เล่ห์รักลิขิตหัวใจ
รออัพนะคะ
Tags: ซาตาน

ตอน: ตอนที่ 2


คราวที่แล้วลงถึงตอนนี้ค่ะ คราวหน้าจะลงตอนใหม่แล้ว
ฝาแฝดคนพี่ นายซี อธิเดช
ฝาแฝดคนน้อง นายซัน อธิคมค่ะ

เพราะสลับกันไปมาบางทีคนเขียนยังเขียนผิดเลยค่ะ อิอิ


ตอนที่ 2

เมลียา ก้าวลงจากรถบรรทุกหกล้ออย่างทะมัดทะแมงเธอให้คนขับรถจอดรถไว้ที่หลังโรงแรม และเข้าไปติดต่อกับพนักงานของโรงแรม

“สวัสดีค่ะ” เมลียายิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร เมื่อนึกถึงเงินก้อนโตอีกครึ่งที่จะได้รับเมื่อส่งของเสร็จเรียบร้อย

“สวัสดีค่ะ คุณมาส่งต้นไม้ใช่ไหมคะ” พนักงานสาวใหญ่ยิ้มให้ด้วยท่าทีเป็นมิตรเช่นเดียวกัน

“ใช่ค่ะ จากร้านเมลียาเอาต้นไม้มาส่งตามจำนวนที่สั่งครบถ้วนค่ะ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้คนไปตรวจนับสินค้า”

“แล้วดิฉัน ต้องไปวางบิลที่ไหนคะ”

“คุณเดินตรงไปและเลี้ยวซ้ายข้างหน้านะคะ พอดีคุณซีต้องการพบคุณก่อนค่ะเห็นว่ามีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“คุณซี ใครกันหรือคะ” เมลียาสงสัย แต่คิดในใจว่าเขาอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องในการมาส่งของครั้งนี้ก็ได้

“ได้ค่ะ” เมลียา ก้าวกระฉับกระเฉง เดินไปตามทางที่พนักงานของโรงแรมบอก แม้จะเป็นเพียงด้านหลังของโรงแรมแต่ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างทั้งวัสดุและการดีไซน์ เมลียาก็รู้ทันทีว่านี่เป็นโรงแรมระดับห้าดาว

“คงจะเป็นห้องนี้ล่ะมั้ง”

สาวน้อยร่างระหงผู้มีสัดส่วนยั่วใจ แม้จะแต่งกายอย่างรัดกุมทะมัดทะแมง เธอเคาะประตูเป็นการขออนุญาตก่อนจะผลักประตูเข้าไป

“ขอโทษค่ะ ดิฉันมาพบคุณซี” เมลียาแจ้งความจำนงกับบุรุษตรงหน้าซึ่งนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านอะไรอยู่สักอย่าง

“โอ้...ดาร์ลิง น่ารักน่าเอ็นดูกว่าที่คิดเสียอีก หมุนตัวสิครับ”

“อะไรกัน นี่นาย..ที่ซื้อของตัดหน้าฉันนี่”

ซันหรือ อธิคม น้องชายฝาแฝดของผู้บริหารโรงแรมถึงกับขมวดคิ้ว

“เราเคยเจอกันด้วยหรือครับ” ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง และเดินเข้ามาหาเมลียาใกล้ ๆ

“ผมไม่เคยเห็นสาวพริตตี้ที่ไหน แต่งกายรัดกุมเท่าคุณมาก่อนเลย” ซันหรือ อธิคมฉวยโอกาสเอื้อมมือมาจับเอวบางของเมลียา ตามนิสัยที่เคยทำมาก่อน

เพี้ยะ !

เลว ! “คุณเห็นฉันเป็นอะไรคะ ฉันมาส่งต้นไม้ไม่ได้มาขายตัว”

ซันลูบคางสากๆ และจ้องหน้าหญิงสาวแน่นิ่ง

“คนส่งต้นไม้ ไม่ใช่พริตตี้อย่างนั้นเหรอ” สีหน้าของเขาแสดงความสงสัยออกมาชัดเจน

ประตูห้องถูกเคาะจากด้านนอก จากนั้นถูกเปิดจากชายหนุ่มรูปร่างคมสันและที่สำคัญทำให้ตากลมโตของเมลียาต้องเบิกกว้างพร้อมกับอาการหันมองที่ใบหน้าของชายหนุ่มสองคนสลับกันไปมา

ฝาแฝด !

“ใช่เราเป็นฝาแฝดกัน” ผู้มาใหม่กล่าว

“หมายความว่ายังไงครับพี่ซี” ซันถามพี่ชาย

อธิเดชยิ้มนิดหน่อยที่มุมปาก “คุณเมลียาคงจะเดินเข้าห้องผิด เธอเป็นแขกของพี่เอง รออยู่นานไม่เห็นเธอเข้าไปพบทั้งที่คุณสายใจโทรไปบอกก่อนหน้านั้นแล้ว เลยคิดว่าคงจะเดินเข้าห้องผิดก็เลยมาหาที่ห้องนาย”

อันที่จริงพนักงานโรงแรมที่บอกทางกับเมลียาลืมบอกเธอว่ามีสองห้องติดกัน เมลียาต้องไปติดต่อที่ห้องที่สองซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องนี้

“แบบนี้นี่เอง” ซันหรืออธิคมสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะหันมามองเมลียาด้วยสายตาลุแก่โทษ

“ผมต้องขอโทษคุณด้วยครับที่เข้าใจผิด”

“แต่ดิฉันไม่ยกโทษให้ค่ะ ถึงคุณจะเข้าใจผิดว่าดิฉันเป็นพริตตี้คุณก็ไม่ควรฉวยโอกาสแบบนี้กับผู้หญิง”

อธิเดชยิ้มบางๆ นึกสะใจที่น้องชายฝาแฝดจอมเจ้าชู้ถูกสาวน้อยอย่างเมลียาเล่นงานเอา

“คือมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับผมไม่ได้ฉวยโอกาส” อธิคมพยายามแก้ตัวแต่ทว่าสาวน้อยคนสวยกับเดินผละหนีออกไปจากห้องเสียดื้อๆ ปล่อยให้เขามองตามด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ

“เอาอีกแล้วนะนายซัน พี่เคยเตือนนายแล้วไอ้เรื่องมือไวใจเร็วลดละเลิกเสียบ้าง”

“ว่าแต่เธอเป็นใครกันพี่ซี”ซันชะเง้อตามหลังเมลียาไป

“ไม่มีเวลาอธิบาย เดี๋ยวเธอจะหนีกลับไปเสียก่อน”

“คุณเมลียา เดี๋ยวครับรอผมก่อน” ซีรีบวิ่งตามเมลียา

“คุณเมลียา”เขาคว้าข้อมือเธอเอาไว้ได้

“ปล่อยนะ นี่คุณกับน้องชายคงเป็นพวกชอบฉวยโอกาศหาเศษหาเลยกับผู้หญิงเหมือนกันล่ะสิท่า”
“โอเค ผมปล่อยมือคุณก็ได้”

“คุณจะไม่รับเงินส่วนที่เหลืออีกครึ่งหรือครับ”

เมลียาฉุกคิดขึ้นได้ “รับสิคะ ฉันเอาของมาส่งครบตามจำนวนคนของคุณตรวจนับอยู่ถ้าอย่างนั้นก็รีบจ่ายส่วนที่เหลือมาฉันจะได้รีบกลับ”

“งก สมเป็นแม่ค้าหน้าเลือดจริงๆ เลยคุณนี่”

“อย่ามาว่าฉันนะ ”เมลียาถลึงตาใส่

“โอเค ผมไม่อยากเถียงกับคุณ ว่าแต่คุณต้องการเช็คหรือเงินสด”

“เงินสดค่ะ กลัวเช็คเด้ง”

ซีขมวดคิ้ว “โรงแรมเราไม่เคยมีประวัติเรื่องเช็คเด้งครับไว้ใจได้ แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเงินสดก็ได้ครับเชิญ” เขาเดินนำเธอมายังห้องทำงานส่วนตัวซึ่งติดอยู่กับห้องของน้องชายซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของโรงแรม

เมื่อเข้ามาภายในห้อง เมลียามองกรอบรูปหลุยส์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ทำงานของเขารูปของเขาและน้องชายฝาแฝดดูสนิทกันมาก หน้าตาแทบจะแยกกันไม่ออกเลยถ้าเจอพวกเขาสองคนข้างนอกเมลียาไม่แน่ใจว่าเธอจะจำได้ไหมว่าใครเป็นใคร

“นี่ครับเงินอีกครึ่งหนึ่งของคุณ ห้าหมื่นสี่พันบาท” เมลียารับเงินมาและนับต่อหน้าเขา

“ครบแน่นอนครับผมรับรอง” ซียิ้ม ยิ่งมองใกล้ผู้หญิงคนนี้ยิ่งสวย

“จะเชื่อได้อย่างไรล่ะคะ ยังไงฉันก็ต้องนับดูก่อน”

“งก” ซีพูดสั้นๆ

เมลียาเงยหน้าขึ้นจากธนบัตรที่กำลังนับอยู่ “ฉันไม่ได้งกมันเป็นสิทธิของฉัน เกิดฉันไม่นับและคุณให้ไม่ครบใครจะรับผิดชอบ”

สักพักหนึ่งเมื่อเมลียานับเงินจนครบแล้วเธอเก็บมันใส่กระเป๋าถือก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ “หวังว่าเราคงไม่ได้พบกันอีกนะคะ ฉันขอตัวค่ะ” เมลียาเตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง

“ผมว่าเราคงได้พบกันอีกแน่นอน ถ้าคุณยังอยากได้ออร์เดอร์จากเราอีก”

“คุณเองหรือที่สั่งต้นไม้จากร้านฉัน” เมลียาสงสัยจึงถามเขาไปตรงๆ และอยากรู้เหมือนกันว่านายคนนี้ทำหน้าที่อะไรในโรงแรมหรูแห่งนี้

“เจ้าของโรงแรมนี้เขาชอบต้นไม้จากสวนของคุณ เขาบอกผม ผมเป็นพนักงานก็ต้องรีบเอาใจเจ้านายเป็นธรรมดา”

“แสดงว่าเจ้านายของคุณตาถึง” เมลียายิ้ม “ต้นไม้จากสวนเมลียา ดูแลอย่างดีทุกต้นค่ะ”

“จริงหรือ ผมว่าคุณสั่งต้นไม้ที่สวนอื่นมาส่งผมด้วยนะ”ซีพูดอย่างรู้ทัน สวนของเธอไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นเขารู้ดีราคาก็อาจจะแพงกว่าบางที่ด้วยซ้ำแต่เขาต้องการต้นไม้จากสวนเธอเพราะอะไรอธิเดชเท่านั้นที่รู้ดี

“นี่ครับรายการดอกไม้ และต้นไม้ที่เราต้องการ”ซีส่งกระดาษแผ่นหนึ่ง

เมลียารับไปและคำนวณปริมาณการสั่งซื้ออย่างคร่าวๆ

“ตกลงคุณจะรับหน้าที่จัดหาต้นกล้า และไม้ดอกไม้ประดับที่เราต้องการตามออร์เดอร์รึเปล่าครับ”
เมลียารู้สึกไม่ชอบใจพี่น้องฝาแฝดคู่นี้เอาสะเลย นายอธิเดชคนตรงหน้าเธอ เขาคนนี้แย่งซื้อของตัดหน้าเธอไปจนหมดเมื่อวันก่อน นายอธิคมคนนั้นเจอกันครั้งแรกก็คิดจะแตะอั๋ง แต่เมลียาพยายามข่มใจเมื่อคิดว่ามันคืองาน เธอขายให้เจ้าของโรแรมแห่งนี้ไม่ใช่ขายให้เขาสักหน่อย

“ก็ได้ค่ะ ฉันรับงานนี้”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทาวน์เฮ้าส์สองชั้นขนาดสามสิบห้าตารารางวา ซึ่งออกแบบในสไตล์โรมัน สนามหญ้าเขียวขจีถึงแม้ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางเหมือนบ้านเดี่ยวแต่ก็มีพื้นที่ให้น้องแซน สาวน้อยตากลมได้นั่งชมสวนยามเช้า
สาวน้อยนั่งดูทีวีพร้อมกับทำตัวเป็นโรงโม่ขนาดย่อมเมื่อมือน้อย ๆหยิบบิสกิสชิ้นสุดท้ายในจานส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย

“คุณแม่ขา......ขนมหมดแล้วค่ะ”

โมรีคุณแม่คนสวยวัยยี่สิบหกซึ่งหากไม่บอกใครก็คงไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง ซึ่งเธอมักจะบอกใครต่อใครว่าพ่อของน้องแซนโดนหมาบ้ากัดเสียชีวิตไปนานแล้ว ตั้งแต่น้องแซนยังอยู่ในท้อง

“น้องแซนจ๋า คุณแม่ว่าหนูควรจะหยุดทานได้แล้วนะจ้ะ ตั้งแต่หนูตื่นลืมตามาจนนี่ก็ปาไปเก้าโมงเช้าแม่ยังไม่เห็นว่าหนูจะหยุดทานเลย”

“คุณแม่ก็มันอร่อยนี่คะ” น้องแซนกอดอกทำหน้างอนนิด ๆ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวคุณแม่คงใจอ่อนไปหยิบขนมมาให้เธอทานต่อ

“หนูไม่กลัวอ้วนหรือจ้ะลูกรัก”

“ไม่ค่ะคุณแม่หนูกลัวอดมากกว่า” สาวน้อยรีบตอบทันควัน “นะๆๆๆ คุณแม่ขา” สาวน้อยยิ้มน่ารักจนคนเป็นแม่อดจะใจอ่อนไม่ได้ แต่เมื่อมองร่างจ้ำม่ำของลูกสาวก็ให้นึกห่วงถึงสุขภาพ

“น้องแซนจำได้ไหมจะตั้งแต่ตื่นมาหนูทานอะไรเข้าไปบ้างแล้ว”

“จำได้สิคะคุณแม่น้องแซนความจำดีนะคะหนูทานซุปไก่ทุกวัน” สาวน้อยน่ารักแต่ตัวกลมยิ้มหวานและคุยอวดว่าตนความจำดีก่อนจะไล่ชื่ออาหารที่บรรจุลงไปแล้วในกะเพาะน้อยๆ

“ตื่นขึ้นมาน้องแซนทานโจ้กไก่ กับปาท่องโก๋จิ้มนมแค่สองตัวค่ะคุณแม่ จากนั้นน้องแซนก็กินเยลลีไปสองถ้วย เวเฟอร์ช็อคโกแลตอีกหนึ่งถุง นมอีกหนึ่งกล่อง แล้วก็บิสกิตเพิ่งหมดค่ะคุณแม่”

“แค่นี้เอง” สาวน้อยร่างกลมไหวไหล่

“แค่นี้เหรอจ้ะ คุณแม่ทานทั้งวันยังไม่เท่าหนูเลย” โมรีไม่ได้เสียดายขนมที่จะให้น้องแซน แต่เธอเป็นห่วงสุขภาพของลูกรักต่างหาก ก็ทั้งชีวิตนี้มีกันแค่สองแม่ลูก

น้องแซนเอานิ้วชี้ที่หลังตู้เย็น “นั่นไงคะคุณแม่” ตากลมโตจ้องมองไปที่กล่องข้าวโพดอบเนยอย่างมีความหมาย


“อะไรกันน้องแซน ถ้าลูกคิดจะกินเจ้าป็อบคอร์นกล่องนั้นนอีก คุณแม่ว่าหนูต้องเป็นเป็นลูกของชูชกมาเกิดแน่ๆเลย”

“อะไรหรือคะคุณแม่ลูกชูชก” สาวน้อยทำสีหน้าว่าไม่เข้าใจ

โมรีกอดอกมองสาวน้อยตากลม และยิ้มน้อยๆ “ช่างมันเถอะลูกรัก

“ตกลงคุณแม่จะให้หยิบป็อบคอร์นกล่องนั้นให้หนูไหมคะ” สาวน้อยวกเข้าเรื่องเดิม

เฮ้อ !

“ก็ได้ลูก แต่ของว่างมื้อกลางวันนี้แม่ต้องงดขนมของหนูเป็นการแลกเปลี่ยนโอเคไหมจ้ะ” คนแม่คนสวยเอื้อมมือมาหยิกแก้มยุ้ยของลูกสาวอย่างนึกมันเคี้ยว

สาวน้อยรีบสั่นศีรษะ “ไม่ โอเคค่ะคุณแม่”

“ไม่อย่างนั้นป็อบคอร์น” โมรีชี้ไปที่กล่องป็อปคอร์นกล่องใหญ่ที่วางล่อตาล่อใจอยู่บนหลังตู้เย็น “น้องแซนหมดสิทธิ์ค่ะลูก”

“โธ่คุณแม่ขา...” สาวน้อยลากเสียงเสียยาว แต่คำนวณดูแล้วป็อปคอร์นกล่องใหญ่คุ้มค่ากับการแลกเปลี่ยนกับของว่างมื้อกลางวันที่คุณแม่จะให้ขนมเธอไม่กิ่ชิ้นบวกกับนมสดอีกหนึ่งแก้ว

“ตกลงก็ได้ค่ะคุณแม่โม คนสวย”

“ไม่ต้องมาปากหวานกับแม่เลยน้องแซน” จากนั้นโมรี จึงเดินไปหยิบป็อปคอร์นรสหวานกล่องใหญ่มาให้สาวน้อยที่ทำตาโตรอขนมของโปรดอยู่

โมรีหันไปสนใจกับเสื้อผ้าลูกค้ามากมายที่ต้องรีดให้หมด เพราะอาชีพรับซักรีดเสื้อผ้ามันเป็นรายได้ทางเดียวที่เธอหาเลี้ยงลูกน้อยบางครั้งก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง คงไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าอดีตพริตตื้สาวสวยคนหนึ่งของวงการจะต้องมาตกอับแบบนี้

มีลูกค้าหนุ่มๆ หลายรายของโมรี แอบมาขายขนมจีบด้วยบ่อยครั้ง แต่โมรีก็ไม่ต้องการหาพ่อเลี้ยงให้กับน้องแซน ถ้าไม่มีเขาคนนั้นชีวิตของเธอก็คงไม่ย่ำแย่แบบนี้ คงได้เรียนจบมหาวิทยาลัยไปแล้วและมีงานดีๆทำแต่เป็นเพราะเขา

อธิคม !

++++++++++++++++++++++++
สวนไม้ดอกไม้ประดับ เมลียา

เมลียากำลังโทรศัพท์สั่งออร์เดอร์มากมายตามใบสั่งซื้อซึ่งได้รับมาจากนายอธิเดช คู่ปรับหมายเลยหนึ่งที่เมลียาเกลียดหน้าเขา แต่อยากจะได้เงินของเขา ไม่ใช่สิเงินของเจ้านายเขาต่างหาก
เสียงโทรศัพท์มือถือของเมลียาดังขึ้น

“สักครู่นะคะคุณวารี พอดีมือถือของเมย์ดังค่ะ” เมลียาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือและเมื่อดูเบอร์ที่โทรเข้ามาก็พบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน

“งานต้องมาก่อนสิ” เมลียากดวางสายที่โทรศัพท์มือถือ และหันไปคุยสายกับคุณวารีต่อถึงต้นไม้ที่ต้องการให้ทางนั้นจัดหามาให้

“ต่อกันเลยค่ะคุณวารี แล้วตกลงราคาของที่สั่ง คราวนี้เมย์มีออร์เดอร์สั่งเยอะพี่วารีจะลดให้เมย์มากกว่าครั้งก่อนได้ไหมคะ”

แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นอีกครั้งสร้างความหงุดหงิดให้กับเมลียา

“รอสักครู่นะคะพี่วารี”

เมลียาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง

“เบอร์เดิมเลย ใครกันนะ” สร้างความสงสัยให้เมลียา คอยดูนะถ้าเป็นพวกบัตรเครดิต หรือประกันชีวิตเธอจะบ่นให้น่าดูที่ทำให้เธอเสียเวลา

“พี่วารี เดี๋ยวเมย์โทรกลับนะคะพอดีเมย์ติดธุระค่ะ” เมลียารับวางโทรศัพท์กับคู่ค้าของเธอ จากนั้นกดรับโทรศัพท์มือถือ

“สวัสดีค่ะ เมลียาพูด”

“สวัสครับ”น้ำเสียงทุ้มนุ่ม แม้จะฟังคุ้นๆหูแต่เมลียาก็ไม่มั่นใจนัก

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครคะ”

“ไม่เจอหน้ากันวันเดียวลืมผมแล้วเหรอครับ”

“ใครกัน บอกมานะว่าคุณเป็นใครไม่อย่างนั้นฉันจะวางสาย” เมลียาคิดในใจว่าคงเป็นพวกโรคจิต โทรมาป่วน

“เดี๋ยวอย่าพึ่งว่างสิยัยแม่ค้าหน้าเลือด” คำนี้ทำให้เมลียาเลือดขึ้นหน้าจริงๆ มีคนเดียวที่เรียกเธอแบบนี้

“คุณอธิเดช”

“ใช่ผมเอง นึกออกแล้วเหรอครับ”

“คุณมีธุระอะไรไม่ทราบ และคุณรู้เบอร์ดิฉันได้ยังไง”

“จะให้ตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะครับคุณเมย์” เขาเรียกเธอเสียสนิทสนม

“เรียกฉันว่าเมลียาดีกว่า”

“ทำไมล่ะครับ”

“เรายังไม่สนิทกันพอที่คุณจะมาเรียกชื่อเล่นของฉัน”

โดนตอกกลับเข้าไปเต็มๆ ซีก็แทบจะสะอึกแต่แค่นี้เขาไม่ยอมแพ้หรอก

“ผมโทรมาเพราะมีออร์เดอร์จะสั่งเพิ่ม ไม่ทราบว่าคุณพอมีเวลาว่างจะคุยกับผมเรื่องนี้ไหมครับ”

“เอ่อ...ก็ได้ค่ะคุณจะเพิ่มอะไรก็สั่งมาเลยค่ะ”

จากนั้นซีก็ทำทีคุยเรื่องงานสั่งของจนพอใจเพื่อให้ปลายสายอารมณ์ดีขึ้นเพราะเขาคิดว่าเธอคงคำนวณกำไรไปด้วยพร้อมๆกันในหัว

“ผมมีอีกเรื่องจะคุยกับคุณ”

“เรื่องอะไรคะ ถ้าเรื่องงานฉันอนุญาตถ้าเรื่องส่วนตัวระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” เมลียาพยายามพูดตัดบทเพราะยังโกรธอธิเดชไม่หาย

“เรื่องงานครับ เรื่องส่วนตัวผมก็ไม่มีอะไรจะคุยกับคุณเหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นก็ว่ามา”

“คือเจ้านายผมเขาทราบมาว่าทางคุณรับจัดสวนด้วยใช่ไหม พอดีเจ้านยผมเขาต้องการให้คุณรับหน้าที่จัดสวนให้กับโรงแรมของเรา ถ้าผลงานคุณออกมาดี โรงแรมอื่นๆในเครือของเราก็จะให้คุณดูแลทั้งหมดไม่ทราบว่าคุณสนใจไหมครับ”

“สนใจสิคะ” เมลียารีบตอบไปด้วยความดีใจ เพราะเธอรู้ดีว่าการรับออกแบบและจัดสวน รายได้ดีกว่าการจัดหาต้นไม้มาก

“ผมนึกไว้แล้วเชียวว่าแม่ค้าหน้าเลือดอย่างคุณต้องสนใจงานนี้” เขาหัวเราะเบาๆผ่านโทรศัพท์

“นี่คุณอธิเดช คุณก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่งเหมือนกันเพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิมาพูดกับฉันแบบนี้ ฉันรับเงินของเจ้านายคุณนะ ไม่ใช่เงินของคุณ”

“อย่างนั้นเหรอครับ ผมคงต้องขอโทษคุณด้วยที่ผมมันเป็นคนปากเสีย ชอบพูดอะไรตรงกับใจเสมอ”
“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคุณ ก็เห็นว่าฉันเป็นแม่ค้าหน้าเลือดใช่ไหม”

“ผมไม่ได้พูดแล้วนะครับ คุณพูดเอง”

“คุณอธิเดช” เมลียาเรียกชื่อเขาเสียงเดาอยากจะให้มือเธอผ่านโทรศัพท์ไปได้ จะหยิกหูเขาให้เขียวเชียว แต่ก็ได้แต่คิดเท่านั้น

“นี่คุณพูดเบาๆ ก็ได้เดี๋ยวหูผมก็หนวกกันพอดี”

“นอกจากหูหนวก ฉันอยากให้คุณเป็นใบ้ด้วยจะได้พูดน้อย ๆ”

“ใจร้ายจริงเชียว”

“ก็เจอคนปากร้อยแบบคุณ ฉันเลยต้องกลายเป็นผู้หญิงใจร้าย”

“เอาล่ะผมไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ตกลงคุณจะเข้ามาเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ”

“คือ..เอ่อตัวฉันนะพร้อมค่ะ แต่ว่าคนงานฉันยังขาดอีกสองสามคน”

“ถ้าเรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง เรามีทีมงานอีกชุดหนึ่งไว้ให้คุณอยู่แล้วเอาเป็นว่าเข้ามาเริ่มงานพรุ่งนี้ตกลงไหมครับ” ซีด่วนสรุปเหมือนกลัวใครบางคนจะเปลี่ยนใจ

“คุณอธิเดช ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะว่าเจ้านายคุณเขามั่นใจในฝีมือของฉันได้อย่างไร ทั้งที่เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน”

“เจ้านายของผมเขาตาคมครับรับรองมองคนไม่ผิดคุณสบายใจได้”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปเริ่มงานค่ะ”

“ดีครับ และอย่าเข้าห้องผิดอีกล่ะครับ”

“หมายความว่าพรุ่งนี้ฉันต้องไปพบคุณก่อนเหรอคะ”

“ใช่ครับ ต่อไปนี้ผมเป็นเจ้านายของคุณจนกว่างานจะเสร็จพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”

จากนั้นซีก็วางสายไป “อะไรของเขานึกจะวางก็วาง”

เมลียามีงานชิ้นใหญ่เข้ามาในสมองทันที งานจัดสวนไม่ยากสำหรับเธอเพราะหลังจากจบปริญญาตรีด้านการตลาดเมลียาสนใจเรื่องการจัดสวนจึงไปศึกษาและเรียนตามมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเป็นคอร์สจนมีความชำนาญจัดสวนได้อย่างสวยงามหลายปีมานี่เธอผ่านการจัดสวนมาพอสมควร แต่จัดสวนให้กับโรงแรมไม่ใช่งานง่ายๆนัก แต่เมื่อนรับงานมาแล้วเธอก็ต้องทำให้เต็มที่

++++++++++++++++++++++++++++

บาร์หรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองอธิคม หรือซันชายหนุ่มเพล์บอยพร้อมกลุ่มเพื่อนไฮโซกำลังจิบไวน์ไปพลางๆ ระหว่างรอเพื่อนสนิทอีกคนที่นานๆจะได้เข้าเมืองมาสักที

“เฮ้ย ไอ้ซันแกว่าไอ้ฤทธิ์มันจะเบี้ยวเราไหมนี่ สามทุ่มกว่าแล้วยังไม่มาเลย”โอ๊ค ชายหนุ่มร่างอ้านผิวขาวลูกชายเจ้าของร้านทองกล่าวขึ้นพร้อมมองเวลาที่หน้าปัดนาฬิกายี่ห้อโลเล็กซ

“ไม่หรอกว่ะ ฉันว่านานๆไอ้ฤทธิ์มันจะกลับเข้ามากรุงเทพฯสักทีถนนหนทางมันคงจะจำไม่ค่อยได้ไปอยู่ต่างจังหวัดเสียนาน”

“ไม่คิดจริงๆนะว่าคนอย่างมันจะไปทำสวนทำไร่กับเขาได้ แต่ได้ข่าวว่าสวนแคนตาลูปของมันขึ้นชื่อมากเลยนะที่ลพบุรีวันหลังเราไปเที่ยวบ้านมันกันไหม” นรินชายหนุ่มผอมสูงทายาทโรงงานน้ำปลาชื่อดังกล่าว
“นั่นไงมันมานั่นแล้ว” ซันโบกมือให้เพื่อนซี้ที่กำลังเดินเข้ามา

“ไอ้ซัน ไอ้นริน ไอ้โอ๊ค ยังอ้วนเหมือนเดิมเลยนะ”

“พูดอย่างนี้กลับไปเถอะไอ้ฤทธิ์” คนตัวอ้วนกลมพูด

“โธ่ น้อยใจไปได้”

“เออนั่งก่อน ไม่ได้เจอกันนานเป็นไงบ้างเพื่อน” ซันเอามือตบไหล่เพื่อนรัก

“สบายดีว่ะ แล้วนายเป็นไงบ้างเมื่อไหร่จะแต่งงานมีผู้หญิงเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที”

“ไม่เอาหรอก แบบนายนะเหรอจากพ่อหนุ่มหล่อคาสโนว่า พลิกชีวิตไปเป็นไอ้หนุ่มสวนแตงมันน่าสนุกตรงไหน” ซันไม่ได้ดูถูกอาชีพพื่อนรักเพราะเขารู้ว่าไร่แคนตาลูปของเพื่อนสร้างรายได้มากขนาดไหนต่อปี แต่กลัวการแต่งงานต่างหาก

“แล้วแกจะรู้ว่าได้อยู่กับคนที่เรารักและเลือกแล้วเพียงคนเดียว มันดีกว่าการเปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ นอนกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักสักร้อยคน สู้คนที่รักเพียงคนเดียวไม่ได้หรอก”

ซันส่ายหน้า “ไม่ว่ะ ไม่น่าเชื่อ”

เฮ้อ! “ ไอ้ซันไอ้คนเห็นกรงจักรเป็นดอกบัว ไอ้บัวใต้น้ำ”

“นี่แกมาจากลพบุรีเพื่อมาด่าฉันหรือวะไอ้ฤทธิ์”

“เปล่าโว๊ย”

“ไอ้ฤทธิ์ เอาอะไรดีเพื่อน”

“น้ำส้มล่ะกันว่ะ”

“ไอ้ดัจจริต” นริลเผลอด่าเพื่อนออกมาเสียงดังเมื่อก่อนใครก็รู้ว่านายฤทธิ์คนนี้ดื่มแอลกอฮอล์แทนน้ำ

“จริงโว้ย ฉันลดละเลิกของพวกนั้นเพื่อลูกเมีย”

“เออๆๆ ช่างมันเถอะนริน มันอยากกินน้ำส้มเอ็งก็สั่งให้มันเถอะ” โอ๊คตัดปัญหาและเรียกบริกรมารับออเดอร์

“ ซัน ฉันมีอะไรจะถามนายว่ะ”

“อะไร”

“แกจำแม่สาวพริตตึ้คนสวยที่ชื่อน้องโมรีได้ไหม”

โมรี !
อธิคมเกือบลืมชื่อนี้ไปแล้วแต่เมื่อนึกขึ้นมาอีกครั้ง ภาพสาวสวยหุ่นระหง ใบหน้าสวยหวานที่เขาเคยตามจีบอยู่พักใหญ่ก็ผุดขึ้นมาจนชัดเจน
“ถามทำไม”
“เขาย้ายไปอยู่ที่ลพบุรี มีลูกสาวด้วยคนหนึ่งอยู่กับลูกสองคน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันวะไอ้ฤทธิ์”
“ก็ฉันสงสัยว่าแกเป็นพ่อของลูกเขารึเปล่าน่ะสิ และทำไมเขาต้องหนีจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่นั่นดูท่าทางจะลำบากมากนะ”
ซันนิ่งและคิดอะไรบางอย่าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ค. 2554, 14:02:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ค. 2554, 14:02:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1974





<< ตอนที่1   
lovemuay 27 พ.ค. 2554, 19:27:56 น.
มาแล้วอีกคู่ อิอิ


ปูสีน้ำเงิน 27 พ.ค. 2554, 22:23:00 น.
เจ้าชู้จริงๆ


kaero 30 พ.ค. 2554, 10:59:49 น.
อัพต่อ อัพต่อ


่jaowaan 18 มิ.ย. 2554, 20:38:01 น.
ทิ้งร้างไปนานเลยนะคะเรื่องนี้


แพม 28 มิ.ย. 2554, 15:18:35 น.
งี้แหละ ผู้ชาย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account