บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา
Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง
ตอน: บทที่ 10 เขาร้อนเธอร้าย 100%
“เอมี่ง่วง อย่าถามเอมี่เลย ได้โปรดเถอะ” แม่มดคนงามร้องขอ เปรมินทร์จึงรั้งไหล่บอบบางให้นอนลงด้วยกันโดยที่แผ่นหลังของอรัญญิการ์แนบชิดติดแผงอกเขา
“ฉันไม่ถามก็ได้ เธอนอนเถอะ” เขาบอก
เวลาผ่านไปราวสิบนาทีแม่มดคนงามก็เรียกขานชื่อเขา
“คุณเปรม?”
“อือ...อะไร”
“เปล่า แค่....คิดถึง” อรัญญิการ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขาอยากทำเสียงหล่อก่อนทำไม
เปรมินทร์หน้าแดงถึงใบหู เจ้าหล่อนจู่ๆ ก็มาบอกว่าคิดถึง เขา...ตั้งตัวไม่ทัน
“เธอจะบ้าหรือเปล่า อยู่ใกล้กันแค่นี้จะมาคิดถึงทำไม อ้อ แล้วเมื่อกี้...ขอบใจนะที่ถอดรองเท้าให้ฉัน” เขาซาบซึ้งใจตามที่บอกหล่อนจริงๆ อรัญญิการ์ถอดรองเท้าให้เขาราวกับเมียทาสมัยโบราณปรนนิบัติสามี ซึ่งความจริงหล่อนไม่ต้องทำก็ได้
“ไม่เป็นไรไม่ต้องซึ้ง เอมี่แค่กลัวว่า...โซฟาจะเปื้อน คิกๆ” เธอหัวเราะคิกคัก อย่างพออกพอใจได้ยินเสียงคุณเปรมบ่นงึมงำเพราะเข้าใจผิด
“คุณเปรม...” เธออยากจะบอกบางอย่างอีกครั้ง
“อะไรอีกล่ะ?” เขาถามอีก
“ไฟมันแยงตา”
เธอบอกเขา ตอนนี้ไฟในห้องสว่างกว่าตอนแรก เพราะเธอลุกไปเปิดตอนทายาให้เขา
“เธอก็ไปปิดสิ”
เขาบอกทั้งที่ยังหลับตา แขนซ้ายถูกอรัญญิการ์ใช้ต่างหมอน แขนขวาวางพาดเอวบางของหล่อน
“โห...คุณเปรม! สุภาพบุรุษสุดๆ เลย” อรัญญิการ์ประชด
“งั้นเธอขยับก่อนสิ ฉันจะได้ลุกไปปิด” เขาบอก แต่เจ้าหล่อนยังนิ่ง
“ม่ายยย...มันอุ่นได้ที่แล้วนี่นา”
“เรื่องเยอะจริงๆ เอมี่ อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ ใครได้เธอเป็นเมียปวดหัวตาย” เปรมินทร์พูดไปด้วยความคะนองปาก ไม่ได้คำนึงเลยว่าคนที่ถูกพาดพิงจะเจ็บปวดแค่ไหน
ห้านาทีผ่านไป แต่แม่มดน้อยก็ไม่ตอบโต้ เขากระชับแขนขวาเกี่ยวเอวบางให้แนบชิดยิ่งขึ้นเพราะไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ทว่า ยิ่งแนบชิดยิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติ ร่างบอบบางสะท้านไหวสั่นเทา แต่เขาไม่ได้ยินเสียงใดๆ ใช่! อรัญญิการ์กำลังร้องไห้ แต่หล่อนไม่อยากให้เขาได้ยิน หล่อนคงลืมกระมังว่าไอ้ที่หล่อนหนุนอยู่มันไม่ใช่หมอน แต่เป็นแขนซ้ายของเขา และตอนนี้มันเปียกชุ่มไปแล้ว
“เอมี่...”
เขาจับร่างบางให้หันมาเผชิญหน้า ใบหน้านองน้ำตาช่างน่าสงสาร พริบตาเดียวที่เขาเผลอ หล่อนก็แอบร้องไห้จนตาบวมเสียแล้ว ปลายจมูกเชิดน้อยๆ ก็แดงก่ำทีเดียว เขาอดไม่ไหวกอดร่างหล่อนแน่นขึ้น มือก็กดศีรษะหล่อนลงกับแผ่นอกหนา หวังเพียงให้มันรองรับน้ำตาของยัยแม่มด
เปรมินทร์กอดหล่อนแนบแน่นเนิ่นนาน กระทั่งร่างบอบบางคลายสะอื้น
อรัญญิการ์เงยหน้าขึ้นมองเขา ทั้งสองจ้องตากันเนิ่นนาน เปรมินทร์แลเห็นแต่ความหม่นเศร้าในหน่วยตาสีนิลระยับ
“คุณเปรม...อรัญญิการ์ดอกนี้ ไม่มีค่า...ไม่มีราคา เป็นเพียงไม้เลื้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เป็นเด็กกำพร้า กาฝากของสังคม แต่อรัญญิการ์ก็มีชีวิตจิตใจ อย่าข่มเหงกันด้วยวาจานักเลย อรัญญิการ์ขอสัญญาจะไม่นำพากิ่งก้านใบไปเกาะเกี่ยวเลี้ยวพัน เจ้าดอกมัทนาของคุณเปรมอย่างแน่นอน เพราะอรัญญิการ์รู้ดี วันใดผิดคำสัญญา สิ่งที่อรัญญิการ์จะได้รับกลับมาจะมีเพียงหนามแหลมทิ่มแทงใจให้เจ็บปวดและ...ทรมาน”
“ไม่! ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นเอมี่”
เปรมินทร์หน้าเสีย หากเขาได้มองกระจกคงจะได้เห็นว่าตัวเองหน้าซีดเพียงไร เพียงแค่หล่อนบอกว่าจะไปหัวใจก็พลันไหววูบ มันหวิวโหวงคล้ายบางอย่างหายไป
‘ไม่! เขาไม่ปล่อยหล่อนไปอย่างเด็ดขาด ไม่มีวัน!’
**********************
หนูอัญชอบท่อนที่เอมี่พูดมากๆ จำได้ว่าตอนที่ปั่นนั่งร้องไห้เลย แต่หนูอาจบรรยายได้ไม่ดีนักต้องขออภัยด้วย นิยายหนูอัญไม่ค่อยมีบทบรรยาย (หนูไม่ชอบอ่านบทบรรยายเลยคิดว่าชาวบ้านเขาจะไม่ชอบด้วย Y^Y ^/\^ หนูขอโทษค่า กำลังปรับปรุงอย่างเร่วด่วน เล่มนี้แก้ไม่ทันรอแก้ไขเล่มที่ 9 นะคะ >< เริ่มเขียนนิยายเมื่อสิงหา 54 เขียนอย่างจริงจังเมื่อมีนา 55 ยังด้อยประสบการณ์ต้องขออภัยด้วยจร้า ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำติฉินนินทา หนูอัญรับได้ค่า หนูถึก!!! ^_________________^
“ฉันไม่ถามก็ได้ เธอนอนเถอะ” เขาบอก
เวลาผ่านไปราวสิบนาทีแม่มดคนงามก็เรียกขานชื่อเขา
“คุณเปรม?”
“อือ...อะไร”
“เปล่า แค่....คิดถึง” อรัญญิการ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขาอยากทำเสียงหล่อก่อนทำไม
เปรมินทร์หน้าแดงถึงใบหู เจ้าหล่อนจู่ๆ ก็มาบอกว่าคิดถึง เขา...ตั้งตัวไม่ทัน
“เธอจะบ้าหรือเปล่า อยู่ใกล้กันแค่นี้จะมาคิดถึงทำไม อ้อ แล้วเมื่อกี้...ขอบใจนะที่ถอดรองเท้าให้ฉัน” เขาซาบซึ้งใจตามที่บอกหล่อนจริงๆ อรัญญิการ์ถอดรองเท้าให้เขาราวกับเมียทาสมัยโบราณปรนนิบัติสามี ซึ่งความจริงหล่อนไม่ต้องทำก็ได้
“ไม่เป็นไรไม่ต้องซึ้ง เอมี่แค่กลัวว่า...โซฟาจะเปื้อน คิกๆ” เธอหัวเราะคิกคัก อย่างพออกพอใจได้ยินเสียงคุณเปรมบ่นงึมงำเพราะเข้าใจผิด
“คุณเปรม...” เธออยากจะบอกบางอย่างอีกครั้ง
“อะไรอีกล่ะ?” เขาถามอีก
“ไฟมันแยงตา”
เธอบอกเขา ตอนนี้ไฟในห้องสว่างกว่าตอนแรก เพราะเธอลุกไปเปิดตอนทายาให้เขา
“เธอก็ไปปิดสิ”
เขาบอกทั้งที่ยังหลับตา แขนซ้ายถูกอรัญญิการ์ใช้ต่างหมอน แขนขวาวางพาดเอวบางของหล่อน
“โห...คุณเปรม! สุภาพบุรุษสุดๆ เลย” อรัญญิการ์ประชด
“งั้นเธอขยับก่อนสิ ฉันจะได้ลุกไปปิด” เขาบอก แต่เจ้าหล่อนยังนิ่ง
“ม่ายยย...มันอุ่นได้ที่แล้วนี่นา”
“เรื่องเยอะจริงๆ เอมี่ อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ ใครได้เธอเป็นเมียปวดหัวตาย” เปรมินทร์พูดไปด้วยความคะนองปาก ไม่ได้คำนึงเลยว่าคนที่ถูกพาดพิงจะเจ็บปวดแค่ไหน
ห้านาทีผ่านไป แต่แม่มดน้อยก็ไม่ตอบโต้ เขากระชับแขนขวาเกี่ยวเอวบางให้แนบชิดยิ่งขึ้นเพราะไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ทว่า ยิ่งแนบชิดยิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติ ร่างบอบบางสะท้านไหวสั่นเทา แต่เขาไม่ได้ยินเสียงใดๆ ใช่! อรัญญิการ์กำลังร้องไห้ แต่หล่อนไม่อยากให้เขาได้ยิน หล่อนคงลืมกระมังว่าไอ้ที่หล่อนหนุนอยู่มันไม่ใช่หมอน แต่เป็นแขนซ้ายของเขา และตอนนี้มันเปียกชุ่มไปแล้ว
“เอมี่...”
เขาจับร่างบางให้หันมาเผชิญหน้า ใบหน้านองน้ำตาช่างน่าสงสาร พริบตาเดียวที่เขาเผลอ หล่อนก็แอบร้องไห้จนตาบวมเสียแล้ว ปลายจมูกเชิดน้อยๆ ก็แดงก่ำทีเดียว เขาอดไม่ไหวกอดร่างหล่อนแน่นขึ้น มือก็กดศีรษะหล่อนลงกับแผ่นอกหนา หวังเพียงให้มันรองรับน้ำตาของยัยแม่มด
เปรมินทร์กอดหล่อนแนบแน่นเนิ่นนาน กระทั่งร่างบอบบางคลายสะอื้น
อรัญญิการ์เงยหน้าขึ้นมองเขา ทั้งสองจ้องตากันเนิ่นนาน เปรมินทร์แลเห็นแต่ความหม่นเศร้าในหน่วยตาสีนิลระยับ
“คุณเปรม...อรัญญิการ์ดอกนี้ ไม่มีค่า...ไม่มีราคา เป็นเพียงไม้เลื้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เป็นเด็กกำพร้า กาฝากของสังคม แต่อรัญญิการ์ก็มีชีวิตจิตใจ อย่าข่มเหงกันด้วยวาจานักเลย อรัญญิการ์ขอสัญญาจะไม่นำพากิ่งก้านใบไปเกาะเกี่ยวเลี้ยวพัน เจ้าดอกมัทนาของคุณเปรมอย่างแน่นอน เพราะอรัญญิการ์รู้ดี วันใดผิดคำสัญญา สิ่งที่อรัญญิการ์จะได้รับกลับมาจะมีเพียงหนามแหลมทิ่มแทงใจให้เจ็บปวดและ...ทรมาน”
“ไม่! ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นเอมี่”
เปรมินทร์หน้าเสีย หากเขาได้มองกระจกคงจะได้เห็นว่าตัวเองหน้าซีดเพียงไร เพียงแค่หล่อนบอกว่าจะไปหัวใจก็พลันไหววูบ มันหวิวโหวงคล้ายบางอย่างหายไป
‘ไม่! เขาไม่ปล่อยหล่อนไปอย่างเด็ดขาด ไม่มีวัน!’
**********************
หนูอัญชอบท่อนที่เอมี่พูดมากๆ จำได้ว่าตอนที่ปั่นนั่งร้องไห้เลย แต่หนูอาจบรรยายได้ไม่ดีนักต้องขออภัยด้วย นิยายหนูอัญไม่ค่อยมีบทบรรยาย (หนูไม่ชอบอ่านบทบรรยายเลยคิดว่าชาวบ้านเขาจะไม่ชอบด้วย Y^Y ^/\^ หนูขอโทษค่า กำลังปรับปรุงอย่างเร่วด่วน เล่มนี้แก้ไม่ทันรอแก้ไขเล่มที่ 9 นะคะ >< เริ่มเขียนนิยายเมื่อสิงหา 54 เขียนอย่างจริงจังเมื่อมีนา 55 ยังด้อยประสบการณ์ต้องขออภัยด้วยจร้า ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำติฉินนินทา หนูอัญรับได้ค่า หนูถึก!!! ^_________________^
Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.พ. 2556, 04:24:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.พ. 2556, 04:24:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 3504
<< บทที่ 10 เขาร้อนเธอร้าย 80% | บทที่ 10 เขาร้อนเธอร้าย 120% >> |