เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๗ กลีบสีน้ำเงิน(จบบท)

เชนทร์ตบไม้ตบมือเรียกความสนใจ “เอ้า เดี๋ยวผมกับสายชลขึ้นไปเตรียมตัวแล้วจะกลับ
ลงมานอนหลับฝันดีในห้องแห่งความฝันนะคร้าบ ไม่ทราบมีใครอยากลงมาด้วยกันบ้างไหม”

“ผมนี่ไง” วาริชเสนอตัวพลางหัวเราะเสียงห้าวลึกในคอ “ผมขอมาด้วยคน”

เขาต้องสนใจอยู่แล้ว เพราะถ้ามีใครสักคนสมควรจะตั้งข้อสังเกตกับสถานที่น่าสงสัยนั่น
ก็ควรจะเป็นเขาที่เป็นหมอ อย่างน้อยเขาก็จะลองศึกษากลไกของเจ้าเครื่องสร้างฝันบ้าบอนั่นสักตั้ง
แล้วตอนนี้ก็มีหนูทดลอง เอ๊ย...มีคนอาสาจะลองมันให้ดูต่อหน้าแล้วถึงสองคน

ดาหวันขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ ถ้าวาริชลงมานอนที่นี่ คืนนี้เขาก็จะไม่ได้เปิดอ่านหนังสือที่เธอให้ยืม
ไม่ได้สูดกลิ่นดอกน้ำตานางฟ้าในที่คั่นซึ่งแนบไว้ เธอจะยอมรับกับตัวเองก็ได้ว่าค่อนข้างห่วงผู้ชายคนนี้
มากกว่าสมาชิกที่ถูกทดลองคนอื่นๆ ก็แค่เพราะเขาดูเป็นคนดีที่สุดในบรรดาพวกนั้น
ยิ่งศศิราศีปรากฏตัวออกมา ก็แสดงว่ามีเวลาเหลือน้อยแล้ว บางทีคืนนี้เธอจะต้องหาทาง
ให้เขาได้ดมดอกไม้นั่นด้วยตัวเอง ดาหวันยังมีเหลืออยู่อีกหนึ่งดอก เป็นดอกสุดท้าย
แม้มันอาจทำให้เขาระลึกความหลังบางส่วนที่หลงลืมได้เพียงในความฝัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย


คิดดังนั้นแล้วลูกสาวของชายผู้มีอำนาจเหนือเวชกุลอย่างแท้จริงจึงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เธอไม่ได้สวมชุดนอนแต่เลือกที่รัดกุมพอตัว หยิบหนังสืออ่านเล่นซึ่งมีที่คั่นแบบเดียวกับที่ให้คราม
และวาริชติดมือมาด้วย ที่คั่นทำจากดอกน้ำตานางฟ้าดอกสุดท้ายซึ่งอุตส่าห์เสาะหามาได้
จากห้องทำงานบิดา กลิ่นหอมจากดอกไม้สดยังไม่ช่วยเรื่องความจำและสมาธิระดับลึก
แต่หากถูกอบแห้งอย่างถูกวิธี สีฟ้าอมน้ำเงินของมันจะกลายเป็นสีน้ำเงินกรมท่าเข้มลึก
ออกฤทธิ์ได้ดีกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ดาหวันคิดว่าวาริชคงจะลงไปข้างล่างก่อนแล้วเพราะเขาเป็นคนทำอะไรเร็วไม่ชักช้า
หญิงสาวย่องลงไปชั้นใต้ดิน ทางบันไดเลื่อนที่ตอนนี้ว่างเปล่า ผ่านทางโอ่โถงที่มีผนังและ
เสาต้นสูงเป็นสีเงิน เลี้ยวลัดไปสู่ทางอึมครึม อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องแห่งความฝันที่รอคอยอยู่

แต่แล้วเสียงห่างเหินไว้ตัวก็ดังขึ้นจากภายในห้องไม่มีประตูที่ร่างโปร่งแต่ทะมัดทะแมง
เกินสตรีทั่วไปกำลังก้าวผ่าน

“คิดจะนอนหลับในห้องแห่งความฝันด้วยคนก็ไม่บอกนะ หนูดาหวัน”

หญิงสาวสะอึก หยุดฝีเท้าลงทันที “คุณอย่ามาเรียกดาว่าหนูหน่อยเลย”

“ทำไมล่ะ ก็ฉันสนิทกับคุณเทวัญออกจะตายไป เราก็น่าจะนับเป็นคนคุ้นเคย”

“งั้นเมื่อค่ำทำไมไม่แสดงความคุ้นเคยที่ว่าออกมาต่อหน้าพวกนั้น” ดาหวันหันไปสบตาอีกฝ่าย
ที่เป็นประกายอยู่ในความสว่างจากโคมแสงอ่อนติดผนังอย่างท้าทาย แต่เธอก็รู้ว่าจะทำแข็งขืน
กับศศิราศีไม่ได้เลย ไม่งั้นแผนที่ตนเองวางไว้จะยิ่งเสียไปหมด

“ขอเตือนนะ คุณพ่อให้หนูดามาที่นี่เพื่อช่วยงานพวกเรา ไม่ใช่มาก่อความยุ่งยาก ซึ่งฉันสงสัยว่าหนูจะทำแน่”

มือขาวจัดประดับด้วยเล็บยาวเคลือบสีสันสดเอื้อมมาดึงหนังสือเล่มที่อยู่ในมือของดาหวันไปเสีย
โดยที่เจ้าของไม่อาจขัดขืนหรือเอ่ยประการใด

“คืนนี้ฉันกำลังเหงา ยังไงก็ต้องขอริบหนังสือเล่มนี้ไปไว้กับตัวแล้วกัน อ้อ ขอให้หลับฝันดีในห้องนั้น
แต่ความเห็นส่วนตัวนะ ฉันว่าช่องนอนนั่นมันดูไม่เป็นมงคลเท่าไหร่ เหมือนสุสานเลย”
ศศิราศีหัวเราะด้วยเสียงขรึมเย็นอันเป็นลักษณะเฉพาะตัว แล้วจังหวะส้นสูงของเจ้าหล่อนก็ค่อยๆทิ้งห่างออกไป

ดาหวันถอนใจ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวสู่ห้องแห่งความฝัน ถ้ามีเธออยู่ในห้องนั้นด้วยเสียคน
อย่างน้อยบิดาก็จะไม่สั่งให้ลงมือทำอะไรที่อันตรายเกินไปนัก หวังว่าคงคิดไม่ผิด



คืนนั้น วนัสสาคาดว่าหลังอาบน้ำเป่าผมจนแห้งแล้วตนก็คงจะหลับเป็นตาย แต่กลับกลายเป็นว่า
พอเริ่มเอนลงบนหมอน ยังไม่ทันเคลิ้มเพราะมัวคิดถึงคนที่ทำหน้าบึ้ง หูกลับพลันได้ยินเสียงโลหะ
ครูดไปเรื่อยๆ คล้ายใครสักคนกำลังเอามีดกรีดหรือเคาะไปตามหินอ่อนหน้าระเบียง
ชวนให้เยียบเย็นไปตามกระดูกสันหลัง คล้ายเสียงจากหนังแผ่นสยองขวัญ แต่สำนึกรู้
ว่ามันอาจไม่ได้เกิดขึ้นหน้าห้อง นานๆทีเธอเองก็ได้ยินเสียงจากที่ไกลๆมาดังอยู่ใกล้ๆ
เสียงที่ว่าทำให้ตาตื่นอยู่ แต่สักครู่มันก็ขาดหายไป

พอกำลังปล่อยใจให้หลับใหล กลับมีดนตรีแว่วมาเข้าหู ใครกันนะมาเล่นเปียโนเอาดึกดื่นป่านนี้
มันอาจดังมาจากเปียโนหลังสีขาวที่เธอเคยเห็นในห้องนั่งเล่นซึ่งมีประตูปิดมิดชิด
อยู่ติดกับห้องรับประทานอาหารเย็น แม้เพลงจะเป็นเชิงขับกล่อมให้อยากนอน
แต่ก็น่าสงสัยอยู่ดี เสียงนั้นบางพักก็ดัง บางพักก็แผ่วหาย... หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่ง
ตั้งใจจะลงไปดูให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าเมื่อเธอสวมเสื้อคลุมมิดชิด
เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหน้าห้องอย่างชวนฉงน

วนัสสาเดินไปหยุดหน้าประตู เอ่ยถามออกไป “ใคร มีธุระอะไรคะ”

“ผมเอง” เจ้าของเสียงตอบเพียงคำถามแรก

แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้วนัสสาตัดสินใจเปิดประตู “คราม มีอะไรหรือ...”

ประกายแปลกๆในดวงตาเรียวคมที่เห็นนั้นมีแววดุ อาจเป็นที่คิ้วซึ่งเหมือนถูกป้ายให้ปลายตวัดขึ้น
อย่างสวยของเขาด้วย เสื้อคลุมไม่ได้ผูกให้เรียบร้อย จึงเปิดให้เห็นอกตึงแน่นไปด้วยผิวขาวสะอาดสะอ้าน
ของเขา ผมซึ่งได้ทรงอยู่เสมอตอนนี้ยุ่งกว่าเคย เหมือนเพิ่งลุกจากที่นอน มาหมาดๆ วนัสสาใจเต้นตึกๆ
อีกฝ่ายยังไม่ทันจะยอมตอบคำถามก็ใช้แรงที่เหนือกว่าดันประตูเข้ามา ก่อนจะปิดมันลงตามหลัง
กดล็อกด้วยมือที่ไพล่ไปข้างหลัง หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์แบบไหน!

“คุณต้องการอะไรคะ” วนัสสากระซิบเสียงพร่า ปกติครามดูเป็นคนจริงจัง แต่ก็ใจดีกว่านี้
ตอนนี้หน้าเขาซีดเหมือนกำลังช็อก แต่แววตามุ่งมั่นทอแสงแรงกล้าอย่างประหลาด

ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม แต่ร่างสูงนั้นตวัดเธอเข้าไปกอดกระชับชิด ก่อนใบหน้าคมๆขาวๆ
จะซุกลงมาหาแก้มนวล ร่างแกร่งไปด้วยพลังดันวนัสสาไปจนถึงเตียง ดูเหมือนเขาจะ
เสียการควบคุมตนเองไปแล้ว และด้วยความตกใจ เธอเองก็เช่นกัน ทั้งที่เคยคิดว่าจะคุมสถานการณ์ได้
แต่พอเจอครามรุกเข้าอย่างนี้ หญิงสาวได้แต่ตะลึง ทำอะไรไม่ถูกแม้แต่จะดึงเสียงของตัวเองให้เอ่ย
ห้ามปรามออกมา

“วันนี้ผมไม่ชอบใจเลยกับชุดว่ายน้ำโป๊ๆนั่น แล้วก็ที่สองคนนั้นมองเธอ เธอควรเป็นของผมคนเดียว”

“คราม!” หญิงสาวตกใจมากกับวาจาของชายหนุ่ม เขาดูจะข้ามขั้นไปมากเหลือเกิน

“ผม ฝัน...ถึงเรา” ครามกึ่งกระซิบกึ่งคำรามอู้อี้อยู่ข้างหูวนัสสาที่ยังสั่นอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง
“แล้วผมก็รู้ มันคือความจริง”



นวาระยังคงสำรวจหาสิ่งที่ต้องการอยู่ในห้องนั่งเล่น มีบางอย่างอยู่ในห้องนี้
กลไกอาจไม่ได้อยู่ตรงการเล่นเพลงกับคีย์เปียโน เขาลองแล้วทุกเพลงที่มีคำว่าบลูอยู่ในชื่อ
เท่าที่ตนเองรู้จัก เขาต้องตามหา ความจริงภายใต้สีน้ำเงิน

ชายหนุ่มถอนใจ ทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั้น นอนก่ายหน้าผากมองเพดาน
เดือดดาลในอกจนแทบระเบิด คนอย่างเขาไม่เคยยอมแพ้กับใครหรืออะไร
ไม่มีใครมันจะมาฉลาดเกินหน้าเขาได้ เขาต้องนึกให้ออกก่อนทุกคน
ต้องเป็นคนคุมเกม ไม่ใช่เหยื่อ... ดวงตาหรี่ปรือทอดมองไปยังเพดาน แล้วก็พลันเห็น

ฝ้าเพดานแผ่นหนึ่งคล้ายเหลือบเงาสีน้ำเงินในพริบตาที่ดวงตาเขาพร่ามัวลง
นวาระลุกขึ้นช้าๆ ปิดไฟ ส่องมันด้วยแสงอย่างพิเศษที่เรียกว่าแบล็คไลท์
(แบล็กไลต์ (black light) เป็นหลอดที่เปล่งรังสียูวีคลื่นยาว มีสีม่วงดำ
ใช้ตรวจเอกสารสำคัญ เช่น ธนบัตร, หนังสือเดินทาง, บัตรเครดิต ฯลฯ
ว่าเป็นของจริงหรือปลอม หลายประเทศได้ผลิตลายน้ำที่ไม่สามารถมองเห็นได้
ในรังสีชนิดนี้ นอกจากนี้ แบล็กไลต์ยังสามารถใช้ล่อแมลงให้มาติดกับ เพื่อที่จะ
กำจัดภายหลังได้ / จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
เพดานส่วนนั้นไม่เชิงว่าเรืองแสง แต่เห็นเป็นสีแปลกกว่าฝ้าแผ่นอื่นจริง
คล้ายถูกฉาบไว้ด้วยน้ำยาบางเบาจนยากจะสังเกต

ผ่านไปครู่หนึ่งร่างสูงจึงลากโต๊ะและเก้าอี้ไม้มั่นคงมาต่อขึ้นไป สูงพอจะเอื้อมถึงเพดาน
ไฟฉายแบล็คไลท์ที่คาบอยู่ในปากยังคงส่องเป็นลำขึ้นไปยังเป้าหมาย ปลายมีดของนวาระ
ค่อยๆแซะให้ฝ้าแผ่นนั้นเปิดออก มันเบากว่าที่คิด และไม่มีทางจะเลื่อนไปด้านข้างได้
เหมือนติดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนจะสามารถพลิกกลับด้าน ชายหนุ่มลองขยับดัน
แผ่นฝ้าเจ้ากรรมที่ว่าหมุนพลิก เทบางสิ่งบางอย่างพร่างพรูลงมาใส่ร่างเขา

แสงจากไฟฉายสีประหลาดส่องให้เห็นกลีบดอกไม้เรืองแสงนับสิบนับร้อยที่โปรยปรายลงมา
พร้อมละอองของสารสกัดกลิ่นฉุนเข้มข้น

กลีบดอกสีน้ำเงิน...กำลังค่อยๆดึงความทรงจำมากมายที่หายไปของชายหนุ่มให้หวนคืน


โปรดติดตามบทพิเศษ
{ความทรงจำที่หายไป : ความหลังของผีเสื้อ}



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ย. 2556, 03:30:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:36:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 1243





<< ความทรงจำที่ ๗ กลีบสีน้ำเงิน(...ต่อ)   บทพิเศษ ความทรงจำที่หายไป:ความหลังของผีเสื้อ - ความทรงจำที่ ๘ ดุจน้ำค้างกลางราตรี >>
อสิตา 4 ก.ย. 2556, 03:31:12 น.
ภาวิน – ขอบใจเพื่อนร่วมชุดผู้อ่านแล้วอ่านอีก ไม่รักกันจริงทำไม่ได้นะเนี่ย
คุณเลิฟหมวย – ที่คฤหาสน์กลายเป็นแหล่งรวมคนหน้าตาดีไปแล้วค่ะ น่าไปอยู่นะ แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะเจออะไร
คุณสุขุมวิท66 – คนเขียนก็อิจฉาเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าตอนนี้จะยิ่งใกล้ชิดครามมากขึ้นแบบซุปเปอร์เลยนะ ฮิ้ววว
คุณดังปัณณ์ – น่าสงสารจริงๆ ไข้ขึ้นแต่ก็ยังอุตส่าห์มาเม้นให้กำลังใจ ซาบซึ้งในน้ำใจค่ะ

คุณพันธุ์แตงกวา – หมอริชฮีก็ระวังตัวอยู่นา แต่หมอเป็นพวกบ้าการทดลอง ต้องสังเกตการณ์ไว้ก่องง่ะ
คุณผักชีใบเหี่ยวห้อย – หมอไม่จิตน้า น่ารักน้า อย่ากระชากวนัสออกจากครามมี่เลยค่ะเพราะว่าตอนนี้ใกล้ชิดก่าเดิมอิ๊กกก ง่า
คุณแพทแมว – นั่นสิคะ ดาหวันเป็นตัวละครที่มีมิตินะ หุหุ ส่วนเรื่องหนูวนัสกับครามก็อย่างที่รู้กัน
คุณกระต่ายผ้าขี้ริ้วขนเปื่อย – ตอนนี้ท่าทางนาวี่กับครามมิช่าจะเลิฟๆกันไม่ไหวละนะ ต่อไปจะต้องอัดกันแน่แล้ว(ไม่ใช่ถั่วดำ)

คุณพระอาทิตย์สีทอง – หนุ่มๆเรื่องนี้เร่าร้อนต่อกันทุกคน55 ครามเร่าร้อนเพราะโกรธที่หนูวนัสคุยเล่นกับคนอื่นมากไปน่ะค่ะ หุหุ สงสัยดาหวันจะปิ๊งหมอริชนะคะ อาการมันมันคล้ายๆอย่างนั้น
คุณดังปัณณ์เวอชั่นฟื้นไข้ – เสียงกรี๊ดนำมาเลยนะคะ อืม หวังว่าคงเชียร์ไม่ผิดน้า ตอนนี้หนูวนัสก็แลดูว่าจะกู่ไม่กลับแล้วด้วย
คุณเฟอร์ก้นกระดกหางกระเดิด – ช่ายๆๆๆ มันใกล้จะพีคยกแรกแล้ว นางพญาก็ล่อลวงทุกคนมาทำการทดลองก็ถูกแล้วนี่ เฟอร์ไม่อยากเป็นหมู เอ๊ย หนูทดลองเหรอ มีแต่คนหล่อๆนะ...


ภาวิน 4 ก.ย. 2556, 03:58:34 น.
เอาล่ะสิ ตอนนี้จะจำกันได้หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พ่อครามนี่ก็มาเล่นบทเซ็กซี่กลางดึกซะงั้น เรียกเรตติ้งซะไม่มี แต่หมอริชขวัญใจเราก็มีดาหวันคอยดูแลไม่น้อยหน้ากัน น่าสงสารหนุ่มหน้าสวยอย่างนวาระที่ต้องอยู่เดียวดาย


พันธุ์แตงกวา 4 ก.ย. 2556, 07:31:18 น.
อ้าว! ทำไมวันนี้สั้นนักอ่ะ ยังไงหนิยังไง ครามกับหนูวนัสจะไปถึงไหนกัน ตัดตอนบาดตับเจ้มากเลย


ดังปัณณ์ 4 ก.ย. 2556, 09:09:50 น.
เอ่อ อ่า เอิ่มมมมมมมมมมมม คุณครามเจ้าขาาาาาาาาาาา มามาดเซ็กซี่เชียวนะ ชิชะจะทำอะไรน่ะ เดี๊ยะๆๆๆ จะไปแอบข้างเตียง 555+ ซะงั้น....ไปซะแระช้านนนนนนนนนน

คุณแป้งงงงงงงงงงงงงงงงง พ่อดอกกุหลาบนี่เค้าตื๊อจิงไรจิงนาค่าเนี่ยยยยยยยย ดูดิ ซุกซนเชียะ ฮี่ๆๆๆๆ จำได้ไวๆนร้าาาาาาาาาาาา (เพราะจะได้อ่านตอนต่อไปใช่ม้าาาาาาาา หุๆ)

-/////- ยังเจ็บคอนิดหน่อย ขอบคุณค้า (เมื่อเช้าคิดเกงานยุค้า เพลีย 555+)


sai 4 ก.ย. 2556, 10:37:49 น.
อยากอ่านต่อแล้ว (ตอนนี้สั้นไปป่าวเนี่ยยยย)


Sukhumvit66 4 ก.ย. 2556, 11:59:46 น.
อร้ายยย...ครามทำไรอ่ะ ประเจิดประเจ้อ ว่าแต่ว่า ปิดประตูล็อกกลอนด้วยดิ
เขิลลนะ คริคริ


ก็เป็นได้แค่กระต่ายผ้าขี้ริ้ว 4 ก.ย. 2556, 13:15:49 น.
อ่านตอนนี้แล้วใจเริ่มโอนเอียงไปทางครามิชา ส่วนเจ้านาวี่ ทำอะไรอยู่เนี่ย ไปยืนเล่นกลีบดอกกุหลาบอยู่ได้


บุลินทร 4 ก.ย. 2556, 23:02:30 น.
อยากมีเวลาอ่านนนน


Chii 5 ก.ย. 2556, 09:53:04 น.
หมั่นไส้ยัยวนัส
พี่ครามไปยุ่งกะยัยนั่นทำไมมมมมมม


goldensun 5 ก.ย. 2556, 13:34:46 น.
ท่าทางจะเหลือหมอริชคนเดียวที่ยังไม่ได้ดมดอกไม้คืนความจำนะคะ เพราะที่มีก็ให้วนัสไปซะแล้ว ที่จะได้ใหม่ก็โดนชิงไปก่อนซะแล้ว
แต่นวาระนี่ เจอทีเดียวเต็มหัวอย่างนี้ ความจำไม่พุ่งพรวดเลยหรือคะ
ส่วนคราม ฝันแล้วอารมณ์ขึ้นได้ไวขนาดบุกห้องวนัสกลางดึกเลย เหมือนดอกไม้จะกระตุ้นครามได้ไวกว่ากระตุ้นวนัสรึเปล่า เพราะดูแล้ววนัสได้ดอกไม้ไวกว่าคราม แต่ความจำดูเหมือนจะยังมาไม่ไกลเท่าครามเลย


ree 6 ก.ย. 2556, 19:01:05 น.
นวาระจะจำอะไรได้บ้างนะ หรือจะเป็นพระเอกตัวจริง


Zephyr 7 ก.ย. 2556, 20:28:45 น.
แจ็คพอต หล่นใส่หัวโครมใหญ่
ดอกน้ำตานางฟ้าเหมือนที่ดาหวันว่าสินะ
เออะ ดึงความตำเร็วเกิน จะเกิดระเบิด ตู้มมมมมมม มั้ยอ่า
ศศิราศี น่ากลัววววววว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account