เลห์รักคุณหนูส้มหล่น
จากเด็กกำพร้ากลายมาเป็นคุณหนูร้อยล้าน แถมยังมีคู่หมั้นเป็นหนุ่มนักธุรกิจพันล้านอย่างเขา ชีวิตอย่างนี้พิมพรไม่เคยคาดหวังมาก่อน ส่วนเธอก็คิดว่าโชคดีเหลือล้นแต่มีเพียงเรื่องเดียวที่เธอคิดว่าโชคร้ายเหลือเกินก็คือการมีคู่หมั้นอย่างเขา เพราะเธอรู้สึกเกลียดเขาตั้งแต่แรกเจอ ไม่รู้เพราะเหตุใดรู้แต่ว่านับวันสายตาของเขาจ้องเธอเหมือนอยากจะกลืนกินเธอเข้าไป แถมนิสัยเจ้าเลห์ของเขาอีก เธอไม่อยากแต่งงานกับคนๆนี้เลย คอยดูเธอจะต้องหนีจากผู้ชายคนนี้ให้ได้
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทที่4 งานเลี้ยง

บ้านแสงดาวเป็นบ้านหลังใหญ่แต่เหมือนคฤหาสน์สุดหรูใจกลางเมืองเสียมากกว่า มีน้ำพุขนาดกลางอยู่ตรงลานหน้าบ้าน และมีสวนที่สงบร่มรื่น ส่วนสีของตัวบ้านเป็นสีครีมทั้งหมด แล้วยังมีสระว่ายน้ำที่ขนาดพอดี ดูแล้วเป็นบ้านที่สวยงามจริงๆ

ชั้นสองห้องของหญิงสาว
พิมพรซึ่งกำลังยืนสำรวจตัวเองตรงหน้ากระจกบานใหญ่เอ่ยขึ้นมาอย่างเขินอาย

"นี่ลิน แกว่าฉันใส่ชุดนี้จะดีเหรอ ฉันว่ากระโปรงมันเหมือนจะสั้นไปหน่อยนะ"

พิมพรอยู่ในชุดเดรชสีชมพูอ่อน ผมดำยาวของเธอถูกดัดลอนใหญ่ตรงปลาย ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน และสร้อยเพรชที่เธอใส่ติดตัวอยู่ตลอดดูเข้ากันเหมาะอย่างกับนางฟ้าแสนหวาน

"ไม่สั้นหรอกกำลังพอดีเลย อืมแกนี่พอแต่งอย่างนี้แล้วดูไปดูมาคล้ายตุ๊กตาบลายธ์เลยนะ ฮิๆ"

"บ้า ถ้าฉันตุ๊กตาบลายธ์ แกก็เป็นตุ๊กตาบาร์บี้เลยแหละ แต่ว่าแกนี้แต่งอย่างนี้แล้วสวยมากเลยนะ"พิมพรชมเพื่อนสาว

ญาลินอยู่ในชุดเดรสสีฟ้า ผมดำออกสีน้ำตาลของเธอถูกรวบขึ้นข้างบนเป็นทรงดังโงะ หน้าตาของเธอออกไปทางสวยคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางชุ่มชื่น ตาสวยคม ใบหน้าเรียวเธอสูง 167 ซ.ม แตกต่างจากพิมพรซึ่งเธอสูงแค่ 160 เอง

"แน่อยู่แล้ว ฉันรู้ตัวดี ฮ่ะๆๆ"

"แหม ไม่คิดจะปฏิเสทเลยนะ ยัยหลงตัวเอง ฮิๆ"

ก๊อกๆๆ
"แต่งตัวเสร็จรึยังจ๊ะสองสาว ถึงเวลาเดินทางไปงานเลี้ยงกันแล้วนะ"

"เสร็จแล้วค่ะแม่ ออกไปกันเถอะลิน"

"อืม"แล้วพิมพรกับญาลินก็เดินเปิดประตูออกมา

"ว้าว แต่ละคนสวยจังเลย ลูกแม่ก็น่ารัก ส่วนหนูลินก็สวย งานนี้หนุ่มๆคงเหลียวมองกันเต็มแน่เลย ฮิๆ"ไพจิตรเอ่ยแซวพวกหญิงสาว

"โธ่แม่ล่ะก็ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก หนูว่าเราไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณลุงเขาจะรอนาน"หญิงสาวทั้งสองยิ้มอย่างเขินอาย

"จ้า"

โรงแรม รอยัล เทย์เลอร์

"ว่าไงนะครับคุณพ่อ !น้องนุชลูกของคุณของคุณน้าไพจิตรยังมีชีวิตอยู่ แล้วตอนนี้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วงั้นเหรอครับ"ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าในชุดสูทสีดำถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ

"ใช่แล้ว ตอนนี้น้องเขาเปลี่ยนชื่อเป็นหนูพิมพรแล้วแกจะต้องต้อนรับเขาดูแลเขาให้ดีๆล่ะ เพราะน้องเขาเป็นคู่หมั้นของแกเข้าใจมั้ย"จอนนี่เอ่ยย้ำกับลูกชายคนโตของเขา

"โธ่พ่อ เรื่องมันก็นานมาแล้ว ยังจะให้หมั้นกันอยู่อีกเหรอ"ลุกซ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

"นี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของแม่แกก่อนที่แม่แจะตายจากไปนะ แกลืมแล้วเหรอ แล้วอีกอย่างฉันก็ชอบหนูพิมพรด้วย เธอเป็นเด็กน่ารักร่าเริง แล้วยังนิสัยดีอีก ยังไงแกก็ต้องเอาเด็กคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ฉันให้ได้เข้าใจมั้ย"

"งั้นพ่อก็ให้เจ้าอเล็กซ์แต่งแทนผมดิ"

ผัวะ! "โอ๊ย!พ่อตบหัวผมทำไม"

"ตบให้แกหายโง่น่ะสิ แกจะบ้ารึไง เจ้าอเล็กซ์เพิ่งจะ18แถมยังเรียนอยู่ แล้วอีกอย่างแม่แกก็อยากให้แกแต่งกับน้องเค้าใจมั้ย!ถ้ายังไม่เข้าใจเดี๋ยวฉันจะตบกระโหลกแกอีก"จอนนี่ทำท่าจะตบอีกรอบ

"ครับๆเข้าใจแล้วคร๊าบผม แต่ถ้าน้องเค้าหน้าตาเหมือนปลาจวดยังไงผมก็ไม่แต่งนะ"

"เฮ้อ แกนี่น้า เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอก หนูพรเค้าน่ารักสุดๆเลยล่ะ เดี๋ยวคืนนี้แกก็จะได้เจอเอง"

น่ารักสุดๆ เฮอะ คำๆนี้ทำให้เขานึกถึงภาพของหญิงสาวที่ตัวเองมีเรื่องด้วยตอนกลางวันนี้เลยแฮะ หน้าตาน้องพรนั้นจะน่ารักสู้ผู้หญิงคนนั้นรึเปล่าน้า

ภายในงานเลี้ยง
"สวัสดีครับคุณพี่ แขกเยอะจังนะครับวันนี้" พิชัยพร้อมครอบครัวเดินเข้าทักทายจอนนี่ผู้เป็นเจ้าภาพและเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้

"อ้าว มากันแล้วเหรอ กำลังรออยู่พอดี เชิญเลยๆ แหมวันนี้สาวๆสวยกันทั้งนั้นเลยนะ"จอนนี่ยิ้มต้อนรับครอบครัวที่เป็นเพื่อนสนิทของภรรยาตัวเอง และสนิทกับเขาด้วย

"ฮิๆ คุณลุงยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ"พิมพรแซวจอนนี่ ซึ่งเดี๋ยวนี้เธอกับคุณลุงสนิทกันมาก เพราะคุยกันถูกคอแถมคุณลุงยังเป็นคนตลกอีกต่างหาก

"ลุงพูดเรื่องจริงนะ วันนี้หนูพรและหนูลินสวยจริงๆ นี่ถ้าตาลุกซ์มาเห็นหนูพรเข้า คงตกหลุมรักแน่นอน ฮ่ะๆๆ"

พอคุณลุงเอ่ยถึงนายลุกซ์นั่น พิมพรก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เธอยังไม่ลืมเรื่องเมื่อตอนกลางวันนี้หรอกนะ

"แล้วลุกซ์อยู่ไหนล่ะคะคุณพี่ ไม่เจอหน้าตั้งนานน้องอยากเห็นจะแย่อยู่แล้ว"ไพจิตรมองซ้ายมองขวาก็ยังไม่เห็นหลานชายสุดที่รักสักที

"มันคงเดินเตร่อยู่แถวนี้ล่ะ เดี๋ยวพี่จะไปเรียกมาให้ ทุกคนไปนั่งรอที่โต๊ะด้านหน้าก่อนนะ อยากทานอะไรก็ไปตักได้เลยไม่ต้องเกรงใจ เข้าใจมั๊ยสาวๆ"

"เข้าใจค่ะ"พิมพรและญาลินตอบพร้อมกัน

พอนั่งเสร็จเรียบร้อย ญาลินก็กระซิบเพื่อนสาว

"นี่พร งานเลี้ยงตอนรับคู่หมั้นแกนี่ หรูสุดยอดเลยเนอะ มีแต่คนใหญ่คนโตทั้งนั้นเลยที่มาร่วมงาน โรงแรมก็สุดหรู อาหารก็น่ากินเห็นแล้วฉันหิวขึ้นมาเลย"

"แกนี่น้า แต่จะว่าไปฉันเองก็หิวเหมือนกันว่ะ"พิมพรเผลอลูบท้องตัวเอง

"คิก พวกหนูนี่ล่ะก็ ถ้าหิวก็ไปตักมากินสิจ๊ะ คุณลุงก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ"ไพจิตรเห็นท่าทางของสองสาว เลยอดขำไม่ได้

"งั้นพวกหนูไม่เกรงใจแล้วล่ะนะ ไปกันเถอะลิน"

"อื้ม"

ขณะที่สองสาวกำลังตื่นเต้นกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า ลุกซ์ที่กำลังคุยกับบรรดาเพื่อนตัวเองอยู่เห็นเข้า จึงขอตัวออกมา แล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวทั้งสองอย่างแปลกใจ

"โอ๊ะโอ่ ดูสิผมเห็นใครเอ่ย ไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสองมางานเลี้ยงของผมได้ไงกันครับ"

ชายหนุ่มกวาดตามองทั้งสอง แต่คนที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสสีชมพู หรือก็คือคนที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาเมื่อตอนกลางวันนั่นเอง

พิมพรและเพื่อนสาวหันกลับไปดูก็พบว่าเป็นนายลุกซ์ หญิงสาวตกตะลึงก็ดูเขาตอนนี้สิดูดีกว่าเมื่อตอนกลางวันมาก จนทำเอาเธออดมองเคลิ้มไม่ได้ แต่พิมพรก็รีบดึงสติกลับมาได้ในที่สุด

"ทำไมฉันจะมาไม่ได้ พ่อแม่ฉันก็ได้รับเชิญมาเหมือนกัน"หญิงสาวเชิดหน่าตอบ

"อ๋อเหรอ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าคุณจะเป็นลูกคุณหญิงคุณชาย ดูจากสภาพเมื่อตอนกลางวันแล้วนึกว่าเป็นแค่สาวบ้านนอกเข้ากรุงซะอีก"

ถึงปากจะว่าไปอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มก็อดตะลึงตอนที่เธอหันมาเมื่อกี้ไม่ได้ เธอดูสวยน่ารักกว่าตอนกลางวันนั้นอีก แล้วชุดกระโปรงสีชมพูก็ยิ่งขับให้ผิวเธอขาวอมชมพูยิ่งขึ้นอีก

"นี่คุณถ้าคิดจะดูถูกกันล่ะก็ คุณควรจะรู้จักฝ่ายตรงข้ามให้ดีก่อนนะ"พิมพรรู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมเขาถึงชอบดูถูกคนนัก

"อ๋อเหรอ งั้นไหนคุณลองบอกมาซิว่าคุณเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ชื่ออะไร แล้วก็บอกเบอร์โทรมาด้วย"

"เอ่อ..รู้สึกว่าอันหลังจะไม่เกี่ยวนะ แล้วอีกอย่างฉันไม่บอกคุณหรอก อีกหน่อยคุณก็จะรู้จักฉันเอง"หญิงสาวยิ้มอย่างมีเลศนัย

"หมายความว่าไง"ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย

"อ้าว ลุกซ์มาอยู่นี่เอง พ่อตามหาอยู่ตั้งนานแล้วกำลังคุยอยู่กับใครเหรอ อ้าว หนูพรและหนูลินนี่เอง นี่รู้จักกันแล้วเหรอ"จอนนี่ถามด้วยความเปลกใจ

"คุณพ่อรู้จักพวกเธอด้วยหรือครับ"

"ก็นี่ไงหนูพรคู่หมั้นของแก เห็นคุยกันนึกว่ารู้แล้วซะอีก"

"หา!"ชายหนุ่มตกใจ ผู้หญิงคนนี้น่ะเหรอคู่หมั้นของเขา

"แหม ทั้งสองเคยเห็นกันแล้วเหรอ ลูกพรทำไมไม่เห็นบอกแม่เลยล่ะ"ไพจิตรถามลูกสาวหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดซึ่งตอนนี้ทุกคนก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันหมดแล้ว

"ก็ตอนนั้นหนูยังไม่มั่นใจน่ะสิคะ ทั้ใส่แว่นดำพร้อมกับควงผู้หญิงอย่างใกล้ชิดสนิทสนม คนมี่คู่หมั้นอยู่แล้วจะทำยังงั้นหรืดอคะ"หญิงสาวแกล้งทำหน้าตาสงสาร

"ก็ตอนนั้นใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณยังมีชีวิตอยู่"ชายหนุ่มตอบกลับไป

"อ๋อ ถ้าฉันยังไม่ปรากฏตัว แสดงว่านายก็จะคบผู้หญิงไปทั่วใช่มั้ยล่ะ เห็นมั้ยคะคุณแม่หนูไม่อยากแต่งกับผู้ชายแบบนี้นะคะ คุณแม่ไม่กลัวว่าหนูจะเสียใจเหรอ"หญิงสาวเข้าไปอ้อนวอนไพจิตร ชายหนุ่มเห็นยังงั้นก็อมยิ้มนิดๆ ผู้หญิงคนนี้ท่าจะเล่นละครเก่งแฮะ

"เอ่อ แม่ว่าค่อยๆพูดกันดีกว่านะ ยังไงแม่ก็สัญญากับแม่ของตาลุกซ์ที่เสียแล้ว ว่าจะให้ทั้งสองแต่งงานกัน หนูคงไม่อยากให้แม่ผิดคำสัญญากับเพื่อนแม่หรอกใช่มั้ย"ไพจิตรบอกเหตุผลกับลูกสาว

พิมพรหน้าซีด มันก็จริงอย่างที่แม่พูด ถ้าเป็นเธอเธอก็คงต้องรักษาสัญญา เพราะเธอก็เป็นพวกที่สัญญาแล้วจะต้องทำให้ได้เหมือนกัน

"งั้นหนูยอมก็ได้ แต่มีข้อแม้หนูจะไม่เป็นฝ่ายขอถอนหมั้น แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามอยากถอนหมั้นเอง เรื่องนี้จะหาว่าหนูผิดคำสัญญาไม่ได้นะ"พิมพรหันไปจ้องชายหนุ่มอย่างเป็นนัย

ลุกซ์ดูออกว่าหญิงสาวอยากให้เขาเป็นฝ่ายถอนหมั้นเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะถอนหมั้นยังไงเขาก็ยังไม่อยากผูกมัดตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ไหมือนใครที่เขาเคยคบมา ยิ่งเธอปฏิเสทเขา เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะเธอให้ได้

"ผมก็จะไม่ถอนหมั้นครับ"

"แน่ใจนะ แต่น้ามีข้อแม้ ถ้าลุกซ์ทำให้ลูกสาวน้าเสียใจ ลูกซ์จะต้องเป็นฝ่ายจากไปเองเข้าใจมั้ย"พิชัยหันไปถามชายหนุ่มเพื่อความมั่นใจ เพราะเขาก็ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองเสียใจเหมือนกัน

ชายหนุ่มลังเลอยู่นิดหนึ่งก่อนจะตอบตกลงในที่สุด

"ครับ ผมสัญญา"






tingling
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 เม.ย. 2556, 20:50:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 เม.ย. 2556, 20:54:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1235





<< บทที่3 แรกพบที่ประทับใจ?   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account