เจ้าบ่าวค้างสต็อก by สลิลา

Tags: เจ้าบ่าว ,สต็อก ,โรแมนติก

ตอน: บทที่ 20

ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าไปในบริเวณบ้าน ทั้งคู่ก็มองเห็นรถหลายคันจอดเรียงรายกันอยู่ริมถนนคอนกรีต บ้างก็เลยไปจอดที่โรงรถ คล้ายเป็นการบังคับให้เขาต้องมาจอดที่หน้าบ้าน

“ซวยแล้ว!” นวินอุทาน สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด

“รถใครเหรอคะ...แล้วพวกเขามาทำไม? อย่าบอกนะคะว่า...” วาณีถามเสียงตื่นเต้น ใจประหวัดไปถึงนภดลและผู้จัดละครคนนั้น

“เพื่อนๆ ฉันเอง” นวินตอบเสียงลอดไรฟัน

“คะ?” จากตื่นเต้นกลายเป็นความตระหนก “แล้วพวกเขามาทำไมคะ แล้วถ้าพวกเขาเห็นหนูตอนนี้ มันจะไม่แย่เหรอคะ”

นวินขบกรามแน่น เร่งหาทางออกเร็วจี๋ ที่สุดแล้ว เขาก็เอ่ยว่า “ไม่มีอะไรดีกว่าเผชิญความจริงอีกแล้วละ”

“คุณอาจะบอกพวกเขาว่าหนูเป็นเมียน้อยคุณกอบทรัพย์เหรอคะ” หญิงสาวร้องถามเสียงหลง

“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องบอกยังไง รอดูสถานการณ์ก่อนก็แล้วกัน...ทำไมพี่นางกับไอ้หว้าไม่โทรฯบอกฉันซักคำนะ” ตอนท้ายเขาบ่นด้วยความหงุดหงิด

“แล้วอย่างนี้...ทุกคนในบ้านไม่บอกความจริงไปแล้วเหรอคะ”

“ฉันหวังว่า พี่นางจะรู้ว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร” นวินพูดจบ ก็ถึงหน้าบ้านพอดี ชายหนุ่มแตะเบรกนุ่มนวล ดับเครื่องแล้วหันสบตากับวาณี เห็นความตระหนกและกังวลในสีหน้าของหล่อน ก็เกิดความสงสาร

ส่วนภายนอกรถ ขณะนี้บรรดาเพื่อนๆ ของนวินเดินตามกันออกมาจากในบ้าน ตามติดมาด้วยหน้าตาตื่นๆ ของเด็กหว้า

ปิยะภัสร์เขม้นมองเข้ามาในรถอย่างสำรวจตรวจตรา วาณีใจคอไม่ดี นึกไม่ออกว่าตนควรจะทำหน้าอย่างไร วางตนอย่างไร นวินอ่านท่าทางของหล่อนออกจึงเอ่ยขึ้นว่า

“ปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันเอง เธออยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน” พูดจบเขาก็เปิดประตูลงไปก่อน วาณีสูดลมหายใจลึกๆ แล้วจึงก้าวตาม

สายตาของทุกคนพร้อมใจกันจ้องวาณีอย่างสนใจ แล้วก็กระซิบกระซาบกันคล้ายไม่แน่ใจ จนวาณีประหม่า

โชคดีที่หว้าเดินไปยืนใกล้ๆ และจับมือหล่อนเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ วาณีส่งยิ้มขอบคุณไปให้ แล้วก็หันไปรอเผชิญเหตุการณ์ตรงหน้า

“บ๊ะ มากันพร้อมหน้าขนาดนี้ ต้องมีเรื่องดีแน่ๆ...” นวินร้องทักด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสปกติ ขณะเดียวกันก็แอบสำรวจทุกคนไปด้วย แล้วก็เห็นชัดว่าต่างตื่นเต้นแปลกๆ บวกกับการที่หมั่นมองไปที่วาณี ก็ทำให้เขามั่นใจว่า ทั้งหมดรู้ว่ามีวาณีอยู่ในบ้านของเขาและที่มาที่นี่ก็คงเพื่อเรื่องนี้นั่นเอง

“เออ ก็ว่างๆ น่ะ พอไอ้มาตรมันโทรฯไปชวน ข้าประชุมเสร็จพอดีก็เลยมา” วิโรจน์เป็นคนตอบ นวินวางสายตาไปทางสมมาตรทันที

“มีความคืบหน้าเรื่องคดีผมอีกเหรอพี่ ผมเพิ่งแยกกับลูกน้องพี่เมื่อกี้เองนะ”

“เออ พี่รู้แล้ว พวกเขาโทรฯมารายงานแล้ว...แต่ตอนไอ้สรโทรฯ ไป พี่อยู่ข้างนอกพอดี ก็เลยมา” นายตำรวจพยักหน้าไปทางไกรศร ซึ่งอยู่ด้านหลังสุด

“พี่ศรล่ะ มาหาลูกค้าแถวนี้พอดี ก็เลยแวะมาล่ะสิ” นวินเอียงหน้าเพื่อจะได้มองหน้าเจ้าของชื่อชัดๆ

“เอ้อ ก็ทำนองนั้น ยายแอ๊นท์มันโทรฯหา ข้าก็เลยมา”

“แอ๊นท์?” นวินทวนชื่อนั้นประหลาดใจ ปิยะภัสร์เรียกทุกคนมาที่นี่อย่างนั้นหรือ?

“ใช่ค่ะ แอ๊นท์เอง” เสียงใสๆ ของปิยะภัสร์ดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาด้านหน้าสุดพร้อมออมเงิน สายตาของสองสาวจับจ้องที่วาณี ของออมเงินเต็มไปด้วยความผิดหวังระคนไม่พอใจ ส่วนปิยะภัสร์นั้นสำรวจตรวจตราระคนระแวง

ช้องนางเดินเร็วๆ ตามสองสาวออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เธอเดินไปยืนใกล้นวินกับวาณีอย่างพร้อมจะเข้าข้างและเป็นพวกเช่นเดียวกับหว้า

“และคนที่โทรฯหาพี่แอ๊นท์ก็คือออม” ออมเงินอธิบายต่อด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดโทษอาหนุ่ม “เพราะออมได้ข่าวว่าอาวินมีหลานสาวคนใหม่ แต่เก็บตัวเอาไว้แต่ในบ้าน ไม่ยอมให้พวกเรารู้จัก”

นวินลอบถอนหายใจโล่งอก ที่อย่างน้อย เรื่องที่ออมเงินรู้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขากับวาณีนึกกลัว!

“ไม่ใช่ไม่ยอมให้รู้จัก แต่มันยังไม่ถึงเวลา” นวินหัวเราะอย่างสบายใจ ทำท่าจะต้อนทุกคนเข้าบ้าน แต่ก็ต้องชะงักกับเสียงคาดคั้นปนน้อยใจของออมเงิน

“นี่ถ้าออมไม่เข้าไปที่โรงงานวันนี้ ก็คงไม่รู้เรื่อง...” แล้วออมเงินก็เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า “เมื่อตอนบ่าย ออมแวะไปที่โรงงานของอามาค่ะ ตั้งใจจะไปคุยกับคุณน้ำเพชรเรื่องงานซักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอของดีเข้า”

“เจออะไร” นวินถามพลางขมวดคิ้ว ยิ่งสัมผัสน้ำเสียงสั่นเครือและแววตาผิดหวังรุนแรงของออมเงิน เขาก็ยิ่งแปลกใจ

“เจอสิ่งที่ทำให้ออมรู้ว่าคุณรัฐเขารักน้ำเพชรนะสิคะ รักมากเสียด้วย...”

นวินกับวาณีหันสบตากันด้วยความแปลกใจ โดยนวินนั้นมีความหวั่นใจแทรกเข้ามาด้วย

“คุณออมเข้าใจผิดค่ะ คุณรัฐไม่ได้ชอบฉันแน่ๆ” วาณีรีบหันไปตอบ

“แต่...”

“ถ้ารัฐจะชอบน้ำเพชรจริงๆ อาก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกหรือผิดอะไรนะ ออม เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้วไง” นวินขัดขึ้นพลางมองหลานสาวเชิงปราม “ที่ออมมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ไม่ใช่หรือ”

ออมเงินสูดลมหายใจยาวๆ คล้ายเพื่อกลืนความรู้สึกผิดหวังความเจ็บปวดลงไป แล้วเอ่ยว่า

“ค่ะ...ออมและทุกคนอยากรู้ว่า...อาวินมีญาติอยู่ที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อไรคะ”

“เอ่อ...ลุงว่าเราเข้าไปนั่งคุยกันในบ้านดีกว่านะ ยืนคุยกันนานๆ แล้วขามันแข็ง” พูดจบชายวัยไขข้อเสื่อมก็เดินนำเข้าไปในบ้าน ทุกคนขยับตัวตาม หากแต่ออมเงินกับปิยะภัสร์ยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม

“ออมถามลุงๆ ทุกคนแล้ว ทั้งหมดยืนยันตรงกันว่า อาวินไม่มีญาติอยู่ต่างจังหวัดแน่นอน แล้วจะมีหลานสาวโผล่มาได้ยังไง...ตกลง น้ำเพชรนี่เป็นใคร และเป็นอะไรกับอากันแน่!”

นวินถอนหายใจยาว กวาดตามองทุกคนที่กำลังรอฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อช้าๆ

“น้ำเพชรเป็นลูกของเพื่อนอาน่ะ ไม่ใช่ญาติจริงๆ หรอก พอดีมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย พ่อแม่เขาก็เลยเอามาฝากไว้กับอาก่อน” ชายหนุ่มเน้นแต่ละคำชัดเจน

“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” ปิยะภัสร์เอ่ยขึ้นเป็นคนแรกด้วยน้ำเสียงโล่งใจ แล้วก็หันไปยิ้มกับวาณีอย่างเป็นมิตร “ชื่อน้ำเพชรเหรอคะ แอ๊นท์ค่ะ แอ๊นท์เป็นหลานสาวคนหนึ่งของอาวินเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

วาณีส่งยิ้มกลับโดยอัตโนมัติ “วา...เอ่อ...น้ำเพชรค่ะ”

“แต่ออมไม่เชื่อ คุณลุงทุกคนก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน” พอหล่อนอ้างอย่างนั้นก็มีเสียงครางฮือมาจากหลายคน ทำนองว่า ไม่จริงม้าง แต่สาวช่างตีขลุมเอ่ยต่อไปว่า “ถ้าเป็นลูกสาวเพื่อนจริงๆ ทำไมอาไม่บอกออมซักคำ ทั้งที่เราเจอกันบ่อย แล้วทำไมอาต้องสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดเรื่องน้ำเพชรด้วย นี่ถ้าพี่แป๋มไม่หลุดพูดว่า คุณรัฐคงไม่กล้าอาจเอื้อมจีบหลานสาวเจ้าของโรงงาน ออมก็คงไม่รู้”

“ก็ตั้งใจว่า...”

“อ้อ แล้วอาวินก็ยังหวงน้ำเพชรมาก ถึงขนาดไม่ยอมให้ออกไปไหนมาไหนโดยไม่มีอาด้วย ขนาดจะไปคุยกับลูกค้าก็ยังไม่ยอมให้ไป ที่สำคัญ ตอนนี้อาวินทำสตูดิโอเล็กๆ ให้น้ำเพชรออกแบบเฟอร์นิเจอร์ส่งเข้าประกวดด้วย” ออมเงินพูดต่ออย่างนึกได้ ได้ยินอย่างนั้น นวินก็ตบหน้าผากแปะๆ ด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม

“นี่ออมไปบอกทุกคนอย่างนี้ใช่มั้ย ถึงได้แบกสังขารกันมาเนี่ย...” เขาว่าพลางมองไปทางรุ่นพี่อย่างละเหี่ยใจ

“สำคัญที่ว่า มันเรื่องจริงหรือเปล่า ไอ้วิน ที่แก...กับหนูคนนี้...เป็น...กิ๊กกันน่ะ” สมมาตรรีบพุ่งเข้าประเด็นที่ทำให้พวกเขาต้องแบกสังขารกันมาอย่างที่นวินว่า

“บ้ากันไปใหญ่แล้ว กิ๊กเกิ๊กที่ไหนกัน” นวินเกาหัวแกรกๆ ขณะที่คนที่ไม่รู้ความหมายของคำนั้น ได้แต่ยืนทำหน้าเหลอหลา และพยายามจับใจความสิ่งที่ทุกคนพูดกัน

“ถามจริง พวกพี่เคยเห็นผมงุบงิบคบผู้หญิงเรอะ คบใคร ผมก็บอกพวกพี่ตลอดอยู่แล้ว อย่างผมไม่จำเป็นต้องแอบคบหรอกน่า เพราะผมไม่มีเมีย ไม่มีลูกที่ต้องเกรงใจเหมือน...คนอื่นๆ ไง!”

บรรดาคนมีเมียมีลูกทั้งหลายสะดุ้งโหยง หันมามองหน้าเขาพร้อมเพรียง แล้วก็สั่นหน้า ออกเสียงปฏิเสธให้อึงมี่ “ไม่มี้ ไม่ได้แอบคบใคร เนอะ พวกเรา”

“โอ เค ข้าเชื่อเอ็ง...” วิโรจน์พยักหน้าพลางมองไปที่คนสาวที่แต่งตัวเป็นป้า ซึ่งห่างไกลลิบหล้าจากรสนิยมของหนุ่มรุ่นน้อง “...ไง หนูออม ลุงบอกแล้วว่าตามที่หนูเล่ามาน่ะ ร้อยก็ไม่ใช่พันก็ไม่ใช่สเป็กไอ้วิน แต่หนูก็ยัง ‘บิ๊วท์’ จนพวกลุงต้องแบกสังขาร เอ๊ย ต้องมาดูให้เห็นกับตาเลย”

ตอนท้ายเขาโบ้ยความผิดไปทางออมเงิน เพราะเจ้าหล่อนเป็นคนโทรฯหาปิยะภัสร์ แล้วเล่าเรื่องที่ได้รู้มาทั้งหมดให้ฟัง พร้อมกับฟันธงว่า เด็กน้ำเพชรเป็นผู้หญิงของนวินแน่นอน ปิยะภัสร์ผู้หัวอ่อนเลยเชื่อหมดใจ ก็เลย ‘บิ๊วท์’ พ่อของตนอีกต่อหนึ่ง

หลังจากนั้นไกรศรก็โทรฯหาทุกคนในกลุ่มแบบประชุมสาย เพื่อปรึกษากัน ต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอ ‘เด็ก’ ของนวิน แม้จะตงิดใจอยู่บ้าง เพราะใครสักคนจำได้ว่าออมเงินเคยเอ่ยชื่อนี้ให้ได้ยินแล้ว แต่เหมือนจะรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ ออมเงินโทรฯเข้ามาอีกคน แล้วย้ำถึงเหตุผลที่หล่อนคิดอย่างนั้น

ที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจว่าต้องมาดูหน้ากิ๊กไอ้วินให้ได้ ว่าเป็นใคร ทำไมมันถึงพาเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่บอกกล่าวพวกเขา สวยขนาดไหน มันถึงได้หวงนัก โดยที่ตลอดเวลานั้น สองสาวปิดปากเงียบเรื่องของรัฐภูมิ

ไม่นึกเลยว่า พอมาถึงแล้วเรื่องจะตาลปัตร เพราะนอกจากจะไม่ใช่ผู้หญิงของนวินแล้ว หญิงสาวที่นวินเป็นข่าวด้วย ห่างไกลคำว่าสวยหลายร้อยโยชน์ทีเดียว ท่าทางก็แข็งๆ เรียกว่าผิดจากรสนิยมของนวินไปหลายร้อยโยชน์เช่นกัน

“ตอนนี้เข้าใจกันแล้วใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปข้างในเถอะค่ะ ดิฉันให้คนจัดของว่างไว้ที่ริมสระแล้ว เชิญค่ะ” ช้องนางรีบเอ่ยขึ้นก่อนที่ออมเงินจะเอ่ยอะไรขึ้นอีก

“แต่ออม...” หญิงสาวยังดื้อดึง

“พอเถอะ หนูออม แค่นี้หนูก็ทำให้พวกเราตกใจกันมากพอแล้วนะ” วิโรจน์ขัดขึ้นเชิงตำหนิ “ไอ้วินมันบอกว่าลูกสาวเพื่อนก็คือลูกสาวเพื่อน โอ เค นะ จบนะลูก”

ออมเงินอ้าปากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นสายตากำราบของทุกคน หล่อนก็จำต้องหุบปากด้วยอาการฮึดฮัดขัดใจ

“ก็ได้ค่ะ ออมเชื่อก็ได้...แต่ออมก็มีเรื่องที่ต้องคุยกับน้ำเพชรตามลำพังอีกเรื่องหนึ่ง!”



ออมเงินยืนคุยกับวาณีที่หน้าบ้าน โดยมีหว้าคอยป้วนเปี้ยนคอยสอดส่องสถานการณ์อยู่ไม่ห่าง ตามคำกระซิบสั่งของนวิน

ส่วนคนที่เหลือรวมตัวกันอยู่ที่ริมสระน้ำ แม้จะไม่ได้มีการนัดหมายมาก่อน แต่ช้องนางก็มีเครื่องดื่มและของขบเคี้ยวมาเสิร์ฟไม่ขาดตกบกพร่อง โดยมีปิยะภัสร์เป็นลูกมืออยู่ในครัว

ซึ่งเมื่อไม่มีใครติดใจสงสัยในคำตอบของนวินแล้ว บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเฮฮาสนุกสนาน แม้แต่เจ้าของบ้านซึ่งก่อนหน้านี้เครียดอยู่ ครั้นได้พบเพื่อนๆ พร้อมหน้า เขาก็ผ่อนคลายขึ้น

จะกังวลในตอนนี้ก็เรื่องของวาณีกับออมเงินเท่านั้น...กังวลว่า คนภาษาไทยไม่แข็งแรงอาจจะทำให้เรื่องเลวร้ายลงกว่าเดิม ทั้งยังกังวลในความใจร้อนและทำอะไรไม่คิดของออมเงินว่าอาจทำให้เรื่องต่างๆ ยุ่งยาก อย่างที่เพิ่งทำให้เขายุ่งยากไปเมื่อครู่นั่นละ

แม้จะนึกเห็นใจออมเงินในข้อที่รัฐภูมิไม่ชอบไม่รัก แต่เขาก็รู้ดีว่า ต่อให้ไม่มีวาณี รัฐภูมิก็ไม่ชอบหลานสาวคนนี้ของเขาอยู่ดี ฉะนั้น การพูดกับวาณีนั้นหาประโยชน์ได้น้อยมาก เมื่อครู่นี้เขาเลยพยายามค้าน แต่ออมเงินไม่ฟัง แถมวาณียังบอกว่ายินดีอีกต่างหาก เขาเลยพูดอะไรไม่ได้อีก

“เฮ้ย วิน มีอะไรจะบอก” วิโรจน์เดินถือแก้วเครื่องดื่มมานั่งบนพนักเก้าอี้ที่นวินนั่งอยู่ด้วยท่าทีตื่นเต้น ตรงข้ามนวินคือสมมาตร ซึ่งเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็หันมาฟังด้วย “วันก่อนไปเจอสาวสวยคนหนึ่ง เป็นลูกของเพื่อนเก่า เพิ่งกลับจากอเมริกา สวย เรียบร้อยอ่อนหวาน ตรงตามสเป็กแกทุกอย่าง ที่สำคัญ ยังโสดด้วย”

“สวยขนาดนั้น ทำไมยังโสดล่ะ พี่” นวินถามเรื่อยๆ ไม่ได้ใส่ใจนัก “บอกตรงๆ เข็ดแล้ว พวกทำแอ๊บแบ๊วว่าเรียบร้อย ไม่มีแฟน แต่จริงๆ ซุกผู้ชายไว้น่ะ”

“เฮ้ย แต่คนนี้โสดสนิทร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียบร้อยจริง อ่อนหวานจริง ไม่แอ๊บแบ๊ว ขนาดไปอยู่เมืองนอกแท้ๆ ยังเรียบร้อยได้ขนาดนี้” กระแสเสียงชื่นชมเต็มพิกัด “แล้วเขาก็ไม่ชอบไอ้หนุ่มผมทองที่โน่นด้วย บอกว่าอยากฝากชีวิตไว้กับหนุ่มไทยนี่แหละ เข้าใจกันง่ายดี”

“แล้วมีคนที่เขาฝากชีวิตไว้กี่คนแล้วล่ะ” สมมาตรช่วยซักแทน

“เฮ้ย ก็บอกว่าไม่มีไง เขาเพิ่งกลับมา และเป็นคนไม่ชอบออกงาน เลยยังไม่ค่อยมีคนรู้ นี่ถ้าคนรู้นะ รับรองหัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่ ฉะนั้น ไอ้วินควรจะรีบๆ หน่อย”

“รีบไปก็ไม่มีประโยชน์มั้งพี่ ยังไงพวกพี่ก็ทำมันพังอยู่ดี” ชายหนุ่มประชดเซ็งๆ “ขี้เกียจอกหักแล้วนะเว้ย”

วิโรจน์กับสมมาตรสบตากัน ขณะที่ไกรศรที่กำลังเติมน้ำแข็งให้แก้วตัวเอง ต้องรีบกลับมาร่วมโต๊ะ พลางเอ่ย

“เฮ้ย พวกข้าก็ขอโทษเอ็งไปแล้วไงวะ แล้วตอนนี้ก็ไม่มีแล้วด้วย เป็นเด็กดีกันหมดแล้ว ตั้งแต่ไอ้สินทร์ตายนั่นแหละ” ปลายเสียงของคนพูดแผ่วเศร้าลงไปเล็กน้อย

ทว่านวินส่ายหน้าปราศจากความเชื่อถือใดๆ “อมขี้มาพูดก็ไม่เชื่อ”

“เลิกแล้วจริงๆ มันเหนื่อยแล้วโว้ย เหนื่อยแล้วก็กลัวจะโดนเหมือนไอ้สินทร์ด้วย เจอเด็กคราวลูกหลอก เสียศักดิ์ศรีหมด” วิโรจน์รีบสนับสนุนเพื่อน ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก แต่นวินก็ยังไม่อาจวางใจอยู่ดี เพราะไม่ว่าพี่ๆ ของเขาจะมีหรือไม่มีเมียน้อย เขาก็ไม่เคยรู้มาก่อนอยู่ดี จะรู้ก็วันที่ทุกคนเอามา ‘ยัดเยียด’ ให้เขานั่นแหละ

“ไอ้โรจน์ สาธยายคุณสมบัติสาวน้อยคนนั้นต่อดิ๊ ถ้าไอ้วินมันไม่จีบ ข้าจะจีบเอง” สมมาตรเปลี่ยนเรื่องมาที่เรื่องก่อนหน้านี้ ทุกคนหันมองหน้าเขาขวับ เห็นอย่างนั้น นายตำรวจเลยกลางคนก็รีบส่ายหน้า

“เฮ้ย ข้าหมายถึงว่าข้าจะจีบให้ไอ้วินมันไงเล่า แหม ทำยังกะไม่เคย จำได้มั้ย คราวหนูอะไรน้า ที่เป็นสาวเชียงใหม่น่ะ ก็ฝีมือพวกเราไม่ใช่เรอะ”

พอสมมาตรพูดอย่างนั้นทั้งหมดก็หัวเราะครืน รวมทั้งนวินด้วย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อประมาณสี่ห้าปีก่อน ตอนที่นวินเริ่มแบ่งเวลาระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ และเริ่มมองหาเจ้าสาวแสนสวยมาร่วมเรือน แต่ความที่ร้างเวทีไปนาน นับจากวันที่ต้องกู้โรงงานกลับคืน ชายหนุ่มวัยสามสิบเจ็ดจึงจีบสาวแบบเก้ๆ กังๆ ความสัมพันธ์จึงไม่คืบหน้าเสียที เดือดร้อนบรรดารุ่นพี่ต้องออกโรงช่วย จนได้คบหากัน แต่ก็นั่นละ สุดท้ายใครสักคนในที่นี้ก็เป็นคนทำลายมันลง

พวกเขาย้อนความหลังกันต่อพอหอมปากหอมคอ วิโรจน์ก็วกกลับมาที่จุดหมายของเขาอีกครั้ง

“ว่าไงวะ สนใจป่าว ถ้าสนใจ ข้าจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ ต้อนรับเขากับแม่อยู่แล้ว เอ็งก็ไปด้วย จะได้เจอกัน”

“เอ๊ะ ทำไมพี่ต้องจัดงานให้แม่เขาด้วยวะ พี่โรจน์ อ่ะแน่ะ! ตกลงเพื่อนเก่าหรือแฟนเก่าวะ” นวินชี้หน้าส่งสายตาคาดคั้น วิโรจน์หัวเราะแหะๆ แล้วพยักหน้า

“เออ เคยคบกับแม่เขาอยู่เกือบปี ก่อนเขาจะไปแต่งงานกับไฮโซ...ตกลงนะเว้ย ข้าจะได้โทรฯบอกแม่เขา ว่าจะมีเพื่อนไปด้วยอีกคน”

“ขอ...”

“ตกลง!” สองคนที่เหลือประสานเสียงตอบแทนโดยพร้อมเพรียง นวินที่จะบอกว่า ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน เลยจำต้องหุบปาก ส่ายหน้าขำๆ

“ว่าแต่ขอดูรูุปก่อนได้มั้ยวะ ไอ้โรจน์ ว่าสวยสมกับเป็นลูกแฟนเก่าแกหรือเปล่า” สมมาตรออกอาการกระตือรือร้น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้วิโรจน์ที่แกล้งหยิบมือถือขึ้นมา ทำท่ากดๆ อยู่ครู่ก็เงยหน้ามาเอ่ยหน้าตายว่า

“ไม่มี...ไอ้บ้า ข้าจะไปถ่ายรูปลูกสาวเขาได้ยังไงเล่า เดี๋ยวเขาหาว่าข้าเป็นตาแก่หัวงูหรอก”

หลายคนทำหน้าผิดหวังไปตามๆ กัน

“แล้วชื่ออะไรวะ ขอฟังหน่อยว่าชื่อเหมาะกับไอ้วินหรือเปล่า...” ไกรศรซักบ้าง

ยังไม่ทันที่วิโรจน์จะตอบอะไร หว้าก็วิ่งหน้าซีดเข้ามาพูดเสียงสั่น

“เจ้านายฮะ คุณออมผลักพี่วาณีล้ม ตอนนี้พี่วาณีสลบไปฮะ!”


(จบบทที่ 20 ค่ะ ตอนหน้ามาลุ้นกัน วาณีจะเป็นอะไรหรือเปล่าน้า และอาจจะมีความลับบางอย่างที่ทุกคนอยากรู้ด้วยละ อิอิ)

คุยกันค่า

อ้อม...อ๊ะ อ๊ะ
คุณ Pat...อุ๊บส์ คนเขียนปิดปาก 5555555
คุณ goldensun...คุณอาแกก็คงสับสนมากเหมือนกันน่ะค่ะ อิอิ
คุณ sukhumvit66...อุ๊บส์ คนเขียนปิดปากอีกหน 555555
คุณ pattisa...เอาไว้ให้วาณีเล่นตัวคืนให้สะใจเนาะ
คุณ konhin...เอ่อ...เมนท์ผิดเรื่องหรือเปล่าค้า ของเค้ามะช่ายรักต่างพรมแดนน้า รักต่างวัยน้า อิอิ
คุณ Pampam...เดี๋ยวให้วาณีเอาคืนตาลุงค่ะ 555555
คุณประทับใจ...ขอบคุณที่ส่งข่าวค่า ^__^




วิรัตต์ยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มี.ค. 2556, 21:42:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มี.ค. 2556, 21:42:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 2079





<< บทที่ 19    บทที่ 21 >>
Pampam 13 มี.ค. 2556, 21:56:30 น.
ยัยออมก่อเรื่องอีกละ ตอนหน้ามาเร็วๆนะคะ


Sukhumvit66 13 มี.ค. 2556, 22:14:17 น.
เป็นเรื่องแระ ฟามจำจะกลับมาแล้วใช่ไหม ขอตอนต่อไปด่วนๆ


Pat 13 มี.ค. 2556, 22:53:41 น.
ผลักอีท่าไหนเนี่ยถึงกับสลบ เดี๋ยวความลับเรื่องปลอมตัวแตก แล้ว 'คุณอา' หลุดมาด(เป็นห่วง)ให้พี่ๆเพื่อนๆจับได้พอดี


วิรัตต์ยา 13 มี.ค. 2556, 23:35:51 น.
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงตอนต่อไปให้ค่า


ลิลลี่ 13 มี.ค. 2556, 23:40:21 น.
คุณลุง เอ้ย คุณอา ตกลงจะเอาไงแน่ จะไปดูตัวก็ไป จะจีบเด็กก็รีบจีบซะ อย่าลังเล อย่าให้รีดเดอร์โมโห!!!!!! 55

++++++ผลักยังไงถึงกับสลบเลย ผลักไหกระแทกอะไรเนี่ย
นิสัยออมบอกตรงๆ เราเป็นคุณรัฐก็เไม่เอาหรอก นอกจากไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ยังชอบพยามยัดเยียดบังคับให้อีกฝ่ายต้องรักตัวเองตอบ ดูไม่น่ารักเลย


konhin 14 มี.ค. 2556, 01:25:27 น.
ก่อเรื่องซ้ำอีกแล้วยัยออม


NB 14 มี.ค. 2556, 05:54:37 น.
ลุ้นๆๆๆ


Hibara 14 มี.ค. 2556, 07:10:20 น.
โอ๊ยยย รอตอนพรุ่งนี้ขาดใจก่อน >.<


goldensun 14 มี.ค. 2556, 07:16:41 น.
ความลับปิดไม่อยู่ละ งานนี้ วาถึงสลบ อาวินหลุดแน่
ชักสงสัยว่าออมเป็นคนผลักไม้หล่นลงมาแล้วสิ


ตุ๊งแช่ 14 มี.ค. 2556, 08:45:54 น.
อ่ะ เอ๊ะ อะไรค๊า ถูกต้องชิมิ


minddeer 14 มี.ค. 2556, 11:27:47 น.
รอ..รอ อยู่นะคร๊า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account