จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: บทที่6 ถ้าเราจำเป็นต้องอยู่ใกล้ ๆ เขา

สวัสดีเพื่อน ๆ นักอ่านนะคะเอามาฝากอีกตอนแล้ว ขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยนะคะ ^^

6 ถ้าเราจำเป็นต้องอยู่ใกล้ ๆ เขา

[[เอาตามนี้นะแฟนหนังสือเขาขอมา ยังไงพระเอกก็ต้องเป็นพีม ตู๊ด ๆ ๆ...]]

คำสั่งสายฟ้าสั่งตรงมาจากบรรณาธิการ อังศุมาลินมองโทรศัพท์ด้วยตาปริบ ๆ นันธิตาโทรมาหาเธอแล้วพูดใส่เธออย่างเดียวโดยที่เธอไม่ได้เปิดปากพูดด้วยซ้ำ

“เป็นอะไรไปครับอิ้ง”

อธิษฐานถามแฟนสาวเสียงใส พร้อมยกหม้อต้มยำทะเลอาหารจานโปรดของอังศุมาลินมาวางไว้บนโต๊ะ ตั้งแต่กลับมาจากบ้านนฤมลชายหนุ่มก็เพียนเอาใจหญิงสาวทุกวัน พาหญิงสาวติดไปทุกที่

แม้เมื่อก่อนเขาจะไม่ชอบให้อังศุมาลินไปที่ทำงานเขาเพราะกลัวจะมีสุนัขมาแทะโลมหญิงสาว แต่นาทีนี้สุนัขบ้านยังน่ากลัวน้อยกว่าสุนัขป่า

“อิฐคะ”

อังศุมาลินพูดเสียงเบามองหน้าแฟนหนุ่มที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ก็พูดไม่ออก อธิษฐานที่รอฟังว่าแฟนสาวจะพูดอะไรก็เลยหยุดมือหันมามองอังศุมาลิน

“หิวแล้วเหรอ”

“เปล่า...อิฐคะคุณปูสั่งให้เราไปสังเกตพฤติกรรมใครคนหนึ่งมาเป็นข้อมูลแต่งนิยาย”

อธิษฐานฟังแค่นี้ก็พอจะรู้ รอยยิ้มที่เคยมีถูกพับเก็บไปในทันที เดินไปที่ลิ้นชักหน้าทีวีแล้วหยิบนิตยสารสองเล่มออกมา

“คนนี้น่ะเหรอ”

“ใช่”

อังศุมาลินตอบเสียงเบาไม่กล้าสบตา นิตยสารเล่มนี้มันคือนิตยสารที่นันธิตาให้เธอ เธอพยายามหามันอยู่หลายวันแต่ก็ไม่พบ ที่แท้ก็มาอยู่กับอธิษฐานนี่เอง

“หาข้อมูลแบบนี้เลยใช่ไหม”

ส่วนอีกเล่มเป็นหนังสือซุปซิบดาราที่มีกรอบเล็ก ๆ เป็นรูปของอังศุมาลินกับพัฒนากร รูปนี้คือรูปที่เธอถ่ายกับเขาที่ตลาดนั้น มันถูกส่งให้หนังสือเหรอเนี่ย

“คือมัน...”

“ไม่ต้องอธิบายอิฐเข้าใจ คู่รักไอดอล มันก็แค่ข่าว”

น้ำเสียงกับเนื้อหาช่างไม่เข้ากันเลย

“อิฐไม่เคยอ่านหนังสือแบบนี้”

“ไอ้เอกมันเอามาให้ มันคงคิดว่าเราสองคนจะต้องทะเลาะกัน แต่อิฐไม่สนหรอกก็อิ้งอยู่ตรงนี้กับอิฐเสียอย่างใช่ไหม”

“อืม แต่...”

“ไปเถอะอิฐเข้าใจ มาทานกันดีกว่าปูเนี่ยอิฐแกะมาเป็นชิ้นแบบที่อิ้งชอบเลยนะ ชิมหน่อย”

อธิษฐานทำร่าเริงตักอาหารให้อังศุมาลินชิน หญิงสาวสบายใจขึ้นนิดหน่อย แต่ก็รู้ว่าอธิษฐานคงจะไม่ได้มีความสุขนัก



หนึ่งวันต่อมาอังศุมาลินขนอุปกรณ์เก็บข้อมูลมานั่งเฝ้าพัฒนากรที่บริษัทสารนิยม พวกพนักงานสาว ๆ ที่เดินผ่านเขตก่อสร้างพากันซุบซิบและมองอังศุมาลินใหญ่

“หรือว่าจะจริงอย่างที่เขาว่ากันน่ะเธอ”

“ไวไฟจริง ๆ เห็นนาน ๆ ทีจะมา กลับคาบพีมไปรับประทานเสียแล้ว”

อังศุมาลินฟังคำพูดทำนองนี้มาตั้งแต่เช้าจนจะได้เวลาทานข้าวเที่ยงแล้ว

“นี่พวกหล่อนคิดว่าฉันเป็นกระต่ายน้อยเหรอยะ”

หญิงสาวทำปากขมุบขมิบล้อเรียน

“บ่นอะไร”

พัฒนากรเดินมาทักทายอังศุมาลินอย่างเงียบ ๆ เขาเทียวมาหาหญิงสาวแทบจะทุก ๆ สิบนาที

“มาทำไมบ่อย ๆ เนี่ย ไปทำงานไป”

และอังศุมาลินก็คอยไล่เขาไปหลายรอบแล้วเช่นกัน

“เที่ยงแล้วไปกินเข้ากันดีกว่า ไปที่ไหนดี”

“ให้เราเลือกมาจะดีเหรอ”

อังศุมาลินแกล้งถาม ถึงเขาจะไม่ให้เธอเลือกเธอก็ไม่ไปที่ที่เขาเลือกอยู่แล้ว พัฒนากรพยักหน้า

“กินที่นั้น ไปดีกว่าหิวแล้ว”

หญิงสาวชี้ไปที่โรงอาหารของบริษัทแล้วเก็บของอย่างรวดเร็วเดินนำชายหนุ่มไป

“ร้ายจริง ๆ”

พัฒนากรยิ้มตามมองหญิงสาวอย่างตาเป็นประกาย

“กรี๊ด!”

ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงเมื่อมีสาว ๆ กลุ่มใหญ่เดินมารุมล้อมขอถ่ายรูปบ้าง ขอลายเซ็นบ้าง ขอเบอร์ก็ยังมี

กว่าพัฒนากรจะเดินหลุดจากฝูงชนหาอังศุมาลินได้ หญิงสาวก็ซื้ออาหารมาไว้ที่โต๊ะแล้ว พร้อมด้วยผู้หญิงอีกสองคนที่ชายหนุ่มไม่รู้จัก

“พี่นิดพี่จุ๋มคะนี่พีมค่ะ เพื่อนเก่าสมัยมัธยมของอิ้งเอง”

อังศุมาลินยืนขึ้นแนะนำ นิตยา กับจันทิมารีบลุกขึ้นต้อนรับคนมาใหม่

“พี่ชื่อนิดค่ะ”

“พี่ชื่อจุ๋มค่ะ”

สองสาวยิ้มทักทาย ดูปลื้มอย่างออกหน้าออกตา อังศุมาลินมองแล้วรู้สึกหมันไส้

“สวัสดีครับ”

พัฒนากรยิ้มเจื่อน ๆ กลับไป ไม่คิดว่าอังศุมาลินจะมีแผนสองชั้นแบบนี้ เขานึกว่าจะได้ทานอาหารกันแบบสองต่อสองเสียอีก

“นั่งสิเราซื้ออาหารไว้เต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่หนังติดมาเพียบ หนังไก่ทอด ไก่ย่างนี่นะหนังล้วน ๆ ต้มยำหนังไก่ ผัดผักหนังไก่ ชอบไหม”

อังศุมาลินสาธยายอาหารบนโต๊ะ พัฒนากรมองตามตาปริบ ๆ

“อาหารที่เราชอบทั้งนั้นเลยนะ แล้วเธอล่ะชอบไหม”

หญิงสาวถามซ้ำตาเป็นประกาย หลายคนคงไม่รู้ว่านอกจากหญิงสาวจะเขียนนิยายเก่งแล้วเธอยังแสดงละครเก่งอีกด้วย

“อิ้งอยู่นี่จริง ๆ ด้วย โหซื้อแต่อาหารที่อิ้งชอบมาอีกแล้ว”

อธิษฐานเดินเข้ามาทักทาย อังศุมาลินตกใจที่เห็นเขามา ก็ที่ทำงานของชายหนุ่มมันแทบจะอยู่คนละฝั่งกับที่นี่เลย

“หมออิฐมาไกลจังเลยนะคะ”

นิตยาเองก็ดูจะแปลกใจเหมือนกัน

“สวัสดีครับคุณนิด คุณจุ๋ม...คุณพีม ผมขอทานด้วยคนนะครับ”

“ชะ...เชิญค่ะ”

จันทิมาแทบจะพูดไม่ออกที่เห็นสายตาฟาดฟันของหนุ่มหล่อสองคน

“อิฐนั่งเลย เดี๋ยวเราไปซื้อไก้ชุบแป้งทอดมาเพิ่มให้อีกอย่างนะ ไก่ที่มีหนังติดมัน”

อังศุมาลินยิ้มสดใสแล้วเดินออกไป พัฒนากรมองตามไม่แน่ใจว่าอาหารเมนูไก่นี่จะคือแผนของหญิงสาวรึเปล่าเพราะเขาคิดว่าไม่น่าจะมีคนอื่นรู้ว่าเขาไม่ชอบหนังไก่ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด ก็ไม่ชอบทั้งนั้น

แต่ที่เขาแน่ใจก็คืออธิษฐานคงไม่ได้อยู่ในแผนการตีตัวออกห่างของหญิงสาวแน่ ๆ



“อิ่มที่สุดเลยอิ้ง”

อธิษฐานพูดพร้อมเอามือลูบท้อง อังศุมาลินก็พยักหน้าดูดน้ำในแก้วจนหมด นิตยากับจันทิราก็ดูจะอิ่มไปเหมือนกัน ก็คงจะมีแต่พัฒนากรนี่แหล่ะที่กินไปได้นิดเดียวก็แทบจะอวกออกมาแล้ว

“อิ้งเดียวพี่สองคนขึ้นไปทำงานก่อนนะ ขอบใจนะจ๊ะสำหรับอาหารมื้อนี้”

“ค่ะ บ้ายบายค่ะ”

อังศุมาลินโบกมือลารุ่นพี่ทั้งสองคนที่ขอตัวไปก่อน

“อิ้งเราต้องไปดูงานต่อ...”

“เธอไปได้เลย วันนี้ขอบคุณมากนะเราไม่กวนเธอแล้วล่ะ เดียวพรุ่งนี้เราค่อยมารบกวนเธอใหม่นะ อิฐ วันนี้เราจะไปที่ทำงานอิฐนะคะ”

อังศุมาลินไม่รอให้พัฒนากรพูดจบ ตัดบทจัดการทุกอย่างเอง

“แต่เธอต้องดูบุคลิกเราไม่ใช่เหรอ”

พัฒนากรท้วง

“ก็เราต้องไปหาดูบุคลิกของหมอนะสิ เพราะเราจะเขียนเรื่องหมอกับวิศวกร เดี๋ยวเราจะลองเขียนหมอแบบต่าง ๆ มาให้เธอเลือกนะบายจ๊ะ อิฐคะไปกันเถอะ”

อังศุมาลินรวบรัดตัดความดึงแฟนหนุ่มให้ลุกขึ้น อธิษฐานหันมายิ้มหยามคนที่นั่งหน้าเหวออยู่ที่โต๊ะอาหาร

“ฝากไว้ก่อน”

พัฒนากรก่อนขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงตอบ คิดจะไปหาข้าวทานใหม่ก็ดูจากเวลาแล้วก็คงไม่ทัน เขาเลยตัดสินจี่จะไปทำงานโดยที่ยังรู้สึกหิว ผสมกระปักกระป่วนท้อง



โรงพยาบาล MBST

“วันนี้มาเฝ้ามากี่คนแล้วเนี่ยอิ้ง”

นรีเป็นหมอคนหนึ่งที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับอธิษฐาน

“หลายคนแล้วค่ะพี่น้ำค้าง มีพี่หลิน พี่มิ้นต์ พี่นิกา แล้วก็มาหาพี่น้ำค้างนี่แหละค่ะ”

“แม้มาหาตั้งหลายคนจะเอาไปทำอะไรจ๊ะ”

“เอามาเป็นบุคลิกตัวละครน่ะค่ะ ครั้งนี้นิยายของอิ้งพิเศษหน่อยแฟน ๆ เรียกร้องอยากให้เอาบุคลิกของคนที่ประกอบอาชีพนั้นจริง ๆ มาเขียน”

“พระเอกใช่คุณพีม พัฒนากร รึเปล่าพี่เห็นข่าวแล้วนะ”

อังศุมาลินพยักหน้าช้า ๆ ไม่พูดอะไรต่อ แค่นี้นรีก็รู้สึกได้แล้วว่าหญิงสาวรุ่นน้องคงไม่อยากพูดมาก พากันเดินออกมานอกห้องทำงาน เห็นคนหลายคนมุงดูทีวีเครื่องหนึ่งอยู่

[[รายงานข่าวจากสำนักพิมพ์สารนิยมค่ะ วิศวกรหนุ่มตกลงมาจากชั้นสามของตึกโชคดีที่เสื้อมาติดกับเหล็กที่ชั้นหนึ่งทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก วิศวกรคนนี้คือ นายพัฒนากร พงษ์พิน หรือ พีม เขาเพิ่งได้ลงปกของนิตบสารดังของเดือนนี้ ดูจากสถานที่ก่อสร้างแล้วเขาไม่น่าจะตกลงมาได้ คนงานเล่ามาเขาคงจะหน้ามืดเลยพลาดตกลงมา]]

“พีม”

“พระเอกของอิ้งเกือบไม่รอดแล้ว”

นรีพูดแล้วหันไปหารุ่นน้องที่ทำหน้าตกใจอยู่

“อิ้งขอตัวนะคะ”อังศุมาลินพูดแล้วเดินไปหากลุ่มคนที่ยืนดูทีวีอยู่ก่อน “ขอโทษนะคะ ทราบไหมคะว่าคนที่ตกอยู่โรงพยาบาลไหน”

“โรงพยาบาลแถวนั้นแหล่ะมีที่เดียว อ้าว! อิ้งใช่รึเปล่ารีบไปหาแฟนเหรอคะ”

“ไม่ใช่คะเขาเป็นเพื่อนอิ้ง เราแค่เป็นเพื่อนกัน ขอตัวนะคะ”

อังศุมาลินรีบวิ่งออกมา คนพวกนั้นต่างวิพากษ์วิจารณ์เธอกับพัฒนากรอย่างสนุกปาก



อังศุมาลินรีบตรงมาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ กับสำนักพิมพ์ ถามเจ้าหน้าที่ก็ถูกถามกลับว่ามาเยี่ยมคนรักรึเปล่า กว่าจะยอมบอกได้ก็ยืนตอบคำถามอยู่หลายนาที

“คุณอิ้งรึเปล่าครับ”หมอคนหนึ่งเดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วตรงมาหาอังศุมาลิน หญิงสาวพยักหน้า “แฟนคุณปลอดภัยแล้วนะครับ อีกสักครู่เขาจะถูกส่งไปที่ห้องพัก หมอขอตัวนะครับ”

อังศุมาลินได้แต่พยักหน้าตอบ เธอไม่คิดว่ากับแค่เธอได้ลงภาพกรอบเล็ก ๆ กับพัฒนากร จะทำให้เป็นเรื่องแบบนี้

ตื้ด ๆ ๆ โทรศัพท์ของอังศุมาลินมีสายเข้า หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจ นี่เธอลืมเขาอีกแล้ว

“เราอยู่ที่โรงพยาบาลแถวสำนักพิมพ์เดี๋ยวอิฐมารับหน่อยนะ”

[[ครับ ตู๊ด ๆ ๆ]]

“เฮ้อ...พีม”

อังศุมาลินรีบเดินตามเตียงที่เข็นพัฒนากรไปที่ห้องผู้ป่วย เธอเดินตามมาจนถึงห้องบุรุตพยาบาลช่วยกันยกร่างชายหนุ่มให้นอนที่เตียงใหม่แล้วพากันออกไปจากห้อง

พัฒนากรตอนนี้เข้าเฝือกที่ขาขวาและแขนขวา ที่หน้ามีรอยแดงคล้ายรอยข่วน

“พีม เราขอโทษนะ เธอคงจะเป็นลมเพราะหิวใช่ไหม”

อังศุมาลินที่เห็นว่าชายหนุ่มกำลังหลับเลยกล้าพูด แค่คิดว่าเป็นเพราะเธอก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้

“ใช่เราหิวมาก”

พัฒนากรพูดทั้งที่ยังหลับตา

“พีมเธอไม่ได้หลับเหรอ”

“ก็ง่วงมากแล้ว แต่ขนเข็นเตียงที่นี่รุนแรงไปหน่อยเลยยังหลับไม่ลง แล้วก็ตอนนี้เราก็หิวมาก อ้าวนี่เธอร้องไห้ด้วยเหรอ”

พัฒนากรพูดอยู่นานกว่าจะรู้ว่าคนที่ถูกต่อว่ากำลังร้องไห้

“โอ้ ๆ ไม่ร้อง ๆ เรายังไม่ตายสักหน่อย”

“บ้า หิวใช่ไหมเราจะลงไปหาอะไรให้เธอกินนะ ถ้าเธอยังไม่ง่วงก็รอก่อน”

อังศุมาลินพูดจบก็เตรียมจะเดินออกนอกห้อง

“เดี๋ยว”พัฒนากรตะโกนเรียก “ถ้าเราหลับ เธอสัญญาได้ไหมว่าจะอยู่รอจนกว่าเราจะตื่น”

เกิดความเงียบขึ้น พัฒนากรรอฟังคำตอบ อังศุมาลินยิ้มบางก่อนจะพยักหน้า



โรงพยาบาลMBST

อธิษฐานเตรียมที่จะออกจากห้องทำงานไปรับแฟนสาวที่โรงพยาบาลอีกที่หนึ่ง

“คุณหมอคะ คนไข้เมื่อเช้าเหมือนจะแพ้ยาค่ะคุณหมอช่วยไปดูหน่อยนะคะ”

แล้วก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ชายหนุ่มวางกุญแจรถและกระเป๋าเข้าที่เปลี่ยนเอาเสื้อกาวมาใส่ทันที



กว่าอังศุมาลินจะขึ้นมาพัฒนากรก็ทนฤทธิ์ของยานอนหลับไม่ไหว อังศุมาลินนั่งรอทั้งพัฒนากรตื่นนอน รอแฟนหนุ่มที่จะมารับ และรอที่พ่อกับแม่ของพัฒนากรที่กำลังจะมา รออยู่นานก็ไม่มีใครตื่นหรือมารับ หรือมาหาคนที่นอนหลับ จนประตูห้องพักของพัฒนากรเปิดขึ้น

“พีมลูกแม่”

ผู้หญิงวัยประมาณสี่ห้าสิบวิ่งเข้ามาหาพัฒนากร อังศุมาลินไม่แน่ใจว่าเขาเป็นแม่ชายหนุ่มรึเปล่าจนเธอเรียกพัฒนากร แต่อังศุมาลินแน่ใจว่าผู้ชายวัยใกล้เคียงกับผู้หญิงคนนี้ที่เดินตามเข้ามาคือพ่อของชายหนุ่มแน่นอน

“สวัสดีค่ะอาจารย์ สวัสดีค่ะคุณน้า”

อังสุมาลินรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้มาสวัสดีท่านทั้งสอง

“หนูคือ...”

กรุงไทย พ่อของพัฒนากรเอ่ยถามอังศุมาลิน ท่านคืออาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมที่อังศุมาลินเคยเรียน

“หนูเป็นเพื่อนกับพีมค่ะ คนที่โทรไปบอกอาจารย์”

อังศุมาลินโทรไปหาท่านทั้งสองได้เพราะพยาบาลได้เอาโทรศัพท์ของพัฒนากรมาให้ เธอเลยถือโอกาสเสียมารยาทโทรไปหาท่านทั้งสองเอง

“ขอบใจหนูมากนะที่อยู่เป็นเพื่อนลูกชายน้า”

พรรณณีเงยหน้าจากลูกชายมามองอังศุมาลิน

“ค่ะ”

อังสุมาลินตอบรับอย่างไม่เต็มปาก ถ้าพวกท่านรู้ว่าเธอเกือบจะฆ่าลูกชายท่าน ก็ไม่รู้พวกท่านทั้งสองจะพูดกับเธอยังยัง

“ทำไมของกินเยอะแบบนั้นล่ะหนู”

กรุงไทยถามหญิงสาวเมื่อเห็นถุงของกินหลายถุงอยู่ที่หัวเตียง

“พอดีก่อนที่พีมเขาจะหลับเขาบอกหนูว่าเขาหิวน่ะค่ะ หนูก็เลยซื้อมาให้เขา ยังไงหนูก็ฝากให้เขาทานด้วยนะคะ หนูขอตัวก่อนนะคะ”

อังศุมาลินรีบยกมือไหว้ลา เพราะทนสู้หน้าท่านทั้งสองต่อไปไม่ไหว

“เดี๋ยวสิ ไหนบอกว่าจะรอจนกว่าเราจะตื่นไง”

เสียงงัวเงียเปล่งเสียงเรียก อังศุมาลินหยุดเดินแล้วหันมาหาพัฒนากรทันที

“ตื่นแล้วเหรอลูก เจ็บมากไหม”

พรรณณีรีบถามลูกชาย ลูบหน้าลูกชาย

“ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกครับแม่ หิวมากกว่า”

พัฒนากรตอบเสียงอ้อนแต่อังสุมาลินกลับรู้สึกว่ากำลังถูกจิกกัดอยู่

“หิวเหรอลูกมาแม่ป้อนให้นะ”

“แม่ครับ ให้อิ้งป้อนดีกว่าครับ พ่อกับแม่เพิ่งมาเหนื่อย ๆ พักก่อนดีกว่า”

พัฒนากรชักแม่น้ำมาให้เหตุผล อังศุมาลินขยับปากจะปฏิเสธแต่พอเห็นสายตาของพัฒนากรที่มองแล้วก็พูดไม่ออก เดินไปหยิบข้าวกล่องไปใส่ไมโคเวพแต่โดยดี

“แม่กับพ่อมาได้ไงครับ”

“เพื่อนลูกโทรไปบอกจ๊ะ แม่กับพ่อตกใจแทบตายเลย ไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะ”

“เอ่อ...”พัฒนากรขยับปากจะตอบ อังศุมาลินแอบฟังอย่างตั้งใจ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะกล่าวโทษเธอไหม “ผมกินข้าวไม่อิ่มครับ ก็ผมไม่ได้กินฝีมือแม่กับข้าวของใครก็เลยไม่อร่อย”

พัฒนากรแอบเปลี่ยนประเด็นเป็นอ้อนผู้เป็นแม่แทน อังศุมาลินแอบถอนทายใจแล้วหยิบข้าวกล่องออกมาจากไมโคเวพ

“อ้า”

พัฒนากรอ้าปากรอเป็นลูกนก พรรณณีมองลูกชายอย่างแปลกใจ

“ไหนบอกว่าไม่ใช่ฝีมือแม่ก็ไม่อยากกินไง”

“ก็ตอนนี้มันหิวนี่ครับ...แครก ๆ”

ชายหนุ่มพูดทั้งที่ข้าวเต็มปากเลยสำลัก อังศุมาลินรีบหากระโถนมาใส่และหยิบน้ำส่งให้

“แน่ใจเหรอไอ้ลูกชาย ไม่ใช่ว่าแฟนป้อนให้อะไรก็อร่อยไปหมด”

กรุงไทยแซวลูกชาย พัฒนากรไม่ปฏิเสธยิ้มรับพอเห็นอังศุมาลินขยับปากจะพูดก็ใช้อีกมือที่ไม่เจ็บกระตุกเสื้อเธอ

“ไม่ใช้หรอกครับคุณอา อิ้งเธอเป็นแฟนผม”

อธิษฐานที่เข้ามาได้ยินพอดีรีบแก้ข้อเข้าใจผิด พลางมองแฟนสาวที่กำลังป้อนข้ามชายอื่น

“สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ พอดีผมมารับแฟนผมกลับ”พูดแล้วดึงข้าวในมือแฟนสาวออกวางไว้ที่หัวเตียง “ขอให้หายไว ๆ นะ คุณนอนเฉย ๆ แบบนี้แฟนผมคงไม่มีอะไรที่ต้องสังเกตไปอีกหลายอาทิตย์ สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง”

พูดจบก็หันมาลากอังศุมาลินต่อ หญิงสาวพูดไม่ออกไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่ยืนงงอยู่ แล้วเดินตามแฟนหนุ่มไปโดยดี

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ส.ค. 2556, 20:41:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ส.ค. 2556, 20:41:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1079





<< ตอนที่ 5 ตามตื้อ (แม้ใจจะเจ็บกลับมาคิด ๆ อดีตยังงานล้ำล้น)   ตอนที่ 7 ต่อกลอน >>
เพียงใจกล้า 19 ส.ค. 2556, 16:00:29 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account