บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา

Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง

ตอน: บทที่ 12 ความจริงเริ่มคุกคาม 100%

“เธอจะใส่ชุดนั้นไปกินข้าวนอกบ้านอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่! ทำไม?” หล่อนข้องใจ
“มันไม่เรียบร้อย ดูสิเสื้อกล้ามกางเกงยีนดูได้ที่ไหน มันโป๊!”
เขาท้วงจริงจัง อรัญญิการ์กรอกตาขึ้นฟ้า คงมีใครสนว่าที่คุณแม่ลูกสองอย่างเธอหรอกนะ
“นี่! คุณเปรมินทร์เจ้าคะ คือว่า ดิฉันชื่ออรัญญิการ์นะคะ ไม่ใช่ปาฏลี เพราะฉะนั้นแค่ชิ้นบนกับชิ้นล่างฉันใส่มาครบ มันก็เรียบร้อยมากแล้วค่ะ โอเค!”
หล่อนเดินผ่านหน้าเขา คว้าเอารองเท้าบนชั้นมาสวมแล้วก้าวออกนอกห้องไป โดยมีร่างสูงใหญ่ของเปรมินทร์ตามมาติดๆ

ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง
อรัญญิการ์สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะในขณะที่เปรมินทร์ได้แต่มองตาปริบๆ ครั้งสุดท้ายที่ได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน เจ้าหล่อนก็สั่งปานชูชกอย่างนี้ และแน่นอนหล่อนยัดมันลงท้องได้หมดแต่ว่าไปเอาออกจนหมดไส้หมดพุงเมื่อกลับถึงบ้าน
“เธอจะสั่งทำไมเยอะแยะเอมี่ กินเข้าไปแล้วก็อาเจียนอยู่ดี”
แม่มดคนงามชะงักช้อนที่กำลังจะตักกับข้าว เขาจำได้ด้วยหรือเรื่องเก่าๆ ...ความจริงมันก็ไม่เก่าเท่าไหร่แค่อาทิตย์สองอาทิตย์ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะจำมันเท่านั้น ถ้าเรื่องนี้เขาจำได้แล้วเรื่องอื่นล่ะ เขาจะจำมันได้หรือเปล่า
เธออยากรู้แต่ยังไม่กล้าถาม กระทั่งรับประทานอาหารเสร็จก็เรียกพนักการมาสั่งของหวาน ขณะนั่งรอก็ทอดสายตากินลมชมวิวแม่น้ำสายสำคัญไปเรื่อยๆ
“คุณมีธุระอะไรคุณเปรม ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฉันแล้วไง” เธออดไม่ไหวถามขึ้นในที่สุด
เปรมินทร์กำลังจะตอบแต่ขนมหวานที่สั่งก็มาเสิร์ฟพอดี
“เปล่านี่ ฉัน...ฉันมาตามหน้าที่ ในเมื่อเธอยังมีโฆษณาที่ทำไว้โปรโมตสินค้าให้ Rose ฉันคิดว่าเธอไม่ควรทำตัวให้เสื่อมเสียด้วยการมีเรื่องฉาวโฉ่ อย่างที่เธอกับเพื่อนเธอก่อเรื่องเอาไว้เมื่อคืน”
อรัญญิการ์แค่นหัวเราะ เขาเห็นข่าวนั่นจริงๆ
“เห็นด้วยรึคุณเปรม ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณอ่านข่าวหน้าดาราด้วย นึกว่าอ่านเฉพาะหน้าข่าวธุรกิจ” หล่อนแดกดันเล็กน้อย ก็เขาหายใจเป็นเงินเป็นทองไม่มีเสียเวลาด้วยเรื่องไร้สาระหรอก
“ไม่ต้องมาแดกดันนะเอมี่ ไม่ต้องหน้าดาราหรอกเพราะหน้ายัยแม่มดอย่างเธอมันหราที่หน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ ทำอะไรให้มันนึกถึงคนอื่นเสียบ้างไม่ใช่คิดว่าตัวเองเหลวแหลกได้ แล้วก็ทำตามอำเภอใจ เธอเป็นคนมีชื่อเสียงทำอะไรประชาชนเขาก็จ้องจับตามอง ทุกอย่างที่เธอทำมันย่อมส่งผลกระทบกับเธอทั้งนั้น และแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่องานของเธอด้วย เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม”
เปรมินทร์ตำหนิหล่อนราวกับว่าอรัญญิการ์เป็นเด็กเล็กๆ ต้องรอคอยคำชี้แนะจากเขา
“โอ...คุณเปรม! วันนี้กินยาไม่เขย่าขวดหรือคะ รู้สึกว่าจะเป็นครั้งแรกนะ ที่ฉันได้ยินวาจามีสาระจากปากคุณ น่าทึ่งจริงๆ คิกๆ”
ผู้บริหารรูปงามกรอกตาขึ้นฟ้า เขาพูดไปทั้งหมดหล่อนเข้าใจบ้างหรือเปล่าล่ะนี่
“เอาล่ะ ฉันพูดหมดแล้วเธอมีอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ซึ่งความจริงไม่อยากกลับเลย เขาอยากนั่งมองเจ้าหล่อนอยู่อย่างนี้ มองใบหน้ารูปไข่เรียวรี มองผิวสีน้ำผึ้งยวนตา ซึ่งเข้ากันเหลือเกินกับแสงไฟสีนวลรอบๆ แม้ไม่ได้แต่งเติมเสริมเครื่องสำอางวุ่นวาย แต่หล่อนกลับดูดีได้
มันเหมือนมีรัศมีโดดเด่น รัศมีความเป็นดาวเปล่งประกายออกมารอบๆ ร่างหล่อน
“อ้อ...ไม่ ไม่มี...” เธออยากพูดกับเขาเรื่องลูก แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เขาลุกขึ้นแล้ว เธอต้องรีบตัดสินใจ
“เธอมีอะไรหรือเปล่าเอมี่ ฉันรู้สึกว่าเธออยากเอ่ยบางอย่าง” ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต เขารู้สึกว่าหล่อนอยากจะพูดอะไรกับเขาด้วยเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ แต่หล่อนก็ไม่พูดจนเขาต้องเอ่ยถามเสียเอง
“คือว่า ฉัน..ฉันมีเรื่องจะถามคุณ...เรื่อง...”
“คุณเปรม!” เสียงหวานเอ่ยขัดขึ้นจนได้ อรัญญิการ์ถอนหายใจพรืดใหญ่ ยัยส้วมเต็ม หล่อนมานั่งที่ร้านนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เธอน่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้ เพราะถ้ารู้ล่วงหน้ารับรองว่าย้ายร้านชัวร์!
“อ้าวคุณส้ม มาทานข้าวหรือครับ” เขาเอ่ยถามตามมารยาท เจ้าหล่อนเป็นดารานางแบบและเขาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ทุกอย่างมันต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อีกอย่างคือหล่อนเป็นคนทักเขาก่อน ถ้าเขาไม่ทักตอบก็คงเสียมารยาท แม้ว่าในใจไม่อยากเฉียดใกล้คนที่ทำให้อรัญญิการ์เจ็บตัวก็ตาม
“ค่ะ อ้าว! เอมี่ เธอก็มาเหรอจ๊ะ เป็นไงบ้าง แผลหายช้ำแล้วหรือยัง” คำถามเหมือนห่วงใยแต่แม่มดน้อยกลับแค่นหัวเราะใส่อย่างไม่รักษามารยาท ก่อนจะตอกกลับว่า
“ยังไม่หายดีหรอก แต่ก็พอซดต้มแซบรสจัดๆ ได้แล้ว เธอล่ะส้วม! เอ๊ย! ส้ม เฝือกที่แขน หมอนัดวันผ่าแล้วยัง” คนถูกถามหน้าม้าน เปรมินทร์เพิ่งสังเกตว่าเจ้าหล่อนถูกใส่เฝือกที่แขนซ้าย อาจเป็นเพราะหล่อนสวมเสื้อสีขาวเหมือนเฝือกกระมังเขาจึงมองผ่านไม่ทันสังเกต
“ก็...เร็วๆ นี้ล่ะ เอ่อ..คุณเปรมขา สินค้าตัวใหม่ได้นางแบบแล้วยังคะ รับส้มไว้พิจารณาสักคนนะ”
เต็มใจออดอ้อน หล่อนรุกเปรมินทร์จนเขาต้องนั่งแหมะไปบนเก้าอี้อีกรอบ อรัญญิการ์หัวเราะชอบใจเลยถูกเขาทำตาขุ่นขวางกลับมาเป็นของรางวัล
เธอนั่งฟังเต็มใจเจื้อยแจ้วกับเจ้าของ Rose ต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งสตรีที่เธอจำใบหน้าหล่อนได้ขึ้นใจเฉียดเข้ามาทักทายเปรมินทร์
“สวัสดีค่ะเปรม แหมมาทานข้าวที่นี่ไม่บอกกันบ้างเลยนะ ขวัญรอที่ที่ทำงานเก้อเลย” เธอเอ่ยเสียงเศร้า เปรมินทร์ก็รับรู้แถมยังรับมุกเล่นไปตามน้ำเพื่อหวังบางอย่างจากอรัญญิการ์
“โอ...ขอโทษทีครับ แล้วนี่ขวัญทานอะไรแล้วยัง ทานด้วยกันก็ได้ครับ คุณส้มด้วย” เปรมินทร์เชื้อเชิญ และมันทำให้เขาได้รับสายตาพิฆาตจากคนที่นั่งตรงข้าม
“แต่ฉันอิ่มแล้ว!” แม่มดคนงามไม่มีไหลตามน้ำ ก็เธอไม่ใช่นางเอก ทำไมต้องทนมอง พวกเหลือบไรเกาะแกะเขาด้วยล่ะ
“อ้าว...เปรมขา คุณคนนี้...?” อ้อมขวัญทำเป็นไม่รู้จักอรัญญิการ์ทั้งที่ก่อนจะหวนกลับมาหาเขาเธอหาข้อมูลมาแล้วเต็มที่
“เอ่อ...เอมี่ครับ เธอชื่อเอมี่ แล้วนี่ก็คุณส้มครับ”
“อ้อ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอนั่งเลยก็แล้วกันนะคะ” อ้อมขวัญ อ้อมไปนั่งขนาบเปรมินทร์อีกด้านตอนนี้เลยกลายเป็นว่าหนึ่งหนุ่ม ถูกสองสาวรุมเบียดจนจะหายใจไม่ออก
“ฉันจะกลับแล้ว ถ้าคุณเปรมอยากกินต่อก็เชิญ ฉันขอตัว” แม่มดคนงามเอ่ยด้วยเสียงห้วนจัด ไม่สบอารมณ์ เปรมินทร์ไม่ไว้หน้าเธอเลย ใครๆ ก็เห็นว่าเขามากับเธอแต่เขากลับเชื้อเชิญให้สองสาวนั่งด้วยแถมยังให้คุณเธอทั้งสองเบียดร่างเข้าหาโดยไม่ขัดขืนสักคำ
“เดี๋ยว! เดี๋ยวสิเอมี่ เมื่อกี้เธอจะพูดอะไรกับฉัน”
เปรมินทร์นึกขึ้นได้เมื่ออรัญญิการ์ลุกขึ้นเตรียมจากไป เขามัวแต่เล่นมากไปจนลืมนึกไปว่าเขาไม่จำเป็นต้องยั่วให้หล่อนหึง เพราะหล่อนประกาศอยู่ปาวๆ ว่ารักเขามากมายเพียงใด
“ถ้าเปลี่ยนใจแล้วจะบอกค่ะ ขอตัวนะคะ”
เปรมินทร์ไม่ทันได้ห้ามปรามอรัญญิการ์ก็ก้าวฉับๆ ออกไป เขามองตามแผ่นหลังบอบบางจนลับตาและทันได้เห็นว่าบุรุษร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่โต๊ะริมสุดลุกตามหล่อนไปติดๆ พวกเขาเป็นใครกัน เขาจำได้ว่าทั้งคู่เป็นคนที่เขาเจอในห้องหล่อนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา พวกเขาเป็นคู่ขาหรือคู่ค้าหล่อน หรือเป็นลูกน้องของแขกขาวหน้าคมที่อุ้มหล่อนเข้าห้องเมื่อวันนั้น ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ ตกลงว่าหล่อนนอกใจเขาจริงๆ ใช่ไหม หล่อนทำได้ยังไงกัน ยัยแม่มดชั่ว!



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.พ. 2556, 00:25:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.พ. 2556, 00:25:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 8223





<< บทที่ 12 ความจริงเริ่มคุกคาม 60% ^^ อ่านแล้วก็นะ เฮ้อ! คุณฟาย เอ๊ย คุณชาย ฟายได้ใจ!   บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 40% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account