พักตร์อสูร
ชีวิตปกติสุขของเธอต้องสิ้นสลาย เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง โชคชะตาหรือเวรกรรม ทำให้มาโผล่ในสถานการณ์ผัว1เมีย6 แถมต้องสู้รบเพื่อเอาตัวให้รอดอีก “ขอชีวิตเก่าฉันคืนมาเถิด”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 8 (ครึ่งแรก)



ตอนนี้สถานการณ์เข้าสู่ความสงบเรียบร้อย อ้อยก็เลยมาอัพนิยายให้อ่านเหมือนที่เคยปฏิบัติจ้า

ขอขอบพระคุณทุกๆ คอมเม้นท์ที่ได้บอกเล่าความรู้สึกร่วมให้คนเขียนงานคนนี้ได้รับรู้นะคะ ขอบพระคุณจากใจจริงๆ ค่ะ


รัก...

อ้อย / สุชาคริยา



ปล. มาอัพอีกทีวันพฤหัสบดีนะคะ



----------------------------------------------------------------------




นับจากวันนั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ก็แปดวันแล้วที่ท่านโชติระเสเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง สำรับอาหารแทบไม่แตะต้อง ไม่มีใครได้เห็นนายช่างใหญ่แห่งมนสิการ ยกเว้นอุษามันตรา เพราะแม้แต่ทิดศร บ่าวคนสนิททำหน้าที่ยกสำรับก็อยู่เพียงธรณีประตูเรือนนอนเท่านั้น

ในใจของอุษามันตราเป็นห่วงท่านโชติระเสไม่น้อย เรื่องที่เกิดขึ้นทำร้ายและทำลายความรู้สึกจิตใจของท่านเป็นอย่างมาก ตยาวดีเล่าเพียงว่าคุณพ่อตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายเมื่อเห็นกิริยาของพะลัญจะตอนนั้น ถ้อยคำที่ออกจากปากท่านเมื่ออยู่ในเรือนนอนลำพังมีเพียงความขื่นขมร้าวราน จนแทบไม่อาจเก็บกลั้นอาการได้เลย

การที่เคยมีคนก้มหัวทักทายด้วยความเคารพมาตลอดกลับถูกเจ้าหนี้กระทำประหนึ่งบดขยี้สิ่งที่เคยภาคภูมิให้แหลกลาญอันเกิดจากความมัวเมาลุ่มหลงให้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีถึงเรือนอย่างไม่ไว้หน้า ซึ่งยากที่จะทำใจรับให้ได้ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว

อุษามันตราขัดเข่าเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ที่นั่งกับพื้น ผมของท่านดำขลับเหยียดตรงยาวถึงเอวไม่ได้มวยเก็บ เปลือยแผ่นอก มีเพียงผ้านุ่งลอยชายพับหน้าประณีตนัก มือของเธอจับที่หลังเท้าของท่านโชติระเส

“ทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว เหตุใดคุณพ่อยังมิลืมอีกเจ้าข้า มนสิการต้องมีหัวเรือใหญ่ ยังรอคุณพ่อให้ดูแลนะเจ้าข้า”

“พ่อมิได้อนุญาตให้เจ้าเข้ามา”

น้ำเสียงนั้นราบเรียบ ไม่หันหน้ามามองเธอ

“มนสิการก็มิอนุญาตให้คุณพ่อหยุดเช่นกันเจ้าข้า งานของเรายังมีค้าง คุณพ่อมิสั่งการ บ่าวก็มิอาจทำได้เมื่อไม่มีผู้ชี้นำเจ้าข้า”

จบคำพูดนี้บิดาของเธอก็ก้มมอง ใบหน้าที่เห็นและต้องแสงนี้ช่างงดงามยิ่งนัก สวยคมกว่าสตรีใดที่อุษามันตราเคยรู้จักไม่ว่าในโลกนี้หรือโลกที่จากมา เป็นใบหน้าที่งดงามโดยไม่ต้องศัลยกรรม จนเสียงเล่าลือถึงรูปโฉมท่านโชติระเสมีอย่างมากมาย รวมถึงความไม่เจ้าชู้หากเทียบกับบุรุษในสังคมเดียวกันและมีฐานะเท่ากันจนเป็นที่หมายปองของหญิงสาวมากหน้า

และแม้ความเศร้าหมองฉาบทาอาบไล้ ก็ไม่ได้ทำให้ความงามดั่งเทพสลักเสลาลดลง แต่ความงามนี้กลับผสมกลมกลืนกับเรือนร่างบึกบึนแข็งแกร่งให้ลงตัวได้อย่างน่าทึ่งนัก และใบหน้านี้ได้ถูกถ่ายทอดให้กับเธอถึงแปดในสิบส่วน ยกเว้นดวงตากลมโตและริมฝีปากอิ่มที่ได้มาจากตยาวดี

ฝ่ามือใหญ่ สาก และด้าน ของท่านโชติระเสลูบที่ศีรษะ

“พ่อมิสมควรเป็นผู้ดูแลมนสิการ”

มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ น้ำเสียงที่แสดงความท้อแท้เสียใจ หาใช่น้ำเสียงทุ้มนุ่มเช่นปกติที่เคยได้ยิน หรือที่จริงก็คือคุณพ่อไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกใดทางน้ำเสียงและกริยาท่าทางมาตลอด

สิ่งที่เห็นและได้ยินยิ่งทำให้อุษามันตราเป็นห่วงนัก เธอมองหน้าท่าน

“แล้วเช่นนั้นผู้ใดจักสมควรหรือเจ้าข้า คุณปู่ท่านคงมิได้คิดเช่นนั้น”

รอยยิ้มเศร้าของโชติระเสปรากฏให้เห็นก่อนจะหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างโดยไม่พูดอะไร

“คุณพ่อเจ้าข้า ไม่มีผู้ใดที่ไม่เคยผิดพลาด แม้นปราชญ์ผู้เลื่องชื่อก็ย่อมเคยพลาดพลั้ง เหตุใดคุณพ่อจึงมินำสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครู และสอนว่าเราจะมิผิดเช่นเดิมอีก ลูกมิเห็นประโยชน์อันใดที่คุณพ่อจักลงโทษตนเองเช่นนี้ หากคุณพ่อมิรักตนเองแล้วไซร้ แต่ลูกกับคุณแม่ก็รัก และเป็นห่วงคุณพ่อมากนักเจ้าข้า”

โชติระเสยังคงนิ่งเช่นนั้น จนกระทั่ง...

“หากเจ้ามิใช่ลูกของพ่อ วาจาเช่นนี้พ่อคงนึกว่าเจ้าถูกเทพธิดาฤานางไม้ทรงร่างเป็นแน่แท้...อุษามันตรา”

ไฉนจึงกลายเป็นหาเรื่องเข้าตัวแบบนี้ไปได้ อุษามันตรารีบทำตาใสออดอ้อน ยิ้มกว้างประจบ ขยับพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนตักของท่านโชติระเสที่ไม่ได้เชื้อเชิญ แล้วกอดเท่าที่จะกอดได้ เงยหน้าขึ้นโดยไม่ยอมคลายอ้อมแขน แล้วพูดว่า

“ปัญญาของลูกย่อมได้จากคุณพ่อ คุณแม่ แลบรรพบุรุษตกทอดมา หาได้มีผู้ใดมาสิงร่างลูกดอกเจ้าข้าคุณพ่อ”

แล้วก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน เรื่องอะไรที่เธอจะไปหาเรื่องซวยให้ตัวเอง ยิ่งมีข่าวไม่นานนี้ว่าสาวชาวบ้านทำตัวนอกรีตบูชาภูติผีปีศาจถูกเอาไปเผาทั้งเป็น ขืนมีใครรู้เรื่องของเธอแล้วเอาไปปั้นแต่งมันก็น่ากลัวไม่น้อย เธอยังไม่อยากถูกย่างสดกับสังคมที่มีความเชื่อไม่เป็นวิทยาศาสตร์และไม่เป็นเหตุเป็นผลนี่นัก

มือข้างหนึ่งของท่านโชติระเสโอบแผ่นหลังเธอเอาไว้ มืออีกข้างก็เกลี่ยปอยผมตรงหน้าผาก แววตาแสดงความรักและเอ็นดูชัดเจน

“พ่อรู้เต็มอก...อุษามันตรา ไม่ว่าจะอย่างไร กายนี้ ดวงตาเช่นนี้ คำพูดเช่นนี้ ย่อมเป็นเจ้า...ลูกของพ่อเช้าค่ำนั่นแล ผู้ใดจักกล้าสิงร่างเจ้าได้ เจ้าเก่งกาจออกปานนี้ ว่าแต่...เจ้านั้นปากหวานเหมือนผู้ใดกัน แม่ของเจ้าออกจะเก็บคำนัก ส่วนพ่อก็หาได้เป็นเช่นเจ้าไม่”

มีหรือที่เธอจะยอมแพ้ จึงรีบตอบไปว่า

“คงจะเหมือนบรรพบุรุษไม่คนใดก็คนหนึ่งที่ไล่นับกันไม่ถูกนั่นแลเจ้าข้า”

แล้วก็ยิ้มกว้างเข้าไว้ นั่นจึงทำให้โดนบีบจมูกและหอมที่หน้าผาก

ไม่ทันที่จะได้หัวเราะสดใสนานนัก ก็มีเสียงตึงตังตั้งแต่เรือนชานจนมาถึงหน้าเรือนนอนนี่แล้ว

“นายท่านเจ้าข้า นายท่านเจ้าข้า เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าข้า”

เสียงของทิดศร บ่าวคนสนิทของคุณพ่อดังมา อุษามันตราขยับนั่งตักให้เรียบร้อย กริยาท่าทางของอีกฝ่ายลุกลี้ลุกลนนัก

“โจรตุมหัง ประกาศปล้นหมู่บ้านเราค่ำนี้เจ้าข้านายท่าน”

‘เอาละเหวย ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ว่าแต่มันปล้นกันโต้งๆ แบบนี้เลยเหรอเนี่ย’ อุษามันตราคิด แต่ก็ตั้งใจฟัง ไม่นึกไม่ฝันว่าเกิดมาจะเจอเรื่องอะไรแบบนี้กับเขาด้วย

“มันจักปล้นทั้งหมู่บ้านเลยรึทิดศร” โชติระเสถาม น้ำเสียงนั้นมั่นคง แต่สายตาตระหนกไม่น้อย

“มิเว้นเรือนใดแม้นแต่มนสิการเจ้าข้า นายท่านจักให้จัดการเช่นไรดีเจ้าข้า”

“เจ้าไปเอาข่าวมาจากที่ใด”

“ลูกน้องโจรตุมหังป่าวประกาศไปทั่วเจ้าข้า เมื่อครู่นี้”

โชติระเสเงียบ ก่อนจะโบกมือไล่บ่าว “ไปรอข้าที่นอกชาน เรียกแม่นายตยาวดีแลแม่จิตรามาหาข้าแต่ไว”

“เจ้าข้านายท่าน”

“ปล้น... พวกมันจะปล้นอะไรหรือเจ้าข้าคุณพ่อ”

อุษามันตราถาม เพราะต้องการความมั่นใจว่าเข้าใจถูกต้องหรือไม่กับสิ่งที่ได้ยินหลังจากบ่าวชายหันหลังออกไป

โชติระเสถอนหายใจก่อนจะตอบว่า “ปล้น... คือการชิงทรัพย์ทุกอย่างที่โจรมันจักเอาไปได้ลูกพ่อ โค... กระบือ... สัตว์... พาหนะ ข้าวสาร ทุกสิ่ง... ทุกสิ่งที่มันเอาไปได้ มันจักเอาไปหมดเว้นแต่ของติดตัว ครานี้ถึงกับปล้นทั้งหมู่บ้าน มันคงมิเอาแค่ของบนเรือนดอก”

“แล้วมันประกาศให้รู้แบบนี้ทุกครั้งเลยหรือเจ้าข้าคุณพ่อ มันเคยปล้นมนสิการด้วยหรือเปล่าเจ้าข้า”

“ครั้งหนึ่ง...นานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยพ่อยังเล็กนัก”

ไม่ทันที่เธอจะได้ถามไปมากกว่านี้ สองเสียงประสานของตยาวดีกับจิตราดังมาพร้อมๆ กัน

“คุณพี่” “นายท่านเจ้าข้า”

สีหน้าของทั้งคู่นั้นตระหนกตกใจ

“เข้ามาก่อนเถิด”

โชติระเสพยักหน้าอนุญาต ทั้งสองลนลานขัดเข่าข้ามธรณีประตูมาโดยไว จิตรารีบปิดห้องหับให้มิดชิด แล้วตามมาสมทบใกล้ๆ

“มนสิการหาได้มีสิ่งที่จะให้มันปล้นดอก ตยาวดีน้องเจ้าอย่าได้กังวลนัก สมบัติในกำปั่นของเจ้ายังขุดซ่อนได้” เขากล่าว

“แต่โคกระบือ แลข้าวในยุ้งฉางของเราเล่าเจ้าข้านายท่าน หากถูกปล้นไป เราคงลำบากอีกมิน้อยเจ้าข้า” จิตราพูดเสียงสั่น สีหน้ากังวลมาก

“แบ่งเก็บ เท่าที่จักเก็บได้”

“แล้วเราจักเก็บอย่างใดให้ทันเจ้าข้าคุณพี่... กระชั้นนัก” ตยาวดีเอ่ย

โชติระเสเงียบ อุษามันตรารู้ว่าคุณพ่อคิดอะไรไม่ออกแน่ๆ ในตอนนี้ จึงตัดสินใจพูดว่า

“จะเก็บอะไรก็เก็บ แต่อย่าได้นำกำปั่นของคุณแม่ออกไปซ่อนให้ผู้ใดรู้เชียวเจ้าข้า”

ผู้ใหญ่ทั้งสามมองคนตัวเล็กเป็นตาเดียว อุษามันตราจึงพูดต่อว่า

“ก็เมื่อวันที่ท่านพะลัญจะคหบดีมาที่เรือนนี้ ได้ถามลูกว่าคุณพ่อสอนลูกเขียนอ่านจริงหรือไม่เจ้าข้า”

ผู้ใหญ่ทั้งสามหันไปก็มองหน้ากัน นั่นก็เพราะมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ซึ่งก็คือเจ้าเรือนและบ่าวของเรือนใหญ่ แต่สามารถไปถึงหูพะลัญจะได้ ก็น่าฉงนสนเท่ห์

“มนสิการมีคนไว้ใจไม่ได้แน่นอนเจ้าข้า หากเราเอาสมบัติชุดสุดท้ายในกำปั่นออกจากห้องคุณแม่ ความเสี่ยงที่โจรจะรู้ ก็ต้องมีไม่มากก็น้อย”

โชติระเส ตยาวดี และจิตรา มองหน้ากันไปมาสลับกับมองหน้าอุษามันตราแบบนั้น แต่ละคนต่างมีความคิดมากมายในหัวของตนเอง มากที่สุดก็คือไม่คาดคิดว่าเด็กน้อยจะพูดสิ่งที่เป็นการเป็นงานยิ่งกว่าผู้ใหญ่ซึ่งมัวแต่ตกใจ

โชติระเสมองลูก สายตาที่มองเป็นคำถามว่าจริงหรือ โดยไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา อุษามันตราพยักหน้ารับ

“ลูกหาได้มีเหตุใดต้องโกหกเจ้าข้า ตอนนี้... ต่อให้เราขนย้ายหรือซ่อนทรัพย์สิน ก็ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายจะตามเจอด้วยเช่นกัน มนสิการจำต้องฝึกคน ต้องคัดคนเสียใหม่เจ้าข้าคุณพ่อ”

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือคำพูดของเด็กวัยหกขวบ ทั้งสามคนได้แต่มองหน้ากันไปมาโดยไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง

“เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรอุษามันตรา / แม่นายน้อยอุษามันตรา”

เอ่ยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อุษามันตราได้แต่ส่ายหน้าเพราะว่าตอนนี้เธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องทำอย่างไรดีในเบื้องต้น แม้ในหัวกำลังเร่งคิดถึงในภาพยนตร์และละครที่เคยดูว่ามีการสู้รบกับโจรแบบใดบ้างในสมัยโบราณ แต่ก่อนจะคิดอะไรไปไกลกว่านั้น เธอถามว่า

“โจรที่นี่ มันจะฆ่าเราหรือไม่เจ้าข้า หากขัดขืน”

ทั้งสามพยักหน้าพร้อมกัน

“เป็นธรรมเนียมว่าหากเจ้าทรัพย์มิสู้ มันจักมิทำร้าย”

โชติระเสให้ข้อมูล ในใจของอุษามันตรานั้นร้องครวญว่าฟ้าส่งเธอมาให้เจอกับอะไรกันหนอ เพิ่งจะรอดจากการเป็นตัวขัดดอก ก็ต้องมาเจอโจรปล้นอีก คราวที่แล้วก็สู้กับโจรจนถูกยิงแล้วมาโผล่ที่นี่ แต่ก็ต้องมาสู้กับโจรอีกรอบ แถมยังมากันเป็นหมู่เสียด้วย

นึกแล้วก็แค้นเคืองนัก อยากรู้จักคนที่ส่งเธอมาเจอเรื่องพวกนี้เหลือเกิน โกรธเกลียดอะไรเธอนักหนา ไม่เจอกันตัวต่อตัวไปเลยล่ะ จะได้หมดเรื่อง แต่นั่นก็แค่ความรู้สึกที่โผล่ขึ้นมาท่ามกลางความหนักใจเท่านั้น ครั้นเมื่อหันออกไปมองนอกหน้าต่าง แสงแดดที่เห็นก็บอกว่าเธอมีเวลาไม่มากเท่าไหร่ก่อนตะวันจะตกดิน จึงรีบบอกไปว่า

“ป้าจิตราช่วยเรียกบ่าวแลคนในมนสิการมารวมกันที่หน้าเรือนใหญ่ทีนะเจ้าข้า ให้เอาทรัพย์สินมีค่ามาให้หมด มาให้ไว ทุกคนนะเจ้าข้า”

“จักเรียกมาด้วยเหตุใดหรือเจ้าข้าแม่นายน้อยอุษา ให้พวกมันเร่งไปฝังดินให้เร็วมิดีกว่ารึเจ้าข้า”

นี่เธอจะอธิบายอย่างไรดี

“อย่าเพิ่งให้แตกตื่นเจ้าข้าป้าจิตรา เรียกมาให้ครบคน ลูกเล็กเด็กแดงเรียกมาให้หมด”

พูดไป ในใจก็พยายามคิดถึงกลศึกทั้งหลายทั้งปวงที่เคยดูมา ทั้งสามก๊กเอย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรที่ได้ดูแค่ภาคแรกเอย ในกองถ่ายละครที่เคยนั่งฟังนักแสดงพูดถึงเอย แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้... มันอยู่ที่ไหนกัน เพราะข้อมูลแทบไม่โผล่มาในหัวตอนนี้ จึงได้แต่บอกไปก่อนว่า

“ขอโปรดได้เชื่อใจลูกนะเจ้าข้า คุณพ่อ... คุณแม่... ป้าจิตรา”

ถึงทั้งสามไม่อยากจะเชื่อก็คงไม่ทัน เพราะสถานการณ์ตอนนี้คับขัน แต่ละคนจำต้องยอมรับกับตนเองว่าคิดอะไรไม่ออก ที่สำคัญคือความเชื่อถือ ความศรัทธาในตัวของอุษามันตราทำให้ในส่วนลึกสั่งการเพียงว่าลองทำตามเด็กน้อยตรงหน้านี้แนะนำสักครั้ง ดีกว่าการที่ไม่รู้ว่าจะต้องตั้งรับอย่างไร เมื่อความเสียหายกำลังจะมาเยือน

อุษามันตราบอกสิ่งที่ควรกระทำเบื้องต้นเพื่อจัดระเบียบผู้คนและเตรียมตัวตั้งรับให้ทั้งสามฟัง ป้าจิตราลงไปจัดการ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ก็รู้ว่าควรกระทำสิ่งใด




ทรัพย์สินและสมบัติมีค่าจำนวนหนึ่งถูกนำมารวมไว้ที่หน้าเรือนใหญ่แห่งมนสิการ พื้นหญ้าและทางเดินโล่งกว้างก่อนหน้านี้กำลังเต็มไปด้วยผู้คนเกือบหกสิบ ใบหน้าของพวกเขาวิตกกังวลยิ่งนัก สายตาขอความช่วยเหลือและคาดหวังได้รับความคุ้มครองจ้องมองมาที่ผู้เป็นนายใหญ่และกำลังยืนอยู่ตรงประตูเรือน

การรวมคนที่กำลังขวัญหนีไม่ง่ายเลย ต้องให้บ่าวชายไปตามและตรวจสอบว่าอยู่ครบคนจึงได้เริ่มสั่งการ ตอนนี้บ่ายจัด เวลาเหลือไม่มากแล้ว ไต้จำนวนหนึ่งถูกเตรียมเอาไว้ โชติระเสทอดมองผู้คนเบื้องล่าง กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง

“พวกเจ้าจงอย่าได้แตกตื่น จงฟังข้า สมบัติของพวกเจ้าตรงหน้าของข้านี้ มีสัญลักษณ์ว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ ข้าจักรักษาให้ดีที่สุด มนสิการเพิ่งผ่านวิกฤติไปเพียงมิกี่เพลา บัดนี้... เราจักต้องรับมือโจรตุมหังแลคนในชุมโจร หากพวกเจ้ามิรวมใจเป็นหนึ่ง มิเชื่อฟังข้าผู้เป็นนายของเจ้า ก็จงรีบออกไปเสียแต่บัดเดี๋ยวนี้ จงอย่าอยู่เป็นภาระข้า”

โชติระเสกวาดตามอง บ่าวและคนของมนสิการทั้งหมดไม่มีใครแสดงอาการว่าจากไป มีเพียงอาการก้มหน้าบ้างเล็กน้อย แต่ที่เหลือกำลังจ้องมองอย่างตั้งใจฟัง

อุษามันตรามองเห็นทุกอย่างผ่านระเบียงหน้าชานเรือน รู้สึกเบาใจ...ว่างานนี้อาจควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง โดยสายตาก็กำลังมองหาบางอย่าง

“พวกเจ้าจงฟัง ประเดี๋ยวจงรีบกินให้อิ่ม แยกแม่หญิงแลเด็กไปที่วัดหัวคุ้งน้ำนี้ ส่วนชายทุกคนที่มีกำลังแลรู้ความ เมื่อกินอิ่ม ให้ไปรวมที่หน้าโรงหล่อ จงทำตามที่ข้าสั่งอย่างตั้งใจ อย่าแตกกลุ่มเป็นอันเด็ดขาดไม่ว่าได้ยินเสียงใด บัดนี้คำสั่งของข้าสั่งเหนือทุกสิ่ง หากมีคนบังอาจละเมิดคำสั่ง ข้าจักลงโทษริบเรือน ริบทรัพย์ โบยมันผู้นั้นสามสิบไม้ แลอย่าได้เหยียบแผ่นดินมนสิการอีกต่อไป พวกเจ้าเข้าใจรึไม่!”

ผู้คนทั้งหลายพยักหน้าหงึกหงัก

“คุณพี่เจ้าข้า แล้วน้องล่ะเจ้าข้า”

‘แหม... เสียงออเซาะเชียวนะหล่อน’

อุษามันตรานึก เพราะคนฟังอย่างเธอออกอาการขนหัวลุกกับน้ำเสียงที่วาดใช้ก็ย่อมไม่ธรรมดา สายตาเธอมองคุณพ่อ แต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลัง อยากรู้ว่าท่านโชติระเสจะจัดการกับวาดเช่นไร เมื่อนี่จะเป็นปฐมบทของการดูแลมนสิการให้กลับมายิ่งใหญ่และมีความมั่นคงอีกครั้ง ซึ่งนั่น...ต้องเริ่มจากผู้นำสูงสุด ก็คือคุณพ่อเอง

“จงปฏิบัติเช่นบ่าวแลคนในมนสิการ น้องเจ้าจงดูแลลูกให้ดี”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มของโชติระเสผิดกับก่อนหน้านี้ที่ขึงขังชวนเกรงขาม จนทำให้อุษามันตรานึกน้อยใจ

“แต่หากเจ้าทำผิดแลฝ่าฝืน พี่จักมิมีเว้นโทษ!”

อยากจะตบเข่าฉาดกับถ้อยคำและน้ำเสียงที่ได้ยิน แต่ก็ได้เพียงแค่นิ่งเท่านั้น เธอไม่เห็นหน้าคุณพ่อในตอนนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร แค่เห็นวาดหน้าถอดสีและรีบก้มหลบก็บ่งบอกถึงอนาคตอันสดใสของที่นี่ได้ชัดเจน

“พวกเจ้าจงอยู่ในตำแหน่งที่ข้ากำหนด จนกว่าจักได้ยินสัญญาณนี้ จึงกลับมามนสิการได้”

แล้วโชติระเสก็ผิวปากเป็นเสียงขึ้นลงเป็นจังหวะ

“หากผู้ใดขัดคำสั่ง จักตายก่อนโจรตุมหังมา จงรีบกินให้อิ่ม อย่าได้ตระหนก นับแต่บัดนี้ ผิดคือผิด ถูกคือถูก โทษคือโทษ คุณคือคุณ ข้าจักมิยอมให้ผู้ใดหยามเกียรติข้าแลมนสิการ หากพวกเจ้าทุกคนมิเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มิช่วยกัน ก็จงอย่ากล่าวว่าข้าแล้งน้ำใจ ข้าจักมิพาคนของมนสิการไปตายเพราะความกลัวของใครผู้หนึ่ง จงจำไว้ให้ดี พวกเจ้าแยกย้ายกันไปได้แล้ว”

บรรดาบ่าวทั้งหลายเริ่มแยกย้าย มุ่งตรงไปยังโรงครัวตามที่นายช่างใหญ่แห่งโชติระเสกำหนด แต่มีบ่าวหญิงหนึ่งคนที่ยังละล้าละลัง

“เจ้ามีสิ่งใดรึ”

“นายท่านเจ้าข้า ปวดขี้ปวดเยี่ยวเล่าเจ้าข้า”

“หม้อมูตร ไม่มีรึ”

บ่าวคนดังกล่าวพยักหน้าอย่างกระมิดกระเมี้ยน

“เอาติดตัวไปด้วย” โชติระเสสั่ง และเพื่อป้องกันความสงสัย “พวกเจ้ามีสิ่งใดขับข้องใจ จงถามข้าแต่ไว”

แต่ละคนก็ส่ายหน้าแทบพร้อมกัน เพราะเสียงสุดท้ายนั้นเด็ดขาดกว่าทุกครั้งเท่าที่คนในมนสิการได้ยินมา และเมื่อลานหน้าเรือนโล่งแล้ว โชติระเสก็หันมาหาอุษามันตราที่นั่งอยู่กับพื้น เขาคุกเข่าลง จับที่ต้นแขนทั้งสองของเธอ

“อุษามันตรา เจ้าจงอยู่กับแม่ของเจ้า แผนการที่ลูกบอก พ่อเข้าใจดีแล้ว”

น้ำเสียงและแววตาของท่านโชติระเสแสดงความเป็นห่วงยิ่งนัก

อุษามนตราส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ลูกจะไม่ทิ้งคุณพ่อไปไหนเจ้าข้า ขอแค่คุณแม่ ป้าจิตรา และคนของมนสิการได้อยู่ในที่ปลอดภัย ลูกก็เบาใจ กลครั้งนี้ลูกต้องมั่นใจว่าเราจักไม่เสี่ยงเป็นอันเด็ดขาด ลูกรู้ว่าต้องทำอย่างไรมิให้เป็นภาระ แลเอาตัวให้พ้นภัยได้ ขอให้คุณพ่อโปรดเชื่อลูกนะเจ้าข้า ลูกไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวลูกเอง”

เธอรู้ว่าท่านโชติระเสไม่สบายใจ แต่ทุกอย่างในครั้งนี้ไม่มีใครจะรู้ดีไปมากกว่าเธออีกแล้ว






สุชาคริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.พ. 2556, 12:38:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.พ. 2556, 12:39:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 2654





<< ชี้แจงการหยุดอัพนิยาย   บทที่ 8 (ครึ่งหลัง) >>
omelate 4 ก.พ. 2556, 13:10:21 น.
ตอนหน้าเข้มข้นแน่


supayalak 4 ก.พ. 2556, 13:10:55 น.
อ๊ายยยยยย จะทำงัย อุษามัตราจะหาทางหนีทีไล่ยังไงนี่ อยากรู้ อยากรู้


แว่นใส 4 ก.พ. 2556, 13:16:26 น.
จะมีใครมาช่วยหนูน้อยอุษาของเราไหมนะ


wind 4 ก.พ. 2556, 13:42:50 น.
แผนอะไรน้อ


PiNVE 4 ก.พ. 2556, 14:02:48 น.
ดีใจมากค่ะที่มาต่อตอนใหม่ รอลุ้นตอนต่อไปกำลังสนุกเลย


โซดา 4 ก.พ. 2556, 14:27:45 น.
คุณอ้อ ขอบคุณมากคะ ได้อ่านสมใจ


Chii 4 ก.พ. 2556, 14:35:40 น.
ขอบคุณที่กลับมา


dino 4 ก.พ. 2556, 14:39:21 น.
เก่งจัง


lovemuay 4 ก.พ. 2556, 15:04:08 น.
แผนอะไรนะ นายน้อยคนนี้ฉลาดจริงๆ


Auuuu 4 ก.พ. 2556, 17:20:59 น.
ไอ้หย่ะะะ จะทำเช่นใดกันนนน


nunoi 4 ก.พ. 2556, 17:56:02 น.
ลุ้นมากกก นายน้อยอุษา จะทำกลศึก ยังไงหนอ


แล่นแต๊ 4 ก.พ. 2556, 18:08:57 น.
มีแผนการอะไรน้า


konhin 4 ก.พ. 2556, 19:50:35 น.
โอ้ เข้มข้น จะเป็นยังไงต่อ หนอนเป็นใครกัน


ree 4 ก.พ. 2556, 20:12:06 น.
แม่นายน้อยสำแดงปัญญาแล้ว ขอให้นายช่างใหญ่ยอมไว้ใจให้ตลอดรอดฝั่งด้วยเถิด


phugan 4 ก.พ. 2556, 20:55:27 น.
มารอดูว่าแผนจะเจ๋งแค่ไหน...


ร้อยวจี 4 ก.พ. 2556, 21:15:27 น.
รอค่ะ วันพฤหัสฯ ตื่นเต้น อยากรู้ว่าจะมีทางออกยังไง


เดิมเดิม 4 ก.พ. 2556, 21:35:49 น.
เรื่องมีมาหาตลอดๆ


Pat 4 ก.พ. 2556, 21:50:57 น.
จะรับมือยังไงนะอุษามันตรา อยากรู้จริงๆ


ใบบัวน่ารัก 4 ก.พ. 2556, 23:32:20 น.
เกลือเป็นหนอน
โจรปล้นบ้าน
...หนักหนานัก


oolong 4 ก.พ. 2556, 23:41:59 น.
นางเอกเหมือนอิคิวซังเลยค่ะ


ariesleo 5 ก.พ. 2556, 12:30:26 น.
เข้ามารอลุ้นต่อค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account