หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่ ยี่สิบเอ็ด : ได้เลือด


**** แบบว่าเหนือฟ้ายังไม่เปิดปม ใครที่รออย่าเพิ่งผิดหวัง อย่าเพิ่งโกรธเค้าน้าาาา TT^TT***




ราว 11 โมงกว่า รถคันหรูจากคฤหาสน์ของอิสระ ก็แล่นเข้ามาจอดในสนามทรายหน้าเสาธง ซึ่งมีอาคารไม้สองชั้นตั้งเป็นฉากหลัก เสียงคลื่นซัดฝั่งดังแว่วมาต้อนรับ ก่อนกลิ่นเค็มจากท้องทะเล จะลอยลมมาทักทาย

เด็กสาวที่ก้าวลงจากเบาะหลังของรถนิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อกวาดตาใต้แว่นกันแดดไปรอบๆ... ‘กันดาร’ เป็นคำแรกที่ผุดขึ้นในสมอง ก่อนจะตามมาด้วยคำถาม ‘เธอคิดถูกแล้วเหรอที่มาที่นี่’

“คนอื่นคงมาถึงกันแล้ว” เสียงจากคนรับใช้ที่พกมาด้วยดังขึ้นใกล้ๆ เมื่อมองตามที่อีกฝ่ายบุ้ยใบ้ ก็พบรถตู้สองคนที่ใช้รับส่งทีมงานและพี่อาสาเกือบ 30 ชีวิต ไม่ห่างกันนั้นคือรถแวนของมาวิน... แสดงว่าเขามาถึงแล้ว

“บอกคนขับรถว่าอย่าเพิ่งกลับ ฉันจะเข้าไปดูข้างในก่อน”

อิงตะวันที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สั่ง ก่อนเดินเชิดหน้าเข้าไปด้านในของโรงเรียนวัดบ้านเล ที่แม้วันนี้จะเป็นวันศุกร์ในสัปดาห์ที่สองของการปิดเทอม แต่ก็ยังคึกคักเพราะเหล่าทีมงานและชาวบ้านที่มาเยี่ยมๆ มองๆ ด้วยความสนใจ เด็กสาวปล่อยให้คนรับใช้ที่ตนจำชื่อไม่ได้ ยืนเดียวดายอยู่ใต้แสงแดดจัดจ้า อย่างไม่สนใจเลยว่าเมลานินใต้ชั้นผิวของคนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดจะเพิ่มปริมาณขึ้นแค่ไหน

นางสาวน้อยหน่าที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงผ้าเก่าๆ ผ่อนลมหายใจ ก่อนกางร่มกัน UV ที่ถืออยู่ แล้วเริ่มมาหาผู้ชายสามคน

คนแรกคือคนที่โทรศัพท์มาหาเธอเมื่อคืน... เพราะมัวแต่เล่าวีรกรรมของเขา แผนการที่เขาสร้าง รวมถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวเธอเองหลังเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อนรักทั้งสามก็ใช้เวลาซักถามเป็นชั่วโมง กว่าจะถกประเด็นนี้จบก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า เธอเลยไม่ได้โทรศัพท์กลับไปหา ไปอธิบายว่าใครคือคุณคิม ไม่ได้แค่เกรงใจหรอก แต่อยากยั่วให้กระวนกระวายมากกว่า แล้วเธอก็คิดว่า วันนี้เขาจะถลามาคาดคั้นความจริงจากเธอเสียอีก... แต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา... ไม่อยากรู้หรือไงว่าผู้ชายที่รับสายเมื่อคืนเป็นใคร

หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งด้วยความขัดใจ ใบหน้ารูปหัวใจที่ปราศจากเครื่องสำอางแสดงความผิดหวัง แต่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็สลัดเรื่องเขาทิ้งไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้มีอีกคนที่เธอต้องห่วง

ไม่ลืมหรอกว่าการมาที่นี่ในฐานะน้อยหน่า จะทำให้เธอประจันหน้ากับคนที่รู้จักเธอในนามของเหนือฟ้า แต่เธอก็คิดมาดีแล้ว

มาวินและมุกมาลาจะมาจัดการเรื่องค่ายเพียงสองวัน ศุกร์และเสาร์ พอถึงวันอาทิตย์ ทั้งสองก็ต้องรีบกลับไปเตรียมตัวประชุมในเช้าวันจันทร์ หน้าที่ของเธอก็แค่... หลบหน้าให้ได้นานที่สุด ซึ่งมันอาจจะไม่ง่ายนัก แต่เธอก็รอบคอบพอจะเชิญตัวช่วยมาด้วย

ทำนุทัพคงอยู่กับพี่สาว ซึ่งเลขาฯ สาวก็คงเคียงข้างเจ้านายไม่ห่าง ทั้งหมดคงรวมกันอยู่ในอาคาร นั่นแปลว่า... ถ้าไม่อยากโดนจับได้ ก็ห้ามเฉียดกรายไปใกล้บริเวณนั้นเด็ดขาด



ภายใต้หลังคาทรงสูงของโรงอาหารริมชายหาดที่ไร้ผนังกั้น เหล่าอาสาสมัครซึ่งเป็นนักศึกษาจากคณะศิลปะกว่า 20 ชีวิต นั่งรวมกลุ่มฟังบรรยายเกี่ยวกับหน้าที่และตารางกิจกรรมอยู่บนพื้นไม้อย่างตั้งใจ แต่มีผู้ชายคนหนึ่ง... คนที่สวมเพียงเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายกับกางเกงสามส่วนเอวยางยืดสีดำแสนธรรมดา แต่ก็โดดเด่นเตะตากว่าใคร... กลับไม่ได้สนใจหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมที่ยืนอธิบายความอยู่ด้านหน้าแม้แต่น้อย

เพราะทันทีที่เด็กสาวหน้าคุ้นปรากฏตัวขึ้น ชินชนะก็ยืดหลังตรงแล้วชะเง้อคอมองหา ‘คนรับใช้’ ของอีกฝ่ายที่บอกว่าจะมาด้วย แต่จนแล้วจนรอด ก็มีเพียงร่างบางของอิงตะวันเท่านั้นที่ก้าวฉับๆ ตรงไปยังหนุ่มแว่นหนาที่ยืนคุยกับมุกมาลาอยู่ด้านหลัง

เหนือฟ้าไปไหน... เขาสงสัย แต่แล้วก็เปลี่ยนไปสนใจว่าอิงตะวันกำลังคุยอะไรอยู่ เพราะดูจากสีหน้าบูดบึ้งของเด็กสาว และใบหน้าเคร่งเครียดใต้แว่นของมาวิน... น่ากลัวจะไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้น พอเจ้าของโครงการค่ายอาสาดึงตัวคนที่เริ่มจะขึ้นเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ไปคุยอีกทาง ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะลุกตามออกมาเงียบๆ



“อิงไม่นอนที่นี่!?!”

เสียงประกาศกร้าวจากลูกสาวของอิสระดังขึ้นทันที หลังถูกลากมายังสนามเด็กเล่นที่อยู่ห่างจากโรงอาหารพอสมควร ชายหนุ่มที่วันนี้สวมเสื้อโปโลกับกางเกงยีนส์ทะมัดทะแมงดันแว่นที่สวมอยู่พลางลอบถอนหายใจ

“ทำไมล่ะอิง ถึงที่นี่จะไม่สะดวกสบายเหมือนที่บ้าน แต่การได้อยู่ร่วมกันคนอื่น ก็สนุกไปอีกแบบนะ มีอะไรจะได้คุยกันด้วยไง พี่ไปดูห้องมาแล้วนะ เป็นห้องเรียน จัดที่นอนเรียบร้อย แล้วก็แยกชายหญิงเป็นสัดส่วน ส่วนเรื่องห้องน้ำ อาจต้องเดินไปเข้าไกลหน่อย แต่ครูใหญ่ก็ให้เด็กๆ ช่วยกันทำความสะอาดแล้ว เปลี่ยนน้ำในตุ่มใหม่หมดเลยนะ เป็นน้ำประปา ไม่ต้องกลัวสกปรก แล้วเรื่องอาหาร ฝีมือแม่ครัวพี่ก็เก่งระดับภัตตาคารเลยนะ รับรองอร่อยไม่แพ้ป้าอำไพแน่ๆ” มาวินเอ่ยอย่างใจเย็น แต่ก็ไม่ช่วยคลายร้อนในใจอีกฝ่ายลง

“อิงไม่นอนรวมกับคนอื่น”

“ถ้าอย่างนั้น อิงอยากให้พี่จัดห้องใหม่ให้อิงไหม ห้องเรียนยังเหลืออยู่อีกหลายห้อง อิงจะได้นอนคนเดียว”

“ไม่เอา อิงจะไปนอนโรงแรม”

“แถวนี้ไม่มีโรงแรมหรอกนะ ที่ใกล้ที่สุดก็เป็นบังกะโล ห่างออกไปสัก 300 เมตรได้ แล้วอิงจะเดินทางยังไง จะให้คนขับรถอยู่ด้วยเหรอ”

อิงตะวันนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบเสียงห้วนด้วยประโยคเดิม “อิงไม่อยู่ที่นี่”

“ไม่อยากอยู่ จะกลับก็ยังทันนะ พี่เขายังไม่ได้แบ่งกลุ่ม ยังมีเวลาเปลี่ยนใจ”

เสียงที่ตอบไม่ได้ดังขึ้นจากคนตรงหน้า แต่เป็นชายหนุ่มที่เดินอาดๆ มาด้วยท่าทางกวนประสาท อิงตะวันที่หันขวับไปมองขมวดคิ้วทันที แต่ยังไม่ทันว่าอะไร มาวินก็เอ่ยเสียก่อน

“ชัย... มีอะไรหรือเปล่า”

“เรื่องของผมไม่มีหรอกครับ แต่ผมเป็นพวกชอบจุ้นเรื่องคนอื่น เห็นพี่มาวินเดินออกมากับน้องอิง ก็เลยอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไร มาทันได้ยินน้องอิงกำลังเอาแต่ใจ ผมก็ทนไม่ได้ ต้องเสียมารยาทเสนอหน้าเข้ามาแจมด้วย”

“ชัยกลับไปที่โรงอาหารเถอะ ทางนี้พี่จะจัดการเอง”

“จัดการตามใจคนเอาแต่ใจให้เสียนิสัยกว่าเดิมเหรอครับ น้องอิงตัดสินใจมาที่นี่แล้ว ก็น่าจะให้ลองปรับตัว พยายามทำแบบที่คนอื่นเขาทำให้ได้สิครับ”

“อิงยังไม่ชิน ต้องใช้เวลา”

“แต่เวลามันจะหมดนะครับ ถ้าไม่เริ่มสักที... มาค่ายอาสา มาทำเพื่อคนอื่นไม่ใช่เหรอครับ ถ้ายังเห็นแก่ตัว ทำส่วนรวมวุ่นวาย ก็กลับไปดีกว่า”

“เอ๊ะ!!! ชักจะมากไปแล้วนะ เสนอหน้า ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” อิงตะวันแผดเสียงดังขึ้นหลังนิ่งฟังอยู่นาน ใบหน้าของเด็กสาวแดงก่ำ เต็มไปด้วยความโกรธ “มาทางไหนก็กลับไปเลย เกลียดขี้หน้า อย่าให้เจออีก”

“อิง!!” มาวินปรามเสียงต่ำ พลางยื่นมือมาลูบหลังเพื่อหวังให้อารมณ์ของเด็กสาวเย็นลง “ชัย... กลับไปที่โรงอาหารก่อนเถอะ พี่จะคุยกับอิงเอง”

ชินชนะทำเป็นส่ายหน้า ก่อนเหลือบหางตาไปยังเด็กสาว ราวกับต้องการยั่วโทสะ

“พี่มาวินใจดีอย่างนี้นี่เอง น้องอิงถึงได้ชะ....”

เพียงเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ เด็กสาวก็พุ่งตัวเข้าใส่พร้อมผลักที่อกกว้าง รวดเร็ว...เต็มกำลัง ชายหนุ่มที่แม้จะตัวใหญ่กว่าแต่ก็ไม่ทันระวังจึงเสียหลัก เขาต้องรีบคว้าขาชิงช้าที่อยู่ใกล้ๆ ไว้เพื่อทรงตัว โดยไม่รู้เลยว่าน็อตที่ยึดราวเหล็กด้านบนผุกร่อนเพราะกรำแดดกรำฝนมานาน เจอแรงเหนี่ยวเข้าไป ขารูปตัวเอก็หลุดออก ส่งผลให้คานเหล็กสนิมเขรอะร่วงลงใส่คนที่ยืนอยู่ข้างใต้...

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วอึดใจ หลังเสียงโครมครามของเครื่องเล่นที่พังลง มาวินได้สติ เขามองที่พื้น... ไม่ใช่ร่างของอิงตะวันที่อยู่ใต้คานเหล็ก หากเป็นแผ่นหลังของชายหนุ่มที่กำบังเธอไว้

“ชัย!! อิง!! เป็นอะไรหรือเปล่า” คำถามอย่างตระหนกดังขึ้น พร้อมๆ กับที่คนอื่นวิ่งมามุงด้วยความสนใจหลังได้ยินเสียงเอะอะ มุกมาลายกมือทาบอกเหมือนคนแก่ ขณะที่ทำนุทัพอุทานเบาๆ ว่า ‘คุณชิน’ ก่อนรีบเข้ามาช่วยมาวินยกคานขึ้นจากร่างเจ้านายของตนที่ปลอมตัวมา

“คุณชิน... เออ ชัย เป็นอะไรหรือเปล่า” ครีเอทีฟหนุ่มถามซ้ำ ขณะที่ชินชนะค่อยๆ ยันตัวขึ้นจากพื้น เขาไม่ได้ตอบ แต่กลับมองสำรวจคนในอ้อมแขนด้วยความเป็นห่วง

“อิง เจ็บตรงไหนไหม”

อิงตะวันส่ายหน้า แค่โดนเขากระโจนเข้ามากระแทกและล้มทับ ไม่ถึงกับตายหรอก... เธอคิดในใจอย่างหงุดหงิด พลางขยับจะผลักผู้ชายแปลกหน้าออกจากตัว แต่นั่นเอง ที่ทำให้เธอสังเกตเห็นบางอย่าง

ของเหลวสีแดงฉานที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผล ซึ่งถูกปลายตะขอรูปตัวเอสจากคานชิงช้าเฉาะเข้าที่หัวไหล่ เด็กสาวเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนอุทานเสียงสั่นทันที

“เลือด!!!”



อิงตะวันมองคนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความรู้สึกสับสน

หลังมาวินพามาส่งที่โรงพยาบาล หมอก็ทำการฉีดยากันบาดทะยักให้ เลือดหยุดไหลนานแล้ว บาดแผลก็ไม่ลึกเท่าไร ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่ทำไมเธอยังรู้สึกไม่ดีอยู่อีก

“อิง... จะไม่พูดอะไรสักหน่อยเหรอ” มาวินเอ่ยถามเบาๆ เธอเงยหน้ามองเขา คิ้วบางขมวด

“จะให้พูดอะไร” เด็กสาวถามเสียงห้วน การที่ผู้ชายคนนี้เสนอหน้ามาปกป้องโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ เธอก็ไม่จำเป็นต้องขอบคุณสักหน่อย หรือว่าเรื่องที่เธอผลักให้เขาล้มลง ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ เขาอยากยั่วโมโหเธอก่อน จะให้เธอขอโทษ... ไม่มีทางเด็ดขาด

“น้องอิงไม่ต้องพูดอะไรหรอก พี่รู้ว่าพี่เป็นคนผิดเอง ผิดที่กวนโมโหน้องอิง แล้วก็ผิด ที่ทำให้ชิงช้านั่นพังลงมา น้องอิงไม่เป็นอะไรพี่ก็ดีใจ พี่ขอโทษด้วยจริงๆ ที่ทำให้น้องอิงวุ่นวาย” ชายหนุ่มที่มีผ้ากอซพันหัวไหล่ขวาเอาไว้เอ่ยด้วยเสียงอ่อนระโหย มาวินส่ายหน้า ขณะที่ใบหน้าของอิงตะวันบูดบึ้งกว่าเก่า

จะพูดให้เธอยิ่งรู้สึกแย่ทำไม

“ฉันจะจ่ายค่ารักษาให้ก็แล้วกัน” เธอว่า เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอวัยกลางคนหน้าตาคงแก่เรียนก้าวเข้ามา แต่นั่นก็ไม่ทำให้คนบนเตียงประหลาดใจได้เท่ากับการเห็นว่า มีใครอื่นที่ตามมาด้วย

หญิงสาวร่างบางที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ มีหน้ากากอนามัยปิดปากไว้ แม้จะดูผ่านๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่คนที่ใกล้ชิดมาเกือบทั้งชีวิตอย่างเขามีหรือจะจำไม่ได้ นี่เหนือฟ้าคิดอะไรอยู่ ถึงได้มาปรากฏตัวต่อหน้ามาวิน...ผู้ชายที่อาจเผยโฉมที่แท้จริงของเธอ คิดว่าแค่นี้มันจะทำให้เธอเปลี่ยนเป็นคนละคนเหรอ... ดูละครมากไปแล้ว ไอ้หมอนี่แค่สายตาสั้นนะ ไม่ได้ตาบอด และต่อให้เธอพาทำนุทัพมาด้วยก็เถอะ ไอ้หนุ่มครีเอทีฟหน้าหนวดนี่จะช่วยอะไรได้

“คุณหนู เป็นยังไงบ้างคะ ตอนที่คุณหนูโทรมาบอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันตกใจแทบแย่”

หญิงสาวเอ่ยอย่างกล้าหาญ ทำเอาคนนอนฟังลุ้นใจจะขาด... เขาอดหวั่นไม่ได้จริงๆ ยามเห็นสายตาใต้แว่นหนาของมาวินหันไปมองเธออย่างพิจารณา... โดยไม่รู้ตัว เขาก็โพล่งออกไป “โอ๊ย ปวดแขน”

ได้ผลดั่งใจกับการเรียกร้องความสนใจ ทุกคนหันมา... รวมถึงคุณหมอด้วย

“ฉีดวัคซีนไปแล้วอาจมีอาการปวดและอาจมีไข้ได้ พยายามอย่าใช้แขนยกของหนัก ยังไงให้นอนที่โรงพยาบาลสักคืนก่อนก็ดีนะครับ”

“โอ๊ย ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่เป็นอะไรมาก ยังหนุ่มยังแน่น ร่างกายฟื้นตัวไวจะตาย”

“แต่พี่เห็นด้วยนะ นอนที่นี่สักคืนก็ดี เพราะไปที่โรงเรียน อาจไม่มีคนดูแล”

จะนอนได้อย่างไร ถ้าแอดมิต เรื่องมันก็ยิ่งไปกันใหญ่น่ะสิ ไหนจะหลักฐาน ไหนจะบัตรประชาชน... เหนือฟ้าที่ตัดสินใจมาที่นี่ทั้งที่รู้ว่ามันเสี่ยงเหลือเกินคิดอย่างวิตก นี่แหละเรื่องที่เธอห่วง แต่เธอก็รู้ว่าออกโรงมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว จึงรีบสะกิดให้ครีเอทีฟหนุ่มช่วยกอบกู้สถานการณ์ตามที่เตรียมไว้

“ผมว่าให้กลับไปที่โรงเรียนดีกว่า อยู่ที่นี่คนเดียว น่าสงสาร”

“แต่ที่โรงเรียน ทุกคนคงยุ่งกันมาก คงไม่มีเวลามาดูแล”

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เป็นหน้าที่คนก่อเรื่องสิ ยังไงคนที่ผลักน้องเขาล้มลง ก็คงไม่ใจดำปล่อยให้เขานอนซมอยู่คนเดียวหรอก” ทำนุทัพว่าตามบทที่ได้รับมา ก่อนหันไปยักคิ้วให้เหนือฟ้า ราวกับจะอวดว่าเขาก็แสดงเก่งเหมือนกัน

คนก่อเรื่องที่ถูกพาดพิงตัวเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ ใบหน้ายิ่งบึ้งตึงกว่าเก่า ขยับจะพูดบางอย่าง แต่ชินชนะรีบแทรกขึ้นก่อน

“ถ้าน้องอิงไม่สะดวก ให้คนของน้องอิงมาดูแลพี่แทนก็ได้ พี่ไม่ถือ”

เท่านั้นแหละ เด็กสาวก็เหมือนพบทางออกที่ดีที่สุด เธอหันมาทางนางสาวน้อยหน่า สั่ง โดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ

“เธอ... ดูแลเขาด้วย”



เหนือฟ้าไม่รู้ว่าผลมันออกมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร

ทั้งที่อยากให้อิงตะวันทำหน้าที่นางพยาบาล เพราะคิดว่าการได้คอยดูแลใส่ใจใคร จะทำให้หัวใจที่แข็งกระด้าง อ่อนบางลงบ้าง แต่ทำไมเรื่องกลับกลายเป็นเช่นนี้

หญิงสาวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หลังใช้เวลาทั้งวันไปกับการลากโต๊ะ ยกเก้าอี้ ปูฟูกและกางมุ้ง เพื่อเปลี่ยนห้องเรียนให้กลายเป็นห้องนอนส่วนตัวของคุณหนูอิงตะวัน รับคำสั่งจากเจ้านายที่นั่งวาดรูปอยู่ริมหน้าต่างด้วยความไม่สบายใจ ไม่ใช่เธอไม่ห่วงเขา แต่การไปอยู่กับเขาตามลำพังในห้องพยาบาล ขณะที่สมาชิกคนอื่นกำลังสนุกสนานอยู่รอบกองไฟในค่ำคืนแรกที่ได้รู้จัก มันไม่น่าใช่เรื่องที่ปลอดภัยนัก คนมือไวใจเร็วอาจทำอะไรก็ได้ แล้วเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอ ใครจะมาได้ยิน

ยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่น ร่างบางในเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงผ้าลายดอก พร้อมผัดแป้งเด็กจนหน้าขาววอก (เผื่อพบคนที่ไม่อยากพบจะได้จำหน้าไม่ได้) ยืนนิ่งมองบานประตูที่ปิดอยู่ด้วยความหนักใจ ก่อนสุดท้ายจะผลักเข้าไป

ไฟนีออนบนเพดานปิดอยู่ เหลือเพียงโคมไฟบนโต๊ะ แสงนวลส่องกระทบร่างที่นอนตะแคงบนเตียง เขาหันหลังให้ ไม่ขยับเขยื้อน ท่าทางจะหลับสนิท อาจเป็นเพราะฤทธิ์วัคซีนที่ทำให้ไข้ขึ้น โดยไม่รู้ตัว สองเท้าของเธอจึงก้าวเข้าไปหา ก่อนจะชะโงกหน้ามองใบหน้าที่อยู่อีกฝั่ง ชายหนุ่มหลับตาพริ้ม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน อดไม่ได้ เธอจึงยื่นมือไปอังที่หน้าผาก พบไอร้อนผ่าวที่ทำให้ต้องนิ่วหน้า

นี่เขาป่วยจริงๆ เหรอ...

คิดอย่างนั้น นางพยาบาลจำเป็นก็จัดแจงหาผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดมาเช็ดเนื้อตัวใต้เสื้อกล้ามสีขาวอย่างแผ่วเบา เหมือนที่ครั้งหนึ่ง เด็กหญิงเหนือฟ้าเคยปฏิบัติต่อพี่ชายของเธอ

‘พี่หนึ่ง รุ้งเช็ดตัวให้นะ พี่หนึ่งหายไวๆ นะ เราจะได้มาเล่นกันอีก’ เด็กน้อยวัย 8 ขวบว่า ยามยกผ้าชุ่มน้ำขึ้นโป๊ะหน้าของคนที่นอนอยู่ แต่ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อจรัสกร...มารดาของเขาที่เข้ามาเมื่อเห็นสภาพร้องโวยวาย

‘ตายแล้ว!!! ยายรุ้ง ทำไมไม่บิดน้ำออกก่อน ตาหนึ่งเปียกโชกไปหมดแล้ว ถ้าตาหนึ่งไข้กลับจะทำยังไง ไปๆ ออกไปเล่นข้างนอกไป’

‘รุ้ง...รุ้งขอโทษค่ะ รุ้งไม่ทราบ’ เด็กน้อยว่าหน้าสลด เตรียมจะถอยหนีตามคำสั่ง แต่พี่ชายวัย 13 ก็ดึงมือไว้

‘ไม่เป็นไรหรอกฮะแม่ ผมหายดีแล้ว ผมแข็งแรงจะตาย ไข้ไม่กลับมาหรอกฮะ ให้รุ้งเช็ดตัวผมต่อนะฮะ... รุ้งอย่าลืมบิดผ้าด้วยนะ แม่จะได้ไม่ว่าอีก’ เด็กชายชินชนะบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ไม่พูดอะไร เพราะไม่อยากขัดใจลูกชายคนเดียว แต่นั่นก็ทำให้ครั้งต่อๆ มารวมถึงครั้งนี้ ผ้าในมือเหนือฟ้า ถูกบิดจนเกือบแห้ง

หญิงสาวคิดถึงความหลังแล้วอดยิ้มไมได้ พี่หนึ่งใจดีกับเธอเสมอ เป็นคนเดียวในบ้านหลังนั้นที่ทำให้เธอมีความสุข ส่วนแม่ของเขา...ถึงจรัสกรจะไม่ได้แสดงออกว่าเกลียดชังเมียน้อยและลูกที่ติดมา เหมือนอย่างที่แจ่มกมลปฏิบัติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ฝ่ายนั้นก็มีรัศมีบางอย่าง ที่ทำให้เธอไม่อยากยุ่งด้วย

ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ตอนเด็กเธอก็เกร็งเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ มาวันนี้เธอเลยเกรงใจ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า

เหนือฟ้าบอกตัวเองเช่นนั้น อาจจะจมอยู่กับความคิด ต่อไปอีกสักพัก หากไม่ได้เสียงที่แว่วมาเสียก่อน

“คงหลับไปแล้วมั้งคะป่านนี้”

“ผมอยากแวะเข้าไปดูหน่อย”

ไม่ต้องเลยว่าเสียงใคร เธอจำได้อย่างแม่นยำ... สมองสั่งว่ามาวินและมุกมาลากำลังตรงมาทางนี้ พยาบาลจำเป็นรีบมองหาที่ซ่อนทันที แต่นอกจากเตียงหนึ่งเตียงที่มีคนนอนอยู่ ตู้ยา และโต๊ะติดผนัง ก็ไม่มีอะไรพอเป็นที่หลบภัยได้เลย

เอาอย่างไรดีเหนือฟ้า!!!



------------------------------------

มาต่ออย่างว่องไว หรือเปล่า!?! 5555

คุณ sukhumvitt66 : ขอโทษนะค้า แบบว่า ปมร้าวยังไม่เปิด >< อดใจรออีกประเดี๋ยวนะค้า

คุณ OHLaLa : แบบว่าอาจต้องนั่งรออีกนิดนึง ขอโทษด้วยนะคะที่ยังไม่เปิดปม T^T

คุณพันธุ์แตงกวา : อยากมอบรางวัลเมขลาให้คุณอิสระไหมคะ 555

คุณ ภาวิน : ขอบคุณมากค้าาา เพ่งคอมนานๆ แล้วปวดตาเหมือนกันเลยค่ะ 0-0 ดูแลสุขภาพนะคะ ด้วยรักและห่วงใย <3

คุณ ดังปัณณ์ : เป็นคนโหดค้า

คุณ kealek : แบบว่าเค้ายังไม่ออกอ่ะ รออีดนิดนะคะ

คุณ เิเดิมเดิม : อดใจรออีดนิดจริงๆ ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ


ปมร้าวยังไม่เปิดเผย ขอแก้ปมใหมๆ่ ก่อนนะคะ้ ฝากเอาใจช่วยน้องรุ้งกับพี่หนึ่งด้วย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณสำหรับการติดตามค้า







ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2556, 23:05:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2556, 23:06:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1345





<< บทที่ ยี่สิบ : แผน แผน และแผน   บทที่ ยี่สิบสอง (จบ) : ทำโทษ >>
OhLaLa 3 ส.ค. 2556, 23:40:49 น.
ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ยินดีติดตามไปเรื่อยๆ ค่ะ เอาล่ะสิ รุ้งจะหลบยังไง


ดังปัณณ์ 4 ส.ค. 2556, 00:07:47 น.
พอกหน้าขาววอกแล้วกลัวอะไรจ๊า หนูรุ้ง 555+


พันธุ์แตงกวา 4 ส.ค. 2556, 04:02:20 น.
ทำไงดีทีนี้ จะใช้มุกเดียวกับคุณชัยได้มั้ยนะฮ่าๆๆ


Sukhumvit66 4 ส.ค. 2556, 12:11:05 น.
ไม่เป็นไรเลยค่ะ ลุ้นกันต่อ อิอิ


kaelek 4 ส.ค. 2556, 21:24:28 น.
อัยย๊ะ!! จะซ่อนไหนดีล่ะเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account