ความรักของเปลือกไข่
เธอ...หลงรักคนๆ หนึ่งอยู่หลายปี ถูกกำหนดให้เป็นเพียงแค่เปลือกไข่ที่คอยปกป้องสิ่งที่อยู่ข้างในโดยไม่เต็มใจ

เขา...หลงรักเปลือกใข่ที่ภายนอกดูแข็งแรง แต่พร้อมที่จะแตกสลายได้ตลอดเวลา
Tags: ความรัก สามคน โปรแกรมเมอร์

ตอน: ตอนที่ 5

เย็นหนึ่งกลางสัปดาห์ก่อนที่แอมป์จะต้องไปส่งแฟนสาวที่บ้าน ทั้งคู่กลับตัดสินใจแวะนั่งเล่นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นทางผ่านก่อนที่จะถึงบ้านศศิ บรรยากาศลมพัดเย็นๆ ดูเป็นส่วนตัวแม้จะมีผู้คนมากมายที่มาออกกำลังกายวิ่งผ่านไปผ่านมา ชายหนุ่มหยิบกระเป๋ากีต้าร์ที่ข้างในบรรจุกีต้าร์สุดที่รักเอาไว้ติดลงจากรถมาด้วย เพราะเคยสัญญาไว้กับหญิงสาวว่าเขาจะสอนเธอเล่นกีต้าร์ เขาเริ่มสอนคอร์ดพื้นฐานกับเธอก่อนสี่คอร์ดและคอยให้คำแนะนำแต่ทำอย่างไรเธอก็ดีดไม่ได้เสียที

“ไม่ใช่แบบนั้นศศิ ศศิดูนี่นะ” ว่าแล้วเขาก็ขยับตัวเข้าไปคุกเข่าซ้อนหลังของหญิงสาวที่นั่งขัดสมาธิและมีกีต้าร์อยู่ในมือ “มันต้องจับแบบนี้ แล้วก็ดีดแบบนี้” ‘แบบนี้’ ทำเอาคนเป็นนักเรียนหน้าแดงเห่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ระดับความใกล้ชิดขนาดนี้ทำให้เธอชักทำตัวไม่ถูก ปกติเธอมักเป็นคนระวังตัวอยู่เสมอแต่ไม่ใช่กับแอมป์ เพราะเมื่อไหร่ที่อยู่ใกล้เธอมักทำตัวไม่ถูกมากกว่าจะต่อต้านเขา ชายหนุ่มมีอิทธิพลกับใจเธอมากจนเธอไม่สามารถวัดได้เลยจริงๆ

“เข้าใจมั้ยครับศศิ” เสียงทุ้มเรียกสติเธอกลับมา หญิงสาวหันมองคนถามด้วยหน้าตาสงสัย และให้เขาได้ขยายคำถาม “พี่ถามว่าเข้าใจที่พี่สอนมั้ยครับว่าจับกีต้าร์ยังไง”

“เอ่อ ค่ะ เข้าใจค่ะ”

“ไหนลองจับให้พี่ดูสิครับ” ศศิพยายามจับกีต้าร์อย่างที่ชายหนุ่มสอน แต่มันดูเก้งก้างและผิดเสียจนเขาทนไม่ไหว แอมป์มองคนบอกเข้าใจอย่างปลงๆ ก่อนจะงอนิ้วชี้กับนิ้วโป้งตัวเองเข้าหากันแล้วเอื้อมไปดีดอย่างแรงที่หน้าผากมน จนคนโดนดีร้องโอ๊ย

“พี่แอมป์” เสียงเล็กพยายามขู่เสียงให้ดูน่ากลัวแต่กลับทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้ เพราะแอมป์ยังคงหัวเราะเสียงดังอย่างหยุดไม่อยู่ “ดีดหน้าผากศศิทำไมคะ”

“ก็ศศิโกหกพี่ ไหนบอกเข้าใจไงครับ พอจับสายก็ยังผิดอยู่เลย”

“ก็เข้าใจไม่ได้แปลว่าทำได้นี่คะ มาให้ศศิเอาคืนเดี๋ยวนี้เลยศศิไม่ผิดนะ” ว่าแล้วคนโดนแกล้งก็หันไปวางกีต้าร์ไว้ห่างสมรภูมิรบก่อนจะกระโจนเข้าหาตัวการอย่างรวดเร็ว เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มเลยรีบยกแขนสองข้างกันไว้ไม่ให้หญิงสาวเอาคืนเขาได้ ยื้อกันอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนแอมป์จะเป็นคนยอมผ่อนแรงที่ดันไว้จนหญิงสาวเสียหลักล้มทับลงไปบนอกแกร่งของชายหนุ่ม พอศศิจะลุก คนโดนทับกลับขืนตัวไว้ไม่ให้ลุก หญิงสาวพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ไม่เป็นผลแรงของชายหนุ่มที่เยอะกว่าทำให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้

“พี่แอมป์ ปล่อยศศิสิคะ” เสียงเล็กเอ่ยขอร้องแต่คนโดนขอร้องกลับยังคงเงียบ ชายหนุ่มใช้สายตาจ้องใบหน้านวลแทบไม่กระพริบ ทำเอาเจ้าของหน้าร้อนผ่าวอีกครั้งพร้อมกับเบือนหน้ามองพื้นเพื่อหลบสายตา “ปล่อยเถอะค่ะ ศศิตัวหนัก” เธอเอ่ยท้วงเสียงเบา

“หนักจริงๆ ด้วยสิ” คำพูดของคนรับน้ำหนักเธอทำเอาต้องเงยหน้าขึ้นมอง ทำให้รู้ว่าพลาดไปถนัด แววตาหวานที่ส่งมาทำเอาเธอพูดไม่ออก หญิงสาวปล่อยให้คนที่เธอทับอยู่ได้มองหน้าเธอนิ่งก่อนจะรู้สึกว่าหน้าของทั้งคู่เริ่มขยับเข้าหากัน ไม่สิ เป็นหน้าของแอมป์ที่ร่นระยะมาเรื่อยๆ จนแทบชิด มือบางที่หลุดจากการจับกุมของมือใหญ่รีบขยับมาดันคนตัวโตไว้ก่อนเหตุการณ์ไม่เหมาะสมจะเกิดขึ้น

“กลับบ้านกันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาพร้อมกับลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวไปทางที่รถจอดอยู่


บรรยากาศภายในรถน่าอึดอัดเป็นที่สุด ศศินั่งตัวแข็งมองเพียงแค่ถนนข้างหน้า เธอไม่แน่ใจว่าคนที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆ กำลังนึกคิดอะไรอยู่ ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นความต้องการจริงๆ หรือเป็นแค่เหตุสุดวิสัยที่ทำให้ชายหนุ่มแสดงออกอย่างนั้น

“พี่ขอโทษนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ “พี่ไม่น่าทำแบบนั้นกับศศิทั้งๆ ที่เราเพิ่งคบกัน”

“ศศิไม่ได้โกรธพี่แอมป์หรอกค่ะ แต่ศศิแค่เสียใจ ศศิก็ต้องขอโทษพี่แอมป์ด้วยนะคะแต่ศศิไม่พร้อมจริงๆ เราเพิ่งคบกันยังไม่ถึงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ”

“พี่เข้าใจ พี่ต้องขอโทษศศิอีกครั้งนะ ต่อไปพี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”

“สัญญานะคะ”

“ด้วยเกียรติทั้งหมดของพี่เลยครับผม” เพียงเท่านั้นหญิงสาวจึงยิ้มออก บรรยากาศในรถกลับมาสดชื่นและมีเสียงหัวเราะอีกครั้ง


ขิงนั่งชันเข่าอยู่หน้าบ้านเกือบอาทิตย์ ทีแรกที่ตั้งใจจะชวนคนเป็นแม่ไปเที่ยวแต่กลับโดนเบี้ยวนัดเพราะเธอชวนแม่ช้าไปเกือบอาทิตย์ แม่ของเธอนัดสามีใหม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงเธอลาพอดิบพอดี คงไม่มีอะไรน่าเศร้าไปกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ ที่บ้านกับซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กองอยู่ข้างๆ แทบจะสูงท่วมหัวเธอ เพียงเพราะไม่อยากขยับตัวไปไหน ขิงจึงตัดสินใจในทุกเช้าของแต่ละวันว่าจะหาอะไรกินในบ้าน ซึ่งในตู้เย็นเธอไม่มีอะไรที่สามารถทำให้เป็นประโยชน์ได้เลย ภาระของกระเพาะเธอจึงตกอยู่ที่โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเช่นนี้

วันศุกร์ที่น่าเบื่อของเธอยังไม่พ้นไป เวลาที่เดินอย่างเชื่องช้าทำให้แทบอยากหายานอวกาศสักลำเพื่อนั่งไปดวงจันทร์ อย่างน้อยบนดวงจันทร์ไม่มีแรงโน้มถ่วง น้ำตาของเธอคงไม่ไหลอาบหน้าอย่างสองสามวันก่อน คิดเรื่อยเปื่อยได้สักพักเสียงรถยนต์ที่มาจอดหน้าบ้านทำให้เธอต้องหันไปมอง ความหวังที่มีอยู่ริบหรี่สว่างวาบในใจ หวังว่าจะเป็นเพื่อนเธอมาตามให้เธอไปทำงานหลังจากไม่ไปหนึ่งอาทิตย์เต็ม เมื่อรถที่จอดไม่คุ้นตาเลยสักนิดความผิดหวังเข้ามาแทนที่จนเกิดเป็นความแปลกใจเมื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถแล้วยิ้มให้เธอผ่านประตูรั้ว

“บอส...”


ไอศกรีมรสเชอเบทพร้อมด้วยท้อปปิ้งต่างๆ แต่งให้ดูหน้าทานยิ่งขึ้นถูกวางไว้บนโต๊ะเรียกรอยยิ้มจากคนสั่งได้ไม่ยาก ขิงหยิบช้อนขึ้นมาตักไอศกรีมเข้าปากด้วยแววตาที่ดูสดใสขึ้นในความคิดของกฤษณ์ ชายหนุ่มสังเกตใบหน้าที่ตายังคงบวมอยู่เล็กน้อยคงเป็นผลกระทบจากการร้องไห้อย่างหนักและร่างกายที่ดูซูบไปอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินเข้าไปในบ้านหญิงสาวเพียงครู่เดียวก็หมดความอดทน เมื่อในตู้เย็นไม่มีของอะไรที่สามารถทำเป็นอาหารได้ และบนโต๊ะมีเศษถุงบะหมี่สำเร็จรูปกองอยู่อย่างที่หากแม่เธอมาเห็นคงได้หยิกแขนจนเนื้อเขียวโทษฐานทำบ้านสกปรก

“ขอบคุณบอสอีกครั้งนะคะที่พาลูกหมาตาดำๆ ตัวนี้มาเลี้ยงข้าว ถ้าไม่ได้บอสวันนี้ขิงคงต้มบะหมี่กินเหมือนเดิม” คนเป็นเจ้ามือหรี่ตามองหน้าคนสำนึกบุญคุณ แล้วส่ายหน้าเอือมระอา

“ถ้าผมไม่แวะไปหา ขิงจะเป็นโรคขาดสารอาหารเป็นลมอยู่ที่บ้านมั้ยล่ะ”

“ไม่หรอกค่ะ ขิงแข็งแรง” เธอพูดพลางทำท่าเบ่งกล้ามเรียกรอยยิ้มจากคนที่นั่งตรงข้ามได้ไม่ยาก แต่ภายใต้ความสดใสนี้เขารู้ดีว่ามีบางอย่างกระทบจิตใจเธอไม่น้อย

“แล้วใจเราล่ะ หายดีหรือยัง” คนถูกถามนิ่งอึ้งไป ก้มหน้าเขี่ยไอศกรีมในถ้วยก่อนจะตอบเสียงเบา

“ก็... หายแล้วค่ะ”

“อะไรนะไม่ได้ยิน”

“หายแล้ว... มั้งคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตอบคนถามด้วยน้ำเสียงปกติแต่ติดสั่นปลายประโยค ทำเอาคนมองเห็นใจอยู่ไม่น้อย

“ยังไม่หายก็ยังไม่หายสิ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งเลยนี่” เสียงทุ้มท้วงเบาๆ เริ่มเห็นน้ำตาที่คลออยู่ที่ตาของหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง ความหนักใจเกิดขึ้นทันทีที่เห็นน้ำตาของเธอ กฤษณ์กระแอมเล็กน้อยเพื่อไล่อะไรก็ตามที่ติดอยู่ในลำคอ แล้วเอ่ยข้อเสนอกับหญิงสาว “ถ้าช่วงนี้ยังไม่อยากเจอหน้า ขิงจะทำงานที่บ้านก็ได้นะ ผมไม่ว่าอะไร”

“ไม่เป็นไรค่ะ ให้ขิงไปดีกว่า เดี๋ยวจะผิดปกติไปมากกว่านี้”

กฤษณ์ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีการปลอบใจใดๆ เพิ่มเติม เขาเกรงว่าอาจจะทำให้ลูกน้องสาวยิ่งคิดมาก แต่การที่จะกลับไปทำงาน เขาก็กลัวว่าเธอจะอาการหนักขึ้นเช่นเดียวกัน


ขิงเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากลางานไปหนึ่งอาทิตย์ ทำเอาเพื่อนร่วมงานบางคนเข้ามาถามไถ่อย่างเป็นห่วงว่าหายไปไหน ป่วยอะไรหรือเปล่า แต่คำถามทั้งหมดก็ไม่ทำให้เธอมีอาการแปลกๆ ในหัวใจได้นอกจากคำถามของแอมป์

“ไหนล่ะของฝากเรา บอสบอกเราว่าขิงไปเที่ยวกับแม่มา” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอยิ้มตอบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างกัน แต่นั่นเป็นคำตอบที่ทำให้คนถามหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ไม่มี เราลืมอ่ะ”

“ของแบบนี้มันลืมกันง่ายๆ เลยเหรอ” คนโดนย้อนยิ้มบางๆ ก่อนจะแยกตัวไปทำงานเงียบๆ พยายามไม่พาสายตาตัวเองไปยังที่ที่เคยมองปกติ แต่ยังไงก็ห้ามไม่ได้ ขิงยังคงแอบมองโต๊ะของแอมป์อยู่บ้างแต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อก่อน พอหันไปเห็นชายหนุ่มกำลังสอนงานน้องฝึกงานด้วยรอยยิ้มที่คนอื่นไม่ค่อยได้รับ อาการเจ็บแปลบบริเวณอกข้างซ้ายก็กลับมาอีกครั้ง

“เป็นยังไงบ้างขิง” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำถาม ส่งยิ้มให้แม้ไม่สดใสเท่าไหร่

“ก็ดีค่ะบอส ตรงที่มันติดขิงแก้ได้แล้วค่ะ”

“พี่ไม่ได้หมายถึงงาน” คราวนี้หญิงสาวนั่งเงียบเม้มริมฝีปากนิดๆ อย่างคนต้องอดกลั้นอะไรสักอย่าง

“ขิงยังโอเคค่ะ ไม่เป็นไร”

“ไม่ไหวก็บอกนะ” เธอพยักหน้ารับแล้วตั้งหน้ตั้งตาจ้องหน้าจอ รวบรวมสมาธิทั้งหมดไม่ให้กระเจิดกระเจิง แล้วเริ่มทำงานที่แก้ไขในระดับหนึ่งแล้ว


ระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านไป เป็นระยะเวลานานพอที่จะให้ขิงทำใจและกลับมาเป็นคนเดิมอย่างไม่ต้องฝืนมากมายแม้ว่าความเจ็บปวดนั้นยังอยู่ แต่ก็เหลือน้อยเต็มทีหากไม่มีอะไรมาสะกิดมัน หญิงสาวเก็บของที่วางเกลื่อนบนโต๊ะเตรียมตัวกลับบ้าน ถึงแม้แอมป์จะชวนไปเลี้ยงอำลาศศิที่ฝึกงานที่บริษัทเป็นวันสุดท้าย เธอนั่งตัดสินใจอยู่พักหนึ่งก่อนบอกปฏิเสธคนชวนไป หญิงสาวคิดว่าการที่ความเจ็บปวดลดลงเป็นเรื่องที่ดี แต่การไม่เห็นอะไรคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า

“ไม่ไปจริงๆ เหรอ” แอมป์ยังคงเดินมาพูดคุยกับเธอปกติ แถมคราวนี้เริ่มตามอ้อนอย่างที่จะให้เธอไปให้ได้จนคนโดนอ้อนชักทำตัวไม่ถูก

“ไปเถอะ วันนี้เรามีนัดกับแม่” หญิงสาวอ้างมารดาอีกครั้ง แต่อย่างไรเสียข้ออ้างนี้คงได้ผลมากที่สุด เพราะแอมป์เกรงใจแม่เธอพอสมควร “สนุกเผื่อด้วยแล้วกันนะ” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่ยังไม่ทันได้พูดก็มีมือปริศนาเข้ามาดึงเขาออกไป ขิงตกใจเล็กน้อยกับการที่บอสของทุกคนลงทุนเดินมาเพื่อลากคอเพื่อนเธอให้ไปรวมกลุ่มทางด้านโน้น เธอเห็นเขาขยิบตาให้เธออย่างรู้กันแล้วเดินจากไปปล่อยให้เธอหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง บอสอายุมากกว่าเธอเกือบห้าปีแต่ดูไม่เป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย

ขิงแวะเข้าห้องน้ำที่ออฟฟิศก่อนกลับบ้าน หญิงสาวสำรวจเสื้อผ้าที่สวมใส่และร่างกาย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมือที่กำลังจะหยิบกระเป๋าต้องชะงักเมื่อเห็นคนรักของเพื่อนยืนมองเธออยู่อย่างเงียบๆ

“มีอะไรรึเปล่าศศิ” เธอได้ยินเสียงตัวเองที่ถามหญิงสาวเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ แต่ยังคงคิดปลอบตัวเองว่าคงไม่มีอะไร

“ศศิมีเรื่องนึงอยากถามพี่ขิงค่ะ”

“จ้ะ” เธอยิ้มสู้ “เรื่องอะไรจ๊ะ”

“เรื่องพี่แอมป์ค่ะ” ใจที่เคยดีอยู่เมื่อครู่หล่นวูบ มือไม้อ่อนเปลี้ยจนไม่ทันรู้สึกว่ากระเป๋าหล่นจากมือไปตอนไหน หญิงสาวยังคงยืนนิ่งกว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนศศิเก็บกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ

“ขอบใจจ้ะ แล้วศศิจะถามอะไรพี่ล่ะ ตอบได้พี่ก็ยินดีตอบ”

“คำถามไม่ยากหรอกค่ะ ศศิแค่อยากรู้ว่าพี่ขิงคิดอะไรกับพี่แอมป์รึเปล่า”

“ทำไมศศิถามอย่างนั้นล่ะ มีอะไรสงสัยพี่งั้นเหรอ”

“ค่ะ ศศิยอมรับว่าศศิสงสัยพี่ขิง พี่ขิงเป็นเพื่อนสนิทพี่แอมป์ แล้วพี่แอมป์ก็มีเสน่ห์ออกอย่างนั้น ศศิไม่เชื่อหรอกนะคะว่าพี่ขิงจะไม่คิดอะไรกับพี่แอมป์เกินเพื่อนเลยสักนิดเดียว” มือขิงกำสายกระเป๋าตัวเองแน่นจนรู้สึกถึงเล็บที่กำลังจิกเนื้อตัวเองอยู่ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองตรงไปยังคนถามไม่มี่อาการหลบตาเลยสักนิด

“จ้ะ แล้วยังไงจ๊ะ พี่จะชอบหรือไม่ชอบมันเป็นสิทธิของพี่รึเปล่านะ พี่จำได้ว่าพี่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างแอมป์กับศศิเลยนะ ศศิจะมาพาลเอาอะไรกับพี่ล่ะ”

“ใช่ค่ะ พี่ขิงไม่เคยเข้ามาก้าวก่าย” เธอพยักหน้ายอมรับก่อนจะพูดต่อ “แต่ยังไงศศิก็ยังระแวงอยู่ดี” ขิงฟังแล้วได้แต่หัวเราะในลำคอ พอจะรู้แล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าต้องการอะไร

“อยากให้พี่ทำอะไรก็บอกมาเถอะ อย่ามัวแต่พูดเลย”

“พี่ขิงช่วยอยู่ห่างๆ พี่แอมป์ได้มั้ยคะ”

“ทุกวันนี้พี่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับแอมป์เลยนะ” เธอตอบโต้ทันควัน “ศศิน่าจะเห็นนะว่าพี่แทบไม่เป็นคนเริ่มคุยกับแอมป์เลยถ้าไม่ใช่เรื่องงาน และถ้าน้องจะเห็นนะจ๊ะแอมป์มาคุยกับพี่เอง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่พี่ช่วยเธอไม่ได้จริงๆ อ้อ ขอตัวก่อนนะจ๊ะ งานเลี้ยงของน้องวันนี้ตอนแรกพี่กะจะไม่ไปแล้ว แต่น้องให้เกียรติมาพูดกับพี่ขนาดนี้ ยังไงพี่คงต้องไปให้เป็นเกียรติหน่อยนะจ๊ะ แล้วเจอกันที่งานจ้ะ”

เธอเกือบทำท่ากำมือแล้วงอแขนดึงข้อศอกเข้าหาลำตัวเหมือนนักกีฬาเวลาทำคะแนนได้ แต่ต้องชะงักเสียก่อนเมี่อเห็นใครอยู่หน้าห้องน้ำ กฤษณ์ยืนกอดอกพิงผนังมองเธอยิ้มๆ เธอเห็นแววตาเขาเต้นระริกอย่างสนุกสนานเชียวล่ะ

“ยิ้มอะไรคะบอส”

“เก่งเหมือนกันนี่” กฤษณ์ตอบไม่ตรงคำถามอย่างตั้งใจ “นึกว่าสู้คนไม่เป็นซะแล้ว”

“บอสได้ยินเหรอคะ” หญิงสาวหันมองหน้าคนเดินอยู่ข้างๆ อย่างแปลกใจ ผู้ชายอะไรแอบฟังอยู่หญิงคุยกันหน้าห้องน้ำ “แล้วได้ยินอะไรบ้าง”

“ก็คิดว่าเกือบทุกคำ ทีแรกผมตั้งใจจะเดินมาตามคุณ เห็นคุณเข้าห้องน้ำนาน แต่ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้” เขายักไหล่ตอบ แล้วหยุดรอลิฟต์ “ตกลงคุณจะไปเหมือนที่บอกศศิไว้ใช่มั้ย”

“ก็คงงั้นมั้งคะ บอกไปแล้วก็คงต้องทำ” เขาพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยแบบมัดมือชก

“ถ้างั้นไปรถผมแล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา” คนกลัวเสียเวลารีบเดินนำลูกน้องสาวไปที่รถหลังจากลิฟต์ลงถึงชั้นที่ต้องการ “เชิญครับ”

“บอสว่าที่ขิงทำมันถูกมั้ยคะ” หญิงสาวเอ่ยถามคนที่เป็นเจ้านายและตอนนี้กำลังควบตำแหน่งที่ปรึกษาเธออีกหนึ่งตำแหน่งด้วยความไม่แน่ใจ มือไม้ที่มีอยู่คอยถึงชายเสื้อตัวเองยุกยิกไปมา

“แล้วถ้าคิดว่าผิดแล้วทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไปล่ะ”

“ก็คนมันโมโหนี่คะ” เธอตอบทันควันด้วยน้ำเสียงทนไม่ได้ “หลีกทางให้ก็แล้ว หลบให้ก็แล้ว นี่เหลือแค่ประเคนให้นะคะจะครบสูตรแล้ว แต่ก็ยังมาห้ามขิงไม่ให้ทำโน่นทำนี่ ขิงหมั่นไส้ก็เลยพูดออกไปแบบนั้น”

กฤษณ์หัวเราะกับเสียงอ่อยท้ายประโยค เขาหันหน้ามาดูคนทำลายขีดความอดทนของเธอแตกกระจายแล้วต้องหันกลับมาหัวเราะกับถนนตรงหน้าอีกครั้งที่เห็นหญิงสาวมองเขาหน้ามุ่ย

“ตลกมากเหรอคะบอส”

“โอเคครับ ผมไม่หัวเราะแล้วก็ได้ เอาเป็นว่าถ้าทนไม่ไหวเหมือนเมื่อกี้ก็ระบายมันออกมาเถอะ เดี๋ยวจะอกแตกตายก่อน แล้วตกลงจะไปงานเลี้ยงจริงๆ เหรอ”

“ก็บอกไปแล้วนี่คะ ไม่ไปเสียฟอร์มแย่” เธอพูดอย่างเลือกไม่ได้ นึกเสียใจที่ตอนโมโหมักพูดไม่คิดทุกที คราวนี้ก็เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดเด็กศศินั่นเอาเรื่องเธอไปเล่าให้แอมป์ฟังทีนี้เธอจะทำยังไงดีล่ะ

+++++++++++++++

ความน่าหมั่นไส้ของนายแอมป์ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
อย่าเพิ่งเลิกอ่านนิยายเค้าน้าาาาา (อ้อนๆ)

ตกลงขิงจะคู่กับนายแอมป์รึเปล่า ไว้มาลุ้นกันนะคะ >,.<

คุณ mhengjhy : คนใหม่มีมั้ยน้ออออ ฮาาาา แบบนี้ต้องรอดูต่อไปนะคะ



มิณทิมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2556, 13:31:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2556, 13:31:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1234





<< ตอนที่ 4   ตอนที่ 6 >>
mhengjhy 22 พ.ค. 2556, 17:30:04 น.
ไม่อาววว ไม่ให้ขิงคู่แอมป์ เป็นบอสก็ยังดีนะคะ 555


คิมหันตุ์ 23 พ.ค. 2556, 03:35:34 น.
บอสเริ่มทำคะแนนมาแรงนะคะ


posty 24 พ.ค. 2556, 15:13:15 น.
อ่านถึงตอนนี้แล้วนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account