รอยรักยมทูต
เขาคือเทพแห่งความตายแสนเย็นชา
ส่วนเธอคือวิญญาณดวงน้อยไร้กายา
แต่โชคชะตากลับดลสองดวงใจให้พบกัน
ท่ามกลางอนธการปาฏิหาริย์แห่งรักนิรันดร์จะเริ่มต้นขึ้น

Tags: รอยนิรันดร์ นิรันดร์แห่งรัก ดุจดั่งดวงใจ หทัยแห่งสุริยัน ตราบนิรันดร์คือเธอ ธานาทอส เฮเดส พริมา ขวัญชีวา

ตอน: บทที่1(2/2) โลกหลังความตาย

ความมืดมิดยังครอบคลุมบรรยากาศทั่วทุกสารทิศ ขวัญชีวาไม่แน่ใจบุรุษหนุ่มภายใต้อาภรณ์สีดำสนิทผู้นี้พาเธอเดินทางสู่ดินแดนใด เมื่อทั่วทั้งแผ่นดินผืนนี้ล้วนปกคลุมด้วยราตรีอันยาวนาน แสงจากคบไฟหนึ่งส่องให้เห็นลำธารน้ำสีทะมึนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาคั่นอยู่ตรงเบื้องหน้า บริเวณจุดนัดพบแห่งนี้ถือเป็นรอยต่อระหงโลกมนุษย์และยมโลก มีจุดบรรจบของแม่น้ำแอเครอนและแม่น้ำโคไซรัสกางกั้น ขวัญชีวาเผลอเขยิบตัวเข้าชิดใกล้เทพแห่งความตายด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรายล้อมรอบกายเธอคือเหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายที่กำลังรอคอยเรือแจวเพื่อข้ามฝั่ง

“เป็นอะไร” ธานาทอสปรายตามองปฏิกิริยาแปลกๆของผีที่เขาจับจูงมาด้วย

“ที่นี่มีแต่ดวงวิญญาณ”

“ก็ใช่ นี่เป็นยมโลกนี่นา” เขาตอบอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องผิดปรกติใดนัก

“เราจะไปไหนกันต่อ”

“เจ้าต้องรอเรือแจวของเครอนมารับ ถึงจะข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งได้ นี่คือเหรียญทองสำหรับค่าจ้างคนแจวเรือ อย่าทำหายเชียวนะ”

เขาวางเหรียญทองคำหนึ่งลงบนฝ่ามือน้อย

“คุณจะข้ามฝั่งไปกับฉันด้วยใช่ไหมคะ” ขวัญชีวาถามด้วยความหวั่นใจ ดวงตาโตอมโศกช้อนขึ้นมองอย่างคาดหวัง

“ไม่ ข้ายังมีหน้าที่อีกมากมายต้องทำ ข้าคงส่งเจ้าได้เพียงเท่านี้”

เพียงขาดคำ ฝ่ามือกำยำที่เคยเกาะกุมมือน้อยมาตลอดก็คลายออก ขวัญชีวารีบผวาเกาะชายเสื้อเขาไว้ทันใด

“เดี๋ยวก่อน คุณจะทิ้งฉันไว้ที่นี่จริงๆเหรอ” เธอร้องถามเสียงเศร้า

เล่นเอาเทพบุตรหนุ่มถึงกับนิ่งขึง ก็ตลอดมาเขาผู้ขึ้นชื่อเป็นเทพแห่งความตาย ล้วนเป็นที่หวาดหวั่นของเหล่ามนุษย์หรือแม้แต่ดวงวิญญาณทั้งหลาย เคยมีเสียที่ไหนที่ใครจะออดอ้อน ขอให้จ้าวแห่งความตายเยี่ยงเขาอยู่เป็นเพื่อนกันบ้าง

“นี่คือที่ที่เจ้าต้องอยู่และเดินทางต่อ เอาล่ะ ข้าเสียเวลามามาก ต้องไปแล้ว ส่วนเจ้าก็รอเรือแจวอยู่ที่นี่ จำไว้เหรียญทองคำในมือนั้นมีค่านัก หากทำหล่นหาย เจ้าจะต้องคอยอยู่ที่ท่าน้ำแห่งนี้ถึงร้อยปีกเครอนจะยอมใจอ่อน พาเจ้าข้ามฝั่ง” ธานาทอสย้ำกับเธอตรงหน้าอีกครั้งก่อนจากไป

ทิ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งได้แต่มองตามหลังด้วยดวงตาละห้อย



เลยผ่านม่านหมอกควันเข้ามา ห่างจากทุ่งดอกไม้แอสโฟเดลไปไม่ไกลคือที่ตั้งของปราสาทสีดำสูงใหญ่ สิ่งก่อสร้างเดียวดายภายใต้ยมโลกอันกว้างไพศาล ปราสาทสีดำแห่งนี้คือที่ประทับของเทพเฮเดส...ราชันแห่งยมโลกผู้ปกครองดินแดนแห่งความตาย ตลอดไปจนถึงนรกโลกันตร์ทุกขุม แต่ยามนี้ปราสาทสีทะมึนซึ่งเคยตกอยู่ในความเย็นชามาเนิ่นนานนับหมื่นเพลา กลับปรากฏสีสันของชีวาขึ้นนับตั้งแต่เทพเฮเดสทรงมีรานีเคียงค้าง พริมา... ดาราดวงน้อยผู้เป็นดั่งหทัยของราชันแห่งยมโลก และเป็นมนุษย์ผู้เดียวที่เทพแห่งความตายให้ความเคารพรัก

ฝีเท้าหนักๆก้าวเดินเข้าสู่ภายในปราสาท แสงจากเปลวไฟสีฟ้าริมผนังทางเดินส่องให้เห็นบรรยากาศเงียบสงบอันอบอวลด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกแอสโฟเดล ซึ่งถูกนำมาจัดเรียงไว้ในแจกัน วางอยู่แทบทุกมุมภายในปราสาท

“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ธานาทอส” เสียงหวานใสของคนกำลังปักดอกแอสโฟเดลลงแจกัน ทักทายเขาพร้อมรอยยิ้มหวานมอบให้

“พระเจ้าค่ะ องค์รานีทรงจัดดอกไม้อีกแล้ว”

“ถ้าไม่จัด ปราสาทนี้ก็มืดมนจนไม่น่าอยู่กันพอดีสิ”

ธานาทอสทำหน้าเฉยกับสิ่งที่ได้ฟัง เพราะสำหรับเขา ทางเดินภายในปราสาทจะหอมอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ หรือมืดมิดเพียงใด ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกน่าหวั่นเกรงหรือไม่น่าอยู่อย่างที่อีกฝ่ายบ่นเลยแม้แต่น้อย

หรือบางที ผู้อยู่เหนือความตายเยี่ยงเขาคงมีหัวใจด้านชาเกินกว่าจะรับรู้ถึงความสวยงามใด

“องค์รานีทรงเห็นฮิปนอสบ้างไหมพระเจ้าค่ะ” เขาตัดสินใจถามถึงเทพแห่งการหลับใหล

“น่าจะในท้องพระโรงกับเหล่ามอยเรมั้งคะ”

ธานาทอสโค้งศีรษะให้หญิงสาว ก่อนเขาจะเดินตามทางเดินมาจนถึงประตูหนึ่งซึ่งเปิดออกสู่ท้องพระโรงกว้าง หลังบานประตูสีดำคือร่างสูงกำยำของเทพนักรบอีกองค์หนึ่งผู้มีลักษณะคล้ายคลึงกับผู้กำลังก้าวเข้ามาใหม่

“กลับมาแล้วรึ” ฮิปนอสหรือเทพแห่งการหลับใหลเอ่ยปากทักคู่หู

“อืม เพิ่งไปส่งดวงวิญญาณที่ท่าน้ำ”

“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของพวกยมทูตหรอกรึ”

“มันก็ใช่” เขาเปรยขึ้นอย่างไม่มีนัยยะสำคัญใด ทว่าความคิดกลับล่องลอยไกลถึงเจ้าของดวงหน้ากลมและแววตาสีเข้มอมโศก ท่าทีออดอ้อน วอนขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อนยังติดตรึงอยู่ในความคิดอย่างไม่อาจสลัดทิ้ง

ป่านนี้ไม่รู้นางจะข้ามฝั่งรึยัง จะเชื่อฟังคำเขาใช่ไหม จะรักษาเหรียญทองไว้อย่างดี ไม่ให้พวกวิญญาณชั่วช้าตนใดแย่งชิงไป...

ช่วยไม่ได้เลย ธานาทอสอดนึกถึงวิญญาณน้อยดวงนั้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้เขาจะไม่ค่อยถูกชะตากับเหล่ามนุษย์นัก แต่ก็ใช่จะนึกรังเกียจวิญญาณมนุษย์ทุกดวง โดยเฉพาะกับดวงวิญญาณที่มีจิตพิสุทธิ์อย่างหญิงสาวนางนั้น

“เจ้าดูแปลกๆนะวันนี้” เสียงของฮิปนอสดึงเตือนสติเขากลับคืน

“ไม่เห็นมีอะไรแปลกนี่ เจ้าต่างหากมาทำอะไรอยู่กับเหล่ามอยเร ที่นี่”

ธานาทอสแปลกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่กับคณะเทวีแห่งโชคชะตาทั้งสาม พวกนางเป็นหญิงชราผู้ควบคุมโชคชะตาของเหล่ามนุษย์ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในข้ารับใช้ของเทพเฮเดส เช่นเดียวกับธานาทอสและฮิปนอส

“ข้ามาขอให้พวกมอยเรช่วยตามหาปีศาจตนหนึ่ง”

“เป็นไปไม่ได้หรอก พวกข้าไม่มีอำนาจพอจะหยั่งรู้ชะตาของปีศาจตนใดได้” โคลโธเอ่ยขึ้นอย่างจนปัญญา

“ใช่ ในถุงผ้าของข้ามีเพียงเชือกชีวิตของมนุษย์เท่านั้น พวกปีศาจ อสูร รวมถึงเหล่าทวยเทพทั้งหลายล้วนอยู่เหนืออำนาจของพวกข้าจะกำหนดโชคชะตา” ลาเคซิสอธิบายให้เทพแห่งการหลับใหลฟัง

“เจ้าจะตามหาปีศาจตนใดรึ” ธานาทอสหันหน้าถามคู่หูด้วยความสงสัย

เห็นชัดฮิปนอสถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม ก่อนจะยอมเอ่ยปากเล่า

“เจ้าจำเฟรีอา ปีศาจแม่ม้ายที่เคยขอร้องให้พวกเราช่วยตามหาลูกสาวเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้ไหม”

หัวใจผู้ฟังกระตุกไหวเล็กๆกับการเริ่มต้นเรื่องราวของอีกฝ่าย

“จำได้ ข้ายังจำฟีเลียได้ไม่เคยลืม” หางเสียงของผู้พูดมีรอยสั่นไหวติดอยู่ แม้จะเพียงน้อยนิดจนไม่มีผู้ใดสดับฟังออก แต่ธานาทอสเองก็รู้หัวใจของเขาเต้นผิดปรกติขึ้นทุกครั้งยามเอ่ยถึงนางปีศาจน้อยตนนี้

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อนยังไม่มีผู้ใดคลี่คลายปมปริศนาได้ เมื่อจู่ๆช่วงนั้นก็มีเหตุนางปีศาจหลายตนถูกฆาตกรรมลง พวกนางทั้งหมดที่ตายล้วนเป็นปีศาจสาวผู้มีดวงตาสีเขียวมรกต ตามการคาดการณ์ฟีเลียคือเหยื่อรายสุดท้ายในเหตุฆาตกรรมซึ่งยังหาตัวผู้กระทำผิดในครั้งนั้นไม่ได้ แต่สิ่งที่แปลกออกไปคือ ไม่มีผู้ใดพบศพของนางปีศาจน้อย ฟีเลียหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย สิ่งเดียวที่เหลือทิ้งไว้คือรอยเลือดเปรอะอยู่เต็มตัวเฟรีอา ความทรงจำว่างเปล่า และร่างกายของผู้เป็นแม่ที่นิ่งค้างเพราะถูกมนต์สะกด

การสูญเสียบุตรสาวสร้างความปวดร้าวให้กับผู้เป็นมารดานัก เฟรีอาคือผู้เดียวที่ยังไม่เชื่อฟีเลียตายจาก นางดั้นด้นออกตามหาบุตรสาวทั่วทุกสารทิศ รวมถึงเคยเข้าเฝ้า วอนขอความเมตตาจากเทพเฮเดส คราวนั้นราชันแห่งยมโลกทรงเห็นพระทัยในความรักมั่นคงของนางปีศาจ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ธานาทอสเป็นผู้นำกองทัพยมทูตออกตามหา น้อยสุดพวกเขาก็คาดหวังจะพบศพของฟีเลีย ทว่าหลังจากการออกค้นทั้งยมโลก ขุมนรก เลยไปจนถึงพิภพเบื้องบนเป็นเวลาถึงพันราตรี ก็ยังไม่มีผู้ใดค้นพบร่องรอยของปีศาจน้อยเลย ท้ายสุดด้วยหน้าที่มากมายต้องกระทำ การค้นหาจึงหยุดลงพร้อมกับหัวใจแหลกสลายของผู้เป็นมารดา

“วันนี้ข้าไปเจอเฟรีอาแถวๆแดนกักกันวิญญาณ นางยังไม่เลิกค้นหาลูกสาวเลย” ฮิปนอสบอกด้วยสีหน้าสลดลงเล็กน้อย เมื่อใครต่อใครก็ต่างเชื่อว่าฟีเลียตายแล้ว จะมีก็แต่เฟรีอาเท่านั้นยังเชื่อมั่นในตัวตนการมีชีวิตอยู่ของบุตรสาว

“พวกข้าเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร อำนาจของพวกข้าล่วงรู้แต่ชะตาชีวิตของมนุษย์ เรื่องนี้มันเกินปัญญาจริงๆ” อะโทรพอสเอ่ย

“ข้าจะให้ยมทูตลองออกค้นหาดูอีกครั้ง” ธานาทอสตัดสินใจในที่สุด

“ช่วยหน่อยเถอะ แต่บางทีข้าก็คิดเวลาผ่านมานานขนาดนี้ ฟีเลียคงไม่มีชีวิตอยู่แล้วกระมัง”

ธานาทอสไม่ได้ตอบคำถามของคู่หู สิ่งที่เขานึกได้ยามนี้มีเพียงรอยยิ้มหวานละไมของนางปีศาจน้อยซึ่งเริ่มถูกกาลเวลากลืนหายจากความทรงจำ หากฟีเลียเป็นมนุษย์ ป่านนี้นางคงกลายเป็นวิญญาณไปเกิดใหม่หลายภพหลายชาติ แต่เพราะนางคือปีศาจจึงไม่อาจมีจิตวิญญาณดั่งมนุษย์ ดังนั้นถ้านางเสียชีวิตลงแล้ว นางก็คงสูญสลาย หายจากดินแดนของสามโลกตลอดกาล



หลังจากคุยกันเรื่องนางปีศาจน้อยในวันนั้น ธานาทอสก็ได้สั่งให้เหล่ายมทูตออกค้นหาฟีเลียอีกครั้ง ทว่าทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่มีผู้ใดตามหาร่องรอยของฟีเลียพบ เช่นเดียวกับไม่มีใครรู้ยามนี้เฟรีอาดั้นด้นออกตามหาบุตรสาวอยู่ยังส่วนใดของยมโลก เมื่อดินแดนใต้พิภพช่างกว้างใหญ่เกินกว่าจินตนาการของผู้ใดจะวาดฝันถึง วันเวลาในยมโลกเคลื่อนผ่านเฉกเช่นเดียวกับเวลาของสวรรค์และบาดาล ทั้งฮิปนอสและธานาทอสต่างมีหน้าที่ของตนเองต้องกระทำแทบไม่ว่างเว้น จวบจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อสองเทพนักรบได้มาเยือนท่าน้ำอันเป็นที่สถิตของเหล่าดวงวิญญาณเพื่อรอคอยจะข้ามฝั่งสู่เขตยมโลก

“คุณ นั่นคุณจริงๆด้วย”

มีเสียงหนึ่งตะโกนมาจากกลุ่มดวงวิญญาณซึ่งแออัดกันอยู่บริเวณท่าน้ำ ทั้งฮิปนอสและธานาทอสต่างหันมองหาที่มาของเสียง จึงได้เห็นวิญญาณของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังลอยละลิ่ว

“เจ้านี่ยังไม่ยอมไปผุดไปเกิดอีก” ธานาทอสขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ใครกัน”

“วิญญาณที่ข้าพามาส่งที่ท่าน้ำเมื่อหลายวันก่อนไง ข้าให้เหรียญทองแก่นางไป ทำไมถึงยังไม่ขึ้นเรืออีกนะ”

ฮิปนอสมองคู่หูด้วยท่าทีสนใจ ก็แต่ไหนแต่ไร เทพแห่งความตายเคยสนใจเรื่องของวิญญาณเสียทีไหน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งค่อนข้างเฉยชา เก็บทุกอย่างรู้สึกไว้โดยไม่คิดบอกผู้ใด

ทว่ายังไม่ทันที่เทพแห่งการหลับใหลจะเอ่ยปากถามความต่อ ร่างอรชรโปร่งแสงก็ร่อนถลาลงหาสองหนุ่ม และอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายยังเป็นผีมือใหม่อยู่ ทำให้เธอไม่สามารถจะหยุดตัวเองได้ทัน ผลเลยกลายเป็นเจ้าของร่างโปร่งแสงลอยมาปะทะเข้าเต็มอกของธานาทอส

“อูย... อ้าว ไม่เจ็บนี่นา” ขวัญชีวาเกือบจะร้องคราง แต่ก็เพิ่งนึกได้ตนเองไร้ความรู้สึกนานหนักหนา

“ทำไมเจ้ายังอยู่ที่ท่าเรืออีก เจ้าควรจะขึ้นเรือแจวตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วไม่ใช่หรือ” ธานาทอสดุผู้ที่ยังกอดคอเขาไว้แน่น

“ก็ไม่มีเหรียญ เขาเลยไม่ยอมให้ฉันขึ้น”

“จะไม่มีเหรียญได้ยังไง ข้าให้ไปแล้ว หรือทำหาย” ทั้งสุ้มเสียงและแววตาคมดุตวัดมองเธออย่างเคืองๆ

“ไม่ได้ทำหายเสียหน่อย แต่โดนขโมยต่างหาก” วิญญาณสาวทำหน้ามุ่ย

“เจ้าปล่อยให้ถูกขโมยได้อย่างไร” ธานาทอสยังไม่วายดุใส่

ร้อนถึงเทพบุตรอีกองค์หนึ่งซึ่งยืนฟังบทสนทาของคู่หูกับวิญญาณหญิงสาวอยู่นานจนเกิดความสงสาร

“ช่างมันเถอะธานาทอส วิญญาณแถวนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน เอ้า ข้าให้เจ้าแทนเหรียญที่หาย” ฮิปนอสเป็นฝ่ายยื่นเหรียญทองหนึ่งให้เธอแทน

“ขอบคุณค่ะ” เธอพนมมือขึ้นไหว้ จ้องดวงหน้าของเทพแห่งการหลับใหลอยู่อึดใจใหญ่จึงยิ้มออก “คุณใจดีจัง”

“พวกข้าไม่ได้ใจดีกับวิญญาณทุกดวงหรอก นั่น เครอนจอดเรือเข้าฝั่งแล้ว เจ้าควรรีบไปเสีย อย่าพลาดเรือเที่ยวนี้อีกล่ะ” ฮิปนอสพยักเพยิดไปยังท่าน้ำซึ่งมีเรือลำใหญ่สีดำสนิทกำลังจอดเทียบท่า

ขวัญชีวามองสองเทพบุตรหนุ่มด้วยสีหน้าลังเลจับใจ

“ฉันต้องขึ้นเรือลำนั้นใช่ไหม” เธอครางถาม สองแขนยอมปล่อยออกจากลำคอแกร่งที่โอบกอดไว้

“ใช่ ไปซะ” น้ำเสียงดุตวัดห้วนลงในตอนท้าย ทำเอาดวงหน้ากลมแป้นหน้าเสียลงเล็กน้อย

“ค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเบาหวิวคลายคนหัวใจสลาย จากนั้นจึงค่อยๆถอนหลังห่าง ช้อนตามองเทพบุตรตรงหน้าครั้งหนึ่ง แต่เมื่อยังเห็นแววตาดุดันตอบกลับ เลยได้แต่เดินคอตกจากไป

“แก่จะตายยังจะดุเด็กอีก” ฮิปนอสบ่นขึ้นเมื่ออากัปกิริยาของวิญญาณสาว

“เจ้านั่นไม่เด็กสักหน่อย ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะอายุสักยี่สิบปีกระมัง”

“แต่ก็ยังเด็กอยู่ดีในสายตาข้า อีกอย่างนางก็เพิ่งตายไม่กี่วัน คงเหงา หวาดกลัว ตระหนกกับดินแดนแปลกใหม่”

คำพูดของฮิปนอสอาจไม่ได้เหมือนค้อนทุบลงกลางอก แต่เมื่อฟังแล้วคิดตาม ผู้ฟังก็ชักเริ่มรู้สึกปวดเล็กๆขึ้นในหัวใจ

“ถ้าเจ้าห่วงนัก ก็ส่งนางให้ถึงตุลาการแห่งยมโลกสิ” ธานาทอสบ่นด้วยสีหน้ายังไม่คลายความบึ้งตึง

“เป็นความคิดที่ดี”

สิ้นคำ ร่างสูงกำยำของเทพแห่งการหลับใหลก็ลอยขึ้นจากพื้นดิน ร้อนถึงอีกฝ่ายหนึ่งต้องรีบลอยตามขึ้นขวาง

“จะไปไหน อย่าบอกนะเจ้าจะตามไปส่งนางจริงๆ”

“อ้าว ก็ข้ายอมรับห่วงนางจริง ถึงข้าจะเคยเจอวิญญาณนับไม่ถ้วน แต่วิญญาณที่มีจิตใจบริสุทธิ์อย่างนางหาไม่ได้ง่ายๆ ข้าเกรงนางอาจถูกพวกวิญญาณชั่วร้ายขโมยเหรียญทอง จนไม่ได้ข้ามฝั่งอีก”

ท่าทีเอาจริงของคู่หูจุดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในหัวใจอันเคยด้านชา สีหน้าของธานาทอสลดความกระด้างลงขณะกล่าว

“ไม่ต้อง ข้าจัดการเอง หน้าที่ดูแลเหล่าดวงวิญญาณก็เป็นของข้า เจ้ากลับปราสาทก่อนเถอะ” เขาบอกพลางกวาดสายตามองลงเบื้องล่าง เพียงไม่นานเทพบุตรหนุ่มก็หาเธอพบ เจ้าของร่างสูงใหญ่ภายใต้อาภรณ์สีดำสนิทดิ่งตรงจากฟ้าลงหาดวงวิญญาณที่เขาหมายตา

“เฮอะ เจ้าเทพปากแข็ง” ฮิปนอสมองการกระทำของอีกฝ่าย แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า “ห่วงเขาแต่ก็ยังทำขรึมอยู่ได้”

-----------------------------------------------------------------------------------
* มอยเร (Moirae) หรือคณะเทวีแห่งโชคชะตา มีอยู่ด้วยกันสามนางคือ ทั้งสามประกอบไปด้วย โคลโธ (Clotho) ผู้ปั่นเชือกแห่งชีวิต ลาเคซิส (Lachesis) ผู้ฟั่นเชือก กำหนดโชคชะตาชีวิต และอะโทรพอส (Atropos) ผู้ถือกรรไกรตัดเชือกชีวิต



ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มิ.ย. 2556, 09:33:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มิ.ย. 2556, 09:33:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 3571





<< บทนำ+บทที่1(1/2) โลกหลังความตาย   บทที่2/1 ตัวปัญหา >>
ริญจน์ธร 3 มิ.ย. 2556, 09:37:53 น.
แหะๆ แอบหนีเที่ยวมา เลยหายไป มาต่อแล้วนะคะ^^
เดี๋ยวกลับมาตอบคอมเม้นน้า ต้องออกไปธุระข้างนอกก่อน


คิมหันตุ์ 3 มิ.ย. 2556, 11:52:36 น.
ฮิปนอส นี่รู้ใจ คู่หูจริงๆ ยิงได้ตรงประเด็น ซะธานาทอส ขรึมไม่อยู่


ภาวิน 3 มิ.ย. 2556, 11:54:37 น.
ชอบฮิปนอสตั้งแต่อ่านตัวอย่างเล็กๆน้อยๆในเพจแล้ว


goldensun 3 มิ.ย. 2556, 18:59:10 น.
ก็แปลกว่า ทำไมขวัญชีวาถึงไว้ใจธานาทอสจัง แล้วธานาทอสเองก็ใส่ใจตอบซะด้วย ถึงไม่มาก แต่ก็คงไม่น้อยเพราะฮิปนอสยังจับได้


ริญจน์ธร 3 มิ.ย. 2556, 19:07:06 น.
ขอตอบคอมเม้นของตอนที่แล้วก่อนนะคะ
คุณ sugar ขอบคุณค่ะ ดีใจที่มีคนเข้าใจค่า ^__^

คุณ คิมหันตุ์ ขอบคุณ ฝากเรื่องนี้ไว้ติดตามอีกเรื่องนะคะ

คุณ nako เรื่องนี้จริงๆเขียนใกล้จบแล้ว เลยได้ฤกษ์มาลงในเน็ตเสียที หลังจากห่างหายไปนาน

คุณ จิรารัตน์ ขอบคุณค่า ฝากติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะคะ

คุณ lovemuay ใช่ค่ะ เป็นสาวน้อยกับเทพแห่งความตาย เลยไม่รู้ว่าใครจะแพ้ใครดี

คุณ หนาวรัก ยินดีค่ะ ฝากผลงานใหม่ด้วยนะคะ

คุณ Zephyr ก๊ากก จริงๆยังไม่รู้ว่าตกลงใครจะกินใครนะคะงานนี้

คุณ หมูอ้วน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ฝากผลงานใหม่ด้วยนะคะ

คุณ pukpuiplern แหะๆ ว่าจะอัพหลายที แต่มีย้อนกลับไปแก้ข้างบนเรื่อยๆ เลยเพิ่งได้ฤกษ์อัพค่ะ

สำหรับคอมเม้นของตอนนี้ ขออนุญาตตอบตอนหน้านะคะ > /\ <


Zephyr 3 มิ.ย. 2556, 19:47:39 น.
แหม ลุงธานาทอส ใจร้ายจังน้า
หาว่าซื่อบื้อให้ขโมยได้อีก แหมๆๆๆๆ
เค้ายังบ้องแบ้วไง
ต้องให้เฮียฮิป แกล้งซะ


lovemuay 3 มิ.ย. 2556, 19:53:24 น.
ฮืม ลูกสาวของเฟรีอาจะใช่นางเอกรึป่าวนะ?


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account