ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๐ (ครึ่งแรก)

แม้จะโกรธและไม่เชื่อสิ่งที่พรนางฟ้าเอ่ยถึงแฟนสาว แต่พัทธ์ธนัยก็อดระแวงไม่ได้ ระยะหลังสุภัทรชาไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเท่าไร ครั้นชวนไปไหนมาไหนก็มักอ้างว่ามีงานต้องทำเยอะ เขาเข้าใจที่หญิงสาวพยายามทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อเอาชนะเพื่อน แม้ใจหนึ่งอยากบอกเธอว่าไร้ประโยชน์ แต่อีกใจก็ไม่อยากทำลายความหวังของใคร สุภัทรชาหวังกับตำแหน่งผู้อำนวยการมาก สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการพลาดท่าให้ผู้อื่น นี่คงเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่เธอรับไม่ได้จริงๆ

หลายเดือนก่อน เขาชวนสุภัทรชาไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารหรูในโรงแรมห้าดาวเพื่อขอเธอแต่งงาน แต่หญิงสาวปฏิเสธโดยอ้างว่ายังรักการทำงานและอยากทุ่มเทเวลาให้งาน มาบัดนี้เมื่อตำแหน่งที่เธอหมายมาดลอยหาย บางทีเขาน่าจะพยายามอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมกับเขามากไปกว่าสุภัทรชาอยู่แล้ว

“พักนี้ท่าทางเกรซเครียดๆนะ อยากเล่าให้พี่ฟังบ้างไหม” เขาเกริ่นก่อนเข้าเรื่องเมื่อรับเธอไปรับประทานอาหารด้วยกัน แน่ละว่านอกจากเรื่องงาน เขาอยากได้ยินว่าสุภัทรชาขัดแย้งอะไรกับพรนางฟ้า อีกฝ่ายจึงต้องใส่ร้ายเพื่อนรุนแรงถึงขนาดกล่าวหาว่าสุภัทรชา ‘มั่ว’ ไม่เลือกปานนั้น

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ผอ.คนใหม่คงจะเห่อตำแหน่งมั้งคะ ช่วงนี้ก็เลยเคี่ยวเข็ญตรวจงานทุกชิ้นอย่างละเอียด เกรซแก้จนไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว ก็ไม่ถูกใจเขาสักที”

แทนที่จะปลอบโยนแฟนสาว ชายหนุ่มกลับถอนหายใจด้วยความเสียดายโดยไม่รู้ตัว “รู้จักกันมาตั้งนาน ก็เห็นเรียบร้อยน่ารัก คิดไม่ถึงเลยว่าแพนจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้”

สุภัทรชาเอื้อมมาจับมือเขาแล้วบีบเบาๆ ออกตัวเสียงอ่อย “อย่าว่าแพนเลยค่ะ ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน เกรซไม่โกรธเขาหรอก บางทีเขาอาจต้องการแก้แค้นที่เกรซเคยใช้งานเขาก็ได้ เกรซทำใจได้”

“แต่พี่ทำใจไม่ได้” พัทธ์ธนัยหงุดหงิด ลึกๆแล้วยอมรับว่าผิดหวังกับความร้ายกาจของพรนางฟ้า ยิ่งนึกถึงผู้หญิงเรียบร้อยที่เขินจนเสียงสั่นตอนบอกว่าชอบเขาก็ยิ่ง...เสียดาย เมื่อรู้ตัวว่าชักจะฟุ้งซ่าน เขาก็รีบกลับเข้าเรื่อง “ลาออกจากงานเถอะเกรซ แล้วแต่งงานกับพี่ ไม่ต้องทำงานหรอก พี่เลี้ยงเกรซไหว”

“โถ...พี่พัทธ์ของเกรซ” เธอช้อนตาขึ้นสบสานกับเขา ดวงตางามวาววามด้วยหยาดน้ำตา “พี่พัทธ์ดีกับเกรซเหลือเกิน แต่เกรซยอมแพ้ง่ายๆแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ล่าสุดแพนมาข่มขู่แย่งงานที่กระทรวงป้องกันสาธารณภัยไปทำเอง เกรซได้แต่น้ำท่วมปาก แต่ก็ตั้งใจแล้วว่าจะยอมแพนแบบนั้นแค่ครั้งเดียว แพนแย่งผลงานเกรซได้เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่เกรซจะไม่ยอมให้เขาทำกับลูกน้องหรอกค่ะ ยังไงเกรซก็ต้องอยู่ปกป้องพนักงานในแผนก"

ชายหนุ่มเผลอเบะปากแสดงความไม่เชื่อออกมาโดยไม่ทันควบคุม เมื่อนึกได้จึงรีบฝืนยิ้ม ถนอมน้ำใจเธอด้วยการบอก “เกรซเป็นเจ้านายที่น่ารักมาก อดทนต่อไปนะ อีกไม่นานแฟรงค์ต้องเห็นความสามารถของเกรซแน่นอน ถ้ามีโอกาสพบแฟรงค์ พี่จะลองเกริ่นๆเรื่องที่แพนแย่งผลงานของเกรซให้เขาฟังด้วย ไม่ต้องห่วง ระหว่างนี้ก็อย่ายอมแพ้นะครับ” พัทธ์ธนัยปลอบโยนแกนๆ ขณะสมองหมุนเป็นจักรผันอดถามตัวเองไม่ได้ว่า เขาพอจะทำอะไรได้บ้างไหม จึงจะดึงพรนางฟ้าให้กลับมาเป็นคนอ่อนหวานน่ารักคนเดิมได้อีกครั้ง!





กระจกที่กรุอยู่รอบห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมหรูกลางกรุงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรุ่น สะท้อนให้เห็นหญิงชายในเครื่องแต่งกายหรูหราตกแต่งเครื่องประดับวิบวาวกระจายกันอยู่รอบๆห้อง

พรนางฟ้าในชุดเสื้อกระโปรงติดกันสีดำมีสายเส้นจิ๋วลากขึ้นจากกึ่งกลางเป็นรูปตัววีไปยังบ่าทั้งสอง อกเสื้อจับจีบละเอียด ขณะท่อนเอวซ่อนผ้าชีฟองสีดำไว้ภายใน โดยมีไหมเส้นจิ๋วๆยิบๆขึงแน่นตามแนวตั้ง ส่งให้ผู้สวมยิ่งเพรียวระหง และเมื่อเจ้าตัวขยับกายจะเห็นผิววับแวมด้านในนิดๆ ชายกระโปรงบานพลิ้วยาวแค่หัวเข่าทิ้งตัวตามจังหวะการเคลื่อนไหวทำให้หญิงสาวยิ่งดูหรูหรา อ่อนหวาน และลึกลับไปในเวลาเดียวกัน

สร้อยพิงค์โกลด์ห้อยจี้ผีเสื้อสีส้มเด่นสะดุดตาเมื่อคล้องอยู่ระดับอก และมันช่วยให้พรนางฟ้ามั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อต้องทักทายกับเพื่อนร่วมรุ่น ทว่าเมื่อหลายคนผลัดกันเข้ามาถามหาสุภัทรชา ใบหน้าเธอก็เริ่มแปรไป รอยยิ้มเลือนลง ขณะในใจเร่าร้อนด้วยความชิงชังที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว

“เราไม่ใช่ต้นห้องของเกรซนะ เจอหน้ากันแทนที่จะถามว่าแพนสบายดีไหม กลับถามถึงแต่คนที่ไม่มาอยู่นั่นแหละ น่าเบื่อ"

เพื่อนทั้งกลุ่มอึ้งกันถ้วนหน้า ปกติพรนางฟ้าเรียบร้อย พูดน้อย คอยยิ้มให้ผู้อื่นมากกว่าแสดงความคิดเห็น แต่วันนี้หญิงสาวแปลกตาไป ทั้งบุคลิกเครื่องแต่งกายที่ดูประเปรียวขึ้น รวมถึงวิธีพูดที่ดูมั่นใจ ดูไปละม้ายเป็นสุภัทรชาคนที่สองอย่างไรอย่างนั้น

“โทษทีแพน พวกเราเห็นแพนกับเกรซสนิทกัน ทำงานที่เดียวกัน ก็เลยนึกว่าแพนจะรู้ว่าทำไมเกรซไม่มางานเลี้ยงรุ่นวันนี้ ทั้งที่ปกติแล้วเกรซไม่เคยพลาดงานแบบนี้เลยนะ” ใครสักคนในกลุ่มเป็นตัวแทนรีบอธิบาย

พรนางฟ้าสบโอกาส แต้มยิ้มกว้างสะใจ เมื่อเอ่ยต่อ “เกรซคงอายไม่กล้ามาสู้หน้าเพื่อนๆมั้ง เพราะ...” เธอคอยจนทุกคนตั้งใจรอฟังแล้วจึงเฉลย “เจ้านายเพิ่งจับได้ว่าเกรซไม่ได้ทำงานเองน่ะ”

ทั้งที่อยากบอกข่าวดีว่าเธอได้เลื่อนเป็นผู้อำนวยการเต็มทีแล้ว แต่หญิงสาวก็ยังใจเย็นพอที่จะค่อยๆโยนเหยื่อลงน้ำ รอให้ปลากินเบ็ดทีละชิ้น

“อ้าว! แล้วไงต่อ เกรซโดนไล่ออกหรือเปล่า เดี๋ยวนะ ถ้าเกรซไม่ทำงานเอง แล้วใครทำให้เกรซล่ะ”

“ยังต้องให้บอกอีกเหรอว่าใครทำงานแทนเกรซ” พรนางฟ้าแสร้งกะพริบตาปริบๆ เพื่อนร่วมชั้นย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นคนทำรายงานสารพัดชนิดให้สุภัทรชามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

“อ๋อ...” ทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้ารับรู้ แล้วคนหนึ่งในกลุ่มก็เอ่ยถึงเรื่องที่พรนางฟ้ารอฟังอยู่นาน “ไม่อยากบอกเลยว่าสมน้ำหน้า เกรซมันเอาเปรียบแพนมาตั้งนานละ วันนี้โดนซะบ้างก็ดี เออ...แล้วแพนล่ะ นายรู้ว่าทำงานแทนเกรซแล้วเป็นไง ได้รางวัลอะไรบ้างไหม”

พรนางฟ้าก้มหน้านิดๆ “พอดีตำแหน่งผู้อำนวยการว่างอยู่ ทีแรกนายใหญ่จะเลื่อนตำแหน่งให้เกรซ แต่พอรู้เรื่องนี้เข้า เขาก็เลยยกตำแหน่งนั้นให้เราแทน”

“เฮ้ย! โคตรข่าวดีเลยดิแพน โว้ว...รู้สึกยังไงบ้างที่ได้เป็นท่านผู้อำนวยการ” เพราะพรนางฟ้าเคยช่วยเพื่อนๆคนละนิดละหน่อยโดยไม่เกี่ยงงอน พูดง่ายๆว่าเธอไม่กล้าปฏิเสธใครมากกว่า ทุกคนจึงรักและเข้าข้างพรนางฟ้ามากกว่าสุภัทรชาเสมอ

“ก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้ว มันเหมือนฝันที่เป็นจริง”

“จริงๆถ้าไม่มีเกรซคอยแย่งผลงาน เราว่าแพนอาจเป็นผู้อำนวยการไปตั้งนานแล้วก็ได้ อย่ามัวแต่คิดว่ามันดีเกินจริงหรืออะไรเลย เราว่าแพนสมควรได้รับสิ่งนี้นะ”

พรนางฟ้ายิ้มกว้าง “ขอบใจมาก ตอนที่เจ้านายแต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้ เกรซโกรธแพนมาก เขาแทบไม่มองหน้าแพนเลยมั้ง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ ‘เพื่อนจริงๆ’ มาร่วมยินดีกับตำแหน่งใหม่ของแพน”

“เกรซมันขี้อิจฉา แต่มันไม่ยอมรับหรอก ขืนใครพูดให้ได้ยิน แม่ได้ด่าเปิง ที่จริงวันนี้เกรซไม่มาก็ดีนะ พวกเราจะได้เมาท์กันสบายๆ ไม่ต้องระวังแม่ไฮโซนั่นอาละวาด”

พรนางฟ้าหัวเราะคิก แม้เพื่อนบางคนเปลี่ยนสีเร็วยิ่งกว่าจิ้งจก และพร้อมเข้าข้างใครก็ตามที่ทำให้ตัวเองได้ประโยชน์ แต่บางนาที...หญิงสาวก็แค่อยากได้ยินคำพูดเพราะๆและคนเข้าข้างชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อให้แน่ใจว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องก็พอแล้ว





“พรนางฟ้า!” เสียงเรียกเข้มงวดคุ้นหูทำให้หญิงสาวค่อยๆหันไปทางต้นเสียงด้วยความหวาดหวั่น และก็เป็นดังคาด...อาจารย์ที่ปรึกษาสมัยเธอเป็นนักศึกษายืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง เป็นเรื่องน่าแปลกที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด และเราอายุมากแค่ไหน แต่เมื่อเจอครูบาอาจารย์สมัยเด็กๆ ความรู้สึกหวาดๆก็ยังคงอยู่ที่เดิม อาจเจือจางไปบ้าง แต่ความเกรงกลัวจะไม่มีวันหายไปโดยเด็ดขาด

“สวัสดีค่ะอาจารย์” พรนางฟ้าทำความเคารพอย่างนอบน้อม “อาจารย์สบายดีนะคะ”

“สบายดี เราล่ะเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่เรียนจบนี่ไม่เคยกลับไปที่มหาวิทยาลัยเลยนะ”

“อาจารย์ก็ทราบว่าหนูสอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ ขนาดพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร หนูยังไม่มีโอกาสได้เข้าร่วม ต้องส่งปริญญาบัตรไปให้ที่บ้านเลย”

“นั่นสิ นึกถึงทีไร ครูก็ยังเสียดายไม่หายที่เราพลาดเหรียญทองไปฉิวเฉียด”

“ก็อาจารย์นั่นแหละค่ะที่ให้เกรดรายงานฉบับสุดท้ายของหนูแค่บีบวก คะแนนรายงานนั่นตั้งหกสิบเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด แถมยังไม่มีสอบปลายภาคอีกด้วย นี่ถ้าอาจารย์ให้เอ หนูก็ได้ ๔.๐๐ รับเหรียญทองไปแล้ว” ความในใจเสียงดังมาอีกแล้ว

“โทษครูไม่ได้หรอกนะ” ผู้อาวุโสหัวเราะเบาๆ “ครูน่ะอยากลำเอียงให้เอเธอใจจะขาด แต่รายงานของเธอมันยังดีไม่พอจริงๆ นี่ถ้าเธอเลือกเรื่องทำรายงานได้น่าสนใจกว่านั้น ครูคงให้เอเธอไปแล้ว น่าเสียดาย”

“ทำไมจะดีไม่พอคะ แพนคาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีได้ถูกต้องหมดทุกอย่างเลย อาจารย์ดูสิคะ ทุกวันนี้คนคุยโทรศัพท์พร้อมกับเห็นหน้ากันได้ คนไข้หาหมอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีต หนูอ่านเกมขาดขนาดนั้น อาจารย์จะกลับไปแก้เกรดให้หนูตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”

คนเป็นครูตบบ่าลูกศิษย์อย่างล้อเลียน “ที่เธอพูดมาทั้งหมดนั่น มันเป็นรายงานของสุภัทรชาไม่ใช่เหรอ เธอน่ะเลือกทำเรื่องเทคโนโลยีที่กำลังจะตายต่างหาก แพนทำนายว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย คอมพิวเตอร์เครื่องเท่ากระดาษเอสี่ไม่มีวันเกิดขึ้น มาวันนี้ที่คนพกสมาร์ตโฟนกับแท็บเล็ตเกลื่อนเมือง เธอคงรู้แล้วสินะว่าสิ่งที่เธอคิดมันผิด”

พรนางฟ้ารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกอยู่ชั่วขณะ เพลิงเจิดจ้าบางอย่างพล่าผลาญกระบอกตาเธอจนร้อนผ่าว “นี่อาจารย์พูดจริงเหรอคะ รายงานของหนู...” ความจริงที่กระทบหัวใจทำให้พรนางฟ้ารู้สึกโกรธจนลืมตัว เรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เธอเฝ้าโทษตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้มิใช่ความผิดพลาดของเธอ แต่เป็นเพราะ...

“โอ...เกรซ! เกรซสลับรายงานของหนู นังตัวแสบนั่นสลับรายงานของเราไปใส่ชื่อตัวเอง”

“อะไรนะ พูดใหม่ซิพรนางฟ้า” อาจารย์ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่ามิได้ได้ยินบางสิ่งบกพร่อง

“ตอนนั้นหนูต้องติดตามคุณพ่อไปออกฟีลด์ที่หนองคาย อาจารย์บอกเองว่าไม่รับรายงานทางช่องทางอื่น นอกจากเย็บเป็นเล่มส่งให้ที่โต๊ะเท่านั้น หนูส่งเมลข้อมูลทั้งหมดไปให้สุภัทรชา รบกวนให้เพื่อนพิมพ์และจัดรูปเล่มส่งให้ แต่ความจริงแล้ว...เขาเอารายงานของหนูไปใส่ชื่อตัวเอง นังเพื่อนทรยศ!” พรนางฟ้าควบคุมความโกรธไว้ไม่อยู่ เสียงนั้นจึงพร่าพรายด้วยความรู้สึก จี้ที่ห้อยแนบอกเธอร้อนฉ่าทั้งยังส่งคลื่นความร้อนผ่านเสื้อเนื้อบางเข้าไปด้วย แต่เพราะความโกรธบังตาจนทำให้เธอไม่ทันสังเกตเห็นมัน

พรนางฟ้าทวนรายละเอียดในรายงานฉบับนั้นให้อาจารย์ฟังอย่างละเอียด ก่อนลงท้ายด้วยการถาม “อาจารย์เชื่อหรือยังคะว่าหนูเป็นเจ้าของรายงานฉบับนั้นจริงๆ ไม่ใช่สุภัทรชา”

หญิงชราถอนใจ “ความจริงครูก็เอะใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ยังพยายามติดต่อเธอเลยว่าจะให้ไปแก้ไขรายงานเพิ่มเติม เพราะบอกตรงๆว่ากระทั่งจะให้บีบวก ครูก็ยังต้องคิดอยู่หลายวันกว่าจะตัดใจได้ แต่เพราะว่าติดต่อเธอไม่ได้ ส่งอีเมลไปก็ไม่เคยตอบกลับเลยสักครั้ง เมื่อถึงเส้นตายต้องส่งเกรด ครูก็ไม่มีทางเลือก”

“ไม่ใช่ความผิดของอาจารย์เลยค่ะ” พรนางฟ้าเสียงสั่น มือระริก พยายามควบคุมความโกรธที่แทบพลุ่งปะทุออกจากเนื้อตัวอย่างยากเย็น “เป็นความผิดของหนูเองต่างหาก ผิด...ที่เชื่อคนง่าย ผิด...ที่โง่หลงไปอุ้มชูดูแลงูพิษไว้ข้างตัวขนาดนั้น”

“ครูจะลองสอบถามทางบัณฑิตวิทยาลัยดูนะ ว่าถ้าจะแก้ไขเกรดย้อนหลังจะทำได้หรือเปล่า”

พรนางฟ้าอยากก้มกราบแทบเท้าอาจารย์นัก ท่านยุติธรรมเหลือเกิน แต่เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย หญิงสาวจึงก้าวเข้าไปกราบที่บ่าอีกฝ่ายอย่างนอบน้อมและซาบซึ้งแทน “ขอบคุณค่ะอาจารย์ แต่หนูไม่ต้องการการแก้ไขค่ะ ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละดีแล้ว หนูจะได้เตือนใจตัวเองว่าอย่าโง่ซ้ำสองกับคนคนเดิมอีก!”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ย. 2556, 06:51:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ย. 2556, 06:51:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1327





<< ตอนที่ ๙ (จบตอน)   ตอนที่ ๑๐ (จบตอน) >>
สิริณ 13 ก.ย. 2556, 07:04:51 น.
แทบจะหลับตามาโพสต์แล้วนะเนี่ยยยยย
(ทำสายตาวิ๊งๆอ้อนวอน)
งานที่บริษัทเร่งชนิดข้ามวันข้ามคืน
กว่าจะมีเวลาได้พัก ได้เข้านอนก็ค่อนเช้า
แต่เพราะกลัวเพื่อนๆจะรออ่านใต้ปีกรักสีเพลิง
(กล้าพูดเนอะ ฮ่าๆๆๆ)
สิริณเลยใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตี่ๆ มาอัพให้อ่านกันก่อนค่า
หากอ่านจบแล้ว จะช่วยกันจิ้ม "ชอบตอนนี้" เบาๆ คนละที
ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง
และกระตุ้นให้นักเขียนบ้ายอ มีพลังมาอัพให้อ่านกันบ่อยขึ้น
(แอร๊ยส์ส์ส์ อย่างนี้จะเข้าข่ายติดสินบนไหมเนี้ย :P)

ขออนุญาตกราบขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกคน
ที่ยังคงติดตามอ่านกันเรื่อยมา
ขอบคุณยิ่งขึ้น สำหรับท่านที่จิ้ม "ชอบ" ให้กับนิยายตอนนี้
และขอบคุณสุดๆ กับทุกคอมเม้นต์ที่มาทักทายกันค่ะ
แน่นอนว่า...จะมีรางวัลพิเศษมอบสำหรับผู้ที่คอมเม้นต์ถูกใจสิริณแน่นอน
โปรดอดใจคอยกันนะเคอะ ^o^

สัปดาห์หน้า สิริณจะมีกิจกรรมแจกของรางวัลที่เพจ
เลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปกดไล้ค์เพจของสิริณไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC ค่ะ
จะได้มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลเก๋ๆกัน

รับรองว่า...ของรางวัลชิ้นนี้ต้องตะลึงกันไปทั้งบางกอกแน่นอน กรี๊ดดดด


Sukhumvit66 13 ก.ย. 2556, 08:20:42 น.
ทำไม ผญ.คนนี้ถึงร้ายขนาดนี้ค่ะ ขอบทเรียนแสบถึงทรวงให้หล่อนสักสองสามบทเถอะค่ะ Please........


จิรารัตน์ 13 ก.ย. 2556, 10:50:53 น.
โอ้ แม่เจ้า นางมันอนาคอนด้าพิษแล้ว ไม่ใช่งูพิษธรรมดา


ree 13 ก.ย. 2556, 18:47:15 น.
แค้นแรงขนาดนี้ จะทำให้เปลี่ยนนิสัยไปเป็นคนร้ายกาจมากกว่าเดิมไหมนี่ ไม่น่าเลย


Pat 13 ก.ย. 2556, 19:49:14 น.
แพนเปลี่ยนไป แนวเกรซสองนี่ไม่ชอบใจเลยอ่ะ ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์และความรู้สึกบ้างแล้วนะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 13 ก.ย. 2556, 21:57:57 น.
หูยยยยยยย ทำกันได้ขนาดนี้
หนูแพน โหมไฟเยอะๆ เลยจ้ะ เผื่อพ่อคิรินทร์จะได้ออกโรงมาปกป้องหนูแพนเองบ้าง


พันธุ์แตงกวา 14 ก.ย. 2556, 04:47:14 น.
ขอโทษค่าที่มาช้า
อ่านตอนนี้แล้วช่างสาแก่ใจ
รอให้ตาพัทธ์ตาสว่างอีกคน


ariesleo 15 ก.ย. 2556, 19:27:28 น.
ห่วงแพนจัง เธอจะเปลี่ยนไปไหมนี่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account