริษัท นราธิป ลูกชายคนรองที่ไม่ได้เป็นที่คาดหวังของใคร และสิดาริน ลูกสาวคนเล็กของบ้านที่คุณย่าต้องการให้สวยสมบูรณ์แบบ แต่เธอกลับแก่นเซี้ยว ห่างไกลคำว่ากุลสตรี

แล้วบ้านนราธร รุ่นที่ 5 จะเป็นอย่างไร

ปฏิบัติการความเป็นแม่ของทรัพย์สิดี เริ่มขึ้นแล้ว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: (2)ครึ่งทาง

ตอนที่2

30 ธ.ค.วันอาทิตย์ 20.30น.
สมุดบันทึกที่รัก
วันนี้เราทั้งสามพี่น้องไปตลาดกันมาน่ะ ตลกจะตายอยู่แล้ว หลังจากเราทั้งสามประกาศให้สมาชิกทั้งบ้าน พร้อมทั้งโทรบอกใครต่อใครที่จะมางานว่า ต้องใส่หน้ากากยอดมนุษย์ ซึ่งทุกคนในบ้านดูจะตกใจไปตามๆ กัน มีเห็นดีเห็นงาามด้วยก็แค่คุณแม่และน้าๆในห้องครัว ส่วนคุณย่าน่ะเหรอ

“อะไร้ ยายริน เล่นไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ย่าแก่ป่านนี้แล้วจะใส่หน้ากากแบบเด็กๆได้อย่างไร ไหนจะท่านสุรยุทธอีก เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่มีมารยาท" คุณย่าโวยวายตามระเบียบ

คุณปู่ที่อ่านหนังสือพิมพ์ระหว่างทานอาหารเช้าก็ขัดขึ้น "นี่เธอยุทธน่ะเขาเป็นคนใจดี ง่ายๆ ไม่อะไรมากหรอก แต่นี่ไม่ใช่การบังคับนี่นา ผู้ใหญ่จะใส่หรือไม่ใส่ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ว่าไงยายริน" พูดแล้วหันมาขยิบตากับฉัน "แต่ปู่เตรียมไว้แล้ว ให้ตาชมไปหาให้เรียบร้อย" คุณปู่นี่น่ารักเสมอ แล้วคุณย่าก็งอนไปตลอดการทานอาหารเช้า

“แหม รินก็คิดสนุกๆสำหรับพวกเด็กๆเท่านั้นล่ะค่ะ เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กสองคนบ้านอานรันทร์มาคงจะสนุกพิลึก ผู้ใหญ่ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราก็สนุกกันเองเนอะ" แล้วฉันก็หันหน้าไปพยักเพยิดกับพี่ๆ

“แล้วดารินไปซื้อหรือยังล่ะลูก แม่พาไปไหม จะเอาแบบไหนล่ะ เซเลอร์มูน เซเลอร์วีนัส จูปิเตอร์ หรือจะ ซูเปอร์เรนเจอร์สีชมพู เอ...บูริน หมูอวกาศ นี่ก็ถือเป็นยอดมนุษย์หรือเปล่า" คุณแม่ยื่นข้อเสนอมากมาย แต่ให้ตายเถอะนั่นมันการ์ตูนสมัยพระเจ้าเหายังไม่เป็นไข่เลยมั้ง

“ขอบคุณค่ะคุณแม่ เดี๋ยวรินจะไปกับพี่ๆเอง" แววตาคุณแม่ดูเสียใจนะ แต่นั่นมันรุ่นคุณแม่แล้วนะคะ สมัยนี้มันต้อง แคทวูแมน เอ่อ แต่มันจะมีหรือเปล่าเท่านั้นเอง

ตกบ่ายฉันกับพี่ๆ จึงให้ลุงชมคนขับรถไปส่งเราที่ตลาด เพื่อหาซื้อหน้ากากแบบต่างๆ รวมถึงซื้อเผื่อคนอื่นๆด้วย

แล้วจู่ๆพี่นรนทร์ก็แจ้งพวกเราว่า พี่กงศุลอะไรนี่แหละจะมาด้วย หลานคุณปู่สุรยุทธน่ะ พอพี่ธิปได้ยินชื่อคนนี้ก็ดูตื่นเต้นมาทันที ฉันเลยสงสัยว่าพี่รนทร์ได้แจ้งเขาไปหรือเปล่าว่าต้องใส่หน้ากากยอดมนุษย์ เท่าที่ได้ยินมาเขาคงจะโตเป็นผู่ใหญ่ แถมเป็นนักเรียนนอก จะทำตัวบ้าๆบอๆได้รึ เอออีกคนที่ฉันห่วงอยู่เหมือนกัน น่าจะเป็นพี่ดีน่า สวยๆกุลสตรีอย่างนั้น จะหาหน้ากากอะไรใส่ล่ะเนี่ย คิดแล้วก็อายแทนแต่คงมีอะไรสนุกๆเป็นแน่

พอพวกเราเดินมาถึงร้านขายของเล่นที่พี่ธิปเคยบอกว่าเป็นเจ้าประจำสมัยเด็กๆ เราก็ได้เห็นว่า มีหน้ากากอยู่ไม่่กี่แบบให้เลือก พี่รนทร์ได้อุลต้ราแมน พี่ธิปเลือกมดเอ็กซ์สีแดงแปร๊ด ส่วนฉันหาอะไรที่มันฮาๆตลกๆไม่ได้เลย ไม่แมนๆแบบผู้ชาย ก็น่ารักคิกขุเสียอย่างนั้น คุณป้าเจ้าของร้านที่เห็นฉันเดินหาอยู่นานเลยถามขึ้นว่าฉันต้องการอะไร

“เอ่อ หนูอยากได้หน้ากากที่มันตลกๆน่ะค่ะ" คุณป้ามองหน้าฉัน สักครู่แล้วเดินไปหลังร้านก็จะออกมาแล้วยื่นหน้ากากอันหนึ่งให้ ฉันมองหน้ากากอันนี้แล้วหัวเราะชอบใจ มันดูตลก เอ๋อๆ สมที่ฉันอยากได้จริงๆ แล้วฉันก็ยื่นเงินให้ ก่อนจะรับหน้ากากหนูน้อยอาราเล่ที่ทำตาโตเท่าไข่่ห่าน ใส่แว่นกรอบหนาอันโตได้ใจ มาอย่างตื่นเต้น แต่พี่ธิปบอกว่าอาราเล่ไม่ใช่ยอดมนุษย์ แต่เอาน่า ก็ไม่มีอันไหนตลกเลยนี่นะ อย่างน้อยอาราเล่ก็เป็นหุ่นยนต์ที่มีพลังนะ

แล้วเราทั้งสามคนก็ไปซื้อของมาตกแต่งบ้าน ก่อนจะกลับบ้านถึงตอนเย็นพร้อมกับใส่หน้ากากประจำตัวเดินเข้าบ้าน ใครๆเห็นก็หัวเราะกันกิ๊กกั๊ก ยิ่งพี่ชายทั้งสองทำท่าปล่อยพลังนี่ขำกันท้องคัดท้องแข็ง มีแต่คุณย่าน่ะแหละที่บ่นว่า เล่นไม่เป็นเรื่อง

หลังทานข้าวเย็นเราก็ช่วยกันตกแต่งบ้านกันใหญ่ วันนี้คุณยายมานอนค้างด้วยแล้ว กำลังคุยกันกระหนุงกระหนิงกับคุณแม่และคุณย่า แต่ที่แปลกคือชอบชำเลืองมองมาทางฉันบ่อยๆ ส่วนพรุ่งนี้คนอื่นๆจะค่อยๆทยอยกันมา ฉันรู้สึกมีความสุขดีจัง ที่จะได้เจอญาติๆเต็มบ้านแบบนี้

เมื่อกี้แพรวาโทรมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นบอกว่าเธอเตรียมหน้ากากโดเรมี่ไว้แล้ว

“แต่โดเรมี่ไม่ใช่ยอดมนุษย์นะ" ฉันบอกเธอ

“อาราเล่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน" แพรวาเถียง

“ใช่มันหายาก ยกเว้นเธอจะปริ๊นรูป แอน แฮธาเวย์ ในชุดแคท วูแมน แล้วเจาะตาเอา" ฉันเสนอแล้วเราก็หัวเราะกัน

แพรวาเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะถามขึ้นมา "พี่ธิปใส่หน้ากากอะไรหรอ"

“มดเอ็กซ์น่ะ พี่รนทร์เป็นอุลตร้าแมน" เอ หล่อนจะถามถึงพี่ธิปทำไมกัน "มีอะไรเหรอแพร "

"เปล่าๆ แค่อยากรู้ว่าพี่น้องบ้านเธอเป็นยอดมนุษย์อะไรกัน"

แล้วเราก็คุยกันต่อไม่นานนัก ฉันบอกแพรวาว่า พี่ดีน่าจะมาด้วย เธอก็ตื่นเต้นใหญ่ เพราะพี่ดีน่าเป็นไอดอลของเราทั้งสองคน ใช่สิ พี่เขาออกจะสวย สง่า สุขุม ต่างจากเรา 2 คนนัก อันที่จริง แพรวาไม่ได้แก่นกะโหลกเท่าฉันหรอก แต่เธอก็เป็นคนง่ายๆสบายๆ ไม่ได้วางตัวสวยเรียบร้อยนักหนา ก็เหตุนี้แหละ เราจึงไปกันได้ดี

แต่ทั้งๆที่วันนี้จะมีแต่เรื่องสนุกสนาน กลับมีเรื่องให้ฉันอารมณ์ขุ่นอีกจนได้ นั่นคือจู่ๆ คุณยายก็เดินเอาหน้ากากเซเลอร์มูนมาให้ฉัน แล้วบอกว่า ใส่อันนี้ดีไหมลูก เหมาะกับหนูกว่าตั้งเยอะ แล้วฉันก็ปฏิเสธเสียงแข็งไป จากนั้นคุณแม่ก็เดินมาหาอีกขณะที่ฉันช่วยติดสายรุ้งกับพี่ๆ พูดประมาณว่า พรุ่งนี้มีแขกผู้ใหญ่มาให้ฉันอย่าเล่นอะไรพิเรนทร์นัก ฉันก็รับปากอือออไปอย่างนั้น จริงๆแล้ว งานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีพรุ่งนี้ ทุกคนต้องใส่หน้ากากกันตลอดงานจะถอดหน้ากากก็ต่อเมื่อขึ้นปีใหม่ไปแล้ว แต่นี่ฉันยังไม่ได้บอกใครหรอก เดี๋ยวโดนโวยวาย บอกตอนเริ่มงานเลยดีกว่า

ท้ายที่สุด คุณย่าเดินแวะมาหาฉันอีกจนได้ บอกให้ฉันไปรับชุดกระโปรงใหม่ที่คุณอาหนูเล็กตัดไว้ให้ที่ห้องนอน และนี่คือบทสนทนาของฉันกับคุณย่า

“ไม่ล่ะค่ะ รินจะใส่เอี๊ยม" ฉันตอบจริงจัง มีพี่ชายยืนหัวเราะไม่ห่าง

“ใส่เอี๊ยม! ใส่ทำไม! ทำเป็นเด็กกะโปโล ท่านสุรยุทธมา ต้องแต่งกระโปรงสวยๆต้อนรับสิลูก"

ฉันมองคุณแม่กับคุณยายที่นั่งโซฟาห่างออกไป มีท่าทีเหมือนลุ้นคำตอบจากฉัน

ฉันเลยหยิบหน้ากากอาราเล่ที่วางอยู่ไม่ไกลนักมาใส่ข่ม "คุณย่าคะ รินเป็นอาราเล่นะคะ รินก็ต้องใส่เอี๊ยมสิคะ" มาถึงตรงนี้เท่านั้นแหละพี่ชายทั้งสองของฉันฮากลิ้ง ก่อนจะถอยตัวหนีออกไปไหนไม่รู้ เมื่อเห็นว่าคุณย่าเริ่มหน้าแดงจะโมโห

“สิดาริน หลานโตเป็นสาวออกขนาดนี้แล้ว แต่งตัวสวยๆให้ย่าชื่นใจไม่ได้รึ นี่อะไร ชอบทำตลกอยู่เรื่อย แค่ใส่กระโปรงมันจะหนักหนาขนาดไหนเชียว ใช่สิ ย่ามันน่ารำคาญนัก" แล้วคุณย่าก็ทำเสียงเครือ ฉันเห็นท่าไม่ดีเลยหันไปขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อที่นั่งดูหุ้นกับแล็ปท็อป แต่ก็ไม่วานพยักหน้าส่งสายตาดุมาให้ฉันประมาณว่า ยอมย่าเถอะ ส่วนคุณแม่กับคุณยายหายตัวไปไหนไม่รู้ คุณปู่ก็คงขึ้นไปเล่นหมากรุกกับพี่ธิปแล้ว โอ๊ย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย เหมือนทุกคนปล่อยฉันไว้คนเดียวเลยยย

“ก็ได้ค่ะคุณย่า รินจะใส่กระโปรง แต่ขอรินเลือกเองนะคะ" ถึงฉันจะพูดอย่างนั้น คุณย่าก็มีสีหน้าดีใจเพียงครึ่งเดียวก่อนจะหว่านล้อมฉันใหญ่ว่า ชุดของคุณอาหนูเล็กนั้น สวยหวาน เหมาะกับฉันมากเพียงใด แต่ฉันก็บอกเพียงว่า ถ้ามันสวยงามมากนัก เก็บไว้ใส่วันไปงานราตรีไม่ดีหรือ เพราะวันปีใหม่อาหารเต็มไปหมด เดี่ยวชุดจะเปื้อนเสียอีก พอได้เหตุผลอย่างนี้คุณย่าถึงยอม
เอาละสมุดบันทึก ออกจะมากไปหน่อยสำหรับเรื่องวันนี้ ฉันต้องรีบนอนละ พวกเราต้องเตรียมการในตอนเช้า
กันอีกมาก ยังมีซุ้มเกมที่ฉันกับพี่ๆคิดไว้อีก แล้วจะมาเล่านะจ๊ะ จะต้องเป็นงานเลี้ยงที่สนุกและตลกมากแน่ๆ
สิดาริน



“นรนิทร์คะ สรุปคุณจะเลือกอันไหน" ฉันถามคุณนรินทร์ในตอนเช้าของวันส่งท้ายปี แล้ววางหน้ากากรูปการ์ตูนต่างๆที่ลูกๆซื้อมาให้แผ่หราบนเตียง

คุณนรินทร์มองหน้ากากพวกนั้นด้วยความลำบากใจ เพราะมันมีแต่ชินจัง เจ้าหนูอะตอม ปังแมน พวกซูเปอร์เรนเจอร์ต่างๆ หงอคง บุริน

“ยายรินนี่ก็จริงๆเล้ย ผมเป็นซูเปอร์เรนเจอร์สีแดงแล้วกัน คุณเป็นสีชมพู ดีไหมจะได้เข้าคู่กัน เพราะบ้านจิทัศน์น่ะเป็นหน้ากากทักซิโด้ กับเซเลอร์มูน" แล้วฉันก็นึกขำบ้านนั้น

“เอ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะแต่งอย่างไรคะเนี่ย นึกไม่ออก ฉันล่ะแปลกใจที่คุณแม่มาคอยบอกให้ฉันไปเกลี้ยกล่อมให้ยายรินแต่งตัวสวยๆ แล้วเปลี่ยนมาใส่หน้ากากน่ารักๆ แต่หนูน้อยอาราเล่ แต่ยายรินนี่ก็ตลกดีจริง หรือคุณว่าจะมีอะไรไหม"

ฉันรู้สึกแปลกใจจริงๆนะ เพราะนี่เป็นงานกันเอง สนุกๆ ไม่เห็นต้องไปบังคับให้สิดาริน แต่งตัวสวยเลยแถมมาบ่นกับฉันอีกว่า คอยดูสิ เดี๋ยวดีน่าลูกสาวหนูเล็กจะต้องแต่งตัวสวยเลิศมาแน่ อาจจะเป็นหน้ากากประดับเพชรด้วยซ้ำ เอ คุณแม่พูดอย่างนี้ เหมือนกลัวยายรินแพ้หนูดีน่าเรื่องความสวย

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง คุณแม่ก็ชอบให้สิดารินแต่งตัวไปโชว์ใครต่อใครอยู่แล้ว" คุณนรินทร์พูดแล้วเปิดทีวีดูข่าวเช้า

“หรือจะเกี่ยวกับคุณลุงสุรยุทธ" ฉันเริ่มสงสัย เพราะคุณลุงจะพาหลานชายมาด้วย ฉันเคยพบเขาบ้างตอนเล็กๆ เห็นว่าตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อนักเรียนนอกเสียแล้ว

“อย่าบอกนะคะว่าจะจับคลุมถุงชนอีกแล้ว" ฉันชักกังวล "ลูกเราเพิ่งอายุ 16 เองนะ! เรื่องนี้ฉันไม่ยอมนะคะ!” ฉันเริ่มโวยวาย

คุณนรินทร์ทำท่าครุ่นคิดด้วย "เอ...ใจเย็นๆก่อนน่า ยังไงสิดารินคงไม่ยอม ว่าแต่นั่นคุณทำอะไรน่ะ" เขาถามขณะที่ฉันค้นตู้เสื้อผ้า

“อ้าวก็หาชุดให้คุณน่ะสิคะ จะเป็นยอดมนุษย์คุณพ่อทั้งที ใส่กางเกงในสีแดงด้วยดีไหมคุณ"

คุณนรินทร์ทำตาโตตกใจ "ตลกแล้วสิดี นั่นมันซูเปอร์แมน ผมไม่เอาหรอกนะ" แล้วฉันก็ขำ

“อ้อ ฉันลืมไปค่ะ"

แล้วประตูห้องนอนของเราทั้งสองคนก็เปิดออกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ยายสิดารินนั่นเอง หล่อนเดินเข้ามาทำหน้าบึ้งมาเชียว ก่อนจะประกาศกร้าว พร้อมโยนชุดราตรีกระโปรงยาวแสนสวยบนเตียงนอนของเรา

“รินไม่ใส่ชุดที่คุณย่าเลือกให้หรอก!”

เอาอีกแล้ว เรื่องบ้านแตกอีกแล้ว "อะไรลูกสิดาริน ใจเย็นๆสิ ค่อยๆอธิบายให้แม่ฟังซิ"

แล้วลูกสาวคนสวยของฉันก็นั่งกอดอกเม้มปากเวลาถูกขัดใจ ก่อนจะนั่งลงใกล้คุณนรินทร์ "รินไม่แต่งสวยๆนะคะคุณพ่อ วันนี้มันวันเล่นสนุกสนานค่ะ ชุดอย่างนี้เล่นไม่ถนัด" คุณนรินทร์หอมกระหม่อมลูกสาวทีหนึ่ง

“แล้วคุยกับคุณย่าหรือยังล่ะลูก" คุณนรินทร์ถามอย่างทั้งขันทั้งสงสารที่ยายรินทะเลาะกับคุณแม่อยู่เรื่อย

สิดารินทำตาขุ่น "คุยแล้วค่ะ รินบอกว่าคนละครึ่งทาง คือรินจะใส่กระโปรงของรินเอง แต่วันนี้คุณย่าก็เอาชุดมาบังคับอีก พร้อมขู่ว่า ถ้ารินไม่ยอมใส่ชุดนี้วันนี้ คุณย่าจะยกเลิกการใส่หน้ากาก"

อะไรเนี่ยแม่สามีฉัน จะบังคับอะไรยายรินนักหนา "แล้วรินตอบคุณย่าไปว่าอย่างไรล่ะ"

“รินก็ตอบว่า รินไม่ใส่ รินจะใส่ชุดเอี๊ยม เพราะรินเป็นอาราเล่" สิ้นคำพูดลูกสาวฉัน ทำเอาฉันและคุณนรินทร์หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ดูยายรินอยากจะเป็นหนูน้อยอาราเล่จริงนะ แต่ฉันว่าเรื่องนี้มันดูมีเลศนัย แล้วฉันก็นึกอะไรออก

“รินจำชุดกระโปรงเอี๊ยมได้ไหมลูก ที่แม่ซื้อให้เมื่อปีที่แล้ว น่าจะใส่ได้นะ ลูกไม่ได้อ้วนขึ้นนี่นา แถมเป็นกระโปรงกางเกง วิ่งเล่นได้สบาย จะได้คนละครึ่งทางกับคุณย่า"

แล้วเราสองคนแม่ลูกก็ไปหาชุดของสิดารินในตู้เสื้อผ้าสำหรับเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ แล้วก็เจอจริงๆ มันเป็นชุดกระโปรงเอี๊ยมยาวเหนือเข่า แต่ข้างในเป็นกางเกงขาบาน ผ้ายีนสีโอรส สิดารินใส่แล้วดูน่ารักเป็นเด็กสาววัยแรกแย้ม แต่ก็คล่องแคล่วในตัว ฉันมองลูกสาวหมุนรอบตัวอย่างชมเชย ขายาวสวย เอวคอด รูปร่างบอบบางดี

“แล้วคุณย่าจะยอมเหรอคะ รินเบื่อทะเลาะ" ลูกมีสีหน้ากังวล

ฉันยิ้มสู้ "ยอมสิจ๊ะ เดี๋ยวแม่จัดการเอง" จากนั้นฉันก็จูงลูกสาวไปหาคุณแม่ซึ่งนั่งทานอาหารเช้าอยู่กับแม่ของฉันเอง และคุณนรินทร์คนพ่อ

“ชุดนี้น่าจะผ่านนะคะคุณแม่ ชุดราตรีสวยของคุณแ่เก็บไว้งานอื่นดีไหมคะ ชุดนี้ก็เป็นกระโปรงกางเกงแถมวิ่งเล่นได้" ฉันพูดเสร็จ แม่ลูกสาวก็ยืนยิ้มทะเล้นแกล้งคุณย่า ส่วนแม่สามีฉันทำมองลอดแว่นพินิจหลานสาว

“ผมว่าน่ารักสดใส เหมาะกับหลานรักของปู่ มาให้ปู่หอมทีซิ" แล้วคุณพ่อก็เรียกยายรินเข้าไปกอด

“ยายก็ว่าเรียบร้อยดีจ้ะ" คุณแม่ฉันเสริม ทีนี้ยายรินที่นั่งกอดคอบนตักคุณปู่ของเธอก็ยิ้มย่อง

ในเมื่อมีเสียงสนับสนุนสิดารินขนาดนี้ คุณแม่ก็ต้องยอม ท่านทำทีมองปราดเดียวแล้วเออออ แต่ฉันแอบเหนนะว่าคุณแม่แอบยิ้มอย่างพอใจ

“ตามสบาย ฉันล่ะไม่อยากจะเถียง เดี๋ยวคอยดูแม่ดีน่านะ ยายหนูเล็กคงจะแต่งราวกับประกวศนางสาวไทย"

“อะไรกันคุณ จะให้เด็กๆเขาแข่งกันไปทำไมเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก หรือคุณมีอไรแอบแฝง" คุณพ่อถามตรงๆ ทำเอาคุณแม่รีบหลบตา เอ ฉันว่าคุณแม่ต้องมีอะไรแน่ๆ

“ไชโย รินชนะ เอ้ย หมายถึงรินคนละครึ่งทางกับคุณย่าแล้วนะคะ งั้นรินไปหาพี่ๆก่อนนะคะ เราต้องทำซุ้มเกมกันอีก" สิดารินกระโดดหยองแหยงอย่างดีใจออกไปหาพี่ชายของเธอ แล้วไม่นานนักทั้งครอบครัวคุณจิทัศน์ คุณนรันทร์ก็ทยอยมาบ้านเราด้วยความชื่นมื่น ส่วนแจ๊กกี้ตอนนี้เขาร่ำรวยจากการขายรูปวาดวัดไทยไปแล้ว เขาเลยกำลังท่องเเที่ยวแถบยุโรปอย่างที่เขาไฝ่ฝันไว้น่ะ

ตกเย็นเมื่อใกล้เริ่มงานขณะที่ทุกคนใส่หน้ากากยอดมนุษย์ออกมาทานอาหารที่สวนหลังบ้านอย่างสนุกสนาน มีคุณพ่อที่ใส่หน้ากากแกนดัฟจากลอร์ด ออฟ เดอะ ริง ด้วยการปริ๊นออกมาแล้วเจาะตาเอา (นับว่าเป็นยอดมนุษย์ได้ด้วยหรือนั่น) คุณแม่สามีที่ไม่ยอมตลกด้วยการใส่หน้ากากขนนก (สิดารินเดินมาเลียบๆเคียงๆว่าคุณย่าผิดธีม รินล่ะเบื่อ) แม่ของฉันใส่หน้ากากบุริน (ของเหลือจากลูกๆ) บ้านคุณจิทัศน์เป็นครอบครัวเซเลอร์มูน ส่วนคุณนรันทร์ที่มาพร้อมกับนลินและลูกชายที่ยังเล็กทั้งสองไม่ได้ใส่หน้ากากมา ด้วยเหตุผลว่าดูแลเจ้าตัวเล็กทั้งสองจนไม่มีเวลา เลยให้เจ้าตัวเล็กใส่ชุดสไปเดอร์แมน กับซูเปอร์แมนเต็มยศเป็นตัวแทน ขณะที่เราทั้งหลายกำลังขบขันในชุดของแต่ละคนนั้น ก็มีชายหนุ่มสองคนปรากฏตัวขึ้น หนึ่งหนุ่มนั้นมีอายุและท้วม อีกหนุ่มสูงโปร่งและอ่อนเยาว์ แต่เราไม่อาจเห็นใบหน้าที่ซ่อนภายใต้หน้ากากผู้เฒ่าเต่าและ แบทแมนได้

คุณพ่อผู้เป็นแกนดัฟ เดินไปหาผู้เฒ่าเต่าท่ามกลางสายตาทุกคู่จับจ้อง ก่อนจะทักกันเสียงดัง "ไงยุทธสบายดีไหม แล้วนี่คงเป็น...”

พ่อหนุ่มแบทแมน ก้มศีรษะไหว้อย่างสุภาพ "สวัสดีครับคุณตา ผมกงศุลครับ"


1 ม.ค. วันอังคาร 01.15น.
สมุดบันทึกที่รัก

ฉันมีเรื่องมากมายที่อยากจะเล่าเลยล่ะสมุดบันทึกเอ๋ยยยย แต่อันดับแรกฉันขอตั้งปณิธานก่อนว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะทำตัวสุขุม เป็นกุลสตรี ให้มากขึ้นแล้วกัน เพราะฉันเบื่อที่ตัวเองชอบทำอะไรเปิ่นๆและถูกบ่นบ่อยจนหูชาไปหมดแล้ว อีกทั้งไม่อยากบาปที่ทำให้คุณย่าต้องกลายเป็นผู้สูงอายุปากฉีกถึงใบหู

แต่ตอนนี้ฉันง่วงและเพลียสุดๆ เอาเป็นว่าฉันไม่ชอบอีตาแบทแมน หรืออีตากงศุล หรือที่พี่ธิปเรียกอย่างสนิทว่า พี่ซัน เป็นแน่แท้ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเขาทำฉันขายหน้าทุกคนน่ะสิ!!!!

แล้วฉันจะมาเขียนต่อนะสมุดบันทึกที่รัก
สิดาริน



ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ม.ค. 2556, 00:25:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ม.ค. 2556, 00:25:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1792





<< (2) หน้ากาก   (3)ไฟเชอรี่ >>
ใบบัวน่ารัก 22 ม.ค. 2556, 07:19:34 น.
เนื้อคู่แน่ๆ


Kapoh 22 ม.ค. 2556, 07:33:45 น.
ว้าวๆๆ พี่กงศุุลน้องดาริน ^__^


Edelweiss 22 ม.ค. 2556, 19:17:21 น.
อยากรู้จักพี่กงศุลซะแล้ว


goldensun 24 ม.ค. 2556, 21:47:38 น.
แพรน่าจะคิดอะไรกับธิปแล้ว


ผักหวาน 13 ก.พ. 2556, 20:42:42 น.
ปาร์ตี้สุดขำกำลังจะเริ่มแล้ว


kaze 3 มี.ค. 2556, 02:12:24 น.
กรี๊ดดดด >_____<


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account