สิเน่หา...ยอดดวงใจ
260 ปี มันช่างนานแสนนานเหลือเกินกับการต้องรอคอยพบเจอะเจอหญิงสาวอันเป็นนิมิตรหมายในห้วงอันคลั่งแค้นแสนสะสมมานานเป็นร้อยๆ ปีคริสต์ศักราช

แนะนำตัวละคร

ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ บุรุษมหาเศรษฐีเก่าแก่ลึกลับตระกูลหนึ่งของรัสเซีย ทรัพย์สินที่มีไว้ครอบครองมีค่ามากกว่าเมืองหนึ่งๆ ของรัสเซียเลยทีเดียว

ในอดีตชื่อ Anna Mikhailov

ปัจจุบันชื่อ อันนา วรเวช สาวน้อยวัยยี่สิบสองปี ที่ต้องมาจมปลักทนทุกข์ เมื่อกำลังเดินทางมายังเมืองมอสโกแห่งรัสเซียแล่นสู่คฤหาสน์วาติดิน ใน ฐานะ ภรรยาของดานิล วาดิตินวัยหกสิบปี อันนาเข้าใจว่า ดานิลคือชายชรา ก้าวแรกที่เข้ามาได้พบเขา อันนาก็ต้องตกใจ ไหนจากบ้านของเธอบอกว่า ดานิล วาดิติน อายุหกสิบปีแล้ว คนที่เธอเห็นตรงหน้ากลับเป็นชายหนุ่มเรือนร่างกำยำหล่อเหลาไร้ที่ติ แต่ดวงตาคู่คมกริบที่จ้องมองเธอนั้นกลับน่ากลัวเหลือเกิน คำแรกที่ดานิลเอ่ยกับอันนา คือ คำสั่ง เป็นคำสั่งที่อันนาแทบมึนงุนงง ไม่เข้าใจเสียจริงๆ เขาต้องการให้เธอค้นหาหัวใจของเขาที่หายไป...

Tags: รักโรแมนติกพาฝัน,ซึ้งกินใจ,สิเน่หา...ยอดดวงใจ

ตอน: บทที่ 1 คำสั่งแค้น (คำสั่งของหัวใจ)

บทที่ 1 คำสั่งแค้น (คำสั่งของหัวใจ)

อันนาสะดุ้งตัวตื่นนอน เมื่อผิวเรือนร่างกายกระทบเจอเข้ากับความหนาวเหน็บยะเยือก และไม่ค่อยคุ้นเคยกับสภาพอากาศแบบนี้นัก อันนาพยายามปรือดวงตาคู่เล็กที่บวมเปล่งเพราะความร่ำไห้ขึ้น กระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนอนดังกล่าว แล้วถึงกับต้องสะดุ้งตัวโหยงอีกครั้ง มือบางเล็กทั้งสองข้างสั่นเทาเงอะงะรีบคว้าหาผ้าห่มผืนหนามาปกคลุมร่างกายเอาไว้มิดชิด แม้กระทั่งคว้าได้หมอนหนึ่งใบก็ยังดี เนื่องจากว่าภาพตรงหน้าของเธอเวลานี้ และสิ่งที่กำลังมองเห็นอยู่นี้ ยังคงมี เรือนร่างแกร่งสูงโปร่งกายกำยำ และสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำ ยืนจ้องมาที่ร่างของเธอ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลานั่น ช่างเยอะหยันอย่างน่ากลัวนัก อันนาบอกตามความรู้สึกได้เลยว่า เขากำลังแผ่รัศมีรังสีแห่งความเกลียดชัง สาดส่งมาให้เธอเต็มๆ ยิ่งดวงตาคู่คมกริบดั่งมีดอันแหลมคม เพ่งเล็งมายังใบหน้าเธอ จนแทบทะลุเข้าในหัวใจ

“ฮึ! อ่อนแอจริงๆ” ดานิลเปล่งวาจาออกมา ด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่เช้าตรู่วันใหม่ ยิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำดับความร้อนรุม แล้วต้องออกมาเห็นอาการสั่นผวาของแม่หญิงสาวเอเชียหัวใจอำมหิต ก็ยิ่งอยากจะเข้าไปจัดการสั่งสอนเธอให้มันจบๆ ไปชะมัดเลย เขาขยับบริหารเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินมายังหญิงสาวตัวน้อยนิด ซึ่งในห้วงเวลาแห่งอดีตนั้น เธอคือ ผู้หญิงแสนใจร้ายใจอำหิตแห่งตระกูลมิคาโรฟ แต่เขาก็ยังรักเธอ...หลงรักเธอจนหมดหัวใจ ครั้นเธอหนีมาเกิดใหม่ ก็ปล่อยให้เขาเฝ้ารอ เฝ้าค้นหาทุกผืนแผ่นดินบนโลกใบนี้ นานเกือบสองร้อยหกสิบปี...จึงพานมาพบเจอเธออีกครั้งจนได้

“หยะ...อย่าเข้ามานะ” เสียงหวานแหวกร้องห้ามอย่างแผ่วเบาอันสั่นระริก ด้วยเพราะหัวใจเต้นแรงระรัวให้กับความหวาดกลัว ภาพเมื่อคืนที่ผ่านมา เขา คือผู้ชายแสนร้ายกาจ น่ากลัว และเป็นคนที่กำลังบีบคอเธอจนเกือบตาย เธอยังจำได้จนติดตาอย่างไม่มีวันลืม มิสเอตร์ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ ผู้ชายหล่อเหลาวัยหกสิบปี เขาไม่ยอมฟังเสียงร้องห้ามของหญิงสาวสักคำ เพียงแค่เสียงใหญ่หัวเราะในลำคออย่างเยือกเย็น และเวลานี้เธอไม่มีสิทธิ มาประท้วงอะไรทั้งนั้น ดานิลสรุปในใจ ก่อนจะใช้มือหนาแกร่ง เข้าไปคว้าข้อเท้าข้างหนึ่งของเธอ อันนาหวีดร้องลั่นพยายามดิ้นขยับหนีด้วยความตกใจกลัวจับจิตใจ ยิ่งเมื่อได้เห็นร่างผู้ชายแสนร้ายคืบคลานมายังเตียงนอนคิงส์ไซด์กว้างใหญ่ เธอต้องการหนี แต่ก็ช้าไปทุกอย่าง อยู่ๆ ร่างกายของเธอมันไม่ยอมทำตามคำสั่งของเธอเลย ราวกับถูกเขาใช้นัยน์ตาสีดำอันคมกริบสะกดเอาไว้ ดานิลกระชากดึงตัวเธอเข้ามาหาอ้อมอกแกร่ง รัดร่างบางไว้ไม่ขยับเขยื้อนและขัดขืน แม้แต่อาการดิ้นรน เพื่อหลุดหนี จากชีวิตของเขา

“กรี๊ดดด! ปล่อย! ฮือๆ ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” ไม่ว่าอันนาจะออกเรี่ยวแรงขัดขืนดิ้นรน ทุรนทุราย ทุบตีจนสุดแรงเกิด ก็ไม่อาจจะหลุดออกจากวงแขนแกร่งกล้าได้แม้แต่นิดเดียว ผิวกายเนื้ออันกำยำของเขากระทบกับตัวของเธอจนตัวเธอแข็งทื่อด้วยความกลัวสุดหัวใจ ก่อนเขาจะโถมโน้มตัวทับเรือนร่างบาง กังขังเอาไว้ในอ้อมกอดอันทรงอำนาจ แขนบางทั้งสองข้างถูกขึงกางออกแนบราบไปกับที่นอนนุ่มนิ่ม

“ฮือๆ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ ช่วยด้วย ช่วยด้วย!” เสียงหวานกรีดร้องวิงวอนขอความช่วยเหลืออย่างน่ารำคาญ ให้แก่ดานิล จนเขาเดือดและอดทนต่อไปไม่ไหว ถึงขั้นเปล่งเสียงคำรามทรงพลังออกคำสั่ง!

“เงียบ!” แค่ได้ยินเสียงทุ้มทรงอำนาจเพียงครั้งเดียว น้ำเสียงของคนร่างเล็กก็เงียบลงดับสงัดทันทีทันใด ณ วินาทีนี้ เธอบอกได้อย่างเดียวว่าน่ากลัวเสียเหลือเกิน

ดวงตาเล็กบวมแดงก่ำน้ำตาไหลพรากพรั่งพรู ด้วยความหวั่นกลัวสุดดวงใจ และแล้ว จู่ๆ เสียงของเธอก็หายไปด้วย!

‘อย่า อย่าทำอะไรฉันเลยได้โปรด...ได้โปรด...ฮือๆ’ อันนาเปล่งเสียงกู่ร้องได้แค่ในใจ เพราะเธอไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาจากลำคอได้เลย ช่างเป็นเรื่องน่าตกใจยิ่งชีวิตนับตั้งแต่ลืมตาดูโลก ราวกับว่าตอนนี้เธอถูกสะกดมายังดินแดนปีศาจร้าย ไม่จริง มันแค่ความฝัน มันไม่ใช่ความจริง เธอกำลังฝันไปเท่านั้น อันนาพยายามร้องปลอบใจตนเองในห้วงแห่งความคิดของตนเอง

“มันไม่ได้เป็นแค่ความฝัน อันนาที่รัก ข้ามีอำนาจสั่งเจ้าได้ทุกประการ แม้แต่ความตายของเจ้าด้วย!” แต่ทว่าเสียงทุ้มดังกังวานอันทรงพลัง กลับเอ่ยตอกย้ำว่ามันคือความจริง!

“ฮือๆ” อันนาร่ำร้องไห้ได้อย่างเดียว ก่อนหลับแน่นปี๋ เมื่อใบหน้าอันแสนชั่วร้ายโน้มลงมาชิดใกล้ เธอได้เสียงลมหายใจของเขา ที่กำลังใช้จมูกโด่งเป็นสันงดงาม สูดดมตามซอกคอระหงอันเรียวของเธอ จนร่างกายของเธอเอง เกิดความเย็นชนิดแช่แข็งเลยก็ว่าได้ และแล้วก็สะดุ้งโหยงสุดขีด เมื่อลิ้นสากหนากำลังลามเลียชิมดูดดื่มด่ำยังซอกคอระหงของเธอมัน กำลังร้อนระอุ! พร้อมฝากรอยสัญญาลักษณ์อันแสดงความเป็นเจ้าของ...เจ้านายเหนือชีวิตของเธอ แม้กระทั้งเลือดในกายร่างบาง จู่ๆ ก็เกิดไหลเวียนดิ้นพร่าดั่งเพลิงไฟร้อน เขากำลังจะจุดไฟเผาผลาญร่างเธอที่แข็งทื่อดั่งน้ำแข็งขั้วโลก ให้กลายเป็นเพียงแค่ขี้ผึ้งรนไฟละลายลงแม่น้ำอยู่ใช่ไหม!

‘ม่าย!’ อันนาส่งเสียงกรีดร้องลั่นราวกับทรมาน แค่เสียงสะท้อนในใจเท่านั้น ดวงตาเล็กเบิกกว้างโตขึ้นเรื่อยๆ กับการที่เขากำลังทำสัญญาลักษณ์แห่งความเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว

“เสร็จพิธีเสียที ต่อจากนี้ไป เจ้า คือ ผู้หญิงของข้า ชั่วนิรันดร์!”

‘มะ...ไม่เข้าใจ’ อันนาร้องครางถามในใจ แต่ทว่าตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังเร่าร้อนแผ่เผาดั่งกองไฟสุ่มหัว

“หึๆ จงอดทนอีกหน่อยเถอะ ที่รัก ไฟของข้ากำลังแทรกซึม ไปยังส่วนต่างๆ ในร่างกายของเจ้า!” ดานิลกระซิบบอกในโสตประสาทรับรู้ของอันนา ก่อนจะใช้ลิ้นอันร้อนผะผ่าวเลียสัมผัสติ่งหูบางเล็กของเธอ จนร่างบางเกิดความกระตุกเฮือก!

‘ระ...ร้อน ฮือๆ’ อันนาหวีดร้องสุดเสียงแค่ในใจ เมื่อร่างกายมันกำลังร้อนรุมด้วยไฟอะไรก็ไม่รู้ และกำลังหมุนเวียนแล่นไหลไปทั่วเรือนร่าง จนจะมาสิ้นสุด ณ จุดแกนใจกลางร่างกายของเธอ เนื้อเนินสาวเต้นกระตุกบีบรัดเสี่ยวซ่านจนเจ็บปวดทรมาน ทรมานเหมือนดั่งต้องการให้ปลดปล่อยทางเพศ

‘ช่วยด้วย ได้โปรด ช่วยด้วย ช่วยด้วยยยย’ เสียงหวานยังคงครางร้องได้แค่ในลำคอ เมื่อเจ้าชีวิตยังไม่อนุญาตให้เปล่งเสียงพูดใดๆ

“หึๆ ใจเย็นๆ อันนาที่รักของข้า มันยังไม่ถึงเวลา” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ยิ่งกระตุ้นให้ไฟสิเน่หาที่เขาฝากฝังไว้ เกิดปฏิกิริยามันเต้นเร้าร้อนแรงดังถูกพิษยาสวาทเล่นงาน ดวงตาเล็กแดงก่ำทรมานมองใบหน้าชายหนุ่มแสนร้าย ผู้ทำให้ร่างกายของเธอเป็นแบบนี้ ยิ่งลอบมองเขา ทั้งน้ำตาก็ยิ่งกระตุ้นให้หัวใจของเธอสูบฉีดกระแสเลือด ร่างกายบิดดิ้นรน เต้นเร้าไปมาด้วยความทรมาน ด้วยเนื้อกายท่อนบนของเขา มันเชื้อเชิญ บุรุษเพศอันกำยำหล่อเหลาร้ายกาจ กล้ามเนื้ออันไขมัน ซิกแพคเรียงรายเป็นชั้นงดงาม ยิ่งชวนให้อยากสัมผัสแตะต้องเหลือเกิน

“ชะ...ช่วยด้วยได้โปรด...” ในที่สุดเสียงหวานก็พ่นเปล่งคำพูดออกมาจนได้ น้ำเสียงช่างเย้ายวนจนขนในกายแกร่งของดานิลลุกชูตั้งเป็นแถว ดานิลกำลังตกตะลึงต่างหาก เพราะเธอต้านอำนาจของเขาได้ในชั่ววินาทีอย่างงั้นหรือ ทั้งๆ ที่กำลังใช้ไฟสิเน่หาด้วย เก่งมาก! สมกับเป็นผู้หญิงใจร้ายใจอำมหิตเสียจริงๆ

“หึๆ เสียใจด้วยที่รัก ข้าไม่หลงกลมายา ยั่วสวาทของเจ้าง่ายๆ หรอก” ดานิลเอ่ยบอกเธอด้วยเสียงต่ำพร่า เขายังคงจับสองแขนบางแนบไว้กับที่นอนอยู่ ปล่อยให้เธอดิ้นเร้าๆ ไปมาได้แค่นี้ แต่ทว่าการเสียดสีเนื้อกับเนื้อ มันก็ทำให้ไปปลุกอารมณ์สวาทในตัวเขาเช่นกัน ใบหน้างามแดงก่ำทั้งน้ำตา ทั้งสลับซีดเซียวเม็ดเหงื่อผุดเรียงรายขึ้นมาด้วยไฟร้อนในกาย ก่อนจะพยายามดันร่าง โดยเฉพาะแกนกลางของเธอสัมผัสไปกลางลำตัวของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งรู้จักและเห็นใบหน้าเมื่อคืนที่ผ่านมา ดานิล ไม่ใช่ชายวัยชราแก่เฒ่าตามอายุของเขาจริงๆ

“ชะ...ช่วยด้วย ร้อนๆ ช่วยทำให้มันจบๆ ไปเสียทีเถอะ” อันนารีบเปล่งเสียงบอกระรัวเร็ว เพราะกลัวเสียงของตนเองจะหายไปอีกหน มันยิ่งทำให้ดานิลต้องกัดกรามแน่นสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านเดือดในร่างกายตนเอง เขารู้ว่าไฟสิเน่หามันจะต้องจบลงอย่างไงเช่นไร แต่เขาต้องการทรมานเธอ ทรมานผู้หญิงที่ทำให้ ‘หัวใจของเขาหายไป!’ นานนับสองร้อยหกสิบปี!

“ไม่!” คำปฏิเสธที่คำรามออกมานั้น ยิ่งให้หัวใจของอันนาบีบอัดแน่นจนหายใจไม่ออก ทรมาน เจ็บปวด ร้อนจนตัวจะไหม้หมดแล้ว เขาทำอะไร เขาทำอะไรกับร่างกายของเธอ

“อือๆ” เนื้อตัวของหญิงสั่นเทาราวกับลูกระเบิดไม่ยอมทำงาน ดวงตาเล็กเบิกกว้างปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม ริมฝีปากบางสั่นระริกด้วยอารมณ์ทางเพศไม่เกิดความสำเร็จใคร่ ร่างโตที่ทนมองการทุรนทุรายของฝ่ายหญิงไม่ไหว ก็ดึงแขนบางข้างหนึ่งขึ้น ก่อนนำมาให้มือเล็กของเธอเลื่อนลงมายังช่วงล่าง พาล้วงลงไปกรอบกุมเนื้อเนินสาวของเธอเอง

“มะ...ไม่นะ ไม่เอา...” เหมือนเสียงหวานอันยั่วยวนจะร้องห้ามปราม เขาผละร่างแกร่งของตนขยับออกห่างๆ ลุกขึ้น แต่ชันเข่าดันแยกระหว่างเรียวขาสองข้างของหญิงสาวให้ออกกว้างขึ้น เตรียมรับมือบางพร้อมมือแกร่งหนาของเขา แตะล้วงไปยังเนินดอกไม้ เสื้อผ้าเนื้อบางที่ปกคุมร่างอันนาก็คลายออกแสนง่าย ตอนนี้นิ้วมือของเธอกำลังสัมผัสกับตุ่มกระสันตนเอง ตามคำสั่งนิ้วมือแกร่งของเขา ร่างสาวกระตุกเต้นเฮือกอย่างรุนแรง น้ำหวานจากทางดอกไม้งามไหลซึมออกนานแล้ว แถมกำลังกลายน้ำหล่อลื่นให้นิ้วมือของเธอและของเขาบรรเลงกลีบดอกไม้เธอเป็นว่าเล่น

“อ่ะ...อ่ะ” เสียงหวานร้องหายๆ ขาดช่วงๆ ตามนิ้วที่บี้บีบเค้นเคล้าคลึงสลับเชื่องช้าและเริ่มล้วงเข้าออกรุนแรงเนิ่นนาน ก่อนจะกระตุกร่างบางเฮือกใหญ่พันพราย จนเกือบจะหยุดลมหายใจ และแล้วก็ต้องหวีดร้องลั่นห้องด้วยความทรมานเสพสุข และทนต่อความร้อนระอุราวกับไฟในร่างกายไม่ไหวแล้ว คู่ดวงตาเล็กถลึงตาโตจนแตกพร่ามองเห็นดาวหรรษากระจายนับพันกับการสำเร็จใคร่ด้วยตนเอง ความแสนหวานไหลพรากเปียกชุ่มมือบางตนเองและยังเปื้อนไปถึงมือหนาของเขาข้างนั้นด้วย ช่างน่ารังเกียจและเกินความอายไปแล้ว ที่เธอต้องมาทำตัวบ้าบอตามเพลิงไฟสวาทของเขา แถมยังจบด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที ด้วยมือของตนเองอีกด้วย

“จบแล้ว แต่ไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่เลย ข้าได้เห็นเจ้าทนทรมานน้อยมาก ต่ออีกสักรอบไหม อันนาที่รัก” ชายหนุ่มพูด พานเอามือบางเกาะกุมดอกไม้งามของเธอเองต่อ ที่ตอนนี้ดูจะสั่นเทิ้มจนร่างกายซีดเผือก เมื่อเลือดสีแดงในกายยังไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงไม่ทันร่างกาย

“มะ...ไม่ อย่าทำแบบนี้เลย” อันนาร้องห้ามขวัญเสีย สิ่งที่เขาทำกับเธอ แม้จะยังไม่ได้หลอมตัวเขามาฝังไว้ในร่างกายของเธอก็ตาม แต่มันก็ทำให้หวาดสะพรึงกลัวในดวงใจมากเหลือเกิน

“ฮ่าๆ” หนุ่มดานิลถึงกับส่งเสียงหัวเราะคำรามอย่างพอใจที่สุด ยิ่งได้เห็นอันนาพยายามดิ้นรนหลุดออกจากตัวเขา และพยายามคว้าหาผ้าห่ม ทั้งหมอนใบโตมาปกปิดเรือนร่างกายก็ยิ่งทำให้เขาเยาะยิ้มอย่างสะใจ ในที่สุดดานิลจึงปล่อยไปก่อนและลุกออกจากเตียงนอนตน ก่อนจะมายืนค้ำเป็นยักษ์ใหญ่ เป็นเจ้าชีวิตผู้หญิงใจอำมหิตในอดีต

“ฮือๆ” เธอร้องไห้ไม่หยุด เพราะเสียงหัวเราะคำรามนั้น ช่างกรีดลึกจิตใจของเธอเหลือ น่ากลัว น่ากลัวเหลือ ช่วยด้วยพระเจ้า จงได้โปรดมาช่วยเธอด้วย โปรดพาเธอออกจากปีศาจร้ายตนนี้ทีเถิด อันนาเอามือบางปิดหูตนเองไว้ทั้งร่ำไห้ฟูมฟายกับชีวิตแสนรันทดร้ายของตนเอง กับการมาอยู่ในดินแดนที่เธอไม่รู้จัก และนี่ก็แค่สองวันแรกเท่านั้น แล้ววันต่อๆ ไป ร่างกายเนื้อตัวของเธอจะเป็นอย่างไรกัน พอยิ่งหลงคิดตามความคิดของเธอเอง ก็ยิ่งสั่นผวาจับจิตหัวใจ ดานิลหยุดหัวเราะแล้ว ก่อนจะมองเรือนร่างสั่นผวาหญิงสาวอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกเยือกเย็น

“ตามหาหัวใจของข้า นี่คือคำสั่ง!” เนื้อตัวของอันนายังคงสั่นเทาไม่รับรู้อะไรเลย จนเป็นฝ่ายชายเสียเองที่ดันเกิดอาการหัวเสียขึ้นมาดื้อๆ

“ได้ยินที่ข้าสั่งไหม! ยัยผู้หญิงใจอำมหิต...”

“ฉะ...ฉันไม่ได้ใจอำหิตนะ แกต่างหาก แกเป็นปีศาจ” กว่าเธอจะใจกล้าหาญเปล่งวาจาตวาดพูดออกไป ลมหายใจของอันนาก็เกือบจะดับสิ้นชีวา ด้วยอาการหายใจไม่สะดวก เนื่องจากอารมณ์แห่งพันธะทางเพศยังเล่นงานให้เธอหอบเหนื่อยล้าอยู่

“หึๆ ปีศาจงั้นหรือ ที่ข้าเป็นปีศาจก็เพราะเจ้าอย่างไงล่ะ เจ้าเอาหัวใจข้าไปซ่อนไว้ที่ไหนบอกมา!” สิ่งที่ดานิลตะเบ็งคำรามถาม อันนาก็แทบไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ เธอสับสนไปหมดแล้ว

“ไม่รู้ แกพูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง!”

“ฮึ! ไม่รู้เรื่องอย่างงั้นเหรอ อันนา เจ้าเป็นคนเอามันไปซ่อนไว้เองนะ” ดานิลตาลุกโชน เพราะหญิงสาวคิดปฏิเสธ แค่เขาก้าวเดินช่วงเดียวก็มาถึงตัวหญิงสาวเพียงพริบตา มือหนาล้วงเข้ามาบีบคางมนเต็มแรง

“เจ็บๆ ฮือๆ” อันนายังไม่ทันจะตั้งหลัก ตั้งตัวหนี ก็ต้องสะดุ้งเฮือกอย่างกลัวๆ ร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยเจ็บใบหน้าตนเอง เธอบิดดิ้นสะบัดให้หลุดจากมือหนาของปีศาจอันร้ายกาจ แต่ก็ยิ่งได้รับความเจ็บปวดมากขึ้น มือหนาของเขา ทำร้ายเธอรุนแรงเหลือเกิน

“หัวใจของข้า ที่เจ้ากรีดมันออกจากหน้าอกข้าไปไง จับดูสิ!” ดานิลพูด ก็ใช้มือที่ว่างอีกข้าง กระชากเรียวมือบางข้างหนึ่งของอันนามาแตะทาบสัมผัสหน้าอกแกร่งตนเอง การสัมผัสเพียงแวบเดียวทำให้อันนาตัวแข็งทื่อทั้งอึ้ง ด้วยภาพในม่านตามองเห็นอะไรบางอย่างในกายแกร่งของเขา

‘ไม่เสียงเต้นของหัวใจเลย และมันก็ว่างเปล่าด้วย’ เธอตอบในใจ ฝ่ายชายแสนร้าย ก็อ่านความคิดออก จึงตอบไปว่า

“ใช่ ในนี้มันไม่หัวใจนานตั้งสองร้อยหกสิบปี!”

“สองร้อยหกสิบปี!? ไม่จริง! นายมีชีวิตอมตะงั้นเหรอ” อันนาเปล่งเสียงออกมาได้อีกครั้ง ช่างน่าประหลาดใจตนเองด้วย อยู่ๆ เสียงก็หายไป และก็กลับคืนมา มันหมายความอย่างไงเนี่ย

“ถูกต้อง ที่รัก ข้ามีชีวิตอมตะ ก็เพราะเจ้า! ผู้หญิงใจอำหิต ผู้ที่กรีดเอาหัวใจข้าไปฝังและซ่อนมันเอาไว้ ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ นั่นซี!” ดานิลยิ่งตวาดบอก มือที่บีบคางมนฝ่ายหญิงอยู่ก็หลงบีบกำจนพ่วงแก้มอันนาแดงระบมเจ็บ

“มะ...ไม่เข้าใจ เจ็บนะ ปล่อยฉันเถอะ ฮือๆ” เสียงหวานร้องวิงวอนอย่างอู้อี้ด้วยเจ็บปวดพ่วงแก้มตัวเอง เหมือนเขาต้องการบีบบี้ขย้ำให้ตายคามือของเขาเลยได้ยิ่งดี

“อันนา มิคาโรฟวา คือ ชื่อของเจ้า ท่านหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งดินแดนรอฟเวย์” ชายหนุ่มว่าจบ ก็ผลักเหวี่ยงร่างบางออกอย่างไม่ใยดี จนหญิงสาวแห่งดวงใจผู้มาเกิดใหม่ ใบหน้านวลล้มคว่ำราบไปกับที่นอนนุ่ม อันนาหวีดร้องเจ็บด้วยน้ำตา เธอสะอื้นไห้ตัวสั่นผวาดังลูกนกในกรงแสนทรมาน ดานิลเห็นอากัปกริยาของเธอ เขายิ่งหงุดหงิดร้อนระอุ และหัวเสียมากมาย เพราะว่า เธอช่างอ่อนแอนัก อ่อนแอจนเขาเกิดอาการวูบไหวรู้สึกผิด ด้วยการรังแกคนไม่มีทางสู้ๆ ไม่ๆ อย่าใจอ่อนนะดานิล มันแค่มายาสำอ่อยของเธอ ดานิลพยายามเตือนสติตัวเอง และพยายามสลัดความคิดเห็นอกเห็นใจอดีตผู้หญิงจ้าวหัวใจออกจากหัวสมองให้จงได้

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวแบบนี้อีก ก็รีบๆ รื้อความจำของเจ้าให้ได้ซะ ว่าเอาหัวใจข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน เข้าใจที่ข้าสั่งไหม! อันนา!” เขายังพ่นคำสั่งเจ้าเหนือชีวิตหญิงสาวอย่างคนใจร้าย ฝ่ายหญิงได้ยินทุกคำทุกประโยค แต่ก็เอาแต่เงียบสะอื้นไห้ ดานิลเกิดอาการความรำคราญสุ่มหัว ด้วยโทสะโกรธเกรี้ยว เมื่ออันนาทำตัวไม่เป็นดั่งใจที่เขาต้องการเลย

“เงียบ...แสดงว่าเจ้าไม่คิดจะทำตามคำสั่งข้าอย่างงั้นเหรอ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้านอนพักง่ายๆ หรอกนะ อันนา ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” คนบ้า ใจอำหิต! ตอนนี้ร่างกายของเธอเหนื่อยแทบขาดสาย จนไม่มีเรี่ยวแรงดิ้นอยู่แล้ว คิดจะทำอะไรอีก อันนาพ่นคำบริภาสในใจสุดลึกถึงทรวง ยังไม่ทันจะหลุดออกภวังค์คิดตนเอง อยู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกกระชากขึ้น ลุกยืนอย่างอ่อนแอปวกเปียกแทบทรงลำตัวไม่อยู่ ถลาเข้าไปในอ้อมแกร่งของเขา เธอไม่สามารถยืนพยุงรั้งร่างตนเองไว้ได้เลย แถมเสียงร้องก็ยังหายเข้าในลำคออีกแล้ว เวลานี้เธอหมดเรี่ยวแรงและอ่อนล้าเหลือเกิน จนร้องส่งเสียงไม่ออก และแล้วม่านตาของเธอ กำลังเลือนลอย สติก็เริ่มดับวูบลงสู่แห่งความมืดมิดชั่วพริบตา ด้วยความหวาดกลัวสุดดวงหัวใจ ทั้งชีวิตอย่างแสนสาหัส ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

“ยัยบ้าเอ้ย! กลัวข้าจนเป็นลม...” ดานิลต่อว่าใส่เสียงดัง ด้วยความหงุดหงิดไม่พอใจที่สุด แต่ก็รีบช้อนอุ้มตัวหญิงสาวแห่งรักในอดีตกลับมานอนที่เตียงเช่นเดิม พลันนัยน์ตาแกร่งดุดันเผลอจับจ้องมองใบหน้านวลแสนโหยหาอย่างไม่ยอมกระพริบตา ก่อนจะใช้เรี่ยวนิ้วมือไล่ลูบมายังพ่วงแก้มแดงช้ำๆ เป็นรอยด้วยน้ำมือของเขาเอง และมาหยุดจรดปลายนิ้วมือที่ริมฝีปากบางนุ่มนิ่มดั่งผลไม้รสเลิศหายาก เขาอยากจะจุมพิตด้วยความแค้นใจหนักนา แต่ต้องหยุดชะงักเก็บไว้ก่อน เขาพยายามห้ามตนเอง ไม่ให้เขาเผลอไปจุมพิตสิเน่หาจากริมฝีบางนุ่มนิ่มอันนี้

“ฮึ! อ่อนแอ เจ้าไม่เคยเป็นแบบนี้ อันนาที่รัก” เขาสบถด้วยความยับยั้งความปรารถนาของตนเอง และรีบผละออกจากร่างบางโดยฉับพลัน ถ้านานกว่านี้เขาเองนี้แหละ จะเผลอตัวไปกับความรู้สึกที่อัดอั้นมานานถึงสองร้องหกสิบปีเต็มๆ

“ฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ข้าจะทำให้เจ้า จำความได้จนหมดสิ้น ว่าเจ้า คือ ผู้หญิงใจอำหิตมากแค่ไหน!” ความรู้สึกทั้งรักและเคืองแค้นปะปนไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดชายหนุ่มดานิลผู้มีชีวิตอมตะ และอีกไม่นานต่อจากนี้ไป เขาก็จะได้ดวงหัวใจกลับคืนมา ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาได้นอนตาหลับ จนสิ้นสลายเหมือนมนุษย์บนโลกได้เสียที






โปรดติดตามตอนต่อไป

บทที่ 2 ใจหวาดหวั่น...

อริฌา : >_<v
อิอิ ตอนแรกนี้ก็ขอเรียกคะแนนอันน่าสงสารเสียหน่อยนะคะ
แต่จะสงสารใครดีล่ะ พระเอกหรือนางเอก T_Tv



Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2556, 13:46:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ม.ค. 2557, 18:22:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1945





<< บทนำ...สิเน่หา...ยอดดวงใจ   บทที่ 2 ใจหวาดหวั่น... >>
kaelek 1 ก.ย. 2556, 20:28:04 น.
ทำไมพระเอกใจร้ายจัง นางเอกจะสู้ไหวเหรอเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account