บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน
ตอน: บทที่ 26 ผมรักคุณ (ตอนอวสานแล้วค่ะ)
บทที่ 26
ผมรักคุณ
ขนมจีนมองหน้าเขา อย่าว่าแต่สามสิบล้านเลยตั้งห้าสิบล้านเขาจะไปเอาเงินที่ไหนกันล่ะ
“ธีร์” เธอกระซิบแผ่ว
“ผมให้ทองยี่สิบบาท กับเงินอีกห้าสิบล้าน หวังว่าแค่นั้นคงจะพอ” เขาเหยียดยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย
“พอจ้ะ พอเลยล่ะ แหม...เป็นบุญของขนมจีนมันจริง ๆ ที่มีหลานเขยแบบนี้” พอพูดเรื่องเงินน้ำเสียงของป้าผกาก็เปลี่ยนเป็นความเอ็นดูขึ้นมาจริง ๆ “แล้วจะเอาสินสอดมาให้ป้าเมื่อไหร่กันล่ะ”
“ตอนแรกผมก็ว่าจะเอามาเร็วที่สุด แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้คุยกับขนมจีนเลย”
“ไม่ตกลงค่ะ”
ป้าผกาแทบลมใส่ อะไรนะเมื่อกี้ขนมจีนพูดว่าไม่ตกลงงั้นเหรอ
“ขนมจีน แกจะบ้าเหรอ” เธอร้องเสียงแหลม
“ไม่ตกลงค่ะ ยังไง ๆ ขนมจีนก็ไม่ตกลง ถ้าป้าตกลงก็ช่วยไปแต่งงานแทนหนูด้วย ขอตัวกลับล่ะค่ะ” ขนมจีนขึ้นเดินออกไปทางประตูหน้าบ้าน ธีร์ยิ้มเย็นค้อมศีรษะลง
“ขอตัวสักครู่นะครับ พอดีว่าเธอยังโกรธผมไม่หาย”
“จ๊ะ ๆ เร็ว ๆ หน่อยนะ ป้าจะเป็นลม”
ป้าผกาจะเป็นลมขึ้นมาจริง ๆ เมื่อทองยี่สิบบาทกับเงินห้าสิบล้านหายวับไปกับตา แต่ขนมจีนไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงินเธอไม่มีวันยอมแต่งงานกับเขาเป็นอันขาด เธอเดินออกมาที่ถนนภายในใจเธอครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมเขาถึงตามมาได้นะ แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อรถยนต์สีดำแล่นมาจอดที่ข้างลำตัว โดยกระจกเลื่อนลงมา โดยมีใบหน้าของธีร์กับเสื้อยืดสีขาวเสื้อแจ็คเก็ตสีดำยิ้มให้เธอ
“ขึ้นมาสิ” เขาบอกเธอ
“ทำไมฉันต้องขึ้นไปกับคุณด้วย” ด้วยมานะและทิฐิทำให้เธอแหวใส่
“เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน”
“แต่ฉันไม่มี” เธอตอบพลางเดินไปเรื่อย ๆ โดยทำเป็นไม่เห็น
“คุณไม่มีแต่ผมมี แล้วก็มีมากด้วย”
ขาดคำรถยนต์ก็แล่นมาจอดที่ด้านหน้าของเธอ แล้วเขาก็เปิดประตูรถลงมาคว้าแขนเธอ ขนมจีนร้องว้าย
“จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ”
“ไปกับผม ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
“แต่ฉันไม่มีนี่นา นี่..ปล่อยสิ”
“แต่ผมมี เข้าไป”
“โอ้ย” ขนมจีนถูกจับยัดเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูเสียงดังสนั่นเธอหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นเขาเดินอ้อมมานั่งข้างหลังพวงมาลัย จึงเม้มปากแน่น “คนดื้อรั้น และอวดดี”
“ผมจะอวดดีมากกว่านี้อีก ถ้าคุณยังเป็นอย่างนี้อีก”
“ฉันทำอะไร”
“คุณไม่แต่งงานกับผม”
“ฉันมีสิทธิ์ ฉันจะไม่แต่งหรือแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้น คุณไม่เชื่อก็ลองดูสิ” เธอร้องเสียงดัง ธีร์ขบกรามแน่นโน้มใบหน้าลงมาจนชิตจนขนมจีนถอยหลังไปชนประตู
“อย่าท้านะ”
ขนมจีนไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าจะถูกจูบ
“คนบ้าอำนาจ” เธอบ่นอุบอิบ
“ผมบ้าอำนาจเฉพาะกับใครบางคน” เขาถอนหายใจยาว
ธีร์และขนมจีนไม่คุยกันอีกเป็นเวลาเกือบชั่วโมง และเขาพาเธอมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งเธอหน้าซีดเผือด นี่เขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเธองั้นเหรอ ไม่นะเธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“ไม่นะ ปล่อยสิ คุณจะบ้าเหรอ”
“มานี่กับผม”
ธีร์จับต้นแขนเธอไปสู่ด้านในโรงแรมแล้วขึ้นลิฟต์ตรงไปชั้นบนสุด เธอพร้อมกับหนีลงมาทางบันไดถ้าหากว่าหนีไปได้ เธอเบียดชิตฝาผนังลิฟต์ นี่เขาจะทำอะไรเธอจริง ๆ เหรอ
“นี่คุณ...จะทำอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ”
“ทำอะไร”
เธอเม้มปากแน่น นี่เขาจะให้เธอพูดเองทั้งหมดเลยหรือไง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเธอถึงกับจะวิ่งลงบันไดทางเดินหนีไฟทันที แต่ธีร์ไวกว่าเขาจับต้นแขนเธอพร้อมทั้งโอบกอดเธอไว้ในวงแขนแน่น
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”
“คุณ..นี่คุณเป็นอะไร อยู่เฉย ๆ สิ”
“คุณมันบ้า ฉันไม่น่าเชื่อใจคุณเลย”
“ใครบ้า นี่คุณพูดดี ๆ นะ” เขาเริ่มโมโห “มองให้มันดี ๆ ก่อนแล้วค่อยพูด”
ขนมจีนมองไปรอบ ๆ ตัวจึงเห็นว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นจุดชมวิวที่ว่าสูงที่สุดเธอหน้าแดงจัดเพราะเห็นว่าผู้คนที่กำลังมองตรงมาเป็นจุดเดียว ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะอยู่ดี ๆ ก็พาขึ้นมาโรงแรมซะอย่างนั้น จะให้เธอคิดว่ายังไงได้ล่ะ ธีร์มองเธอแล้วถอนหายใจยาว
“เลิกทำเหมือนผมเป็นโจรบ้าห้าร้อยซะทีได้ไหม”
“ก็....คุณอยากพาฉันมาที่โรงแรมทำไมล่ะ”
“ถ้าผมคิดจะทำนะ ผมทำไปตั้งแต่อยู่คฤหาสน์แล้ว ไม่มานั่งเสียเวลาอยู่ตรงนี้หรอก”
ขนมจีนหน้าแดงปลั่ง ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ
ข้างบนเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองได้อยู่บนจุดสูงสุด พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้วฉายเป็นแสงสีส้มปนแดงอาบไปทั่วเมือง ขนมจีนไม่เคยเห็นกรุงเทพฯเป็นเมืองที่สวยงามได้ขนาดนี้มาก่อน มันสวยงามและเริ่มมีแสงไฟเล็กน้อยพอให้เห็นได้เรือนลาง จุดที่เธอยืนมันสวยมากและงดงามเหลือเกิน ธีร์มาหยุดอยู่ที่เบื้องหลังเธอเขาแนบมือหนาไปบนมือบางของเธอที่แนบกับกระจก
“นี่แหละ..ที่ผมอยากให้คุณมาเห็น มันสวยมากเลยใช่ไหม”
“ค่ะ...มันสวยมาก งดงามจนฉันอยากจะอยู่อย่างนี้นาน ๆ” เธอกระซิบแผ่ว
“ใช่...สวยงามมาก”
ธีร์มองดูใบหน้านวลใสของเธอกับเส้นผมยาวถึงกลางหลัง แก้มใสมีลักยิ้มน้อย ๆ เรียวปากที่อิ่มหวานเป็นสีชมพูระเรื่อเป็นประกายสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ยามอัสดง ดวงตาของเธอกลมโตและมีประกายน้อย ๆ ภาพความงามที่ว่าทั่วเมืองตอนนี้...
ยังสวยงามไม่เท่าใบหน้าของเธอเลย
“มันสวยงามมาก แต่มันก็แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น” เธอเอ่ยปากพลางดึงมือออกจากการเกาะกุมเบา ๆ “พอความมืดโรยตัวลงมามันก็กลายเป็นความเงียบงัน”
“ไม่ใช่หรอก มันยังคงทอแสงประกายสวยงามยิ่งกว่านี้”
“แต่ว่า....สำหรับฉันมีไม่มีแสงหรอกค่ะ”
“ขนมจีน”
“เพราะฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่เพิ่งเรียนจบ ไม่มีการงานทำ...แล้วคุณยังจะขอฉันแต่งงานอยู่เหรอคะ” เธอกระซิบแผ่วมองตาของธีร์ราวกับจะทะลุเข้าไปในถึงข้างใน
“เรื่องนั้นผมเป็นคนตัดสิน ว่าใครคู่ควรหรือไม่คู่ควร”
“คุณมีอนาคต เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แต่ฉัน...ไม่คู่ควรเลยสักอย่าง”
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมเป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่คุณ”
“แต่ว่า”
“ขนมจีน คุณเป็นหญิงสาวที่ทำให้ผมรู้จักกับรอยยิ้มและความอ่อนโยน คุณมีเมตตาทั้งที่ถูกวิญญาณอาฆาต เป็นเพราะคุณผมถึงมีวันนี้ได้” เขากระซิบแผ่ว
ขนมจีนมองตาเขา แล้วถ้าเขากลับไปเป็นคนเดิมล่ะ
เขายังจะเลือกเธอหรือเปล่า
“ที่คุณพูดอย่างนี้ เพราะคุณยังไม่กลับเป็นคนเดิมนะสิคะ”
“หมายความว่ายังไง”
“การที่คนเราลืมว่าตัวเองเคยเป็นใคร นิสัยยังไง มันก็เป็นเรื่องของพรหมลิขิต ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณจะกลับเป็นคนเดิมเมื่อไหร่ และวันไหนที่คุณยังต้องการฉัน คุณ...อาจจะมีคนที่คู่ควรอยู่แล้ว”
เพราะความจริง...ยังไงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
ธีร์สูดลมหายใจลึก เขาเองก็มีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกเธอเหมือนกัน
“ผมความทรงจำกลับคืนมาแล้ว...และผมก็ยังเลือกคุณ”
ขนมจีนตาโต หมายความว่ายังไงเขาความทรงจำกลับมาแล้วเหรอ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตอนที่วิญญาณผมเข้าร่างใหม่ ๆ หลังจากนั้นผมก็เริ่มจำตัวตนของตัวเองได้ แม้แต่เรื่องของรินดาและเรื่องของคุณ ผมสับสนอย่างหนักแต่สุดท้าย ผมก็เลือกคุณ”
“ทำไมคะ”
“เพราะคุณคือคนที่ผมรักที่สุด” เขายิ้มบาง ๆ “คุณคือคนที่อ่อนโยน อบอุ่นและมีใจเมตตา ผมคงมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าหากขาดคุณไป”
“งั้น...คุณก็หลอกคุณรินดาน่ะสิคะ”
“ผมจำเป็น ขอโทษด้วย”
เธอไม่รู้หรอกว่าคำว่าขอโทษจากปากของเขามันมีค่าและมีความหมายสำหรับเธอหรือเปล่า แต่ทว่าตอนนี้เธอบังคับให้เขากลับไปคบกับคุณรินดาไม่ได้อีกแล้วและเธอก็มีพี่นราคนที่คู่ควรกับคุณรินดาและเขาก็เปิดร้านอาหารร่วมกัน เธอมองเห็นพี่นรามีรอยยิ้ม และเธอก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าท้ายที่สุดธีร์ก็เลือกที่จะรักเธอ
“คุณธีร์”
“ผมรักคุณ” ใบหน้าคมคายยิ้มบาง ๆ “ถึงแม้ตอนนี้ผมจะมีใครอยู่ ผมบอกได้คำเดียวว่ารักคุณมากกว่าใคร ๆ ก็ตาม”
ธีร์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมาเปิดกล้องแหวนเพชรสิบกระรัตให้เธอมองดู มันส่องประกายสวยงามมาก แต่ภายในใจของเธอมันกลับไม่ยินดีเลยสักนิด เธอมองตาสีดำของเขา
“คุณธีร์..นี่มัน”
“แต่งงานกับผมนะครับ”
แต่งงานหรือ แต่งกับคนที่ไม่คู่ควรกับเธอ...แล้วเธอจะตอบว่าอย่างไรล่ะ
“ฉัน....” เธอกระซิบแผ่ว
ฟ้าฝนกระหน่ำลงมาท้องฟ้าสีเป็นมืดครึ้มเหมือนกับหัวใจของเธอ...เธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสายฝนกระหน่ำลงมาจนขนตาเปียกไปหมด ข้างกายเธอเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมตัวนั่งรถกลับไปที่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัดของเธอ ฟ้าฝนมืดครึ้มราวกับฝนตกแทนหัวใจของเธอแม้ว่ามันจะเสียใจสักเพียงไหน
เธอปฏิเสธเขาไปแล้ว
ปฏิเสธไปด้วยใจที่แข็งราวกับหินผา
เธอเสียใจไหมนะ ที่ต่อจากนี้ไปจะไม่ได้เห็นหน้าและรอยยิ้มของเขาอีก เขาเป็นสุภาพบุรุษแต่ไม่คู่ควรกับเธอ เพราะเขาดีเกินไป...
“เราทำดีที่สุดแล้ว” เธอกระซิบแผ่ว
เธอหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มใส ท้องฟ้าที่หมองหม่นเหมือนกับหัวใจที่เปียกชื้นของเธอ เธอยังจำหน้าตาของเขาเวลาฟังคำตอบเธอ หน้าตาของเขาซีดเผือดแล้วทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรกันอีก เธอกลับไปเก็บของที่เหลืออยู่ที่โรงแรมภายในใจเธอยังคิดถึงหน้าเขาในวันสุดท้าย
ขนมจีนถอนหายใจยาวก้มลงมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะออก
“รถยังไม่มาอีกเหรอ”
รถทัวร์คันที่เธอนั่งรอยังไม่มาอีก ผู้คนที่เธอนั่งอยู่ก็เดินผ่านไปมาบางคนยืนคอยรถทัวร์คันที่ไปส่งที่สายใต้ เธอก้มลงมองกำไลที่มือ จนเดี๋ยวนี้เธอก็ยังถอดมันไม่ออกเลย มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่คุณหลวงทิ้งไว้ให้เธอก็เป็นได้ เธอถอนหายใจยาว ช่างมันเถอะ
ถึงแม้ใครต่อใครจะว่า ๆ เธอหนีเจ้าบ่าว แต่เธอก็เต็มใจ
เพราะว่าไม่มีใครรู้ดีว่า คนที่เหมาะจะเป็นเจ้าสาวไม่ใช่เธอ
Rrrrrrr
“โทรศัพท์” เธอกระซิบแผ่ว หวังว่าคงไม่ใช่เขาที่โทรมานะ แล้วก็ต้องถอนใจยาวเพราะคนที่โทรมาเป็นพี่นราไม่ใช่ใครอื่น “สวัสดีค่ะ พี่นรามีอะไรเหรอคะ”
‘ขนมจีน เธออยู่ที่ไหนน่ะ’
“อยู่ที่คิวรถค่ะ ฉันกำลังจะออกไปในไม่ช้า มีอะไรเหรอคะ”
“แย่แล้วล่ะ คุณธีร์น่ะสิ”
“คุณธีร์...เขาเป็นอะไรเหรอคะ”
หัวใจของเธอหายวาบ ฟังจากน้ำเสียงของพี่นราดูแล้วเหมือนคุณธีร์จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คุณธีร์อยู่โรงพยาบาล เขาอาการหนักอยู่ในห้องตอนนี้คุณหมอกำลังอยู่ในห้อง”
“คุณธีร์นะเหรอคะ ทำไมคะเขาเป็นอะไร”
“เขา...พี่พูดยากน่ะ ขนมจีนทำใจดี ๆ ไว้นะ ดูเหมือนเขาจะดื่มยาพิษเข้าไป”
“ยาพิษเหรอคะ” ขนมจีนหน้าซีดเผือด ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย “เขาดื่มไปเมื่อไหร่”
“สงสัยจะเมื่อคืนน่ะ เขาทิ้งจดหมายเอาไว้ด้วย”
“จดหมาย...”
เธอหัวใจเต้นแรง จนเหมือนว่าจะหยุดเต้นไป
“จดหมายเขาบอกว่า ไม่มีเธออยู่แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร”
“.....” ขนมจีนน้ำตาไหลอาบแก้ม
ไม่จริงใช่ไหม นี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริง
“เขาบอกว่าอย่างนั้นเหรอคะ นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม”
“ขนมจีน เธอร้องไห้หรือ”
ขนมจีนน้ำตาอาบแก้มใส่โดยไม่รู้ตัว เธอรู้แล้วว่าเธอรักเขามากแค่ไหนจนกระทั่งเสียเขาไป
“เขาอยู่โรงพยาบาลไหนคะ”
“แต่...แต่ว่าเธอกำลังจะกลับไปไม่ใช่เหรอ”
“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันจะไปเยี่ยมเขา เขาอยู่ที่ไหนคะบอกมาสิ”
“โรงพยาบาลราชวิถี รีบมาด่วนเลยนะ หมอเขาใกล้จะออกมาแล้ว”
“ค่ะ ฉันจะรีบไป”
ขนมจีนดึงกระเป๋าสะพายวิ่งออกไปทันทีโดยไม่สนใจแล้วว่าเธอจะขึ้นไปทันรถหรือไม่ เพราะหัวใจเธอตอนนี้ไม่มีที่ว่างให้ใครอีกแล้ว ใบหน้าเธอร้องไห้อย่างไม่อายใคร พอถึงรถเมล์เธอก็แทบวิ่งออกไปขวางหน้ารถแล้วรีบบอกใช้เขาไปโรงพยาบาลราชวิถี
“คุณจะรีบไปไหน ทำไมถึงมาขวางรถแบบนี้”
“ไปโรงพยาบาลราชวิถีค่ะ รีบไปเร็วเข้า”
“ครับ ๆ รีบขึ้นมา”
ขนมจีนยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา ครั้งนี้เธอต้องไปให้ทันเขาตอนยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วมาพ่อกับแม่เสียไปตอนที่เธอไปรับปริญญาตอนนั้นเธอเสียน้ำตาจนไม่มีน้ำตาจะไหล
ไม่มีเธออยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีเพื่อชีวิตอยู่ไปอะไร
“คุณธีร์ได้โปรดเถอะ ฉันรู้แล้วว่าฉันรักคุณแค่ไหน” เธอกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมา
เธอกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมา
“ฉันรักคุณ...อย่าจากไปเลยนะ” เธอกระซิบแผ่วแทบไม่มีน้ำตาจะไหลอีก
พอถึงโรงพยาบาลพี่นรากับคุณรินดาก็ยืนอยู่หน้าห้อง ขนมจีนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นหมอออกมายืนแล้วก็ส่ายหัวเดินออกไป ร่างบางวิ่งมาถึงเธอถามถึงธีรว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่เขากับคุณรินดาก็ไม่ตอบ เขายกมือขึ้นจับไหล่ของขนมจีนแล้วบีบเบา ๆ แล้วบอกว่า
“ไม่ทันแล้วล่ะ คุณธีร์เขา...”
“คุณธีร์...” เธอหน้าซีดเผือด “ไม่จริงใช่ไหม”
“คุณขนมจีนคะ ใจเย็น ๆ ค่ะ”
“ไม่นะ คุณธีร์” เธอร้องเสียงดังเปิดประตูเข้าไป มองเห็นผ้าม่านปิดทับเขาไว้ครึ่งตัว เธอหน้าซีดเผือดทันทีนี่เธอมาไม่ทันงั้นหรือ “ไม่นะ คุณจากไปแล้วเหรอ”
“คุณขนมจีนคะ คุณธีร์เขา”
“อีตาบ้า คนโกหก ไหนบอกว่าจะมาสู่ขอฉันไง” เธอร้องไห้ “คนโกหก”
คำด่าทอทำให้คุณรินดาและพี่นราหันไปมองหน้ากันอย่างงง ๆ
“เอ่อ ขนมจีนพี่ว่า..”
“คนผีทะเล ไหนคุณบอกว่าคุณมีอนาคตไหลรออยู่ แล้วนี่อะไรคุณมาดื่มยาพิษซะอย่างนี้ แล้วทีนี้ฉันจะทำอย่างไร...ในเมื่อฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันรักคุณ”
คุณรินดาสะกิดคุณนราให้ออกไปข้างนอก แล้วก็ออกไปเงียบ ๆ
“คุณมันใจร้าย ใจร้ายที่สุด..ฉันไม่น่าเกิดมารักคุณเลย คุณมันคนใจดำ”
เธอน้ำตาไหลกอดอกเขาแล้วร้องไห้
“ฉันรักคุณ ได้ยินไหม...”
เธอสะอึกสะอื้น
“ฉันรักคุณได้ยินหรือเปล่า” เธอพร่ำบอกเขา “ฉันจะตอบแต่งงานกับคุณ ถ้าคุณฟื้นขึ้นมาตอนนี้ได้...แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว”
“ได้ยินสิ”
“ได้ยินว่าอะไร หะ...หา” เธอทะลึ่งพรวดลุกขึ้นน้ำตายังเต็มใบหน้าเนียน
ธีร์ถอนหายใจยาว เขานอนหลับไปได้สักพักเธอก็มาร้องตะโกนจนแสบแก้วหู นี่น่ะเหรอคำพูดของคนที่มาเยี่ยมไข้คำพูดแต่ละคำนี่พูดถึงคนใจร้าย ใจดำ อำมหิตซะอย่างนั้น เขานอนอยู่ในโรงพยาบาลได้พักสักแล้ว แต่ขนมจีนนี่สิมาถึงก็ด่าเอา ๆ
“คุณฟื้นแล้วเหรอ แล้วนี่...คุณกินยาพิษไม่ใช่เหรอ” เธอลืมตาโต
“ผมไม่ได้กินสักหน่อย พอดีกินอะไรไม่ลงเลยเป็นโรคกะเพราะ”
“โรคกระเพราะ”
“คุณได้ยินว่าผมเป็นโรคอะไรล่ะ”
“พี่นราบอกว่าคุณดื่มยา....” พอดีเธอเพิ่งนึกได้ว่าอีตาพี่นราเป็นเพื่อนกับตาธีร์นี่เอง “อ๋อ..นี่หลอกกัน
“หลอกอะไรล่ะ ผมไม่ได้หลอกคุณซะหน่อย”
ขนมจีนทำท่าจะลุกขึ้น แต่ถูกธีร์ไวกว่าเขารวบกอดเธอไว้แนบอก
“ปล่อยนะ นี่ปล่อยสิ”
“ไม่ปล่อย คุณใจร้ายมากผมไม่ปล่อยคุณหรอก” เขากอดเธอไว้แน่น
“ก็คุณอยากหลอกฉันทำไมล่ะ”
“ผมไม่ได้หลอกคุณซะหน่อย แล้วเมื่อกี้คุณพูดจริงหรือเปล่า”
ประโยคนั้นทำให้ขนมจีนหน้าเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ ก็เมื่อกี้เขาโกหกเธอจะว่าเขาไม่รู้เธอก็ไม่เชื่อหรอกเพราะตอนที่เธอเข้ามาร้องไห้กับอกเขา ยังเห็นเขานอนเงียบอยู่เลย
“ไมรู้” เธอเสแสร้ง
“ถ้าคุณบอกว่าไม่รู้ ผมจะจูบคุณนะ”
“อย่านะ นี่อย่า...นี่แน่ะ” เธอทุกเปรี้ยงเข้าให้ที่กลางท้องทำเอาธีร์หน้าซีดร้องอูย
“เจ็บนะคุณ ผมเพิ่งเป็นกระเพราะอยู่ด้วย”
“เป็นยังไงบ้าง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เธอหน้าซีด เป็นเพราะใครกันล่ะ
“เจ็บแค่นี้ผมก็ทนได้ คุณล่ะรักผมจริงหรือเปล่า” เขายิ้มบาง ๆ
เธอหน้าแดง จะให้บอกว่ายังไงล่ะเธอก็พูดไปเต็มตัวแล้วนี่
“.....” เธอไม่ตอบได้แต่เม้มปากแน่น
“ถ้าคุณไม่พูด ผมจะตายให้ดู”
“อย่าค่ะ” เธอรีบพูด “ฉันรักคุณค่ะ รักคุณเหมือนที่คุณรักฉันนั่นแหละ”
ธีย์ยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาของเขาเป็นประกายวาววับ
“คุณพูดจริงหรือเปล่า”
“ค่ะ ฉันรักคุณ จะฟังสักกี่รอบก็ได้” เธอยิ้มหวาน
“รู้ไหม ว่าผมรอวันนี้มานานแล้ว” เขากระซิบแผ่ว
ขนมจีนหลับตาเมื่อชายหนุ่มโอบกระชับรอบเอวแผ่วเบา ก่อนจะจรดปลายจมูกลงที่เรือนผมนุ่มสลวยอย่างหวงแหน ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยนิ่งก่อนจะโอบกอดร่างเธอไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น
“ตั้งแต่วันนั้น ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปหาคุณที่ต่างจังหวัด...แล้วนะนั่งเฝ้าบ้านคุณจนกว่าคุณจะรับรักผม” ธีร์กระซิบแผ่วที่ริมหูขณะที่ขนมจีนกอดตอบเขาด้วยความรู้สึกทั้งหมด
“แล้วทำไมถึงไม่ทำละคะ”
“เพราะผมมาป่วยเพราะโรคกะเพราะเสียก่อนไงล่ะ”
“คนเจ้าเล่ห์” เธออมยิ้ม “ดีแล้วที่คุณป่วย ไม่อย่างนั้นคนแถวนั้นต้องหาว่าฉันใจแข็งเป็นใจไม้ไส้ระกำแน่ ๆ”
“คงเป็นพรหมลิขิตน่ะ ให้คุณมาหาผมถึงที่โรงพยาบาลเสียก่อน”
ขนมจีนมองตาเขาราวกับต้องการให้ทะลุถึงหัวใจ
“เพราะฉันไม่ต้องการเป็นเหมือนวันที่รับปริญญาไงละคะ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องมาพบคุณให้ได้”
“แล้วคุณก็มา” ชายหนุ่มกระซิบพลางกุมมือเธอ
“ค่ะ แล้วฉันก็รู้ตัวแล้วว่ารักคุณมากแค่ไหน” เธอยิ้มหวาน
ยังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยคำใด เรียวปากได้รูปก็จรดลงมาช้า ๆ สัมผัสเต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนหวานจนหญิงสาวลืมทุกอย่างเสียสิ้น ขนมจีนครางเสียงแผ่วเมื่อจุมพิตนั้นเริ่มทวีความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ขณะที่โอบกอดเขาแน่น กระทั่งชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะโอบกอดร่างน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น
“ผมก็รักคุณเหมือนกัน”
ขนมจีนหลับตาลงช้า ๆ...สิ่งนี้สินะที่เขาเรียกว่าความรัก สามารถบันดาลให้ทุกสิ่งรอบกายอบอวลไปด้วยความสุขและหวานชื่นในเวลาเดียวกัน ดวงหน้าหวานซบหน้าลงกับบ่ากว้างและโอบกอดตอบเขาแน่น เธอและเขาจะไม่มีวันห่างกันไปไหนอีกแล้ว
“คุณจะแต่งงานกับผมไหม” เขากระซิบแผ่ว
“ค่ะ”
เธอตอบได้เพียงแค่นั้น เพราะไม่มีประโยชน์ใด ๆ อีกแล้วที่จะหลอกหัวใจของตัวเอง หัวใจของเธอและเขาอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่วันแรกที่พบกันในคฤหาสน์สีขาวก็เป็นได้ แต่เธอจะไม่บอกเขาหรอกว่าเธอรู้สึกหวั่นไหวกับดวงตาสีดำขลับคู่นั้นตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
เพราะมัน...
ทำให้เธอหลงรักโดยไม่รู้ตัว...
- จบ -
********************
ในที่สุดก็จบลงได้ ^_^
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ จุ๊บ ๆ
ผมรักคุณ
ขนมจีนมองหน้าเขา อย่าว่าแต่สามสิบล้านเลยตั้งห้าสิบล้านเขาจะไปเอาเงินที่ไหนกันล่ะ
“ธีร์” เธอกระซิบแผ่ว
“ผมให้ทองยี่สิบบาท กับเงินอีกห้าสิบล้าน หวังว่าแค่นั้นคงจะพอ” เขาเหยียดยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย
“พอจ้ะ พอเลยล่ะ แหม...เป็นบุญของขนมจีนมันจริง ๆ ที่มีหลานเขยแบบนี้” พอพูดเรื่องเงินน้ำเสียงของป้าผกาก็เปลี่ยนเป็นความเอ็นดูขึ้นมาจริง ๆ “แล้วจะเอาสินสอดมาให้ป้าเมื่อไหร่กันล่ะ”
“ตอนแรกผมก็ว่าจะเอามาเร็วที่สุด แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้คุยกับขนมจีนเลย”
“ไม่ตกลงค่ะ”
ป้าผกาแทบลมใส่ อะไรนะเมื่อกี้ขนมจีนพูดว่าไม่ตกลงงั้นเหรอ
“ขนมจีน แกจะบ้าเหรอ” เธอร้องเสียงแหลม
“ไม่ตกลงค่ะ ยังไง ๆ ขนมจีนก็ไม่ตกลง ถ้าป้าตกลงก็ช่วยไปแต่งงานแทนหนูด้วย ขอตัวกลับล่ะค่ะ” ขนมจีนขึ้นเดินออกไปทางประตูหน้าบ้าน ธีร์ยิ้มเย็นค้อมศีรษะลง
“ขอตัวสักครู่นะครับ พอดีว่าเธอยังโกรธผมไม่หาย”
“จ๊ะ ๆ เร็ว ๆ หน่อยนะ ป้าจะเป็นลม”
ป้าผกาจะเป็นลมขึ้นมาจริง ๆ เมื่อทองยี่สิบบาทกับเงินห้าสิบล้านหายวับไปกับตา แต่ขนมจีนไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงินเธอไม่มีวันยอมแต่งงานกับเขาเป็นอันขาด เธอเดินออกมาที่ถนนภายในใจเธอครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมเขาถึงตามมาได้นะ แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อรถยนต์สีดำแล่นมาจอดที่ข้างลำตัว โดยกระจกเลื่อนลงมา โดยมีใบหน้าของธีร์กับเสื้อยืดสีขาวเสื้อแจ็คเก็ตสีดำยิ้มให้เธอ
“ขึ้นมาสิ” เขาบอกเธอ
“ทำไมฉันต้องขึ้นไปกับคุณด้วย” ด้วยมานะและทิฐิทำให้เธอแหวใส่
“เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน”
“แต่ฉันไม่มี” เธอตอบพลางเดินไปเรื่อย ๆ โดยทำเป็นไม่เห็น
“คุณไม่มีแต่ผมมี แล้วก็มีมากด้วย”
ขาดคำรถยนต์ก็แล่นมาจอดที่ด้านหน้าของเธอ แล้วเขาก็เปิดประตูรถลงมาคว้าแขนเธอ ขนมจีนร้องว้าย
“จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ”
“ไปกับผม ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
“แต่ฉันไม่มีนี่นา นี่..ปล่อยสิ”
“แต่ผมมี เข้าไป”
“โอ้ย” ขนมจีนถูกจับยัดเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูเสียงดังสนั่นเธอหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นเขาเดินอ้อมมานั่งข้างหลังพวงมาลัย จึงเม้มปากแน่น “คนดื้อรั้น และอวดดี”
“ผมจะอวดดีมากกว่านี้อีก ถ้าคุณยังเป็นอย่างนี้อีก”
“ฉันทำอะไร”
“คุณไม่แต่งงานกับผม”
“ฉันมีสิทธิ์ ฉันจะไม่แต่งหรือแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้น คุณไม่เชื่อก็ลองดูสิ” เธอร้องเสียงดัง ธีร์ขบกรามแน่นโน้มใบหน้าลงมาจนชิตจนขนมจีนถอยหลังไปชนประตู
“อย่าท้านะ”
ขนมจีนไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าจะถูกจูบ
“คนบ้าอำนาจ” เธอบ่นอุบอิบ
“ผมบ้าอำนาจเฉพาะกับใครบางคน” เขาถอนหายใจยาว
ธีร์และขนมจีนไม่คุยกันอีกเป็นเวลาเกือบชั่วโมง และเขาพาเธอมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งเธอหน้าซีดเผือด นี่เขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเธองั้นเหรอ ไม่นะเธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“ไม่นะ ปล่อยสิ คุณจะบ้าเหรอ”
“มานี่กับผม”
ธีร์จับต้นแขนเธอไปสู่ด้านในโรงแรมแล้วขึ้นลิฟต์ตรงไปชั้นบนสุด เธอพร้อมกับหนีลงมาทางบันไดถ้าหากว่าหนีไปได้ เธอเบียดชิตฝาผนังลิฟต์ นี่เขาจะทำอะไรเธอจริง ๆ เหรอ
“นี่คุณ...จะทำอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ”
“ทำอะไร”
เธอเม้มปากแน่น นี่เขาจะให้เธอพูดเองทั้งหมดเลยหรือไง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเธอถึงกับจะวิ่งลงบันไดทางเดินหนีไฟทันที แต่ธีร์ไวกว่าเขาจับต้นแขนเธอพร้อมทั้งโอบกอดเธอไว้ในวงแขนแน่น
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”
“คุณ..นี่คุณเป็นอะไร อยู่เฉย ๆ สิ”
“คุณมันบ้า ฉันไม่น่าเชื่อใจคุณเลย”
“ใครบ้า นี่คุณพูดดี ๆ นะ” เขาเริ่มโมโห “มองให้มันดี ๆ ก่อนแล้วค่อยพูด”
ขนมจีนมองไปรอบ ๆ ตัวจึงเห็นว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นจุดชมวิวที่ว่าสูงที่สุดเธอหน้าแดงจัดเพราะเห็นว่าผู้คนที่กำลังมองตรงมาเป็นจุดเดียว ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะอยู่ดี ๆ ก็พาขึ้นมาโรงแรมซะอย่างนั้น จะให้เธอคิดว่ายังไงได้ล่ะ ธีร์มองเธอแล้วถอนหายใจยาว
“เลิกทำเหมือนผมเป็นโจรบ้าห้าร้อยซะทีได้ไหม”
“ก็....คุณอยากพาฉันมาที่โรงแรมทำไมล่ะ”
“ถ้าผมคิดจะทำนะ ผมทำไปตั้งแต่อยู่คฤหาสน์แล้ว ไม่มานั่งเสียเวลาอยู่ตรงนี้หรอก”
ขนมจีนหน้าแดงปลั่ง ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ
ข้างบนเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองได้อยู่บนจุดสูงสุด พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้วฉายเป็นแสงสีส้มปนแดงอาบไปทั่วเมือง ขนมจีนไม่เคยเห็นกรุงเทพฯเป็นเมืองที่สวยงามได้ขนาดนี้มาก่อน มันสวยงามและเริ่มมีแสงไฟเล็กน้อยพอให้เห็นได้เรือนลาง จุดที่เธอยืนมันสวยมากและงดงามเหลือเกิน ธีร์มาหยุดอยู่ที่เบื้องหลังเธอเขาแนบมือหนาไปบนมือบางของเธอที่แนบกับกระจก
“นี่แหละ..ที่ผมอยากให้คุณมาเห็น มันสวยมากเลยใช่ไหม”
“ค่ะ...มันสวยมาก งดงามจนฉันอยากจะอยู่อย่างนี้นาน ๆ” เธอกระซิบแผ่ว
“ใช่...สวยงามมาก”
ธีร์มองดูใบหน้านวลใสของเธอกับเส้นผมยาวถึงกลางหลัง แก้มใสมีลักยิ้มน้อย ๆ เรียวปากที่อิ่มหวานเป็นสีชมพูระเรื่อเป็นประกายสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ยามอัสดง ดวงตาของเธอกลมโตและมีประกายน้อย ๆ ภาพความงามที่ว่าทั่วเมืองตอนนี้...
ยังสวยงามไม่เท่าใบหน้าของเธอเลย
“มันสวยงามมาก แต่มันก็แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น” เธอเอ่ยปากพลางดึงมือออกจากการเกาะกุมเบา ๆ “พอความมืดโรยตัวลงมามันก็กลายเป็นความเงียบงัน”
“ไม่ใช่หรอก มันยังคงทอแสงประกายสวยงามยิ่งกว่านี้”
“แต่ว่า....สำหรับฉันมีไม่มีแสงหรอกค่ะ”
“ขนมจีน”
“เพราะฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่เพิ่งเรียนจบ ไม่มีการงานทำ...แล้วคุณยังจะขอฉันแต่งงานอยู่เหรอคะ” เธอกระซิบแผ่วมองตาของธีร์ราวกับจะทะลุเข้าไปในถึงข้างใน
“เรื่องนั้นผมเป็นคนตัดสิน ว่าใครคู่ควรหรือไม่คู่ควร”
“คุณมีอนาคต เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แต่ฉัน...ไม่คู่ควรเลยสักอย่าง”
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมเป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่คุณ”
“แต่ว่า”
“ขนมจีน คุณเป็นหญิงสาวที่ทำให้ผมรู้จักกับรอยยิ้มและความอ่อนโยน คุณมีเมตตาทั้งที่ถูกวิญญาณอาฆาต เป็นเพราะคุณผมถึงมีวันนี้ได้” เขากระซิบแผ่ว
ขนมจีนมองตาเขา แล้วถ้าเขากลับไปเป็นคนเดิมล่ะ
เขายังจะเลือกเธอหรือเปล่า
“ที่คุณพูดอย่างนี้ เพราะคุณยังไม่กลับเป็นคนเดิมนะสิคะ”
“หมายความว่ายังไง”
“การที่คนเราลืมว่าตัวเองเคยเป็นใคร นิสัยยังไง มันก็เป็นเรื่องของพรหมลิขิต ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณจะกลับเป็นคนเดิมเมื่อไหร่ และวันไหนที่คุณยังต้องการฉัน คุณ...อาจจะมีคนที่คู่ควรอยู่แล้ว”
เพราะความจริง...ยังไงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
ธีร์สูดลมหายใจลึก เขาเองก็มีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกเธอเหมือนกัน
“ผมความทรงจำกลับคืนมาแล้ว...และผมก็ยังเลือกคุณ”
ขนมจีนตาโต หมายความว่ายังไงเขาความทรงจำกลับมาแล้วเหรอ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตอนที่วิญญาณผมเข้าร่างใหม่ ๆ หลังจากนั้นผมก็เริ่มจำตัวตนของตัวเองได้ แม้แต่เรื่องของรินดาและเรื่องของคุณ ผมสับสนอย่างหนักแต่สุดท้าย ผมก็เลือกคุณ”
“ทำไมคะ”
“เพราะคุณคือคนที่ผมรักที่สุด” เขายิ้มบาง ๆ “คุณคือคนที่อ่อนโยน อบอุ่นและมีใจเมตตา ผมคงมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าหากขาดคุณไป”
“งั้น...คุณก็หลอกคุณรินดาน่ะสิคะ”
“ผมจำเป็น ขอโทษด้วย”
เธอไม่รู้หรอกว่าคำว่าขอโทษจากปากของเขามันมีค่าและมีความหมายสำหรับเธอหรือเปล่า แต่ทว่าตอนนี้เธอบังคับให้เขากลับไปคบกับคุณรินดาไม่ได้อีกแล้วและเธอก็มีพี่นราคนที่คู่ควรกับคุณรินดาและเขาก็เปิดร้านอาหารร่วมกัน เธอมองเห็นพี่นรามีรอยยิ้ม และเธอก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าท้ายที่สุดธีร์ก็เลือกที่จะรักเธอ
“คุณธีร์”
“ผมรักคุณ” ใบหน้าคมคายยิ้มบาง ๆ “ถึงแม้ตอนนี้ผมจะมีใครอยู่ ผมบอกได้คำเดียวว่ารักคุณมากกว่าใคร ๆ ก็ตาม”
ธีร์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมาเปิดกล้องแหวนเพชรสิบกระรัตให้เธอมองดู มันส่องประกายสวยงามมาก แต่ภายในใจของเธอมันกลับไม่ยินดีเลยสักนิด เธอมองตาสีดำของเขา
“คุณธีร์..นี่มัน”
“แต่งงานกับผมนะครับ”
แต่งงานหรือ แต่งกับคนที่ไม่คู่ควรกับเธอ...แล้วเธอจะตอบว่าอย่างไรล่ะ
“ฉัน....” เธอกระซิบแผ่ว
ฟ้าฝนกระหน่ำลงมาท้องฟ้าสีเป็นมืดครึ้มเหมือนกับหัวใจของเธอ...เธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสายฝนกระหน่ำลงมาจนขนตาเปียกไปหมด ข้างกายเธอเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมตัวนั่งรถกลับไปที่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัดของเธอ ฟ้าฝนมืดครึ้มราวกับฝนตกแทนหัวใจของเธอแม้ว่ามันจะเสียใจสักเพียงไหน
เธอปฏิเสธเขาไปแล้ว
ปฏิเสธไปด้วยใจที่แข็งราวกับหินผา
เธอเสียใจไหมนะ ที่ต่อจากนี้ไปจะไม่ได้เห็นหน้าและรอยยิ้มของเขาอีก เขาเป็นสุภาพบุรุษแต่ไม่คู่ควรกับเธอ เพราะเขาดีเกินไป...
“เราทำดีที่สุดแล้ว” เธอกระซิบแผ่ว
เธอหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มใส ท้องฟ้าที่หมองหม่นเหมือนกับหัวใจที่เปียกชื้นของเธอ เธอยังจำหน้าตาของเขาเวลาฟังคำตอบเธอ หน้าตาของเขาซีดเผือดแล้วทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรกันอีก เธอกลับไปเก็บของที่เหลืออยู่ที่โรงแรมภายในใจเธอยังคิดถึงหน้าเขาในวันสุดท้าย
ขนมจีนถอนหายใจยาวก้มลงมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะออก
“รถยังไม่มาอีกเหรอ”
รถทัวร์คันที่เธอนั่งรอยังไม่มาอีก ผู้คนที่เธอนั่งอยู่ก็เดินผ่านไปมาบางคนยืนคอยรถทัวร์คันที่ไปส่งที่สายใต้ เธอก้มลงมองกำไลที่มือ จนเดี๋ยวนี้เธอก็ยังถอดมันไม่ออกเลย มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่คุณหลวงทิ้งไว้ให้เธอก็เป็นได้ เธอถอนหายใจยาว ช่างมันเถอะ
ถึงแม้ใครต่อใครจะว่า ๆ เธอหนีเจ้าบ่าว แต่เธอก็เต็มใจ
เพราะว่าไม่มีใครรู้ดีว่า คนที่เหมาะจะเป็นเจ้าสาวไม่ใช่เธอ
Rrrrrrr
“โทรศัพท์” เธอกระซิบแผ่ว หวังว่าคงไม่ใช่เขาที่โทรมานะ แล้วก็ต้องถอนใจยาวเพราะคนที่โทรมาเป็นพี่นราไม่ใช่ใครอื่น “สวัสดีค่ะ พี่นรามีอะไรเหรอคะ”
‘ขนมจีน เธออยู่ที่ไหนน่ะ’
“อยู่ที่คิวรถค่ะ ฉันกำลังจะออกไปในไม่ช้า มีอะไรเหรอคะ”
“แย่แล้วล่ะ คุณธีร์น่ะสิ”
“คุณธีร์...เขาเป็นอะไรเหรอคะ”
หัวใจของเธอหายวาบ ฟังจากน้ำเสียงของพี่นราดูแล้วเหมือนคุณธีร์จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คุณธีร์อยู่โรงพยาบาล เขาอาการหนักอยู่ในห้องตอนนี้คุณหมอกำลังอยู่ในห้อง”
“คุณธีร์นะเหรอคะ ทำไมคะเขาเป็นอะไร”
“เขา...พี่พูดยากน่ะ ขนมจีนทำใจดี ๆ ไว้นะ ดูเหมือนเขาจะดื่มยาพิษเข้าไป”
“ยาพิษเหรอคะ” ขนมจีนหน้าซีดเผือด ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย “เขาดื่มไปเมื่อไหร่”
“สงสัยจะเมื่อคืนน่ะ เขาทิ้งจดหมายเอาไว้ด้วย”
“จดหมาย...”
เธอหัวใจเต้นแรง จนเหมือนว่าจะหยุดเต้นไป
“จดหมายเขาบอกว่า ไม่มีเธออยู่แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร”
“.....” ขนมจีนน้ำตาไหลอาบแก้ม
ไม่จริงใช่ไหม นี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริง
“เขาบอกว่าอย่างนั้นเหรอคะ นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม”
“ขนมจีน เธอร้องไห้หรือ”
ขนมจีนน้ำตาอาบแก้มใส่โดยไม่รู้ตัว เธอรู้แล้วว่าเธอรักเขามากแค่ไหนจนกระทั่งเสียเขาไป
“เขาอยู่โรงพยาบาลไหนคะ”
“แต่...แต่ว่าเธอกำลังจะกลับไปไม่ใช่เหรอ”
“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันจะไปเยี่ยมเขา เขาอยู่ที่ไหนคะบอกมาสิ”
“โรงพยาบาลราชวิถี รีบมาด่วนเลยนะ หมอเขาใกล้จะออกมาแล้ว”
“ค่ะ ฉันจะรีบไป”
ขนมจีนดึงกระเป๋าสะพายวิ่งออกไปทันทีโดยไม่สนใจแล้วว่าเธอจะขึ้นไปทันรถหรือไม่ เพราะหัวใจเธอตอนนี้ไม่มีที่ว่างให้ใครอีกแล้ว ใบหน้าเธอร้องไห้อย่างไม่อายใคร พอถึงรถเมล์เธอก็แทบวิ่งออกไปขวางหน้ารถแล้วรีบบอกใช้เขาไปโรงพยาบาลราชวิถี
“คุณจะรีบไปไหน ทำไมถึงมาขวางรถแบบนี้”
“ไปโรงพยาบาลราชวิถีค่ะ รีบไปเร็วเข้า”
“ครับ ๆ รีบขึ้นมา”
ขนมจีนยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา ครั้งนี้เธอต้องไปให้ทันเขาตอนยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วมาพ่อกับแม่เสียไปตอนที่เธอไปรับปริญญาตอนนั้นเธอเสียน้ำตาจนไม่มีน้ำตาจะไหล
ไม่มีเธออยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีเพื่อชีวิตอยู่ไปอะไร
“คุณธีร์ได้โปรดเถอะ ฉันรู้แล้วว่าฉันรักคุณแค่ไหน” เธอกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมา
เธอกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมา
“ฉันรักคุณ...อย่าจากไปเลยนะ” เธอกระซิบแผ่วแทบไม่มีน้ำตาจะไหลอีก
พอถึงโรงพยาบาลพี่นรากับคุณรินดาก็ยืนอยู่หน้าห้อง ขนมจีนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นหมอออกมายืนแล้วก็ส่ายหัวเดินออกไป ร่างบางวิ่งมาถึงเธอถามถึงธีรว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่เขากับคุณรินดาก็ไม่ตอบ เขายกมือขึ้นจับไหล่ของขนมจีนแล้วบีบเบา ๆ แล้วบอกว่า
“ไม่ทันแล้วล่ะ คุณธีร์เขา...”
“คุณธีร์...” เธอหน้าซีดเผือด “ไม่จริงใช่ไหม”
“คุณขนมจีนคะ ใจเย็น ๆ ค่ะ”
“ไม่นะ คุณธีร์” เธอร้องเสียงดังเปิดประตูเข้าไป มองเห็นผ้าม่านปิดทับเขาไว้ครึ่งตัว เธอหน้าซีดเผือดทันทีนี่เธอมาไม่ทันงั้นหรือ “ไม่นะ คุณจากไปแล้วเหรอ”
“คุณขนมจีนคะ คุณธีร์เขา”
“อีตาบ้า คนโกหก ไหนบอกว่าจะมาสู่ขอฉันไง” เธอร้องไห้ “คนโกหก”
คำด่าทอทำให้คุณรินดาและพี่นราหันไปมองหน้ากันอย่างงง ๆ
“เอ่อ ขนมจีนพี่ว่า..”
“คนผีทะเล ไหนคุณบอกว่าคุณมีอนาคตไหลรออยู่ แล้วนี่อะไรคุณมาดื่มยาพิษซะอย่างนี้ แล้วทีนี้ฉันจะทำอย่างไร...ในเมื่อฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันรักคุณ”
คุณรินดาสะกิดคุณนราให้ออกไปข้างนอก แล้วก็ออกไปเงียบ ๆ
“คุณมันใจร้าย ใจร้ายที่สุด..ฉันไม่น่าเกิดมารักคุณเลย คุณมันคนใจดำ”
เธอน้ำตาไหลกอดอกเขาแล้วร้องไห้
“ฉันรักคุณ ได้ยินไหม...”
เธอสะอึกสะอื้น
“ฉันรักคุณได้ยินหรือเปล่า” เธอพร่ำบอกเขา “ฉันจะตอบแต่งงานกับคุณ ถ้าคุณฟื้นขึ้นมาตอนนี้ได้...แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว”
“ได้ยินสิ”
“ได้ยินว่าอะไร หะ...หา” เธอทะลึ่งพรวดลุกขึ้นน้ำตายังเต็มใบหน้าเนียน
ธีร์ถอนหายใจยาว เขานอนหลับไปได้สักพักเธอก็มาร้องตะโกนจนแสบแก้วหู นี่น่ะเหรอคำพูดของคนที่มาเยี่ยมไข้คำพูดแต่ละคำนี่พูดถึงคนใจร้าย ใจดำ อำมหิตซะอย่างนั้น เขานอนอยู่ในโรงพยาบาลได้พักสักแล้ว แต่ขนมจีนนี่สิมาถึงก็ด่าเอา ๆ
“คุณฟื้นแล้วเหรอ แล้วนี่...คุณกินยาพิษไม่ใช่เหรอ” เธอลืมตาโต
“ผมไม่ได้กินสักหน่อย พอดีกินอะไรไม่ลงเลยเป็นโรคกะเพราะ”
“โรคกระเพราะ”
“คุณได้ยินว่าผมเป็นโรคอะไรล่ะ”
“พี่นราบอกว่าคุณดื่มยา....” พอดีเธอเพิ่งนึกได้ว่าอีตาพี่นราเป็นเพื่อนกับตาธีร์นี่เอง “อ๋อ..นี่หลอกกัน
“หลอกอะไรล่ะ ผมไม่ได้หลอกคุณซะหน่อย”
ขนมจีนทำท่าจะลุกขึ้น แต่ถูกธีร์ไวกว่าเขารวบกอดเธอไว้แนบอก
“ปล่อยนะ นี่ปล่อยสิ”
“ไม่ปล่อย คุณใจร้ายมากผมไม่ปล่อยคุณหรอก” เขากอดเธอไว้แน่น
“ก็คุณอยากหลอกฉันทำไมล่ะ”
“ผมไม่ได้หลอกคุณซะหน่อย แล้วเมื่อกี้คุณพูดจริงหรือเปล่า”
ประโยคนั้นทำให้ขนมจีนหน้าเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ ก็เมื่อกี้เขาโกหกเธอจะว่าเขาไม่รู้เธอก็ไม่เชื่อหรอกเพราะตอนที่เธอเข้ามาร้องไห้กับอกเขา ยังเห็นเขานอนเงียบอยู่เลย
“ไมรู้” เธอเสแสร้ง
“ถ้าคุณบอกว่าไม่รู้ ผมจะจูบคุณนะ”
“อย่านะ นี่อย่า...นี่แน่ะ” เธอทุกเปรี้ยงเข้าให้ที่กลางท้องทำเอาธีร์หน้าซีดร้องอูย
“เจ็บนะคุณ ผมเพิ่งเป็นกระเพราะอยู่ด้วย”
“เป็นยังไงบ้าง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เธอหน้าซีด เป็นเพราะใครกันล่ะ
“เจ็บแค่นี้ผมก็ทนได้ คุณล่ะรักผมจริงหรือเปล่า” เขายิ้มบาง ๆ
เธอหน้าแดง จะให้บอกว่ายังไงล่ะเธอก็พูดไปเต็มตัวแล้วนี่
“.....” เธอไม่ตอบได้แต่เม้มปากแน่น
“ถ้าคุณไม่พูด ผมจะตายให้ดู”
“อย่าค่ะ” เธอรีบพูด “ฉันรักคุณค่ะ รักคุณเหมือนที่คุณรักฉันนั่นแหละ”
ธีย์ยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาของเขาเป็นประกายวาววับ
“คุณพูดจริงหรือเปล่า”
“ค่ะ ฉันรักคุณ จะฟังสักกี่รอบก็ได้” เธอยิ้มหวาน
“รู้ไหม ว่าผมรอวันนี้มานานแล้ว” เขากระซิบแผ่ว
ขนมจีนหลับตาเมื่อชายหนุ่มโอบกระชับรอบเอวแผ่วเบา ก่อนจะจรดปลายจมูกลงที่เรือนผมนุ่มสลวยอย่างหวงแหน ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยนิ่งก่อนจะโอบกอดร่างเธอไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น
“ตั้งแต่วันนั้น ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปหาคุณที่ต่างจังหวัด...แล้วนะนั่งเฝ้าบ้านคุณจนกว่าคุณจะรับรักผม” ธีร์กระซิบแผ่วที่ริมหูขณะที่ขนมจีนกอดตอบเขาด้วยความรู้สึกทั้งหมด
“แล้วทำไมถึงไม่ทำละคะ”
“เพราะผมมาป่วยเพราะโรคกะเพราะเสียก่อนไงล่ะ”
“คนเจ้าเล่ห์” เธออมยิ้ม “ดีแล้วที่คุณป่วย ไม่อย่างนั้นคนแถวนั้นต้องหาว่าฉันใจแข็งเป็นใจไม้ไส้ระกำแน่ ๆ”
“คงเป็นพรหมลิขิตน่ะ ให้คุณมาหาผมถึงที่โรงพยาบาลเสียก่อน”
ขนมจีนมองตาเขาราวกับต้องการให้ทะลุถึงหัวใจ
“เพราะฉันไม่ต้องการเป็นเหมือนวันที่รับปริญญาไงละคะ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องมาพบคุณให้ได้”
“แล้วคุณก็มา” ชายหนุ่มกระซิบพลางกุมมือเธอ
“ค่ะ แล้วฉันก็รู้ตัวแล้วว่ารักคุณมากแค่ไหน” เธอยิ้มหวาน
ยังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยคำใด เรียวปากได้รูปก็จรดลงมาช้า ๆ สัมผัสเต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนหวานจนหญิงสาวลืมทุกอย่างเสียสิ้น ขนมจีนครางเสียงแผ่วเมื่อจุมพิตนั้นเริ่มทวีความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ขณะที่โอบกอดเขาแน่น กระทั่งชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะโอบกอดร่างน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น
“ผมก็รักคุณเหมือนกัน”
ขนมจีนหลับตาลงช้า ๆ...สิ่งนี้สินะที่เขาเรียกว่าความรัก สามารถบันดาลให้ทุกสิ่งรอบกายอบอวลไปด้วยความสุขและหวานชื่นในเวลาเดียวกัน ดวงหน้าหวานซบหน้าลงกับบ่ากว้างและโอบกอดตอบเขาแน่น เธอและเขาจะไม่มีวันห่างกันไปไหนอีกแล้ว
“คุณจะแต่งงานกับผมไหม” เขากระซิบแผ่ว
“ค่ะ”
เธอตอบได้เพียงแค่นั้น เพราะไม่มีประโยชน์ใด ๆ อีกแล้วที่จะหลอกหัวใจของตัวเอง หัวใจของเธอและเขาอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่วันแรกที่พบกันในคฤหาสน์สีขาวก็เป็นได้ แต่เธอจะไม่บอกเขาหรอกว่าเธอรู้สึกหวั่นไหวกับดวงตาสีดำขลับคู่นั้นตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
เพราะมัน...
ทำให้เธอหลงรักโดยไม่รู้ตัว...
- จบ -
********************
ในที่สุดก็จบลงได้ ^_^
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ จุ๊บ ๆ
เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2556, 10:46:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2556, 10:46:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 2326
<< เสียงกรีดร้อง |
เบลินญา 22 เม.ย. 2556, 10:49:16 น.
ในที่สุดก็จบแล้ว ^_^ สำหรับนิยายเรื่องนี้จะเก็บไว้ให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านแล้วเม้นท์ให้นะคะ ตอนนี้รู้สึกว่าคิวเลื่อน หนังสือจะออกเป็นไตรมาสที่ 3 นะคะ จุ๊บ ๆ
ในที่สุดก็จบแล้ว ^_^ สำหรับนิยายเรื่องนี้จะเก็บไว้ให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านแล้วเม้นท์ให้นะคะ ตอนนี้รู้สึกว่าคิวเลื่อน หนังสือจะออกเป็นไตรมาสที่ 3 นะคะ จุ๊บ ๆ
Auuuu 22 เม.ย. 2556, 11:33:00 น.
ยัยป้าจะได้สินสอดจริงๆหรอเนี่ยยย อ๊ากกก
ยัยป้าจะได้สินสอดจริงๆหรอเนี่ยยย อ๊ากกก
ChaCoCo 22 เม.ย. 2556, 15:39:39 น.
ทำไมอะ ชีวิตจริง กล้าให้เงินกับคนที่ไม่คิดแถมจะขายหลาน แบบนี้ได้อีกหรอ ไม่เข้าใจ
ทำไมอะ ชีวิตจริง กล้าให้เงินกับคนที่ไม่คิดแถมจะขายหลาน แบบนี้ได้อีกหรอ ไม่เข้าใจ
Zephyr 22 เม.ย. 2556, 22:10:53 น.
หง่ะ กะจะว่าขนมจีนงี่เง่าแล้วเชียว ทำให้ธีร์เสียใจ ชิๆๆ
เดี๋ยวยึดเองเลย
เหม่ ต้องให้เค้าเจ็บตัวก่อนถึงจะรู้ตัว อืมๆๆ ต้องดราม่าก่อนถึงจะแฮปปี้สินะ
คริคริ
หง่ะ กะจะว่าขนมจีนงี่เง่าแล้วเชียว ทำให้ธีร์เสียใจ ชิๆๆ
เดี๋ยวยึดเองเลย
เหม่ ต้องให้เค้าเจ็บตัวก่อนถึงจะรู้ตัว อืมๆๆ ต้องดราม่าก่อนถึงจะแฮปปี้สินะ
คริคริ