ไฟรักเทพบุตรทมิฬ
ปมปัญหาในครอบครัวทำให้เขาเป็นคนแข็งกร้าว ใจดำทมิฬในสายตาทุกคนไม่เว้นแม้แต่สาวน้อยหน้าใสอย่างเธอก็ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ผู้ชายที่ไม่รู้จักคำว่า ‘รัก’ ด้วยอีกคน เมื่อเขาใช้เล่ห์ลวงให้เธอรักและสลัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย แต่ใครจะรู้ว่านับตั้งแต่ได้รู้จักเธอแล้ว เทพบุตรไร้หัวใจคนนี้กลับโหยหาแต่ไออุ่นของเธอเพียงผู้เดียว!
Tags: เทพบุตร ทมิฬ

ตอน: บทที่ 1 โชคชะตาหรือฟ้าลิขิต (ครึ่งหลัง)

หลังงานศพยายจำเนียรผ่านพ้นไป จันทร์แก้วกลับมาอยู่บ้านเช่าในย่านชุมชนแออัดเหมือนเดิม แม้เธอจะคอยระมัดระวังตัวแจแต่ก็ไม่วายต้องเกิดเหตุร้ายคุกคามขึ้นอีกจนได้ ด้วยความที่อยู่ตัวคนเดียวซ้ำเธอเองยังต้องทำงานหนักส่งตัวเองเรียนให้จบมัธยมจึงทำให้ไม่มีเวลาดูแลบ้านช่องสักเท่าไร มารู้ตัวอีกทีก็คือค่ำวันใหม่ที่กลับมาจากเรียนและงานพิเศษว่าพวกขี้ยาแอบงัดประตูบ้านเธอบุกเข้าไปรื้อค้นข้าวของมีค่าได้เงินเก็บที่เธอตั้งใจเอาไปฝากธนาคารแต่ยังไม่มีเวลาไปเกลี้ยงกระปุก ร่างเล็กทรุดนั่งทดท้อใจเหลือคำบรรยาย มองสภาพบ้านไม้เก่าซอมซ่อที่แสนเงียบเหงาก็ยิ่งอ้างว้างชันเข่าก้มหน้าร้องไห้สุดรันทดในโชคชะตาตัวเอง

“การมีชีวิตอยู่มันไม่ง่ายเลยนะจ๊ะยาย” เงยหน้าพูดกับโกศอัฐิยายจำเนียรข้างหิ้งพระที่ตอกเพิ่มติดฝาผนังไม้ถัดมา น้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วยตาความว้าเหว่กัดกร่อนหัวใจเธอทรมานตายไปทุกๆ วินาที ไม่แน่ใจว่าเธอจะมีพลังใจยืนอยู่บนโลกนี้เพียงลำพังได้นานเพียงไหน จ้องมองดวงหน้าขาวดำรูปถ่ายยายจำเนียรบนหิ้งบูชานิ่งนาน

“ไม่ต้องห่วงจ้ะยาย จันทร์ไม่ท้อง่ายๆ อีกไม่นานหลานคนนี้จะนำปริญญาบัตรมาวางเคียงคู่ยายให้ได้ ยายคอยเป็นกำลังใจให้จันทร์นะจ๊ะ” น้ำตาเม็ดใสร่วงพรู สั่นสะเทือนในอกคำพูดที่ยายอยากได้ยินมาทั้งชีวิตเธอกลับไม่เคยได้พูดมันเลยจวบจนยายจากไปหลานไม่รักดีคนดีถึงคิดได้ในวันที่สายไปแล้ว...

โครม!

ร่างเล็กสะดุ้งตกใจมองที่มาของเสียงใจหายวาบเมื่อเห็นชายหน้าเสี้ยมซูบตอบสามคนที่จำได้ว่าเป็นวัยรุ่นขี้ยาหน้าชุมชนถีบประตูพังเข้ามามองเธอทั่วเรือนร่างในชุดนักเรียนแววตาหื่นกระหาย จันทร์แก้วลุกพรวดตั้งท่าระวังภัยสายตาหลุกหลิกมองหาทางหนีทีไล่

“ช่วยด้วย ใครอยู่แถวนี้ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย!!!”

ละล้าละลังไม่รู้จะไปไหนดีเมื่อหนึ่งคนดักหน้าอีกสองคนประกบข้างกายต่างค่อยๆ ย่างสามขุมมาเธอที่ยืนหน้าซีดใจสั่นกรีดร้องสุดเสียงสะบัดเตะถีบพวกขี้ยาที่รุมทึ้งเธอสุดแรงขาดใจแดดิ้น เสียงเสื้อขาดดังแคว่กเป็นทางยาวพร้อมเสียงตบหน้าดังซ้อนกันอีกสองสามที จันทร์แก้วเริ่มจุกเสียดท้องน้อยที่โดนขี้ยาคนหนึ่งชกเข้าเต็มหมัด อาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายถีบคนปลายเท้าจนกระเด็นสะบัดหลุดสองคนที่จับตรึงแขนสองข้างก่อนจะวิ่งเตลิดไม่รู้ทิศออกไปในสภาพกระเซอะกระเซิงผมเผ้ากระจัดกระจาย

“ฮือๆ ยายจ๋า ไม่เอาแล้ว จันทร์ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว” จันทร์แก้วร่ำไห้กอดตัวเองเดินเท้าเปล่าเลียบทางเท้า ไม่สนไม่แคร์สายตาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทาง หย่อนกายลงนั่งบนจุดรอรถสองแถวไปชายหาด เศษเสื้อบริเวณช่วงแขนที่ฉีกขาดสร้างความน่าสนใจในตัวเธอให้ผู้โดยสารที่นั่งด้วยกันสะกิดไถ่ถามด้วยความอยากรู้ หญิงสาวเอาแต่สะอื้นไห้สั่นหัวไม่ยอมพูดอะไร เธอไม่อยากอยู่ตัวคนเดียวอีกแล้วในเมื่อโลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับเธอเหลือเกิน

เสียงคลื่นซัดสาดพร้อมกลิ่นไอเค็มของทะเลโชยแตะจมูก สายลมพัดอ่อนๆ โลมไล้เรือนร่างเล็กที่ก้าวไปยังชายหาดช้าๆ น้ำทะเลเย็นเยียบที่สาดซัดสองขาเรียกสติคืนมาจากความคิดชั่ววูบที่อยากฝังตัวเองใต้ผืนทะเลกว้างใหญ่ไพศาลหนีปัญหาทุกอย่าง หนีคำสัญญาที่เธอยังทำให้ยายไม่ได้ จ้องมองเงาจันทร์กระทบผืนน้ำก่อนจะค่อยๆ แหงนหน้ามองจันทร์ดวงเดียวกันบนพื้นนภาน้ำตานองหน้า

“ยายคอยมองจันทร์อยู่บนนั้นใช่ไหมจ๊ะ และคงผิดหวังมากด้วยใช่ไหมที่จันทร์อ่อนแอยอมแพ้ต่อบททดสอบของชีวิตง่ายๆ บางคนอาจเจอยิ่งกว่าจันทร์เขาก็ยังอยู่กันได้ แต่จันทร์... จันทร์อ่อนแอใช่ไหมจ๊ะยาย จันทร์มันพวกขี้แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มพยายามเลยใช่ไหมจ๊ะ” หยาดน้ำใสๆ ร่วงรินทรุดกายกอดหัวเข่าตนเองบนพื้นทรายปลดปล่อยทุกความอ่อนแอทิ้งไปกับสายน้ำและสายลม

“เข้มแข็งเข้าไว้สิจันทร์แก้ว เธอจะอ่อนแอไม่ได้นะ ลุกสิ ลุกขึ้น ยายกำลังรอเธอไปทำตามคำสัญญาให้สำเร็จอยู่นะ เข้มแข็งเข้าไว้จันทร์แก้ว เธอจะต้องไม่อ่อนแอ!” ปลุกปลอบเรียกขวัญกำลังใจตนเองอยู่นานร่างผอมบางก็หยัดกายลุกขึ้นในที่สุด หมุนกายย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อสู้ปัญหาชีวิตที่เธอต้องไม่ยอมแพ้ เธอจะขอเป็นบางคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตให้ยายที่มองลงมาได้ภูมิใจแล้วจะฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคที่ขวางทางไปให้ได้อย่างเข้มแข็งและมีสติ

หน้าชุมชนที่พักอาศัยตลอดสิบหกปี ร่างเล็กสูดลมหายใจพร้อมเผชิญความจริงทุกอย่างมือบางกระชับมั่นไม้หน้าสามในมือที่หามาได้ย่างเท้าทุกก้าวไปอย่างระแวดระวังภัยอย่างรอบคอบมีสตีกับปัจจุบันให้มากที่สุด เดินเข้ามาได้เพียงครึ่งทาง ใจเธอก็เริ่มชื้นพร้อมๆ กับความอายที่เริ่มมาแทนที่เมื่อกลุ่มคนที่ยืนออหน้าบ้านเธอหันหัวชนกันนินทาสิ่งที่ปะติดปะต่อเข้าไปผิดๆ จากสภาพที่พักอาศัยและสภาพร่างกายของเธอ จันทร์แก้วข่มความอายฝืนเดินฝ่าคลื่นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตรงไปยังเจ้าหน้าตำรวจสามสี่นายที่กำลังควบคุมตัวพวกขี้ยาสองคนและคชา!

“พี่ช้าง!” เสียงเล็กอุทานลั่นปรี่เข้าไปหาชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปีที่หันมายิ้มเผล่ให้เธออย่างดีใจที่เห็นหน้าทั้งๆ ที่หน้าเขาเต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำดำเขียวไปทั่วไหนจะสองมือที่ถูกไพล่หลังพันธนาการด้วยห่วงเหล็กสีเงินนั่นอีก

“จันทร์! ปลอดภัยใช่ไหม บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงจันทร์แค่ไหน” คชากวาดสายตามองหาร่องรอยบาดแผลของหญิงสาวตรงหน้า จันทร์แก้วส่ายหน้าใช้สายตาเต็มตื้นมองคนเพียงคนเดียวที่พร้อมยืนอยู่ข้างเธอเสมอบนโลกความจริงอันแสนโหดร้าย...พี่ช้าง!

“คุณตำรวจทำไมต้องจับพี่ช้างด้วย พี่เขาไม่ผิด จะจับก็จับไอ้ชั่วพวกนั้นสิ พวกมันคิดจะข่มขืนฉันมาจับพี่ช้างทำไม ปล่อยพี่ช้างนะ” จันทร์แก้วปัดมือเจ้าหน้าที่ตำรวจออกแรงยื้อยุดคชามาทางเธอ ดวงตาคู่หวานขุ่นเคืองเต็มทีครั้นเห็นผู้พิทักษ์สันติราษฎ์จับกุมผิดคน

“ใจเย็นก่อนนะครับคุณ มีอะไรไปพูดกันที่โรงพัก เพราะคดีนี้ไม่ใช่คดีทะเลาะวิวาทธรรมดาเมื่อผู้เสียหายคนหนึ่งถูกแทงที่ท้องอาการสาหัสถูกหามส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ทางญาติผู้เสียหายเองก็ไม่ยอมความลูกเดียว ยังไงผมคงต้องควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปก่อน ส่วนคุณถ้าอยากแจ้งความอะไรเพิ่มก็ไปคุยกันต่อที่โรงพัก” เจ้าหน้าที่สองนายควบคุมคชาและขี้ยาอีกสองคนขึ้นท้ายรถตำรวจจากไปท่ามกลางเสียงสมน้ำหน้าซ้ำเติมจากคนชุมชนเดียวกัน ร่างเล็กแทบทรุดเมื่อเรื่องทุกอย่างกลับตาลปัตรทำเอาคนดีต้องเดือดร้อนแทนเธอพรวดพราดเข้าไปในบ้านหยิบหลักฐานส่วนตัวติดตัวก่อนจะมุ่งตรงไปยังโรงพัก

“โธ่! ไอ้ลูกเวรทำไมโง่อย่างนี้ กล้าเอาอนาคตไปเสี่ยงกับอีเด็กใจแตกคนนี้อีกทำไมฮ้า ไอ้ลูกควาย!” แม่ควายร่ำไห้ด่าว่าลูกควายผ่านลูกกรงเหล็กที่คุมขัง คชาเงยหน้ามองจันทร์แก้วที่ยืนตัวลีบสบตาเขาเสียใจที่เรื่องกลับแย่ยิ่งขึ้นครั้นเธอไปเจรจาให้ญาติผู้เสียหายยอมความแลกกับการที่เธอจะไม่แจ้งความจับพวกมันข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามจะข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนอายุไม่เกินสิบแปดปีอย่างเธอ แต่ญาติผู้เสียหายกลับไม่กลัวยืนกรานเสียงแข็งจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดในชั้นศาลพร้อมดำเนินการแจ้งจับคชาในข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า!

“แล้วทีนี้จะเอายังไงดีฉัน อีนางจุ้มมันก็ดันหน้าเลือดรีดเลือดกับปูเห็นๆ อยู่ว่าคนหาเช้ากินค่ำด้วยกันจะมีปัญญาหาเงินห้าแสนมาจากไหนมาให้มัน” สุนีย์กุมขมับกลัดกลุ้มหลังนางจุ้มแม่ค้าขายปลาแผงตรงข้ามยื่นคำขาดขอเงินห้าแสนแลกกับการถอนแจ้งความทุกข้อหาที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้

“ห้าแสน! บ้าหรือเปล่าแม่ ลูกมันเมายา คิดข่มขืนจันทร์ ฉันแค่พลาดทำมันบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกเท่านั้นเอง ทำไมความยุติธรรมมันไปอยู่ที่ไหนหมดว่ะ บ้า! บัดซบเอ๊ย!” ชายที่ติดแหง็กในลูกกรงทำเสียงดังฮึดฮัดขึ้นจมูก

“ก็ใครใช้ให้แม่นี่ทำเป็นหัวหมอรู้กฎหมายเล่า ทีแรกมันจะเรียกห้าหมื่นอยู่แล้ว ดันไปเล่นลิ้นจะแจ้งจับไอ้อ๊อดลูกมันบ้างแล้วเป็นไง อีนางจุ้มมันกลัวซะที่ไหน มันถือว่าผัวมันเป็นลูกน้องเสี่ยวิชัยทำอวดเบ่งทั่วโรงพัก ไอ้ช้างเอ๊ย ทำไมแกมันดวงซวยอย่างนี้น้า” จันทร์แก้วถอนใจหนักหน่วงสลดเศร้าในเสียงคร่ำครวญของน้าสุนีย์ ทั่วเมืองพัทยาใครๆ ก็รู้ว่าคนของเสี่ยวิชัยแตะต้องไม่ได้ แม้เห็นได้ชัดว่าคดีเธอจะได้เปรียบมากกว่าแค่ไหนแต่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนอำนาจเงินตราก็ยังสำคัญเหนือความถูกต้องอยู่ดี

“พี่ช้างไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ไม่ว่าอย่างไรจันทร์จะต้องช่วยพี่ออกมาให้ได้” พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป คชาร้องเรียกอย่างตกใจแววตาฉายความปริวิตกกังวลเมื่อเงินตั้งมากมายจันทร์แก้วจะหาจากไหนมาช่วยเขา

หลังออกจากโรงพักจันทร์แก้วก็ตรงกลับมาบ้านเช่าอีกครั้ง ทอดสายตามองสภาพเละเทะของห้องก็ต้องทอดถอนหายใจเดินตรงไปยังครัวขนาดย่อมๆ ที่อยู่บริเวณหลังบ้านเปิดฝาหมอหุงข้าวหยิบเช็คเงินสดห้าแสนขึ้นมา ดวงตาคู่หวานสลดเศร้าหดหู่เมื่อผลสุดท้ายคุณค่าความเป็นคนของเธอก็ต้องพ่ายแพ้อำนาจเงินตราอีกคน!

“จันทร์!”

คชาซอยเท้าลงบันไดออกมาจากโรงพักหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวในวันรุ่งขึ้นเนื่องจากผู้เสียหายถอนแจ้งความไปหมดแล้ว หนุ่มหน้าตี๋เท้าสะเอวขมวดคิ้วมุ่นถามเธอทางสีหน้า

“บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ แค่คืนเดียวจันทร์ไปเอาเงินตั้งเยอะตั้งแยะมาไหน!”

“จันทร์ไม่ได้ไปปล้นใครมาทำไมพี่ช้างต้องหงุดหงิดใส่จันทร์ขนาดนี้ด้วยละจ๊ะ” จันทร์แก้วปั้นยิ้มจืดจางเต็มที

“อย่ามาตลกใส่พี่นะจันทร์แก้ว ห้าแสนมันเยอะเกินไปที่ภายในคืนเดียวจันทร์จะหามาได้ ถ้าไม่ใช่... โธ่เว้ย!” คชาสบถอารมณ์เสียหนักขึ้นไม่กล้าคิดและไม่กล้าพูดว่าจันทร์แก้วจะหาเงินมากมายพวกนี้มาจากไหน หน้าเล็กหมองลงนึกรู้ว่าเขาคิดถึงเรื่องอะไรฝืนยิ้มตอบกลับไปให้คนคิดมากสบายใจ

“อย่าห่วงเลยจ้ะ จันทร์ไม่มีความคิดจะขายตัวหรือเนื้อหนังมังสาแลกเงินทั้งนั้น” ชายหนุ่มรู้สึกผิดวาบที่ทำให้สาวน้อยหงอยลงไปกว่าเดิมบีบเบาๆ บนบ่าเล็กเป็นเชิงขอโทษ

“พี่รู้ว่าจันทร์ไม่ทำมันแน่ แต่พี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าจันทร์ไปเอาเงินมาจากไหนตั้งมากตั้งมาย” ปากบางกระตุกยิ้มแค่นเสียงตอบกลับนึกสังเวชตัวเองนัก

“รางวัลของจันทร์ไงจ๊ะพี่ช้าง แค่ไปยืนเป็นตัวตลกให้พวกลูกเศรษฐีหัวเราะเฮฮากันก็ได้มาง่ายๆ ตั้งห้าแสน...มันคุ้มดีใช่ไหมล่ะพี่ช้าง”

“จันทร์...” ชายหนุ่มเสียงหวิวดึงร่างเล็กมากอดปลอบใจแสนสงสารและแค้นใจไอ้ลูกเศรษฐีชาติชั่วคนนั้น

“เอ้า! จะกลับกันได้หรือยังฮ้าไอ้ช้าง เผลอเป็นไม่ได้เลยนะแกอดอยากปากแห้งมาจากไหนไอ้ลูกเวรนี่” เสียงแปร๋นๆ ดังไล่หลังครั้นออกมาเจอฉากเด็ดกอดกันอีกแล้ว จันทร์แก้วดันกายออกเมื่อไม่อยากมีปัญหา

“พี่ช้างกลับไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวจันทร์ก็จะไปทำงานเหมือนกัน” สาวน้อยตัดบทที่เห็นคชาลังเล

“ก็ได้ ไว้เย็นๆ พี่ไปรับกลับบ้านนะ” จันทร์แก้วจำต้องพยักหน้าเมื่อไม่อยากต่อความสาวความยืด สุนีย์เขม่นสายตาทิ้งท้ายไม่มีแม้แต่คำขอบคุณให้เธอที่อุตส่าห์หาเงินมาให้ดึงแขนลูกชายนางจากไปทันที จันทร์แก้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ‘ทำงาน’ ใช่! ถ้ามันมีงานให้เธอทำมันก็คงดีสิ

จันทร์แก้วเดินเตะฝุ่นกลับบ้านเมื่อแม่ค้าในตลาดต่างพากันเกลียดขี้หน้าเธอหมด ไม่มีใครจ้างงาน และไม่มีใครคุยด้วย งานที่ผับเสี่ยวิชัยก็ถูกวิวัฒน์พาลหาเรื่องไล่เธอออกจากงานโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ร่างเล็กรูดผ้าม่านที่ใช้แทนประตูที่พังไปแล้วปิดลงก่อนจะเดินไปนั่งซึมมุมห้องให้รู้สึกทดท้อมืดแปดด้านไปหมดทุกทาง ‘ยายจ๋า แม้จันทร์อยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่หนทางข้างหน้ามันช่างมืดมนเหลือเกิน’ ระบายลมหายใจยาวเฟื้อยกอดเข่าจับเจ่าจมอยู่ในความคิดเนิ่นนาน...

“ถ้าเดือดร้อนหรือมีปัญหาอะไรที่ฉันพอช่วยได้ก็ขอให้ติดต่อมา ฉันยินดีช่วยหนู”

“จริงสิ! คุณใจดีคนนั้น” ดวงหน้าเล็กกระจ่างรอยยิ้มเมื่อเห็นแสงสว่างอยู่รำไรลุกพรวดรื้อค้นนามบัตรในกล่องเก็บเอกสารสำคัญก่อนจะคลี่ยิ้มดีใจที่เห็นมันยังอยู่

“ยายจ๋า จะเป็นฟ้าลิขิตหรือโชคชะตาก็ตาม แต่จันทร์จะไปหางานทำที่กรุงเทพจ้ะ ยายคอยเป็นกำลังใจให้จันทร์นะ” จันทร์แก้วไล้ที่อยู่ตัวอักษรสีทองบนนามบัตรมีความหวังและกำลังใจในหนทางสว่างที่ค้นพบ...วังสิทฐนต์!



ทิพกฤตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 เม.ย. 2556, 21:36:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 เม.ย. 2556, 21:36:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 1321





<< บทที่ 1 โชคชะตาหรือฟ้าลิขิต (ครึ่งแรก)   บทที่ 2 กาในฝูงหงส์ (ครึ่งแรก) >>
pkka 18 เม.ย. 2556, 22:24:51 น.
โห ลำบากแท้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account