เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๕ สัมผัสปริศนา(...ต่อ)

“เดี๋ยว! ฉันกับวาริชไม่ได้มีอะไรกัน เขาแค่เข้าไปทำแผลให้ ก็เท่านั้นเอง”

คราวนี้ครามหันไปสบตาคนตัวเล็กที่ทำอุกอาจกับเขาเต็มตา เขาอยู่บนบันไดขั้นเตี้ยกว่า
ส่วนเธออยู่บนขั้นเหนือขึ้นไป ทำให้ระดับสายตาของทั้งคู่แทบจะพอดีกัน ชายหนุ่มเห็นความสับสน
และประหม่าในดวงตาคู่นั้น แต่ก็ไม่คิดจะช่วยเธอเลย ครามหลุบตาลงมองมือขาวบอบบางที่กุมมือเขาไว้
เอ่ยเสียงเย็น “ผมไม่ชอบให้คนไม่สนิทมาจับตัว”
เมื่อมองดวงหน้าจิ้มลิ้มนั้นแดงเรื่อก่อนที่เจ้าตัวห่อปากน้อยๆค้างอยู่อย่างนั้นแล้วเขาเกือบจะใจอ่อน
มือนุ่มนิ่มที่กอบกุมทั้งมือและข้อมือของเขาไว้ลังเลคล้ายจะปล่อย แต่กลับเป็นบีบกระชับแน่นเข้า
ทำให้ชักมือออกโดยง่ายไม่ได้ แต่มันก็แค่เกือบทำให้ใจอ่อน ครามจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้มายุ่มย่าม
อะไรกับเขาด้วยอีกคน

“วนัสสา เธอปล่อยมือผมได้แล้ว...”

ความเงียบเข้าครอบงำเขาและเธอรวมถึงทุกอณูบรรยากาศตรงบันไดไร้ผู้คนนั้น
วนัสสารู้สึกถึงสีน้ำเงินจากตัวเขาอย่างที่เธอจำได้ แต่ที่สำคัญคือสร้อยโลหะอะไรสักอย่าง
ที่ครามสวมใส่ติดข้อมือ สัมผัสเย็นๆของมันทักทายเธอในเสี้ยววินาทีและส่งสีสันแห่งความรู้สึก
ตรงเข้าสู่จิตใจ นอกจากนั้นวนัสสายังได้ยินเสียง เสียงของความรู้สึก และความทรงจำ...

‘ถ้าเราสองคนร่วมมือกัน เราก็อาจจะรอดไปจากที่นี่ได้ หรืออย่างน้อยถ้าผมยังติดอยู่ วนัส เธอต้องได้ออกไป...’

วนัสสายังไม่ทันได้ฟังต่อชายหนุ่มก็ถอนใจแรงๆ ก่อนตัดสินใจชักมือออกพ้นมือเธอที่เกาะกุมมือเขา
เสียงที่ปรากฏพลันเลือนดับ กลายเป็นความเงียบสนิทเหมือนอย่างเดิม ครามก้าวลงบันไดเร็วขึ้น
คล้ายกำลังหนีจากเธอไป
“คุณ! ได้โปรด หยุดก่อน! ฉันมีเรื่องจะถาม”

เจ้าของร่างสูงที่ลงไปถึงชั้นพักกลางอันเป็นทางบรรจบของบันไดจากปีกซ้ายและขวามารวมกันหยุดเท้า
หันมองมาอีกครั้งอย่างโกรธๆ สาวน้อยจอมดื้อไม่ยอมเลิกราเสียที

“คุณใส่อะไรที่ข้อมือคะ ฉันจับโดนเมื่อตะกี้”

“เลสข้อมือ” ชายหนุ่มหายใจแรงยามตอบห้วนจัด

“ขอฉันดูหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวรีบอาศัยจังหวะที่เขาหยุด พาตัวเองตามลงไปยืนบนชั้นพักกลางบันได

“ธุระอะไรของเธอด้วย...”

“ฉัน เหมือนเคยเห็นมันมาก่อน ที่ไหนสักแห่ง”

คำพูดนั้นทำให้ครามชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ผมใส่ติดตัวมานานหลายปีแล้ว มันคงไม่ใช่ของที่คนอื่นจะไปเคยพบเคยเห็นที่ไหนได้หรอก”

ใส่ติดตัว แปลว่าถ้าเธอเคยพบเขา ตอนนั้นเลสข้อมือนี้ก็อยู่กับเขาด้วยแน่ อาจจะเคยผ่านเหตุการณ์
สำคัญๆที่กระทบกระเทือนความรู้สึกร่วมกันกับเจ้าของเลส ไม่แปลกที่มันจะซึมซับอารมณ์เหล่านั้นเข้าไป
ครามเองก็อาจลืมอดีตสองเดือนไปไม่ต่างจากเธอ แต่วัตถุที่ติดตัวเขาจะเป็นเครื่องบันทึกชั้นดี...
“ขอฉันยืมดูสักนิดได้ไหม แล้วฉันจะคืนให้คุณ รับรองไม่ให้บุบสลายตรงไหนเลย”

“จะเสียมารยาทมากไปแล้ววนัสสา” ชายหนุ่มปรามเหมือนพูดกับเด็กมัธยมปลายสักคน

“ขอร้องนะ ฉันยอมทำทุกอย่างที่คุณต้องการเลย แลกกับการที่คุณจะยอมให้ฉันดูมันสักพัก”
จะบอกออกไปได้ยังไงล่ะว่าเธอต้องการสัมผัสความรู้สึกที่อาจบันทึกอยู่ในโลหะบนข้อมือเขา
ที่รู้สึกได้แม้เพียงวูบ มันเป็นบทสนทนาระหว่างเขาและเธอ ฟังดูสำคัญมากเสียด้วย
เกี่ยวกับการหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นคฤหาสน์แห่งนี้ หรือที่ไหนก็ไม่รู้ได้เลย

“ยอมทุกอย่างงั้นเชียว อย่างเธอคงจะพูดอย่างนี้กับผู้ชายจนชินแล้ว แต่ไม่ละ
ผมไม่ชอบใช้ข้อเสนอร่วมกับใคร”
ชายหนุ่มขยับจะเดินต่อ แต่เจ้าของร่างบอบบางที่เฮี้ยวไม่เบากลับยื่นมือมายุดแขนเสื้อเขาไว้อีกคำรบ
ชายหนุ่มขืนหลบ เอาอีกมือกุมปิดข้อมือเขาเองที่เธอจะพยายามจะยื้อแย่งไขว่คว้าอีกคำรบ
“เอ๊ะ พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง” เขากระซิบดุเธอ ในระยะใกล้กันขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องพูดดังเลย
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายอยากจะยั่วเขา แต่ยั่วกันรุนแรงแบบนี้ อีกไม่ช้าเขาคงได้รุนแรงตอบไป
“ผมงานยุ่งนะ! ไม่มีเวลามาเล่นกับเธอหรอก”

ชายหนุ่มเหวี่ยงเธอพ้นตัวเขา เบาและนุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อราวกับเหวี่ยงคู่เต้นรำให้หมุนพลิ้วออกไป
หรือไม่ก็เหมือนโยนแมวนุ่มนิ่มที่อ่อนแอออกพ้นตัวง่ายๆจนวนัสสานึกฉุน ได้แต่มองตามหลังเขาไป
เธอยอมแพ้ก่อนสำหรับตอนนี้ แต่ไม่ใช่ตลอดไป คอยดูก็แล้วกัน!



ครามเป็นอย่างนี้เสมอ จริงจัง ถึงเวลาเล่นก็เล่นจริงๆ เวลาทำงานก็เอาจริงอีกเหมือนกัน
คราวนี้เขาหัวหมุนตั้งแต่เช้าเรื่องที่ตัวแทนของฝ่ายต่างๆที่ร่วมจัดงานมาประชุมกันรอบสุดท้าย
ก่อนถึงวันงานจริงพรุ่งนี้... แล้วไหนจะปัญหาเรื่องนางแบบคนสำคัญซึ่งหนีไปนั่นอีก
อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่จนจะเป็นจะตายในสายตาคนอื่น
แต่สำหรับเขา มันเป็นเรื่องผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย

ตกบ่าย ชายหนุ่มพาตัวเองมาดูการเดินแบบบนเวทีซึ่งจำลองมาจากของจริง
นางแบบสาวสองสามคนถูกเรียกตัวมาให้เขาเลือกไว้แทนที่คนเดิม
เพราะทางผู้ประสานงานรู้ว่าหามาคนเดียวนั้นยากที่จะทำให้ครามพอใจได้

“ไม่ได้เรื่อง ผมดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่านางแบบพวกนี้ใส่ชุดไฮไลท์ของงานไม่พอดี”
ชายหนุ่มพึมพำกับเจ๊ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งของเขา เพราะตั้งแต่ย้ายกลับมาไทยเมื่อหลายเดือนก่อน
เมื่อแรกนั้นครามยังไม่ได้เรียกตัวผู้ช่วยคนเดิมให้ติดตามมา

“แต่เจ๊ก็เห็นว่าพอดีนะครับคุณคราม” คนเป็นผู้ช่วยซึ่งจับอารมณ์ดีไซเนอร์หนุ่มได้ถึงกับหลุดคำลงท้าย
ที่แสดงถึงเพศเก่าของตนเองออกมาในยามเคร่งเครียด ต่างจากคะขาซึ่งใช้อย่างคล่องปากเวลา
สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายลงไปจนถึงขีดสุดอย่างตอนนี้

“ไม่พอดีของผม แปลว่าใส่ได้ แต่ไม่ใช่ใส่แล้วสวย ใส่แล้วเวิร์ค... แค่คำว่าพอได้น่ะ ผมไม่ต้องการ”

“โอเคครับ เอ่อค่ะ...เจ๊จะรีบหาคนมาแทนให้เร็วที่สุด แต่เจ้าภาพเขาบอกว่าต้องยืนยันตัวนางแบบให้ได้วันนี้
เพื่อความเซฟของผู้จัดงานเขาเอง”

“วันนี้ แปลว่ายังมีเวลาถึงเที่ยงคืน เรายังต้องทำงานกันต่อไป”

ครามเดินไปยังโครงลวดหุ่นที่ขึ้นไว้เป็นพิเศษ มองชุดที่ประกอบจากผ้าสีเขม่าควันระยิบระยับ
ซ้อนซับกันหลายชั้น แต่ก็ยังโปร่งพอจะเห็นทรวดทรงและการเคลื่อนไหวของนางแบบได้โดยตลอด
ยิ่งเมื่อมีแสงไฟสาดทะลุทะลวงมาจากเบื้องหลังตามลำดับการเล่าเรื่องราวบนเวทีที่ได้วางเอาไว้แล้ว
เป็นอย่างดี การเคลื่อนไหว มันสำคัญมากยิ่งกว่าความสวยของคนที่จะมาสวมใส่เสียอีก
แต่อย่างไรนั่นก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เหมือนกัน

ปลายนิ้วเรียวประดับด้วยเล็บที่ตัดไว้สะอาดเรียบร้อยของชายหนุ่มลากสัมผัสเนื้อผ้า
เขาเป็นพวกจุกจิกในเรื่องบางเรื่อง นี่ยิ่งมองก็ยิ่งเห็น เสื้อตัวนี้เข้ากับรูปร่างนางแบบคนเดิมที่สุดแล้ว
ทุกกระเบียดนิ้วเขาลงมือทำขึ้นเองกับมือ ด้านคาแรคเตอร์ก็หาใครมาแทนไม่ได้ เธอไม่ใช่แค่
เดินได้เหมือนนางแบบปกติธรรมดา แต่ถูกเลือกมาอย่างดีสำหรับธีมแอร์หรืออากาศ ที่ทุกอย่างเบา พลิ้ว
คงไม่มีใครที่เดินเหินเหมือนจะลอยล่องได้อย่างนั้นอีก

ชายหนุ่มหลับตาลง แล้วเขาก็เห็นภาพใครอีกคนซ้อนทับเข้ามา เอ หรือว่า...จะมี


รถญี่ปุ่นคันกะทัดรัดจอดสนิทลงในรอบรั้วของคฤหาสน์สีน้ำเงิน ครามไม่อยากเรื่องมากกับรถ
อันที่จริงยานพาหนะส่วนตัวก็เป็นส่วนหนึ่งของคนประกอบอาชีพอย่างเขาที่มักถูกจับตา
แต่แค่ต้องกลับมาสะสางภาระคาใจเรื่องแม่ที่ไทย การงานของเขาซึ่งกำลังจะก้าวหน้าก็มีอัน
ชะงักค้างไปหมด ตอนนี้ทำได้แค่ประคองไว้ไม่ให้ทุกอย่างที่เคยเพียรสร้างมามลายหาย
เท่านั้นก็ดีที่สุดแล้ว ถึงเขาจะรักงานมาก แต่ครามเองไม่ใช่คนยึดติดในลาภยศชื่อเสียง
วันนี้ยังทำ แต่วันหน้าเขาอาจบอกลามันไปเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าถึงจุดอิ่มตัว
ทว่าในเมื่อยังพูดว่าจะทำ เขาก็ต้องรับผิดชอบเต็มที่

เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสอง เขาไม่ได้หยุดตรงห้องชุดห้องที่สี่ซึ่งเป็นของตน
...ถ้านับจากห้องแรกสุดระเบียงเป็นของดาหวัน ถัดมาคือห้องหมอหมา และห้องที่สาม
ห้องของเด็กสาวผู้ซึ่งมายื้อยุดกวนใจเขาตั้งแต่เช้ามืดก่อนเขาจะออกไปทำงาน
คาดเดาไม่ได้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ทำไม ทั้งที่น่าจะไปอยู่เสียแถวหอพักนักศึกษา
หรือไม่เรียนก็ควรจะทำงาน ชะรอยคงเป็นเด็กเที่ยว พ่อแม่ตามใจให้ใช้ชีวิตลอยไปลอยมาจนเคยตัว

ชายหนุ่มหยุดยืนขมวดคิ้ว สงสัยว่าเจ้าของห้องจะอยู่หรือไม่
เขาไม่คิดติดต่อผ่านเบ็นให้ชักช้า เวลาเตรียมงานเหลือแค่วันนี้เท่านั้น

ไม่ว่าอย่างไรชายหนุ่มก็ตัดสินใจเคาะประตูแล้วยืนรอ มีเสียงของการเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง
ไม่กี่อึดใจถัดมาประตูก็เปิด

“คุณ...”
เจ้าของห้องที่อยู่ในชุดคลุมทับเสื้อนอนทักงงๆปนงัวเงียเมื่อเห็นครามที่ยืนกอดรออยู่
“ฉันเพิ่งตื่นน่ะค่ะ เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน” พูดไปแล้ววนัสสาก็เกือบจะกัดปากตัวเอง
เขายิ่งคิดว่าเธอพาวาริชเข้าห้อง จะยิ่งฟังดูเลยเถิดกันไปใหญ่ แต่เมื่อมองตาเขาแล้ว
วนัสสาก็รู้ว่าครามไม่ได้ชะงักไปกับคำพูดที่เธอเลือกใช้แต่อย่างใด

ชายหนุ่มเอียงคอน้อยๆ พิจารณานางแบบผู้เป็นทางเลือกใหม่ของเขา เขารู้ว่าเธอต้องทำได้
แล้วก็เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองมากเสียด้วย การต่อรองผลประโยชน์เป็นทางเลือกแรก
ของคนที่โตมาปากกัดตีนถีบมากกว่าใช้มารยาทไมตรีหรือแม้แต่ลดตัวไปขอร้องใคร

ครามยกมือข้างที่มีเลสข้อมือเจ้าปัญหาขึ้นมา จ้องวนัสสา ปรือตาท้าทายก่อนจะพูดชัดๆ
ให้คนตรงหน้าได้ยิน “บอกอีกทีซิ ว่าเธอจะยอมทำอะไรก็ได้ แลกกับการได้สำรวจเลสข้อมือเส้นนี้”


วันนั้นทั้งวันที่เหลือดำเนินไปอย่างฉุกละหุก เมื่อวนัสสาถูกดีไซเนอร์ที่แทบจะเป็นพ่องานอย่างอินดิโก้ ชาง
หรือครามพาตัวไปเสนอให้เดินแบบแทนนางแบบที่ทางคณะผู้จัดพยายามสรรหามาสวมชุดฟินาเล่

“เจ๊ว่าไม่ง่ายนะคะคุณคราม ถึงหนูคนนี้จะสวยมาก เหมาะกับชุดมาก
แต่คนไม่เคยเป็นนางแบบอาชีพ ยังไงก็ต้องตื่นเวที”

“เด็กนี่บอกผมตอนนั่งรถมาด้วยกัน เขาเคยเดินแบบให้งานแสดงแบบเสื้อของเพื่อน สมัยยังเรียนอยู่มหา’ลัย”

วนัสสาเลิกคิ้ว หลังจากคุยกันแล้วเขายังจะมาเรียกเธอเด็กได้อีก
เธอเองไม่ใช่เด็กไร้สาระสักคนที่ผู้ปกครองปล่อยปละ แต่ทั้งครามหรือวาริชก็ไม่คิดจะ
พยายามหาเหตุผลอื่นในการเข้ามาพักอยู่ใต้ชายคาเดียวกันให้เธอเลยสักนิด

“เอาเถอะ เธอไปเตรียมตัวนะครับวนัส เดี๋ยวลองเดินให้ผมดูสักรอบสองรอบก่อน
แล้วจะบอกว่าต้องแก้ไขตรงไหนยังไง”

ดูเขาก็พยายามจะสุภาพกับเธอมากขึ้นอยู่หรอก แต่ยังไม่ยอมเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นอื่น
อาจกลัวเสียฟอร์ม อีกฝ่ายเกริ่นเรื่องตัวเองมาบ้างแล้วในรถ แต่ไม่ได้พูดเฉียดไปถึงเหตุการณ์
ในห้องคาราโอเกะเมื่อหลายปีก่อนเลยจนนิดเดียว นึกแล้วก็ขำ คนรักษามาดอย่างนี้
เคยออกลายเต้นสะบัดช่อแข่งกับเธอมาแล้วแบบหน้าตายเสียด้วย บอกใครๆ
ที่รายล้อมเขาอยู่ตอนนี้ก็คงไม่เชื่อ

ครามเรียกทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาว่า ‘คุณ’ แต่ไม่รู้ทำไมถึงชอบทำหน้าตายหน้ามึนกับเธอนัก...
อาจเป็นได้ว่าเขาเรียกเพื่อนหญิงคนไทยว่า‘เธอ’อย่างนี้ วนัสสาก็รู้สึกดีที่เขามีตำแหน่งพิเศษ
ที่แสดงความเป็นเพื่อนให้ แถมเรื่องที่ไปลากเอาตัวเธอมา
ถ้าเขายังพอจะเห็นความสำคัญในการมีอยู่ของเธอ เมื่อนั้นก็คงคุยกันง่ายขึ้น

อยากเรียกยังไงก็เรียกเถอะ ขอแค่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้เรื่องเลสข้อมือ
แค่นั้นก็ถือว่ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันยิ่งกว่าที่คาดหวังแล้ว

แม้วนัสสาจะผ่านงานเดินแบบมาบ้าง แต่งานของมือสมัครเล่นอย่างสมัยช่วยงานเพื่อนนักศึกษานั้น
ก็ไม่ใกล้เคียงกับงานของมืออาชีพ ทุกการเคลื่อนไหวจะต้องเฉียบคม เสียสมาธิไม่ได้เลย

“ดีค่า เชิดหน้ามากไปนิดนะ อยากให้มีความนุ่มนวลอีกหน่อย แต่ก็ต้องทำท่าให้เหมือนว่าเวทีนี้
เป็นของคุณ ทำได้หรือเปล่า”

ผู้ช่วยคนขยันของครามเองก็ทำงานหนักไม่แพ้เจ้านายซึ่งตอนนี้เวียนไปดูความพร้อมสถานที่จริง
ด้วยความจู้จี้ส่วนตัวที่ออกจะเกินหน้าที่ ก่อนจะย้อนกลับมาคุมวนัสสาไปซ้อมกับเวทีจริงด้วยตัวเอง
เธอถูกจัดแจงให้ซ้อมรวมกับนางแบบคนอื่นๆเพราะไม่มีเวลาจะโอ้เอ้อีกแล้ว

ชายหนุ่มยืนมองคนที่ตนเองพามาจากด้านล่างหน้าเวทีด้วยความโล่งใจ
ฟังเสียงถอนหายใจของเจ๊ที่ยืนอยู่ข้างๆ บ่งบอกว่าโล่งใจไม่แพ้กัน

“ดีนะคะคุณคราม ที่ผู้ใหญ่เขามาดูซ้อมแล้วเกิดถูกใจหนูวนัสเข้าเหมือนคุณ
ไม่งั้นพี่แย่เลย เละทั้งสองทาง”

“ทำงานกับผมจะกลัวอะไรครับ ผมไม่ปล่อยให้คุณแย่หรอก คุณเป็นกันชนให้ผม
ผมก็จะเป็นกันชนให้คุณเมื่อถึงเวลา ยิ่งเป็นเรื่องที่ผมเป็นตัวตั้งตัวตีจัดแจงเอาเองอย่างนี้”

“ขอบคุณค่ะ น่ารักจริงเจ้านายเรา” เจ๊อ้อนเสียงหวาน

“เมคอัพเก่งนะ ปิดรอยสักที่หลังเธอซะมิดเลย แล้วก็ดีที่ความสนใจของชุดเรา
ไม่ได้พุ่งไปตรงแผ่นหลังอยู่แล้ว” ครามเปรย

“หนูวนัสสาเนี่ยดูหน้าตายังเด็กๆนะคะ แต่อายุก็ไม่ได้เด็กขนาดนั้นแล้วนี่เนอะ
เจ๊ดูๆนางแบบมือใหม่เราก็ยังมีอะไรต่างจากนางแบบมือโปรนะคะ ใช่ว่าจะคล่องเวที
แต่ไม่รู้ทำไม ดูไปกันได้ดีเชียวกับโชว์ของเรา ตอนที่เธอลอยล่องออกมา หน้านิ่ง แต่สายตา...”

“เหมือนนางฟ้าที่ลอยลงมายังโลกไงครับ ตื่นตากับการสำรวจโลกใหม่
พลอยทำให้สิ่งที่ดูธรรมดารอบตัวกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมา”

“นั่นละค่ะ คุณครามพูดตรงประเด็นเลย เหมือนนางฟ้าที่มั่นใจในพลังบริสุทธิ์ของตัวเอง
แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่เดียงสาอยู่ในตัว”

ครามไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มในสีหน้า ...แต่วันนั้นทั้งวันก็ไม่ง่ายจริงๆ เลยเที่ยงคืนไปแล้ว
วนัสสาเพิ่งได้ถอดชุดสวยของเธอออก ในขณะที่นางแบบคนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว
ก็ยังเหลือเพียงเธอ กับสายตาเรียวคมที่เป็นทั้งคำปลอบและคำขู่ซึ่งจับจ้องมา
คล้ายไม่ยอมให้ล้ม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

“หิวหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเมื่อเดินเคียงร่างบอบบางที่ดูอ่อนเปลี้ยไม่น้อยมายังรถเขาเอง
ซึ่งจอดไว้ยังที่จอดรถของตึกหรูย่านกลางเมือง อยู่ไม่ไกลจุดที่สร้างเป็นโดมชั่วคราวและเวทีเดินแบบ
อลังการเพื่อเรียกความสนใจจากผู้คนผ่านไปมา

“เจ๊ก็คอยหาขนมใส่ปากให้อยู่เรื่อยค่ะ ทีละจุบทีละจิบ กลัวฉันหมดแรงตายเพราะเจ้านายเขาละมั้ง”

“หึๆ พูดเหมือนแม่นกเอาเหยื่อมาป้อนลูกนกเลย” ชายหนุ่มว่าพลางหันไปยิ้มเป็นมิตรให้หญิงสาว

ทำหน้าน่ารักก็เป็นนี่นา วนัสสาอุทานในใจ เธอเชื่ออยู่แล้วว่าเขาก็แค่วางมาดไปอย่างนั้น
ไม่มีผู้ชายเย็นชาคนไหนหรอกที่จะมาเต้นประชันเป็นบ้าเป็นหลังกับคนแปลกหน้าได้อย่างที่เขาเคยทำ

เมื่อทั้งคู่นั่งอยู่ในรถด้วยกันเรียบร้อย หญิงสาวจึงสานต่อบทสนทนา “ถึงหิว ตอนนี้จะมีอะไรให้กินคะ
หรือแวะร้านเซเว่นฯ ฉันไม่เห็นคุณจะกินอะไรบ้างเลย หิวไหมล่ะคะ มิสเตอร์อินดิโก้”

“เธอเห็นด้วยเหรอว่าผมไม่ได้กินอะไรเลย ก็จริงนะ น้ำสักอึกยังไม่หยดถึงท้อง” ครามพูดขำๆ

“ตอนเห็นคุณครั้งแรก ฉันไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นปิศาจบ้างาน”

“มีหลายอย่างเลยเกี่ยวกับผมที่เธอยังไม่รู้ ซึ่งนั่นอาจจะดีแล้วก็ได้” ท้ายคำชายหนุ่มพูดเสียงเบาลง
ก่อนปล่อยให้มันผ่านไปด้วยการเอ่ยถึงของกินต่อ “แถวนี้จะมีอะไรอร่อยๆให้กินได้
เดี๋ยวผมพาไปร้านข้าวต้มโต้รุ่งแล้วกัน บังเอิญรู้จักอยู่ร้านนึง”

ดังนั้นกว่าวนัสสาจะได้เข้านอนก็ตกเอาจวนตีสามเข้าแล้ว เธอมีเวลานอนได้ถึงสิบโมงเช้า
แต่คงตื่นก่อนนั้นเพื่อเตรียมพร้อม หญิงสาวต้องไปทวนคิวอะไรต่อมิอะไรให้เรียบร้อย
ก่อนขึ้นเวทีจริงเอาตอนห้าโมงเย็น ดีไซเนอร์คนเก่งบอกไว้ว่าเขาจะส่งคนมารับ
ส่วนตัวเขาเองโน่นน่ะ ไม่รู้เลยว่าพ่อเจ้าประคุณจะได้นอนสักกี่ชั่วโมงกัน
หวังว่าคงไม่หมดหล่อกลายร่างเป็นหมีแพนด้าไปในวันพรุ่งนี้หรอกนะ

“แต่ถ้าเป็นก็น่าจะเป็นตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วละมั้ง” วนัสสาบ่นกับตัวเอง
“หน้าขาวใสกิ๊กจนผู้หญิงยังอาย” นั่นสินะ เขาดูแลตัวเองหรือเกิดมาโชคดี หรือว่า...
เขาจะไม่ใช่ชายแท้ตามเทรนด์ดีไซเนอร์ทั้งหลายซึ่งมักเป็นเพศอื่นกัน วนัสสาส่ายหน้ายิ้มๆ
เธอเริ่มจะคิดอะไรมากไปแล้ว ทั้งที่ควรนอนให้หลับเสียที

ถ้ามีฝันร้ายรอคอยอยู่ในความมืดของราตรีนี้ อย่างน้อยจิตที่เข้มแข็งของเธอจะต้องสกัดกั้นเอาไว้
ไม่ให้มันเยี่ยมกรายเข้ามา เพราะพรุ่งนี้ยังมีภารกิจเฉพาะหน้าที่จะพาเธอไปสู่กุญแจ...
โลหะสีเงินที่ข้อมือเขา ซึ่งตอนนี้เจ้าของดูจะดีใจเหลือเกินที่ได้ใช้มันเป็นเครื่องต่อรอง!
...................

ง้าก
ทำไม Like หายไปพร้อมวันหยุดยาว ถ้าใครอ่านแล้วเลิฟๆกันก็อย่าลืมกดให้หน่อยนะคะ
คนเขียนจะได้รู้ว่ายังอยู่กันครบ ไม่ได้หายไปไหน เมี้ยวๆๆ ^.”.^



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2556, 09:21:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2556, 09:22:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1384





<< ความทรงจำที่ ๕ สัมผัสปริศนา   ความทรงจำที่ ๕ สัมผัสปริศนา(จบบท) >>
อสิตา 13 ส.ค. 2556, 09:22:12 น.
คุณภาวิน ผีเสื้อสีขาว – พ่อครามเขาไม่มีความหนุ่มเหลือให้เสียแล้วนะคะ แหม่ โตมาที่เมกาทั้งที
ดูเหมือนจะเสียไปตั้งแต่วัยทีนละ...
คุณเลิฟหมวย – นั่นสิน้า บุคลิกเฮียเป็นพระเอกจริงๆด้วย แต่ว่าคนอื่นล่ะๆๆๆ อย่าคลาดสายตาน้า
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – ดีใจที่ยังไม่ลืมหมอริช แม้จะปันใจให้คราม อย่าลืมเผื่อใจไว้รอนวาระอีกคนด้วยนะคะ
เพราะมันไม่ใช่สามเส้า แต่เป็นสี่เส้า หรืออาจจะห้าถ้ารวมดาหวันด้วย เหอๆๆๆๆ อะไรกันๆ

คุณพี่พันธุ์แตงกวา – เอิ่ม เรื่องนางแบบขาดงานนี่หนูไม่ได้ตั้งใจนะ เพราะอันนี้เขียนไว้ตั้งนานละ
โอเค งั้นเดี๋ยวเติมชื่อนางลงไปละกัน(หาเรื่องให้สนพ.กุดหัวละ)
คุณพระอาทิตย์สีทองผ่องพิสุทธิ์ – หมอริช ยิ่งเขียนไปไกลกว่านี้ยิ่งชอบแกขึ้นเรื่อยๆค่ะ ปิ๊งเลย
ส่วนหนุ่มครามก็หน้านิ่งแต่ทำเลยเวลาอยากทำอะไร ทุกคนดีกับวนัส แต่ในสามคน(รวมนวาระ)
ก็คงจะมีคนที่อยู่ในฝันน่ากลัวๆของนางเอกอยู่แน่นอน
คุณเฟอร์ก้นนุ่ม – วันแม่...ทำไมทิ้งมะม้า T^T
ดอกไม้ของเธอก็เป็นได้ทั้งสามคนนะ บอกความหมายไปแล้วนี่นาๆๆๆๆวาริชดอกบัว ครามก็ดอก นวาระก็กุหลาบ
ตอนอัคน้อยพระเอกไม่ได้ออกคนแรก แล้วๆๆๆๆทำมายมะม้าต้องเขียนสองเรื่องเหมือนกันด้วยล่าาา


คุณสุขุมวิท66 – ขอบคุณที่ตามมาเม้นให้ชื่นใจอย่างต่อเนื่องนะคะ นั่นสิ ทำไมชายในฝันหลอนๆนึกถึงนวาระกัน
เพราะฮียังเป็นชายที่ซ่อนหน้าอยู่ในความมืดด้วยหรือเปล่า แต่คนเขียนก็จงใจให้นึกอยู่ค่ะ อุอุ
คุณแพทแมว – ตัดหมอริชออกแล้วเหรอคะ เลี้ยงไว้ดูเล่นในอ้อมใจด้วยล่ะ เผื่อวันนึงจะเอากลับมาลุ้นต่อ หุหุ
คุณแกะน้อยงุงิ – หุหุ ปมในเรื่อง ขมวดแน่นและยุ่งเหยิงเหมือนขนแกะ แต่เราจะค่อยๆย้ำให้จำได้
และคลายปมจนครบแน่ๆไม่ต้องกลัวนะค้า //จูบขนแกะ


ภาวิน 13 ส.ค. 2556, 09:38:37 น.
นึกถึงตอนครามเต้นสะบัดแล้ว อยากลูบคลำบั้นท้ายผู้ชายเล่นตัวจริงๆเลย ตอนนี้ดูเหมือนครามจะทำคะแนนแซงหมอริชของอิฉันไปแล้วนะ


ดังปัณณ์ 13 ส.ค. 2556, 10:46:52 น.
เหอ...ครามอ่ะ สุดท้ายก็หนีเขาไม่พ้น 555+ แหมตอนแรกใจแข็งจริง ว่าแต่ครามพระเอกใช่มั้ยคะ อิๆ (ลักไก่)


Sukhumvit66 13 ส.ค. 2556, 11:40:21 น.
แอบเชียร์คราม แต่เอ๊ะ ถ้าหนุ่มอีกคนโผล่มา จะเอียงไหมหนอ


lovemuay 13 ส.ค. 2556, 15:32:58 น.
ถ้านางเอกได้สัมผัสกุญแจ จะนึกอารัยออกน้า? รออ่านต่อดีก่า อิอิ


Zephyr 13 ส.ค. 2556, 16:09:16 น.
อีกคนละ อีกคนละ อีกคนละ อีกคนไปหนายยยยยย
เมื่อไรจะออก เมื่อไรจะมา เมื่อไรจะถึงเวลา เมื่อไรจะเปิดตัว
ฮึๆๆๆๆๆๆๆ เอาเค้ามาเดินแบบ มีไรตอบแทนอ๊ะ ป่าว
นิ่งยังงี้ ตอนเต้นสะบัดมันเป็นยังไงนะ ยังไงนี่ ยังไงเนี่ย


sai 13 ส.ค. 2556, 16:35:18 น.
ตอนนี้อินดิโก้เริ่มน่ารักนึดนึง ย้ำว่านิดเดียวจิงๆ


ree 13 ส.ค. 2556, 17:44:18 น.
สงสัยตาอินดิโก้นี่จะเป็นพระเอกซะละมั้ง


นณกร 14 ส.ค. 2556, 00:18:03 น.
มาแล้วเหมียวๆ


พันธุ์แตงกวา 14 ส.ค. 2556, 05:46:58 น.
555 จะใส่ชื่อนางหรือ น่ากั๊ว
พ่อครามนี่ท่าทางจะยังไงๆแล้วสิ ดูหนูวนัสจะแคร์มากกว่าหมอวาริชนะ


SunSeed 18 ส.ค. 2556, 11:49:39 น.
ผู้ชาย ผู้ชายล้อมรอบตัวนางเอกเต็มไปหมดเบยยยยยย พี่แป้งหนุ่มครามน่ารักจัง เป็นหนูวนัสจะเกาะไว้ไม่ปล่อยเลย อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account