รอยรักยมทูต
เขาคือเทพแห่งความตายแสนเย็นชา
ส่วนเธอคือวิญญาณดวงน้อยไร้กายา
แต่โชคชะตากลับดลสองดวงใจให้พบกัน
ท่ามกลางอนธการปาฏิหาริย์แห่งรักนิรันดร์จะเริ่มต้นขึ้น

Tags: รอยนิรันดร์ นิรันดร์แห่งรัก ดุจดั่งดวงใจ หทัยแห่งสุริยัน ตราบนิรันดร์คือเธอ ธานาทอส เฮเดส พริมา ขวัญชีวา

ตอน: บทที่ 4/2 อดีตที่เคยลืมเลือน

ขออภัยที่วันจันทร์หายหน้าหายตาไปค่ะ มัวแต่ปิดต้นฉบับเรื่องนี้ส่งบอกอ ก็เลยวุ่นจนไม่ได้เข้ามาส่งนิยายในนี้ค่ะ
ส่วนความคืบหน้าของนิยายเรื่องนี้ เดี๋ยวต้องรอผลจากทางสนพ.ก่อนนะคะ แล้วจะมาแจ้งให้ทราบค่า > _ <

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ติ๊ด ติ๊ด สัญญาณบางอย่างดังแทรกผ่านม่านเสียงจ้อกแจ้กของละครโทรทัศน์เข้าหู ขวัญชีวาเบนสายตาเหม่อลอยของตนไปยังห้องข้างๆ ต้องใช้เวลาเรียบเรียงความคิดอยู่อึดใจหนึ่ง จึงรับรู้ถึงที่มาของเสียงว่าดังจากเตาไมโครเวฟซึ่งถูกตั้งเวลา หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟา เปิดประตูเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสีขาว

พอเริ่มมีร่างกายดั่งมนุษย์ ขวัญชีวาก็รับรู้ถึงความรู้สึกหลายอย่างที่เคยขาดหาย อย่างตอนนี้ท้องของเธอก็กำลังส่งเสียงร้องครวญคราง จนตัวเองต้องลุกขึ้นต้มน้ำร้อนจากเตาไมโครเวฟเพื่อจะลวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรองท้อง

หญิงสาวกดปุ่มเปิดฝาเตาออก เห็นชามกระเบื้องใบไม่ใหญ่นักวางเด่นอยู่ภายใน แต่ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนขอบชาม ความร้อนจัดก็ส่งผ่านทำเอาคนเพิ่งจะกลับมามีชีวิตสะดุ้งเฮือกทันที

“อุ๊ย” หญิงสาวอุทานเสียงแผ่ว รีบดึงมือตนเองขึ้นมอง

จริงสินะ เธอในตอนนี้มีร่างไม่ต่างจากมนุษย์ สมควรจะระมัดระวังตัวมากขึ้น ขวัญชีวาเตือนตนเองในใจขณะซึมซับเจ้าความรู้สึกแปลกใหม่ที่ห่างหายไปนาน

วูบหนึ่งเธอก็รับรู้ถึงเงามืดทางด้านหลัง ชั่วขณะที่หันมองจึงเห็นแววตาคมกล้าสีนิลคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเธออยู่

“มือเจ้าโดนอะไร” น้ำเสียงดุค่อนข้างห้วนเอ่ยปากถาม ถือวิสาสะคว้ามือบางขึ้นพิจารณา “เจ้ากลับมามีร่างกายเหมือนมนุษย์แล้ว จะทำอะไรควรรู้จักระมัดระวังตัวเสียบ้าง” หางเสียงของผู้พูดแสดงออกชัดถึงความไม่พอใจ

“ธานาทอส...” ขวัญชีวาคราง สีหน้าแสดงความประหลาดใจชัดเจนยามเห็นเทพแห่งความตายปรากฏตัวอยู่ข้างกาย

“ใช่ ทำไม เป็นข้าแทนฮิปนอสไม่ได้เหรอ”

“เปล่าค่ะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” หญิงสาวรีบแก้ตัว ดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุม

ความร้อนผ่าวจากฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ห่อหุ้มมือบางเป็นสิ่งไม่คุ้นชินนักสำหรับขวัญชีวา เธอจึงเขยิบกายออกห่างจากเขาเล็กน้อย พยายามสนใจกับชามกระเบื้องตรงหน้าแทน ทว่าไอร้อนจากเรือนกายแกร่งกำยำก็ยังเขยิบซ้อนอยู่ทางด้านหลัง แถมใกล้ชิดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ข้าทำเอง ท่าทางเจ้าดูซุ่มซ่าม เดี๋ยวลวกมืออีกกันพอดี” ธานาทอสบอกขณะยื่นฝ่ามือประคองชามกระเบื้องออกจากเตา

ยามนี้หญิงสาวตรงหน้ามีร่างกายดั่งมนุษย์ ดังนั้นพอยืนใกล้ๆ รับรู้อุ่นไอของกันและกัน ธานาทอสจึงเพิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายตัวเล็กขนาดไหน เธอสูงเพียงแค่หัวไหล่ของเขาเท่านั้น

“มันไม่ร้อนเหรอคะ” คนตัวเล็กกว่าถามด้วยความแปลกใจ

“ความร้อนแค่นี้ไม่ระคายมือข้าหรอกน่า เอาละ จะวางตรงไหน”

ขวัญชีวาชี้ไปยังเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ในทันทีที่อีกฝ่ายวางชามกระเบื้องบรรจุน้ำร้อนค่อนชามลง สายตาคมก็ตวัดมองซองพลาสติกบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แกะวางทิ้งอยู่

“เจ้าชอบกินของแบบนี้ตอนมีชีวิตอยู่รึ บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าตายเร็วก็เป็นได้”

คำพูดชนิดไม่ถนอมน้ำใจคนฟัง ทำเอาใบหน้ากลมมุ่ยลงด้วยความขัดใจ

“ก็ทำกับข้าวไม่เป็นนี่นา ปรกติแม่เป็นคนทำ” ขวัญชีวาตอบด้วยน้ำเสียงงอนๆ เบี่ยงตัวมายืนหน้าชามน้ำร้อน แกะบะหมี่ก้อนโตทิ้งลงในชาม ก่อนจะตามด้วยซองเครื่องปรุงที่หญิงสาวพยายามจะใช้มือฉีก

“ความจริงเจ้าตายแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินหรอก” เสียงท้วงติงของเทพแห่งความตายสะดุดหูขวัญชีวา

“เอ๊ะ แต่ท้องฉันร้องนี่นา”

“มันเป็นแค่ความเคยชินต่างหาก ยามนี้ร่างกายเจ้าไม่ใช่มนุษย์ ต่อให้ไม่กินอะไรเลยเจ้าก็อยู่ได้ครบเจ็ดวัน” คำตอบของธานาทอส ส่งผลให้หญิงสาวเกิดอาการลังเล จนเขาเป็นฝ่ายอาสา “ข้าทำให้ดีกว่า ท่าทางเจ้าแรงน้อยเหลือเกิน” เทพบุตรเอ่ยขึ้นหลังจากยืนมองเธอพยายามฉีกซองเล็กๆในมืออยู่นาน มือหนึ่งเตรียมเอื้อมคว้าของจากมือบาง

“ไม่ต้อง” ขวัญชีวาปฏิเสธด้วยความขัดใจ เธอทำตาขวางใส่เทพบุตรข้างกาย ตัดสินใจหยิบมีดทำครัวขึ้น หมายจะกรีดลงบนขอบซอง แต่ด้วยความไม่ถนัดบวกกับความใหญ่โตของมีดในมือ เธอจึงพลาด กรีดโดนนิ้วของตัวเองแทน “โอ๊ย!”

เสียงอุทานแผ่วเบาฉุดเทพบุตรหนุ่มรีบแย่งมีดในมือเธอไปวางลงบนเคาน์เตอร์ทันที ธานาทอสหันกลับมามองหญิงสาว สองมือหนาจับปลายนิ้วเรียวขึ้นพิศดู เพียงบีบเบาๆเลือดสีแดงสดก็ไหลรินเอ่อล้นปากแผล

“ไม่ลึกเท่าไร” เขาเตรียมจะดึงมือเธอไปล้างน้ำเพื่อชำระปากแผล

แสงไฟจากเพดานห้องส่องสว่างให้ขวัญชีวาเห็นรอยแผลบริเวณนิ้วตัวเองชัดตา ราวท้องนภาอันเคยขมุกขมัวด้วยม่านหมอกพลันกระจ่างใส ทว่าความจริงภายในเงาควันนั้นกลับโหดร้ายยิ่งกว่า เมื่อหญิงสาวจดจำถึงเหตุการณ์สุดท้ายยามใกล้สิ้นลมได้

“กรี๊ด-ด-ด” หญิงสาวกรีดเสียงร้องดังสนั่น สองมือปัดป้องร่างกายตนเองให้พ้นจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายพัลวัน จนปลายนิ้วมือเกือบจะปัดโดนมีดและชามกระเบื้องบนเคาน์เตอร์ โชคดีที่ธานาทอสคว้าข้อมือบางไว้ทัน

“หนูน้อย เจ้าเป็นอะไร”

“กรี๊ด-ด-ด ปล่อยนะไอ้คนชั่ว ปล่อยฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” หญิงสาวพยายามทั้งเตะทั้งถีบสุดฤทธิ์ จนเทพบุตรหนุ่มชักเริ่มเห็นลางไม่ดี กลัวหญิงสาวจะฟาดมือโดนของบนเคาน์เตอร์ พานให้เจ็บตัวหนักขึ้นกว่าเดิม เขาเลยคว้าร่างแน่งน้อยขึ้นจากพื้น ตัดสินใจอุ้มเธอออกจากครัว

“ไม่เอานะ ฉันไม่ไป ได้โปรด อย่าทำแบบนี้ อย่าทำร้ายกันเลย”

คราวนี้สิ่งที่แสดงออกนอกจากอาการดิ้นรนแล้ว น้ำเสียงของเธอยังสั่นเทา บ่งบอกอาการหวาดผวาชัดเจน เทพบุตรหนุ่มตระหนักได้ในทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับขวัญชีวา

ความทรงจำช่วงสุดท้ายในชีวิตมนุษย์ของเธอกำลังหวนคืน!



มืด มีเพียงความมืดสนิท ไร้สรรพเสียงแห่งชีวิตใดให้เงี่ยสดับ ขวัญชีวาตื่นขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความสงบรอบกาย ไม่มีแรงสั่นสะเทือนที่ทำเอาเธอหัวสั่นหัวคลอนอีก หญิงสาวพยายามจะผงกศีรษะขึ้น แต่หัวของเธออาจหนักเกินไปจนไร้เรี่ยวแรงจะฝืนบังคับร่างกาย เธอยอมพ่ายแพ้แก่ความเจ็บปวด ตัดสินใจทิ้งศีรษะลงที่เดิม เริ่มรับรู้ถึงกลิ่นเลือดโชยฟุ้งตลบ

นี่เป็นกลิ่นเลือดจากกายเธอรึเปล่า... หญิงสาวสงสัย ความหวาดกลัวครองตนเป็นเจ้าเรือนอยู่ทุกอณูของร่างกาย มันลามไปทั่วสรรพางค์พร้อมกับความเจ็บปวดและหนึบชา ขวัญชีวาลองขยับขาที่ถูกมัดติดกันอีกครั้ง เธอใช้เท้าตนเองกวาดสำรวจรอบๆ เตะโดนข้าวของหลายอย่างล้มกระจัดกระจายจนก่อเกิดเสียงโครมคราม ไม่นานหญิงสาวจึงเริ่มเดาสถานที่ที่ตนเองอยู่ออก

หลังจับสังเกตจากความรู้สึกไม่กว้างนักของห้องแห่งนี้ได้ ประกอบกับเสียงเครื่องยนต์และแรงสั่นสะเทือนก่อนหน้า ทำให้ขวัญชีวาคาดเดาว่าตนเองน่าเธอน่าจะอยู่ภายในรถยนต์สักคันหนึ่ง

ครืด-ด-ด... ท่ามกลางความเงียบสงัด หูของหญิงสาวได้ยินเสียงบางอย่างแทรกผ่านเข้ามา กว่าเธอจะเข้าใจว่าเสียงนั้นคือเสียงเลื่อนเปิดของบานประตูรถยนต์ เจ้าของร่างบอบบางก็ถูกมือคู่หนึ่งกระชากลากเธอออกจากจุดเดิม

“อื้อ อื้อ...” หญิงสาวพยายามจะตะโกนส่งเสียงร้อง แต่อะไรบางอย่างซึ่งยังยัดอยู่เต็มปากทำให้เธอไม่อาจส่งเสียงอย่างใจคิด

ชั่วขณะหนึ่งเมื่อเธอพยายามจะดิ้นรน หญิงสาวก็รับรู้ถึงความเย็นวาบกรีดผ่านแก้มข้างซ้ายของเธอ ผ้าซึ่งปิดทับอยู่บนดวงตาโตทั้งสองข้างเลื่อนหลุดพร้อมกับความปวดแปลบและกลิ่นคาวคลุ้งลอยแตะจมูก หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่าดีหรือแย่กว่าเดิมเมื่อตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างเป็นอิสระพอจะมองเห็นมีดสีเงินคมกริบเปื้อนเลือดจ่ออยู่ตรงหน้า เหนือกายเธอขึ้นไปคือร่างของมัจจุราชร้ายมีใบหน้าถูกคลุมทับด้วยหมวกไหมพรม เห็นเพียงดวงตาสองชั้นฉายแววเหี้ยมโหด

“อื้อ...” หญิงสาวพยายามจะร้องและดิ้นรน แต่แขนใหญ่แข็งแรงก็ยังล็อกเธอไว้กับพื้นรถแน่น

กลิ่นคาวของความตายลอยอ้อยอิ่งทักทาย ยามนี้ขวัญชีวาไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน ความหวาดกลัวถาโถมเข้าขย้ำกลางอก ขณะแก้มของเธออีกข้างหนึ่งรับรู้ถึงความเย็นเยียบของวัตถุแนบลงมา ร่างของเธอทั้งร่างเกิดอาการสั่นผวาไม่หยุด

“อุดเออะ” หญิงสาวส่งเสียงอ้อนวอนขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดทำร้าย

“หึๆ”

ท่ามกลางความเงียบงันและสายลมอ่อนพัดผ่านเข้ามาภายในรถยนต์ ขวัญชีวาได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอดังหลุดรอดจากคนตรงหน้า น้ำเสียงนั้นค่อนข้างต่ำ เต็มไปด้วยความสะใจราวกับความกลัวของเธอคือเรื่องบันเทิงอันรื่นรมย์

เขาคือใครกัน เหตุใดจึงทำร้ายเธอถึงเพียงนี้... ขวัญชีวาอยากกรีดร้องถามหนักหนา แต่สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงอาการสั่นงันงกยามมีดปลายแหลมบรรจงกรีดลงบนแก้มอีกครั้ง เธอร้องไห้อย่างไม่นึกอาย ทั้งหวาดกลัว สั่นผวา และเจ็บปวด แต่ดูเหมือนชายใจโหดกลับชอบใจมากขึ้นยามเห็นหยาดน้ำตารินไหลลงปะปนกับเลือดสีแดงสดที่นองจากปากแผล

เขาหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะน่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่ขวัญชีวาเคยได้ยิน ปลายมีดเย็นยะเยือกเคลือบด้วยกลิ่นคาวคลุ้งยังล้อเล่นอยู่บนดวงหน้านวลอีกหลายครั้ง เขาบรรจงกดปลายมีดฝากรอยแผลทั้งเล็กและใหญ่ไปทั่ว เท่าที่ใบหน้าเล็กๆดวงหนึ่งจะมีพื้นที่ให้แต่งแต้มสีสันของความตาย เสียงกรีดร้องดังอู้อี้ผ่านผ้าที่ยังยัดอยู่ในโพรงปากจนกระทั่งมันเริ่มขาดห้วง เขาหัวเราะซ้ำๆราวกับสิ่งตรงหน้าคือความขำอันน่าอภิรมย์ แล้วจัดแจงวางมีดในมือ ยกร่างซึ่งยังมีลมหายใจอยู่วางพาดกลางผืนผ้าใบ

ความมืดมิดกลับมาเยือนอีกครั้ง ขวัญชีวารู้ตัวดีว่าตนเองกำลังถูกห่อด้วยผ้าใบผืนหนา มันอึดอัด ปวดร้าว เจ็บปวด และแสบระบมทั่วกาย เธอคลับคล้ายเหมือนคนจะหายใจไม่ออก ต้องพยายามหอบหายใจเข้าปอดอยู่หลายครั้งกว่าตนเองจะสูดอากาศเข้าได้มากเพียงพอ

ทรมาน... นั่นคือคำเดียวที่เธอคิดออกยามนี้ หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่มันช่างไร้ผลนัก เมื่อตลอดเรือนร่างถูกพันธนาการแน่นหนา

เพียงไม่นาน หญิงสาวก็รับรู้ถึงแรงกระชากดึงเธอขึ้นพาดบ่า คราวนี้นอกจากร่างที่ถูกมัดแล้ว ยังมีอะไรบางอย่างหนักๆถ่วงขาซึ่งแทบจะไร้เรี่ยวแรงอยู่แล้วให้ยิ่งหนักมากขึ้น แต่ก่อนขวัญชีวาจะทันได้คิดอะไร เจ้าของน้ำเสียงเย็นเยียบก็ดังขึ้นไม่ห่างจากหูเธอนัก

“ลาก่อน”

ตูม!

แรงวูบของการถูกทิ้งจากที่สูงสร้างความเสียววาบขึ้นภายในท้อง แล้วติดตามด้วยเสียงตูมใหญ่และแรงปะทะจนทั้งร่างร้าวระบม

ไม่ เท่านั้นยังไม่พอ มันยังไม่ถึงตอนเลวร้ายสุด ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความอึดอัด ร่างของเธอกำลังจมดิ่งลงสู่ใต้น้ำ อากาศหายใจที่ว่าน้อยกลายเป็นสูญสลาย ไม่เหลือให้เธอสูดลมหายใจอีกแล้ว หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่เธอจะช่วยเหลือตนเองได้อย่างไรในเมื่อทั้งมือ เท้า และตลอดเรือนกายถูกมัดเสียแน่นหนา ไม่นานแรงตะเกียกตะกายก็ร่อยหรอ กระแสน้ำเย็นซัดร่างเธอดิ่งลงสู่ห้วงมรณา อีกคราที่เธอไร้อากาศหายใจ ทั่วทั้งร่างกายอึดอัด เจ็บปวด และทรมานแสนสาหัส อากาศเฮือกสุดท้ายค่อยๆหลุดลอยหาย พร้อมกับกระแสน้ำพัดพาร่างของเธอดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของลำน้ำลึก






ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มิ.ย. 2556, 12:49:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 มิ.ย. 2556, 12:50:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 2712





<< บทที่ 4/1 อดีตที่เคยลืมเลือน   
ริญจน์ธร 19 มิ.ย. 2556, 12:54:42 น.
ตอบคอมเม้นค่ะ
คุณ หมูอ้วน กำลังเล็งอยู่เช่นกันค่ะว่าจะเขียนเรื่องของฮิปนอสดีไหม @^^@

คุณ nako 55 ห่วงจนสุดท้ายก็ต้องยอมขึ้นมาดูแลค่า

คุณ konhin เลือกไม่เลือกไม่สนแล้วค่า ตอนนี้ความเป็นห่วงเป็นเหตุแล้ว ต้องรีบตามขึ้นมาดูแล

คุณ lovemuay นั่นสิเนอะ ไม่งั้นพระเอกของเราคงไม่มีทางรู้ใจตัวเองง่ายๆ

คุณ Zephyr 555 รู้สึกว่าจะมีแต่คนถูกใจฮิปนอส แบบนี้น่าเขียนเทพองค์นี้ต่อซะแล้ว

คุณ goldensun ตอนนี้เริ่มเผยชีวิตขวัญแล้วนะคะ ปล. ไม่เห็นเม้นคุณ goldensun นานเลย ดีใจค่า


คิมหันตุ์ 19 มิ.ย. 2556, 13:42:45 น.
ตอนนี้ช็อคมากกกกกกกกกค่ะ น่าสงสารเด็กน้อยสุดๆ

ปล. เขียนเรื่องฮิปนอสโลดเลยจ่ะ เด๊วจะน้อยใจที่ เขียนแต่ธานาทอสนะคะ อิอิ


wind 19 มิ.ย. 2556, 15:33:51 น.
ตายโหดจริงด้วย


nako 19 มิ.ย. 2556, 18:01:02 น.
น่าสงสารจังหนูขวัญจัง


goldensun 19 มิ.ย. 2556, 19:11:12 น.
โหดจังเลย นึกตามแล้วทรมานไปด้วย ใครอยู่เบื้องหลัง แล้วขวัญจะนึกออกทั้งหมดแล้วรู้ความจริงมั้ย
แต่โหดแบบนี้ ไม่รู้ก็ไม่เสียดายนะคะ


lovemuay 19 มิ.ย. 2556, 19:36:04 น.
โห น่าสงสารจังเลย ตายได้น่ากลัวมาก แบบนี้เฮียต้องรีบมาปลอบด่วนเลย


konhin 19 มิ.ย. 2556, 20:52:53 น.
อ่ะ โหดร้าย สงสารอ่ะ


เคสิยาห์ 19 มิ.ย. 2556, 20:57:46 น.
วิญญาณเทพแห่งความตายมีไอร้อนด้วยเหรอ นั่นน่ะมนุษย์แล้ว เค้าไม่ใช่มนุษย์ อย่าเขียนแบบมนุษย์ไม่งั้นก็ไม่แตกต่างอะไร


เคสิยาห์ 19 มิ.ย. 2556, 21:10:57 น.
หรือว่า ธานาทอส มีร่างกายมนุษย์แล้ว เพิ่งอ่านเป็นตอนแรกค่ะ น่าสนใจดี จะตามอ่านนะคะ จะลงจนจบมั๊ยเนี่ย


Zephyr 19 มิ.ย. 2556, 21:50:50 น.
โอ้ มายังงี้เลยนะ พี่มูน
จะตายโหด ทรมานเกินไปละ หนูน้อย
น่าสงสารอ่า แต่ทำไมโดนอุ้มฆ่าแบบนี้นะ สงสัย
เขียนเลยค่ะ สนับสนุนเรื่องเฮียฮิปน่ะนะ


เคสิยาห์ 19 มิ.ย. 2556, 22:23:04 น.
อ่านแล้วจ๊าา ตามทันละ ชอบค่ะ หนุกหนานไม่เหมือนใครดี


หมูอ้วน 19 มิ.ย. 2556, 23:33:20 น.
น่าสงสารจังเลย ใครทำเนี่ย จะมีตอนเอาคืนมั้ยค่ะ จัดหนัก ๆ เลยนะค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account