เล่ห์รักเล่ห์เสน่หา
เล่ห์เหลี่ยมมีไว้ใช้กับคนรอบกาย
แต่หัวใจ...ใช้เพียงเล่ห์รักเท่านั้น
Tags: พฤกษ์ หทัยภัทร บุษบาฮาวาย

ตอน: ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

ในสภาพครึ่งหลับครึ่งฝันหทัยภัทรมองเห็นตัวเองนั่งกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่ในบ้าน สายลมที่พัดโชยอยู่ตลอดเวลาหอบเอาความหนาวเย็นมาปะทะร่างจนแทบสั่นสะท้าน โชคดีเหลือเกินที่แสงแดดอ่อน ๆ กำลังจะเริ่มสาดมา และพอได้เห็นดังนั้นเธอจึงไม่รีรอที่จะสาวเท้าออกไปด้านนอกซึ่งโล่งแจ้งหวังหยุดยืนรับไออุ่นจากมัน

แต่...พอจะขยับกายเธอกลับรู้สึกเหมือนปะทะเข้ากับอะไรสักอย่าง หนักแน่นแถมไม่ไหวติง ทั้ง ๆ ที่มองไปรอบตัวก็ไม่เห็นใครอยู่ในบริเวณนั้นเลยแม้แต่คนเดียว

หทัยภัทรพยายามขยับตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมอง ซึ่งพอเห็นความมืดมิดรายล้อมอยู่รอบตัว เธอก็ผ่อนลมหายใจออกมาเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน พร้อม ๆ กับปิดตาลงอีกครั้ง ทว่า...

“กรี้ด...”

เธอดีดตัวขึ้นนั่งพลางหวีดร้องออกมาด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อแขนเรียวที่ในฝันมีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่ในอ้อมกอด วางพาดอยู่บนเนื้อแท้ ๆ ของใครคนหนึ่ง ที่สำคัญกลิ่นหอมแปลก ๆ กับเสียงเครื่องปรับอากาศตลอดจนผิวสัมผัสของเตียงนอนก็ไม่ใช่สภาพที่เคยคุ้นแม้แต่น้อย ซึ่งพอแสงไฟจากโคมหัวเตียงสว่างวาบขึ้นภายหลังมีเสียงเคลื่อนไหวสวบสาบรวดเร็ว หทัยภัทรก็แทบช็อค

“คุณ!”

สภาพร่างหนากำยำที่ทอดกายเปลือยอกอยู่ใกล้ ๆ ทำให้หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก กายบอบบางสะท้านยะเยือกไปทั้งร่างประหนึ่งมีใครเอาน้ำเย็นมาราดเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เมียผม ตื่นแล้วเหรอครับ”

พฤกษ์ล้มตัวลงนอนและหลับไปพร้อมความเครียดที่ก่อตัวขึ้นเพราะคำถามที่ว่าจะทำอย่างไรหทัยภัทรจึงจะอยู่อย่างปลอดภัยและไม่ต้องได้ข้องเกี่ยวกับนายจ้างผู้ฉาบความดีเอาไว้แค่เปลือกนอกและห่างจากพี่ชายที่ไม่เห็นชีวิตใครสำคัญเท่าเงินและการพนันอย่างถาวร

สุดท้ายสิ่งที่พฤกษ์คิดคือต้องทำอะไรสักอย่างให้หทัยภัทรอยู่ในระยะสายตาที่เขาจะมองเห็นตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะเสียดายเงินหากแต่เป็นเพราะสงสารและห่วงว่าชีวิตที่ดีงามของเธอจะต้องด่างพร้อยด้วยน้ำมือของพี่ชาย

เหตุเพราะได้เห็นในความไม่เหมือนใครของเธอ พฤกษ์จึงปรารถนาให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ดังนั้นจากที่ไม่เคยคิดว่าต้องได้มาสู้รบปรบมือกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ยามนี้เขาจึงจำเป็นต้องทำ

รอยยิ้มกริ่มของพฤกษ์ที่ยังคงนอนอยู่ในท่าเดิมขณะเอ่ยทักมา ทำให้หทัยภัทรแทบเต้น เธอเบิกตาโตพลางละล่ำละลักถามเขาด้วยความตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย

“เมียเหรอคะ ใครเป็นเมียคุณ”

“อ้าว นอนด้วยกันมาตั้งหลายยก ไม่เรียกว่าเมียแล้วจะให้เรียกว่าอะไร”

“ไม่จริง คนบ้า”

“พูดแบบนี้ อย่าบอกนะว่าจำอะไรไม่ได้”

“คะ?”

ใบหน้าเรียวของหทัยภัทรร้อนฉ่า เมื่อเห็นประกายตาเต้นระริกราวกับขบขันของพฤกษ์ แถมคำพูดของเขาที่บอกไว้อย่างชัดเจนว่ามีอะไร ๆ กันไปหลายครั้งนั้นก็ชวนให้เธออยากจะกรี้ดออกมาอีกรอบ

“คุณร้อนแรงเป็นบ้า ทำเอาผมแทบคลานขึ้นเตียง”

“อย่านะ”

คำพูดของพฤกษ์แถมเขายังส่งไม้ส่งมือมาแตะที่แก้มของเธอ ทำให้หทัยภัทรต้องร้องห้ามพลางยกมือเรียวขึ้นปัดอย่างไม่ชอบใจ ตาโตหลุบลงมองเสื้อผ้าบนร่างกายของตนเอง ก่อนจะเถียงเขาออกมาคอเป็นเอ็น

“ไม่จริง ฉันไม่ได้มีอะไรกับคุณ เราไม่ได้มีอะไรกัน”

“จะเอาอะไรมาเป็นหลักฐานล่ะ หรือไปให้หมอตรวจภายในกันดีไหม”

หทัยภัทรก็เหมือนสาว ๆ ปกติทั่วไปที่หวาดกลัวต่อการตรวจภายใน เธออายุเพียงแค่นี้แถมชีวิตก็ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทำไมต้องบากหน้าไปนอนให้ใครก็ไม่รู้รุกล้ำเรือนร่าง ฉะนั้นเธอจึงไม่กล้าจะรับคำท้าของพฤกษ์

“ก็...ก็ฉันยังสวมเสื้อผ้าอยู่ดีเป็นปกติ”

หญิงสาวว่าพลางลูบกระโปรงที่เลิกขึ้นมาถึงหน้าขานั้นลง ต่อให้เขาจะบอกว่าเธอมีอะไรกับเขาแบบร้อนแรงซาบซ่าแค่ไหน ยามนี้เธอก็ไม่อยากให้มันปรากฏต่อหน้าเขาอีกแล้ว

“หึ ๆ โธ่...คุณพูดยังกับว่าถ้าถอดออกแล้วจะใส่มันกลับคืนไม่ได้ยังงั้นแหละ”

“ก็...มัน...”

ใบหน้าเรียวเหยเกด้วยนึกคำพูดไม่ออก ที่สำคัญเขาก็ไม่ได้แสดงความกังวลแม้แต่น้อย ในขณะที่เธออยากลงนอนดิ้นให้ขาดใจไปเสียตรงนั้น

“งั้นผมก็ผิดอีกล่ะสิที่จับคุณใส่เสื้อผ้า รู้งี้ปล่อยให้นอนล่อนจ้อนตามที่ต้องการเสียก็ดี เพิ่งรู้ว่าคุณน่ะชอบนอนแก้ผ้า”

“คะ?”

หทัยภัทรตะลึงกับคำพูดของพฤกษ์อีกหน ยอมรับว่ายิ่งฟังเธอก็ยิ่งรับไม่ได้ จริงอยู่ที่เปลื้องผ้าเปลือยกายอยู่ทุกวัน หากแต่ต้องไม่ใช่ยืนเปลือยต่อหน้าคนอื่น แบบที่พฤกษ์กำลังสาธยาย

“สำรวจดูให้ดีอีกทีซิว่าผมใส่ให้คุณถูกไหม ผู้หญิงอะไรไม่รู้จะแก้ผ้านอน อ้อ...คงลืมอีกล่ะสิว่าหลับไปทั้งน้ำตาเพราะโดนผมปล้ำจับใส่เสื้อผ้าน่ะ”

“อ๊าย...พอแล้ว”

หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยทนฟังไม่ไหว ก่อนจะคว้าหมอนที่ใช้หนุนนอนเมื่อครู่มาตั้งท่าจะฟาดลงบนอกกว้างของคนนอนหัวเราะหึ ๆ ระบายความอัดอั้นตันใจระคนอับอาย

ทางด้านของพฤกษ์เมื่อได้เห็นดังนั้นจึงยกมือขึ้นเตรียมปัดป้อง ทว่ากลับได้เห็นเธอปล่อยหมอนใบโตสีขาวสะอาดตานั้นให้หลุดจากมือ ก่อนจะปิดปากตัวเองแถมโก่งคอทำท่าคล้ายจะอาเจียน

“อ้าว...เป็นอะไร”

ร่างหนาทะลึ่งพรวดเมื่อเห็นอาการของหญิงสาว รอยยิ้มที่เปิดกว้างด้วยความขบขันหุบฉับ ความกังวลและเป็นห่วงที่เจ้าของใช้ความคะนองปิดบังเอาไว้ก่อตัวขึ้นมโหฬารในพริบตา ทว่าคนที่ทำท่าผะอืดผะอมจนลืมสังเกตจึงดูเหมือนจะไม่รับรู้

“ฉันอยากจะอ้วก...”

เธอตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ก่อนจะหันซ้ายแลขวามองหาห้องน้ำหวังเข้าไประบายความคลื่นเหียนที่ก่อตัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

“ทางโน้น”

ร่างสูงหยุดหัวเราะแถมไถลลงจากเตียงนอนพลางชี้มือไปยังประตูห้องน้ำ หทัยภัทรมองตามก่อนจะค่อย ๆ หย่อนขาลงจากเตียง ทว่าแค่ลุกขึ้นยืน ห้องทั้งห้องก็ดูเหมือนจะโคลงเคลงไปมาจนต้องทรุดตัวนั่งลงอีกหน

มือเรียวที่ปิดปากละไปกดขมับพลางปิดเปลือกตาลง พฤกษ์เห็นสภาพนั้นแล้วจึงสาวเท้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแล้วก้มลงถาม

“เป็นยังไงบ้าง”

“ฉันเวียนหัว อยากอ้วก”

หทัยภัทรกลั้นใจเอ่ยบอกแก่ร่างสูงซึ่งยังคงเปลือยอกกว้างสะอาดสะอ้านและสวมเพียงกางเกงขายาวสีเข้มตัวเดียว

“ไปห้องน้ำไหวไหม”

สภาพทุกอย่างรอบตัวที่ยังคงหมุนติ้วโคลงเคลง ทำให้หทัยภัทรส่ายหน้า นาทีนี้แม้จะอยากระบายความปั่นป่วนที่ก่อตัวอยู่ในช่องท้องออกมา แต่หากเธอก็อยากนั่งปิดตาอยู่นิ่ง ๆ แบบนี้ด้วยเช่นกัน

“มา ผมพาไป”

“เอ่อ...คุณไปสวมเสื้อให้เรียบร้อยก่อนสิ”

พอร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นค้อมต่ำลงมา หทัยภัทรก็เอ่ยบอกตะกุกตะกัก ก่อนจะนึกหมั่นไส้ในเสียงหัวเราะหึ ๆ ที่ดังมา ด้วยไม่รู้ว่าเขาจงใจเยาะเธอหรือขบขันจริง ๆ แบบกลั้นไม่อยู่

“โธ่...จะเป็นไรไป เมื่อคืนยังเห็นกันเยอะกว่านี้อีก”

หทัยภัทรอยากต่อว่าเขาให้ได้อายเสียยิ่งนัก ทว่าอาการของเธอก็ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นปฏิกิริยาที่มีในขณะที่พฤกษ์หยิบยื่นน้ำใจให้ หญิงสาวกลับต้องการผลักไสเขาทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่จะก้าวขาตรงเข้าห้องน้ำ ด้วยกลัวเหลือเกินว่าจะล้มลงไปกองกับพื้นเพราะอาการวิงเวียน

เขาไม่ได้ใส่ใจในคำบอกของเธอ กระทั่งได้เห็นหทัยภัทรยกมือขึ้นปิดปากอีกหน จึงตัดสินใจตวัดร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมแขนและบ่ายหน้าไปยังห้องน้ำทันที

หญิงสาวถูกปล่อยให้ยืนเกาะอ่างล้างหน้าแล้วโก่งคออาเจียนสมใจ แต่นอกจากน้ำลายเหนียว ๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ขย้อนเอาสิ่งใดออกมา ส่วนพฤกษ์แม้ไม่รู้ว่าการลูบหลังคนที่อาเจียนจะช่วยให้อะไรดีขึ้นหรือไม่ หากแต่ยามนี้เขาก็ยินดียกฝ่ามือขึ้นลูบแผ่นหลังบอบบางให้ด้วยจิตใจที่ร้อนรน

“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม”

หทัยภัทรส่ายหน้าให้กับคำถามนั้นขณะน้ำตาก็คลอตา ก่อนจะก้มลงไปบ้วนปากและล้างหน้า สภาพทุกอย่างภายในห้องน้ำที่เห็น ทำให้หญิงสาวพอจะนึกออกว่าเป็นที่ไหน ดังนั้นแทนที่จะคุยถึงอาการของตัวเอง เธอกลับนึกห่วงไปถึงผู้เป็นแม่ซึ่งคอยอยู่ที่บ้าน

“กี่โมงแล้วคะ”

“เกือบจะตีสองแล้ว”

“ฉันจะกลับบ้าน แม่คงคอยอยู่”

การไม่ได้บอกให้ฝ่ายนั้นรู้เลยว่าเธอจะกลับบ้านผิดเวลา ทำให้หทัยภัทรมั่นใจว่าแม่ของเธอต้องนอนไม่หลับอย่างแน่นอน ฉะนั้นหากเธอจะกลับบ้านในเวลานี้ แม้จะล่าช้าไปกว่าปกติร่วม 3 ชั่วโมงเศษ แต่ก็ยังดีกว่าการหายไปเฉย ๆ

“เป็นห่วงแต่คนอื่น แล้วไม่ห่วงตัวเองบ้างหรือไง”

พฤกษ์เอ่ยถามออกมาเสียงขุ่น ด้วยเริ่มไม่ชอบใจเพราะแทนที่จะห่วงตัวเองเนื่องจากยังเกิดอาการคลื่นเหียนผิดปกติแต่เธอกลับนึกห่วงแต่คนอื่น

“ฉัน...จะกลับบ้าน”

หทัยภัทรเอ่ยบอกด้วยความลังเล จริงอยู่ที่อาการของเธอยังไม่เป็นปกติ หากแต่คงไม่ดีแน่ถ้าจะหายตัวออกมาจากบ้านเฉย ๆ โดยไม่ได้บอกกล่าวให้ใครรู้ ที่สำคัญเหตุใดเธอจึงมาลืมตาตื่นอยู่บนเตียงเดียวกับพฤกษ์ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบให้ได้อยู่ดี

“เอาไว้ค่อยพูดกันทีหลัง ดื่มน้ำก่อน”

พฤกษ์ตัดบทพลางยื่นแก้วน้ำมาให้ เขาคิดว่านั่นคงเป็นอาการข้างเคียงของยานอนหลับที่นายวิภาตพูดถึง ที่สำคัญเวลาขณะนั้น หทัยภัทรคงกำลังท้องว่างและว่างยาวมาจนถึงขณะนี้โดยที่ยังไม่ได้ทานอะไรเป็นเรื่องเป็นราว อาจเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน เขาคิดในทางที่ดีได้เพียงเท่านี้

“หิวไหม”

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”

หทัยภัทรไม่ยอมตอบคำถามของพฤกษ์ หากแต่เธอกลับตั้งคำถามเอากับเขาขณะส่งแก้วน้ำคืนให้ ก่อนจะนึกขัดใจในเสียงหัวเราะหึ ๆ ของคนที่ยังยืนเปลือยอกอยู่แบบไม่แคร์สายตาคนมอง

“จำอะไรไม่ได้จริง ๆ เหรอ”

หญิงสาวส่ายหน้าให้กับคำถามนั้นของพฤกษ์ ก่อนจะหลับตาลง เมื่อวานเธอกลับออกไปจากบริษัทของเขาและนัดเจอกับพี่ชายที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สภาพของวิภาตที่เห็นแล้วชวนให้หดหู่ใจทำให้เธอไม่อยากซ้ำเติม ตรงข้ามพอได้เห็นเขาพูดดีด้วยและบอกให้ลืมเรื่องเช็คฉบับนั้นไปเสีย เธอก็ยังทำใจดีแถมรับปากจะช่วยเขาหาเงินมาใช้หนี้แลกเปลี่ยนกับการกลับตัวกลับใจเป็นพี่ชายที่แสนดีเหมือนเดิมเท่านั้น ซึ่งวิภาตก็ยอมตกลงโดยดีแล้ว

“ผมก็ไม่รู้สิว่าคุณมาได้ยังไง เพราะจู่ ๆ ก็มาเคาะประตูห้องบอกว่าขออยู่ด้วย”

“คะ?”

หทัยภัทรอุทานออกมาพลางขมวดคิ้วเรียวเข้าหากัน สิ่งที่พฤกษ์ว่ามามันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอยังไม่เคยแม้แต่จะคิด

“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก”

หญิงสาวส่ายหน้าและย้ำออกมาอีกอย่างชัดถ้อยชัดคำ มั่นใจว่าเธอคงไม่ได้สิ้นคิดเลือกทางเดินเช่นนี้ให้ตัวเองอย่างแน่นอน เพียงแต่ติดที่ว่าคิดเท่าไหร่เธอก็คิดไม่ออก เหตุใดจึงมาตื่นอยู่บนเตียงนอนเดียวกับพฤกษ์ ที่สำคัญลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแขนของเธอยังเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้อีกต่างหาก

พฤกษ์ว่าพลางยักไหล่ นัยน์ตาคู่คมมองสบตาโตที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาตรงหน้า ก่อนจะย้ำออกมาอีกช้า ๆ ชัด ๆ
“จะไม่เชื่อก็ตามใจคุณสิ คนอะไรไม่ยอมรับความจริง”

“ก็...มัน...”

แม้สิ่งที่พฤกษ์ว่ามาดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเธอ หากแต่ท่าทางของเขาที่ดูนิ่ง ๆ ไม่พบพิรุธใด ๆ ยามที่เธอเอ่ยถาม ก็ทำให้หทัยภัทรถึงกับพูดอะไรไม่ออก

“หรือว่าคุณจะแพ้ท้อง มันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ”

“บ้า”

ขณะที่กำลังพยายามจัดระเบียบความคิดของตนเองไปพร้อม ๆ กับชั่งน้ำหนักว่าควรเชื่อในคำพูดของพฤกษ์หรือไม่ หทัยภัทรก็ต้องได้ร้องออกมาด้วยความฉุนจัดระคนอับอาย

“อ้าว...แต่คืนนี้เท่าที่นับดูมันก็หลายครั้งอยู่นะ”

“นี่...หยุดพูดเรื่องทุเรศ ๆ แบบนี้นะ ฉันกับคุณไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย หลีกไป”

แล้วคนที่เพิ่งโก่งคออาเจียนก็เกิดอาการโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ มือเรียวผลักอกของพฤกษ์แรง ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบร่างหนาของเขาแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป แต่มีหรือที่พฤกษ์จะยอม เขาสาวเท้ายาว ๆ ตามไปคว้าแขนเรียวของหทัยภัทรเอาไว้ได้ ก่อนจะออกแรงรั้งเธอให้หยุดอยู่กับที่

“ปล่อยฉันนะ”

“ทำไมคุณต้องโมโห ในเมื่อสิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง”

“ฉันไม่ได้โมโหค่ะ แต่ฉันเกลียดสิ่งที่คุณพูด ปล่อยค่ะ ฉันจะกลับบ้าน”

ร่างบางปลดมือของเขาออกก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าสะพายที่วางอยู่ขึ้นมา พฤกษ์เห็นท่าไม่ดีรีบเดินไปดักหน้าเอาไว้ ก่อนจะยืนเท้าสะเอวมองเธอนิ่งอยู่

“โอเค ผมไม่พูดก็ได้ แต่คุณก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา ส่วนเรื่องกลับบ้าน ลองโทร.ถามพี่ชายคุณก่อนสิเพราะไม่รู้ว่าเขาจะว่าอย่างไรบ้าง”

“คะ?”

“คุณเองก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเพราะเหตุใจจึงเดินกลับมาหาผมอีก อย่าลืมบอกนายวิภาตด้วยล่ะว่าถ้าคุณไม่อยู่กับผม เงินของผมก็ต้องไม่อยู่กับเขาเหมือนกัน”

“เงินคุณ...”

หทัยภัทรใจหายวาบพร้อมกับความเย็นเฉียบได้พากันแผ่กระจายไปทั่วร่าง เรียวปากอิ่มอุทานออกมา ขณะใจดวงน้อยเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าคำร้องขอของเธอไม่ได้ระคายความรู้สึกของพฤกษ์เลยแม้แต่น้อย

“ที่ฉันขอร้องคุณว่ากรุณาอย่าหยิบยื่นเงินทองใด ๆ ให้พี่วินอีก คุณไม่ได้รับรู้เลยเหรอคะ คำขอของฉันไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ”

น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความผิดหวังระคนเจ็บปวดของหทัยภัทร ทำให้พฤกษ์ถึงกับยุ่งยากใจ เขาได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากเย็น พูดอะไรไม่ออก

เมื่อได้เห็นตาคู่โตของหทัยภัทรพร่างพราวไปด้วยน้ำใสที่นองเอ่อ พฤกษ์ก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองกำลังเดินมาผิดทาง แต่จะให้กลับลำก็ช้าไปเสียแล้วเพราะเขาไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ไว้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงดูไม่ผิดนักหากจะเรียกว่าเขากำลังตกกะไดพลอยโจน

“ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณนัดเจอกับนายวิภาตที่ร้านกาแฟ และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกคุณตกลงอะไรกันอย่างไร”

“ฉันกับพี่วินตกลงกันแล้วว่าจะช่วยกันหาเงินมาใช้หนี้ และจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเงินของคุณอีก”

“ข้อนั้นผมไม่รู้ ฉะนั้นคุณไม่ต้องมาทำท่าทางแบบนี้กับผม เพราะหากคุณเป็นผม คุณเองก็คงจะสับสนเหมือนกัน ตัวนายวิภาตน่ะไม่เท่าไหร่เพราะยังไงเขาก็ยืนยันว่าต้องการเงินนั่น แต่สำหรับคุณ...ทีแรกก็ทำโมโหปึงปัง ฉีกเช็คปาใส่หน้าผมแถมต่อว่าต่าง ๆ นานา แต่ตอนหลังก็กลับเป็นอีกอย่าง จะให้พูดไหมว่าคุณพูดจาเชิญชวนอะไรยังไงบ้าง”

“ไม่จริง”

“จริง”

“ไม่จริง ฉันจะโทร.ถามพี่วิน”

“ก็ตามใจคุณสิ”

เจ้าของร่างสูงท้าทาย ขณะในใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เพราะหทัยภัทรนั้นดูเอาจริงเอาจังจนเขาชักหวั่นใจ อีกอย่าง...เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าหทัยภัทรจะยอมเชื่อในเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่มีต่อกันซึ่งถูกเขาอุปโลกข์ขึ้นมานั้นหรือไม่

ภาพของหญิงสาวที่เพียรกดเบอร์โทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย แม้จะนึกสงสารหากแต่พฤกษ์ก็ยังแอบลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะคนที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนใบหน้างามงอง้ำนั้นได้ละความพยายามและทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงอย่างอ่อนใจในที่สุด











บุษบาฮาวาย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มี.ค. 2556, 06:02:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มี.ค. 2556, 06:02:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 3330





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
จิรารัตน์ 14 มี.ค. 2556, 14:27:30 น.


wane 14 มี.ค. 2556, 23:49:26 น.
นางเอกน่าสงสารจัง เจอพี่แบบนี้


ผักหวาน 15 มี.ค. 2556, 12:23:38 น.
โอ๊ยหนอ หนูไม่อ่านนิยายนี่ เลยไม่รู้ว่า คุณพฤกษ์เค้าอำตัวเองเล่นน่ะ


supayalak 15 มี.ค. 2556, 16:26:22 น.
พระเอกน่าร้ากกกกก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account