สายธารรักซาตาน
อสมา อิศรานุกูล

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ผู้ร่ำรวยจากฐานพ่อแม่เล็กน้อย แล้วต่อยอดมาเองจนกลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดผู้ถูกคนในวงสัมคมจับตามอง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หมายจะจับเขามาแนบครอง แต่เขากลับทำตัวไม่เป็นที่โดดเด่น และหนีสังคมอันน่าเบื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนเพียงลำพังอย่างเงียบสงบ เพราะได้รับบาดแผลจากครอบครัวในอดีต โดยมีผู้พ่อเป็นคนหยิบยื่นให้







ปาลิตา พฤกษาชาติ

นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน





นันทิตา

น้องเล็กของบ้านที่อสมารักและห่วงใยเสมอมา แต่หารู้ไม่ว่าน้องเขาเองคือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้โดยไม่รู้ตัว





เจนนิเฟอร์

ภรรยาคนแรกและคนเดียวที่อสมารักมาตลอด และรู้สึกผิดไม่มีวันจืดจางกับความผิดพลาดจากชีวิตการแต่งงานในอดีต พลาดจนเขาไม่คิดจะย้อนกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก ถ้าหากคนที่จะก้าวมาเป็นภรรยาอีกไม่ใช่เจนนิเฟอร์คนนี้



แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ต่างได้ยินกิติศัพท์ของอสมาดีว่าเพลบอยแค่ไหน เขาใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงทุกคนที่เอาเรือนร่างมาบนเปรอเขาโดยไม่คิดจะจริงจังด้วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครคิดจะจับเขาด้วยวิธีปล่อยให้ท้อง เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดนั่นคือให้ไปทำแท้ง และไม่เรียกใช้งาน ไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงของเขาทุกคนจึงเกรงกลัวในเรื่องนี้มาก

ปาลิตาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กลัว แต่จะมีความเกลียดในตัวเขามากกว่า แม้จะต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาตามลำพังแต่ก็จำใจมาเท่านั้น และจะหลับหูหลับตาทำหน้าที่ลูกหนี้จำนองให้เขาจนครบสองปี แล้วจะรีบหนีไปให้ไกลสุดไกลทีเดียว แต่อสมาไม่คิดจะเข้าใกล้ปาลิตาแต่อย่างใด นอกจากมอบหน้าที่ทำงานบ้านและทำอาหารให้เขาเท่านั้น ยังความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่นั่นเธอก็เห็นเป็นเรื่องดีที่สุด จึงทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องควบคู่กับการไปเรียนต่อให้จบ เพราะอสมามองเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงอนุญาตให้เธอไปเรียนต่อและรับเป็นคนส่งเสียเอง

นั่นทำให้ปาลิตาค่อยมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกลบล้างลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาหอบผู้หญิงสวยเสด็จเข้ามาปรนเปรอในบ้านอย่างไม่เกรงใจเธอเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีอีกที่เธอจะได้ไม่ต้องมอบความสาวให้เขาเชยชม จะได้เก็บไว้ให้สิงหาคนรัก ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอสมาเลย แม้จะระแคะระคายบ้างจากคนรอบข้าง และด้วงที่จงใจจะพูดให้สิงหารู้

ปาลิตาเห็นความดีของอสมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะความมีน้ำใจที่เขามีให้ต่อเธอ และน้อง ๆ ต่างพ่อที่จนกรอบแทบไม่มีข้าวจะกิน เขาก็แบ่งปันเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ขาด แต่ความปลื้มปีตินี้ ก็โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวเขา ที่โหดร้ายทารุนกับผู้หญิงของเขาหลายคนที่มาบอกข่าวเรื่องการตั้งท้อง แล้วถูกเขาไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ไยดี แต่ท้ายที่สุดความดีของเขาก็เอาชนะความเกลียดของเธอได้ เมื่อเธอเรียนจบแล้วเขาประสงค์จะเรียกใช้งานเธอเป็นครั้งแรก เธอก็ยินยอมพร้อมใจไม่ได้ขัดขืนเหมือนที่เคยคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับเขาเลย

และความรักของปาลิตาก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดอสมา และได้ไปไหนต่อไหนหรือได้ข้าวของเงินทองอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน อสมาเองก็ปลื้มเธอไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ยุ่ง ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้ขี้บ่น อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้เขาสบายใจ ไม่อยากจะไปหาใครอีก ทั้งคู่ต่างแสดงความรักออกมาให้กันและกันผ่านแววตาอันหวานซึ้ง การกระทำอันอ่อนนุ่มที่หยิบยื่นให้กันไม่ว่างเว้น





ตามคำ ดุ ด่า ว่า กล่าว ตัก เตือน ของผองเพื่อนที่แสนดีจร้า

ช่วงนี้กันเกราเลยต้องออกจากป่าชั่วคราว เพื่อมามองตาดูชาวโลกบ้าง เลยถือโอกาสเอานิยายไปแปะไว้ที่เวปประจำ (แต่ไม่ค่อยได้เอานิยายไปลง) ให้อ่านกัน

และจะพยายามตามอัพให้ด่วนจี๋ ทันกับเวปอื่น ขอกำลังใจให้คนป่าด้วยนะคร้าาาาา

เหงาๆๆๆๆ ต้องการเพื่อนๆๆๆๆๆ มากดไล้ท์ มาแชร์ มาติชม ด่วนที่สุดจร้าาาาาา












Tags: พระเอกหนุ่มใหญ่ นางเอกสวยใส

ตอน: เขตแดนของลูกหนี้

อรุณรุ่งของวันใหม่เข้ามาเยี่ยมเยือนและยังไร้วี่แววของเจ้าหนี้ ปาลิตาไม่มีแม้แต่กระจิตกระใจจะลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อไปมหาวิทยาลัย และยิ่งจะต้องพานพบกับคนรักด้วยแล้วยิ่งไม่อยากก้าวขาออกไปไหนเลย แต่ก็จำต้องฝืนเก็บซ่อนความเสียอกเสียใจเอาไว้ภายในให้ดี เพื่อจะได้ตามเก็บฝันสุดท้ายที่เจ้าหนี้ไม่ได้ห้ามหรือให้หยุดนั่นคือใบปริญญามาครองครอง

สิงหาจ้องมองดวงหน้าขาวสวยของคนที่กุมหัวใจเขาไว้ทั้งดวง ขณะเดินออกมาจากสวนพร้อมอริสา สองวันเต็ม ๆ ที่เขาติดต่อเธอไม่ได้ ไปถามพ่อแม่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรนอกจากไล่ตะเพิดออกมา ดีที่รู้จากอริสาว่าเธอมาค้างที่บ้านด้วย ทำให้เบาใจไปได้มาก สายตาอันอ่อนโยนทอดไปหาอีกสายตาที่ดูจะหมองหม่นลงอย่างไม่ต้องสังเกตนาน

“แอ้! ทะเลาะกับลุงด้วงเหรอ ถึงได้มานอนบ้านแก้ม เจ้าของสวนไม่ว่าเอาเหรอที่คนนอกเข้าไปรุ่มร่ามน่ะ แล้วมือถือทำไมไม่เปิด สิงโทรหาไปรู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ติดต่อไม่ได้ ห่วงแทบแย่”

เพราะปกติเวลาสายหยุดไม่สบายก็ไม่เห็นปาลิตาจะมานอนเป็นเพื่อนอริสาแต่อย่างใดตามที่ได้รู้มา เขาจึงคิดว่าคงจะมีเหตุผลอื่นมาเจือด้วยและเดาได้ว่าคงเป็นเจ้าเก่าแน่จึงรีบเอ่ยถามออกไป แต่ใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจที่ได้เห็นคนรัก กระเป๋าของเธอเขาก็คว้าไปสะพายไว้ที่บ่าให้แทน แถมมีน้ำใจกับอริสาด้วยการทำแบบเดียวกัน ระหว่างทั้งสามเดินไปตามถนนเล็ก ๆ เพื่อออกไปขึ้นรถเมล์หน้าปากทาง

“ก็มีปัญหานิดหน่อยจ้ะสิง แต่ไม่รุนแรงหรอก แอ้ว่าเรารีบไปดีกว่านะ วันนี้มีเรียบคาบแรก”

ปาลิตาตัดบทด้วยการเดินจ้ำไปข้างหน้าโดยไม่คิดจะรอใคร และเพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้คนรักเห็นกลุ่มน้ำตาที่เอ่อเต็มเบ้าพร้อมที่จะไหลรินออกมาหากไม่รีบหักห้ามเอาไว้ อริสาเข้าใจเพื่อนดีจึงเดินตามโดยไม่ได้พูดอะไร ส่วนสิงหาก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน เพราะปัญหาทางบ้านของเธอเขารับรู้มาโดยตลอดจึงเห็นเป็นเรื่องเกือบจะธรรมดาด้วยซ้ำ จึงไม่ได้ไล่เลียงถามซ้ำซาก รังแต่จะทำให้อารมณ์เสียตามไปด้วย จึงรีบก้าวเดินให้ทันสองสาวไปโดยเร็ว ไม่นานทั้งสามต้องรีบพาตัวเอง ให้ไปยืนอยู่ห่าง ๆ หลุมที่มีน้ำเจิ่งนองในทันที เมื่อเห็นรถที่คุ้นตาแล่นสวนมา เพราะไม่อยากจะกลับไปเปลี่ยนผ้าใหม่อีก สังเกตจากความเร็วแล้วถ้ามัวยืนโอ้เอ้คงไม่รอดแน่

แต่ครั้งนี้ทุกคนเดาผิด เพราะเจ้าของรถชลอความเร็วลงเมื่อเห็นคนที่คิดว่ารู้จัก แต่ก็ไม่ได้คิดจะจอดทักทายแต่อย่างใด นอกจากจะขับไปตามทิศทางอันคุ้นเคยมาหลายปี ส่วนที่ไม่คุ้นก็คือต่อไปนี้จะต้องมีคนมาอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกันนี่ล่ะ ถ้าถามตอนนี้เขาตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่ได้คิดจะพิศวาสเด็กนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

มองปราดเดียวเขาก็บอกได้ว่าเจ้าหล่อนไม่ได้สวยสดงดงามอะไรจนต้องดึงความสนใจจากเขาได้ในเร็วเพียงแรกเห็น ตัวก็ผอมบาง เล็กกระจิดริด หากจะจับจะคลำไปตรงไหนก็คงจะเจอแต่กระดูก หน้าตาก็จืดชืดเหมือนเต้าหู้ทอด การแต่งกายก็ธรรมดา ๆ หรือไร้รสนิยมด้วยซ้ำ มธุรสวาจาหรือก็ยังไม่เห็น ต่างจากผู้หญิงของเขาแต่ละคนราวฟ้าดิน เพราะแต่ละคนล้วนแล้วก็สะสวยสะโอดสะองระดับนางเอกหนังหรือนางแบบทั้งนั้น ปากหรือก็ออดอ้อนน่ารักน่าชังน่าเลี้ยงดู

แต่เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงยอมช่วยชีวิตน้อย ๆ เอาไว้ ทั้งที่จะทำเป็นไม่สนใจและปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามทางที่ควรจะเป็นก็ได้ อาจจะเป็นเพราะชุดนักศึกษาอันใสบริสุทธิ์ กับท่าทางมุ่งมั่นของเด็กคนนั้นเวลาที่เขาเห็นเดินตั้งแต่ก้นซอยไปถึงปากทางบ่อยครั้งกระมัง หรือจะเป็นเพราะคำบอกเล่าของคนเก่าแก่อย่างอ่วมกับสายหยุดเขาเองก็ตอบไม่ได้จึงเกิดความสงสารขึ้นมา

‘แอ้เป็นเด็กนิสัยดี กิริยามารยาทเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย รู้กาละเทศะ เรียนก็เก่งค่ะคุณท่าน ลูกสาวป้ายังต้องพึ่งให้ติวช่วยตลอดเลยไม่งั้นก็คงต้องออกตั้งแต่เข้าเรียนปีแรกแล้วล่ะค่ะ ป้าเห็นครอบครัวนี้ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ใหม่ ๆ โน่นแน่ะค่ะ เห็นว่าลาออกจากราชการเพราะเบื่อ เลยหอบลูกเมียมาเป็นชาวสวน ตอนนั้นแอ้ยังเล็กอยู่เลย ก็ได้แก้มเป็นเพื่อนวิ่งเล่นด้วยกันตั้งแต่นั้นมา

ความเป็นคนรักดี และอะไรที่ดี ๆ ในตัวมันคงจะเหมือนผู้พ่อค่ะ แต่จะว่าไปแม่มันก็ไม่ได้เป็นคนแย่อะไรเลยนะคะ จะมาเริ่มเสียก็อีตอนที่พ่อไอ้แอ้เป็นมะเร็งตายนั่นล่ะค่ะ พอขาดเสาหลัก นังมนถึงจำใจต้องหาคนไว้พึ่งพาอาศัย มาช่วยทำสวนเลี้ยงดูลูก เลยได้ไอ้เจ้าด้วงมาทำผัวไงคะ แรก ๆ มันก็เป็นคนดีหรอกค่ะ เอาการเอางานสารพัด จะมาดีแตกก็ตอนไม่กี่ปี่นี่ล่ะค่ะ หัดกินเหล้าเข้าบ่อน พอเมาได้ที่ก็ซ้อมลูกซ้อมเมียจนร้องไห้เสียงดังคับสวนทีเดียวค่ะ’

‘ซ้อมลูกซ้อมเมีย’ หรือจะเป็นเพราะคำคำนี้ จึงทำให้เขายอมและรับไม่ได้ หรือจะพูดให้ถูกคือเขาเกลียดท่าทีของผู้ชายทุกคนที่รังแกคนไม่มีทางสู้อย่างเช่นลูกเมียตัวเอง แม้วงจรชีวิตระหว่างเขากับของเด็กคนนั้นจะต่างกันคนละขั้วอยู่ไกลกันคนละฟากฟ้า ห่างกันคนละโยช แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกัน นั่นคือถูกรังแกจากผู้เป็นพ่อ แต่มั่นใจว่าเธอคงจะเจ็บน้อยกว่าเขามาก เพราะนั่นคือพ่อเลี้ยง แล้วอะไรจะเจ็บปวดเท่ากับการถูกพ่อบังเกิดเกล้ากระทำทารุณล่ะ

เสียงปิดประตูรถดัง ‘ปัง’ เรียกให้สายหยุดที่กำลังเก็บกวาดบ้านอยู่ต้องเดินไปชะโงกหน้ามอง แม้จะดีใจที่เจ้านายกลับบ้านได้สักที แต่ก็เก็บไว้แต่ในใจเท่านั้น ด้วยใบหน้าและท่าทีของเจ้านายตอนนี้เดาได้ว่าคงอารมณ์ไม่ดีมาจากไหนแน่ สายหยุดจึงเลี่ยงไปปัดกวาดเช็ดถูกในครัวโดยไม่คิดจะโผล่หน้าไปใกล้รัศมีห้าเมตรกับคนหน้าดุ พูดน้อยต่อยหนักเอาเสียเลย ส่วนอสมาเองพอถึงบ้านก็เข้าห้องปิดประตูเงียบเช่นกัน

เที่ยงตรงถึงได้ออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดสบาย ๆ อาหารบนโต๊ะเกือบจะเย็นแล้ว แต่ความหิวทำให้เขาขี้เกียจเอาไปเข้าไมโครเวป จึงตักเข้าปากโดยเร็ว ตามด้วยผลไม้หลายชิ้น จากนั้นก็พาตัวเองไปนั่งตรวจตราดูงานเกือบสามชั่วโมงจึงสังเกตเห็นว่ามีคนยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ใต้ต้นมังคุดแถวเชิงสะพาน เข้าใจว่าเด็กสาวคงไม่กล้าขึ้นบ้านขณะที่มีเขาอยู่เป็นแน่ เพียงเท่านั้นความเป็นส่วนตัวที่เคยมีมากว่าสิบปีก็หดหายไปในทันที

เขาเดินไประเบียงแล้วกวักมือเรียกเป็นสัญญาณให้คนในชุดนักศึกษาเดินขึ้นบ้านได้ แล้วกลับไปนั่งที่เดิมขณะจ้องมองร่างเล็ก ๆ กับดวงตาใสซื่อเดินมาช้า ๆ เขาเองก็ไม่ถนัดนักกับการจะต้องเปิดบทสนทนากับคนไม่คุ้นเคย แต่สถานะการณ์บังคับแบบนี้ก็คงจะต้องลุกขึ้นมาทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น และไม่อึดอัดทั้งสองฝ่าย

“กลับจากเรียนแล้วเหรอ มานั่งคุยกันหน่อยสิเรา”

น้ำเสียงอันทรงพลังกับท่าทีทรงอำนาจเอ่ยบอก แล้วลุกจากที่เดิมเดินไปนั่งขาไขว้ห้างตรงโต๊ะกินข้าวนอกระเบียง ปาลิตาเองก็เดินตัวลีบตามเขาไปห่าง ๆ เพราะนอกจากความเกลียดในตัวเขาที่มีมากมายแล้ว ก็ยังมีความกลัวล้นเหลือตามติดมาด้วย เพราะหน้าตาท่าทางอันเคร่งขรึมจริงจังจนน่าเกรงขาม และไม่อยากเข้าใกล้สักนิด เพิ่งเข้าใจว่าทำไมอริสาเพื่อนรักถึงไม่อยากมาเจอหน้าเขาเพราะอย่างนี้นี่เอง

“นั่งสิหรือจะยืนคุยค้ำหัวฉันอยู่แบบนี้” อสมาเชิญชวนด้วยน้ำเสียงและท่าทีปกติ แต่ช่างไม่ปกติสำหรับอีกคนนัก กระนั้นก็ยังค่อย ๆ ไปทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขาอยู่ดี

“เธอคงอ่านสัญญาเมื่อวันก่อนละเอียดแล้วนะ ฉันจะไม่ย้ำอีก ขอให้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งคัดด้วย เพราะฉันไม่ชอบให้ใครทำผิดแล้วมาอ้อนวอนขอโทษทีหลัง แต่ฉันก็เผลอยอมให้พ่อกับแม่เธอจนได้”

“ค่ะ” ปาลิตารับคำสั้น ๆ และเบาจนคนถามแทบไม่ได้ยิน แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจสองมือยกขึ้นกอดอกแล้วเริ่มบอกในสิ่งที่ตั้งใจไว้อย่างเป็นการเป็นงาน

“ปกติหน้าที่ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านหลังนี้เป็นของป้าสายหยุดทั้งหมด แต่ต่อไปฉันจะให้เธอทำแทน ส่วนรายละเอียดก็ไปถามเอากับป้าสายหยุดเองก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ก็เอาข้าวของขึ้นมาทำในครัวนี้ จะได้ไม่ต้องยกไปยกมาค่ำมืดอีกอย่างก็ไกลด้วย” เพราะสายหยุดจะทำอาหารมาจากบ้านพักแล้วยกมาให้เขาที่นี่ทุกมื้อ ซึ่งอันที่จริงก็ดีอยู่แล้ววิธีนี้ แต่ด้วยความที่ไม่รู้จะยกหน้าที่ไหนให้ลูกหนี้สาวได้ทำ เขาจึงยอมทนรำคาญเสียงกอกแก็ก ๆ ของเครื่องครัวซะเอง

“ค่ะ” ปาลิตารับคำแค่นั้น แล้วก็เงียบเพื่อรอให้เขาพูดต่อ

“ปกติฉันชอบอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครรบกวนหรือมาถามจุกจิก แต่เมื่อมีเธอมาอยู่ด้วย ก็พยายามอย่าลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของฉันก็แล้วกัน เธอคงรู้ว่าจะต้องทำยังไง ค่าอาหารและค่าเดินทางระหว่างที่เธอเรียนจนจบฉันจะให้เดือนหมื่นหนึ่งพอมั้ย ส่วนค่าเทอมก็แจ้งเลขาฉันได้ เกสรจะเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่นี่ โดยที่ฉันจะไม่ยุ่งเลย”

อสมาจ้องมองดวงหน้าอันหม่นหมองเพื่อรอคำตอบ ทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีใครปฏิเสธได้ สองปีกับหนี้ห้าล้าน แถมได้รายเดือนอีกล่ะ ไม่เอาก็บ้าแล้ว ส่วนเขายังมองไม่เห็นสิ่งของสำคัญอะไรที่จะมาตอบแทนน้ำเงินที่เสียไปได้เลย แม้แต่เรือนร่างอันหาที่เย้ายวนก็ยังไม่มี เรื่องออดอ้อนอ่อนหวาน หรือมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะแม่คุณคงจะพูดเป็นอยู่แค่คำเดียวกระมัง แต่ก็ช่างเถอะเบาหูดี อีกอย่างปี ๆ หนึ่งมูลนิธิที่เขาก่อตั้งขึ้นก็ช่วยคนจนมาเยอะแยะ ให้ทุนนักเรียนหรือก็มากมายหลายหน้าช่วยอีกสักคนจะเป็นไรไป

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณตามมารยาท เมื่อเขายังอุตส่าห์มีน้ำใจเจือจุนมาให้บ้าง หลังจากที่หนักใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของตัวเองอยู่พอดี



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:56:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:56:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 949





<< ก้าวพลาดหรืออย่างไร   แม่ครัวใหม่ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account