เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๙ กรงดักแด้(จบบท) + ยังเล่นเกมชิงนิยายเรื่องนี้ในเฟซบุ๊คได้อยู่นะคะ

วนัสสาพบว่าจุดหมายปลายทางของเธอเป็นห้องพักที่ได้รับการตกแต่งเหมือนบ้านคนทั่วไป
แม้ไม่หรูหราอย่างห้องพักข้างบน แต่ก็ดีกว่าห้องสภาพคล้ายคุกที่เพิ่งจากมา นานทีเดียว
ที่พวกเธอถูกกักตัวไว้รวมกัน เพราะเข็มนาฬิกาในห้องใหม่บ่งบอก ล่วงเข้าสี่ทุ่มแล้ว

ทั้งตื่นเต้นและหวาดหวั่นนานเข้า หญิงสาวก็เริ่มล้า ปลงตกว่าจะเกิดอะไรก็ต้องเกิด
หลังจากสำรวจจนทั่วแล้วไม่เจอสิ่งใดน่าสนใจวนัสสาจึงปิดไฟเพดาน เปิดไฟโคม
ถอดรองเท้าส้นเตี้ยของตนออกก่อนขึ้นไปนอนทั้งชุด

วันนี้เธอสวมเดรสกระโปรงยาวอย่างลำลอง มีเสื้อแขนยาวทับอีกที ในกระเป๋าเสื้อนอก
ที่กลัดกระดุมไว้มีโทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้ใช้งานอะไรไม่ได้ ครั้นจะถ่ายรูปก็คงเปล่าประโยชน์
เครื่องเก่าที่เธอใช้ก่อนความทรงจำจะหายไปก็ถูกยึดไปเช่นกัน กระเป๋าอีกข้างมีกระเป๋าสตางค์เล็กใบแบน
ส่วนเลสข้อมือของคราม หญิงสาวเก็บไว้ในกระเป๋าลับด้านในตัวเสื้อ

เธออยากหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะหลับลง มือบอบบางค่อยๆล้วงหยิบโลหะชิ้นนั้นออกมา
มันให้สัมผัสไม่เย็นเพราะของชิ้นนี้แนบชิดติดกับความอบอุ่นใกล้หัวใจเธออยู่ตลอดเวลา
เสียงที่ได้ยินตอนสัมผัสมันครั้งแรก เป็นเสียงจากอดีต คล้ายว่าเธอและเขากำลังวางแผน
จะหนีออกไปที่นี่ด้วยกัน

ถ้าหากว่ามันเป็นการทดลองที่เธออาจเต็มใจในทีแรก แต่ตอนหลังคิดหนีไปให้พ้น
แปลว่าสถานการณ์ต้องบีบบังคับจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ

ปลายนิ้วบอบบางเขี่ยไล้อยู่กับเลสข้อมือ ตอนนี้เจ้าของมันจะเป็นยังไง ยังปลอดภัยดี
อยู่เหมือนเธอหรือเปล่า วนัสสาห่วงเขามาก เพราะเวลานี้อีกฝ่ายก็แทบไม่ต่างจากเฟย์
ที่ถูกพาแยกจากเธอไป ไม่ได้เห็นว่าเป็นตายร้ายดียังไง

น่าเศร้า หลังจากเล่นโปโลน้ำ
เฟย์ยังพูดกับวนัสสาที่พยายามเซ้าซี้ให้อีกฝ่ายยอมกลับบ้านแต่โดยดีอยู่เลย
‘วนัส ในเวลาที่เพื่อนทุกข์ บางทีคนธรรมดาอย่างฉันก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
ทำได้แค่ร่วมทุกข์ด้วยกัน ให้เธอยิ้มได้แบบเมื่อกี้ก็ยังดี’ อีกฝ่ายกล่าววาจาอ่อนโยน
แต่เอื้อมมือมายีหัวเธอจนยุ่ง

เพราะเป็นคนดีและรักเพื่อนแบบนั้นเฟย์ถึงต้องมาโชคร้าย ไม่ว่ายังไงวนัสสาก็ต้องเอาตัวเพื่อนกลับมา
เธอต้องสู้ต่อไป ...ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือลง แต่ในขณะที่คล้ายจะเคลิ้มหลับกลับค่อยๆเห็นสีน้ำเงิน
สดใสกระจ่างผ่านวาบเข้ามา แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในห้อง

“อย่าแสดงอาการว่ามองเห็นผม อย่าพูดหรือโต้ตอบอะไรให้เขาได้ยินว่าเราคุยกัน”

วนัสสาค่อยๆชันกาย หันไปทางนั้นอย่างช้าๆไม่ให้ผิดปกติ ครามยืนอยู่ที่นั่น! ในห้องของเธอ
“นี่มันยังไงกัน” หญิงสาวคราง

“นี่คือพลังของผม...” ครามบังคับให้ตัวตนของเขาจางลงจนวนัสสามองไม่เห็น
ก่อนจะค่อยๆปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง “ผมจะให้เธอเห็น หรือว่าไม่เห็นก็ได้
ในระดับที่เป็นอยู่ตอนนี้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น มีแต่คนที่มีพลังบางอย่าง
ในตัวตนเหมือนอย่างเธอเท่านั้น ที่จะเห็นหรือว่าได้ยินผม”

“คนที่ตึกบลูไดมอนด์วันนั้นก็คือ” วนัสสาพูดเหมือนรำพึง เธออยากจะถามเขาให้ยาวกว่านั้น
แต่กลัวว่าถ้ามีกล้องจับอยู่ตอนนี้อาจผิดสังเกต แต่จะไม่ให้พูดอะไรเลยหรือไง

ครามทำท่าจุปากให้เธอเงียบเสียง “นอนลงสิ อย่าทำให้พวกเขาสงสัย”
ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าไปใกล้วนัสสาที่ทำท่าลังเลอยู่ ก่อนจะพูดซ้ำอีกที
“ผมบอกให้เธอทำท่าว่านอนต่อไง เร็ว...อย่าดื้อน่าคนดี”

หญิงสาวสบตาเรียวที่ยังมีแก่ใจทอประกายรื่นเริง ครามจะรู้หรือเปล่าว่าเธอดีใจแค่ไหน
ที่ได้เห็นหน้าเขาตอนนี้ อย่างน้อยก็แน่ใจได้ว่าอีกฝ่ายยังปลอดภัย วนัสสายอมนอนลง
ตกใจนิดหน่อยที่อีกฝ่ายปีนตามขึ้นมาบนเตียงซึ่งไม่ได้ยุบยวบลงตามน้ำหนักของเขาเลย
มาเอนนอนลงซ้อนหลังเธออยู่ไม่ห่าง

“ผมอยู่ใกล้ๆแบบนี้ เธอจะได้กระซิบตอบได้ เอาละ...ใช่ เราเจอกันที่ตึกบลูไดมอนด์วันนั้น
ผมไปสืบเรื่องการทดลองบ้าบอคอแตกของไอ้พวกโลภนี่แหละ เท่าที่รู้มาก่อนหน้านั้น
ตึกนั่นที่จริงแล้วก็เป็นของพวกมัน ผมได้เห็นความลับอะไรหลายอย่าง
เพราะสร้างร่างจำลองได้แบบนี้ เลยได้พบว่าด็อกเตอร์กฤษณะยังมีชีวิตอยู่”

วนัสสาพลิกตัวหันไปเผชิญหน้าคราม กระซิบถามเบาๆ “ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนคะ”

“เขาอยู่ที่นี่ กำลังเริ่มทำการทดสอบวาริช”

“หมอริช เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม” วนัสสาตกใจแต่ยังข่มเสียงไว้ได้

“ไม่ใช่การทดลองอันตราย...รู้แค่นี้ก็พอแล้ว คนหนังเหนียวปากเก่ง ไม่ตายง่ายนักหรอก”
คนตอบคล้ายจะงอนอยู่นิดๆที่วนัสสาห่วงใครอีกคน “ส่วนคนอื่นยังไม่ได้ลองหา
ผมออกมาตามหาแต่คุณ แค่ไปเจอหมอนั่นก่อนเท่านั้นเอง” ขณะที่พูดนั้นครามขยับเข้าไป
ใกล้ร่างบอบบางที่เอนนอนอยู่ตรงหน้าชิดขึ้นไปอีก วงแขนซึ่งเหมือนจะไร้น้ำหนักเอื้อมมา
โอบร่างวนัสสา เธอคิดว่าเขาจะแตะไม่โดนกายตน แต่แล้วก็กลับรู้สึกถึงแรงผลักหยุ่นๆเบาๆ
ของอากาศ ตรงที่ปลายนิ้วของครามสัมผัสอย่างถือวิสาสะ

ถึงตอนนี้ความใกล้ชิดก็ทำให้ชายหนุ่มสังเกตว่าในมือวนัสสากำเลสข้อมือของเขาเองเอาไว้แน่น

“คิดถึงผมหรือไง” ชายหนุ่มพยักยิ้ม บุ้ยใบ้ไปที่ของในมือเธอ

วนัสสาเพิ่งนึกได้ เธอรีบเอามือหนีไปซ่อนข้างหลัง คล้ายเด็กที่ถูกจับได้ว่าขโมยของ
น่าเอ็นดูยิ่งขึ้นอีกในสายตาคราม “ฉันไม่ได้อยากให้คุณมาสักหน่อย...”
หญิงสาวกลั้นใจกระซิบ จะให้พวกนั้นรู้ไม่ได้ ว่าตรงนี้มีคนที่เริ่มจะสำคัญกับเธอเพิ่มมาอีกหนึ่ง
จะให้ครามคอยพะวงกับเธออยู่ตลอดไม่ได้เช่นกัน แม้จะดีใจเหลือเกินที่เขามา
ทำให้ไม่ต้องอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้

“ปากแข็ง ถ้าไม่ดีใจแล้วทำไมต้องเอาเลสของผมขึ้นมาดู แถมยังหน้าแดง
น้ำตาซึมตั้งแต่วูบแรกที่เห็นผมมาแบบนั้น” ครามพึมพำ ยิ้มเล็กๆอย่างเป็นสุข
“แปลกนะ แต่ก่อนพออยู่ในร่างแบบนี้ผมจะไปไหนไกลจากตัวตนจริงนักไม่ได้
พูดคุยกับใครแทบไม่ได้เลย ถึงเป็นคนที่มีพลังเหมือนกันก็เถอะ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ
ถ้าผมอยากสื่อสารด้วย จะเป็นใครก็ได้ยิน แต่ก่อนจับสิ่งของก็จับไม่ติด
ตอนนี้ชักจะทำได้มากขึ้น แล้วก็รู้ว่าจำเป็นจะต้องรีบหยิบจับของให้ได้ไม่ต่างจาก
ตอนมีตัวตนเร็วๆ แต่ไม่รู้ว่าที่พลังเข้มแข็งขึ้นมาอย่างนี้เพราะอยากจะมาหาเธอหรือเปล่า”
ชายหนุ่มหัวเราะบางเบา ค่อยๆใช้ปลายนิ้ววนจี๋อยู่แถวแนวกระดูกสันหลังตรงเอวของวนัสสา
“แล้วก็ที่สัมผัสเธอได้แบบนี้ ก็ไม่รู้เป็นเพราะความต้องการที่มากเกินไปใช่ไหม”
ปลายนิ้วของครามค่อยๆเลื่อนต่ำลงไปทีละน้อยจนหญิงสาวสยิวกายขนลุกเกรียว

“อย่าทำบ้าๆนะ คนไม่ดี!” วนัสสากระซิบดุ แน่ละ เขาอยู่ในสภาพแบบนี้มันยิ่งหนักกว่า
ตอนเป็นคนเสียอีก เพราะจะหนีหรือปัดมือนั้นออกยังไงก็ไม่พ้น

ครามมองสำรวจคนตรงหน้า แก้มแดงปลั่งแสดงความขัดเขินเห็นได้ชัด
“ไม่ดียังไง แต่ก่อนนี้ เราอาจเคยลึกซึ้งกันมา”

เขาพูดเท่านั้นลมหายใจของวนัสสาก็ยิ่งไม่เป็นส่ำ ไม่ว่าปากเธอจะบอกยังไงแต่ครามก็รู้
หญิงสาวไม่ได้รังเกียจเขาเลยแม้แต่นิด

“อย่าสรุปเอาเองสิ นวาระ...เขาก็บอกฉันทำนองนั้น”

“ผมไม่สนว่าผู้ชายคนนั้นจะว่าไงหรอกนะ” ครามเอ่ยขรึมๆ แต่มือของเขายังสัมผัสวนัสสา
แผ่วเบาต่อไป ออกจะสาแก่ใจที่เห็นหญิงสาวหน้าตาแดงก่ำอยู่ในอ้อมแขน ทำท่าจะดิ้น
ก็ดิ้นไม่ออกเพราะกลัวคนรู้ว่ามีเขาอยู่กับเธอ “แล้วเธอ ทำไมต้องเชื่อคำพูดที่คนอื่นบอก
ไม่ลองถามหัวใจตัวเองดูบ้าง ถ้าคืนนั้นมันไม่พังประตูเข้ามา เธอก็เป็นของผมไปแล้ว อย่าบอกว่าไม่จริง...”

วนัสสาหลับตาปี๋ พยายามเอาหน้าซุกหมอน รู้ว่าตอนนี้ตัวเองคงจะหน้าแดงไปหมด
ไม่วายครวญครางประท้วง เสียงบางเบา “อย่าพูดได้ไหม”

“ทำไม ยอมรับความจริงไม่ได้หรือไง” ครามเอ่ยเจือหัวเราะในน้ำเสียง เขาใช้ฝ่ามือลูบไปตลอด
เรือนผมสีน้ำตาลไหม้ยาวถึงเอวที่ม้วนเป็นหลอดตรงปลายของแม่เด็กดื้อในอ้อมแขน
พยายามจับประคองใบหน้าสวยให้สบตา แต่ก็ต้องพยายามอยู่หลายทีกว่าอีกฝ่าย
จะยอมเงยตามขึ้นมาทั้งที่ไม่ยอมลืมตา เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มก็เลยประทับจุมพิตลงไปแผ่วเบา
เรียกให้วนัสสาลืมตาโพลง

“อ๊ะ...”

“เถอะน่า จะได้เก็บความทรงจำนี้ไว้เป็นกำลังใจ ในวันที่ยากจะก้าวผ่านไป
จำไว้นะ ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว”

วนัสสาสูดจมูกอย่างตื้นตัน แต่มือขาวบอบบางขยับยื่นเลสข้อมือกลับมาไว้ต่อหน้าคราม
“ดูสิ ฉันเห็นตั้งแต่วันแรกที่ได้มาแล้ว ข้างหลังนี้เขียนไว้ My dearest…Indigo อินดิโก้สุดที่รัก
มิน่าคุณถึงว่าเป็นของสำคัญ”

ที่เจ๊ผู้ช่วยของเขาเล่าให้ฟัง ครามไปย้ายอยู่เมืองนอกตั้งแต่วัยรุ่น ถึงเขาจะพูดไทยชัดนัก
เพราะเกิดและโตที่นี่ แต่เห็นได้ว่าฝรั่งอย่างวาริชยังดูมีกิริยาอย่างคนไทยมากกว่าเขาเสียอีก
นี่ก็ไม่รู้ว่ามีแม่สาวตาน้ำข้าวคนไหนรออยู่ฝั่งอเมริกาหรือเปล่า จะให้วางใจได้ยังไง

“ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดให้มา...”

“เหรอ”

วนัสสาทำปากยื่น ตาวาวๆเอาเรื่องจนครามหัวเราะอยู่ในคอ
ใช้นิ้วเขี่ยขี้แมลงวันตรงหางตาซ้ายซึ่งเป็นจุดรวมเสน่ห์ของเธอหยอกๆ

“แม่ให้ไว้น่ะ ตอนเด็กๆผมอยู่กับแม่ที่เป็นสาวไทยเชื้อจีนธรรมดา แต่พ่อผมเป็นลูกครึ่ง”

“มีคนเคยชมหรือเปล่า หน้าตาคุณเป็นส่วนผสมของจีนกับฝรั่งที่ เอ่อ...ออกมาดูดี”
หญิงสาวเกือบจะหลุดปากออกไปว่าหล่อ แต่ก็เขินเกินกว่าจะพูดคำนั้น
“แต่คุณดูไม่ค่อยคุ้นกับคนไทยเท่าไหร่เลย”

“ผมถูกพ่อเอาตัวไปอยู่ด้วยตั้งแต่ยังไม่เป็นหนุ่มด้วยซ้ำ แปลกไหม ตอนเราเกิดมาไม่สนใจ
แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนใจ แล้วแม่ก็อยากให้ผมไป บอกว่าเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สุดท้ายผมก็ไม่ได้โตขึ้นมากับพ่อ
เพราะหนีออกจากบ้านไปผจญโลกด้วยตัวเอง” ชายหนุ่มยิ่งยื่นหน้าเขามาจนชิด
“กับเจ้าเลสข้อมือนี่น่ะ แม่ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนผมจะไปนอกเสียอีก ตอนแรกยังหลวมโพรก
ผ่านไปหลายปีผมต้องเอาไปขยาย ยังไงก็ยังใส่ไว้กับตัว แล้วสุดท้ายผมก็ต้องกลับมาไทย
เพราะเรื่องแม่ที่เพิ่งจะตายไปเมื่อไม่นานนี้เอง ฆ่าตัวตาย...แต่ยิ่งสืบก็ยิ่งรู้ว่าเพราะองค์กรอย่างเวชกุล”

“มันคงสำคัญกับคุณมาก” หญิงสาวคราง รู้สึกเศร้าใจไปกับเขาด้วย

“ใช่ แล้วรู้หรือยังว่าคนที่ผมจะถอดให้ต้องพิเศษ ถึงให้ยืมก็เถอะ อย่าหวังว่าผมจะยอม”

“ไม่ใช่เพราะที่ฉันไปเดินแบบให้หรอกเหรอ” วนัสสาล้อ

“ไม่ใช่แน่ๆ ทำงานให้เสร็จ ผมจะหาทางเบี้ยวเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเห็นว่าคำขอของเธอไม่มีสาระ”
ครามทำเสียงเจ้าเล่ห์ปนน่ารักจนคนฟังนึกอยากหยิก ถ้าเพียงแต่เขาจะมีตัวตน
“แต่เพราะตากลมๆอ้อนๆนี่ แล้วก็อาจจะเพราะว่าเธอเคยพิเศษกับผม ตั้งแต่ก่อนนี้
ในวันเวลาที่เราหลงลืมกันไป” ครามพึมพำแล้วจูบหน้าผากเจ้าของร่างในอก

วนัสสารู้สึกคล้ายนั่นคือสัมผัสบางเบาจากกลีบดอกไม้
“ฉันรู้ ว่ามีคนสำคัญของฉันอยู่ที่นี่ อาจเป็นคุณ เขา หรือว่าไม่ใช่ทั้งสองคนก็เป็นได้
...แต่มันน่าสงสัย หลังการทดลองครั้งแรก ฉันมีรอยสักเพิ่มมาที่หลังเป็นรูปปีกผีเสื้อ
พ้องกับรูปดอกกุหลาบสีน้ำเงินของเขา นวาระบอกว่าเป็นคนมอบรอยสักนี้ให้ฉันเอง
เขารู้หลายอย่าง แล้วคุณรู้ไหมว่าคืนหนึ่งฉันฝันถึงสิ่งที่ลืมไป มีเลือดไหลออกมาจาก
รอยสักนี่ด้วยซ้ำ เหมือนมันไม่ได้เกิดจากพลังของคนธรรมดา”

“อย่าเพิ่งไปคิดมากตอนนี้เลย ผมเชื่อว่าเธอจะนึกออกว่าคนคนนั้นของเธอคือผม”
ครามปลอบด้วยเสียงเจือรอยยิ้มนุ่มเย็น มือที่เริ่มจะให้สัมผัสสมจริงขึ้นทุกขณะลูบเปิด
ผมหน้าม้าของวนัสสาเล่นเบาๆ “คนที่รักกันจริงน่ะ เขาจะไม่มีวันทำร้ายเธอ
ไม่ว่าตอนนี้ อนาคต หรือแม้กระทั่ง...ในความทรงจำ”


-----------------------
เค้าเปล่าสั้นนะ แค่ตอนก่อนนี้มันยาวไป และนี่จบบทพอดี
ขอบคุณสำหรับทุกเม้นต์และทุกไลค์ด้วยนะคะ

อย่าลืมเซิชหาเพจ อสิตา ในเฟซบุค
กำลังมีเกมแจกหนังสือ"เงารักสีน้ำเงิน"
^3^ จุ๊บบบ



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2556, 06:05:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2556, 06:19:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1337





<< ความทรงจำที่ ๙ กรงดักแด้(...ต่อ) + เล่นเกมแจกนิยายในเฟซบุ๊คจ้า   ความทรงจำที่ ๑๐ ความลับของดอกบัว + ยังเล่นเกมชิงนิยายเรื่องนี้ในเฟซบุ๊คได้อยู่นะคะ >>
อสิตา 18 ก.ย. 2556, 06:18:12 น.

คุณภาวิน – ถ้าศพลุกขึ้นมาได้ก็ดี คนเขียนชอบหนังซอมบี้มาก
คุณพันธุ์แตงกวา – ศศิราศียังแสบได้อีก... หุหุ ในคุกนั่นมีห้องน้ำห้องเดียวค่ะ เพราะไม่มีอะไรทำเลยผลัดกันเข้าเรียบร้อยแล้ว555
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – หุหุ แหม ห่วงว่าครามจะอยากอุนจิเหรอคะ ตื่นเต้นมากๆน่าจะหดหายไปหมดแล้วนะ ตอนนี้หวังว่าคงถูกใจ
คุณเรือใบ – สองคนนั้นไม่ได้แค่ผ่านมาและผ่านไปค่ะ หุหุ เดี๋ยวก็อยากเป็นนางเอกเองแหละค่ะ จริงๆนะ ล่อลวงๆ

คุณแพทแมว – ตอนนี้เหมือนจะสั้นไปหน่อย วันศุกร์จะรีบมานะคะ =^///^=
คุณบาร์บี้ – วนัสก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจก่อนออกไปลุย หุหุ เดี๋ยวได้ลุ้นกันยาวเลยค่ะ
คุณนักอ่านเหนียบหนับ – ปมเยอะ แต่แก้ครบแน่นอน ตอนนี้เอาฉากหวานออกมาเสิร์ฟสักนิดค่ะ
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิหางผูกโบ – อย่ากัดกางเสือค่ะ เดี๋ยวโดนตะปบนะ ตอนนี้คนเขียนอยากเห็นหน้าคนแสดงอัคนิจะแย่แล้ว ดิ้นเร่าๆ ฉายปีหน้านะคะ รอดูด้วยยย
คุณโกลเด้นซัน – คนที่เฝ้าดูอยู่คิดว่านวาระแสดงออกกับในใจไม่เหมือนกัน เพราะฮีเป็นคนกะล่อน เลยไม่มีใครคิดว่าจะห่วงวนัสจริงจัง ที่รอหมอริชอยู่เป็นศพจริงๆค่ะ

คุณเลิฟหมวยยยย – นั่นสิ ไม่มีใครไม่มีจุดอ่อน แต่คนอย่างเทวัญก็ทระนงเกินไป ตานี่จิตแข็งมาก ไม่กลัวคนมีพลังจิตด้วย
คุณสุขุมวิท66 – เก่งมากค่ะ นวาระกับศศิราศีเป็น... แกะปมได้แล้วหนึ่ง แปลว่าเป็นคนช่างสังเกต แต่ว่าห้ามพิมพ์ชื่อศศิราศีผิดนะคะ อร๊ายยย
หนูเมล็ดทานตะวัน – พี่แป้งมั่นใจนะคะ ว่าอธิบายทุกอย่างครบหมดไม่เคยตกหล่น ถ้าหนูรู้จักจำ และรู้จักรอ รับรองว่าไม่มีงง คนงงคือคนอ่านข้ามหรือไม่ตั้งใจอ่าน พี่แป้งเริ่มแปลงร่างแล้วนะคะหนู


lovemuay 18 ก.ย. 2556, 07:01:59 น.
โอ้โห นายครามพูดได้ซึี้งมากค่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 18 ก.ย. 2556, 07:12:26 น.
กรี้ดดด อินดิโก้!!! นายมาแบบนี้ ใครละจะปฏิเสธนายได้
ชอบอะ คนที่รักกันเค้าไม่ทำร้ายกันแม้ในความทรงจำหรอก


ภาวิน 18 ก.ย. 2556, 07:25:25 น.
นอกจากไม่ทำร้ายกันแล้วยังไม่ทอดทิ้งด้วย ถอดจิตตามมานัวเนียไม่ห่าง น่ารักจริงๆ


พันธุ์แตงกวา 18 ก.ย. 2556, 07:48:55 น.
555 ขำมุกผลัดกันเข้าห้องน้ำ สุดยอด!
พ่อคราม...โรแมนติกจังพ่อ ทำให้คนอ่านต้องถอดร่างอ่านเหมือนกัน อินนน เพิ่งกลับเข้าร่างตอนพิมพ์คอมเม้นท์นี่ละ


ดังปัณณ์ 18 ก.ย. 2556, 09:00:25 น.
เดี๋ยวม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา กรี๊ดดดดดดดด อ่านคร่าวๆแล้วอยากละลายยยยยยยยยยยยยยยยยย 555+ (นี่ขนาดคร่าวๆนะ ฮ่าๆๆ)


อสิตา 18 ก.ย. 2556, 09:05:08 น.
คุณหนอนน้อยน่ารักมาก มีงี้ด้วย


เรือใบ 18 ก.ย. 2556, 12:08:12 น.
สั้นจริงๆนะเออ ยังไม่หายอยากเลย อย่ามาแก้ตัวววววว เอ๊ะ หรือว่ามันจะสนุกเกินไป เลยอ่านยังไงก็ไม่หายอยากซะที ^^


sai 18 ก.ย. 2556, 12:48:20 น.
กรี้ดดดดด พี่ครามน่ารักอ่ะ


sonakshi 18 ก.ย. 2556, 16:41:24 น.
กรี๊ด ฟินได้อีกนะพ่อคราม


goldensun 18 ก.ย. 2556, 17:53:20 น.
ครามตอนนี้ รุกน่าดู หยอกได้หยอกเอา น่ารักเชียว อย่างน้อยวนัสก็อุ่นใจที่มีคนรู้ใจใกล้ตัวละ
แต่พลังของครามที่เพิ่มขึ้น พวกกฤษณะจะรู้รึเปล่า ทำได้เยอะนะนี่ เล่นเอาวนัสเขิน แต่เอาคืนไม่ได้
ส่วนของวนัส ยังไม่รู้ความสามารถชัดเท่าไหร่ ว่าเก่งแค่ไหน เว้นเรื่องสัมผัส


ดังปัณณ์ 18 ก.ย. 2556, 18:15:58 น.
อ๋อยๆๆๆๆๆๆ คุณแป้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง เอากะละมังมาช้อนเค้าด้วยยยยยยยยย 555+ ได้อีก หุยๆๆๆๆ พ่อครามคร้าาาาาาาาาาา พ่อคุณของหนอนนนนนนนนนนนน ทะลุกำแพงมาหาป้ามามะ มามะ

แอร๊ยยยยยยยยยยเก๊าเขิลลลลลลล ว่าแระว่าแระ พ่อครามนี่น้า คืนหัวใจเค้ามาด้วยนะตะเอง ฮ่าๆๆๆ แล้วพ่อดอกกุหลาบจะเป็นยังไงบ้างค้าเนี่ยยยยยย กระซิกๆๆๆ ยังไง้ยังไง ก็ยังเหลือเผื่อแผ่พื้นที่ให้หมอหมา เอ๊ย หมอริช กะพ่อดอกกุหลาบยุนร้าาาาาาาาา


Sukhumvit66 18 ก.ย. 2556, 19:17:49 น.
ไปร่วมเล่นเกมส์มาแล้วนะคะ ไม่รู้เห็นเค้าแล้วหรือยัง อิอิ


Ps. แฮะ แฮะ น่าแตกฝุด ฝุด จำชื่อศศิราศี ผิดซะงั้น 5555


Barby 19 ก.ย. 2556, 18:02:52 น.
น่ารักอ่ะ เขินเเทนวนัสเลย


Zephyr 23 ก.ย. 2556, 20:45:39 น.
โอะ มาแบบร่างโปร่งแสง
แต่ลวนลามไม่ยั้งแบบนั้น
ท่าทางที่วนัสแสดงออกไปคงโจ่งแจ้งอ่า
ตัวเองไม่อยากให้ความแตกกกก
แต่อิแบบนี้จะรอดเรอะ!!!!


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account