จุมพิตอัคคี (ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม) by น้ำจันทร์ อัญจรี
วางแผง 28-3-56 งานหนังสือบูธทัชนะคะ C1 บูธ M 20

จุมพิตอัคคี
(ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม)

เมรภัทร เอวะโยธิน
น้องพาย เธอเก่ง เธอสวย เธอเซ็กซี แต่เธอไร้หัวใจ

เดลลอร์ฟ เจมส์
เดลทุกอย่างทำเพื่อ สตรีรัก ไม่ได้ใจร้าย แต่ไม่ยอมรามือ

หลังจากที่ จิตาภา พกพาความแค้นที่มีต่อ เมธาวีและธีรภัทรคนรักมานานหลายปี
(อ่านเรื่องของภาคแม่ได้ใน หัวใจใกล้เกินเอื้อม สามารถหาซื้อได้ในงานหนังสือมีนานี้ และที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ เพราะหน้าเว็บ สำนักพิมพ์ Touch Publishing หมดสต็อกแล้วค่ะ 15-3-56 )
เวลานี้ก็ถึงเวลาสะสาง นางให้หลานชายบุญธรรม คือเดลลอร์ฟ มาขืนใจ เมรภัทร ลูกสาวของเมธาวี โดยแผนการนั้นมีอยู่ว่าเดลจะต้องเอาโรงแรมทิพย์ธารามาขึ้นกับเจมส์ให้ได้แล้วเดลจะได้รางวัลเป็น การแต่งงาน กับ เจนนิตา ลูกสาวของนาง หารู้ไม่ว่า ลูกสาวที่หวงยิ่งกว่าไข่ในหินกำลังปลูกต้นรักอย่างเงียบๆ กับภีรภัทร น้องสาวของเมรภัทร ลูกอีกคนของเมธาวี

เดลลอร์ฟถูกเมรภัทรซ้อนแผน หล่อนเสแสร้งให้เขารักในบทบาทของน้องพาย ผู้หญิงที่เป็นเพียงเหยื่อในแค้นครั้งนี้ เดลลอร์ฟหลงน้องพายหัวปักหัวปำ เขาโอนทุกอย่างให้น้องพาย แม้แต่หุ้นของเจมส์ เพราะเขาเกรงว่าหากวันหนึ่งถูกปองร้ายจากศัตรู น้องพายกับลูกของเขาจะได้ไม่ลำบาก หารู้ไม่ว่า คนที่สั่งการให้มือสังหารมายิงตัวเองคือเมรภัทรภรรยาที่แสนดีนั่นเอง
********** วางแผง 28-3-56 งานหนังสือ ระดับชาติศูนย์ศิริฯ*************

ไรเตอร์รั่วๆ แต่จริงใจ ^_^

เข้ามาแล้วไซร้ไยไม่กดถูกใจละเจ้าคะ

^_^ งุงิงุงิ อ้อนๆๆๆๆๆ












Tags: สำนักพิมพ์ ViVa ในเครือ Touch

ตอน: บทที่ 6โกยคะแนน (นางเอกจะแหลไปหน้ายยยย)


บทที่ 6โกยคะแนน (นางเอกจะแหลไปหน้ายยยย)
ในขณะที่เดลลอร์ฟคิดไม่ตกกับความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในหัวใจ เมรภัทรกลับจัดการดวงตาบวมช้ำตัวเองด้วย นิ้วเรียวทั้งสองมือ หล่อนนวดเบาๆ บนเปลือกตาจนมันค่อยๆ บวมขึ้นมาทีละน้อย
“แพ้น้ำตาหรือเดลลอร์ฟ ได้สิ น้องพายของนาย หล่อนนอนร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ ถ้านายยังนิ่งดูดายอยู่ได้ ฉันว่านายคงไม่มีหัวใจแล้วล่ะ”
เมรภัทรเหยียดยิ้มหยันอยู่หน้ากระจก เปลือกตาสองข้างบวมเป่งขึ้นมาหลังจากนวดคลึงอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ยัยแก่นั่นหลอกใช้เดลลอร์ฟได้ แล้วทำไมหล่อนจะหลอกบ้างไม่ได้ล่ะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกหน เมรภัทรรีบหยดน้ำตาเทียมลงไปในหน่วยตาทั้งสองข้าง แล้วเดินไปเปิดประตู สายลมเย็นๆ พัดเข้ามาทางหน้าต่าง เธอขนลุกเกรียวด้วยความหนาวสั่น
เมรภัทรสงสัยว่าตัวเองจะมีไข้เสียแล้ว
“พาย...เธอเป็นยังไงบ้าง” เขาถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาของหล่อนบวมช้ำแดงเรื่อ ช่างน่าสงสารจริงๆ
“ฉันไม่เป็นไร ขอโทษด้วยที่ตวาดนายเมื่อกี้ ฉันลืมว่าฉันไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น” เสียงของน้องพายรู้สึกผิดจนคนฟังรู้สึกได้
“โธ่ พาย...แต่งงานกับฉันเถอะนะ เธอต้องมีใครสักคนดูแล”
เมรภัทรยิ้มหยันในใจ ขนาดมีการ์ดตั้งสองคนคอยคุ้มภัย หล่อนยังถูกเขาล่อลวงได้เลย คงไม่มีใครดูแลฉัน ได้ดีเท่าฉันดูแลตัวเองหรอกเดลลอร์ฟ
“นายขอฉันแต่งงาน ทั้งที่นายยังไม่ได้บอกว่ารักฉันสักคำ สมองฉันคงมีแต่กระดาษชำระกระมังถ้าตกลงแต่งงานกับนาย”
เมรภัทรเชือดนิ่มๆ ด้วยประโยคเปรียบเปรยในแบบฉบับของเธอเอง
“พาย อย่าดูถูกตัวเอง แต่งงานกับฉันมันไม่ดีตรงไหน ฉันดูแลเธอกับ ลูก ได้แน่นอน”
“ฉันไม่ได้ท้อง!”
เมรภัทรปล่อยหมัดเด็ด ใช่แล้ว นี่ล่ะหมัดเด็ดของเธอ
“เธอแน่ใจได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่ได้ป้องกัน”
‘เจ็บ!’
เธอเจ็บเพราะเขาเผยความจริงออกมา เขาตั้งใจทำให้เธอท้องจริงๆ คนสารเลว!
“ฉันยืนยันว่าฉันดูแลตัวเองได้ ช่วยหลีกทางด้วย ฉันอยากไปเดินสูดอากาศ”
เดลลอร์ฟหน้าตึงหล่อนจะไปเดินสูดอากาศ ตอนบ่ายโมงเนี่ยนะ
“แต่แดดมันร้อนเดี๋ยวก็ไม่สบาย”
เขาเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ
“นั่นไงล่ะ ฉันถึงได้บอกว่า ฉัน จะไปเดินสูดอากาศไม่ใช่ เรา จะไปเดินสูดอากาศ”
ชายหนุ่มถอนหายใจ เมรภัทรฉบับเข้าใจยากมาเยือนอีกแล้ว
“โอเค ก็ได้ เชิญ” เขาผายมือประชดหล่อน เมรภัทรไม่สน หล่อนคว้าหมวกสานได้หนึ่งใบก่อนลงไปเดินเล่นที่ชายหาด
หญิงสาวเดินทอดน่องไม่รีบร้อน แดดตอนบ่ายโมงแรงเอาการ แต่หล่อนยอมเอาผิวเนียนๆ มาล่อแสงแดด หากว่าจะทำให้ใครบางคนเป็นเดือดเป็นร้อนได้
สิบนาทีถัดมา
ร่างสูงใหญ่ของเดลลอร์ฟเดินตามหญิงสาวมาห่างๆ
เมรภัทรลอบยิ้ม...เหยื่อติดกับ

ครึ่งชั่วโมงหลังจากเดินตามแนวชายหาดมาเรื่อยๆ ตอนนี้ เหงื่อกาฬของชายหนุ่มแตกพลั่ก เขาเคยนั่งแต่ในห้องแอร์ ถึงจะออกกำลังบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่กลางแดดเปรี้ยงๆ อย่างนี้
เดลลอร์ฟ ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ทันสาวเจ้า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องลากหล่อนกลับบ้านให้ได้
“พายหยุดเดี๋ยวนี้!”
เดลลอร์ฟคว้าแขนเรียวของเมรภัทรอย่างแรง จนหล่อนแทบปลิวติดมือเขา
“กลับได้แล้ว แดดมันแรงขนาดนี้ เธอไม่ร้อนบ้างหรือไงฮะ”
‘ร้อนสิ แต่ฉันอึด นายยอมแพ้แล้วหรือเดลลอร์ฟ’
“ปล่อยฉันนะ! ฉันไม่ได้ชวนนายมาเสียหน่อย อยากกลับก็กลับไปคนเดียวสิ”
เมรภัทรเถียง สองมือยกขึ้นปาดน้ำตา (เทียม)
เดลลอร์ฟยอมปล่อยมือจากร่างบางเมื่อเห็นหยดน้ำตาของหล่อน เขาอยากเช็ดน้ำตาให้ แต่หล่อนปฏิเสธ
“ฉันเคยบอกนายแล้ว น้ำตาของฉัน ฉันจะเช็ดมันเอง”
หล่อนแสร้งทำเสียงเครือ เจือสะอื้น มือเรียวรีบคว้าสาบเสื้อเขาเอาไว้ ก่อนจะเอนร่างซบอกแกร่งของเขาอย่างต้องการที่พึ่ง
เดลลอร์ฟ ตกใจ หล่อนเป็นอะไรอีกล่ะทีนี้
“พาย!”
“อย่า! อย่าเพิ่งขยับ ฉันเวียนหัว”
เมรปล่อยร่างอรชรของตนเอนพิงอกแกร่งชั่วครู่ หล่อนผละออกเมื่อมันกินเวลาหลายนาที
“รู้สึกยังไงบ้าง เวียนหัวมากไหม หายใจคล่องหรือเปล่า” เดลลอร์ฟเฝ้าถามคนที่ยืนหน้าซีดอยู่ต่อหน้า เมรภัทรใจกระตุก มันน่าแค้นใจนักที่ความห่วงใยของเขามันมีนัยน์แอบแฝง สมควรแล้ว ที่เธอจะตอบกลับเขา ด้วยความรัก!
“อะไร?” เดลลอร์ฟสงสัย จ้องหน้าหล่อนแน่วนิ่ง
“ฉัน...นายรักเธอมากไหม ผู้หญิงคนนั้น”
“เธอถามทำไม?” เขาอยากรู้
“ฉันเพียงแค่อยากรู้ นายก็เพียงแค่ตอบมา”
เดลลอร์ฟ อ้ำอึ้ง ทำไมอยู่ต่อหน้าหล่อนตอนนี้เขาถึงพูดว่ารักเจนนิตาไม่ได้
“นายตอบไม่ได้ เพราะนายอาจไม่ได้รักเธอ ถ้านายลองเปิดใจสักครั้ง ฉันจะมอบมันให้นาย”
เมรภัทรจ้องลึกเข้าไปในหน่วยตาเขา ผู้ชายคนนี้ขาดแคลนความรัก
“ฉันไม่ต้องการความรักของศัตรู”
เดลลอร์ฟตอบกลับมา เขาลองใจหล่อนดู ผู้หญิงคนนี้กำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่
เมรภัทรกำหมัดแน่น แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเห็นมัน
“ฉัน ขอโทษที่ถาม ฉันรู้ดีว่าความรักของฉัน มันไม่เคยมีค่าในสายตาของนาย ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยย้ำเตือนถึงสถานะที่เรามีต่อกัน ศัตรู เราเป็นศัตรูใช่ไหม แล้วเมื่อกี้นี้นายขอศัตรูแต่งงานทำไม? หรือว่ารางวัลที่นายได้ไป มันมีค่ามากมายจนศัตรูคนนี้ไม่มีให้นายหรือเดล”
‘ยอดเยี่ยม!’ เมรภัทรขอมอบตุ๊กตาทองเป็นรางวัลให้น้องพายผู้น่าสงสารเลย
คะแนนเต็มสิบเดลลอร์ฟจะให้คะแนนสงสารน้องพายเท่าไหร่ดีนะ เอ...แล้วทำไมเขายังเงียบล่ะ หรือว่าต้องให้ใช้ ไม้ตาย
“เอ่อ...ช่างเถอะ เรากลับกันดีกว่านะ แดดแรงอย่างที่นายว่า รีบกลับเถอะ นายหน้าแดงมากเลยเดี๋ยวจะเป็นไข้เอา” หล่อนยิ้มเซียวๆ ให้เขา มือเรียวจะเอื้อมไปแตะหน้าผากกว้าง แต่กลับหยุดค้างกลางอากาศราวกับว่าเป็นสิ่งไม่สมควรหากทำเช่นนั้น
เดลลอร์ฟนิ่งงัน หัวใจเขากระตุกวูบ หล่อนแสดงออกว่าห่วงใยเขา ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งตัดรอนความรักของหล่อนอย่างนั้นหรือ
“ฉะ...ฉัน ความรักของฉันมันไม่มีค่า แต่ถ้านายต้องการฉันมีให้นายเสมอ เด...ล”
“พาย!”
ร่างสวยทรุดลงบนผืนทราย เดลลอร์ฟคว้าร่างหล่อนเกือบไม่ทัน
“พาย!” เขาเรียกชื่อหล่อนอีกหน ตบใบหน้าหล่อนเบาๆ เรียกสติ
“เดล... ฉันเวียนหัว ฉัน...”
เมรภัทรเอ่ยเพียงเท่านั้น หล่อนหลับตาพริ้ม ปล่อยร่างกายให้อ่อนยวบในวงแขนแกร่ง
เดลลอร์ฟใจหาย หล่อนเป็นลมอีกแล้ว เชื่อเถอะ หล่อนท้องแน่ๆ เขามั่นใจ
ร่างสูงใหญ่อุ้มร่างอรชรขึ้นแนบอก เขาอยากวิ่งด้วยซ้ำหากไม่เกรงว่ามันจะกระเทือนคนในอ้อมแขน เปลวแดดแรงกล้าลามเลียผิวกายเดลลอร์ฟจนแดงเถือก แต่เขามิแยแสยังคงเดินหน้าอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกตรงไปยังบ้านพัก หยาดเหงื่อเริ่มซึมจากไรผมสีน้ำตาลเข้มตรงข้างขมับ ไหลลู่ลงมาตามแนวสันกรามกระทั่งหยดลงร่างของเมรภัทรในที่สุด
พยับแดดทอประกายระยับอยู่ตรงหน้า ราวกับเส้นชัยของการแข่งขันความอดทน
เดลลอร์ฟหายใจเร็วแรงเพราะความเหนื่อยหอบ เขาอุ้มร่างเมรภัทรฝ่าเปลวเพลิงของดวงตะวันมาเกือบกิโลทีเดียว และในที่สุดเขาก็วางหล่อนลงบนเก้าอี้หวายริมระเบียงได้สำเร็จ
เสียงหอบหายใจเร็วแรงเพราะความเหนื่อยหอบ ไม่ได้ทำให้เมรภัทรสงสารแม้แต่น้อย เขาแสดงออกว่าห่วงใยเธออย่างนี้ แต่กลับปฏิเสธอยู่ร่ำไปว่ามันไม่ใช่ความรัก ถ้าอย่างนั้น ปากแข็งให้ได้ตลอดเถิดเดล ฉันจะทำให้นายรัก น้องพาย ให้ได้ คอยดู
“เดล...แค่กๆ”
น้องพายคนดีแสร้งกระแอมไอเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา
เดลลอร์ฟแทบกระโจนจากเก้าอี้เพื่อไปดูหล่อนให้ทันใจ เขาลุกไปรินน้ำมาให้หล่อนทว่า เมรภัทรกลับจิบเพียงอึกเดียวหล่อนก็อาเจียนเอาน้ำเปล่าออกมา
“พาย! เธออาการหนักแล้วนะ ไปหาหมอดีกว่า”
เมรภัทรส่ายหน้าดิกใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากแรงๆ
“เดล...ฉัน ขอยาดม มียาดมไหม ฉันเวียนหัวอีกแล้ว”
เมรภัทรยืนยันคำพูดของเธอด้วยการล้มกายลงไปนอนอย่างหมดเรี่ยวแรงอีกครั้ง
เดลลอร์ฟไปหายาดมมาให้ยื่นหล่อน ทว่า เขาเห็นหล่อนสูดเข้าจมูกไปสองทีก็ร่ำๆ จะเอาอย่างอื่นอีก เป็นต้นว่า ผ้าเย็นเอย น้ำหวานเอย แล้วอะไรๆ อีกร้อยแปดอย่างที่หล่อนนึกออก เขานั่งบนเก้าอี้ไม่ถึงนาทีหล่อนก็หาเรื่องใช้เขาจนได้ เขาไม่อยากคิดว่าหล่อนแกล้งเขาหรอก เพราะมันขัดกับสิ่งที่หล่อนพร่ำบอกเขาเหลือเกิน
“เดล...”
“อะไรอีกฮะ! เธอจะเอาอะไรก็รีบๆ บอกมาให้หมด ฉันจะได้ลุกไปเอาให้ทีเดียว ไม่ใช่เดี๋ยวเอาโน่นเดี๋ยวเอานี่ แค่ที่ฉันอุ้มเธอมามันก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
เดลลอร์ฟเปรยออกมาอย่างเหลืออด มีแอบประชดน้อยๆ ด้วยความน้อยใจ
‘ถ้านายเหนื่อยจนตาย ฉันคงสะใจพิลึกเดลลอร์ฟ’ เมรภัทรคิดแต่เพียงในใจเพราะสิ่งที่เธอเอ่ยออกมาคือ...
“ขอโทษ...ที่ฉันทำให้นายต้องลำบาก ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอ่อนแอ หรือว่าจู้จี้ จนนายต้องรำคาญ มันเป็นไปเอง ฉันควบคุมมันไม่ได้ ขอโทษจริงๆ”
เมรภัทรเอ่ยเสียงเศร้าเคล้าน้ำตา เธอบีบมันออกมาจนหน่วยตาแดงโร่
เดลลอร์ฟจิตใจสั่นไหว ทำไมหล่อนแตกต่างจากที่เขาเคยคาดเดาไว้ลิบลับขนาดนี้
“ฉัน...ฉันขอโทษที่เป็นภาระ เป็นตัวถ่วง เป็นศัตรูเป็น อุ๊บส์...”
เมรภัทรรีบเอามือตะครุบปากของตัวเองเอาไว้ หล่อนลุกจากเตียงไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำ กากใยของขนมขบเคี้ยว ถูกสำรอกออกมาทางเดิม เธอเกาะขอบอ่างล้างหน้าเอาไว้เพื่อพยุงกาย
‘ให้ตายเถอะ เธอไม่ต้องเสแสร้งเลย เพราะตอนนี้ เธอกำลังอาเจียนจริงๆ’
ร่างสวยแต่เริ่มโทรมแทบคลานออกมาจากห้องน้ำ เดลเข้าไปช่วยประคอง แต่หล่อนปัดมือเขาออก
“ไม่ต้องหรอก ฉันเดินเองได้” หล่อนบอกเขา น้ำเสียงที่ใช้เรียบสนิท
“พาย! ฉันว่าเธอกำลังจะมีเด็กแน่ๆ”
เมรภัทรทรุดนั่งลงตรงหน้าห้องน้ำ เธอเบะปากน้อยๆ เริ่มบีบน้ำตาอีกหน
“เดล...ฉันขอถามหน่อยเถอะ เจนนิตา เธอรักนายหรือเปล่า ทำไมนายถึงทำเพื่อเธอมากมายขนาดนี้”
เดลลอร์ฟพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังคำถาม
“นายแน่ใจแค่ไหนว่าเธอจะรักนาย...ฮึกๆ เดล ความรักของฉันมันไร้ค่าขนาดนั้นเลยหรือ ช่วยเปิดใจรับมันบ้างเถอะ อย่างน้อยก็ขอแค่สองสามวันหลังจากนี้ ช่วย...ฮึกๆๆ ช่วยแกล้งทำเป็นรักฉันได้ไหม แค่แสร้งทำก็ได้ ขอร้องล่ะ เดลลอร์ฟ” หยดน้ำตาเจ้าหญิงหิมะหยดเผาะราวกับสั่งได้ เดลเชยคางมนของหล่อนขึ้นมาพิจารณา นัยน์ตาสีเงินยวงจดจ้องนัยน์ตาสีนิลวาววับ แน่วนิ่ง
ชายหนุ่มกำลังสับสนอย่างรุนแรง มันขัดแย้งกันระหว่างสมองกับหัวใจ
“ฉันจะให้เลขาส่งเอกสารมาให้ทางเมล ฉันจะอยู่กับเธอจนกว่าเธอจะกลับ พอใจแล้วยังเจ้าหญิง”
เดลลอร์ฟตอบเสียงทุ้ม เขายอมอ่อนลงให้หล่อนอีกแล้ว
‘ให้ตายเถอะ! ยิ่งอยู่ใกล้หล่อนมากเท่าไหร่ ความเข้มแข็งในหัวใจเขา มันก็ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ’
สองมือของเดลเพียรปาดน้ำตาให้เจ้าหญิง ขณะที่เจ้าหญิงยิ้มกว้างตอบแทน
หญิงสาวโผร่างเข้าหาอ้อมแขนชายหนุ่ม ราวกับว่านั่นคืออ้อมแขนของชายคนรักที่พลัดพรากแล้วกลับมาพบกันใหม่ หัวใจของเดลลอร์ฟพลันกระตุกสั่นไหว เมรภัทร หล่อนทำให้ใจเขา อบอุ่น อีกแล้ว
ขณะที่มือหนาลูบหลังให้คนเจ้าน้ำตาเพื่อปลอบประโลม คนเจ้าน้ำตากลับยิ้มเหยียดหยัน
หัวใจน้ำแข็งของเจ้าหญิงมิได้ซาบซึ้งกินใจกับน้ำคำปลอบประโลม หรือสัมผัสอ่อนโยนที่เขาส่งผ่านฝ่ามือแม้แต่น้อย หัวใจของเมรภัทรตอนนี้มีเพียงความว่างเปล่า แต่ขณะเดียวกัน สมองของหล่อนกลับเต็มไปด้วยแผนการที่เกี่ยวกับเขา และ เอกสารของเจมส์

เดลลอร์ฟนั่งพิจารณาเอกสารที่เลขาส่งมาให้ผ่านทางคอมพิวเตอร์พกพาจอบางเฉียบ เขาไม่เข้าใจเลยว่า คุณอาที่รักต้องการสิ่งใดกันแน่ ท่านเพียงต้องการขยายกิจการเจมส์ทาวเวอร์ จึงอยากได้ทิพย์ธารามาเป็นฐานเสริมความมั่นคง หรือว่าท่านอยากได้ทิพย์ธารามาไว้เพื่อสนองความแค้นในจิตใจเท่านั้น
ชายหนุ่มถอนหายใจดังเฮือกๆ เขากำลังหาวิธีเอาทิพย์ธารามาขึ้นกับเจมส์โดยไม่ผ่านเมรภัทร หากหล่อนตั้งครรภ์จริงๆ เขาก็ไม่อยากทำร้ายสายเลือดของตัวเอง การเติบโตพร้อมๆ กับคำต่อท้ายว่า เด็กกำพร้า มันทรมานแค่ไหนเขาเข้าใจดีที่สุด เขาไม่เคยปรารถนาให้ใครต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครที่ว่านั้นคือ ลูก ของตัวเอง
เมรภัทรกำหมัดแน่นเมื่อแลเห็นบางอย่างบนหน้าจอไอแพดของเขา เส้นกราฟสีแดงเข้มดิ่งขึ้นลงสลับกันมีลักษณะคุ้นตาอย่างมาก โอ...เธอจำได้แล้ว นั่นมันข้อมูลผลประกอบการของโรงแรมทิพย์ธารา เธอนั่งดูมาเป็นอาทิตย์ก่อนวันประชุมไตรมาสที่แล้ว เขามีมันได้อย่างไร!?

บ้านพักริมทะเลตอนตะวันย่ำค่ำ
“เดล...ค่ำแล้วนะ ทานข้าวเถอะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างอ่อนโยน เดลลอร์ฟหัวใจกระตุก น้ำเสียงอ่อนโยนจนเกือบอ่อนหวานไม่เท่ามือบางที่วางทาบบนบ่า
ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนหน้าจอเป็นหน้าอื่นทันที แต่มันคงช้าไป
“ทำอะไร?” เธอถามเขา ทั้งที่เห็นมันเต็มสองตา
“ไม่มีอะไร แค่เช็คอีเมลจากลูกค้านิดหน่อย มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามกลับ ใจสั่นเล็กน้อยเมื่อกลิ่นหอมละมุนของกายสาวลอยเข้าจมูก หล่อนยืนชิดแผ่นหลังเขา จนเขารู้สึกถึงไออุ่นจากร่างหล่อน
“หิวข้าว ฉันให้แม่บ้านซื้อกับข้าวมาให้ แต่แกกลับไปแล้ว นาย คงต้อง จัดการ มันให้ฉันแล้วล่ะ”
เดลลอร์ฟมุ่นคิ้ว เขาหันกลับไปมองหล่อนอย่างงงๆ ‘จัดการ’ หล่อนจะให้เขาจัดการอะไร?
“จัดการอะไร?” เขาถามกลับ
เจ้าหล่อนทำหน้าบูดบึ้งเล็กน้อยเมื่อถูกถามกลับ แต่เขากลับคิดว่า เวลาหล่อนทำท่าทางเหมือนเด็กสาวขี้งอนอย่างนี้ น่ารักน่าตีทีเดียว
“ก็...ฉันนั่งรอนายตั้งสองชั่วโมง นายก็ยังทำงานไม่เสร็จเสียที แล้วก็แบบว่ากับข้าวที่ซื้อมามัน...”

ห้านาทีต่อมา
บนโต๊ะเตรียมอาหารในห้องครัวมีข้าวถุงแกงถุงวางอยู่ในถาดอลูมิเนียมวาววับ ข้างๆ มีผักสดสองสามอย่างแช่น้ำอยู่ในกะละมังใบย่อม มีเขียงกับมีดเล่มบางวางอยู่ สองหนุ่มสาว เข้าครัวเพื่ออุ่นกับข้าวรับประทานกันอย่างง่ายๆ แต่พอเดลลอร์ฟเห็นว่ามีของสดหลายอย่างในตู้เย็นและห้องครัวของบ้านพักหลังนี้ก็มีข้าวของเครื่องครัวครบครัน เขาจึงลงมือดัดแปลงข้าวแกงข้างถนนเหล่านั้นอย่างง่ายๆ เริ่มต้นด้วยแกงจืดซี่โครงหมูแสนจืดสมชื่อหม้อนี้
เมรภัทรยืนทำตาปริบๆ อยู่ข้างๆ พ่อครัวหัวป่า เขากำลังใส่บางอย่างลงในหม้อแกงจืดที่วางบนเตา
“เดล มันจะกินได้แน่หรือ นั่นมันสาหร่ายของฉันนะ” หล่อนเคืองเล็กน้อยเมื่อเขาเอาสาหร่ายที่มีไว้สำหรับกินแก้ว่าง มาใส่ในหม้อแกง
เดลลอร์ฟหย่อนสาหร่ายลงไปในหม้อแล้วยกขึ้นจากเตาทันที เขายิ้มภูมิใจ เมื่อสาหร่ายสีเขียวเข้มทำให้ต้มจืดซี่โครงอ่อนจากร้านข้างทางที่แม่บ้านสูงวัยซื้อหามาให้ ดูมีสีสันน่ารับประทานขึ้นมาเป็นกอง
เมรภัทรยิ้มให้เมื่อเขาแสดงออกอย่างนั้น แต่ในใจกำลังค่อนขอดชายหนุ่มว่า แค่เอาสาหร่ายลงหม้อแกงมันจะยากตรงไหน เธอทำได้สบายมาก แต่ว่าจะทำทำไมกันล่ะ ในเมื่อมีคนอยากทำให้อย่างนี้
“ว้าว! น่ากินจังเลย หอมมากด้วย เอาอะไรต่อดีนะอือ อ้อ...แหนม ป้าแกซื้อแหนมมาด้วย นายทอดให้ฉันหน่อยสิ ฉันอยากกิน”
เมรภัทรทำหน้าซื่อตาใสจ้องมองเจ้าแหนมในถุงพลาสติกราวกับว่ามันเป็นอาหารทิพย์ ที่พอกลืนลงท้องจะทำให้หล่อนเป็นอมตะ แน่นอนว่าเดลเห็นสีหน้าท่าทางของหล่อนชัดเจน
ชายหนุ่มหยิบแหนมมาหนึ่งแท่ง แกะมันออกจากสิ่งหุ้มห่อแล้วค่อยๆ หันมันเป็นชิ้นๆ เมรภัทรคงแพ้ท้องกระมัง ถึงอยากกินทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างนี้
‘ใช่แล้วละ แพ้ท้องแน่ๆ’
เดลลอร์ฟกำลังตกอยู่ในภวังค์ ไออุ่นแสนคุ้นเคยแวะมาเยือนหัวใจอ้างว้างอีกครั้ง เพียงแค่ได้เห็นหล่อนยิ้ม ได้เห็นหล่อนส่งเสียงบอกว่าอยากกินโน่นนี่นั่น มันทำให้ใจเขาเป็นสุข ราวกับว่าหล่อนกำลังส่งสารทางอ้อมว่า ลูก กำลังอยากกินเช่นกัน
เมรภัทรยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เหยื่อของเธอกำลัง หลงกล
‘เอาสิเดลลอร์ฟ คิดให้มากๆ คิดให้หนักๆ สับสนเข้าไว้ น้องพายผู้น่าสงสารจะทำให้นายกังวลสับสนจนลืมระวังตัว นายเอาข้อมูลของทิพย์ธารามาจากไหน ฉันไม่รู้ แต่น้องพาย หล่อนจะเอาข้อมูลของเจมส์มาจากนายให้ได้ คอยดู!’
“โอ๊ย!” เมรภัทรหลุดออกจากภวังค์เช่นกัน เขาเป็นไร?
“เดล!” น้องพายคนดีร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนก
เมรภัทรอยากหัวเราะตัวเองเสียจริง เธอทำไปได้อย่างไร ทั้งที่ในใจกำลังสมน้ำหน้าเขา
น้องพายคนดียื่นมือไปคว้ามือขวาของเขาขึ้นมาดู หล่อนรีบแนบริมฝีปากกับปลายนิ้วมนๆ ของเดลลอร์ฟดูดมันเบาๆ เพื่อกลืนกินหยดเลือดจากแผลมีดบาด
“เจ็บไหม?...เดล! เจ็บมากหรือเปล่า โธ่ ทำไมไม่ระวังฮะ”
น้องพายคนดีตัดพ้อต่อว่า แต่น้ำตาคลอเบ้า หล่อนก้มลงเป่าลมแผ่วเบาบนปลายนิ้วเขาอีกรอบ ขณะเดียวกันก็บังคับหยดน้ำตาให้มันรินไหลออกมาอาบสองแก้ม
เดลลอร์ฟเพ่งพินิจผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา หล่อนใช่เจ้าหญิงหิมะแน่หรือ ใช่แน่หรือ
“พาย...เธอร้องไห้!”
เมรภัทรแสร้งทำเป็นตกใจ ราวกับกับว่าน้ำตาที่รินไหลมันหลั่งออกมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว
เจ้าหญิงมารยายกมือปาดน้ำตาลวกๆ เหมือนเด็กน้อยที่กลบเกลื่อนความจริง
เดลลอร์ฟ ช้อนใบหน้าของเจ้าหญิงขึ้นมาพินิจใกล้ๆ จ้องลึกลงในหน่วยตาคู่คมของหล่อน
‘ให้ตายเถอะเดล แววเคลือบแคลงไม่จริงใจ นายหาในดวงตาหล่อนไม่เจอ!’
“ฉะ...ฉัน ฉันจะทำแผลให้ รอเดี๋ยวนะ”
เมรภัทรร้อนรนราวห่วงใยเขานักหนา หล่อนต้องรีบไปหาอุปกรณ์ทำแผลมาโกยคะแนนห่วงใยจากเขาเสียหน่อย
เดลลอร์ฟ คว้าข้อมือบางได้ทัน ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเดินจากไป เขาสวมกอดร่างอรชรแนบแน่น
เมรภัทรมุ่นคิ้ว ผู้ชายคนนี้อารมณ์แปรปรวนเสียจริง
“ขอบใจนะ พาย” เสียงทุ้มเครือเล็กน้อย
เขาสุขใจที่ได้รับความห่วงใยจากหล่อน คนที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรู
เมรภัทรใจสั่นไหว หล่อนควรดีใจหรือไม่ที่เขาซาบซึ้งในคุณงามความดีที่หล่อนปั้นแต่งขึ้นมา
“ขอบใจ เรื่องอะไร?” เจ้าหญิงหิมะถามกลับ หล่อนดันร่างเขาออกห่าง ไม่ดีแน่หากเปิดทางให้เขาจูบเธอ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น แผนการเธอจะสะดุดทันที เพราะมันคงไปจบบนเตียง!
“เดล ฉันถามว่านายขอบใจฉันเรื่องอะไร?”
เมรภัทรถามต่ออีกหน
ชายหนุ่มอึกอัก แต่สุดท้ายก็ยอมเอ่ยออกมา
“ขอบใจที่ห่วงใย ศัตรู คนนี้ ขอบใจนะพาย”
‘ เชอะ! ฝันไปเถอะ ฉันแค่เล่นละครเท่านั้นหึๆ’
“นายพูดอะไรของนาย นายยังคิดว่าเราสองคนเป็นศัตรูกันอยู่ อย่างนั้นหรือเดลลอร์ฟ!”
น้ำตาเม็ดใสไหลร่วงหล่น คราวนี้ หล่อนจงใจไม่เช็ดมัน
“สำหรับนาย ฉันคงเป็นเพียงศัตรูเท่านั้นใช่ไหมเดล...ฮือๆๆ”
เมรภัทรหันหน้าหนีเขา หล่อนกำลังบีบเค้นน้ำตาออกมาให้มากที่สุด
“ใช่...เอ่อ ไม่ใช่ เอ่อ...ไม่รู้ พายฉันขอโทษ?” ชายหนุ่มรำพันคำขอโทษมิหยุดปาก
เมรภัทรยิ้มเย้ยในใจ หวังว่าไม้ตาย คงใช้ได้ผลนะ เดลลอร์ฟ นาย...เสร็จแน่!
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องขอโทษหรอกเดล ฉันผิดเอง ฉันผิดที่คิดว่า ฉันเป็น เมีย...”
เจ้าหญิงหิมะตัดพ้อเสียงเครือ หล่อนรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับทำท่าเหมือนอยากอาเจียน
“พาย! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
เขาร้องสั่งเสียงลั่นบ้าน เมรภัทรค้อนให้คนที่อยู่หลังบานประตู หล่อนส่งเสียงอย่างคนกำลังอาเจียนแต่มือบางควานหาสองสิ่งจากในกระเป๋ากางเกงหนึ่งคือโทรศัพท์คู่ใจ อีกหนึ่งคือตลับแป้งที่เตรียมไว้ เธอหยิบมันมาผัดหน้าเอาให้หนาพอสมควรและมันก็ทำให้วงหน้าเนียนซีดเซียวขึ้นมาอีกเท่าตัว



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2556, 08:27:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2556, 08:27:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1270





<< บทที่ 5แผนพิชิตใจ   บทที่ 7 มารยาเจ้าหญิง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account