ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: สูญสิ้นแล้วความภาคภูมิใจ

“ป้าผิดเองค่ะที่ใช้กำชัยไปซื้อข้าวของมาไว้ ป้ากลัวว่าจะไม่มีอะไรทำให้คุณภาพกินพรุ่งนี้ ก็เลยไม่มีใครคอยมาคุมคุณแก เผลอแป๊บเดียวแกวิ่งปร๋อลงบันไดไปเลยค่ะ” เมื่อกลับมาไตร่สวนหาคนผิได้แล้ว ก็ดันถูกเอี้ยงออกรับแทนกำชัยในเรื่องบกพร่องต่อหน้าที่ และเพราะความเกรงใจผู้ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งเป็นความผิดครั้งแรกสหภาพจึงไม่ได้ดุด่าอะไรกำชัยมากมายนัก
“ทีหลังไม่ต้องนะครับถ้าผมไม่สั่ง ถ้าป้าไม่อยากให้ผมเดือดร้อนต่อไปต้องระวังให้มาก ๆ อย่าให้หนีรอดไปได้เด็ดขาด”
จบคำเขาก็เดินเข้าห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำเลยเพราะร้อนและเหนียวตัวเต็มที เสร็จธุระแล้วจึงเดินไปไขกุญแจอีกห้องจากประตูที่เชื่อมติดกับห้องเขาโดยไม่ต้องอ้อมไปด้านหน้าให้เมื่อย ห้องว่างเปล่า อาหารยังคงไม่ได้ถูกแตะต้อง แต่ประตูห้องน้ำปิดสนิท กำลังจะไปทุบประตู เพราะเห็นว่าเวลาที่เจ้าหล่อนอยู่ในห้องนั้นนานเกินควรแล้ว กำปั้นยังไม่ทันจะถึงประตูด้วยซ้ำ อีกคนก็ออกมาพอดี
“คุณเข้ามาในห้องนี้ทำไม! ออกไปนะ!” พิมมาดาตกใจจนสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นเขายืนประจันหน้าอยู่อย่างนี้ ดีเท่าไหนแล้วที่แต่งตัวเรียบร้อยก่อนออกมา ไม่ได้กระโจมอกเหมือนหลาย ๆ วัน
“ทำไมคุณไม่กินข้าว”
“ฉันไม่หิว ฉันอยากกลับบ้าน ปล่อยฉันไปนะ ก่อนที่คุณพ่อจะส่งตำรวจมาลากตัวคุณเข้าคุก” แม้ไม่รู้ว่าสถานการณ์ภายนอกเป็นยังไง แต่ก็ขอให้ได้ขู่เอาไว้ก่อน ทำให้เขาอดคิดถึงบรรยากาศในห้องจักรภพเมื่อบ่ายไม่ได้
“คุณคิดเหรอว่าจะมีคนตามคุณเจอ ผมจะบอกให้นะ ว่าคุณไม่มีวันออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าผมไม่ปล่อยคุณไปเอง และถ้าคุณคิดหนีแบบเมื่อกี้อีกอย่าหาว่าผมไม่เตือน”
“คนอย่างคุณมันก็ดีแต่ทำคนไม่มีทางสู้เท่านั้นล่ะ คอยแทงคนอื่นข้างหลัง ไม่กล้าสู้ซึ่ง ๆ หน้า เป็นถึงเจ้าของกิจการใหญ่โต แต่กลับยอมไปเป็นลูกจ้างคู่แข่ง เพื่อขโมยความลับ ถามจริง ๆ เถอะคุณยังมีความภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองอยู่ด้วยเหรอที่ได้ลอบกัดคนอื่นแบบนี้”
เพราะอ่านเกมออกตั้งแต่เขาประกาศให้รับรู้แล้วว่าเป็นใครจึงสบโอกาสด่าสาดเขาด้วยความโกรธกับการกระทำในครั้งนี้ของเขาซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นผู้เจริญแล้ว แต่กลับใช้วิธีสกปรก ๆ เล่นงานคนอื่น สหภาพหันไปมองเจ้าของดวงหน้างามจนตาแทบถลนออกมาด้วยความโกรธไม่แพ้กัน เห็นเงียบ ๆ เรียบร้อย ๆ ไม่คาดคิดว่าปากคอจะเราะร้ายได้ขนาดนี้ พาลดึงเอาเลือดชั่ว ๆ ของศัตรูที่มีในตัวเธอเต็มเปี่ยมออกมาให้เขารู้สึกเกลียดชังได้ไม่ยากเย็นนัก จึงเดินเข้าไปหาเธออย่างเอาเรื่อง
“ผมจะทำแบบนี้ก็กับคนที่มันเคยทำให้ผมก่อนเท่านั้น จะบอกให้นะว่าไอ้ที่ผมทำมันยังไม่ได้ครึ่งของพวกหมาลอบกัดอย่างพ่อกับแม่เลว ๆ ของคุณทำเลยด้วยซ้ำ และถ้าคุณยังปากดี กล้ามาด่าผมอีกคำเดียว ผมไม่ละเว้นคุณแน่ ปกติผมจะไม่ทำอะไรผู้หญิงสวย ๆ หรอก แต่กับคุณถึงความสวยจะมีจนล้น ก็อย่าคิดว่าผมจะละเว้น เพราะเลือดชั่ว ๆ มันกลบจนแทบทำให้ผมมองไม่เห็นของสวย ๆ งาม ๆ ในตัวคุณหมดแล้วด้วยซ้ำ” คนฟังสุดจะทนได้ จึงตะโกนถามใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“พ่อแม่ฉันไปเกี่ยวอะไรกับพวกคุณ! อย่าคิดว่าตัวเองชั่วแล้วคนอื่นจะชั่วตามไปด้วย! คนอย่างคุณอีกหน่อยก็คงหนีไม่พ้นกรรมต้องตามสนองแน่ ไม่เชื่อคอยดู!” ส่วนเขาก็ไม่คิดจะลงให้เช่นกัน
“ถ้ากรรมจะตามมาหาผม มันก็จะตามไปถึงพ่อกับแม่เลว ๆ ของคุณก่อน แต่ถ้ากรรมทำงานช้า ผมนี่ล่ะจะเป็นคนทำให้พวกมันต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็นเอง แล้วรู้อะไรมั้ยคุณเนยว่าพ่อแม่ที่รักลูกปานดวงใจ จะอกแตกตายเพราะสูญเสียอะไรไป” เดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วจับสองไหล่เธอบีบแรง ๆ ด้วยความโกรธที่ถูกด่าว่าอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน
“ปล่อยนะฉันเจ็บ! ออกไปให้ห่าง ๆ ตัวฉัน” พยายามดึงแขนที่บีบไหล่ตัวเองไว้แต่ไม่เป็นผล เท้าที่ว่างจะกระทืบลงไปหาเท้าหนาของเขาอย่างแรง
“โอ๊ย!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด จนเผลอปล่อยมือออกจากไหล่เธอได้ แล้วสองมือของเธอก็ผลักเขาสุดแรงเกิดจนล้มเสียหลัก จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปหาประตูแต่บิดยังไงก็ไม่ออก
“คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ มานี่!”
ร่างที่เกาะประตูอยู่แทบจะปลิวตามแรงกระชากของเขาไปกองอยู่กับเตียงนอน และตามไปติด ๆ วินาทีนี้พิมมาดารู้ดีว่าตัวเองไม่อยู่ในสภาวะปลอดภัยเลยสัก คิดได้ดังนั้นจึงรีบกระโดดลงไปอีกข้างของเตียง มองเห็นประตูอีกห้องเปิดอ้าไว้จึงรีบวิ่งไปหาทันที แต่ก็ถูกดึงแขนไว้
“จะไปไหน!” “ปล่อยฉันนะ! ไปให้พ้น ๆ ฉัน!”
พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดเมื่อถูกเขาลากไปโยนลงเตียงอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสหนีไปไหน รีบตามไปค่อมร่างเอาไว้ พิมมาดากำปั้นน้อย ๆ แล้วรีบรัวมาใส่เขาอย่างไม่คิดจะยั้งมือ
“ออกไป! คุณจะทำอะไร อย่ามาแตะต้องฉันนะ”
“อยากรู้นักว่าบทบาทบนเตียงของลูกจะเด็ดเหมือนแม่ตอนสาว ๆ มั้ย ได้ข่าวว่าอยู่ใกล้ใครก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นไม่ใช่เหรอ พ่อผมยังเผลอประเคนหุ้นให้จนหมดตัวเลยนี่ งั้นมาดูกันหน่อยว่าคุณจะทำให้ผมหลงจนเผลอยกสมบัติชิ้นไหนให้บ้าง”
“หยุดนะ! คุณพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ!” เขาไม่สนกับอาการร้องห้ามปรามสักนิด มิหนำซ้ำยังก้มลงไปหมายจะจูบที่เรียวปาก
“อย่า! ออกไปให้พ้น อย่ามาใกล้ฉัน ออกไป!” พิมมาดาเบี่ยงหน้าหนีจุมพิตเขา ซอกคอจึงรองรับหน้าคมที่กดลงไปแรง ๆแทน จนผิวอ่อนบางรู้สึกเจ็บแสบเพราะแก้มสาก ๆ ไถไปเรื่อย ๆ
“อย่านะ!” แม้มือสองข้างจะถูกแขนของเขาตึงไว้กับเตียง แต่ปากบางยังว่าง พอจะกัดเข้าไปที่ไหล่เขาอย่างแรง
“โอ๊ย! ปล่อยนะคุณเนย ผมบอกให้ปล่อยไง” เจ้าของไหล่ร้องด้วยความเจ็บปวด มือขวายกขึ้นมาบีบจมูกหญิงสาวเพื่อให้อ้าปาก แต่มีหรือที่เธอจะยอม กำปั้นซ้ายทุบข้างซี่โครงเขาหนักสุดเท่าที่แรงในกายจะมี
“ได้ยินที่ผมพูดมั้ย อย่าทำให้ผมโกรธนะ”
ในที่สุดเธอก็ยอมอ้าปาก แต่ไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ หากเป็นเพราะไม่มีอากาศจะหายใจนั่นเอง เขารีบยกมือขึ้นลูบไหล่ไปมาด้วยความเจ็บแสบ ดึงคอเสื้อยืดออกมองไปเห็นรอยฟังประทับไว้แทบจะทุกซี่ ไม่นานร่างบึกบึนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับเตียงก็หงายเก๋งไปนอนกองอยู่ปลายเตียงด้วยแรงของเท้าบางถีบหนัก ๆ ไปตรงท้อง พิมมาดาไม่รอให้เขาตั้งตัวได้รีบวิ่งไปหาประตูห้องนอนของเขาที่เปิดอ้าไว้ เพื่อตรงไปเปิดอีกประตู ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่มันไม่ได้ถูกล็อคจากด้านนอกเหมือนประตูห้องที่เธอนอนจึงรีบเปิดออกหมายจะหนีเอาตัวรอด
“จะไปไหน! มานี่ เก่งนักใช่มั้ย! ตัวแค่นี้พิษรอบด้านไม่ผิดโครตเง้าเลยนะ” แต่ก็ถูกเขาวิ่งมาจับสองไหล่ได้
“ปล่อยฉันนะ! ช่วยได้ ๆ ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย!” ปากร้องดังลั่นแต่เท้าทั้งสองกลับยืนไม่ได้ติดพื้นเพราะเขาใช้สองแขนยกตัวจากด้านหลังจนลอยก่อนจะจับเหวี่ยงแรง ๆ ไปหาเตียงอีกครั้ง ด้วยอาการของคนเลือดขึ้นหน้า
“เลือดนักสู้ดีนี่ แต่ขอโทษนะที่คิดสู้ผิดคน ผิดที่ และก็ผิดเวลา ถ้าทำได้ตอนนี้ผมอยากลากเอาพ่อแม่คุณมานั่งดูเวลาผมจะย่ำยีหัวใจพวกมันเลยจริง ๆ มันจะได้กระอักเลือดตายอยู่ตรงนี้ไง”
มือสองข้างคว้าเข้าไปที่คอเสื้อเนื้อบางของเธอแล้วกระชากแรง ๆ ด้วยความโกรธจนฉีกขาดกระดุมกระเด็นออกจากเสื้อไปหลายเม็ด เขาจึงกระชากด้วยสองมืออีกครั้ง เสื้อตัวจิ๋วก็หมดหน้าที่ห่อหุ้มช่วงบนเอาไว้ได้แล้ว
“อย่า! ออกไปให้พ้น ไอ้คนบ้า! ไอ้คนใจร้าย! ออกไป ๆ ช่วยด้วย ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
“ต่อให้คุณแหกปากร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครสนใจหรอก ผมจะบอกให้ พระเจ้าย่อมไม่เคยเข้าข้างคนผิดเสมอนั่นล่ะ”
แขนเล็กสองข้างถูกดึงขึ้นเหนือศีรษะไปตึงไว้กับเตียงด้วยมือซ้ายของเขาเพียงข้างเดียว ดวงหน้าเนียนพยายามเบี่ยงหลบเมื่อเห็นเขาก้มลงมาใกล้ ๆ แต่มือที่ว่างอีกข้างของเขาก็จับคางมนและดึงให้หันมาตรง ๆ
“อย่า! ๆ ๆ อย่าทำฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะ! ฉันเกลียดแกได้ยินมั้ยฉันเกลียดแก!”
“ปกติผมไม่เคยสนว่าผู้หญิงที่ผมนอนด้วยจะรู้สึกยังไง หรือผมจะรู้สึกยังไงกับพวกหล่อน แต่กับคุณผมรู้สึกสะใจ เพราะมันเหมือนผมกำลังได้ทำลายหัวใจเน่าของพ่อแม่คุณถึงสองดวง อยากเห็นหน้าพวกมันนักว่าจะเป็นยังไง ถ้ารู้ว่าลูกสาวสุดรักของมัน ถูกคนอย่างผมย่ำยีจนไม่มีชิ้นดี แค่คิดก็สะใจแล้ว”
“ปล่อยฉันนะ! พวกเราไปทำอะไรให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้มาทำอย่างนี้ ปล่อยนะออกไป! ฉันเกลียดแก ออกไปให้พ้น ช่วยด้วย!! ๆ ๆ”
เธอหมดสิทธิ์ร้องด่าเขาเมื่อเรียวปากถูกปิดลงในเวลาอันรวดเร็วและดุดันจนรู้สึกเจ็บ เพราะแรงบดขจี้ของเขา อยากจะใช้สองขายันกายให้เถิบหนีจากเขา แต่ก็ถูกขาแข็งทาบไว้จนหนักอึ้ง อกสาวรู้สึกวาบไหวเมื่อเขาละมือจากคางมนลงไปปลดบราเซียร์ออกและบีบเค้นเนื้อนุ่มอย่างลืมตัว
“อย่า! ได้โปรด อย่าทำฉันเลย ฉันขอร้อง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณโกรธเกลียดพวกเราด้วยเรื่องอะไร ได้โปรดอย่าทำฉันเลย” เมื่อเขาทิ้งให้ปากบางเป็นอิสระเพื่อพรมจูบเบา ๆ ไปทั่วหน้า และซอกคอ เจ้าของหน้าคมไม่วายหยุดมองคนที่ร้องขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และสายตาอ้อนวอน
“ผมไม่น่าจะเสียเวลาไปนั่งทำงานให้พวกคุณเป็นครึ่งค่อนปีเลยนะ ผมน่าจะคิดได้ว่าการหาความสุขจากตัวคุณนี่ นอกจากจะทำให้ผมอิ่มเอมแล้ว ยังเป็นการเหยียบย่ำหัวใจของพ่อแม่แสนเลวของคุณได้ดีกว่าเรื่องไหน ๆ เพราะมันจะต้องเจ็บลึก และเจ็บนาน ไปจนวันพวกมันตายจากโลกนี้ แต่ไม่เป็นไร เปลี่ยนแผนตอนนี้ก็ยังไม่สายหรอก”
เกี่ยวกับแผนใหม่นี้ เขาเพิ่งจะคิดได้ตอนถูกศัตรูเรียกไปไตร่สวนเมื่อบ่ายนั่นเอง และเขามั่นใจว่ามันจะทำให้ศัตรูเหมือนตายทั้งเป็น ยิ่งกว่าเสียทรัพย์สมบัติใด ๆ ด้วยซ้ำ
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลย คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่ได้มีค่าสำหรับใครทั้งนั้น ต่อให้คุณฆ่าฉันให้ตายลงตรงนี้ ก็ไม่มีใครสนใจหรอก ได้โปรดเถอะค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าทำอย่างนี้เลย ฉันไม่เคยทำอะไรให้คุณเจ็บช้ำใจเลย ฉันขอร้องอย่าทำแบบนี้” ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงอยากจะทำลายผู้ให้กำเนิดของเธอนัก แต่ก็อยากจะร้องขอความเห็นใจจากเขาเป็นวาระสุดท้าย
“ใช่! คุณไม่เคยทำอะไรให้ผม แต่บังเอิญคุณโชคร้ายที่เกิดมาเป็นลูกพวกมัน อย่ามาขอร้องให้ยากหน่อยเลย ถ้านายสหภาพคิดจะทำ ก็ไม่มีใครมาห้ามได้ ต่อไปนี้คุณจะต้องเป็นเหมือนตัวแทนของสองคนนั้น เมื่อไหร่ผมนึกเกลียดพวกมันขึ้นมา คุณจะต้องชดใช้แทนพวกมัน เมื่อก่อนผมทุกข์ยังไง คุณก็จะต้องทุกข์พอ ๆ กับผม แล้วเอาความทุกข์ที่ได้จากผม ไปเล่าให้พ่อแม่คุณได้ร่วมทุกข์ด้วยไง จำเอาไว้”
สิ้นคำ เรียวปากบางก็ถูกปิดลงอีก แต่ครั้งนี้มีความหนักหน่วงเนิ่นนานกว่า มือหนาลูบไล้ไปตามเอาคอดกิ่วไปหยุดอยู่หน้าท้องแบนราบ ค่อย ๆ ปลดตะขอและรูดซิบออกช้า ๆ
“อย่า! ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย”
เมื่อสองขาหลุดพ้นจากการทาบทับจึงใช้ส้นเท้ายันกับที่นอนแรง ๆ จนตัวเขยิบขึ้นไปแทบจะสุดเตียงเพื่อหนีการรุกรานจากน้ำมือเขา แต่หารู้ไม่ว่านั่นยิ่งเป็นการกระทุ้นให้เขารีบดึงกางเกงขาสั้นและแพนตี้ตัวจิ๋วออกจากท่อนร่างเธอให้เร็วขึ้นไปเท่านั้น แล้วร่างใหญ่ก็ทาบทับลงไปกับร่างบางจนรู้สึกแน่นไปทั้งอก
“อยากรู้จริง ๆ ว่าพ่อกับแม่เลว ๆ ของคุณ จะสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายแบบลูกบ้างหรือเปล่านะ”
กระซิบไปข้างหูด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันแกมสมเพชทั้งคนที่เขาแนบชิดอยู่และกับอีกสองชีวิตที่ป่านนี้คงอกแทบจะระเบิดตายเพราะของรักถูกฉกหายไป
“อย่ามาว่าพ่อกับแม่ฉันนะ ฉันเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดคุณ” น้ำเสียง สีหน้า และแววตาส่งให้เขารู้ว่าคำพูดเธอล้วนมาจากใจจริง แต่มีหรือเขาจะสน กลับชอบใจด้วยซ้ำ
“พนันให้ว่าไม่เกินสองครั้ง คุณจะพูดอีกแบบ ผมว่าคุณอย่าดิ้นรนหนีให้เมื่อยดีกว่า ได้นอนกับผมนี่ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายต่อหลายคนใฝ่ฝันหานะ ผมจะบอกให้ รวมทั้งเลขาหน้าหวานของคุณ แต่แค่ผมยังไม่อยากเล่นด้วยเท่านั้น กลัวคุณจะถือว่าใช้ผู้ชายคนเดียวกับเลขา ก็เลยเก็บตัวไว้ให้คุณก่อนไง และไอ้ที่คุณดิ้นไปดิ้นมานี่ ผมถือว่าเชิญชวนนะ รู้มั้ยว่ามันกระตุ้นต่อมเซ็กส์ผมได้ดีเป็นบ้าเลย เอ๊ะ! หรือว่าคุณชอบใช้วิธีทีกับพวกผู้ชายของคุณกัน ฮึ!”
“ป่าเถื่อน! คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำร้ายคนไม่มีทางต่อสู้ ฉันเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดคุณ” เกลียดน้ำคำเขาอย่างที่สุด จนไม่รู้จะสรรหาคำเจ็บ ๆ จากไหนมาด่าทอเขาให้สะทกสะท้านได้อีก
“ผมเปิดโอกาสให้พวกคุณสู้มาตั้งครึ่งปียังไม่พออีกเหรอ ต่อไปนี้ก็รอรับอะไรที่มันเถื่อน ๆ จากผมก็แล้วกัน”
การต่อล้อต่อเถียงจบสิ้นลง หลังจากเขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีถอดเสื้อยืดออกจากร่างกำยำ แล้วกระจับงามได้รูปที่เผยออ้าจะด่าทอก็ถูกอีกปากก้มลงไปดูดดื่มหาความหวาน สองมือที่พอมีแรงรีบขยุ่มส่วนต่าง ๆ ของกายเขาเท่าที่เธอจะทำได้ เล็บทั้งจิกทั้งข่วนแต่หาได้หยุดการกระทำของเขาไม่ หากกลับเป็นเธอต้องหยุดเสียเอง เมื่อยอดชูชันถูกขบเม้มและดูดื่ม อีกมือไม่ปล่อยให้ว่างต่างช่วยลูบไล้ บีบเค้เคล้าคลึงจนเจ้าของหมดเรี่ยวแรงจะต่อสู้ได้ เมื่อความวาบหวิว แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
น้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินออกมาอย่างไม่รู้ตัว ด้วยมั่นใจในชะตากรรมตัวเองแล้ว ว่าไม่มีทางจะหลุดพ้นจากการกระทำของเขาไปได้อย่างแน่นอน และมันยิ่งหลั่งรินออกมาอีกเป็นสาย เมื่อได้คิดว่าความสาวที่เฝ้าหวงแหนมายี่สิบกว่าปี จะต้องสูญเสียให้กับผู้ชายที่เธอแทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเกลียดพ่อแม่เธอขนาดนี้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอยังหาสาเหตุและคำตอบไม่ได้
ชายหนุ่มยิ้มด้วยอาการของคนเป็นสุข เมื่อเห็นอีกคนนอนหลับตานิ่งหลบหนีการกวาดสายตาไปตามร่างอรชร ขาว เต่งตึงด้วยวัยสาวที่รอให้เขาเด็ดดอมไว้ในอุ้งมือ เจ้าของผมยาวสลวยรู้สึกได้ถึงแก่นแท้ความเป็นชาย เมื่อเขานำร่างลงไปประกบอย่างแผ่วเบา ตามด้วยการพรมจูบไปแทบจะทั่วร่างตามแต่ใจปรารถนา เรียวขางามที่หนีบเข้าหากันด้วยความอายถูกมือหนาค่อย ๆ ประครองจับแยกออกจากกัน แล้วพรมจูบไปตามผิวอ่อนบาง เพราะรู้ดีว่านั่นคือจุดอ่อนซึ่งจะทำให้อีกร่างที่นอนนิ่งคล้อยตามไปด้วย



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ส.ค. 2556, 07:51:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ส.ค. 2556, 07:51:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 5304





<< อิสระที่ต้องไขว่คว้าให้ตัวเอง   แก้วบางแตกเป็นเสี่ยงๆ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account