รักก็คือรัก(เรื่องสั้น)
รัก... คือความรู้สึกดีๆ หากจะมีความหมายก็คงอธิบายไม่ได้ เพราะความหมายนั้นคงเปลี่ยนไปแล้วแต่ใครสักคนจะนิยาม
Tags: รัก, ซึ้ง, สบาย, คิดถึงนะ, รชต

ตอน: รักก็คือรัก part 3


บ้านหลังใหม่ถูกปลูกสร้างอยู่กลางตัวอำเภอ ด้านหน้าเป็นลานกว้างยังมีมีการตกแต่งใดๆ มีอาคารเล็กๆ ด้านข้างที่เจ้าของอยากจะทำสำนักงานของตนเอง วาคิมหยุดมองตัวอาคารหลักซึ่งใช้เป็นเรือนหอ ที่ซึ่งคนที่เขารักจะใช้ชีวิตกับคนที่เธอเลือกแล้ว

เมื่อชาติก่อนเขาคงเคยทำผิดครั้งใหญ่ ในชาตินี้ถึงรู้สึกเจ็บปวดนัก คนที่รักกลับไม่ได้รักกัน ทำได้เพียงปล่อยเธอไปตามทางที่เธอเลือกเดิน แล้วมองดูเธออยู่ห่างๆ อย่างนี้

ไม่ใช่เวลาจะมาเศร้า ชายหนุ่มบอกตัวเอง เขาควรจะมีความสุขกับเธอถึงจะถูก อากาศถูกสูดเข้าปวดเฮือกใหญ่ก่อนร่างสูงจะเดินหน้าเข้าบ้านไป

“มีคนอยู่ไหมครับ” เสียงทุ้มสะท้อนก้องบ้าน

“อ้าว... มาแล้วเหรอ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลย” รัตนมณีเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิท เขายังคงยิ้มกว้างให้เธอเหมือนเคย

“เรือนหอหลังใหญ่มากเลยอ่ะ” วาคิมกางแขนออกกว้าง “ท่าทางแฟนแก้วคงรวยมากเลยนะเนี่ย”

“ก็ระดับหนึ่งนะ” หญิงสาวป้องปากหัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง

“เราถึงสู้ไม่ได้” ชายหนุ่มยิ้มหลิ่วตาให้

“พูดดีไปเถอะ” รัตนมณีตีหน้ายักษ์ ผลักแขนเขาให้เดินต่อไปข้างหน้า มองดูช่างที่กำลังเก็บรายละเอียดภายใน

“ห้องสีอ่อน โล่งๆ กว้างๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้เก๋ๆ นี่คือสไตล์ของคุณใช่ไหมครับคุณรัตนมณี”

หญิงสาวตบต้นแขนเบาๆ เป็นรางวัล “ก็เพราะอย่างนี้ไง เราถึงอยากให้คิมออกแบบสวนให้ เพราะคิมรู้ว่าเราชอบอะไร ทำยังไงเราถึงจะถูกใจที่สุด”

“มันแน่อยู่แล้วล่ะ” วาคิมพูดยกตัวเอง

ใช่แล้วล่ะ ความรักของเขามีค่ามากขึ้นเมื่อได้เห็นเธอมีความสุข รอยยิ้มของเธอยังคงทำให้เขายิ้มได้เสมอ เพราะความสุขของเธอก็ไม่ต่างจากความสุขของเขา


รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้นในมโนสำนึกของเธอ หญิงสาวเผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นตัวเองในกระจกเลยทำให้รู้สึกอายเสียอย่างนั้น เหมือนผู้หญิงในกระจกจับผิดเธอได้พร้อมหลักฐานมัดตัว สริดาขยี้หัวตัวเอง ทิ้งตัวลงแผ่หลาบนเตียงนุ่ม แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น

“อ้า... ใช่แล้วๆ” หญิงสาวเด้งตัวจากที่นอน เดินไปที่โต๊ะทำงานหยิบผ้ากันเปื้อนสีฟ้าที่อยู่ในถุงพลาสติกขึ้นมาดู “ทำยังไงดีนะ”

แล้วสมองน้อยๆ ของคนช่างคิดก็สว่างวาบขึ้นมา เธอเคลื่อนที่เร็วไปยังกล่องเก็บอุปกรณ์ประดิษฐ์ที่อยู่ในตู้ออกมาก รื้อๆ ค้นๆ จึงได้เศษผ้า เข็ม ด้าย และกรรไกร

หญิงสาวยิ้มถูกใจกับความคิดของตนเอง นั่งลงที่พื้นตัดเศษผ้าที่ได้เป็นชิ้นๆ ตามต้องการ

“หัวต้องโตๆ หน่อย ตาล่ะ อืม... ตาก็โตๆ ฮาฮา น่ารักเหมือนใครนะ”

เสียงพึมพำดังมาจากมนุษย์ผู้หญิงคนเดียวในห้อง เหมือนเธอจะหลุดไปในห้วงแห่งจินตนาการ หรืออาจจะเป็นโลกใดสักโลกหนึ่งที่มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจ

“ว้าว... น่ารักจริงๆ” นิ้วชี้น้อยๆ จิ้มลงบนตัวการ์ตูนที่เธอเย็บลงบนผ้ากันเปื้อน

สริดาบรรจงพับผ้ากันเปื้อนลงในถุงกระดาษลายน่ารัก เก็บกวาดอุปกรณ์พร้อมๆ กับการฮัมเพลง ยิ่งคิดถึงในหน้าเปื้อนยิ้มของเขายิ่งทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น



ในวันกลางฤดูฝนที่ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆหมอก ลมเย็นพัดกระดิ่งหน้าประตูดังกรุ้งกริ้ง เรียกเจ้าของร้านแกแฟหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหลายครั้ง ทว่าประตูเข้าก็ยังคงว่างเปล่า เขาเดินออกไปที่สวนหน้าร้านปล่อยลูกค้าชายหญิงได้อยู่ตามลำพัง

รถยนต์คันเล็กคุ้นตาแล่นเข้ามาในร้าน วาคิมจำได้จึงแอบยืนมองอยู่เงียบๆ สักพักหญิงสาวตาโตจึงเดินลงรถมาด้วยท่าทางสดใสร่าเริงโดยไม่ได้มองบรรยากาศรอบๆ ตัว เธอโผล่หน้าเข้าไปในร้านเหมือนเด็กๆ แล้วพลันชะงักเมื่อพบว่ามีคนอื่นอยู่ข้างใน

วาคิมหัวเราะท่าทางหน้าแตกของหญิงสาว เดินไปข้างหน้าเพราะเกรงว่าสริดาจะเก้อมากกว่านี้ ในสายตาที่เขายังมองเธออยู่ข้างในร้านนั้น วาคิมหยุดเท้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดไป สริดาไม่ได้อายที่โผล่พรวดเข้าไป แต่เธอรู้จักผู้ชายคนนั้นและกำลังคุยกับเขาอยู่ด้วยท่าทางเคร่งเครียด

‘ไม่ใช่เรื่องของแก’ เสียงในหัวบอกวาคิมอย่างนั้น เปลี่ยนเส้นทางเดินจากหน้าร้านไปหลังร้าน เสียงใสๆ ของหญิงสาวหยุดลงโดยที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในร้านตั้งแต่เมื่อไร

“เข้าใจพี่นะฝน” เสียงห้าวดังมาจากกลางร้าน แล้วเจ้าของเสียงก็เดินมาที่เคาท์เตอร์ที่เขายืนอยู่ เมื่อจ่ายเงินเสร็จชายหญิงทั้งสองก็เดินจากไปโดยไม่ได้หันมองกลับมาอีกเลย

เขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ยืนนิ่งอยู่นั้นเธอเป็นคนร่าเริง ทว่าตอนนี้เธอยืนหน้าเคร่ง ไร้รอยยิ้ม ไร้เสียงใสๆ ที่แสดงความสน

“คุณมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” วาคิมตะโกนไปด้วยเสียงประหลาดใจ เดินออกมาจากเคาท์เตอร์ตรงเข้าไปหา “พอดีผมเพิ่งเข้ามาในร้านน่ะ โทษทีที่ไม่ได้มอง”

สริดาจ้องตาเขา “เมื่อกี้ฉันยังเห็นคุณยืนอึ้งอยู่เลย อย่ามาทำตลกหน่อยเลย”

“คุณเห็นด้วยเหรอ” วาคิมยิ้มแห้งส่งเป็นรางวัลให้คนช่างสังเกตเช่นเธอ หรือว่าเป็นเขาเองที่เหม่อลอยจนไม่รับรู้อะไร

ความเงียบเกิดขึ้นเหมือนวันที่เธอมาที่นี่ครั้งแรก กลิ่นกาแฟ ขนมอบ และเสียงกระดิ่งสั่นในยามลมพัดก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

“คือ...” เสียงทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ตามมาด้วยรอยยิ้มเก้อเขินของกันและกัน

“คุณจะดื่มอะไรดี” เจ้าของร้านรีบทำตามหน้าที่

“สตรอเบอร์รี่สมูทตี้ก็แล้วกันค่ะ วันนี้มันร้อนมากจริงๆ”

“โอเค”

บาริสต้ารีบไปทำหน้าที่ของเขา ขณะที่มือหยิบนั่น เติมนี่ ตามก็มิวายที่จะมองหญิงสาวที่นั่งอ่านหนังสืออย่างใจเย็น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แปลกคนจริงๆ” วาคิมได้แต่พึมพำกับตนเอง

สริดามองหน้าหนังสือทั้งที่ไม่ได้อ่านสักตัว ภาพต้นไม้สีเขียวก็ไม่ได้เพิ่มความเพลิดเพลินให้เลยแม้แต่น้อย ปลายหางตาที่ยังมองเห็นได้เธอพบว่าเขาไม่ได้คร่ำเคร่งอยู่กับการปรุงเครื่องดื่มเหมือนเช่นทุกครั้ง

ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ มานั่งมองตรงหน้าเลยดีกว่าไหม!

“สตรอเบอร์รี่สมูทตี้เรียบร้อยแล้วครับ” วาคิมวางแก้วดังกึก

“เดี๋ยวค่ะ”

เสียงใสทำให้วาคิมชะงัก สริดาลุกขึ้น ยื่นถุงกระดาษส่งให้เขา

“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือวันนั้นค่ะ ถ้าไม่ได้คุณฉันคงแย่”

ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นโดยไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะถุงกะดาษในมือ หรือเป็นเพราะแววตาของหญิงสาวในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ผ้ากันเปื้อนผืนเก่าที่เขาทิ้งไปแล้วถูกแปลงโฉมเป็นผ้ากันเปื้อนผืนใหม่ มีลาย่ารักอยู่ตรงกลาง ชายหนุ่มรู้สึกถูกใจ หัวเราะกับการ์ตูนหัวโต

“ลองสวมดูสิคะ”

ผ้ากันเปื้อนเขียวอ่อนถูกถอดออกแทนที่ด้วยผ้ากันเปื้อนผืนสีฟ้า นายแบบยืนตรงให้นักออกแบบวิจารณ์ “เป็นไงครับ”

“หน้าเหมือนคุณเลยอ่ะ” เธอชี้ไปที่ผ้ากับเปื้อน

“ฮืม...” วาคิมก้มดูตัวเอง แม้ภาพการ์ตูนจะกลับหัวแต่ก็พอเดาออกว่ามันเป็นตัวอะไร “ผมหล่อกว่าหมีตัวนี้ตั้งเยอะน่า... หัวก็ไม่โตด้วย”

สริดาได้แต่หัวเราะ “ฉันไม่เคยมองใครพลาดนะคะคุณ”

แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็นหมีหัวโต ซ้ำคนว่ายังหัวเราะชอบใจไม่ฟังเสียงทัดทานใด แต่เขาก็รู้สึกว่าภาพเธอหัวเราะมันเหมาะกับเธอมากกว่าภาพเคร่งขรึมเมื่อครู่ และเสียงนี้มันดีกว่าความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา

-------------------------------

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ เรื่องนี้มีประมาณ 5 ตอน หวังว่าจะสนุกกันนะคะ
เมื่อวานติดธุระไปสมัครสอบมาค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบนะคะ






รชต
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 พ.ค. 2556, 13:58:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ค. 2556, 13:58:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1402





<< รักก็คือรัก part 2   รักก็คือรัก part 4 >>
คิมหันตุ์ 3 พ.ค. 2556, 14:25:03 น.
ลงชื่อรอตอนต่อไปจ้า


mhengjhy 3 พ.ค. 2556, 19:14:14 น.
ลงชื่อต่อแถวด้วยคนค่าาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account