Uluru ด้วยรักนิรันดร์
ตอนที่ความรักนั้นจบลง
ชีวิตของผมก็เหมือนไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ...
นานเท่านาน ...
หัวใจจมดิ่งลงไปสู่เบื้องลึกของความทรงจำอันเจ็บปวด
ตอนที่คุณหายไป ...
ชีวิตผมบาดเจ็บจนลืมไปว่ามันสามารถรักษาได้
นานเท่านาน ...
หัวใจได้เยียวยาด้วยหัวใจ ...
แล้วเราคงข้ามผ่านมันไปด้้วยกัน ...
ชีวิตของผมก็เหมือนไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ...
นานเท่านาน ...
หัวใจจมดิ่งลงไปสู่เบื้องลึกของความทรงจำอันเจ็บปวด
ตอนที่คุณหายไป ...
ชีวิตผมบาดเจ็บจนลืมไปว่ามันสามารถรักษาได้
นานเท่านาน ...
หัวใจได้เยียวยาด้วยหัวใจ ...
แล้วเราคงข้ามผ่านมันไปด้้วยกัน ...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ความผิดกับดินเนอร์
แสงจันทร์ใกล้รุ่งสาดเข้าห้องมาทางบานหน้าต่าง เสียงแอร์ครางหึ่งๆ เบาๆ ปล่อยความหนาวเย็นแผ่เติมเข้ามาให้ทั่วทุกพื้นที่ของห้อง แม้แต่ใต้ผ้าห่มนวมหนา
หญิงสาวกระชับกอดบนแขนของเขาแน่นขึ้นแบบไม่รู้ตัว แต่พีรพงษ์ลืมตาตื่นแล้ว เขาค่อยๆ แกะแขนหญิงสาวออกอย่างเบามือที่สุดเพราะไม่อยากให้เธอตื่น ผิวเนื้อบางนั้นเย็นเมื่อต้องสัมผัส ชายหนุ่มวางมือเธอเบาๆ ขณะขยับตัวออกจากเตียง ขยับห่มคลุมร่างเพรียวที่เปลือยเปล่าไว้ด้วยผ้านวมให้มิดชิดจากความเย็น
เขาหยิบกางเกงมาสวม เสร็จแล้วเดินไปหยุดที่หน้าต่าง เขามองออกไปผ่านบานกระจกใส คอนโดสูงย่านกลางเมืองให้วิวสวยกว้างสุดสายตา
ชายหนุ่มครุ่นคิด เขาหันมองหญิงสาวบนเตียง ใบหน้าพริ้มหลับของเธอยังคงสวยเหมือนภาพวาด เปลือกตาปิดสนิทมีคราบอายชาโดว์บางๆ แก้มสีชมพูปลั่งด้วยความร้อนในตัวกำลังต่อสู้ความเย็น
เขาคงไม่รอรีที่จะเดินไปจูบบนเปลือกตานั่น หากว่าคนที่นอนอยู่เป็นเกม แต่ผู้หญิงบนเตียงตรงหน้านี้ไม่ใช่ อย่างไรเธอก็คือผู้หญิงที่ชื่อจูน
ความรู้สึกเกลียดตัวเองบุกรุกเข้ามาในสมอง ถึงแม้ว่าเกมจะเดินออกไปจากชีวิตนานมาก แต่ความทรงจำที่มีก็ยังทำงานอยู่ มันทำให้เขากลายเป็นคนเลวร้ายเมื่อมองตัวเองในกระจก ไม่รู้สิ บางครั้งพีรพงษ์ก็อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจูนเป็นแค่สายลมความต้องชะตาที่ผ่านมาพบกัน แล้วก็พัดพายไปจากกันแบบไม่ต้องรู้สึกรู้สา แต่เขารู้ว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนี้หญิงสาวแสดงออกว่ารักเขาหรืออย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่าเธออยากอยู่ใกล้ชิดเขา
แล้วเขาล่ะ?
“ตื่นแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มทักเมื่อเห็นเธอขยับตัวงัวเงียจากสภาพนอน ดวงตาเรียวใสมองเขาไม่วางตา
“ทำไมตื่นเร็วนักคะ เช้าแล้วเหรอ?” สรัญญาถามเสียงอู้อี้
“ยังเลย จูนนอนต่อเถอะ” เขาตอบ
หญิงสาวจ้องมองมาที่เขา ทำหน้ากรุ้มกริ่ม แววตาเคลิ้มบวกยิ้มละไม เธอใช้สายตาเรียกร้องให้เขาเข้ามาใกล้ๆ พอเขาแกล้งไม่ไปก็ทำหน้าบึ้ง ชายหนุ่มถึงได้เดินไปนั่งลงบนเตียง
สรัญญาคว้าของเขามากุมไว้ด้วยมือนุ่ม ซบแก้มลงบนหลังมือนั้นแล้วทำท่าจะหลับต่อ ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวกุมมือต่อไปจนหลับสนิทอีกครั้ง
.....................
ตอนสายหญิงสาวขับรถมาส่งเขาที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ วันนี้เป็นวันหยุดราชการที่ออฟฟิศก็หยุด แต่ตอนบ่ายเขามีนัดประชุมนอกรอบกับฝ่ายการตลาด ไม่อย่างนั้นสรัญญาก็คงดึงเขาไว้กับเธอทั้งวันเพราะเธอก็หยุดเหมือนกัน
พีรพงษ์ทิ้งตัวลงบนเตียง เขาหยิบรีโมททีวีบนโต๊ะหัวเตียงแล้วกดเปิดเครื่อง ช่องรายการเคเบิ้ลถูกไล่ไปตามตัวเลข ช่องรายการหนังมีหนังเรื่องที่เคยดูเขาเลยเปิดผ่าน ช่องรายการเพลงมีพิธีกรชายหัวใจหญิงหัวเราะไปดำเนินรายการไป เขาหยุดดูนิดหนึ่งก่อนเปลี่ยนช่องอีก ช่องสารคดีช่องที่หนึ่งมีเรื่องสัตว์โลก อีกช่องมีภาพขาว-ดำเป็นเรื่องสงคราม
ชายหนุ่มเปลี่ยนช่องไปจนตัวเลขมันวนจากสองหลักกลับมาหลักเดียว เขาปล่อยช่องข่าวให้มันเสนอข่าวไปเรื่อยๆ ก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
ก่อนเที่ยงพีรพงษ์เตรียมทำงานนิดหน่อยก่อนออกไปตามเวลานัด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเปิดขึ้นมามีหน้าจอเป็นภาพเกม หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อโปโลสีฟ้าครามภาพเดียวกันกับภาพในกรอบรูปบนหลังตู้เย็น เขาคว่ำภาพนั้นไว้นานหลายเดือนเหมือนไม่อยากจะเห็น แต่ก็ยังปล่อยภาพสกรีนหน้าจอเป็นรูปนี้ต่อไป
เสื้อสีฟ้าครามตัวนี้ทำให้พีรพงษ์จำได้ว่าวันนั้นเขากับเกมไปเที่ยวน้ำตกแห่งหนึ่งในจังหวัดไม่ไกลกรุงเทพฯ รูปนี้ถ่ายไว้ด้วยกล้อง SLR ที่เขาซื้อไว้ทำงาน ด้วยความที่เขาไม่ถนัดถ่ายภาพ เกมเลยชวนเขาไปเที่ยวและลองกล้อง ภาพนี้คือหนึ่งในนั้น
ในทีวีเป็นช่องข่าวที่กำลังรายงานข่าวต่างประเทศ
“โฆษกตำรวจสวิตเซอร์แลนด์เผยว่าผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นเพชรเมื่อสามเดือนก่อนถูกจับกุมได้ที่ฝรั่งเศส...”
“ญี่ปุ่นไม่พอใจสื่อจีนตีพิมพ์บทความอ้างกรรมสิทธิ์บนหมู่เกาะโอกินาวา...”
“สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลหูหนาน โดยวัดความรุนแรงได้ 5.7 ริกเตอร์...”
“สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้ากู้ภัยของออสเตรเลียเร่งออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสพภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังโดนพายุถล่มและเกิดน้ำท่วมหนักในหลายเมืองตามเขตชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์...”
ข่าวนี้สะดุดความคิดของพีรพงษ์ แต่ไม่ใช่ที่เนื้อข่าว หากเป็นคำว่า ออสเตรเลีย เพียงคำเดียว--เกมอยู่ออสเตรเลีย? จริงหรือเปล่าเขาไม่อยากได้คำตอบ แต่เขารู้ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยินมาตลอด นั่นคือใครสักคนที่ได้ข่าวของเธอคนนั้นบ้าง
ชายหนุ่มนั่งลงที่ขอบเตียง เอาสองมือประสานรับน้ำหนักศีรษะไว้ แม้จะปิดเปลือกตาแต่ก็ยังมีน้ำใสๆ ไหลซึมออกมาจากข้างในได้อยู่ดี
แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเกมเป็นแค่ช่วงเวลาที่ผ่านพ้น แต่การจะทำให้กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญนั้นยากมาก และนี่เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มพบว่าตัวเองยังคงติดอยู่กับความรู้สึกกัดกร่อน
....................
ทันทีที่สัญญาณไฟทางข้ามเปลี่ยนจากสีแดงรูปคนยืนเป็นสีเขียวรูปคนก้าวเท้า มนุษย์เมืองก็พากันเดินฉับๆ บนเส้นพาดขวางถนนสีขาว เช้าวันจันทร์อย่างนี้ถ้าไม่รีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ บรรดาอาหารกล่องบนรถเข็นหน้าตึกออฟฟิศสูงๆ แถวนี้จะไม่เหลือให้เลือกมากนัก
ชายหนุ่มเลือกแกงคั่วแห้งๆ ถุงหนึ่งกับหมูเส้นและข้าวสวยสองถุงจากแม่ค้าเจ้าประจำ ก่อนขึ้นไปนั่งกินเงียบๆ ตรงโต๊ะอเนกประสงค์ใกล้โซนพักของแม่บ้าน
“ทานข้าวเที่ยงกันนะคะ” สรัญญาโทรเข้ามาชวน
“ถ้าแถวออฟฟิศคงไม่มีปัญหาครับ แต่ไปไกลไม่ได้นะ” พีรพงษ์ตอบ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวใกล้ๆ เที่ยงจูนไปรอที่ร้านแถวตึกไนท์นะ แล้วจูนจะโทรหาอีกทีนะคะ” หญิงสาวนัดหมาย
ชายหนุ่มรวบช้อนส้อมไปล้าง เอาจานที่เขี่ยเศษอาหารทิ้งแล้ววางไว้ในถังเพราะเดี๋ยวแม่บ้านจะมาจัดการให้ตามหน้าที่ เปิดซองยาแล้วเลือกตัวที่ต้องทานหลังอาหารตอนเช้าออกมา ก่อนที่จะรีบเก็บซองยาใส่กระเป๋าเสื้อ
พีรพงษ์นึกสงสัยตัวเองว่าความหงุดหงิดใจมาจากไหนกัน ตลอดทั้งเช้าเขาทำงานแบบผิดพลาดสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่ตลอด จนต้องผละมาล้างหน้าล้างตาและตั้งสติถึงสามหน ความกระวนกระวายใจระดมกำลังกันเข้ามาจนอึดอัด
ทันทีที่เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยง ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้นดู แต่ผิดสังเกตว่าหญิงสาวไม่เห็นติดต่อมาเสียที จนเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที พีรพงษ์เลือกที่จะไปหาอะไรทานโดยไม่รอหญิงสาวแล้ว
ก่อนบ่ายสรัญญาส่งข้อความขอโทษมา พร้อมกับขอเวลาช่วงเย็นอยู่ด้วยกัน เธอจะมารับเขาที่ออฟฟิศ
พีรพงษ์ไม่ได้รู้สึกโกรธอีกฝ่าย แล้วก็ไม่ได้นึกรังเกียจใดใด แต่บางครั้งก็อดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้กับการที่หญิงสาวหนึ่งคนเข้ามากำหนดและใช้เวลาชีวิตของเขาตามใจตัวเอง ในความรู้สึกโกรธไม่ลงนั้นเพราะเขาเพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกันว่า ก่อนนี้หน้านี้เขาก็ทำกับผู้หญิงที่รักเขาแบบนี้เช่นกัน
ใช่แล้ว—โดยไม่เคยรู้สึกก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มเองที่คิดว่าคนรักต้องมีเวลาอยู่ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด เวลาของสองคนควรใช้ร่วมกันเสมอ พอเกมเริ่มให้เวลาสำหรับตัวเองบ้าง ซึ่งไม่ได้มากมายอะไรเลย แต่เป็นเขาเองที่อยู่ในสภาวะโหยหาคนเอาใจใส่มากไป ทำให้เขามองไม่เห็นสิ่งที่เธอได้ทำไว้ว่ามันพอดีแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเจ็บปวด พีรพงษ์อดไม่ได้ที่จะปลอบใจตัวเองในใจต่อความผิดพลาดที่ได้ทำลงไปแล้ว ดังนั้นเมื่อจูนเลือกใช้เวลากับเขาเพราะความรู้สึกว่ารัก เขาก็ควรจะถนอมความรู้สึกที่มอบให้นั้น แม้จะไม่แน่ใจว่าต่อไปจะดีหรือแย่สักแค่ไหนก็ตาม
วันนี้เขามีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาให้โอกาสตัวเองได้ใกล้ชิดเหมือนเคยมีให้เกมคนเดียวเท่านั้น ความผิดเดิมๆ ที่เคยทำกับเกม มันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอาประสบการณ์เก่ามาระมัดระวังที่จะทำอะไรไม่ให้ผิดพลาดอีก ถึงแม้จะไม่เข้าใจความรู้สึกลึกๆ ตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่
ความคิดที่ผ่านการเตือนสติตัวเองทำให้พีรพงษ์เปิดหาข้อมูลร้านอาหารที่คนมีคนรีวิวไว้ เขาแค่คิดว่าอยากจะทำอะไรให้หญิงสาวได้รู้สึกมีความสุขบ้างแม้จะเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
พีรพงษ์พิมพ์คำว่า ร้านอาหาร ดินเนอร์ ริมน้ำ ลงไปตรงช่องค้นหาคำ พอก็คำสั่งเริ่มค้นหา อินเตอร์เน็ตก็แสดงผลอย่างรวดเร็ว มีทั้งข้อมูลและรูปภาพ
แต่ข้อมูลที่ได้ยังไม่ถูกใจนัก เขาเปลี่ยนคำสำหรับค้นหาเป็น ดินเนอร์ ฮันนี่มูน เจ้าพระยา แล้วเริ่มค้นหาที่รูปภาพก่อน
รูปภาพบรรยากาศร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เหมาะต่อการใช้เป็นสถานที่ดินเนอร์ หรือเหมาะต่อการมาฮันนี่มูนพุ่งขึ้นมาอวดสายตา
เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ดูรูปภาพและคลิ๊กเข้าดูข้อมูลร้าน ดูความคิดเห็นของลูกค้าที่เคยไปในแต่ละร้าน เมื่อเปิดไล่หาได้สามแห่งที่น่าสนใจ เขาก็สรุปเลือกร้านหนึ่งในสามร้านนั้น จัดการโทรศัพท์ไปจองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ไว้ตอนสองทุ่ม พร้อมกับเตรียมเซอร์ไพรซ์ให้หญิงสาวประหลาดใจเล่น
พีรพงษ์ส่งข้อความกลับไปหาสรัญญาว่า
“เย็นนี้ไม่ต้องแวะมารับ ไปเจอกันที่ซอยสามเสนสาม ตอนสองทุ่มครึ่งนะ”
....................
หญิงสาวกระชับกอดบนแขนของเขาแน่นขึ้นแบบไม่รู้ตัว แต่พีรพงษ์ลืมตาตื่นแล้ว เขาค่อยๆ แกะแขนหญิงสาวออกอย่างเบามือที่สุดเพราะไม่อยากให้เธอตื่น ผิวเนื้อบางนั้นเย็นเมื่อต้องสัมผัส ชายหนุ่มวางมือเธอเบาๆ ขณะขยับตัวออกจากเตียง ขยับห่มคลุมร่างเพรียวที่เปลือยเปล่าไว้ด้วยผ้านวมให้มิดชิดจากความเย็น
เขาหยิบกางเกงมาสวม เสร็จแล้วเดินไปหยุดที่หน้าต่าง เขามองออกไปผ่านบานกระจกใส คอนโดสูงย่านกลางเมืองให้วิวสวยกว้างสุดสายตา
ชายหนุ่มครุ่นคิด เขาหันมองหญิงสาวบนเตียง ใบหน้าพริ้มหลับของเธอยังคงสวยเหมือนภาพวาด เปลือกตาปิดสนิทมีคราบอายชาโดว์บางๆ แก้มสีชมพูปลั่งด้วยความร้อนในตัวกำลังต่อสู้ความเย็น
เขาคงไม่รอรีที่จะเดินไปจูบบนเปลือกตานั่น หากว่าคนที่นอนอยู่เป็นเกม แต่ผู้หญิงบนเตียงตรงหน้านี้ไม่ใช่ อย่างไรเธอก็คือผู้หญิงที่ชื่อจูน
ความรู้สึกเกลียดตัวเองบุกรุกเข้ามาในสมอง ถึงแม้ว่าเกมจะเดินออกไปจากชีวิตนานมาก แต่ความทรงจำที่มีก็ยังทำงานอยู่ มันทำให้เขากลายเป็นคนเลวร้ายเมื่อมองตัวเองในกระจก ไม่รู้สิ บางครั้งพีรพงษ์ก็อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจูนเป็นแค่สายลมความต้องชะตาที่ผ่านมาพบกัน แล้วก็พัดพายไปจากกันแบบไม่ต้องรู้สึกรู้สา แต่เขารู้ว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนี้หญิงสาวแสดงออกว่ารักเขาหรืออย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่าเธออยากอยู่ใกล้ชิดเขา
แล้วเขาล่ะ?
“ตื่นแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มทักเมื่อเห็นเธอขยับตัวงัวเงียจากสภาพนอน ดวงตาเรียวใสมองเขาไม่วางตา
“ทำไมตื่นเร็วนักคะ เช้าแล้วเหรอ?” สรัญญาถามเสียงอู้อี้
“ยังเลย จูนนอนต่อเถอะ” เขาตอบ
หญิงสาวจ้องมองมาที่เขา ทำหน้ากรุ้มกริ่ม แววตาเคลิ้มบวกยิ้มละไม เธอใช้สายตาเรียกร้องให้เขาเข้ามาใกล้ๆ พอเขาแกล้งไม่ไปก็ทำหน้าบึ้ง ชายหนุ่มถึงได้เดินไปนั่งลงบนเตียง
สรัญญาคว้าของเขามากุมไว้ด้วยมือนุ่ม ซบแก้มลงบนหลังมือนั้นแล้วทำท่าจะหลับต่อ ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวกุมมือต่อไปจนหลับสนิทอีกครั้ง
.....................
ตอนสายหญิงสาวขับรถมาส่งเขาที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ วันนี้เป็นวันหยุดราชการที่ออฟฟิศก็หยุด แต่ตอนบ่ายเขามีนัดประชุมนอกรอบกับฝ่ายการตลาด ไม่อย่างนั้นสรัญญาก็คงดึงเขาไว้กับเธอทั้งวันเพราะเธอก็หยุดเหมือนกัน
พีรพงษ์ทิ้งตัวลงบนเตียง เขาหยิบรีโมททีวีบนโต๊ะหัวเตียงแล้วกดเปิดเครื่อง ช่องรายการเคเบิ้ลถูกไล่ไปตามตัวเลข ช่องรายการหนังมีหนังเรื่องที่เคยดูเขาเลยเปิดผ่าน ช่องรายการเพลงมีพิธีกรชายหัวใจหญิงหัวเราะไปดำเนินรายการไป เขาหยุดดูนิดหนึ่งก่อนเปลี่ยนช่องอีก ช่องสารคดีช่องที่หนึ่งมีเรื่องสัตว์โลก อีกช่องมีภาพขาว-ดำเป็นเรื่องสงคราม
ชายหนุ่มเปลี่ยนช่องไปจนตัวเลขมันวนจากสองหลักกลับมาหลักเดียว เขาปล่อยช่องข่าวให้มันเสนอข่าวไปเรื่อยๆ ก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
ก่อนเที่ยงพีรพงษ์เตรียมทำงานนิดหน่อยก่อนออกไปตามเวลานัด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเปิดขึ้นมามีหน้าจอเป็นภาพเกม หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อโปโลสีฟ้าครามภาพเดียวกันกับภาพในกรอบรูปบนหลังตู้เย็น เขาคว่ำภาพนั้นไว้นานหลายเดือนเหมือนไม่อยากจะเห็น แต่ก็ยังปล่อยภาพสกรีนหน้าจอเป็นรูปนี้ต่อไป
เสื้อสีฟ้าครามตัวนี้ทำให้พีรพงษ์จำได้ว่าวันนั้นเขากับเกมไปเที่ยวน้ำตกแห่งหนึ่งในจังหวัดไม่ไกลกรุงเทพฯ รูปนี้ถ่ายไว้ด้วยกล้อง SLR ที่เขาซื้อไว้ทำงาน ด้วยความที่เขาไม่ถนัดถ่ายภาพ เกมเลยชวนเขาไปเที่ยวและลองกล้อง ภาพนี้คือหนึ่งในนั้น
ในทีวีเป็นช่องข่าวที่กำลังรายงานข่าวต่างประเทศ
“โฆษกตำรวจสวิตเซอร์แลนด์เผยว่าผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นเพชรเมื่อสามเดือนก่อนถูกจับกุมได้ที่ฝรั่งเศส...”
“ญี่ปุ่นไม่พอใจสื่อจีนตีพิมพ์บทความอ้างกรรมสิทธิ์บนหมู่เกาะโอกินาวา...”
“สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลหูหนาน โดยวัดความรุนแรงได้ 5.7 ริกเตอร์...”
“สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้ากู้ภัยของออสเตรเลียเร่งออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสพภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังโดนพายุถล่มและเกิดน้ำท่วมหนักในหลายเมืองตามเขตชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์...”
ข่าวนี้สะดุดความคิดของพีรพงษ์ แต่ไม่ใช่ที่เนื้อข่าว หากเป็นคำว่า ออสเตรเลีย เพียงคำเดียว--เกมอยู่ออสเตรเลีย? จริงหรือเปล่าเขาไม่อยากได้คำตอบ แต่เขารู้ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยินมาตลอด นั่นคือใครสักคนที่ได้ข่าวของเธอคนนั้นบ้าง
ชายหนุ่มนั่งลงที่ขอบเตียง เอาสองมือประสานรับน้ำหนักศีรษะไว้ แม้จะปิดเปลือกตาแต่ก็ยังมีน้ำใสๆ ไหลซึมออกมาจากข้างในได้อยู่ดี
แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเกมเป็นแค่ช่วงเวลาที่ผ่านพ้น แต่การจะทำให้กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญนั้นยากมาก และนี่เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มพบว่าตัวเองยังคงติดอยู่กับความรู้สึกกัดกร่อน
....................
ทันทีที่สัญญาณไฟทางข้ามเปลี่ยนจากสีแดงรูปคนยืนเป็นสีเขียวรูปคนก้าวเท้า มนุษย์เมืองก็พากันเดินฉับๆ บนเส้นพาดขวางถนนสีขาว เช้าวันจันทร์อย่างนี้ถ้าไม่รีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ บรรดาอาหารกล่องบนรถเข็นหน้าตึกออฟฟิศสูงๆ แถวนี้จะไม่เหลือให้เลือกมากนัก
ชายหนุ่มเลือกแกงคั่วแห้งๆ ถุงหนึ่งกับหมูเส้นและข้าวสวยสองถุงจากแม่ค้าเจ้าประจำ ก่อนขึ้นไปนั่งกินเงียบๆ ตรงโต๊ะอเนกประสงค์ใกล้โซนพักของแม่บ้าน
“ทานข้าวเที่ยงกันนะคะ” สรัญญาโทรเข้ามาชวน
“ถ้าแถวออฟฟิศคงไม่มีปัญหาครับ แต่ไปไกลไม่ได้นะ” พีรพงษ์ตอบ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวใกล้ๆ เที่ยงจูนไปรอที่ร้านแถวตึกไนท์นะ แล้วจูนจะโทรหาอีกทีนะคะ” หญิงสาวนัดหมาย
ชายหนุ่มรวบช้อนส้อมไปล้าง เอาจานที่เขี่ยเศษอาหารทิ้งแล้ววางไว้ในถังเพราะเดี๋ยวแม่บ้านจะมาจัดการให้ตามหน้าที่ เปิดซองยาแล้วเลือกตัวที่ต้องทานหลังอาหารตอนเช้าออกมา ก่อนที่จะรีบเก็บซองยาใส่กระเป๋าเสื้อ
พีรพงษ์นึกสงสัยตัวเองว่าความหงุดหงิดใจมาจากไหนกัน ตลอดทั้งเช้าเขาทำงานแบบผิดพลาดสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่ตลอด จนต้องผละมาล้างหน้าล้างตาและตั้งสติถึงสามหน ความกระวนกระวายใจระดมกำลังกันเข้ามาจนอึดอัด
ทันทีที่เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยง ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้นดู แต่ผิดสังเกตว่าหญิงสาวไม่เห็นติดต่อมาเสียที จนเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที พีรพงษ์เลือกที่จะไปหาอะไรทานโดยไม่รอหญิงสาวแล้ว
ก่อนบ่ายสรัญญาส่งข้อความขอโทษมา พร้อมกับขอเวลาช่วงเย็นอยู่ด้วยกัน เธอจะมารับเขาที่ออฟฟิศ
พีรพงษ์ไม่ได้รู้สึกโกรธอีกฝ่าย แล้วก็ไม่ได้นึกรังเกียจใดใด แต่บางครั้งก็อดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้กับการที่หญิงสาวหนึ่งคนเข้ามากำหนดและใช้เวลาชีวิตของเขาตามใจตัวเอง ในความรู้สึกโกรธไม่ลงนั้นเพราะเขาเพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกันว่า ก่อนนี้หน้านี้เขาก็ทำกับผู้หญิงที่รักเขาแบบนี้เช่นกัน
ใช่แล้ว—โดยไม่เคยรู้สึกก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มเองที่คิดว่าคนรักต้องมีเวลาอยู่ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด เวลาของสองคนควรใช้ร่วมกันเสมอ พอเกมเริ่มให้เวลาสำหรับตัวเองบ้าง ซึ่งไม่ได้มากมายอะไรเลย แต่เป็นเขาเองที่อยู่ในสภาวะโหยหาคนเอาใจใส่มากไป ทำให้เขามองไม่เห็นสิ่งที่เธอได้ทำไว้ว่ามันพอดีแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเจ็บปวด พีรพงษ์อดไม่ได้ที่จะปลอบใจตัวเองในใจต่อความผิดพลาดที่ได้ทำลงไปแล้ว ดังนั้นเมื่อจูนเลือกใช้เวลากับเขาเพราะความรู้สึกว่ารัก เขาก็ควรจะถนอมความรู้สึกที่มอบให้นั้น แม้จะไม่แน่ใจว่าต่อไปจะดีหรือแย่สักแค่ไหนก็ตาม
วันนี้เขามีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาให้โอกาสตัวเองได้ใกล้ชิดเหมือนเคยมีให้เกมคนเดียวเท่านั้น ความผิดเดิมๆ ที่เคยทำกับเกม มันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอาประสบการณ์เก่ามาระมัดระวังที่จะทำอะไรไม่ให้ผิดพลาดอีก ถึงแม้จะไม่เข้าใจความรู้สึกลึกๆ ตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่
ความคิดที่ผ่านการเตือนสติตัวเองทำให้พีรพงษ์เปิดหาข้อมูลร้านอาหารที่คนมีคนรีวิวไว้ เขาแค่คิดว่าอยากจะทำอะไรให้หญิงสาวได้รู้สึกมีความสุขบ้างแม้จะเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
พีรพงษ์พิมพ์คำว่า ร้านอาหาร ดินเนอร์ ริมน้ำ ลงไปตรงช่องค้นหาคำ พอก็คำสั่งเริ่มค้นหา อินเตอร์เน็ตก็แสดงผลอย่างรวดเร็ว มีทั้งข้อมูลและรูปภาพ
แต่ข้อมูลที่ได้ยังไม่ถูกใจนัก เขาเปลี่ยนคำสำหรับค้นหาเป็น ดินเนอร์ ฮันนี่มูน เจ้าพระยา แล้วเริ่มค้นหาที่รูปภาพก่อน
รูปภาพบรรยากาศร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เหมาะต่อการใช้เป็นสถานที่ดินเนอร์ หรือเหมาะต่อการมาฮันนี่มูนพุ่งขึ้นมาอวดสายตา
เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ดูรูปภาพและคลิ๊กเข้าดูข้อมูลร้าน ดูความคิดเห็นของลูกค้าที่เคยไปในแต่ละร้าน เมื่อเปิดไล่หาได้สามแห่งที่น่าสนใจ เขาก็สรุปเลือกร้านหนึ่งในสามร้านนั้น จัดการโทรศัพท์ไปจองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ไว้ตอนสองทุ่ม พร้อมกับเตรียมเซอร์ไพรซ์ให้หญิงสาวประหลาดใจเล่น
พีรพงษ์ส่งข้อความกลับไปหาสรัญญาว่า
“เย็นนี้ไม่ต้องแวะมารับ ไปเจอกันที่ซอยสามเสนสาม ตอนสองทุ่มครึ่งนะ”
....................
นรมันร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ส.ค. 2556, 09:14:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ส.ค. 2556, 09:14:19 น.
จำนวนการเข้าชม : 858
<< คำสารภาพกับมือสัมผัส | คนใหม่กับข่าวใหม่ >> |