หัวใจพิทักษ์รัก
จะทำอย่างไรเมื่อร้อยตำรวจเอกคริสโตเฟอร์ สมิทธิ์โดนผู้หญิงผมทองหักอก ทำให้ชาตินี้เขาคิดว่าจะไม่เอาผู้หญิงผมทองมาเป็นแฟนหรือแม่ของลูกโดยเด็ดขาด ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ยังเชื่อว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง อีกคนเอมิกา วัตสัน พยาบาลสาวไทยที่เก่งและฉลาดเชื่อว่ารักแท้ไม่เคยมีจริง ถ้ามีก็คงแค่นิยายน้ำเน่าเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อได้พบกับเขาความคิดนั้นก็เริ่มไขว้เขว หนึ่งคนเชื่อว่ารักแท้มีจริงแต่อีกคนกลับเชื่อตรงข้าม ทั้งสองจะรักกันได้อย่างไหร่ แค่ความคิดก็ตรงข้ามกันเสียแล้วหากทว่ามีคำพูดๆหนึ่งที่กล่าว่า ทุกอย่างได้กำหนดมาแล้ว คงไม่มีวิธีไหนที่จะแก้ไขมันได้ นอกจากจะต้องพิสูจน์บททดสอบเรื่องความรักแล้วยังต้องรบราฝ่าฟันกับอุปสรรคเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้งสองจะผ่านมันไปได้ไหมแล้วเขาจะชนะใจเธอได้หรือเปล่า
Tags: รัก,ความแค้น,มีบู๊มาเกี่ยวข้อง
ตอน: เรื่องจริงหรือฝันไป.....
“Merry Christmas”
เสียงของทุกคนร้องขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว สมาชิกครอบครัววัตสันอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ปาร์ตี้เล็กๆเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของลูกๆหลานและรวมไปถึงเพื่อนบ้านชาวไทยที่ต่างก็มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย แม้ว่าเอมิกาได้มาอยู่ที่นี่เป็นเวลามากกว่าสิบปีถือได้ว่าเป็นพลเมืองคนหนึ่งของประเทศนี้ แต่ทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลสำคัญๆเธอก็ไม่เคยลืมวัฒนธรรมไทยที่นำขอขวัญพิเศษให้ กับคนพิเศษเสมอ
“ไงจ๊ะลูก หืม” จันทราวางมือจากการถักโคเชเมือมองเห็นหญิงสาวเดินมาอยู่ข้างๆที่นั่ง
“สุขสันต์วันคริสมาสต์และสวัสดีปีใหม่ค่ะแม่ ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรงและอยู่อย่างงี้ไปนานๆหนูรักแม่นะค่ะ” ไม่พูดเปล่าเธอโอบกอดผู้เป็นแม่อย่างแน่น
“ขอบใจมากจ๊ะลูก หนูรู้มั้ยว่าหนูเป็นเหมือนกำลังใจอย่างหนึ่งที่ทำให้แม่ต่อสู้กับปัญหา ต่างๆเราต้องผ่านอะไรมาตั้งมากมายกว่าเราจะมายืนอยู่ตรงนี้ แต่วันนี้แม่ภูมิใจในตัวลูกมาก”ผู้เป็นแม่กล่าวเสียงสั่น
ปิ๊ด…..ปิ๊ด
สองแม่ลูกหันมองตามเสียงนั้นและยิ้มออกมาเพราะไม่ใช่เสียงอะไรนอกเสียจากเสียงของกล้องถ่ายรูปนั้นเอง
“ยิ้มหน่อยซิครับ”เสียงของเจมส์ออกคำสั่ง “สองคนเนี่ย พอถึงวันนี้ทีไหรก็ต้องร้องไห้ทุกที”เขากล่าวก่อนที่จะนั่งข้างๆภรรยาของเขา ทั้ง สองไม่มาสามรถที่จะปฏิเสธคำกล่าวของเจมส์ก็เพราะมันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ทั้งสามพ่อ แม่ ลูก ต่างคุยกันสนุกสนานจนลืมเวลาว่าตอนนี้เป็นเช้าวันถัดไปเสียแล้ว
“เที่ยงคืนแล้วค่ะ พรุ่งนี้ยายเขนนี้ชวนหนูไปดูเครื่องบินของสหรัฐฯที่จะมีโชว์ในวัน
พรุ่งนี้ ขอตัวไปนอนก่อนนะค่ะ” เธอกล่าวก่อนที่จะหอมแก้มทั้งแม่และพ่อของเธอ
ด้วยความที่คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็นเอมี่จึงไม่ปฏิเสธที่จะไปหยิบถุงเท้าและเสื้อคลุมเพื่อบรรเทาความหนาวและก้าวขึ้นเตียงคู่ใจของเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะเคลิ้มหลับไปเธอก็อดคิดกับโชว์เครื่องบินในพรุ่งนี้ไม่ได้ นั้นอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ไปดูนานแล้วตั้งแต่ตอนอยู่เกรดแปดได้กระมัง เธอยิ้มก่อนที่จะปิดเปลือตาลงหลังจากนั้นเธอเข้าสู่ห้วงนิทราทุกอย่างเงียบสงัดมีเพียงแค่ลมข้างนอกที่กระทบกิ่งไม้เสียงของลมเล็ดลอดเข้า มาทางหน้าต่างของหญิงสาวดังฟูฟู ชวนให้หวิวพิลึกหากแต่ผู้เป็นเจ้าของห้องไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
“เอมี่ เอมี่” จู่ๆก็มีน้ำเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น เธอวิ่งตามหาเสียงนั้นและแล้วเธอก็เจอ
“พ่อค่ะ พ่อค่ะ” เธอเรียก ยิ่งเธอเรียกพ่อมากเท่าไหร่พ่อของเธอยิ่งไกลห่างออกไป จนทำให้เธอวิ่งตามไม่ทัน หากทว่าจู่ๆร่างนั้นก็หยุดลง เมื่อพ่อของเธอหันมาหญิงสาวแทบกลี้นหายใจเมื่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหาใช่พ่อของเธอไม่ คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันทันที เธอนับหนึ่งถึงสามในใจก่อนที่จะกลั้นใจถามชายคนนั้
น
“คุณเป็นใคร คุณเรียกชื่อฉันทำไม” เธอถามขึ้นแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยินเสียงด้วยซ้ำ โธ่..แล้วเขาจะได้ยินไหมเนี่ยเธอคิดก่อนที่จะมองไปบริเวณรอบๆตัวเธอ
“…”
ไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น หญิงสาวพยายามมองใบหน้าของผู้ชายที่ยืนต่อหน้าเธอแต่แล้วก็มีแสงบางอย่างสะท้อนเขาหาเธออย่างจังทำให้เธอแสบตา และเธอเองกลับเป็นฝ่ายหันหลังให้เขาแทน
“ว่าไงค่ะ คุณเป็นใคร”หญิงสาวยังถามคำถามเดิมหวังว่าจะมีคำตอบเพียงสักเล็กน้อยก็ยังดีกว่าเงียบอย่างนี้ และแล้วความหวังของเธอก็เป็นจริงเมื่อเธอได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาของชายคนนั้น
“อีกไม่นาน….อีกไม่นาน”
เมื่อได้ยินเสียงนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปแต่ชายคนนั้นกลับหายไปเสียแล้ว หญิงสาวพยายามมองหาแต่ก็ไม่เจอ หญิงสาวสะดุ้งตื่นเบิกตากว้างมองบนเพดานแล้วไตร่ตรองสักครู่ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนนี้ หากก็ต้องโล่งอกเมือมันคือห้องนอนของเธอ หญิงสาวนั่งชันเข่าและนึกคิดกับความฝันว่ามันช่างเหมือนเรื่องจริงเสียเหลือ
เกิน
“คุณเป็นใครกันแน่” เธอได้แต่พึมพำเบาๆก่อนที่จะกลั้นใจหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
และในคืนเดียวกันนั้นชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากฝันได้สักพัก ก่อนที่จะลุกขี้นไปยังห้องครัวหยิบน้ำเพื่อแก้กระหาย ชายหนุ่มเดิมไปยังโซฟาแล้วเอนตัวนอนลง เขานึกขันเมื่อนึกถึงความฝันชั่วครู่ที่ฝันถึงผู้หญิงที่ชื่อเอมี่ สงสัยเขาคงฟังทอมพูดเรื่องราวสาวคนนี้มากเกินไปจึงทำให้คิดและเก็บไปฝันก็เป็นได้ แต่ในความรู้สึกของเขามันเหมือนไม่ใช่ความฝันโดยสิ้นเชิงหากเป็นความฝันที่ค่อนข้างจะกึ่งจริงซะมากกว่าเพราะในฝันนั้นเขาวิ่งตามเธอเพื่อจะถามว่าเธอเป็นใครและเมื่อเธอหันมาตอบว่าชื่อนั้นแล้วเธอก็หายไปเสียดายที่เขายังได้จดจำใบหน้าของเธอไม่เช่นนั้นเขาคงรู้แล้วว่าผู้หญิงที่ชื่อเอมี่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ชายหนุ่มเหลือบตามองนอกบ้านที่ตอนนี้เริ่มจะมีแสงรำไรที่บ่งบอกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้วและก็เป็นจริงอย่างที่คาดการณ์เมื่อนาฬิกาตัวโปรดส่งเสียงร้องเพื่อบอกสัญญาณ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้นทันทีก่อนจะเอนตัวลงนอนโซฟาไป
“เฮ้อ เอมี่ เอมี่ สาวน้อยคุณคือใครกันนะ” ชายหนุ่มกล่าวและยิ้มที่มุมปากตามความเคยชินของเขา ก่อนที่จะหลับตาและเคลิ้มหลับไป
เสียงของทุกคนร้องขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว สมาชิกครอบครัววัตสันอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ปาร์ตี้เล็กๆเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของลูกๆหลานและรวมไปถึงเพื่อนบ้านชาวไทยที่ต่างก็มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย แม้ว่าเอมิกาได้มาอยู่ที่นี่เป็นเวลามากกว่าสิบปีถือได้ว่าเป็นพลเมืองคนหนึ่งของประเทศนี้ แต่ทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลสำคัญๆเธอก็ไม่เคยลืมวัฒนธรรมไทยที่นำขอขวัญพิเศษให้ กับคนพิเศษเสมอ
“ไงจ๊ะลูก หืม” จันทราวางมือจากการถักโคเชเมือมองเห็นหญิงสาวเดินมาอยู่ข้างๆที่นั่ง
“สุขสันต์วันคริสมาสต์และสวัสดีปีใหม่ค่ะแม่ ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรงและอยู่อย่างงี้ไปนานๆหนูรักแม่นะค่ะ” ไม่พูดเปล่าเธอโอบกอดผู้เป็นแม่อย่างแน่น
“ขอบใจมากจ๊ะลูก หนูรู้มั้ยว่าหนูเป็นเหมือนกำลังใจอย่างหนึ่งที่ทำให้แม่ต่อสู้กับปัญหา ต่างๆเราต้องผ่านอะไรมาตั้งมากมายกว่าเราจะมายืนอยู่ตรงนี้ แต่วันนี้แม่ภูมิใจในตัวลูกมาก”ผู้เป็นแม่กล่าวเสียงสั่น
ปิ๊ด…..ปิ๊ด
สองแม่ลูกหันมองตามเสียงนั้นและยิ้มออกมาเพราะไม่ใช่เสียงอะไรนอกเสียจากเสียงของกล้องถ่ายรูปนั้นเอง
“ยิ้มหน่อยซิครับ”เสียงของเจมส์ออกคำสั่ง “สองคนเนี่ย พอถึงวันนี้ทีไหรก็ต้องร้องไห้ทุกที”เขากล่าวก่อนที่จะนั่งข้างๆภรรยาของเขา ทั้ง สองไม่มาสามรถที่จะปฏิเสธคำกล่าวของเจมส์ก็เพราะมันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ทั้งสามพ่อ แม่ ลูก ต่างคุยกันสนุกสนานจนลืมเวลาว่าตอนนี้เป็นเช้าวันถัดไปเสียแล้ว
“เที่ยงคืนแล้วค่ะ พรุ่งนี้ยายเขนนี้ชวนหนูไปดูเครื่องบินของสหรัฐฯที่จะมีโชว์ในวัน
พรุ่งนี้ ขอตัวไปนอนก่อนนะค่ะ” เธอกล่าวก่อนที่จะหอมแก้มทั้งแม่และพ่อของเธอ
ด้วยความที่คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็นเอมี่จึงไม่ปฏิเสธที่จะไปหยิบถุงเท้าและเสื้อคลุมเพื่อบรรเทาความหนาวและก้าวขึ้นเตียงคู่ใจของเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะเคลิ้มหลับไปเธอก็อดคิดกับโชว์เครื่องบินในพรุ่งนี้ไม่ได้ นั้นอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ไปดูนานแล้วตั้งแต่ตอนอยู่เกรดแปดได้กระมัง เธอยิ้มก่อนที่จะปิดเปลือตาลงหลังจากนั้นเธอเข้าสู่ห้วงนิทราทุกอย่างเงียบสงัดมีเพียงแค่ลมข้างนอกที่กระทบกิ่งไม้เสียงของลมเล็ดลอดเข้า มาทางหน้าต่างของหญิงสาวดังฟูฟู ชวนให้หวิวพิลึกหากแต่ผู้เป็นเจ้าของห้องไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
“เอมี่ เอมี่” จู่ๆก็มีน้ำเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น เธอวิ่งตามหาเสียงนั้นและแล้วเธอก็เจอ
“พ่อค่ะ พ่อค่ะ” เธอเรียก ยิ่งเธอเรียกพ่อมากเท่าไหร่พ่อของเธอยิ่งไกลห่างออกไป จนทำให้เธอวิ่งตามไม่ทัน หากทว่าจู่ๆร่างนั้นก็หยุดลง เมื่อพ่อของเธอหันมาหญิงสาวแทบกลี้นหายใจเมื่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหาใช่พ่อของเธอไม่ คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันทันที เธอนับหนึ่งถึงสามในใจก่อนที่จะกลั้นใจถามชายคนนั้
น
“คุณเป็นใคร คุณเรียกชื่อฉันทำไม” เธอถามขึ้นแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยินเสียงด้วยซ้ำ โธ่..แล้วเขาจะได้ยินไหมเนี่ยเธอคิดก่อนที่จะมองไปบริเวณรอบๆตัวเธอ
“…”
ไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น หญิงสาวพยายามมองใบหน้าของผู้ชายที่ยืนต่อหน้าเธอแต่แล้วก็มีแสงบางอย่างสะท้อนเขาหาเธออย่างจังทำให้เธอแสบตา และเธอเองกลับเป็นฝ่ายหันหลังให้เขาแทน
“ว่าไงค่ะ คุณเป็นใคร”หญิงสาวยังถามคำถามเดิมหวังว่าจะมีคำตอบเพียงสักเล็กน้อยก็ยังดีกว่าเงียบอย่างนี้ และแล้วความหวังของเธอก็เป็นจริงเมื่อเธอได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาของชายคนนั้น
“อีกไม่นาน….อีกไม่นาน”
เมื่อได้ยินเสียงนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปแต่ชายคนนั้นกลับหายไปเสียแล้ว หญิงสาวพยายามมองหาแต่ก็ไม่เจอ หญิงสาวสะดุ้งตื่นเบิกตากว้างมองบนเพดานแล้วไตร่ตรองสักครู่ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนนี้ หากก็ต้องโล่งอกเมือมันคือห้องนอนของเธอ หญิงสาวนั่งชันเข่าและนึกคิดกับความฝันว่ามันช่างเหมือนเรื่องจริงเสียเหลือ
เกิน
“คุณเป็นใครกันแน่” เธอได้แต่พึมพำเบาๆก่อนที่จะกลั้นใจหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
และในคืนเดียวกันนั้นชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากฝันได้สักพัก ก่อนที่จะลุกขี้นไปยังห้องครัวหยิบน้ำเพื่อแก้กระหาย ชายหนุ่มเดิมไปยังโซฟาแล้วเอนตัวนอนลง เขานึกขันเมื่อนึกถึงความฝันชั่วครู่ที่ฝันถึงผู้หญิงที่ชื่อเอมี่ สงสัยเขาคงฟังทอมพูดเรื่องราวสาวคนนี้มากเกินไปจึงทำให้คิดและเก็บไปฝันก็เป็นได้ แต่ในความรู้สึกของเขามันเหมือนไม่ใช่ความฝันโดยสิ้นเชิงหากเป็นความฝันที่ค่อนข้างจะกึ่งจริงซะมากกว่าเพราะในฝันนั้นเขาวิ่งตามเธอเพื่อจะถามว่าเธอเป็นใครและเมื่อเธอหันมาตอบว่าชื่อนั้นแล้วเธอก็หายไปเสียดายที่เขายังได้จดจำใบหน้าของเธอไม่เช่นนั้นเขาคงรู้แล้วว่าผู้หญิงที่ชื่อเอมี่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ชายหนุ่มเหลือบตามองนอกบ้านที่ตอนนี้เริ่มจะมีแสงรำไรที่บ่งบอกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้วและก็เป็นจริงอย่างที่คาดการณ์เมื่อนาฬิกาตัวโปรดส่งเสียงร้องเพื่อบอกสัญญาณ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้นทันทีก่อนจะเอนตัวลงนอนโซฟาไป
“เฮ้อ เอมี่ เอมี่ สาวน้อยคุณคือใครกันนะ” ชายหนุ่มกล่าวและยิ้มที่มุมปากตามความเคยชินของเขา ก่อนที่จะหลับตาและเคลิ้มหลับไป

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.พ. 2556, 12:33:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.พ. 2556, 12:33:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 997
<< เรื่องราวในอดีตของ เอมิกา วัตสัน | แรกพบสบตา(รีไรท์) >> |