พิศวาสปรารถนา Sweet Trip in Sevilla
ความรักอันเร่าร้อนในสเปน...ดินแดนแห่งความสนุกสนาน
นตานรีหนีความเจ็บช้ำมาสเปน ก่อนจะได้มาพบสัตว์ร้ายผู้งามสง่า ชายหนุ่มที่จะทำให้โลกของเธอเปลี่ยนไปชั่วนิรันดร์
เขาคือ ลอเรนโซ ผู้ชายที่มาพร้อมกับเพลิงพิศวาสซึ่งจะแผดเผาเธอจนมอดไหม้!
Tags: เซบียา,ลอเรนโซ,นตานรี,สเปน

ตอน: 2:แค่คืนเดียว

คำเตือนก่อนอ่านนิยายเรื่องนี้

1.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักหวานแหวว--เบาสมองมากกกกกกกกกกกกกกกกกก และไม่ดราม่า ไม่สามารถหาน้ำตาจากเรื่องนี้ได้

2.นิยายติดเรตแค่บางฉากเท่านั้น นะจ๊ะ...ไม่ใช่ทั้งเรื่อง

3.เพื่อให้ลงนิยายได้ต่อเนื่องจนกระทั่ง ตอนๆ หนึ่งที่ลงจะไม่ยาวนักค่ะ

........................................................................
(คือถ้ามันเรตไป ก็บอกนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นคลีนเวอร์ชั่นแทน กลัวถูกแบนน่ะ)

Sweet Trip - 2

แสงไฟภายในห้องพักสว่างขึ้นในขณะที่สองร่างก้าวผ่านพ้นขอบประตูเข้ามา ร่างบอบบางถูกดันชิดกับผนังต้อนรับการรุกเร้าที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดคอกว้างไล้ปลายนิ้วไปตามแนวยาวของแผ่นหลังคล้ายกำลังร่ายมนต์ให้เธอยอมสยบอยู่ใต้อาณัติโดยไม่มีเงื่อนไข

นิ้วเรียวของเขาเชยใบหน้าของเธอให้เงยขึ้น บังคับให้นัยน์ตาที่ฉ่ำปรือของเธอสบเข้ากับดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเขา วินาทีนั้นราวกับโลกหยุดหมุน และก่อนที่สมองน้อยๆ ของเธอจะคิดอะไรออกได้อีก ริมฝีปากของเขาก็ประกบทาบเข้ากับเรียวปากจิ้มลิ้มของเธอ และไม่ยอมแยกจากสักชั่ววินาทีเดียว เขาทำเหมือนหญิงสาวเป็นเหมือนขนมหวานต้องลองลิ้มชิมรสไปทุกตารางนิ้ว

มือแข็งแรงที่ไล้ไปทั่วแผ่นหลังเมื่อครู่ ก็ย้ายตำแหน่งมาทำความรู้จักกับร่างกายเธอทางด้านหน้า สอดมือเข้าไปใต้บราเพื่อสัมผัสเคล้นคลึงเนินเนื้อนุ่มสลับกับสะกิดปลายยอดเป็นระยะ ประสบการณ์ชั้นเซียนของเขาปลุกให้ไฟพิศวาสของเธอให้ลุกโพลง จูบอันดูดดื่มจากริมฝีปากและสัมผัสหวามไหวจากปลายนิ้วแกร่งทำให้นตานรีทรงตัวไม่อยู่ หากไม่พิงผนังไว้ เธอคงลงไปนั่งกองกับพื้นเสียนานแล้ว

นตานรีไม่เคยทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้มาก่อน หญิงสาวไม่แน่ใจว่ามันเป็นแรงปรารถนาลึกๆ ในใจของตัวเองหรือเปล่า ที่ดึงดันมาที่นี่ ตอนนี้ ที่ๆ ไม่มีใครรู้จักเธอและจูบกับผู้ชายแปลกหน้าตั้งแต่อยู่ในลิฟต์ลากยาวจนมาถึงห้องสูทในโรงแรมชั้นหนึ่งของเซบียา มีเหตุผลเป็นล้านแปดที่เธอไม่ควรมากับเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วนตานรีก็โยนเหตุผลทั้งหมดข้ามหัวไป เธอแทบขาดความยับยั้งชั่งใจในทุกเรื่อง
ในเวลานี้เธอสนใจเพียงชายผู้ประกาศตัวเป็นราชาคนนี้เท่านั้น

ดวงหน้าอันหล่อเหลาคมคาย สายตาอันคมกริบ ริมฝีปากที่แสนเย้ายวน ดึงความสนใจของเธอได้อยู่หมัด หญิงสาวยกมือที่สั่นอยู่นิดๆ ทั้งสองขึ้นประคองดวงหน้านี้ไว้

“กลัวหรือ?” เจ้าของน้ำเสียงอันทรงเสน่ห์เอ่ยถามในยามที่ยกมือขึ้นซ้อนทับมือบอบบางนี้อีกที ดวงตาสีเขียวเข้มนั้นล้อแสงไฟเป็นแววตาที่ทำให้หญิงสาวยอมเชื่อใจอย่างไม่ต้องทบทวนใดๆ

เธอยืนอยู่ที่ปลายขอบเหวแล้ว และ...เธอก็เลือกที่จะกระโจนลงไปยังปลายทางดำมืดซึ่งเป็นปริศนาที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน

จะเป็นหุบเหวแห่งความตายหรือจะเป็นสรวงสวรรค์ของเหล่าทวยเทพ เธอก็สุดที่จะรู้ได้ รู้แต่ว่าชายคนนี้จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปกับเธอด้วยจนสุดทางในราตรีนี้ แค่นี้ก็พอแล้ว...

หญิงสาวกัดริมฝีปากล่างตามความเคยชิน ก่อนจะกล่าวตะกุกตะกัก “ช่วย...อ่อนโยนกับฉันด้วยนะ ลอเรนโซ”

ใบหน้าฉาบสีระเรื่อด้วยความเขินอายซึ่งหลบสายตาคมลงมองล่างนั้นแทบทำให้ชายหนุ่มคลุ้มคลั่ง ลอเรนโซสะกดกลั้นจิตใจที่ร้อนเร่าก่อนจะตอบรับหญิงสาวด้วยถ้อยคำอันหนักแน่น

“ได้สิ ปรินเซซา” เขาจูบเร็วๆ บนเรียวปากบางที่เจ่อนิดๆ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินตรงไปเปิดประตูในห้องนอน นตานรีทำเพียงกอดเขาเอาไว้เท่านั้น เสียงหัวใจเต้นรัวเร็วใต้แผ่นอกกว้างทำให้เธอรู้สึกดีมาก

เธอลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองถูกวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน แสงจากโคมไฟบริเวณข้างหัวเตียงสว่างขึ้น ทำให้มองเห็นว่าลอเรนโซกำลังถอดเสื้อของเขาออก เรือนร่างของชายฉกรรจ์ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอปรากฏสู่สายตาของนตานรี บ่าไหล่อันแข็งแรง แผ่นอกหนากว้างเหมาะสำหรับการเอนซบ กล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนๆ และช่วงเอวสอบที่น่าลูบไล้

ความเขินอายฉายชัดในดวงตาของหญิงสาว เธอฉวยโอกาสในช่วงเวลานั้นเอื้อมมือไปปิดไฟ

“หือ?”

“ปิดไฟ เร้าใจกว่านะ” เจ้าของมือบางตอบแบบน้ำขุ่นๆ เพื่อไขข้อคาใจของอีกฝ่าย แต่ชายหนุ่มกลับเอนตัวเข้ามาแล้วกระซิบบอกเธอพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ว่า

“คนโกหกแถมยังขี้โกงด้วย”

“ขี้โกงอะไร?” หญิงสาวชักฉุนนิดๆ

“คุณเห็นผมแล้ว แต่ไม่ยอมให้ผมได้เห็นคุณบ้าง”

“จินตนาการทำให้โลกนี้สวยงาม” นตานรีแย้งซ้ำ ในอกว้าวุ่นไปหมด สองมือของเธอจับแขนทั้งสองของชายหนุ่มเอาไว้ กลัวว่าเขาจะเปิดไฟขึ้นมา

“ปรินเซซา คุณสวยอยู่แล้ว อย่าห่วงเลย ให้ผมได้มองคุณ ชื่นชมคุณเถอะ”

“คุณนี่มันช่างหว่านล้อมจริงๆ นะ” นตานรีตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายรุกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา เธอเบียดร่างกายเข้าแนบชิดเนื้อแน่นเปลือยเปล่านั่น ได้ยินเสียงคนตัวสูงกว่าหัวเราะเบาๆ อย่างรู้เท่าทันแต่ก็ยินยอมให้เธอได้เอารัดเอาเปรียบเขาต่อเหมือนอยากรู้ว่าเธอจะทำได้ดีแค่ไหน

นตานรีขุ่นเคืองและอยากจะทำให้ราชาหนุ่มผู้อหังการคนนี้จำนนต่อเธอ

ต่อให้ไม่กล้าและไม่เคย เธอก็จะลองทำ!

มือเล็กวางแปะบนหน้าอกแกร่งทั้งสองข้าง เธอรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจของเขา สาวน้อยใจกล้าใช้ปลายเล็บกรีดไล้เบาๆ เริ่มจากจุดที่สัมผัสอยู่ไปจนถึงต้นคอแข็งแรง ประสานมือโอบคล้องคอไว้ทางด้านหลัง ผิวของเขาให้ความรู้สึกอันร้อนรุ่ม กลิ่นของเขาหอมหวนทำให้นึกถึงช่วงฤดูร้อนอันเจิดจ้า
เธอประทับจูบลงไปเบาๆ ที่ลำคอด้านหนึ่งของเขาอย่างที่ลอเรนโซทำกับเธอเมื่อครู่ ขบเม้มสลับกับตวัดปลายลิ้นลงที่ผิวเนื้อเพื่อชิมรสชาติของราชานักรัก ปลดมือตัวเองที่โอบรอบต้นคอของเขาออกเพื่อจะใช้มันลูบไล้เรือนกายแกร่งนี้จากบทเรียนที่เขามอบให้ การสัมผัสธรรมดาคงไม่เร้าใจเท่าไหร่ นตานรีจงใจใช้ปลายเล็บโลมไล้เบาๆ ขนของลอเรนโซลุกชันจนเธอสัมผัสได้ จากบ่ากว้างมาต้นแขนผ่านมาที่กล้ามเนื้อหน้าท้องและต่ำลงไปเรื่อยๆ

ชายหนุ่มขบกรามแน่น พลางปล่อยเสียงลอดไรฟันสุดกระสัน เสียงทุ้มครางเป็นภาษาสเปนก่อนที่จะเป็นฝ่ายกดร่างเล็กจมลงไปกับเตียงหนานุ่ม

“ถึงเวลาปรนนิบัติเจ้าหญิงแล้ว” ลอเรนโซลดใบหน้าลงต่ำ จุดมุ่งหมายคือซอกคอที่เขารู้ว่ามันหอมหวานแค่ไหน ชายหนุ่มซอนไซ้ตามใจอยาก ทุกครั้งที่ริมฝีปากและลิ้นร้อนสัมผัสผิวเนื้อใหม่ๆ ส่งความเสียวซ่านจนนตานรีอดไม่ได้ที่จะผวาเกาะแผ่นหลังกำยำและส่งเสียงครวญครางออกมาจากริมฝีปากบาง เขาทิ้งรอยตราสีกุหลาบเอาไว้ที่ต้นคอขาวเนียนมากกว่าสองสามแห่ง มือหนาค่อยๆ ลูบไล้หน้าท้องเรียบแบนและขาวนวลใย ชายหนุ่มถอดเสื้อยืดคอกว้างของเธอแล้วโยนทิ้งไปด้านหลัง ก่อนจะเคลื่อนเข้าไปแตะเนื้อทรวงอวบอิ่ม แบบเนื้อต่อเนื้อใต้บราเซียร์ลายลูกไม้ เพียงแผ่วผิวก็ทำให้ไฟราคะโหมกระพือจนหญิงสาวเผลอเกาะกุมหลังมือใหญ่หนา กดฝ่ามือร้อนรักให้ลงน้ำหนักเคล้นคลึง

ลอเรนโซคิดว่านตานรีออกจะไม่ประสีประสาอยู่บ้าง เขาเข้าใจว่าเธออาจมีประสบการณ์ที่ไม่สวยงามนักเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ และเขาควรเป็นคนช่วยเหลือเธอให้ได้พบกับความสุขของการร่วมรักกัน ชายหนุ่มเชื่อ...เพียงลูบไล้ปลอบประโลมอย่างถูกต้อง ก็จะได้ทุกอย่างที่ปรารถนา ดังนั้นเขาจึงซุกใบหน้าบดริมฝีปากกับส่วนสัดที่เธอเพิ่งจะเรียกร้องให้เขาเล่นล้อกับมันอย่างหนักหน่วง เธอเองก็แอ่นเนินนุ่มรับเรียวลิ้นเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ดูลเซ ” เขาพึมพำอยู่กับเนื้อเนียนละเอียดก่อนจะตวัดลิ้นไล้เลียแอ่งบุ๋มบนเรือนร่างของเธอ มือหนารูดซิปกางเกงของเธอลงและดึงมันออกจากขาเรียวอย่างรวดเร็ว ลอเรนโซยื่นมือไปสัมผัสกับต้นขาอ่อน สอดเข้าไปแตะต้องจุดอ่อนไหวที่สุดของหญิงสาวและขยับปลายนิ้วเข้าไปสอนบทเรียนขั้นต่อไป นตานรีสูดหายใจหอบหนัก เธอรู้สึกเหมือนตนล่องลอยอยู่ในม่านหมอกหนาหนัก สิ่งที่รับรู้ได้มีเพียงจังหวะการเคลื่อนไหวของนิ้วของลอเรนโซเท่านั้น ร่างบอบบางขยับดิ้นรนเพื่อค้นหาทางออก แต่ชายหนุ่มยังคงมอบทัณฑ์ทรมานอันแสนหวานต่อไป แพนตี้ตัวน้อยถูกจัดการออกไปและแทนที่ด้วยริมฝีปากและจูบอันแสนเร่าร้อน

“อย่า...” นตานรีบิดกายครางพยายามจะดึงให้ลอเรนโซเงยหน้าขึ้นมาแต่ไม่เป็นผล ชายหนุ่มยังคงสำรวจดินแดนอันหวานชื่นนั้นต่อไป

“ลาวันดา ...” ลอเรนโซคิดถึงสิ่งนี้ยามที่เขาได้ดูดดื่มน้ำค้างหวานบนยอดหญ้า
เธอคล้ายทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กำลังบานสะพรั่ง ...เหมือนเขากำลังเดินอยู่กลางดงดอกไม้สีม่วงละลานตาและมันส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจล่อหลอกนักท่องเที่ยว เขากางแขนออกไปก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสกลีบดอกไม้ที่ชูช่อรับสายลม และจุมพิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแทบอยากจะกลืนกินเสียให้หมด

เสียงครางกระเส่าและความชุ่มชื้นของหญิงสาวคล้ายสัญญาณเตือนให้กระทิงเปลี่ยวรู้ว่ามาถึงจังหวะจะต้องโรมรัน เขาเสียดสีถูไถตัวตนเข้ากับบริเวณหน้าท้องเรียบเนียนก่อนจะลงทาบทับ ครอบครองเธออย่างเชื่องช้าแต่ทว่าหนักหน่วงด้วยการล่วงล้ำเพียงครั้งเดียว มอบความหฤหรรษ์ที่แท้จริงให้หญิงสาวผู้ไร้เดียงสา
เสียงกรีดร้อง ความคับแน่นและม่านบางๆ ที่เขาสัมผัสได้ ทำให้ดวงตาที่หรี่ปรือลงเพราะแรงพิศวาสเบิกกว้างเมื่อได้รู้ว่าหญิงสาวใต้ร่างนั้นยังเวอร์จิ้นอยู่

ลอเรนโซตกใจแต่เขายังต้องดำเนินต่อไป ถึงหยุดตอนนี้ก็ไม่สามารถเรียกคืนเยื่อพรหมจรรย์ได้อีกแล้ว เขาขยับสะโพกช้าๆ เพื่อให้นตานรีได้ปรับสภาพและมอบจุมพิตอันอ่อนโยนลงบนหน้าผาก เปลือกตา และริมฝีปากเพื่อปลุกปลอบให้หญิงสาวลืมเลือนความเจ็บปวด เรือนร่างแบบเริ่มดิ้นรนเพื่อค้นหาหนทางปลดปล่อยความเร่าร้อนภายในที่แผดเผาอยู่

“ใจเย็นๆ ปรินเซซา” ลอเรนโซเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะ ดึงเกมรักให้เข้าสู่ช่วงเวลาที่เร้าใจที่สุด เลือดในกายเหมือนจะเดือดพล่าน ร่างหนาเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ และนำพาหญิงสาวไปเยือนดินแดนแห่งความสุขสันต์

นตานรีรู้สึกคล้ายกับตัวเองได้เกิดใหม่ หัวสมองว่างเปล่า แต่จิตใจกลับอิ่มเอม เหมือนตัวเองได้ปลดปล่อยความทุกข์ทนออกไปหมด และเปิดรับเอาความสุขเข้ามาเต็มเปี่ยม ชั่วพริบตานั้นเหมือนตัวเองได้ไปยืนอยู่กลางทุ่งหญ้าที่ ท้องฟ้าสีครามสดใส สูดอากาศบริสุทธิ์ที่คละเคล้ากลิ่นดอกไม้ที่หอมหวาน ช่างเป็นช่วงเวลาสวยงามของฤดูร้อน แต่เมื่อลืมตามองชายหนุ่มที่กอดเธออยู่ นตานรีก็รับรู้ได้ว่า เขาต่างหากคือฤดูร้อนของเธอ

ออกจะเป็นเรื่องบ้าบอไปสักนิด แต่วินาทีนั้นหญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองได้ถูกชำระล้างจากความเศร้าโศกทั้งปวงที่รบกวนจิตใจ และชายหนุ่มคนนี้คือคนที่ทำให้เธอได้รับความสุขเต็มเปี่ยม ริมฝีปากบางขยับไปจูบเบาๆ บนเรียวปากเหนือเคราสากนั้นและผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย

********************************
‘Oh shit!!’

นั่นเป็นคำสบถของหญิงสาวที่รีบเข้ามาอยู่ในห้องน้ำหลังจากตื่นขึ้นมาพบวันใหม่และใครอีกคน ไม่สิ สัตว์ร้ายนอนเหยียดกายเปล่าเปลือยบนเตียงนอน นตานรีเสียเวลานิ่งคิดไม่กี่วินาทีก่อนจะคว้าเสื้อยืดที่ตกอยู่มาสวมแล้ววิ่งเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับเครื่องแต่งกายอื่นๆ ของเธอที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้อง เธอนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อจะสงบสติอารมณ์หลังจากที่ได้รับรู้ว่าตนได้ทำเรื่องผิดพลาดมหาศาลไปแค่ไหน

One night stand กับชายแปลกหน้าในวันแรกที่เหยียบเซบียาแห่งนี้

มีแต่คำว่า ตายๆๆ ตะโกนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว ทว่าพอหันไปมองกระจกยาวที่ส่องให้เห็นเรือนร่างของตัวเองซึ่งบนผิวปรากฏรอยสีแดงๆ หลายรอย ใบหน้าขาวซีดก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ความทรงจำของเมื่อวานหรืออาจจะนับเป็นเมื่อเช้ามืดสร้างความวูบวาบไปตามเนื้อตัวราวกับถูกสัตว์ร้ายนั้นสัมผัสอีกครั้ง

นตานรีทราบว่าตัวเองหวั่นไหวมาก ทั้งนี้อาจเพราะไม่เคยเจอใครที่เหมือนกับผู้ชายคนนี้มาก่อน และยอมรับว่าเรื่อง...นั้นถึงเธอจะเจ็บแต่ก็รู้สึกดีมากๆ แต่หากคิดในแง่ปกติแล้ว เธอไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคนแปลกหน้า

หญิงสาวจัดการชำระล้างร่างกายอย่างลวกๆ เพื่อรีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้ หลังจากที่ตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่มีทรัพย์สินส่วนไหนขาดหาย ซึ่งอันที่จริงเธอก็พบของติดตัวมาไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

ตอนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา เห็นสัตว์ร้ายนอนคว่ำหน้า ท่อนแขนที่เคยกอดเธอเมื่อคืนกอดหมอนอยู่ มีผ้าห่มคลุมอยู่ตรงช่วงบั้นเอวอย่างหมิ่นเหม่ เผยผิวสีน้ำผึ้งตั้งแต่ต้นคอลงมาจนหมดเปลือก หญิงสาวมองไล่ไปตามเส้นสายที่ตวัดเป็นรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเขาอย่างหลงใหล

นตานรีอยากจะก้าวเข้าไปหาเพื่อบอกอรุณสวัสดิ์กับเขาแทน แต่ยังดีที่ห้ามใจตัวเองได้เสียก่อน เธอเม้มปากแน่นนึกหงุดหงิดที่ตัวเองหลงหน้าตารูปร่างของอีกฝ่ายเกินไป...ผู้ชายคนนี้เสน่ห์เหลือร้ายจริงๆ

ดูเหมือนว่าลอเรนโซจะมีผลทำให้ต่อมรู้สึกผิดของเธอไม่ทำงาน แต่...เขาก็ทำให้เธอยิ้มรับวันใหม่ได้อย่างที่ว่าไว้จริงๆ ด้วย

“อาดิโอส ” นตานรีบอกลาชายหนุ่มเป็นภาษาสเปน และแล้วรอยยิ้มแรกของวันก็ประดับอยู่บนใบหน้าเรียว

*********************
ภาษาสเปน วันละคำ
ดูลเซ Dulce แปลว่า Sweet
ลาวันดา Lavanda คือ ดอกลาเวนเดอร์ Lavender
อาดิโอส (Adiós) แปลว่า ลาก่อน
***********************

ตอบเมนท์จ้า
1. พี่ Siang - ร้อนแรงเป็นบางฉากค่ะ หลังจากนี้จะเป็นแนวน่ารักน่าหยิกแทน.. ลองเปลี่ยนแนวดูบ้างอ่ะ ตามเทรนด์ๆ
2. คุณ mhengihy - ฮี่ เดี่ยวจะหลงตาลอเรนโซมากกว่านี้อีกน้า ขอบอกๆ

********************************
นักอ่านค้า ถ้าชอบ ขอเมนท์ด้วยนะค้า นะๆ



ท้องฟ้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2556, 06:56:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2556, 06:56:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 13022





<< 1: ราชาตัวร้าย   3:จุดประสงค์หลัก >>
phugan 2 เม.ย. 2556, 07:46:17 น.
สาวเจ้าหนีไปซะแล้วละลอเรนโซเอ๋ย....555


Siang 2 เม.ย. 2556, 11:23:44 น.
โิอ๊ะโอ ราชาจะตามหาเจ้าหญิงเจอมั๊ยนี่


แพม 9 เม.ย. 2556, 08:36:27 น.
เจ็บป่ะ


ลิลลี่ 3 พ.ค. 2556, 21:30:31 น.
กลายเป็นฝ่ายญฟันแล้วทิ้งป่ะเนีีย55555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account