navigator โอบพสุธาด้วยรัก [ชุด ต้นรักเสน่หา]
เมื่อนักสืบจำเป็นต้องเข้าไปค้นหาความจริงในไร่แสงจันทร์ ไร่ที่มีปริศนามากมายให้ต้องพบเจอ นักสืบหนุ่มจำเป็นและผู้ช่วยสาวแสนเย็นชา ด้วยปมร้ายที่ทำให้เขาและเธอต้องช่วยกันคลายให้สำเร็จ
ทีปกร ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่เขาเจอโดยบังเอิญถึงสองครั้งจะกลายเป็นคนที่ทนายความแนะนำให้เป็นช่วยสืบเรื่องราวในไร่แสงจันทร์ เขายินดีที่จะได้ร่วมงานกับเธอ รักแรกพบที่ไม่คิดว่ามีอยู่จริง
ปีย์วรา หญิงสาวที่ผ่านโชคชะตาชีวิตเจ็บปวดหลายครั้งจนกลายเป็นคนเย็นชา ไม่ศรัทธาในความรักและความสัมพันธ์ใดๆ เธอรับทำงานเพราะบุญคุณของอังคณา น้าของทีปกร ยิ่งเวลาผ่านไป เธอคิดว่ามันเป็น การตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต
ผู้ชายปากจัด ยียวน รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้เธอเสมอ มันทำให้เธอหวั่นไหว
เคยมีคนบอกว่า การพบกันครั้งแรกคือความบังเอิญ ครั้งที่สองคือโชคชะตา ครั้งที่สามคือพรหมลิขิต
นี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้...แค่ปล่อยให้หัวใจนำทางไป
อัพเดทตอนใหม่ทุกวัน จันทร พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ค่ะ ^^
ทีปกร ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่เขาเจอโดยบังเอิญถึงสองครั้งจะกลายเป็นคนที่ทนายความแนะนำให้เป็นช่วยสืบเรื่องราวในไร่แสงจันทร์ เขายินดีที่จะได้ร่วมงานกับเธอ รักแรกพบที่ไม่คิดว่ามีอยู่จริง
ปีย์วรา หญิงสาวที่ผ่านโชคชะตาชีวิตเจ็บปวดหลายครั้งจนกลายเป็นคนเย็นชา ไม่ศรัทธาในความรักและความสัมพันธ์ใดๆ เธอรับทำงานเพราะบุญคุณของอังคณา น้าของทีปกร ยิ่งเวลาผ่านไป เธอคิดว่ามันเป็น การตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต
ผู้ชายปากจัด ยียวน รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้เธอเสมอ มันทำให้เธอหวั่นไหว
เคยมีคนบอกว่า การพบกันครั้งแรกคือความบังเอิญ ครั้งที่สองคือโชคชะตา ครั้งที่สามคือพรหมลิขิต
นี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้...แค่ปล่อยให้หัวใจนำทางไป
อัพเดทตอนใหม่ทุกวัน จันทร พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ค่ะ ^^
Tags: navigator โอบพสุธาไว้ด้วยรัก คีตา ณิชนิตา
ตอน: บทที่ ๑.๑ ผู้หญิงเย็นชา(แก้ไข)
บทที่ ๑
ผู้หญิงเย็นชา
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก้าวขายาวๆของตัวเองเข้าไปในคลับหรูแห่งนั้นด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ นั่นเป็นลักษณะพิเศษของ ทีปกร พสุธาดล ครีเอทีฟหนุ่มใหญ่บริษัทเบรนแอด บริษัทโฆษณาขนาดกลางที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า ผลิตชิ้นงานได้ดีมากแห่งหนึ่งทีเดียว
เขาพยายามแทรกตัวผ่านกลุ่มคน ที่กำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงเหล่านั้นไปอย่างทุลักทุเล ในใจพลางคิดถึงสาเหตุที่ต้องพาตัวเอง มายังสถานบันเทิงแห่งนี้อย่างเหนื่อยใจ โต๊ะที่เหล่าเพื่อนชายของเขาจองไว้อยู่ด้านในสุด
ทีปกรไม่แปลกใจเลยที่เห็นสาวๆนั่งเบียดกับเพื่อนๆเขาอยู่แล้ว แอร์คอนดิชั่นเนอร์ในห้องไม่ได้เปิดจนหนาวสักหน่อยแต่ดูเหมือนพวกเขาจะหนาวจนต้องกอดซบกันเสียแน่น
“เฮ้ย มาแล้วเหรอวะทิม นี่ๆนั่งตรงนี้เลย คนอกหัก”
“อย่าย้ำ ฉันไม่ได้อกหัก” ทิมตอกคืน ดวงตาคมตวัดแสดงความไม่พอใจอยู่ลึกๆเขาไม่ชอบให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“เออ ฉันเห็นโฆษณาตัวใหม่ของแกแล้วนะเว้ย เก่งวะ คนพูดถึงเยอะเหมือนกันนะ”
“ขอบใจ ไว้แกออกสินค้าตัวใหม่ส่งมาให้บริษัทฉันทำโฆษณาให้สิ ฉันจะทำให้เต็มที่เลย” ทีปกรเสนอยิ้มๆ
ดวงหน้าเรียว คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่ง ผิวขาวนั้นทำให้เห็นหนวดเคราหรอมแหรมทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มเข้มขึ้น หญิงสาวที่นั่งข้างๆ เพื่อนชายส่งสายตามาให้เป็นระยะ ทีปกรพยายามไม่สนใจ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวแบบนี้ เธอยิ้มหวานให้ก่อนจะขยับลุกขึ้นก้าวเข้ามานั่งข้างๆ เขาแทน ชายหนุ่มตอบก่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ขอตัวไปสูดอากาศหน่อยนะ” หญิงสาวที่เพิ่งนั่งลงนั้นหน้าเหวอ ทีปกรเหยียดยิ้มให้แล้วลุกขึ้นเดินออกมาข้างนอกคลับเพื่อสูดอากาศ
ช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีอารมณ์อยากสนุกสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นต่อๆกันจนเหมือนขบวนรถไฟ ปลายปีที่แล้วเขาต้องเสียคนรักให้เพื่อนร่วมหุ้น ไปร่วมงานแต่งงานแถมด้วยคำอวยพรให้ด้วยสีหน้าที่บอกทุกคนว่าไม่เป็นอะไร ต้นปีได้รับข่าวร้ายเรื่องน้าที่ป่วยกะทันหันจนต้องเข้าห้องไอซียู
‘ในร่างกายของคุณอังคณามีตัวยาชนิดหนึ่ง ที่มีผลทำให้ให้คุณอังคณาแพ้ตัวยาชนิดนี้อย่างรุนแรง คนป่วยรู้เรื่องนี้ดี ไม่น่าที่จะเผลอกินเข้าไปได้นะครับ’ คำอธิบายของหมอเจ้าของไข้ ทำให้เขาต้องทบทวนเรื่องของน้าทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ระหว่างที่สมองของเขากำลังคิดถึงเรื่องเครียดๆในครอบครัว อยู่ๆเพื่อนคนหนึ่งก็เข้ามาสะกิดจนเขาต้องเหลียวกลับไปมอง เห็นเพื่อนๆพยุงกันออกมาอย่างหมดสภาพ
“เฮ้ยทิม ไอ้นี่มันเมามากไม่ไหวแล้ว ต้องพามันกลับแล้วละ ยิ่งเมายิ่งเลอะเทอะ” เพื่อนอีกคนบ่นสีหน้ายุ่งเหยิงเพราะต้องจัดการกับความเมาแล้วกร่างของเพื่อน
“เดี๋ยวฉันพามันไปที่รถให้” ทีปกรเข้าไปช่วยพยุงร่างสูงใหญ่ของเพื่อนอย่างทุลักทุเลพอสมควร ทว่าระหว่างที่กำลังพาตัวออกมาได้นั้น เพื่อนเขากลับสะบัดแขนออกแถมบอกว่าเดินเองได้ จนไปชนกับชายอีกกลุ่มที่กำลังจะเข้าไป
“เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือ” แทนที่จะบอกขอโทษแต่เพื่อนเขากลับเอ่ยคำนั้นออกมา ทีปกรถอนหายใจยาวๆแล้วรีบเอามืออุดปากเพื่อนไว้ก่อนจะหาเรื่องใส่ตัวมากไปกว่านี้
“ขอโทษ เขาเมาไปหน่อยครับ” โชคดีที่กลุ่มชายหนุ่มเหล่านั้นไม่ติดใจเอาความเดินเข้าไปในคลับ แต่ระหว่างที่กำลังพยุงออกไปยังลานจอดรถ เพื่อนตัวดีก็ทำเรื่องอีกจนได้
อ๊อก!!
ตาของเขาลุกวาวขึ้นทันทีที่ได้ยิน เสียงนั้นทีปกรพอจะรู้ว่ามันคืออะไร เพื่อนที่ดื่มเหล้าเข้าไปเหมือนน้ำเปล่าคงได้เอาของเก่าออกแน่ๆ โชคร้ายเป็นของรถเก๋งสีดำที่จอดอยู่ใกล้ที่สุด สิ่งที่ออกมาจากปากเพื่อนมันลงไปอยู่หน้ากระโปรงรถเสียหมด
ทีปกรได้แต่ทำหน้าเหยเก ส่ายหน้าเบาๆเหมือนไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี ระหว่างที่เขาได้แต่ยืนมองการกระทำของเพื่อนนั้น ประตูรถเก๋งด้านคนขับก็เปิดออก หญิงสาวร่างผอมสูง เธอรวบผมตึงไว้ด้านหลัง ใบหน้าเรียวยาว ดูคมสวยธรรมชาติ เธอแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มไม่เหมือนสาวๆที่จะมาเที่ยวคลับสักเท่าไหร่ หญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นเจ้าของรถยืนมองสิ่งที่เพื่อนเขาทำด้วยแววตาเรียบเฉย
ขณะที่ชายหนุ่มผิวคล้ำรูปร่างอวบซึ่งนั่งข้างคนขับก้าวตามลงมา ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“เฮ้ย!! รถเพิ่งล้างมานะ ทำงี้ได้ไงวะ”
ทีปกรรีบดึงร่างเพื่อนออกมาทันที “ขอโทษจริงๆครับ ให้ผมช่วยค่าล้างรถละกัน” เขาพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงหากระเป๋าเงินออกมาดึงธนบัตรสีเทานั้นให้หญิงสาวที่เป็นคนขับ เธอยืนนิ่งไม่ได้รับเงินที่เขายื่นให้ ดวงตาที่เคยเรียบเฉยนั้นมีแววโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหันไปทางชายหนุ่มที่เพิ่งโวยวายไป
“พันเดียว!! คิดว่าเงินแค่นั้นจะทำให้ผมหายโกรธได้หรือไง” คนว่าไปอย่างนั้นแต่มือรีบคว้าเงินออกไปกำไว้แน่น
“จริงๆค่าล้างรถมันไม่ได้แพงขนาดที่ผมให้ไปนะ ผมว่าแค่นั้นก็น่าจะพอ” ทีปกรแย้งเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะขอขึ้นราคา แต่อีกฝ่ายยังโวยวายพูดเรื่องรถใหม่เอี่ยมไม่เลิก เขาเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มขี้โวยคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนสีเข้มเหมือนกับผู้หญิงที่ยืนทำหน้านิ่งตรงหน้าเขาเหมือนเป็นชุดทีมอะไรสักอย่าง
...หรือเธอจะเป็นใบ้นะ ไม่พูดไม่จาทำหน้าเฉยเหมือนรูปปั้น
คิดอย่างนั้นจนเห็นเธอเปิดประตูเข้าไปเหมือนค้นหาของอะไรบางอย่างเพียงไม่กี่นาทีก็ถอยออกมาพร้อมขวดน้ำเปล่าเปิดฝาแล้วเทลงไปยังเศษซากวีรกรรมของเพื่อนเขาจนมันแทบไม่เหลือให้เป็นเป็นชิ้นเป็นอันอีก
“เฮ้ย!! แกทำอะไรวะ” หนุ่มจอมโวยร้องเสียงหลง หญิงสาวจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหันมาคว้ามือเพื่อนขึ้นมาดึงเอาเงินที่ได้กลับมายื่นให้ทีปกรคืน
“จบไหมอ้วน อย่าเรื่องมากนักเลย” เธอกล่าวจบก็หันกลับไปล็อกรถ แล้วเดินเลี่ยงตรงไปยังประตูด้านหน้าของคลับไม่รอให้คู่ความเจรจากันเสร็จ เพื่อนของเธอทำหน้าตื่นขึ้นไปอีก
“เจ้าของรถเขาไม่เอา คุณก็จบเรื่องกันแค่นี้ละกัน”
“ใครว่ามันเป็นเจ้าของละ ผมต่างหากเจ้าของรถส่วนมันเป็นเพื่อนร่วมรุ่นผมแค่มาด้วยกัน มันอยากลองขับรถผมเท่านั้นเอง เลยปล่อยให้มันขับ เอาค่าล้างรถผมมาเลย” ว่าทั้งทำหน้าตาไม่สบอารมณ์เพิ่มขึ้นไปอีก ทีปกรจึงให้เงินใบเดิมนั้นพอได้เรียบร้อยก็วิ่งออกไปทันที เขามองตามหลังของสองคนนั้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“ผู้หญิงคนนี้แปลกจัง” นั่นเป็นเสียงของเจ้าเพื่อนตัวดีที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาหลังจากทำเหมือนหลับระหว่างที่เขาต่อรองค่าเสียหายไป ทีปกรเห็นด้วยว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่แปลก...ดวงตาที่ดูเย็นชา ใบหน้าเรียบเฉย แทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลย
...ใช่แปลก...แต่ดวงตาคู่นั้นมันตรึงสายตาเขาได้ แปลกที่เขายังมองเธอไปจนลับสายตา
ผู้หญิงเย็นชา
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก้าวขายาวๆของตัวเองเข้าไปในคลับหรูแห่งนั้นด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ นั่นเป็นลักษณะพิเศษของ ทีปกร พสุธาดล ครีเอทีฟหนุ่มใหญ่บริษัทเบรนแอด บริษัทโฆษณาขนาดกลางที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า ผลิตชิ้นงานได้ดีมากแห่งหนึ่งทีเดียว
เขาพยายามแทรกตัวผ่านกลุ่มคน ที่กำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงเหล่านั้นไปอย่างทุลักทุเล ในใจพลางคิดถึงสาเหตุที่ต้องพาตัวเอง มายังสถานบันเทิงแห่งนี้อย่างเหนื่อยใจ โต๊ะที่เหล่าเพื่อนชายของเขาจองไว้อยู่ด้านในสุด
ทีปกรไม่แปลกใจเลยที่เห็นสาวๆนั่งเบียดกับเพื่อนๆเขาอยู่แล้ว แอร์คอนดิชั่นเนอร์ในห้องไม่ได้เปิดจนหนาวสักหน่อยแต่ดูเหมือนพวกเขาจะหนาวจนต้องกอดซบกันเสียแน่น
“เฮ้ย มาแล้วเหรอวะทิม นี่ๆนั่งตรงนี้เลย คนอกหัก”
“อย่าย้ำ ฉันไม่ได้อกหัก” ทิมตอกคืน ดวงตาคมตวัดแสดงความไม่พอใจอยู่ลึกๆเขาไม่ชอบให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“เออ ฉันเห็นโฆษณาตัวใหม่ของแกแล้วนะเว้ย เก่งวะ คนพูดถึงเยอะเหมือนกันนะ”
“ขอบใจ ไว้แกออกสินค้าตัวใหม่ส่งมาให้บริษัทฉันทำโฆษณาให้สิ ฉันจะทำให้เต็มที่เลย” ทีปกรเสนอยิ้มๆ
ดวงหน้าเรียว คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่ง ผิวขาวนั้นทำให้เห็นหนวดเคราหรอมแหรมทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มเข้มขึ้น หญิงสาวที่นั่งข้างๆ เพื่อนชายส่งสายตามาให้เป็นระยะ ทีปกรพยายามไม่สนใจ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวแบบนี้ เธอยิ้มหวานให้ก่อนจะขยับลุกขึ้นก้าวเข้ามานั่งข้างๆ เขาแทน ชายหนุ่มตอบก่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ขอตัวไปสูดอากาศหน่อยนะ” หญิงสาวที่เพิ่งนั่งลงนั้นหน้าเหวอ ทีปกรเหยียดยิ้มให้แล้วลุกขึ้นเดินออกมาข้างนอกคลับเพื่อสูดอากาศ
ช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีอารมณ์อยากสนุกสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นต่อๆกันจนเหมือนขบวนรถไฟ ปลายปีที่แล้วเขาต้องเสียคนรักให้เพื่อนร่วมหุ้น ไปร่วมงานแต่งงานแถมด้วยคำอวยพรให้ด้วยสีหน้าที่บอกทุกคนว่าไม่เป็นอะไร ต้นปีได้รับข่าวร้ายเรื่องน้าที่ป่วยกะทันหันจนต้องเข้าห้องไอซียู
‘ในร่างกายของคุณอังคณามีตัวยาชนิดหนึ่ง ที่มีผลทำให้ให้คุณอังคณาแพ้ตัวยาชนิดนี้อย่างรุนแรง คนป่วยรู้เรื่องนี้ดี ไม่น่าที่จะเผลอกินเข้าไปได้นะครับ’ คำอธิบายของหมอเจ้าของไข้ ทำให้เขาต้องทบทวนเรื่องของน้าทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ระหว่างที่สมองของเขากำลังคิดถึงเรื่องเครียดๆในครอบครัว อยู่ๆเพื่อนคนหนึ่งก็เข้ามาสะกิดจนเขาต้องเหลียวกลับไปมอง เห็นเพื่อนๆพยุงกันออกมาอย่างหมดสภาพ
“เฮ้ยทิม ไอ้นี่มันเมามากไม่ไหวแล้ว ต้องพามันกลับแล้วละ ยิ่งเมายิ่งเลอะเทอะ” เพื่อนอีกคนบ่นสีหน้ายุ่งเหยิงเพราะต้องจัดการกับความเมาแล้วกร่างของเพื่อน
“เดี๋ยวฉันพามันไปที่รถให้” ทีปกรเข้าไปช่วยพยุงร่างสูงใหญ่ของเพื่อนอย่างทุลักทุเลพอสมควร ทว่าระหว่างที่กำลังพาตัวออกมาได้นั้น เพื่อนเขากลับสะบัดแขนออกแถมบอกว่าเดินเองได้ จนไปชนกับชายอีกกลุ่มที่กำลังจะเข้าไป
“เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือ” แทนที่จะบอกขอโทษแต่เพื่อนเขากลับเอ่ยคำนั้นออกมา ทีปกรถอนหายใจยาวๆแล้วรีบเอามืออุดปากเพื่อนไว้ก่อนจะหาเรื่องใส่ตัวมากไปกว่านี้
“ขอโทษ เขาเมาไปหน่อยครับ” โชคดีที่กลุ่มชายหนุ่มเหล่านั้นไม่ติดใจเอาความเดินเข้าไปในคลับ แต่ระหว่างที่กำลังพยุงออกไปยังลานจอดรถ เพื่อนตัวดีก็ทำเรื่องอีกจนได้
อ๊อก!!
ตาของเขาลุกวาวขึ้นทันทีที่ได้ยิน เสียงนั้นทีปกรพอจะรู้ว่ามันคืออะไร เพื่อนที่ดื่มเหล้าเข้าไปเหมือนน้ำเปล่าคงได้เอาของเก่าออกแน่ๆ โชคร้ายเป็นของรถเก๋งสีดำที่จอดอยู่ใกล้ที่สุด สิ่งที่ออกมาจากปากเพื่อนมันลงไปอยู่หน้ากระโปรงรถเสียหมด
ทีปกรได้แต่ทำหน้าเหยเก ส่ายหน้าเบาๆเหมือนไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี ระหว่างที่เขาได้แต่ยืนมองการกระทำของเพื่อนนั้น ประตูรถเก๋งด้านคนขับก็เปิดออก หญิงสาวร่างผอมสูง เธอรวบผมตึงไว้ด้านหลัง ใบหน้าเรียวยาว ดูคมสวยธรรมชาติ เธอแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มไม่เหมือนสาวๆที่จะมาเที่ยวคลับสักเท่าไหร่ หญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นเจ้าของรถยืนมองสิ่งที่เพื่อนเขาทำด้วยแววตาเรียบเฉย
ขณะที่ชายหนุ่มผิวคล้ำรูปร่างอวบซึ่งนั่งข้างคนขับก้าวตามลงมา ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“เฮ้ย!! รถเพิ่งล้างมานะ ทำงี้ได้ไงวะ”
ทีปกรรีบดึงร่างเพื่อนออกมาทันที “ขอโทษจริงๆครับ ให้ผมช่วยค่าล้างรถละกัน” เขาพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงหากระเป๋าเงินออกมาดึงธนบัตรสีเทานั้นให้หญิงสาวที่เป็นคนขับ เธอยืนนิ่งไม่ได้รับเงินที่เขายื่นให้ ดวงตาที่เคยเรียบเฉยนั้นมีแววโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหันไปทางชายหนุ่มที่เพิ่งโวยวายไป
“พันเดียว!! คิดว่าเงินแค่นั้นจะทำให้ผมหายโกรธได้หรือไง” คนว่าไปอย่างนั้นแต่มือรีบคว้าเงินออกไปกำไว้แน่น
“จริงๆค่าล้างรถมันไม่ได้แพงขนาดที่ผมให้ไปนะ ผมว่าแค่นั้นก็น่าจะพอ” ทีปกรแย้งเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะขอขึ้นราคา แต่อีกฝ่ายยังโวยวายพูดเรื่องรถใหม่เอี่ยมไม่เลิก เขาเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มขี้โวยคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนสีเข้มเหมือนกับผู้หญิงที่ยืนทำหน้านิ่งตรงหน้าเขาเหมือนเป็นชุดทีมอะไรสักอย่าง
...หรือเธอจะเป็นใบ้นะ ไม่พูดไม่จาทำหน้าเฉยเหมือนรูปปั้น
คิดอย่างนั้นจนเห็นเธอเปิดประตูเข้าไปเหมือนค้นหาของอะไรบางอย่างเพียงไม่กี่นาทีก็ถอยออกมาพร้อมขวดน้ำเปล่าเปิดฝาแล้วเทลงไปยังเศษซากวีรกรรมของเพื่อนเขาจนมันแทบไม่เหลือให้เป็นเป็นชิ้นเป็นอันอีก
“เฮ้ย!! แกทำอะไรวะ” หนุ่มจอมโวยร้องเสียงหลง หญิงสาวจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหันมาคว้ามือเพื่อนขึ้นมาดึงเอาเงินที่ได้กลับมายื่นให้ทีปกรคืน
“จบไหมอ้วน อย่าเรื่องมากนักเลย” เธอกล่าวจบก็หันกลับไปล็อกรถ แล้วเดินเลี่ยงตรงไปยังประตูด้านหน้าของคลับไม่รอให้คู่ความเจรจากันเสร็จ เพื่อนของเธอทำหน้าตื่นขึ้นไปอีก
“เจ้าของรถเขาไม่เอา คุณก็จบเรื่องกันแค่นี้ละกัน”
“ใครว่ามันเป็นเจ้าของละ ผมต่างหากเจ้าของรถส่วนมันเป็นเพื่อนร่วมรุ่นผมแค่มาด้วยกัน มันอยากลองขับรถผมเท่านั้นเอง เลยปล่อยให้มันขับ เอาค่าล้างรถผมมาเลย” ว่าทั้งทำหน้าตาไม่สบอารมณ์เพิ่มขึ้นไปอีก ทีปกรจึงให้เงินใบเดิมนั้นพอได้เรียบร้อยก็วิ่งออกไปทันที เขามองตามหลังของสองคนนั้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“ผู้หญิงคนนี้แปลกจัง” นั่นเป็นเสียงของเจ้าเพื่อนตัวดีที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาหลังจากทำเหมือนหลับระหว่างที่เขาต่อรองค่าเสียหายไป ทีปกรเห็นด้วยว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่แปลก...ดวงตาที่ดูเย็นชา ใบหน้าเรียบเฉย แทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลย
...ใช่แปลก...แต่ดวงตาคู่นั้นมันตรึงสายตาเขาได้ แปลกที่เขายังมองเธอไปจนลับสายตา
ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ค. 2556, 10:49:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2556, 18:13:38 น.
จำนวนการเข้าชม : 1514
<< บทนำ(แก้ไข) | บทที่ ๑.๒ ผู้หญิงเย็นชา(แก้ไข) >> |