ข้ามกาล
อุบัติเหตุทำให้พระจันทร์ย้อนอดีตมาอยู่ในวังของหม่อมเจ้าใครเลยจะคิดว่าชีวิตลูกกำพร้าผู้ต่ำต้อยเช่นพระจันทร์
จะมีดาวฤกษ์อย่างดวงอาทิตย์มาโคจรรอบตัวถึงสามดวง


ดวงแรกนั้นพระจันทร์ทั้งรักและเทิดทูน ยึดเป็นที่พึ่งทางใจเสมอมา
พระอาทิตย์ดวงนี้เมตตาพระจันทร์ยิ่งนัก แต่ก็สงวนท่าทีเหลือเกิน
ใจท่านคิดเช่นไร พระจันทร์ไม่อาจรู้ได้เลย


ดวงที่สองร้อนแรงดังเพลิงกัลป์ หยิ่งทระนงหนักหนา
ทั้งยังเป็นคู่อริกันมาช้านาน ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ในวันที่หนาวเหน็บที่สุด
พระอาทิตย์วายร้ายกลับเต็มใจมาอยู่เคียงข้างพระจันทร์
คอยส่องแสงให้ความอบอุ่นโดยไม่ต้องร้องขอ


ส่วนดวงที่สามพระจันทร์รักเคารพเสมอเหมือนพี่ชาย
ความที่เขามีคู่หมายซึ่งเหมาะสมกันอยู่แล้ว
พระจันทร์จึงไม่เคยคิดเป็นอื่น แต่โชคชะตากลับเล่นตลก
ส่งกามเทพมาแผลงศรทำให้พี่ชายเผลอรักพระจันทร์หมดใจ
Tags: พีเรียต ย้อนยุค ช่วงปี 2493-2507 คุณชาย ท่านชาย นายแพทย์ พระเอกในเรื่องไม่รู้เป็นใคร แต่หนุ่มๆ แซ่บเวอร์ วัง หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ ย้อนเวลา โรแมนติก คอมเมดี้ หวานๆ ดราม่าเบาๆ ภาษาอ่านง่าย

ตอน: บทที่ 17 พี่ตะวัน

บทที่ 17 พี่ตะวัน

วันรุ่งขึ้นแม่สาวน้อยตัวแสบก็มาเล่นด้วยอย่างที่เจ้าหล่อนตะโกนบอกเอาไว้เมื่อวาน ซึ่งก็สร้างความแปลกใจให้ท่านชายทินกฤตไม่น้อยที่หัวขโมยตัวจิ๋วยังกล้าโผล่หน้ามาให้เห็น คราวนี้ไม่ได้มามือเปล่าเสียด้วย มีมะม่วงมาพวงใหญ่

ตอนที่เห็นพระจันทร์ ท่านชายทรงประทับอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง ถึงจะสนใจความแปลกของเด็กคนนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ว่างขนาดมีเวลามาเล่นด้วย

ท่านชายอยู่ในช่วงพักผ่อนก็จริงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะนั่งหายใจทิ้งทั้งวัน ทรงมีบัญชีทรัพย์สินกับงานเอกสารที่ต้องจัดการหลายอย่าง ไหนจะงานออกแบบคฤหาสน์ของนายพลท่านหนึ่ง ที่รับปากจะทำให้เสร็จก่อนเสด็จกลับอังกฤษอีกเล่า

คนที่ไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กย่องอย่างเงียบกริบเพื่อกลับเข้าไปในตำหนัก แต่ก็ช้าไปหลายช่วงก้าว เพราะมั่วแต่ย่องนั่นแหละ คนที่อยู่ข้างล่างเลยเงยหน้าขึ้นมาทันมองเห็น

“พี่ชายลงมาเร็ว มากินมะม่วงกัน”

“มะ...” ท่านชายตั้งใจจะปฏิเสธ แต่การตะโกนโหวกเหวกไม่ใช่วิสัย ก็เลยจำต้องเสด็จลงมาไล่แม่ตัวดีด้วยองค์เอง

“อย่ามาตะโกนเสียงดังแถวนี้ บอกแล้วไงว่า...”

ตรัสได้เท่านี้ก็โดนคว้าข้อมือหมับ พาไปที่ศาลาริมน้ำเสียอย่างนั้น

“นี่หัดฟังกันบ้างได้ไหม” ทรงเอ็ด แต่ก็ไม่รู้ว่าเอ็ดตัวเองหรือเอ็ดแม่หนูนี่กันแน่ หากท่านชายต้องการขัดขืนจริงๆ ย่อมทำได้อยู่แล้ว ทว่าก็ทรงยอมเพราะอดพระทัยอ่อนกับเด็กวัยนี้ไม่ได้

ท่านชายทรงเคยมีขนิษฐาตัวน้อยที่รักและเอ็นดูมากอยู่องค์หนึ่ง ทว่าก็ด่วนจากไปเสียตั้งแต่ยังไม่สิบสองชันษา เวลาเห็นเด็กผู้หญิงท่าทางแก่นซน ร่าเริงสดใสทีไรก็จะอดนึกถึงน้องหญิงไม่ได้

“พี่ชายนั่งก่อนสิ แล้วพระจันทร์จะฟัง” พระจันทร์ต่อรอง

ท่านชายยอมนั่งลงให้หมดรำคาญกันไป เสร็จแล้วจึงเปิดโอษฐ์เทศนาแม่หนูน้อยเสียเต็มที่

“ทำไมห้ามไม่รู้ฟังฮึ บอกแล้วใช่ไหมว่านี่มันเขตหวงห้าม ท่านชายมีรับสั่งไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวาย อยากถูกลงโทษนักหรือไง ท่านชายท่านดุมากนะ”

“ทรงดุจริงเหรอ” พระจันทร์หันมามองตาใสแต่ในทำนองกระหายใคร่รู้เสียมากกว่ากลัว

“ใช่ ดุ แล้วก็เข้มงวดมาก”

“ถ้าอย่างนั้นคราวหน้า พี่ชายมารอพระจันทร์ที่ตรงนี้ก็แล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องตะโกนเรียก”

“ให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันใช่เพื่อนเล่นหล่อนเสียที่ไหน”

“ก็ไม่ใช่น่ะสิคะ แก่กว่าตั้งเยอะจะเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร ก็ต้องเป็นคุณพี่อยู่แล้วจริงไหม”

“รู้ว่าเป็นคุณพี่ก็ให้เกียรติกันบ้าง” ท่านชายทรงทำหน้าตึง เพราะชักจะไม่สนุกกับการโต้เถียง

ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจะพบเด็กที่ไหนช่างต่อล้อต่อเถียง กล้าคิดกล้าทำได้เท่าแม่พระจันทร์ร้อยเล่ห์คนนี้เลย

“ขอโทษค่ะ พระจันทร์ลืมตัว พี่ชายยอมคุยด้วยก็เลยดีใจมากไปหน่อย พี่ชายอย่าถือสาเด็กอย่างพระจันทร์เลยนะ”

เด็กสาวยกมือขึ้นไหว้ แล้วมองมาด้วยสายตาปริบๆ อย่างน่าสงสาร คนที่มีจุดอ่อนเรื่องใจอ่อนกับเด็กเลยถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ก็ได้ ครั้งนี้จะยกโทษให้ แต่อย่ามาที่นี่อีกรู้ไหม ท่านชายไม่โปรดให้คนนอกเข้ามาวุ่นวาย”

“แต่พระจันทร์ไม่ได้มาวุ่นวายนะคะ พระจันทร์มาทำงาน”

“ทำอะไร”

“เยอะแยะค่ะ ช่วยพี่เติมเอาเครื่องเสวยมาส่งวันละสามมื้อ แล้วก็มาช่วยตาบุญห่อผลไม้ด้วย แกแก่แล้วปีนขึ้นไปห่อเองไม่ค่อยไหว พระจันทร์เสียดายพวกมะม่วงน้ำดอกไม้กับเขียวเสวย ถ้าไม่ห่อเดี๋ยวจะโดนแมลงแทะแล้วมีกระรอกมาเจาะ”

พี่เติมที่ว่าคือนายเติม คนรับใช้ที่ท่านหญิงแสงแขประทานมาให้ดูแลจัดการเรื่องทั่วไป วันหนึ่งนายเติมต้องเดินไปกลับโรงครัวกับตำหนักนี้หลายรอบเพราะต้องขนของคนเดียว พระจันทร์เห็นแบบนั้นก็เลยช่วยยกมาให้ ที่จริงแล้วสาวๆ คนอื่นก็อยากช่วยแต่เกรงจะเป็นการขัดรับสั่งท่านชายจึงไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามา

ที่แท้แม่สาวน้อยช่างจ้อคนนี้ก็เทียวเข้าเทียวออกที่นี่วันละหลายรอบ เพียงแต่ท่านชายไม่ทรงสังเกตเห็นเท่านั้น

“เอาเถอะ ถ้ามาทำงานก็แล้วไป แต่จะอธิบายยังไง เรื่องที่ไปซนอยู่บนต้นชมพู่ ฉันจำได้นะว่าตอนนั้นหล่อนมือเปล่า ไม่ได้ทำท่าว่าจะขึ้นไปห่อผลไม้เลย”

“พระจันทร์ขึ้นไปชิมค่ะ ว่าชมพู่ต้นนี้ควรค่าที่จะลงแรงไหม ถ้ามันหวานอร่อยก็คงจะเอากระดาษไปห่อช่อมันไว้ แต่ถ้าไม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ที่นี่ตั้งสามสี่ไร่ ผลหมากรากไม้ออกจะเยอะแยะ จัดการคนเดียวไม่ไหวหรอก”

เด็กสาวอธิบายด้วยเหตุด้วยผลเสียจนคนฟังต้องยอม

“ข้ออ้างเยอะจริงนะเรา เอาเถอะ ถ้ามาเงียบๆ ไม่เอะอะก็ตามใจ แต่ฉันไม่ว่างมาเล่นกับเธอหรอกนะ”

“พระจันทร์ไม่ได้ขอให้พี่ชายเล่นด้วยนี่คะ แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ พระจันทร์ไม่เคยไปเมืองนอก ไม่ค่อยได้คุยกับคนที่เรียนสูงๆ เลยอยากจะฟังเรื่องราวเป็นวิทยาทาน พี่ชายเมตตาเล่าเรื่องตอนอยู่ที่อังกฤษให้พระจันทร์ฟังสักเรื่องสองเรื่องได้ไหมคะ” พระจันทร์ยิ้มประจบ

ความเอ็นดูรื้นขึ้นมาในอกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว คำพูดนี้ทำให้นึกถึงน้องหญิงตัวน้อยขึ้นมาอีกคราว หญิงเล็กเคยบอกไว้ก่อนท่านจะเสด็จไปอังกฤษว่าอย่าลืมกลับมาเล่าเรื่องที่นั่นให้ฟัง ท่านชายไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับน้องน้อย ทว่าน้องหญิงก็มาด่วนจากไปก่อนจะทันได้เล่า

“ก็ได้ แต่เฉพาะเวลาที่ว่างเท่านั้นนะ ฉันมีงานที่ต้องทำเยอะ”

“ขอบคุณพี่ชายมากค่ะ” พระจันทร์ยกมือไหว้ “พระจันทร์ไม่รบกวนมากหรอก รู้นะว่าพี่ชายไม่ใช่แค่มหาดเล็กธรรมดา แต่ยังเป็นเลขานุการของท่านชายด้วยใช่ไหมล่ะ”

ท่านชายทรงยิ้มขันที่ได้เลื่อนระดับขึ้นมาเป็นเลขานุการ ความที่นึกสนุกอยากแกล้งให้แม่จอมซนตกใจจนตาค้างตอนรู้ฐานะที่แท้จริง ก็เลยแกล้งหลอกเด็กอย่างนี้ต่อไปไม่เปิดเผยตัว

“อยากฟังเรื่องอะไรล่ะ จะเล่าให้ฟังสักเรื่อง”

“พระจันทร์อยากรู้ว่าพี่ชายอยู่ที่เมืองไหน ลอนดอน ลิเวอร์พูล อัมสเตอร์ดัม อ๊ะ! ลืมไปเลยว่าพี่ชายตามท่านชายไปเรียน ถ้าให้เดาไม่อ๊อกซ์ฟอร์ดก็เคมบริดจ์ใช่ไหมคะ”

“รู้จักด้วยหรือเรา” ตรัสถามด้วยความแปลกใจ

“นิดหน่อยค่ะ พระจันทร์เคยอ่านจากหนังสือ จำได้แต่ชื่อไม่รู้รายละเอียดหรอกค่ะ”

ตอนที่ยังอยู่ในโลกอนาคตพระจันทร์มีความสนใจเรื่องเกี่ยวกับต่างประเทศและสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ เพราะคุณหมอที่เคยทำการรักษาเมตตาให้หนังสือความรู้มา ในนั้นมีภาพประกอบสวยงามพร้อมคำอธิบายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทีแรกพระจันทร์ก็อ่านแก้เบื่อเท่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยกลายเป็นความชอบและวาดฝันว่าสักวันหนึ่งจะไปเหยียบดินแดนทางแถบยุโรปสักครั้ง

“แล้วพระจันทร์เดาถูกบ้างไหมคะ”

“เล่นหว่านแหเสียขนาดนั้น จะไม่ถูกได้อย่างไร ฉันเรียนที่เคมบริดจ์ ตอนเรียนก็อยู่หอพักของมหาวิทยาลัย แต่พอปิดเทอมก็มาอยู่แฟลตที่ลอนดอน ไม่ก็เดินทางท่องเที่ยวแถวยุโรป”

“น่าอิจฉาจัง มิน่าเขาถึงบอกว่าแข่งเรือแข่งแพแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้”

พระจันทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เก็บความริษยาเอาไว้ไม่มิด

“อยากไปเมืองนอกรึ”

“ค่ะอยากไป พระจันทร์อยากไปสัมผัสหิมะด้วยมือคู่นี้ แต่...” เด็กสาวถอนใจออกมาเฮือกหนึ่งกับสถานะในปัจจุบันของตัวเอง

“แต่อะไร”

“แต่คงยากค่ะ ลูกไพร่อย่างพระจันทร์จะไปได้ไกลแค่ไหนกันเชียว”

ถ้าเป็นยุคที่เธอจากมาขอแค่ตั้งใจเรียน มีความเพียรพยายามก็สามารถสอบชิงทุนไปต่างประเทศ หรือเก็บเงินไปเองได้เพราะต้นทุนการเดินทางไม่แพงอย่างที่คิด แต่สำหรับในสมัยนี้อย่าว่าแต่ไปต่างประเทศเลย จะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือเปล่าก็ไม่รู้ หนำซ้ำอาชีพของลูกผู้หญิงในยุคนี้ก็มีจำกัดเหลือเกิน เลยมองแทบไม่เห็นหนทางจะหาเงินมากๆ จนสามารถท่องเที่ยวในแถบยุโรปได้

“อะไรกัน ยังไม่ทันพยายามก็ถอดใจแล้ว ไม่แน่จริงนี่เรา” ท่านชายทรงแกล้งปรามาส

“พระจันทร์พยายามอยู่แล้วค่ะ แต่ก็มองความจริงด้วย ที่จริงพระจันทร์คิดเอาไว้แล้วล่ะ ว่าจะทำกิจการอะไรสักอย่างแล้วเก็บเงินไปเที่ยวให้ได้ ไม่ก็จะหาสามีรวยๆ ที่พาพระจันทร์เที่ยวได้”

“แก่แดดแก่ลมนักนะเรา เป็นผู้หญิงยิงเรือช่างกล้าพูดออกมาได้”

พระจันทร์หัวเราะร่า แล้วแย้งกลับมาว่าพี่ชายหัวโบราณลิดรอนสิทธิ์สตรี ซึ่งท่านชายก็ย้อนกลับมาว่าต่อให้มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจก็ควรประพฤติตนให้เหมาะสม ปฏิบัติตัวเป็นกุลสตรี ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้หญิงดี

ปกติเด็กสาววางตัวเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่เมื่ออยู่กับพี่ชายรูปหล่อคนนี้พระจันทร์กลับนึกสนุกอยากโต้คารมกับเขาดู เลยแผลงฤทธิ์ทำพยศไม่ยอมเชื่อที่เขาสอน

ทั้งสองเถียงกันไปคุยกันไปอย่างสนุก พระจันทร์ไม่เพียงแต่เป็นนกน้อยช่างจ้อแต่ยังเป็นนกรู้ด้วย ถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นแค่ลูกข้ารับใช้ในบ้าน ท่านชายคงจะคิดไปแล้วว่าเธอเป็นลูกผู้ดีมีเงินที่ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดี พระจันทร์รู้กว้างถึงจะไม่ลึกซึ้งแต่ก็น่าทึ่งทีเดียว อย่าว่าแต่เด็กวัยเดียวกันเลยผู้ใหญ่บางคนยังพูดคุยได้ไม่มีเสน่ห์เท่านี้ เพราะความฉลาดเฉลียวเกินวัยนี่กระมังทำให้วูบหนึ่งท่านชายถึงได้รู้สึกราวกับกำลังสนทนากับหญิงสาวคนหนึ่งมากกว่าเด็กตัวจ้อย

“พูดเยอะชักคอแห้ง พักกินน้ำกับผลไม้กันเถอะค่ะ” พระจันทร์เดินไปตักน้ำจากหม้อดินที่ตั้งเอาไว้ตรงศาลามาให้ชายหนุ่ม

“น้ำสะอาดหรือเปล่า ทิ้งไว้นานแค่ไหนก็ไม่รู้” ท่านชายมองอย่างระแวง

“สะอาดค่ะ พระจันทร์เป็นคนเอามาเติมเองเมื่อเช้า น้ำฝนกรองแล้ว รับรองหวานเย็นชื่นใจ”

ท่านชายทรงลองดื่มดูแล้วก็พบว่าน้ำนี้รสชาติดีดังที่บอก ดื่มเสร็จก็ยื่นกระบวยคืนให้เด็กสาว พระจันทร์รับมา เธอไม่เพียงแต่ใช้กระบวยตักน้ำดื่มแต่ยังใช้น้ำสะอาดราดลงบนมะม่วงด้วย

“ชิมหน่อยนะคะพี่ชาย มะม่วงต้นนี้ออกผลรสชาติดีทุกปีเลย”

ท่านชายทรงรับมาอย่างไม่รังเกียจ แต่ก็ยังไม่เสวยเพราะรอให้พระจันทร์ส่งมีดมาให้ปอก ทว่าคนที่เหมือนจะเตรียมพร้อมไปทุกอย่างกลับไม่มีมีดติดตัวเสียอย่างนั้น

“พระจันทร์ลืมเอามา พี่ชายก็กัดทั้งเปลือกเลยแล้วกันนะ ล้างฝุ่นออกให้แล้วไม่เป็นไรหรอก”

“ใครเขากินกันแบบนั้น” ท่านชายเอ็ด

“ก็พระจันทร์ไงคะ กินได้สบายมาก”

“นี่หล่อนเป็นกระรอกหรือไง เดี๋ยวฟันก็เสียหมด”

“ไม่เสีย พระจันทร์แปรงฟันอย่างดี”

ว่าแล้วก็ยิ้มกว้างอวดฟันขาว ทำเอาอยากจะเอื้อมหัตถ์ไปหยิกสองข้างแก้มให้หายมันเขี้ยวเสียเหลือเกิน

“ไม่ต้องมาเถียงเลยแม่เด็กดื้อ รออยู่ตรงนี้ ฉันจะไปเอามีดมา”

ท่านชายทรงก้าวฉับๆ หายเข้าตำหนักไปอึดใจ สักพักก็กลับมาพร้อมมีดและจาน ทรงวางของทั้งหมดลงแล้วเริ่มลงมือปอกมะม่วงอย่างแข็งขัน

มะม่วงฝีมือการปอกของท่านชายจัดว่าใช้ได้ แต่กลับไม่ได้เรื่องเอาเลยในสายตาของพระจันทร์ที่จัดเจนเรื่องงานครัวกว่า เห็นท่าทีเก้ๆ กังๆ นั่นแล้วพระจันทร์ก็อดแบมือขอมีดมาปอกเองเสียไม่ได้ แล้วก็ทำได้คล่องแคล่วจนคนมองนึกชมในใจ

ตอนบ่ายนั้นท่านชายนั่งเสวยมะม่วงและสนทนากับพระจันทร์อย่างออกรส ทรงลืมไปเสียสนิทว่าเจตนาแรกคืออกมาขับไล่แม่จอมกวนไม่ใช่มานั่งเล่นด้วย



ช่วงที่ท่านชายทินกรเสด็จกลับมายังวังชื่นชีวีเป็นช่วงที่พระจันทร์เพิ่งจะปิดภาคเรียนได้ไม่นาน ตอนนี้เธอสอบเข้าโรงเรียนสตรีชื่อดังได้ เปิดเทอมเมื่อไรก็จะได้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายกับเขาเสียที ส่วนคุณหญิงอังศุมาลีนั้นหม่อมเนียรมีความประสงค์จะให้เรียนในโรงเรียนประจำที่เน้นสอนเรื่องภาษา ถึงข้อสอบจะไม่ยากมีการคัดกรองนักเรียนก่อนรับเข้า การสอบด้านภาษาไม่เกินความสามารถของคุณหญิง แต่ว่ายากเกินสติปัญญาของวายุตา

วายุตาเกลียดวิชาภาษาทุกประเภท ฝืนเรียนจนสอบผ่านมาได้ก็เต็มกลืนแล้ว ให้ไปอยู่ในโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษทุกอย่างคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ยอมตามไปเรียนกับคุณหญิง เลยเกิดเป็นเรื่องทะเลาะและงอนกันขึ้นมาเป็นจริงเป็นจัง

พระจันทร์พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะกลัวจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทว่าก็หนีไม่พ้นเพราะคุณนายกิมสั่วมารดาของวายุตามาขอร้องให้พระจันทร์ช่วยสอนหนังสือให้ลูกสาว นางกิมสั่วมาขอร้องผ่านทางท่านหญิงและนางสมใจพระจันทร์เลยเลี่ยงไม่ได้ แล้วผลสอบก็ออกมาว่าวายุตาสอบติด

คราวนี้คุณหญิงเลยเคืองพระจันทร์กับวายุตาจริงๆ ตั้งแต่รู้ว่าสอบได้ก็ไม่ยอมพูดด้วยเลย แต่วายุตาก็ตามง้อจนคืนดีกันจนได้ ตอนนี้ทั้งคู่พากันไปเที่ยวทะเลที่หัวหิน หม่อมเนียรไม่อยากให้ไปนักเพราะไปกับครอบครัวของวายุตาที่เธอไม่ชอบ แต่ก็ต้องจำใจปล่อยไปเพราะเห็นแก่ที่เคยสัญญาไว้ว่าถ้าสอบได้จะให้ไปเที่ยวทะเล

งานนี้ทุกคนมีความสุขหมดยกเว้นพระจันทร์ที่ถูกคุณหญิงอังศุมาลียื่นคำขาดว่าห้ามไปด้วย คุณหญิงเธอว่าถ้าพระจันทร์ไม่คิดจะแย่งวายุตาไปจริงๆ ก็ต้องอยู่นี่ ปล่อยให้เธอเที่ยวกับเพื่อนรักสองคน พระจันทร์ที่อยากไปด้วยสุดจิตสุดใจเลยต้องอดทน กลั้นใจปฏิเสธคำชวนของวายุตาเสียหลายครั้งหลายครา จนทางนั้นออกจะเคืองเธอไม่น้อย แต่ก็ต้องปล่อยให้โกรธไป เพราะถ้าเทียบกันแล้วพระจันทร์ไม่ขอเสี่ยงทำตัวเป็นปรปักษ์กับคุณหญิงดีกว่า

ตั้งแต่ปิดภาคเรียนมาพระจันทร์ก็ต้องเผชิญกับโชคร้ายอยู่เนืองๆ ทั้งบาดเจ็บ ของหาย ไม่สบาย ตลอดจนถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง วังนี้มีเด็กรุ่นเดียวกันเยอะแยะแต่พอสิบสามสิบสี่ก็แยกย้ายหายไปหมด เพื่อนที่พอจะเหลืออยู่อย่างปิง ก็ไปบวชเณรเสียอีก

พระจันทร์อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็เลยทำงานฝีมือแล้วเอาไปฝากขาย แต่กลับขายไม่ออกเสียอย่างนั้น นานเข้าทุนรอนที่มีก็ชักร่อยหรอก็เลยต้องหยุดทำ พอจะมาช่วยงานครัวก็ถูกพวกสาวๆ ในครัวแย่งไปหมด เพราะแต่ละคนต่างก็อยากจะทำอาหารให้ท่านชายได้เสวย

ท่านชายรูปงามทำให้ใครต่อใครหลงเพ้อไปหมดว่าอาจจะได้เป็นหม่อม ไม่เว้นแม้แต่เปรี้ยวที่เคยเกียจคร้านก็ขยันผิดหูผิดตา รอบตัวพระจันทร์มีแต่เรื่องของท่านชาย ท่านชายและท่านชายให้ได้ยินอยู่ทุกวี่วัน แต่พระจันทร์ก็ไม่ได้มีโอกาสได้พบท่าน

ความที่อยากรู้เต็มทีว่าท่านชายจะหน้าตาอย่างไรพระจันทร์ก็เลยทำเป็นไปขอช่วยงานคนสวน ปกติพระจันทร์เบื่อๆ ก็จะมาของานทำแลกกับผลไม้อยู่แล้ว ตาบุญแกจึงไม่สงสัยอะไร ดีเสียอีกที่จะได้มีคนช่วยแบ่งเบาภาระ

ทว่าช่วยงานอยู่หลายวันก็ยังไม่เคยเจอกับท่านชายเลยสักครั้ง ในขณะที่กำลังคิดว่าตัวเองช่างโชคร้าย พระจันทร์ก็ได้พบกับชายหนุ่มร่างสูงสง่า หน้าตาหล่อเหลา วินาทีแรกที่เขาเงยหน้าขึ้นมามองแล้วได้สบตากัน เด็กสาวถึงกับตะลึงค้างไปเลยเพราะเพิ่งได้เข้าใจถึงคำว่าเทพบุตรเดินดินก็วันนี้

ชายหนุ่มมีผิวขาวเนียนผุดผ่องราวกับมีรัศมีจับ เครื่องหน้าก็สวยชวนมอง ถ้าไม่มีจมูกโด่งๆ กับนัยน์ตาคมมาช่วยคานเอาไว้ เห็นทีหญิงสาวทั้งหลายจะต้องทอดถอนใจด้วยความริษยา

พี่ชายคนนี้ทำให้พระจันทร์ลืมเรื่องมาแอบชมโฉมท่านชายไปเสียสนิท กลายเป็นว่าหายใจเข้าออกเป็นพี่ตะวันไปเสียแล้ว กลับมาถึงบ้านก็ต้องมานั่งคิดทุกวันว่าพรุ่งนี้จะหาเรื่องอะไรไปชวนคุยดี เด็กสาวยอมรับว่าชอบเขามากจริงๆ แต่จะเป็นเพราะเห่อตามประสาวัยรุ่นที่มักชอบคนหน้าตาดี หรือเพราะมันเป็นรักแรกของสาวน้อยพระจันทร์ไม่เคยเสียเวลาคิด ไม่ว่าจะอายุเท่าไรหรืออยู่ในร่างไหน พระจันทร์ก็ยังคงเป็นพระจันทร์ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เช่นเดิม

“มีเรื่องดีหรือหนูจันทร์ อมยิ้มไม่หุบเชียว” พุดจีบทัก

“วันนี้พระจันทร์ไปเจอพี่ตะวันมาค่ะ เลขานุการของท่านชายที่หล่อๆ พี่พุดจีบเคยเห็นไหม” พระจันทร์เล่าอย่างไม่ปิดบัง

พุดจีบเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ไม่พูดมาก นิสัยหลายอย่างจะคล้ายปียนุช ถึงจะไม่จู้จี้ขี้บ่นเป็นแม่แก่เท่าแต่อยู่ด้วยทีไรก็ทำให้สบายใจใกล้เคียงกัน เธอเลยกลายเป็นคนที่พระจันทร์ให้ความสนิทสนมและไว้ใจมากที่สุดในโลกอดีตแห่งนี้

“เคยเห็นแวบหนึ่ง แต่พี่จำหน้าคนไม่เก่ง ตอนนี้ชักจะลืมๆ ไปเสียแล้ว”

พระจันทร์ฟังแล้วก็นึกแปลกใจว่าเหตุใดพี่พุดจีบจึงลืมเลือนคนที่ดูสะดุดตาขนาดนี้ได้ลง แต่ก็ไม่ซักต่อเพราะพุดจีบถามสวนมาว่าจะนอนหรือยัง

“ปิดไฟเลยก็ได้ค่ะ”

ตอนนี้พระจันทร์ย้ายห้องนอนจากห้องของนางสมใจมาอยู่กับพุดจีบเพราะว่าว่านย้ายออกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน หญิงสาวตกลงปลงใจแต่งงานกับพ่อค้าผักคนหนึ่ง ตอนนี้เลยอาศัยอยู่ที่บ้านของสามี

พระจันทร์นอนคิดเรื่อยเปื่อยไปว่าถึงระยะนี้จะโชคร้าย เธอก็ยังโชคดีที่ได้รู้จักกับพี่ตะวัน คิดเช่นนั้นก็ข่มตาหลับได้อย่างสบายใจ โดยไม่รู้เลยว่าเคราะห์ร้ายต่างๆ นานาที่ได้เผชิญมาในระยะนี้ เทียบกันไม่ได้กับเหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ ตั้งแต่ท่านชายของดิฉันโผล่มา หลายคนเริ่มสับสนว่าใครกันแน่พระเอก มีคนเชียร์ชายศุบ้าง ท่านชายทินบ้าง ส่วนรพีหลายคนหมายมั่นปั้นมือว่าพระรองแน่ๆ โน้มพูดได้แต่ว่า “ฟิกตัวไว้แล้วแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ โฮะๆๆ” หัวเราะอย่างชั่วร้าย
สังเกตดีๆ โน้มรักใครมากคนนั้นมักจะโดนจัดหนัก ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งพระเอก พระรอง หรือตัวประกอบก็ตาม ดังนั้นวัดไม่ได้นะจ๊ะ ที่เห็นเด่นๆ อาจจะไม่ใช่พระเอกอย่างที่คิด ที่เห็นแสนดีอาจเป็นตัวร้ายก็ได้ (เอ๊ะยังไง! สปอยให้สับสนมากขึ้นเรื่อยๆ)
ที่สำคัญที่สุดพระเอกที่วางตัวไว้อาจจะโดนปลดเพราะคุณแม่ (คนเขียน) ไม่ปลื้มแบบกะทันหันได้เสมอ เอาเป็นว่าตอนที่ 40 เมื่อไร อาจจะเปิดโหวตให้ลงคะแนนขอความเมตตาให้หนุ่มๆ แล้วกันนะคะ จะลดน้ำหนักการลงแส้ให้ แต่คนนั้นจะได้เป็นพระเอกไหมคิดอีกที ใครฮอตเค้าอาจจะหวั่นไหว 55555

เกร็ดความรู้ประจำตอน
ว่าด้วยเรื่องชื่อของตัวละครในเรื่อง ทุกคนคงสังเกตนะคะว่าคำนำบอกว่ามีพระอาทิตย์มาโคจรรอบตัวพระจันทร์ 3 ดวง ซึ่งชื่อตัวละครในเรื่องนี้ล้วนแปลว่าพระอาทิตย์ค่ะ
นอกจากตัวละครหลักสามตัวคือ ท่านชายทินกฤต คุณชายอัศุธรและรพีภัคแล้ว ยังมีอีกหลายชื่อที่มีความหมายว่าพระอาทิตย์ ได้แก่
- ท่านชายทินกร
- คุณหญิงอังศุมาลี
- คุณชายภาสภากร
- นายตะวัน
- นามสกุลของเจ้าวังนี้คือ “สุรภาส” ก็แปลว่าดวงอาทิตย์ค่ะ สุร = ดวงอาทิตย์ + ภาส = แสง รวมกันแปลว่า ดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง
ส่วนท่านหญิงแสงแขนั้น ชื่อแปลว่าแสงจันทร์ค่ะ สาเหตุที่ไม่พ้องกับคนอื่นเพราะว่าแต่เดิมโน้มใช้ชื่อตัวละครว่า “พันแสง” ซึ่งมีความหมายว่าพระอาทิตย์ แต่ว่าหม่อมเจ้าพันแสงมีตัวตนอยู่จริงๆ ค่ะ โน้มเลยหลบมาใช้ “แสงแข” แทน
ส่วนอันนี้เป็นชื่อที่มีความหมายว่าพระอาทิตย์ค่ะ รวบรวมเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ก็เลยเอามาแบ่งปัน ^O^
ศูร สุร สุรีย์ สุริยะ สุริยา สุริยง สุริยน สุริยัน สุริเยศ สุริโย สุริเยนทร์ สูรย สูร สูรยาทิตย์ สุริยมณฑล สุริยเทพ รวิ รวี รพิ รพี รำไพ รวีวร ทินกร ทินสิริ ทินกฤต ทิวากร ทิพากร อุษณกร อุษณรูจี อุษณรัศมี อสรา อุสรา อังศุธร อังศุมาลี อักกะ อักก์ ภากร ภาณุ ภาณุมาศ ภาณุวัฒน์ ภาวิลาศ ภาสกร หะรี มะตาหะรี วิภาวัส วิภากร อาภากร รังสิมา รังสิมันตุ์ ตะวัน ตาวัน อาทิตย กลินท์ ไถง พันแสง สหัสรังสี ศตรัศมี จาตุรนต์รัศมี ตรีโลเกศ นภเกตน์ นิพนาถ นีธรา ทยุมณี ทิพามณี โค จิตราจิส วิวัสวาน ดรณิ ดบัน ตโมนุท วัตรภู สาวิตร



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มิ.ย. 2556, 00:01:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2556, 00:44:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2168





<< บทที่ 16 โตเป็นสาว   บทที่ 18 ชาติกำเนิด >>
คิมหันตุ์ 19 มิ.ย. 2556, 00:25:22 น.
แหม่ะ ทิ้งท้ายว่าเรื่องร้ายๆ ในอนาคตจะ โหดร้ายมากกว่าเดิม
ลุ้นให้หนูคูโบต้า สู้ๆละกันนะคะ ^^


konhin 19 มิ.ย. 2556, 01:22:39 น.
แหมม รักแรก แรกรัก แต่อาจจะไม่ใช่พระเอก อืมมม ไม่เอา เค้ายังอยากได้พระเอกคนเดิมมมมม กรี๊ดๆๆ


OhLaLa 19 มิ.ย. 2556, 08:01:55 น.
คราวก่อนพระจันทร์เจอหวาย เหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ว่าเทียบไม่ได้กับที่เคยเจอมาคืออะไร กลัวแทนพระจันทร์เลยค่ะ ท่าทางคุณโน้มจะรักรีดเดอร์มากเลยใช่มั้ยคะ (รีดเดอร์แอบโดนจัดหนัก) 555 ให้อ่านไปด้วยความคลุมเครือว่าคนไหนเป็นพระเอกกันแน่ แถมจะมีให้โหวตด้วย แต่เค้ายังโหวตให้ท่านชายค่ะ แต่ก็ยังรักชายศุกับรพีนะคะ


ปอกะเจา 19 มิ.ย. 2556, 08:30:40 น.
ตอนแรกนึกว่ามีแค่ชื่อที่แปลว่าพระอาทิตย์ กลายเป็นว่านามสกุลก็เป็นพระอาทิตย์เหมือนกัน ครอบครัวพระอาทิตย์จริงๆ พระจันทร์หนึ่งเดียวท่ามกลางพระอาทิตย์เลยต้องถึก อึด ทน เพราะพระอาทิตย์มีความร้อนแรงสินะคะ // เอาใจช่วยหนูพระจันทร์นะจ๊ะ ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปให้ได้


wii 19 มิ.ย. 2556, 09:40:15 น.
อ้าวววววว..... ซวยอีกเเล้วหรือนี่พระจันทร์ น่าสงสารจังเคราะซํ้ากรรมซัดซะจริงๆ ใครจะมาช่วยพระจันทร์ล่ะที่เนี้ยยยย


goldensun 19 มิ.ย. 2556, 20:09:41 น.
พระจันทร์ผูกมิตรได้อีกคนแล้ว ใครเป็นเจ้าของจดหมายอดีตที่พระจันทร์ได้รับนะ ท่านชายหรือคุณชาย
คุณโน้มท่าจะรักพระจันทร์มาก จะหาอุปสรรคมาให้พระจันทร์อีกแล้ว เพิ่งรุ่นๆเอง
สาเหตุจะจากท่านชายรึเปล่า


Zephyr 19 มิ.ย. 2556, 23:21:46 น.
พระจันทร์ เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่านั่นน่ะ ท่านชายนะ ไม่เฉลียวใจซักกะติ๊ดเลยเรอะ
ยายคุณหญิงนี่ ชักจะ เยอะ ขึ้นทุกวัน เฮ้อ ปล่อยนางเถอะ
จะจัดหนักเหรอจ้ะ จากอะไรและใครละ
ช่วงนี้ชายศุ ไปไหนซะละ หายไปเลย คริคริ


ลิลลี่ 20 มิ.ย. 2556, 19:24:27 น.
นี่มันมาลัยสามชายรึเปล่าน้าาาา 55555555ผู้ญหนึ่งชายสาม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account