รักหลัง...วันวิวาห์
หล่อนไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้รักผู้ชาย และเกลียดเกย์ที่สุด

เขาไม่ชอบผู้ชาย แต่ไม่ได้รักผู้หญิง และไม่ปฏิเสธทอม

แล้วทั้งสองจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องมาแต่งงานกัน




หากเป็นโลกนิยายรักหวานหยดคงปิดท้ายด้วยฉาก
ที่หล่อนกำลังเผชิญ แต่นี้ชีวิตจริงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันแค่การเริ่มต้น ตอนจบจะงดงามตระการตา หรือโศกสลดยิ่งกว่านิยายฆาตรกรรม หล่อนคงได้แต่ปล่อยวาง แต่หญิงซันไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค อะไรจะมาก็เชิญ


ในเมื่อสวรรค์มีอำนาจกำหนดคู่ชีวิต หล่อนก็มีสิทธิสร้างสรรค์ส่วนที่เหลือด้วยกำลังสติปัญญา



“แล้วเจ้าสาวแกเป็นไง พอจะทำให้แกหันมาชอบผู้หญิงได้มั้งเปล่าวะ"
“รู้จักกันมาแต่เล็ก น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง"
“แกนะเฮ้อ บ้าชัดๆ คนอย่างแกก็มีในโลกนี้ด้วย แล้วอย่างนี้น้องเขาไม่ตกนรกทั้งเป็นเหรอว่ะ แต่งกับคนอย่างแกนะ รู้ว่าไม่ชอบแต่ก็ยังไปรับหมั้น ทำตามคำขอของแม่ไม่ผิดหรอก แต่แกกำลังทำร้ายผู้หญิงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกคนเลยนะ"
“พูดไปนายอาจหาว่าฉันแก้ตัว แต่จะบอกให้รู้ ว่าที่เจ้าสาวฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย"
“ว่าไรนะ"
“ได้ยินไม่ผิดหรอก"
“แล้วแกสองคนก็แต่งกันทั้งที่ทั้งคู่ไม่มีทางจะรักกันได้ บ้าพอกันเลยวะ อวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลย"
“ทำไมแกไม่คิดอีกอย่าง เพราะการที่ฉันได้แต่งกับคนที่ไม่สามารถรักผู้ชายได้ก็ดีออก อย่างน้อยเธอคนนั้นก็ไม่ไปแย่งผู้หญิงอีกคนที่อาจจะเป็นคนรักของนาย และการที่เขาไม่รักผู้ชายก็ยิ่งดี เพราะก็คงไม่มีทางมารักกันเชิงชู้สาวได้ แต่เราอาจอยู่ร่วมกันในรูปแบบของเพื่อนพี่น้อง ดูแลกันและกัน อยู่กันแบบนั้นอย่างมีความสุข
แม่ฉันแม่เขาก็มีความสุขที่จะเห็นเราแต่งงานกัน เหตุผลแค่นี้ไม่พอที่จะทำให้ฉันตกลงแต่งงานกับเขาอีกเหรอ อีกอย่างถ้าฉันไม่ยอม หม่อมแม่หาใครไม่รู้มา แล้วบังเอิญว่าเธอคนนั้นสามารถรักผู้ชายได้ ฉันไม่เรียกว่าทำร้ายผู้หญิงคนนั้นหรือ"
“ฉันนะอยากให้คนประหลาดอย่างแกตกหลุมรักว่าที่ภรรยาเหลือเกิน แล้วถ้าให้ดี ตอนนั้นขอเจ้าหล่อนยังชอบผู้หญิงอยู่นะ ฉันละจะสมนำ้หน้าแกเลย"
“ไม่หรอก ฉันทิ้งเรื่องความรักเชิงชู้สาวไปนานมากแล้ว มันอาจจะไม่เคยมีติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดก็ได้"

แม่เจ้า นี่เจ้าพี่รู้จักแต่รักเชิงชู้ชายตั้งแต่จำความได้ แล้วระหว่างที่เราแต่งงานกันเจ้าพี่จะไม่ไปหาเหยื่อนอกบ้านกินเหรอ

Love looks not with the eyes but with the wind ...




เกริ่นไปเยอะแยะมากมาย แต่ดูไม่บอกอะไรเนอะ แต่นี่กำลังจะบอกและ--->
คำเตือน 1 นิยายเรื่องนี้ปราศจากนางร้าย ไร้ฉากรุนแรงและสารตกค้าง อันพาให้จิตใจเศร้าหมอง
2 ชื่อบรรดาตัวละครมาจากจินตนาการอันไร้ทิศทาง แลสถานที่รวมถึงทฤษฎีบ้าบอที่ยกมาควรทำการศึกษาข้อมูลก่อนนำไปใช้
3 อาจได้ฮาเป็นระยะตามอัตภาพ พร้อมหมั่นไส้ตัวละครเป็นพักๆเพราะไม่ได้ดังใจ
สุดท้าย ระวัง...คุณอาจตกลงหลุมรัก...ถ้าคุณขุดมันลึกพอ (เกี่ยวไรกะนิยายปะ อันสุดท้าย...บอกเลยว่าไม่ แค่ทั่วๆไปแหละ )

ถ้าพร้อมแล้วก็...เชิญเลยจ้า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 Neutral Grain Spirit 2/2

เมื่อครั้งอาทิตยายังเด็กจำได้ลางๆว่ามารดาเคยพามาเยี่ยมเยียนหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสงที่หล่อนรู้จักเป็นอย่างดี แต่ที่นั่งอยู่ข้างๆคือชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอาการกำลังนั่งพับเพียบก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ เขาเป็นใครหล่อนไม่รู้ ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน คงเพราะดวงตาของหล่อนจับจ้องที่เขามากเกินไป หรือใบหน้าสงสัยที่แสดงชัดกันแน่ หม่อมแม่จึงบอกคร่าวๆว่าคนตรงหน้าคือบุตรชายของหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสงที่กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้

นี่หากชายหนุ่มมีมาลัยกรองข้างตัว เชื่อเลยว่าร้อยเอง นั่งไปไม่นานร่างสูงก็เริ่มละจากหน้ากระดาษมาสนทนากับเธอ คำพูดก็สุภาพน้องซันคะขาทุกครั้ง แววตาที่มองมาก็เอ็นดูว่าเธอเป็นน้องเป็นนุ่ง คุยไปคุยมาพอเริ่มสนิท พี่ชายก็ชวนน้องสาวใหม่เอี่ยมไปกินขนม ให้มารดาได้สนทนากันตามสบาย แม่บ้านร่างท้วมที่เห็นทั้งคู่เข้ามาในครัวก็ยื่นถ้วยใสใส่นำ้สีขาวข้นมาให้ มือบางรับมาพร้อมกล่าวขอบคุณ หล่อนลองคนๆ ก็เจอก้อนกลมเล็กๆหลายสี แถมยังมีไข่แดงลูกใหญ่ห้อมล้อมไข่ขาวหน้าตาน่ากิน

ตอนนั้นเสียงทุ้มๆเอ่ยอยู่ใกล้ๆ บอกชื่อขนม ซึ่งหล่อนไม่ได้สนใจฟังอีกแล้วเพราะกำลังมัวเมากับการตักขนมใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย จนหมดถ้วยนั่นแหละใบหน้าจิ้มลิ่มของเธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง พลางเช็ดปากตัวเองป้อยๆด้วยมือข้างที่ว่างอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามชื่อขนม “บัวลอยไข่หวานครับ” ร่างสูงตอบทันทีพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู ศีรษะเล็กๆขยับขึ้นลงตามคำพูดเขาเพื่อแสดงความเข้าใจ ก่อนจะทวนออกมาเบาๆถึงชื่อขนมแสนอร่อยเหมือนกลัวลืม คนได้ยินไม่ว่าชายหนุ่มและป้าร่างอวบต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกันกับอาการของเธอ

ขากลับพี่ชายคนใหม่ยังมีนำ้ใจ จัดบัวลอยไข่หวานใส่ถุงมาให้ หล่อนรีบรับ ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะพนมมือไหว้กล่าวขอบคุณ

นี่คือเขาในความทรงจำครั้งแรก...ที่เธอได้พานพบ...พี่ชายที่เรียบร้อย สุภาพ ใจดี



อาทิตยาได้เจอพี่ชายใจดีแค่สองครั้ง คือวันแรกที่พบกันและวันที่ไปส่งเขาที่สนามบิน
สิบปีผ่านไป เขาเป็นเพียงบุคคลในความทรงจำ ที่ไม่ได้สลักสำคัญไปมากกว่าสายลมพัดผ่านที่เปลี่ยนแปลงตามฤดู

สิบปีที่หล่อนคิดว่าเจ้าพี่เป็นผู้ชายที่เรียบร้อย...ไม่ใช่กระตุ้งกระติ้งแต่งสาวอย่างทุกวันนี้ แถมด้วยข่าวคราว(คาว)เรื่องชู้ชายพ่วงให้อีก ไม่รู้ว่าการที่หม่อมเจ้าจันทรมาศไปศึกษาในต่างประเทศได้เจออะไรมาบ้าง กลับมาถึงหันมาชอบพวกเดียวกัน แต่ที่แน่ๆเธอปฏิญาณกับตัวเองไว้ เด็ดหัวกันดีกว่าถ้าให้อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน


กลับมาสู่เหตุการณ์เบื้องหน้า...แววตาเจ้าพี่ที่หล่อนเห็นไม่ได้มีประกายเอ็นดูเหมือนวันวานแล้วจริงๆ ไม่แปลกหรอกเมื่อเวลาผันเปลี่ยนไปนานปี แล้วใจคนจะไม่แปรผันได้อย่างไร

หญิงซันมัวแต่อมพะนำ จนอีกฝ่ายเงียบไปชั่วครู่ ร่างสูงจึงหันไปสนใจเจ้านำ้สีใสไร้กลิ่นแต่บาดคอสุดฤทธิ์ มือหนายกแก้วจรดริมฝีปาก ก่อนจะรับของเหลวเข้าไปหลายต่อหลายครั้งติดๆกัน

เอาไงวะ ทำไงดี เธอได้แต่คร่ำครวญในใจ อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ แต่ถ้าอยากได้รูปเขา ต้องเข้าไปเป็นแบบถ่ายด้วยกันใช่ไหม

“ถ้าผมไม่รังเกียจหละครับ" อยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายนักที่เอ่ยออกไป มือไม้ของหญิงซันสั่นเป็นเจ้าเข้า จนต้องเอามันกลับเข้าไปซุกในกางเกงยีนส์ ในใจก็ภาวนาให้สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปดีที่สุดสำหรับเธอ

เจ้าประคุณลูกช้างขอเพิ่มหัวหมูอีก หัวจระเข้ จิ้งจก ตุ๊กแก อยากได้อะไรบอก ลูกช้างจัดให้ ช่วยลูกช้างที ขอรูปแบบช็อตเด็ด ไม่ต้องเป็นสิบ แค่ใบเดียวก็เอาแล้วตอนนี้

“ที่ไหนดีค่ะ ดิฉันไม่ชอบคนเยอะมันไม่เป็นส่วนตัว" เสียงทุ้มหวานเจรจาด้วยดวงหน้ายิ้มละไม ตายแน่ นี่เจ้าพี่คิดถึงขนาดไหน ใครก็ได้มาเก็บศพหญิงซันทีหลังจบเรื่อง เพราะอายุคงไม่ยืนเป็นแน่แท้

“ผมไม่ชอบคนแต่งหน้า คุณพอจะลบมันออกได้ไหม มันทำผมเสียอารมณ์" หญิงซันแทบจะกลั้นใจตายเมื่อต้องว่าไปเช่นนั้น ขออะไรไม่ธรรมดา ท่ีคนปกติเขาไม่ทำกัน เจ้าพี่จะจับได้หรือไม่ ถ้าได้ ชีวิตลูกช้างจะรอดไปพบหน้าหม่อมแม่ไหม

ซันรักหม่อมแม่นะคะ เกิดมาชาตินี้มีบาปกรรม

“ได้ซิคะ เรื่องแค่นี้ เพิ่งรู้ว่าคุณชอบแบบจิ้นๆ" จิ้นๆ นี่คืออะไร หญิงซันนึกกังขาในใจไม่นานเสียงของชายหนุ่มในคราบหญิงงามก็ว่าออกมาเบาๆ "คือเวอร์จิ้นนะค่ะ" รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอีกครั้งบนใบหน้าหวานสวย ก่อนมือบางจะหยิบกระดาษทิชชูขึ้นเช็ดเครื่องประทินโฉมที่เปลี่ยนชายอกสามศอกเป็นสาวงาม

ใบหน้าหวานหล่อ คิ้วโก่งดังคันธนู ตาเรียวรับกับนัยน์ตาสีน้ำตาลสุกใสดั่งอัญมณี จมูกโด่ง ปากเรียว หล่อกระชากใจจนเต้นจังหวะแทงโก้ ไม่ได้นะอย่าหลงใหล อย่างนี้ซินะ เจ้าพี่ถึงได้รับสมยานามเจ้าชายหน้าหยก

“ไปค่ะ" หญิงซันเหมือนรากงอกซะอย่างนั้นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยชวน หล่อนมองตาแป๋วเหมือนไม่เข้าใจภาษา ก็คาดว่ามันน่าจะนานกว่านี้กว่าจะกล่อมเจ้าพี่สำเร็จ นี่มันเร็วไปไหม เรื่องของเรื่องคือยังทำใจไม่ทัน และไม่ได้คิดแผนสำลองหากจะต้องไปต่อที่อื่นขึ้นมาจริงๆ

นี่มันผิดแผนชัดๆ

“เอ่อคือผม" อาทิตยาว่าออกไป เริ่มก้มหน้าหลบตาอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยอารมณ์บางอย่าง พลางนึกในใจ ทำอย่างไรดี คืออยากจัดการเสียที่นี้ให้มันเสร็จๆไป แค่กอดกันก็พอแล้วให้รุ่นน้องถ่ายรูปเด็ดๆ เธอคิดมาแค่นี้ ไม่มีแผนสำลอง

“เราลองนิดๆหน่อยๆก่อนดีไหมครับ เผื่อมันไม่โอจะได้ไม่เสียเวลาคุณ" หญิงซันพยายามอธิบาย เพราะหากต้องทำตามที่เขาว่า แผนที่หล่อนวางมาคงล้มไม่เป็นท่าแน่ๆ แล้วที่ลงแรงที่ผ่านมาทั้งหมดก็สูญเปล่าไป

ได้โปรดขอให้คำภาวนาเป็นจริง...ให้เขาโอนอ่อนตามที่ปรารถนาที ตอนนี้หัวสิงโตก็จะเอามาบวงสรวงแล้วถ้าสำเร็จ ช่วยลูกด้วยๆ ไม่อยากเสียบริสุทธิ์ให้เกย์ ที่เขาคิดว่าลูกช้างเป็นผู้ชาย ช่วยด้วยเจ้าประคุณ

“สุภาพบุรุษจริงนะ อย่างนี้ยิ่งชอบ" จันทรมาศย่างเท้าเข้ามาใกล้ ยังผลให้สาวแอ๊บแมนผงะถอยหลังแทบตกเก้าอี้ดีที่ใช้มือจิกไว้ทัน แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็บังเกิด เมื่อร่างสูงหย่อนตัวลงบนตักของหล่อน เสียงกรีดร้องเริ่มดังระงมในใจ ทว่าแค่นี้ภาพที่ได้หล่อนเอาไปอวดหม่อมแม่ได้ที่ไหน มันต้องมากกว่านี้ แต่...แค่นี้ร่างกายก็เริ่มประท้วงให้ผลักเขาออกไป หูก็ได้ยินเสียงกระซิบ อีบ้านี่อันตราย ถีบมันลงไปจากตัวเร็วๆ นั่นเป็นแค่ความคิด เพราะในความจริง เธอยังนั่งนิ่งแม้ทุกส่วนของร่างกายก่อม๊อบย่อมๆขึ้นแล้วก็ตาม

อีกนิดเดียว แค่นิดเดียว

มือเรียวบางของชายหนุ่มสัมผัสกลุ่มผมนุ่มที่ยาวระดับบ่าของอาทิตยา ร่างบางถึงกลับสั่นขึ้นมาเป็นเจ้าเข้า แต่ก็พยายามควบคุมสติเอาไว้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ได้แต่ขอรวดเร็ว และให้ไอ้รุ่นน้องที่จ้างมาเก็บภาพได้ไวๆเป็นพอ

“กลัวหรือคะ" หญิงซันสัมผัสได้ถึงลมอุ่นๆปะทะอยู่ใกล้ๆใบหู ริมฝีปากเรียวสวยคงอยู่ตรงนั้น แค่คิดก็อยากกระโดดหลบแล้ว แต่เมื่อนึกถึงเงื่อนไขสำคัญว่าถ้าพลาดจากครั้งนี้แล้ว หล่อนคงไม่มีโอกาศงามๆแบบนี้อีกจึงได้แต่ปลุกปลอบตัวเอง ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง

หญิงซันรู้สึกถึงสัมผัสประหลาด เหมือนสายลมหน้าร้อนเป่าลดบนใบหน้า มันชวนอาเจียนเมื่อคิดว่าอีกไม่นาน เจ้าพี่จันทรุปราคาน่าจะทำอะไรที่ไม่ต่างจากวันวานที่เคยเห็น แต่เปลี่ยนจากชายคู่ขาเป็นเธอ แค่คิด ลมก็ตีขึ้นมาถึงคอหอย

อย่าเอาริมฝีปากที่เที่ยวไปจูบใครมาแตะต้องหญิงซันนะ นี่เธอกำลังพังเพราะตัวเองใช่ไหม ไม่ได้ใจเย็นๆ แค่จูบเดียวแลกใบประกาศอิสรภาพจากเจ้าพี่จันทรุปราคาถือว่าคุ้มมาก ว่าแล้วหญิงสาวก็เตรียมพร้อม เม้มปากแน่น ออกแรงกัดฟันเพิ่มด้วย หากปราการด่านแรกมีอันเป็นไปก็ยังมีกำแพงเมืองชั้นที่สองป้องกัน

“รู้ไหม คุณทำให้ฉันตื่นเต้นมาก" เสียงกระซิบแผ่วเบาดังอยู่ไม่ห่าง ก่อนที่เจ้าพี่จะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นจนระยะห่างระหว่างเราเหลือเพียงหนึ่งเซนต์เห็นจะได้ อาทิตยารู้สึกถึงความหดเกร็งของกล้ามเนื้อทุกส่วน และหัวใจที่เต้นราวกับจะทะลุออกมาจากอก

มือหนายังวนไปมาตามศีรษะ ลูบไล่แผ่วเบา นี่ยังไม่ล่วงเกิน หญิงซันยังอยากเป็นลมหมดสติเสียให้รู้แล้วรู้รอดจะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไรอีก ไม่อยากคิด...ถ้ามันมากกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น

“อย่าเกร็งซิค่ะ เราไปต่อที่อื่นกันดีกว่า เห็นชัดๆว่าเราพอใจซึ่งกันและกัน" นำ้เสียงของเขาเอ่ยอย่างยั่วยวน นั่นยิ่งทำให้หล่อนกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก จนต้องกำมือแน่นๆเพื่อเป็นหลักให้ยึดเกี่ยว พร้อมความคิดที่วูบเข้ามา บ้าเลย พอใจอะไรกันคิดเองคนเดียวแล้วเจ้าพี่ หญิงซันไม่เอา ไม่ไปไหนแล้ว แค่นี้ก็เจียนจะตาย ไปต่อ คงไปเจอกันที่ปรโลกแน่ๆ

“จะ จูบผม" หล่อนว่าเสียงสั่นทั้งที่พยายามสุดกำลังให้มันดูเข็มแข็งและแมนสมชาย ขอรวดเร็วผ่านแล้วกัน หญิงซันเม้มปากแน่นกะว่าจะให้มันเกิดแค่สามสิบวินาที ให้นานพอบันทึกภาพ จากนั้นค่อยถีบหน้าเอาคืนที่บังอาจมาล่วงเกินคนอย่างเธอให้อับอาย

“ใจร้อนจังนะ นี่แค่นิดๆหน่อยๆเอง" หล่อนอยากจะเถียงกลับนำ้เสียงยัวยวนของชายหนุ่มที่ดัดให้แหลมสูง แต่เพราะความรู้สึกกลัวจนมือไม้สั่นเหมือนจะเป็นลม ชั่งไม่เอื้ออำนวยในสิ่งที่อยากทำ ความจริงแค่ทรงตัวอยู่บนเก้าอี้ได้ตอนนี้ก็ถือว่าบุญแล้ว

“แต่ดีค่ะ ชอบเหมือนกัน" สิ้นคำของชายหนุ่ม ใบหน้าคมสวยสะดุดตาเยี่ยงอิสตรีก็โน้มลงเพิ่มอีกนิดจนปลายจมูกทั้งคู่สัมผัสกัน ก่อนจะผละออกประมาณหนึ่งเหมือนต้องการมองหล่อนชัดๆ ระยะห่างที่เกิดขึ้นทำให้หล่อนได้พิจารณาดวงหวานคม...ขนาดไร้เครื่องสำอางยังงดงามกว่าหญิงสาวแท้ๆบางคน ดวงตาสีน้ำตาลประกายวิบวับน่าหลงใหลและน่าค้นหาเคล้ากัน มันดึงดูดความสนใจของใครๆ แถมประสานให้เครื่องหน้าชายหนุ่มดูโดดเด่นเป็นสง่าชนิดที่ว่า หากอยู่ในผู้ชายคงกลายเป็นหนุ่มพราวเสน่ห์ล่อลวงให้เคลิ้มฝัน หากแต่ประดับในหญิงคงให้ความรู้สึกอ่อนหวานนุ่มนวล จมูกนี่ก็เป็นสัน ดูดีแบบไม่ต้องศัลยกรรม เพราะเธอก็เห็นมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กยังอิจฉานิดๆด้วยซำ้ที่มันดูดีเกินหน้าเกินตา ปากก็เรียวสวยอวบอิ่มแลดูธรรมชาติจริงๆ เจ้าพี่นี่สวรรค์ช่วยกันปั้นชัดๆเลยเชียว เสียดายจริงๆที่ดันไปชอบพวกเดียวกัน ไม่งั้นจะได้ดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สวยงาม...และตอนนี้ใบหน้าที่หล่อนกำลังชื่นชมกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้อีกครั้งในความเร็วสม่ำเสมอ ไม่ได้เร่งรีบ ไม่ร้อนรน ระยะห่างน้อยลงเรื่อยๆ ความใกล้เข้ามาแทนที่...ใกล้มากไปแล้วนะ

ในที่สุด หญิงซันก็กระโจนเข้าโซนไม่รับรู้ เปลือกตาปิดลงบอกลาการมองภาพภายนอกเมื่อสัมผัสแผ่วเบาเหมือนขนนกปัดผ่านที่มุมปาก ก่อนตามลงมาประทับที่ริมฝีปากอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน แต่ที่ควรเป็นสีดำที่ได้เห็นเมื่อหลับตา ทว่าทุกอย่างกลับขาวโพลน นึกอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนผีเสื้อนับพันบินว่อนรอบตัว อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆที่พาให้สมองสงบผ่อนคลาย นี่คงเป็นมนต์สะกดที่ทำให้ใครก็ตามสามารถลุ่มหลงถลำลึกลงไปในอำนาจบางอย่างที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้


หญิงซันนั่งตัวแข็งถื่อตั้งแต่ออกจากผับ หล่อนรอดมาได้อย่างโชคช่วยเพราะยัยจิ๊บและรุ่นน้องช่างภาพมาคว้าไว้ทัน หลังจากหล่อนล่องลอยไปไกลในสถานที่ที่ไม่เคยพบ

พอออกมาได้หล่อนก็พูดอะไรไม่ออกซักคำ มันเหมือนโดนลบความทรงจำและระบบการตอบสนอง แววตาล่องลอยอย่างที่ไม่เคยเป็น เล่นเอาเพื่อนจิ๊บต้องจูงมือเป็นเด็กๆ ก่อนจะจับยัดใส่รถตรงที่นั่งเบาะหลัง

“นี่ซันแกไปประกบปากกับเจ้าพี่อย่างนั้นได้ไง สอนไม่จำหรือไง แล้วนั่งแช่ให้เขาจูบอยู่ได้นานสองนาน ถ้าเข้าไปไ่ม่ทันไม่ไปถึงไหนต่อไหนเลยเหรอ บอกให้รอฉันก่อนก็ไม่ฟัง เป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย ซวยตายโหงเลยนะ" ยัยจิ๊บว่าอย่างคนหัวเสีย หลังจากที่นั่งช็อกมาซักพักหญิงซันก็เหมือนจะคืนสติเมื่อได้อากาศเข้ามาในปอดมากขึ้น ร่วมกับถ้อยคำว่ากล่าวแสนเป็นห่วงเป็นใยของเพื่อนชายใจสาว

หล่อนคงต้องยอมรับว่าบรรยากาศมันพาไปได้ไกลสุดกู่จริงๆ

ทฤษฎีที่เพื่อนสอนตอนโดนจูบต้องปิดปากให้สนิท เพื่อลดอาการมัวเมา มันขึ้นใจอยู่ตลอดแหละ ไม่ได้แก้ตัว แต่แค่อยากบอกว่าเวลามันเกิดขึ้นจริงเนี่ยคนละเรื่องเลยนะ ไม่เคยไม่รู้หรอก

“ก็จำได้ แต่พอมันเกิดขึ้นจริง มันแบบ...อธิบายไงดี"

“พอเลยๆ อีตอนเห็นนี่อาเจียน เวลาโดนเองทำเคลิ้ม ยัย...อะไรดีโว้ย ฉันนึกคำไม่ออก" นั่นซิทำไมเธอไม่อยากอาเจียน ความสงสัยแล่นขึ้นมาทันที พร้อมๆกับมือบางยกขึ้นลูบไล้อยู่ที่ริมฝีปากเบาๆเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่

“ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองพี่" เสียงรุ่นน้องนักถ่ายภาพ ทำให้หล่อนหลุดจากภวังค์ หันขวับไปหาเจ้าของเสียงทันทีพร้อมถามจากสายตา ได้วัตถุพยานเปล่า หล่อนลงทุนเสียความบริสุทธิ์ที่ริมฝีปากขนาดนี้แล้วหากไม่ได้...รับรองได้มีใครเละเป็นโจ๊กบ้างแน่ๆ

“ภาพได้เปล่า จ้างมาเเพงนะ"

“โถ เจ้ผมนะ มือระดับ เสี่ยวหญินจื่อ ใครในยุทภพก็รู้ เขานามมือกล้องไร้เทียมทาน" หนุ่มรุ่นน้องเชิดหน้าแอ่นอก ยิ้มกว้าง พร้อมส่งสิ่งที่หล่อนต้องการมาตรงหน้า หญิงสาวรับกล้องมาเปิดดู ภาพชายหนุ่มผมยาวปรากฏขึ้น ริมฝีปากประกบกับชายหนุ่มอีกคนที่เห็นไม่ชัดนักแต่ที่ใบหูประดับแผ่นกลมแบนเล็กจิ๋วซึ่งเป็นต่างหูคู่โปรดของเธอ แค่เห็นอาการคลื่นไส้อาเจียนก็ประทุขึ้น หล่อนรีบคว้าประตูเปิดออก ก่อนจะโก่งคออาเจียน น้ำหูน้ำตาไหลเปรอะไปหมด

“เออ ชั้นรู้แหละ แกอาเจียนเพราะรับไม่ได้ที่เจอลักษณะที่ผิดเพศซิเนี่ย แล้วเพราะแบบนี้แกถึงไม่ชอบผู้ชายและไม่อยากแต่งงาน" หญิงซันไม่ได้สนใจคำพูดของเพื่อนจิ๊บที่ร่ายยาวอย่างเข้าใจทะลุปรุโปร่ง หล่อนรับทิชชูที่ส่งให้มาเช็ดหน้าก่อนจะคว้าขวดน้ำหลังรถมาบ้วนปาก แล้วเข้าไปนั่งสงบเสงี่ยมตามเดิม พร้อมกับปฏิเสธที่จะดูภาพที่เหลือเมื่อรุ่นน้องยื่นวัตถุอันตรายมาให้อีกครั้ง

นี่ภาพเดียวยังอาเจียนแทบหมดกระเพาะ ถ้าดูทั้งหมดที่ถ่ายมาละก้อ ลำไส้คงสะอาดเชียว

อาทิตยากลับขึ้นบ้านฝากจิ๊บเป็นธุระเรื่องล้างภาพ ด้วยความสงสารเพื่อนจึงทำตามบัญชาหญิงซันตามระเบียบ


เช้าวันรุ่งขึ้นนิรมิตหรืออดีตคือนายเมธีปรากฏกายในบ้านคุณเพชราพร้อมซองน้ำตาลในมือ ขณะที่ผู้สูงวัยนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตำแหน่งที่นั่งประมุข

“สวัสดีครับคุณแม่ ผมมีเรื่องมาแจ้งครับ" นิรมิตกล่าวออกไปเสียงเรียบๆ คาดว่าจะมีประกายสงสัยใคร่รู้บ้าง แต่เปล่าเลยท่านมองมานิ่งๆก่อนจะเชื้อเชิญให้ลงนั่งรับประทานมื้อเช้าเสียด้วยกัน หากแต่เขาปฏิเสธเพราะมีธุระของครอบครัวที่ต้องกลับไปจัดการ

“เรื่องที่ยัยซันไปจูบกับเจ้าจันทรมาศหรือเปล่า " ผู้สูงวัยเอ่ยขึ้นมา นิรมิตได้ยินอยากกรี๊ดสลบ แล้วลงไปชักดิ้นชักงอให้ตายกันไปข้าง หม่อมแม่ของหญิงซันนี่อยู่ซีไอเอ หรือเอฟบีไอหรือเปล่า การข่าวถึงรวดเร็วขนาดนี้ รู้อยู่ว่าคุณเพชราไม่ใช่ย่อยแต่นี่มันเกินไปแล้ว แค่ข้ามคืนทราบเรื่องได้อย่างไร และประเด็นคือยัยซันแต่งชายขนาดนั้น ส่วนหม่อมเจ้าจันทรุปราคาก็แต่งเสียหญิงจ๋าด้วยเดรสสีดำสุดเซ็กซี่และแม้ตอนนั้นชายหนุ่มจะไร้เครื่องสำอางแต่ใบหน้าทั้งคู่ที่ชิดกันคงไม่มีใครสังเกตความเป็นชายจากรูปหน้าอยู่ดี...แล้วหม่อมแม่ของยัยซันไปรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นใคร

นี่ถ้าหญิงซันรู้เข้ารับรอง...บ้านแตกแน่ๆ

“กลับไปเถอะ ขอบใจมากนะเมธี ส่วนของในมือแม่ขอนะ" ชายหนุ่มพยักหน้ารับ พร้อมส่งซองสีน้ำตาลให้กับคุณเพชราอย่างไม่เต็มใจนัก กลัวว่าถ้าท่านเปิดดูอาจจะรับไม่ได้จนเป็นลมเป็นแล้งเอา เพราะภายในเต็มไปด้วยภาพเพื่อนสาวแต่งแมนประกบปากดูดดื่มกับหญิงสาวสุดสวยนามจันทรทรมาศนับสิบรูป

"หม่อมแม่ให้มันกับซันแทนผมด้วยนะครับ" มือหนายกขึ้นพนมไหว้ก่อนกล่าวลากลับ หวังนิดๆ ให้ท่านไม่เปิดดู

แม้จะรู้สึกค้างๆคาๆว่าท่านทราบได้อย่างไร แต่โดนไล่โต้งๆแบบนี้ใครไม่ออกก็โง่เต็มที เจ้าของบ้านเขาไม่อยากให้อยู่ดันทุรังจะมีแต่เรื่อง ส่วนเรื่องคุณเพชราได้ข่าวจากไหนยัยซันคงเล่าให้เขาฟังเองตอนหลัง

สงสารมันเหมือนกัน คงไม่รอดจากตำแหน่งภรรยาในอนาคตของเจ้าพี่กรมป่าไม้แล้วละ...ซันเอ๋ย


“ซัน อาบน้ำเสร็จแล้วมาคุยกับแม่ด้วย" อาทิตยาเพิ่งจะย่างเท้าลงกับพื้นบ้าน เสียงหม่อมแม่ของหล่อนก็ลอยมา ดูสำคัญแหะ หรือว่า...ในที่สุดพอจิ๊บมันเอาภาพมาให้ดูหม่อมแม่ก็รู้ว่าเจ้าพี่เป็นเกย์

ว้าว...คุ้มจริง จูบเดียวแรกอิสรภาพทั้งชีวิต ดีจัง แหมๆ ผิดหวังละซิหม่อมแม่ ที่สอยลูกสาวแสนสวยหมวย เริ่ด อย่าง ซันลงจากคานไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะหม่อมแม่ หญิงซันไม่ชอบคานเหมือนกัน แต่ระหว่างคานกับเกย์ ขอเลือกคาน เสริมใยเหล็กราดคอนกรีตเอาแบบทนทานนานปีไปเลย

“ตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ" หญิงซันเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารนั่งยิ้มหน้าระรื่นข้างหม่อมแม่ ที่วางหน้านิ่งๆ จนหล่อนอดสงสารไม่ได้ หม่อมแม่คงเสียใจที่เสียลูกเขยเกย์

“แม่คะ แม่อย่าไปอาลัยอาวรณ์เขาเลยค่ะ ซันเคยบอกแม่ไปแล้ว ว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ ซันเข้มแข็ง" หญิงซันพูดปลอบ หม่อมแม่ทำเพียงปรายตามองเท่านั้น แล้วรอยจุดบุ๋มลึกที่มุมปากก็ปรากฏ หล่อนหวนนึกถึงครั้งหลังสุดที่ได้เห็นใบหน้าเช่นนี้...ยิ้มแบบนี้นี่ไม่เคยมีเรื่องดีซักครั้ง ล่าสุดมันตามมาด้วยแผนนัดเดต ที่กำลังจะเกิดขึ้นมะรืนนี้ แล้วครั้งนี้...จะมีอะไรรออยู่หรือเปล่า

“ถ้าเขาชอบผู้ชาย จะมาจูบกับแกทำไม" หล่อนจ้องมารดาด้วยแววตาสงสัย ขณะที่สมองประมวลผลเร็วจี๋ สิ่งที่ได้ยินคืออะไร...เมื่อวาน...เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะทำให้ท่านทราบเรื่องนอกจากจะนั่งอยู่ตรงนั้นในระยะใกล้พอสมควร

แล้วหม่อมแม่ทราบได้อย่างไรกัน

“อะไรแกจำไม่ได้แล้ว เมื่อคืนแกไปจูบกับเขาที่ผับไม่ใช่หรือ" หญิงซันขมวดคิ้วเข้าหากัน หรือว่า...ยัยจิ๊บเพื่อนเลวหักหลังกันอีกแล้ว หญิงสาวกำมือแน่น

“ฉันรู้เอง ส่วนนี่เพื่อนแกฝากมา" หญิงซันรับซองสีนำ้ตาลจากหม่อมแม่มาถือไว้ ไม่ได้เปิดออกดู เพราะแน่ใจอยู่แล้วว่าข้างในมีอะไร

“อ่อ จากเรื่องเมื่อคืน รู้ไว้ซะ งานแต่งงานแกจะจัดในอีกสามเดือนข้างหน้า แล้วก็ไม่ต้องมาปฏิเสธนะ เล่นทำกันในที่เเจ้งขนาดนั้น ถ้าไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเองก็อย่าเกิดเป็นคนเลยดีกว่า อ่อ ถ้าอยากรู้เรื่องทั้งหมดก็มาอ่านเอาเองในนี้ แล้วอย่าหาเรื่องใส่ตัวให้งานมันเลื่อนขึ้นมาอีก เพราะอย่างแม่และหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสงพร้อมเสมอเพื่องานของลูก แม้ถ้าพรุ่งนี้ต้องแต่งทุกอย่างก็พร้อม รู้เรื่องไหม" หม่อมแม่ชูหนังสือพิมพ์รายวันโบกไปมา พร้อมมองรอดแว่นสายตารอคำตอบจากหล่อนที่นั่งนิ่งอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี

“ค่ะ" หล่อนรับคำ หม่อมแม่พยักหน้ารับรู้ก่อนเดินออกไป ทิ้งบุตรสาวไว้กับหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับ ดวงตากลมโตเพ่งมองที่หน้าแรก

ภาพข่าวที่เห็นพาหล่อนสยอง...ตอนนั้นเจ้าพี่อยู่ในชุดราตรีสีดำสนิท แต่ในภาพข่าวกลับกลายเป็นร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ ดูหล่อเหลาเอาการ ผมเผ้าที่ปล่อยสยายก็กลายเป็นสั้นอารมณ์หนุ่มเกาหลีแล้วใครมันจะไปรู้ว่าหม่อมท่านเป็นตุ๊ดชอบผู้ชายหรือไม่ก็พวกเกย์ เวรกรรมชาติก่อนหล่อนทำอะไรไว้นะแผนการที่วางถึงล้มไปทุกครั้งแบบนี้ ค่าเสียหายแต่ละครั้งก็แสนแพง

เทคโนโลยีสมัยนี้เจ๋งจริงๆ...เปลี่ยนชายใจหญิงเป็นหนุ่มหล่ออกสามศอกได้รวดเร็วรัดนิ้วมือ ด้วยโปรแกรมสุดเก๋ “โฟโต้ชอป”

เรื่อยลงมาใต้ภาพยังมีข้อความบรรยายไว้...ช็อกประเทศไทย หม่อมเจ้าจันทรมาศ กำลังแลกรสรักอย่างอ่อนหวานงดงามท่ามกลางแสงราตรีกับคู่หมั้นสุดแมน อ่านต่อหน้า 5

มือบางเปิดไปหน้าดังกล่าวทันที

เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องใช้ผู้ชายเปลืองไม่ซ้ำหน้าสำหรับหม่อมเจ้าจันทรมาศ ตอนนี้กระติ๊บข่าวสาวของเราเพิ่งสืบรู้มาว่าที่จริงแล้ว ทุกคนที่ว่าหลายแท้จริงคือคนเดียวและที่สำคัญเขาคนนั้นเป็นหญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แม่คุณชอบแต่งชายบวกกับความสามารถในการแต่งหน้าที่หาตัวจับยากเธอจึงดูเป็นผู้ชายพันหน้า

กระติ๊บข่าวสาวลุยดะถึงวงใน จนทราบว่าแม่หญิงขวัญใจท่านชายของเราคือ คุณอาทิตยาหรือน้องซันลูกสาวเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง "เพชรสยามน้ำงาม" เป็นที่รู้กันว่าซี้ปึ้กกับคุณหญิงจันทร์จรัสแสงขนาดหมายหมั้นลูกสาวลูกชายกันตั้งแต่ท่านชายเป็นแค่ตัวอ่อนในท้อง ส่วนคุณน้องซันนี่ยังไม่ปฏิสนธิด้วยซ้ำ ทั้งนี้แหล่งข่าวได้ย้ำมาว่าทั้งสองจะเข้าพิธีสมรสสมรักกันในอีกสามเดือนข้างหน้าแน่นอน พร้อมเรียนเชิญสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้

“กรี๊ด" หญิงซันกรีดร้องเสียงหลง ทั้งภาพและเนื้อหาข่าวเล่นเอาเธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะปวดหัวตุบๆ เหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ หญิงซันเอ้ย วิกฤตแล้วงานนี้ต้องระดมมันสมองจากเพื่อนสนิททั้งหมดที่เคยมีตั้งแต่ชั้นประถมเสียแล้ว แค่ยัยจิ๊บคนเดียวดูท่าจะแพ้หม่อมแม่ราบคาบ ก็หม่อมนะไม่ได้ตัวคนเดียวนิ รวมตัวกับหม่อมเจ้าจันทรจรัสแสงรวมอายุแล้วมาเปรียบกันกับเพื่อนอีกสามที่หล่อนจะลากมาร่วมวงก็ยังแพ้

เที่ยวบินคนเรามันต่างกันจริง หญิงซันปลง

ปลงนะ แต่ไม่ยอม ย้ำสโลแกนอีกครั้ง จะได้จำกันให้มั่น " ระหว่างคานกับเกย์ ขอเลือกคาน"



ครบแล้วคะ 555+
ปล.เกือบลืมบอก เรื่องนี้ปลอดภัยจากนางร้ายเช่นเคย เพราะนางเอกจะร้ายเอง ไม่ใช่ๆ



เด่นเดือน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.พ. 2556, 12:26:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2556, 12:27:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1456





<< บทที่ 1 Neutral Grain Spirit 1/2   บทที่ 2 Romanee-Conti 1/2 >>
ไม้เอก 27 ก.พ. 2556, 18:07:40 น.
รอติดตามอยู่นะคะ ^^


aom 27 ก.พ. 2556, 22:13:04 น.
5555


เด่นเดือน 2 มี.ค. 2556, 08:14:28 น.
ขอบคุณคร้า ^ ^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account