เรื่อง คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา (แก้วกรรณิกา VS ว่านนที)
เรื่อง คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา

by อัปสรา/คาลล่า ลิลลี

บทนำ

รายการวิทยุชื่อดังที่คนอกหักหรือกำลังมีความรักมักจะเปิดฟังกัน มีเรื่องราวจากทางบ้านมากมายที่โทรมาเล่าถึงปัญหา และปรึกษาเรื่องรักกับพิธีกรชื่อดัง ชีวิตปกติของแก้วกรรณิกาไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมานั่งฟังอะไรแบบนี้ แต่ทว่าเมื่อเธอเปิดมาเจอคลื่นนี้ หัวข้อการสนทนาในคืนนี้ ต่างคนต่างเหงา หรือเรารักกัน มันทำให้เธอหยุดมือที่จะเปลี่ยนหาคลื่นต่อไป เพลงต้นเรื่องของรายการมันช่างตรงกับความรู้สึกของเธอที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ พิธีกรชายหญิงเริ่มดำเนินรายการจากนั้นก็มีสายจากทางบ้านโทรมาเล่าเรื่องราวของตนเองผ่านทางหน้าไมค์ แก้วกรรณิกานั่งฟังไปเรื่อยๆ อย่างสนใจใช่ว่าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่มีปัญหาเพราะความรัก คนอีกมากในสังคมที่ต้องเผชิญกับปัญหารักไม่ลงตัวหญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อฟังเรื่องเล่าของใครหลายๆคนและคิดถึงชีวิตรักที่ผ่านมา



จนกระทั่งมาถึงผู้หญิงคนหนึ่งน้ำเสียงของเจ้าหล่อนดูสดใสเหมือนคนกำลังมีความรักไม่ใช่คนอกหักเสียหน่อย เธอเล่าว่าเธอกำลังกลุ้มใจอย่างหนักเพราะปัญหารักไม่ลงตัว พิธีกรชื่อดังจึงถามคำถามว่า ปัญหาความรักที่ไม่ลงตัวของเธอนั้นคือปัญหาอะไร คนรักนอกใจหรือว่าเธอไม่ได้รักเขา หรือเขาไม่ได้รักเธอ พิธีกรให้เธอเล่าเรื่องของเธอ

“ต้องขอโทษนะคะที่จริงเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของดิฉันหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนสาวที่สุดแสนจะงี้เง่าของดิฉันค่ะ”

“ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แล้วโทรมาเล่าเรื่องชาวบ้านเขาทำไมยัยนี่ถ้าจะเพี้ยน” แก้วกรรณิกาฟังและบ่นสายจากทางบ้าน เบาๆแต่ก็ยังไม่เปลี่ยนคลื่นหนี ยังคงฟังต่อ


“เอ…..ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้วมันทำให้คุณทุกข์ไปด้วยยังไงเหรอคะ” พีธีกรสาวในรายการถามขึ้น

“ทุกข์สิคะเพราะว่าบังเอิญยัยผู้หญิงงี่เง่าที่ไม่รู้ใจตัวเองเจ้าของเรื่องที่จะเล่าบังเอิญเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด และฉันรู้ดีว่าถ้าเธอพลาดจากความรักครั้งนี้เธอจะไม่มีความสุขตลอดไป”

พิธีกรจึงบอกให้คุณ ย นามสมมุติเล่าเรื่องความรักของเพื่อนสาวให้ฟัง


“ยัยนี่ท่าทางจะรักเพื่อน เอ๊ะหรือว่าเอาเพื่อนมาขายกันแน่รายการนี้เห็นว่าดังคนฟังกันครึ่งค่อนประเทศ”แก้วกรรณิกาล้มตัวนอนฟังบนเตียงนอนหรูหราสมศักดิ์ศรีทายาทไฮโซตระกูลดัง


จากนั้นเสียงจากสายทางบ้านก็เริ่มเล่าเรื่องเพื่อนสาวที่ให้นามสมมุติเธอว่าชื่อ น้อง ก ซึ่งมีคนรักอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานแต่ปรากฏว่าเธอเพิ่งจะรู้ว่าเธอไม่เคยรักว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเลย ที่ผ่านมามันแค่เป็นความผูกพันและความคาดหวังของผู้ใหญ่ แต่ที่สำคัญเธอได้มารู้ตัวว่าเธอเกิดหลงรัก และเผลอทั้งตัวและหัวใจให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยพบหน้ากันแค่คืนเดียวแถมเขายังมีบุคลิกและหน้าตาเหมือนพวกเพล์บอย เธอโทษตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายในคืนนั้น และคิดว่าผู้ชายคนนั้นก็คงมองเธอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายเช่นเดียวกัน

“เอ่อ เจอกันแค่คืนเดียวเองเหรอคะ” พิธีกรสาวในรายการสดถามขึ้น


“คืนนั้นเพื่อนของดิฉันถูกวางยานอนหลับค่ะจากผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วผู้ชายคนนั้นสมมุติว่าเขาชื่อคุณ ว ละกันนะคะเขาได้ช่วยเพื่อนของดิฉันเอาไว้ค่ะ แล้วมันก็เกิดเรื่องนั้นขึ้น แต่ดิฉันขอยืนยันว่าเพื่อนดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย เธอคบกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแต่อาจเคยคิดผิดไปว่ารักถึงเจ็ด ปีแต่ไม่ยอมที่จะมีอะไรด้วยทั้งที่ได้หมั้นกันแล้ว จนผู้ชายคนนั้นแอบไปมีกิ๊กในที่ทำงานเดียวกัน”
“คบกับแฟนมาถึงเจ็ดปีไม่เคยมีอะไร แต่พบผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พบกันคืนเดียวแล้วมีอะไรกัน” พิธีกรเองก็คงงงและตกใจเช่นกันแม้จะเคยฟังเรื่องทางบ้านมามากแล้วก็ตาม


“อย่างนี้เรียกว่าเกิดรักแบบสายฟ้าแลบหรือเปล่าคะ” พิธีกรสาวแซว


“เพื่อนของฉันเล่าว่าทันทีที่ตื่นขึ้นมาแล้วสบตาเขา ในวินาทีนั้นมันเหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ร่างของเธอ หัวใจของเธอมันบอกว่าใช่เขาคนนี้ที่เธอรอ และต่อจากนั้นก็..................ขอไม่บรรยายนะคะ”

“แหะ แหะ .........เข้าใจค่ะ ถ้าบรรยายเราคงออกอากาศไม่ได้ แล้วยังไงต่อละคะ”


“เธอก็รู้สึกผิดมากรู้สึกว่าตัวเองได้ทรยศคู่หมั้น แม้เขาคนนั้นจะเคยทรยศความรักของเธอไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม”

“เท่าที่ฟังดูก็เหมือนกับว่าต่างคนต่างเผลอใจไปกับคนอื่น แล้วมันยังไงต่อคะ” พิธีกรสาวถาม


“เรื่องในคืนนั้นถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้จริงไหมคะ แต่เพื่อนของดิฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้กับคู่หมั้นฟัง”


“ก็พังสิครับงานนี้” พิธีกรหนุ่มเอ่ยขึ้น


ส่วนคนฟังทางบ้านอย่างแก้วกรรณิกา จากที่กึ่งนอน กึ่งนั่งก็ลุกขึ้นมาฟังอย่างตั้งใจ............


+++++++++++++++++++++++++++++++

Tags: ว่านนที แก้วกรรณิกา

ตอน: ตอนที่ 4

ตอนที่ 4 ครึ่งตอนแรกค่ะ

ตอนที่ 4

ท่ามกลางความมีนงงของผู้มาร่วมเป็นสักขีพยานต่างให้ความสนใจกับผู้มาใหม่

“คุณว่าน” ยาหยีปิดปากตกใจที่เห็นว่านนทีไม่ต่างกับผู้กองปันบุรีสามีของเธอ

“ไอ้ว่านมาได้ยังไง” ผู้กองปันมองเห็นปัญหาที่กำลังจะเกิด ไม่คิดว่าเพื่อนซี้จะมาบุกมากลางงานแต่งแบบนี้

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าบ่าวในงานจะไม่พอใจเขาจนเก็บอาการแทบไม่อยู่

“ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะให้คนมาจับแกโยนออกไป” เจ้าบ่าวเลือดร้อนลุกขึ้นขู่ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจถ้าวันนี้เขาไม่ใช่เจ้าบ่าวเขาคงได้วางมวยกับไอ้หมอนี่แล้ว หรือไม่ก็เรียกลูกน้องมาจัดการ

ว่านนทียิ้มกวน “คุณคงไล่ผมไม่ได้เพราะคุณไม่ใช่คนเชิญผมมา”

“แล้วใครเชิญมึงมาวะไอ้หน้ามึน” ที่จริงเขาไม่ชอบหน้าหมอนี่เลยเพราะมันทำให้เจ้าบ่าวอย่างเขาดูหล่อน้อยลง

ว่านนทียิ้มกว้างแต่ดูกวน“ คุณแก้วไงครับ คุณแก้วเชิญผมมาจริงไหมครับ”ว่านหันไปส่งยิ้มให้แก้ว เจ้าสาวสวยแบบนี้มันเหมาะกับเขามากว่าไอ้ผู้ชายใจโลเล ธนกิตและอีกหลายคนพ่อแม่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวรวมถึงยาหยีเพื่อนสนิทมองไปที่แก้วกรรณิกาเป็นเชิงคำถามว่าจริงหรือ
แก้วกรรณิกา ส่ายศีรษะ ทั้งหมดจึงหันไปมองหน้าว่านนที


“แก้วๆ เปล่านะคะ ไม่ได้เชิญค่ะ”

“นี่คุณว่านนทีฉันไปเชิญคุณมางานตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ”

“ทางโทรจิตยังไงล่ะครับ คุณไม่ได้ให้การ์ดเชิญผมก็จริง แต่ในหัวใจของคุณมันเชิญผมมาผมก็ต้องมา เพราะผมรู้ว่าคุณรักผม” เขาเน้นประโยคท้ายเพราะเมื่อคืนจากรายการดังคืนวันศุกร์เขาได้ยินเต็มสองหูว่าเธอบอกรักเขา

แต่ท่าทีของแก้วกรรณิกากับไม่ใช่แบบที่เขาคิดเอาไว้เลยเธอไม่ได้ดีใจที่เขาเข้ามาขวางงานแต่งงาน เขาได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนๆว่าแก้วกรรณิการักเขาและเธอถูกบังคับให้แต่งงาน เขาควรยอมละทิฐิที่มีในตัวหลังจากงอนง้อเธอมาพักใหญ่จนเขาน้อยใจหนีไปอยู่ที่ภูสูง จนเมื่อคืนเขาตัดสินใจลงมาจากภูสูงอย่างเร่งด่วนจากเพื่อนนักบิน


“มากไปแล้วบุกมาอาละวาดในงานแต่งงานของฉันเลยเหรอ ฉันนะเหรอที่รักคุณกำลังฝันอยู่เหรอเปล่า” เธอมองเขาตั้งแต่หัวจรดปรายเท้าและมองจากเท้าขึ้นไปถึงหัว

“คุณว่านนทีคะ ช่วยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาของตัวเองหน่อย ฉันคุณหนูแก้วกรรณิกาทายาทตระกูลเก่าแก่ เป็นเศรษฐีกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจะลดตัวไปคบหาคนอย่างคุณนะเหรอช่างไม่เจียมตัวเสียเลย” หญิงสาวไหวไหล่เหยียดยิ้ม

“นั่นน่ะสิไอ้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า”คุณหญิงมณีหยาดฟ้าเชิดใส่ไม่พอใจกับผู้บุกรุก

“คุณแก้วคุณก็รู้ใจตัวเองดีคุณจะปฏิเสธไปอีกทำไม หรือว่าอยากเข้าพิธีวิวาห์กับไอ้หน้าโลเล” ว่านนทีมองธนกิจอย่างไม่เกรงกลัว

“ฉันไม่รู้ว่านายเมา หรือบ้าแต่ที่นายพูดมามันไม่จริงคนไม่รักกันเขาจะแต่งงานกันเหรอ”

“โกหก ผมมองคุณผมก็ดูออกคุณไม่ได้รักไอ้หมอนี่มานานแล้ว อย่างมากก็แค่เคยรัก”

“หยุดพูดเลยนะโว้ย ถ้ายังไม่อยากถูกชก” ธนกิจเก็บอาการไม่อยู่ เขามองหาลูกน้องคนสนิทหลายคนเริ่มเดินเข้ามาแล้ว
“พอได้แล้วนายว่าน อย่ามาเกะกะละลานที่นี่ ที่นี่มันที่ของผู้ดีไม่ใช่คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าทำตัวเป็นคนไม่มีบ้านเป็นเจ้าไม่มีศาลอย่างนาย”

หญิงสาวตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะเข้าไปเกาะแขนเจ้าบ่าวและบอกให้เขาใจเย็นๆ ธนกิจจับมือเจ้าสาวสุดสวยมากุมเอาไว้และยิ้มอย่างพอใจกับการกระทำของเจ้าสาวจากนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะเยาะต่อผู้พ่ายแพ้

“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมไอ้หน้ามึน น้องแก้วว่าที่ภรรยากูเขาไล่มึง”

“ทำไมทำแบบนี้ล่ะยัยแก้ว” ยาหยีไม่อยากเชื่อสายตาไม่เข้าใจว่าแก้วกรรณิกาทำแบบนี้ทำไม มีแต่เจ้าสาวคนงามเท่านั้นที่เข้าใจการกระทำของตัวเอง ยาหยีจะเข้าไปห้ามแต่ถูกผู้กองปันบุรีดึงมือไว้

“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยยาหยี”

“ทำไมล่ะคะคุณยัยแก้วทำอะไร ฆ่าตัวเองชัดๆ” เธอกระซิบบอกกับขาเบาๆ

“ผมว่ามันมีอะไรมากกว่านี้ คุณแก้วตบไอ้ว่านแต่ตาเป็นประกายเชียวมันไม่ใช่ความเกลียด ความโกรธ แต่..”

“ความรักเหรอ” ยาหยีหันไปมองที่เจ้าสาว “.ฉันไม่เข้าใจยัยแก้วเลยจริงๆ” ยาหยีสั่นศีรษะ

“ผมอยู่กองสืบสวนมาก่อน เชื่อผมเถอะคู่นี้อีกยาว อย่าลืมสิเรื่องนี้เราไม่ใช่พระเอก-นางเอกดูเขาอยู่ห่างๆและเป็นผู้ช่วยก็พอเราออกตัวมากไม่ได้”

“อย่างนั้นเหรอคะ อย่างนี้บทเราก็น้อยล่ะสิ”

ยาหยีจึงต้องจำใจกะจะไปถามแก้วกรรณิกาให้รู้เรื่อง แล้วคราวนี้ทั้งสองจะสมหวังกันได้อย่างไรถ้าแก้วกรรณิกาแต่งงานกับนายธนกิจ ไม่อยากจะเชื่อยัยแก้วฆ่าพระเอกตอนพระเอกขี้ม้าขาวเข้ามาช่วย แต่..เอ...หรือว่า.....ยาหยีนิ่งเงียบ คนที่อายและเสียใจที่สุดคงไม่ใช่ใครนอกจากว่านนที เขาพยักหน้าหงึกๆเป็นการยอมรับแต่แกล้งหัวเราะ “โอเค ผมมาผิดงานใช่ไหมเนี่ย”เขาแกล้งทำเหมือนเรื่องตลกแต่แววตาซ่อนความเจ็บปวด เขาหันหน้ามาหาแขกในงาน เขาลูบโหนกแก้มทีแดงเป็นรอยนิ้วมือ แต่ความเสียใจกับถูกข่มไว้ด้วยเสียงหัวเราะ



“การแสดงจบลงแล้วครับขอเชิญผู้มีเกียรติทุกท่านตามสบายนะครับพิธีมงคลของคู่รักที่สมกันราวกิ่งทองใบหยกกำลังจะเริ่มต่อ” ผู้คนในงานคิดว่าเป็นมุขการแสดงของทางเจ้าภาพจัดขึ้นจริงๆพากันตบมือหัวเราะชอบใจ แต่หลายคนเพื่อนสนิทของเจ้าสาวที่พอจะรู้เรื่องอยู่บ้างกลับไม่ได้คิดเช่นนั้นได้แต่เงียบงันกันไปตามระเบียบ

คุณหญิงแม่ของแก้วกรรณิการีบเข้ามาประชิดตัวลูกสาวคนสวย “ไอ้หมอนี่ที่มันเคยมาจีบลูกไม่ใช่เหรอ มันเรื่องจริงหรือว่าการแสดงกันแน่ยัยแก้ว” แก้วกรรณิกาไม่ตอบ

แก้วกรรณิกามองแผ่นหลังของว่านนทีที่หันหลังเดินจากไปเธอนึกอยากจะวิ่งตามเขาไปเสียเดี๋ยวนี้ถ้าทำได้แต่ว่าถ้าเธอทำแบบนั้นไม่ต่างกับการฆ่าตัวเขาตายและฆ่าตัวเองตายตามไปด้วย เธอยิ้มให้กับการตัดสินใจของตนเองต่อให้มีปีกธนกิจกับคุณหญิงแม่ก็คงไม่ปล่อยเธอออกไปจากงาน

“น้องแก้วครับ ไปนั่งเถอะครับพิธีจะได้เริ่มต่อ” ธนกิจอยากจะให้พิธีจบเร็วๆ รวมถึงคืนนี้ด้วยพิธีฉลองมงคลสมรสอะไรเขาก็อยากให้มันผ่านไปจนถึงพิธีเข้าหอเขาจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของเธอทั้งพฤตินัยและนิตินัยเสียทีขาชวนเจ้าสาวกลับไปที่ตั่งรดน้ำสังข์

“ค่ะ” แก้วหันไปยิ้มหวานให้กับเจ้าบ่าวของเธอคนที่เธอเคยรักและทุ่มเทให้เขา และเป็นคนที่ทำให้เธอรู้จักกับคำว่าถูกหักหลังเมื่อรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับชลลี่ แผลในใจของเธอหายสนิทไปแล้ว ความเจ็บไม่หลงเหลือแต่ความจำนั้นย้ำเตือนให้ไม่เคยลืม
ว่านนทีเดินออกมาจากงานด้วยความเจ็บปวด ความน้อยใจ และความอายระหว่างทางเขาเดินสวนกับคุณหญิงพัชชาที่เดินออกมารับโทรศัพท์จึงไม่เห็นวีรกรรมลูกชายเมื่อครู่

“ตาว่านมาทำอะไรที่นี่ลูก ว้าย!” คุณหญิงยกมือทาบอกนี่เราไปเป็นทหารพรานมาหรือไงแต่งตัวอะไรมางานเขาเนี่ยไม่ให้เกียรติเจ้าภาพเขาเลย”

ว่านนทีหยักไหล่ “ช่างเถอะครับคุณแม่ผมกำลังจะกลับพอดีวันหลังผมจะแวะไปหาคุณแม่ที่บ้านนะครับ”

คุณหญิงพัชชาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนว่าว่านนทีบุตรชายคนเดียวของคุณหญิงที่ชอบทำตัวเป็นพวกชีพจรรองเท้ามาแอบจอดหัวใจเอาไว้กับแก้วกรรณิกาลูกสาวของลูกน้องท่าน อีกทั้งน้อยคนจะรู้ว่าผู้ชายมาดเซอร์ ที่ชอบทำท่าทางเบลอๆแต่ใบหน้าหล่อเข้าขั้นพระเอกคนนี้จะมีแม่เป็นถึงคุณหญิงระดับแนวหน้าไฮโซตัวจริง เป็นทองเนื้อแท้

“จะไปแล้วเหรอตาว่านอะไรกันลูก แม่ยังเจอเราไม่ถึงห้านาที มีลูกชายกับเขาคนก็ยังกับลิงลมอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง”

“คุณแม่ครับ วันนี้ว่านขอตัวก่อนนะครับขอกลับไปเย็บหน้าก่อนแล้วพรุ่งนี้ว่านจะเข้าไปหาคุณแม่ที่บ้านนะครับ”

“เอาเถอะตามใจ ว่าแต่หน้าลูกไปทำอะไรมา” คุณหญิงมองหน้าหล่อเหลาของลูกชาย “แล้วลูกรู้จักกับลูกสาวคุณหญิงมณีหยาดฟ้าด้วยเหรอ หรือรู้จักกับเจ้าบ่าวลูกชายคุณนพรัตน์กันล่ะ”


“ช่างเถอะครับคุณแม่ ก็แค่คนเคยรู้จัก”

“แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ ก็เห็นเอารถมาทิ้งเอาวื้ที่บ้าน”ซึ่งอันที่จริงควรเรียกคฤหาสน์เสียมากกว่า

“นั่นไงครับมาแล้ว” คุณหญิงชะเง้อออกไปหน้าประตูไม่เห็นมีใครมา “อย่าบอกนะว่าแกจะกลับแท็กซี”คุณหญิงส่ายหน้านางเลี้ยงลูกให้ลำบากเกินไปหรือเปล่าไม่ใช่สิลูกชายนางหลังจากเลิกทำตัวเพลย์บอยก็มาทำตัวลำบากอนาถาเสียมากกว่า


“ไหนรถที่จะมารับลูกล่ะ ถ้านั่งแท็กซี่ไม่ต้องนะแม่จะให้นายพลไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอกครับคุณแม่นั่นไงมาแล้วครับ” คุณหญิงมองออกไปและต้องตาค้างเฮลิคอปเตอร์ส่วนบุคคล กำลังลงจอดข้างพื้นที่โล่งกว้างของบ้านคุณหญิงมณีหยาดฟ้าเจ้าของงาน

ปันบุรีมองออกมาจากในงานและหันมาพูดกับยาหยี “คุณอย่าบอกผมนะว่าไอ้ว่านมันกะจะเอาเฮลิคอปเตอร์มาเป็นยานพาหนะพาลูกสาวเขาหนี มันใจร้อนเกินไป มันคิดได้ยังไงเนี่ยดีนะคุณแก้วไม่บ้าจี้ไปกับมันคงขึ้นหน้าหนึ่งแน่”

“เฮลิคอปเตอร์จริงๆด้วย เพื่อนคุณแน่มากค่ะที่รัก ช่างกล้าเนอะ”

"พ่อมหาจำเริญเอ้ย..เมื่อไหร่นายว่านมันจะหายใจร้อนเสียที"

ผู้คนในงานพากันแตกตื่น ตอนแรกว่านนทีไม่ทันตรึกตรองห่วงแต่ว่าถ้ามาในงานมีพวกของธนกิจเยอะเขาจะพาเธอวิวาเหาะเสียเลยแต่ตอนนี้มันคงไม่มีหวังเขาจะกลับไปที่ภูสูงหรือจะกลับไปพักใจที่กลางทะเลอันดามันดีเหลืออีกสองเดือนกว่าจะถึงเวลาทำงาน เขาทำงาน4 เดือนหยุด 3 เดือนสลับกันกลางทะเลกว้างที่มีแค่น้ำกับฟ้าเป็นเพื่อนแก้เหงาและผู้ชายอีกกว่าร้อยชีวิตที่เห็นหน้ากันจนเบื่อ

เจ้าสาวในพิธีมองออกไปอย่างเป็นกังวลนี่เขาเอาเฮลิคอปเตอร์มาพาเธอหนีดีนะที่ไม่ยอมไปพร้อมเขาไม่อย่างนั้นคงได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ นายว่านใจร้อนจริงๆ ว่าแต่มันจะพาเขาไปไหน แล้วเธอจะทำยังไงดี

ผู้คนในงานพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงไอเดียการแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร อย่างว่าตระกูลดังสองตระกูลจะเป็นทองแผ่นเดียวกันจะให้วิวาห์กันแบบธรรมดาได้อย่างไรมันก็ต้องมีลูกเล่นในการจัดงานให้ออกมาไม่ซ้ำใคร

ธนกิจสบถอยู่ในใจ “แม่งจะมาแย่งซีนอะไรกูนักหนาวะ วันนี้กูเป็นเจ้าบ่าวนะโว้ย ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เป็นเจ้าบ่าวจะเอาปืนสอยปีกให้มันหักลงมาเลย” แต่ธนกิจก็ยังภูมิใจที่แก้วกรรณิกาไม่ได้ไหวเอนไปกับนายว่านนทีจนทำให้เขาเสียหน้าเขาไม่โกรธเธอหรอกเรื่องครั้งนี้เพราะเรื่องนี้มันเล็กน้อยมากกับแผลในใจที่เขาเคยทำไว้กับแก้วกรรณิกา


++++++++++++++++++++++++++++++++








อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ม.ค. 2556, 13:07:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ม.ค. 2556, 13:07:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 2172





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 4 เต็มตอน >>
อัปสรา 31 ม.ค. 2556, 13:11:39 น.
สวัสดีค่ะ มาให้กำลังใจนายว่านกันหน่อยนะคะ นายว่านจะไม่เหมือนพระเอกคนอื่นๆที่เคยเขียนมา นายว่านจะเป็นคนพูดตรงๆ เมื่อก่อนแกล้งทำตัวเป็นเพลย์บอยแต่ที่จริงไม่ใช่ เขามีนิสัยชอบพูด ยียวน กวนอารมณ์ ปากไวไม่แคร์สื่อ ใจร้อน แต่เป็นคนที่เก่งและมีความรู้มากอ่านไปเรื่อย แต่มีข้อเสียคือใจร้อนเกินเหตุ ไม่ใช่พระเอกที่เพอร์เฟคที่ดีทุกอย่าง


violette 31 ม.ค. 2556, 15:06:07 น.
หนูแก้ววางแผนอะไรอยู่เนี่ย แล้วนายว่านจะำยังไงต่อคะ หรือแก้วต้องไปง้อ


kaelek 1 ก.พ. 2556, 23:53:03 น.
เพิ่งมาเป็นแฟนคลับค่ะ เรื่องนี้น่ารักดี ชอบค่ะ


อัปสรา 2 ก.พ. 2556, 00:23:05 น.
ยินดีมากค่ะเชิญเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account