บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา
Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง
ตอน: บทที่ 12 ความจริงเริ่มคุกคาม 40%
บุหงาราคี
เปรมินทร์เคลื่อนกายเข้าใกล้แม่มดน้อย เขาอาศัยช่วงที่หล่อนกำลังสับสน ดันร่างหล่อนเข้าข้างในและไม่ลืมปิดประตูแน่นหนา วันนี้เขาจะสั่งสอนแม่ตัวดีให้รู้เสียบ้างว่า ร่างกายหล่อน มันเป็นของเขาเท่านั้น!
บทที่ 12
ความจริงเริ่มคุกคาม
“เอมี่เปล่า เอมี่เปล่าจริงๆ นะคุณเปรม เอมี่ไม่รู้เรื่อง” เธอพยายามอธิบาย
“ตอแหลได้ใจ! ถ้าเธอไม่ออดอ้อนออเซาะมีหรือท่านพ่อจะยอมถึงขนาดนี้ เธอทำได้ยังไงเอมี่ นั่นพ่อฉันนะ เธอมีความสุขหรือไงที่พลีกายให้ทั้งลูกทั้งพ่อ ฉันถามเธอจริงๆ เธอยังมีจิตสำนึกด้านดีบ้างไหมหรือว่ามันละลายไปพร้อมกับยางอายบนหน้าของเธอแล้วฮะ!”
“กรี๊ดดด!!! ออกไปนะ ไป! เอมี่เกลียดคุณ เอมี่เกลียดคุณ!”
อรัญญิการ์กรีดร้องร่ำไห้ เธอเสียใจที่โดนประณามหยามเหยียด ที่ยิ่งกว่านั้นคือคำประณามหยามเหยียดมันไม่ใช่ความจริงสักนิด มากล่าวหากันหน้าด้านๆ ทุเรศสิ้นดี!
เปรมินทร์ไม่ฟัง เขาลากร่างอรชรเข้าห้องนอน เขาเกลียดหล่อนเหลือเกินที่ทำให้เขาเป็นบ้าอย่างนี้ เขาเกลียดแววตาหล่อนยามที่จ้องมองเขาอย่างเกลียดชัง เกลียดริมฝีปากเยาะหยันเวลาที่หล่อนเอ่ยวาจากระทบกระแทกแดกดันให้เจ็บปวด
“ปล่อยนะ! คุณเปรมได้โปรดอย่าทำเอมี่เลย เอมี่เจ็บ! คุณเปรม!...กรี๊ดดด!!!”
ปัง!!!
ประตูห้องนอนของแม่มดน้อยปิดลงอีกครั้ง เหมือนหนังเก่าเอามาฉายซ้ำ ครั้งแล้วครั้งเล่า
แม่มดคนงามขัดขืนเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าหล่อนปรารถนาให้เขาแนบชิด แต่หล่อนไม่ปรารถนาให้เขากระทำรุนแรงเหมือนครั้งสุดท้ายที่บ้านพักตากอากาศ นั่นเพราะหล่อนระลึกอยู่เสมอว่าตนเองมีคนให้ปกป้อง ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึง สองคน!
น้ำตาแห่งความเสียใจยังรินไหลไม่สร่างซา อรัญญิการ์รับรู้แล้วว่าโทสะโมหะและความขึงโกรธของเปรมินทร์ สามารถทำลายเธอให้ย่อยยับได้ชั่วพริบตา ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเยื้อน ดีที่สติเตือนไว้ได้ทัน ว่าอย่าขัดขืน ไม่เช่นนั้นเธอคงเจ็บปวดทรมานมากกว่านี้ ร้อยเท่า พันเท่า
“ตั้งแต่วันนี้ไป เชิญ! อรัญญิการ์ เธอจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกับผู้ชายคนไหนก็เชิญ ฉันจะไม่ข้องเกี่ยวกับเธออีกเลย สาบาน!”
เปรมินทร์บอกอรัญญิการ์เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจากไป ทิ้งไว้เพียงความทุกข์ระทมข่มขื่นและคราบน้ำตาบนใบหน้าของอรัญญิการ์
อรัญญิการ์เฝ้าบอกหัวใจตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง และต้องหยัดยืนต่อสู้ให้ถึงที่สุด! เมื่อบอกให้เขาถอย เขากลับรุก เพราะฉะนั้น เมื่อเขาถอย เธอจะรุกเขาบ้าง เตรียมตัวเอาไว้เลยเปรมินทร์!
แม่มดคนงามลุกมาอาบน้ำแต่งตัว ความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจถูกเก็บซ่อนไว้ใต้เดรสสั้นเลยเข่าสีเทาหม่น หม่นหมอง หมองหม่นเหมือนหัวใจคนสวมไม่มีผิด
อรัญญิการ์เดินออกจากห้องนอนที่ยังคละคลุ้งกลิ่นอายราคะ มานั่งที่ห้องนั่งเล่น เปิดโทรทัศน์หาช่องซีรี่ส์ที่กำลังได้รับความนิยม เพื่อเบี่ยงเบนความคิดอันสับสนและวุ่นวายของตัวเอง และเพื่อรอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก
ปาฏลีผลักประตูเข้ามาด้วยความร้อนใจ เธอเห็นกุหลาบขาวช่อใหญ่ถูกใครบางคนใช้ฝ่าเท้าบดขยี้จนบี้แบน เธอเดาว่าป่านนี้แม่มดคนงามคงกำลังนอนซมจมบ่อน้ำตาเป็นแน่แท้ และคนที่ทำให้หล่อนเป็นเช่นนั้นคงไม่พ้นพี่ชายสารเลวของเธอเอง
“โอ้....เอ็ม! ฉันคิดว่าแกคงนอนจมบ่อน้ำตาอยู่ในรังของแก แต่ที่ฉันเห็นอยู่มันไม่ได้เฉียดใกล้เลย แก...แต่งสวย เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะ นั่งดูซีรี่ส์เกาหลี หรือว่าฉันเข้าใจผิด เขาไม่ได้มาใช่ไหม? ไม่มีใครทำอะไรแกใช่หรือเปล่า หรือว่าฉันคิดมากไป หรือ....”
“ฉันจะไปรอแกที่รถ คืนนี้ฉันอยากเที่ยว อยากเมา และ...อยากเป็นข่าว เรียกนักข่าวให้ฉันด้วย”
อรัญญิการ์บอกเสียงขรึม ปาฏลีทำหน้าประหลาดใจ เพื่อนรักชักจะเพี้ยน อยากเป็นข่าวเนี่ยนะ
แสงสีในค่ำคืนอันแสนหดหู่ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังเจ็บปวด แม้แต่เพื่อนรักที่นั่งโยกโคลงศีรษะเบาๆ อยู่ตรงหน้า
“คราวหน้า! ถ้าแกจะมาที่นี่บอกฉันด้วย! ฉันจะได้ปลอมตัวเพราะว่าอย่างนี้ ฉันดิ้นไม่ได้! มันเสียภาพพจน์นางฟ้าเข้าใจไหม!?” ปาฏลีร้องบอกเพื่อนสาว ด้วยว่าไม่ได้สวมวิก ไม่มีแม้แต่แว่นตา ทำให้เธอไม่สามารถวาดลวดลายบนฟลอร์ได้อย่างที่ใจคิด
“งั้นฉันจะเต้นเผื่อแล้วกันเพื่อน!” อรัญญิการ์ร้องบอกแข่งกับเสียงดนตรีอึกทึกและแสงไฟดิสโก้หลากสีหลายสิบดวง เธอทำตามที่รับปากเพื่อนสาวไว้ไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่ายสะโพกโยกย้ายลีลาด้วยท่วงท่าสุดยั่วยวนเท่าที่จะทำได้ ด้วยว่าสถานบันเทิงในย่านนี้เหล่าดาราดาวเด่นชอบมากัน และแน่นอน ในเมื่อดาราเยอะ นักข่าวก็ต้องเยอะเช่นกัน เธอขอให้มีหนังสือพิมพ์สักฉบับได้รูปของเธอ และให้มีสักฉบับส่งถึงมือเปรมินทร์ ให้เขาได้รับรู้ว่า อรัญญิการ์ดอกนี้ไม่ได้เจ็บปวดชอกช้ำกับการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะตรงข้ามกับความเป็นจริงก็ตาม
“ว้าย!!! นี่หล่อน! ไม่มีตาหรือไงยะ เมื่อกี้หล่อนชนฉันนะ ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นกลางฟลอร์ แน่นอนว่าแหลมเล็กแต่หลายสิบเดซิเบล เพราะเสียงเจ้าหล่อนดังกลบเสียงเพลงเสียอีก
ปาฏลีรีบลุกไปดู เธอคิดว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับเพื่อนรัก แต่มันคงไม่ทันแล้วล่ะ!
“อ้าว! ใครเอาถังส้วมมาวางไว้กลางฟลอร์เนี่ย มันเหม็นไม่รู้รึไง!”
อรัญญิการ์ขอโทษสาวเจ้าในแบบฉบับของหล่อน
“กรี๊ดดด!!! ยัยแม่มด! แกว่าใครฮะ แกนั่นแหละส้วมสาธารณะอย่าอยู่เลย!”
ซ่า!!!
เสียงเพลงสะดุด แสงไฟสีรุ้งหยุดหมุนกะทันหัน ไฟนีออนแสงขาวถูกเปิดขึ้นทันทีที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท
“ยัยเอ็ม!” นางฟ้าคนงามร้องเรียกเพื่อนรัก แม่มดน้อยเอมี่ เปียกโชกเพราะคู่กรณีเอาน้ำแข็งในถังราดบนศีรษะจนเกลี้ยง หลักฐานยังอยู่ในมือเจ้าหล่อน ยัยสวมเต็มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสะใจในขณะที่เพื่อนเธอต้องคอยสลัดเอาน้ำแข็งก้อนเล็กก้อนน้อยออกจากเส้นผม ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่านักท่องราตรีที่ส่วนใหญ่ก็รู้จักพวกเธอทั้งนั้น
“แก! ยัยส้วม! แกกล้าทำเพื่อนฉันใช่ไหม อย่าอยู่เลย!”
ปาฏลีจะเข้าเช็คบิลโจทก์เก่า แต่เพื่อนสาวก็ห้ามไว้อีกจนได้
“ไม่ต้อง! นางฟ้าอย่างแกอยู่บนสวรรค์เถอะ อย่าลงมาเกลือกกลั้วกับของเน่าเหม็นอย่างยัยนี่เลย”
“แต่ว่ามัน...มันทำแกนะ เอ็ม!”
“ก็ใครว่าฉันจะไม่เอาคืนล่ะ จ่ายค่าปรับให้ฉันด้วยก็แล้วกัน!”
“ว่าไง! จะเอาคืนไหม ฉันรออ...!”
พลั่ก!!!
“กรี๊ดดด!!!”
เสียงร้องของดาราสาว ดังก้องผับ เจ้าหล่อนมัวแต่พร่ำเพ้อ เลยถูกอรัญญิการ์ฉวยโอกาสเสยหมัดเข้าใต้คางอย่างแรง แม่มดสาวยังไม่หนำใจ หล่อนลาก ยัยส้วม มาสูบต่ออีกหลายหมัดบนพื้นปูน แน่นอนว่าไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะสมัยนี้ เรื่องใครเรื่องมัน อย่ายื่นขามาแส่เท่านั้นเป็นพอ!
“เยี่ยม! ยัยเอ็ม! เอาให้หนักโว้ย ให้มันคุ้มค่าปรับด้วย ฮ่าๆๆๆ”
นางฟ้าคนงามกระโดดเหยงๆ เชียร์อยู่ข้างๆ ยัยส้วมและเพื่อนสาวเปลี่ยนกันแลกหมัดแลกศอกอีกหลายดอกหลายยก กระทั่งการ์ดของทางผับมาจับแยกนั่นล่ะ ทุกคนที่เกี่ยวข้องถึงได้ไปสงบปากสงบคำ สงบหมัดกันบนโรงพัก
เปรมินทร์เคลื่อนกายเข้าใกล้แม่มดน้อย เขาอาศัยช่วงที่หล่อนกำลังสับสน ดันร่างหล่อนเข้าข้างในและไม่ลืมปิดประตูแน่นหนา วันนี้เขาจะสั่งสอนแม่ตัวดีให้รู้เสียบ้างว่า ร่างกายหล่อน มันเป็นของเขาเท่านั้น!
บทที่ 12
ความจริงเริ่มคุกคาม
“เอมี่เปล่า เอมี่เปล่าจริงๆ นะคุณเปรม เอมี่ไม่รู้เรื่อง” เธอพยายามอธิบาย
“ตอแหลได้ใจ! ถ้าเธอไม่ออดอ้อนออเซาะมีหรือท่านพ่อจะยอมถึงขนาดนี้ เธอทำได้ยังไงเอมี่ นั่นพ่อฉันนะ เธอมีความสุขหรือไงที่พลีกายให้ทั้งลูกทั้งพ่อ ฉันถามเธอจริงๆ เธอยังมีจิตสำนึกด้านดีบ้างไหมหรือว่ามันละลายไปพร้อมกับยางอายบนหน้าของเธอแล้วฮะ!”
“กรี๊ดดด!!! ออกไปนะ ไป! เอมี่เกลียดคุณ เอมี่เกลียดคุณ!”
อรัญญิการ์กรีดร้องร่ำไห้ เธอเสียใจที่โดนประณามหยามเหยียด ที่ยิ่งกว่านั้นคือคำประณามหยามเหยียดมันไม่ใช่ความจริงสักนิด มากล่าวหากันหน้าด้านๆ ทุเรศสิ้นดี!
เปรมินทร์ไม่ฟัง เขาลากร่างอรชรเข้าห้องนอน เขาเกลียดหล่อนเหลือเกินที่ทำให้เขาเป็นบ้าอย่างนี้ เขาเกลียดแววตาหล่อนยามที่จ้องมองเขาอย่างเกลียดชัง เกลียดริมฝีปากเยาะหยันเวลาที่หล่อนเอ่ยวาจากระทบกระแทกแดกดันให้เจ็บปวด
“ปล่อยนะ! คุณเปรมได้โปรดอย่าทำเอมี่เลย เอมี่เจ็บ! คุณเปรม!...กรี๊ดดด!!!”
ปัง!!!
ประตูห้องนอนของแม่มดน้อยปิดลงอีกครั้ง เหมือนหนังเก่าเอามาฉายซ้ำ ครั้งแล้วครั้งเล่า
แม่มดคนงามขัดขืนเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าหล่อนปรารถนาให้เขาแนบชิด แต่หล่อนไม่ปรารถนาให้เขากระทำรุนแรงเหมือนครั้งสุดท้ายที่บ้านพักตากอากาศ นั่นเพราะหล่อนระลึกอยู่เสมอว่าตนเองมีคนให้ปกป้อง ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึง สองคน!
น้ำตาแห่งความเสียใจยังรินไหลไม่สร่างซา อรัญญิการ์รับรู้แล้วว่าโทสะโมหะและความขึงโกรธของเปรมินทร์ สามารถทำลายเธอให้ย่อยยับได้ชั่วพริบตา ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเยื้อน ดีที่สติเตือนไว้ได้ทัน ว่าอย่าขัดขืน ไม่เช่นนั้นเธอคงเจ็บปวดทรมานมากกว่านี้ ร้อยเท่า พันเท่า
“ตั้งแต่วันนี้ไป เชิญ! อรัญญิการ์ เธอจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกับผู้ชายคนไหนก็เชิญ ฉันจะไม่ข้องเกี่ยวกับเธออีกเลย สาบาน!”
เปรมินทร์บอกอรัญญิการ์เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจากไป ทิ้งไว้เพียงความทุกข์ระทมข่มขื่นและคราบน้ำตาบนใบหน้าของอรัญญิการ์
อรัญญิการ์เฝ้าบอกหัวใจตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง และต้องหยัดยืนต่อสู้ให้ถึงที่สุด! เมื่อบอกให้เขาถอย เขากลับรุก เพราะฉะนั้น เมื่อเขาถอย เธอจะรุกเขาบ้าง เตรียมตัวเอาไว้เลยเปรมินทร์!
แม่มดคนงามลุกมาอาบน้ำแต่งตัว ความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจถูกเก็บซ่อนไว้ใต้เดรสสั้นเลยเข่าสีเทาหม่น หม่นหมอง หมองหม่นเหมือนหัวใจคนสวมไม่มีผิด
อรัญญิการ์เดินออกจากห้องนอนที่ยังคละคลุ้งกลิ่นอายราคะ มานั่งที่ห้องนั่งเล่น เปิดโทรทัศน์หาช่องซีรี่ส์ที่กำลังได้รับความนิยม เพื่อเบี่ยงเบนความคิดอันสับสนและวุ่นวายของตัวเอง และเพื่อรอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก
ปาฏลีผลักประตูเข้ามาด้วยความร้อนใจ เธอเห็นกุหลาบขาวช่อใหญ่ถูกใครบางคนใช้ฝ่าเท้าบดขยี้จนบี้แบน เธอเดาว่าป่านนี้แม่มดคนงามคงกำลังนอนซมจมบ่อน้ำตาเป็นแน่แท้ และคนที่ทำให้หล่อนเป็นเช่นนั้นคงไม่พ้นพี่ชายสารเลวของเธอเอง
“โอ้....เอ็ม! ฉันคิดว่าแกคงนอนจมบ่อน้ำตาอยู่ในรังของแก แต่ที่ฉันเห็นอยู่มันไม่ได้เฉียดใกล้เลย แก...แต่งสวย เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะ นั่งดูซีรี่ส์เกาหลี หรือว่าฉันเข้าใจผิด เขาไม่ได้มาใช่ไหม? ไม่มีใครทำอะไรแกใช่หรือเปล่า หรือว่าฉันคิดมากไป หรือ....”
“ฉันจะไปรอแกที่รถ คืนนี้ฉันอยากเที่ยว อยากเมา และ...อยากเป็นข่าว เรียกนักข่าวให้ฉันด้วย”
อรัญญิการ์บอกเสียงขรึม ปาฏลีทำหน้าประหลาดใจ เพื่อนรักชักจะเพี้ยน อยากเป็นข่าวเนี่ยนะ
แสงสีในค่ำคืนอันแสนหดหู่ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังเจ็บปวด แม้แต่เพื่อนรักที่นั่งโยกโคลงศีรษะเบาๆ อยู่ตรงหน้า
“คราวหน้า! ถ้าแกจะมาที่นี่บอกฉันด้วย! ฉันจะได้ปลอมตัวเพราะว่าอย่างนี้ ฉันดิ้นไม่ได้! มันเสียภาพพจน์นางฟ้าเข้าใจไหม!?” ปาฏลีร้องบอกเพื่อนสาว ด้วยว่าไม่ได้สวมวิก ไม่มีแม้แต่แว่นตา ทำให้เธอไม่สามารถวาดลวดลายบนฟลอร์ได้อย่างที่ใจคิด
“งั้นฉันจะเต้นเผื่อแล้วกันเพื่อน!” อรัญญิการ์ร้องบอกแข่งกับเสียงดนตรีอึกทึกและแสงไฟดิสโก้หลากสีหลายสิบดวง เธอทำตามที่รับปากเพื่อนสาวไว้ไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่ายสะโพกโยกย้ายลีลาด้วยท่วงท่าสุดยั่วยวนเท่าที่จะทำได้ ด้วยว่าสถานบันเทิงในย่านนี้เหล่าดาราดาวเด่นชอบมากัน และแน่นอน ในเมื่อดาราเยอะ นักข่าวก็ต้องเยอะเช่นกัน เธอขอให้มีหนังสือพิมพ์สักฉบับได้รูปของเธอ และให้มีสักฉบับส่งถึงมือเปรมินทร์ ให้เขาได้รับรู้ว่า อรัญญิการ์ดอกนี้ไม่ได้เจ็บปวดชอกช้ำกับการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะตรงข้ามกับความเป็นจริงก็ตาม
“ว้าย!!! นี่หล่อน! ไม่มีตาหรือไงยะ เมื่อกี้หล่อนชนฉันนะ ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นกลางฟลอร์ แน่นอนว่าแหลมเล็กแต่หลายสิบเดซิเบล เพราะเสียงเจ้าหล่อนดังกลบเสียงเพลงเสียอีก
ปาฏลีรีบลุกไปดู เธอคิดว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับเพื่อนรัก แต่มันคงไม่ทันแล้วล่ะ!
“อ้าว! ใครเอาถังส้วมมาวางไว้กลางฟลอร์เนี่ย มันเหม็นไม่รู้รึไง!”
อรัญญิการ์ขอโทษสาวเจ้าในแบบฉบับของหล่อน
“กรี๊ดดด!!! ยัยแม่มด! แกว่าใครฮะ แกนั่นแหละส้วมสาธารณะอย่าอยู่เลย!”
ซ่า!!!
เสียงเพลงสะดุด แสงไฟสีรุ้งหยุดหมุนกะทันหัน ไฟนีออนแสงขาวถูกเปิดขึ้นทันทีที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท
“ยัยเอ็ม!” นางฟ้าคนงามร้องเรียกเพื่อนรัก แม่มดน้อยเอมี่ เปียกโชกเพราะคู่กรณีเอาน้ำแข็งในถังราดบนศีรษะจนเกลี้ยง หลักฐานยังอยู่ในมือเจ้าหล่อน ยัยสวมเต็มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสะใจในขณะที่เพื่อนเธอต้องคอยสลัดเอาน้ำแข็งก้อนเล็กก้อนน้อยออกจากเส้นผม ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่านักท่องราตรีที่ส่วนใหญ่ก็รู้จักพวกเธอทั้งนั้น
“แก! ยัยส้วม! แกกล้าทำเพื่อนฉันใช่ไหม อย่าอยู่เลย!”
ปาฏลีจะเข้าเช็คบิลโจทก์เก่า แต่เพื่อนสาวก็ห้ามไว้อีกจนได้
“ไม่ต้อง! นางฟ้าอย่างแกอยู่บนสวรรค์เถอะ อย่าลงมาเกลือกกลั้วกับของเน่าเหม็นอย่างยัยนี่เลย”
“แต่ว่ามัน...มันทำแกนะ เอ็ม!”
“ก็ใครว่าฉันจะไม่เอาคืนล่ะ จ่ายค่าปรับให้ฉันด้วยก็แล้วกัน!”
“ว่าไง! จะเอาคืนไหม ฉันรออ...!”
พลั่ก!!!
“กรี๊ดดด!!!”
เสียงร้องของดาราสาว ดังก้องผับ เจ้าหล่อนมัวแต่พร่ำเพ้อ เลยถูกอรัญญิการ์ฉวยโอกาสเสยหมัดเข้าใต้คางอย่างแรง แม่มดสาวยังไม่หนำใจ หล่อนลาก ยัยส้วม มาสูบต่ออีกหลายหมัดบนพื้นปูน แน่นอนว่าไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะสมัยนี้ เรื่องใครเรื่องมัน อย่ายื่นขามาแส่เท่านั้นเป็นพอ!
“เยี่ยม! ยัยเอ็ม! เอาให้หนักโว้ย ให้มันคุ้มค่าปรับด้วย ฮ่าๆๆๆ”
นางฟ้าคนงามกระโดดเหยงๆ เชียร์อยู่ข้างๆ ยัยส้วมและเพื่อนสาวเปลี่ยนกันแลกหมัดแลกศอกอีกหลายดอกหลายยก กระทั่งการ์ดของทางผับมาจับแยกนั่นล่ะ ทุกคนที่เกี่ยวข้องถึงได้ไปสงบปากสงบคำ สงบหมัดกันบนโรงพัก
Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.พ. 2556, 02:27:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.พ. 2556, 02:27:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 4667
<< บทที่ 11 ถ่านไฟเก่า 110% | บทที่ 12 ความจริงเริ่มคุกคาม 60% ^^ อ่านแล้วก็นะ เฮ้อ! คุณฟาย เอ๊ย คุณชาย ฟายได้ใจ! >> |
kaelek 24 ก.พ. 2556, 21:15:50 น.
เอมี่แรงอ่ะ ได้ใจเลย
เอมี่แรงอ่ะ ได้ใจเลย