บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา

Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง

ตอน: บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 70% กำลังเข้มข้น ><

บุหงาราคี บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 70%

“เอมี่! หนูไปเอาสร้อยเส้นนี้มาจากไหน!?” คุณชายดูร้อนรนเมื่อแลเห็นสร้อยทับทิมเส้นนี้ เธอหยิบมันขึ้นมาดู วางไว้บนฝ่ามือก็เห็นเพียงทับทิมธรรมดาเพียงแต่ว่าเม็ดใหญ่กว่าปกติและเพชรซีกที่ล้อมอยู่ดีไซน์คล้ายของเก่าเท่านั้น
“ก็...แป๋มให้มาค่ะ เธอบอกว่าท่านพ่อต้องเปลี่ยนใจเรื่องแต่งงาน ถ้าเห็นสร้อยเส้นนี้ ซึ่งเอมี่ก็ไม่เข้าใจ” เธอพูดตามความจริง คุณชายนิ่งอึ้งไปสักพักอรัญญิการ์สังเกตเห็นว่าคุณชายตาแดงๆ เหมือนอยากจะร้องไห้
“แป๋มรึ? หนูแป๋มเองอย่างนั้นรึ ช่างทำร้ายกันได้สาสมเหลือเกิน” คุณชายเปรยออกมาเบาๆ แต่ท่านก็ยิ้มได้แม้น้ำตาเริ่มซึม มีทางเดียวที่สร้อยเส้นนี้จะไปอยู่กับปาฏลีได้ คือหล่อนต้องเกี่ยวข้องกับปัทมา และถ้าเดาจากอายุของหญิงสาว ท่านคิดว่าปาฏลี อาจเป็นคนที่ท่านกำลังรอคอย
“อะไรนะคะ ท่านพ่อ เอมี่ได้ยินไม่ถนัด”
“ไม่...ไม่มีอะไร คงจะจริงอย่างที่หนูแป๋มว่า เพราะฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าเจ้าเปรมมันปฏิเสธเรื่องแต่งงาน ฉันก็คงไม่ห้ามไม่ใช่เพราะสร้อยเส้นนี้เพียงอย่างเดียว แต่เพราะฉันไม่อย่างให้หลานฉันต้องมีชะตากรรมเช่นเจ้าของสร้อยเส้นนี้ต่างหาก ถ้าคุณเปรมไม่ตกลง ฉันก็แล้วแต่หนูเอมี่ก็แล้วกัน สักวันคุณเปรมจะเสียใจหากเขาปฏิเสธหนูในวันนี้ ฉันรับรองเลย”
แม่มดคนงามพยักหน้ารับน้อยๆ เธอไม่รู้ว่าจะตอบคุณชายว่าอย่างไร ท่านสั่งให้เธอรอเปรมินทร์อยู่ที่นี่ ท่านจะไปตามเขาให้อีกคน
สิบห้านาทีหลังจากนั้น เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาอย่างรีบเร่ง ทำให้อรัญญิการ์ละสายตาจากกิ่งกุหลาบน้อยใหญ่ในแปลงเพาะเลี้ยง
“เธอมีเรื่องอะไร? ถึงต้องให้ท่านพ่อกับเพื่อนเธอ ไปตามจิกให้ฉันมาถึงนี่ฮะ!” เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อยนั่นเพราะอ้อมขวัญหล่อนมางานเลี้ยงวันนี้ด้วยและหล่อนได้ประกาศให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาหันมาคืนดีกับหล่อนซึ่งมันไม่เป็นความจริง
“มีอะไรก็ว่ามาสิ! ยืนนิ่งอยู่นั่นล่ะ ฉันมีอย่างอื่นต้องทำอีกมาก” โดยเฉพาะต้องคอยตามแก้ข่าวที่อ้อมขวัญกระจายไว้
“ถ้าคุณอารมณ์ไม่ดี หรือยังไม่พร้อม ฉันก็จะไม่คุย” เธอพูดจบก็เบี่ยงกายจะเดินหนีเขาไป แต่เขากลับไม่ยอมให้เธอจากไปโดยง่ายคว้าเอวบางมาแนบชิดและมันทำให้แขนเขากระทบกับบางอย่างที่น่าตกใจ นั่นคือรอบเอวของแม่มดคนงาม เขาไม่ได้สัมผัสมันมานานเท่าไรหนอ เหตุใด มันจึงผิดปกติมากมายถึงถึงเพียงนี้ ทว่าเมื่อเขาดันร่างหล่อนให้หันมาเผชิญหน้าสิ่งที่ห้อยอยู่ระหว่างอกของหล่อนกลับทำให้เขาตกใจมากกว่า สักร้อยเท่า!
“นี่สร้อยอะไร? เธอเอามาจากไหน มันไม่ใช่ของเธอใช่ไหมเอมี่! ไม่ใช่ของเธอใช่หรือเปล่า”
แม่มดน้อยถูกจับเขย่าจนร่างสั่น คุณเปรมเป็นบ้าไปแล้วกระมังถึงได้ออกอาการร้อนรน เช่นคนบ้าไร้สติเพียงเพราะสร้อยเส้นเดียว
“ถ้าฉันบอกว่าของฉันแล้วคุณจะดิ้นตายตรงนี้ ฉันจะได้บอกว่า ใช่ มันเป็นของฉัน” เธอเล่นลิ้น
เปรมินทร์โกรธจัด เขาปล่อยร่างหล่อนแต่ไม่ยอมปล่อยข้อมือน้อย
“อย่ามาเล่นลิ้น! เอมี่บอกฉันทีได้โปรด มันไม่ใช่ของเธอใช่ไหม” คราวนี้เธอคิดต้องใหม่เพราะเขาเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น นี่มันเรื่องอะไรกัน แค่สร้อยเส้นเดียวจะทำให้สองพ่อลูกถึงกับจะร่ำไห้เพราะมันเชียวหรือ ปาฏลีเอาอะไรมาให้เธอใส่กันนี่
“เร็วสิเอมี่ ฉันรอฟังอยู่” เปรมินทร์ใจเต้นถี่ระรัว เขากำลังจะเป็นบ้าเพราะถ้าสร้อยนี้เป็นของหล่อนเขาคงต้องตกนรกหมกไหม้เพราะสมสู่กับญาติตัวเอง!
“ฉัน...ไม่ใช่ของฉันค่ะ มีคนให้มา” เธอยังไม่บอกว่าเป็นปาฏลีเพราะสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกัน มันอาจทำให้เพื่อนเธอต้องลำบาก
“อย่าถามต่อนะว่าของใคร ฉันไม่บอกหรอก” เธอพูดต่อแต่เขาไม่สน ราวกับว่าขอเพียงไม่ใช่ของเธอเขาก็พอใจแล้ว
“มีเรื่องอะไรถึงมาหาฉันได้ หรือว่าผู้ชายที่ควงอยู่เขาไปมีอีหนูคนใหม่เสียแล้ว” เขาประชดอย่างอดไม่ได้ เขาไม่ได้ไปหาหล่อนเลยนับตั้งแต่ครั้งสุกท้ายที่ไปร้านอาหารด้วยกันนั่นล่ะ ด้วยอะไรๆ หลายๆ อย่างโดยเฉพาะเรื่องงานที่บิดาไม่อยู่เขาเลยต้องดูแลบริษัทและโรงแรมคู่กันไปด้วย
“เอมี่..กำลังจะมี เด็ก!”
“อะไรนะ!?” เปรมินทร์ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หูได้ยิน
“เอมี่กำลังจะมีลูก...ลูกของเราไงคะคุณเปรม”
อรัญญิการ์เริ่มพูดไม่ออก ก้อนสะอื้นแล่นมาจุกในคอ มันข่มปร่าจนเธอต้องหลั่งน้ำตาออกมาระบาย ท่าทีและสีหน้าเขาดูสับสน ไม่มีความดีใจ มีแต่ความระแวงสงสัยในหน่วยตาทั้งสองที่จ้องกลับมาคู่นั้น
“หึ! ลูกใคร?”
“เอมี่ไม่เคยมีใคร คุณเปรมรู้ดีที่สุด” เธอยืนยันหนักแน่นและเขาก็ตอบรับด้วยการแค่นหัวเราะใส่หน้าเธอ มันน่าขันนักหรือที่เธอช่วยย้ำความจริงให้เขาฟัง
“ใช่! เธอพูดถูกไม่เคยมีใครก่อนหน้าฉัน แล้วหลังจากนั้นล่ะเอมี่ ฉันต้องบอกไหมว่าเห็นใครเข้าออกห้องของเธอบ้างฮะ”
“เอมี่เปล่านะ...เอมี่ท้องกับคุณเปรม เราแต่งงานกันนะคะ คุณเปรม ช่วยเอมี่ด้วยเอมี่ต้องตายแน่ๆ ถ้าคุณเปรมปฏิเสธ” แม่มดน้อยร้องขอน้ำตาไหลพรากๆ
“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น ในเมื่อฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเด็กในท้องเธอเป็นลูกฉันจริงๆ หรือเปล่า เธอท้องกับใครก็ไปบอกคนนั้นสิ! อรัญญิการ์” เปรมินทร์น้ำตาคลอเบ้า เขาไม่เข้าใจตัวเอง เขาปฏิเสธไม่ยอมรับลูกของหล่อนแต่เขากลับเจ็บปวด
“ถ้าคุณเปรมไม่ยอมแต่งงานกับเอมี่ เอมี่จะแต่งงานกับคุณชาย” อรัญญิการ์ใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ซึ่งมันทำให้เปรมินทร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ไม่ได้! เธอจะแต่งงานกับท่านพ่อไม่ได้ ฉันไม่ยอม!” เขาประกาศกร้าว กระชากร่างบางเข้าหาตัวอีกหน อรัญญิการ์ร่ำไห้จนหูตาบวมแดงช่างน่าสงสารนัก แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่หล่อนกระทำ ถ้าหล่อนท้องหล่อนควรบอกเขาตั้งแต่แรกไม่ใช่เก็บเอาไว้จนหน้าท้องมันนูนเด่นเห็นชัดขนาดนี้ และเหตุผลเดียวที่หล่อนไม่กล้าบอกเขาก็เพราะหล่อนไม่แน่ใจนั่นไง ไม่แน่ใจว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง ทุเรศสิ้นดี!
“คุณเปรม...ทำไม...ฮึกๆ” อรัญญิการ์ร่ำไห้ครวญชื่อชายที่รักอย่างเหลืออด ทำไมถึงได้ใจร้ายอย่างนี้
“เอมี่ผิดอะไรถึงกล่าวหาเอมี่อย่างนี้ ที่ผ่านมา...เอมี่...ไม่มีความดีให้คุณเปรม จดจำบ้างเลยหรือ...ฮึกๆ ถึงได้เลือกจดจำแต่เรื่องเลวร้ายซึ่งมันมันไม่ใช่เรื่องจริง คุณเปรมเข้าใจผิด เขาเป็นลูกของคุณเปรม...ฮึกๆ เขาเป็นลูกของเราจริงๆ”
อรัญญิการ์จับมือเขาไว้ด้วยอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอพูดความจริง แต่อคติในใจของเปรมินทร์กลับบดบังไม่ให้เขายอมรับความจริงข้อนั้น
“ถ้าเธอยังบังคับฉัน ฉันจะแฉให้หมดว่าฉันเจอใครที่ห้องของเธอบ้าง พวกนักข่าวคงดีใจที่จะได้ข่าวไปเขียนอีกนาน” เขาขู่หล่อน แม่มดน้อยส่ายหน้า ถ้าเขาทำอย่างนั้นคนที่เดือดร้อนคงไม่ได้มีแต่เธอไหนจะเพื่อนรัก พี่ชาย ไหนจะประชาชนเอเมญ่า พวกเขาคงดีใจกระมังหากรู้ว่าท่านหญิงที่ภักดีมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ และที่สำคัญ ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าทุกคนรู้ความจริง คนที่จะเดือดร้อนก็คือเขานั่นล่ะ
อรัญญิการ์ปล่อยมือจากเขา หล่อนถอยหลังออกมหนึ่งก้าว ปาดหยดน้ำตาที่ไหลรินให้หายไปจากวงหน้า แล้วเอ่ยกับเขาด้วยเสียงแหบพร่าว่า
“ถ้าคุณเปรมเลือกปฏิเสธเอมี่กับลูก คุณเปรมก็ห้ามข้องเกี่ยวกับเอมี่อย่างจริงจัง ห้ามไปหา ห้ามมองหน้าเมื่อเจอ ทำเหมือนเราไม่เคยรู้จักกัน ถ้ามีคนถามก็บอกว่า...ไม่รู้เรื่อง ไม่ตอบคำถามใดๆ ให้เป็นประเด็นขึ้นมา ส่วนที่เหลือเอมี่จัดการเอง และช่วยจำไว้ด้วยว่าเราไม่เคยคบกัน ที่ผ่านมาเอมี่คิดไปเองเท่านั้น แล้วก็...” เธอเว้นช่วงเพื่อกลืนก้อนสะอื้น มันทำให้เปรมินทร์จ้องหน้าเธออย่างสงสัย เขาคงอยากรู้กระมังว่าเธอจะร้องขออะไรอีก
“ลาก่อนค่ะคุณเปรม”



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.พ. 2556, 01:22:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.พ. 2556, 01:22:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 9446





<< บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 40%   บุหงาราคี บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 90% >>
Lilly 28 ก.พ. 2556, 01:25:29 น.
อัพถึงบทที่ 15 นะคะ


nutcha 28 ก.พ. 2556, 07:54:59 น.
แล้วหนังสือจะออกเมื่อไรจ๊ะหนูอัญ


Lilly 28 ก.พ. 2556, 11:47:55 น.
เดือนหน้าจร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account