ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๑ (จบตอน)

ศิราสำรวจถาดอาหารว่างที่จัดไว้รับรองผู้มาร่วมงานแล้วจึงเลือกหยิบแซนด์วิชและคานาเป้ซึ่งทำจากแครกเกอร์หั่นเป็นชิ้นพอคำ แต่งหน้าด้วยเนื้อสัตว์ต่างๆ อย่างละเล็กน้อยเรียงใส่จานนำไปบริการให้แก่มารดา

ทว่ายังไม่ทันได้ทำตามที่ตั้งใจ ใครบางคนก็ก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง เอ่ยทักทายด้วยมธุรสวาจา

“สวัสดีค่ะคุณศิรา ดีใจจังวันนี้ได้พบกัน”

ชายหนุ่มเหลือบมองผู้มาใหม่เต็มตา แล้วถอยห่างอัตโนมัติ รู้โดยสัญชาตญาณว่าสีหน้าและกิริยาของอีกฝ่ายแฝงเจตนาทอดไมตรีชัดเจน น้ำเสียงที่ตอบกลับจึงราบเรียบไม่บอกความรู้สึก “สวัสดีครับคุณสุภัทรชา”

“บังเอิญจัง นี่คุณชอบมางานแบบนี้ด้วยหรือคะ”

“ไม่ใช่ทั้งเหตุบังเอิญและผมก็ไม่ชอบมางานแบบนี้ด้วย เพียงแต่ว่างานนี้แม่ผมเป็นประธานจัดงาน ผมก็เลยต้องมาร่วมงานเท่านั้นเอง ขอตัวก่อนครับ ผมจะเอาของว่างไปให้แม่รองท้องหน่อย”

“อุ๊ย! ดีเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเกรซขอถือโอกาสนี้ไปกราบคุณหญิงธารารินด้วยเลยดีกว่า”

ชายหนุ่มถอนใจนิดๆ ไม่ตอบรับ แต่ถือจานของว่างกลับไปหามารดา “รองท้องหน่อยนะครับแม่ เดี๋ยวออกจากงานแล้วเราค่อยไปกินมื้อกลางวันกัน”

“ขอบใจจ้ะ แล้วนี่เล็กพาใครมาด้วยหรือ” ธารารินพยักพเยิดไปทางด้านหลังของเขา

“สวัสดีค่ะคุณหญิงป้า หนูชื่อสุภัทรชา นาริยะสกุล ค่ะ ได้ยินคุณแม่พูดถึงคุณหญิงป้าด้วยความชื่นชมมานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้มากราบวันนี้เอง”

ศิรากลั้นยิ้มแทบแย่ที่เห็นมารดาทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อได้ยินสรรพนาม ‘คุณหญิงป้า’

“เอ้อ...ขอบใจจ้ะหนู แต่เรียกป้าเฉยๆดีกว่า ฉันไม่ใช่ราชนิกุล ไม่ต้องเรียกคุณหญิงป้าหรอก”

หญิงสาวหน้าม้านเล็กน้อย “ค่ะคุณป้า งานวันนี้แขกมาร่วมงานเยอะดีนะคะ คุณศิราคงภูมิใจในตัวคุณแม่มากเลยใช่ไหมคะที่ท่านอุทิศตนเพื่อเด็กๆขนาดนี้” ตอนท้ายคนพูดหันมาทางเขาเพื่อชวนคุย

“เป็นตรรกะที่แปลกนะครับ ปกติมีแต่พ่อแม่ที่ภูมิใจในตัวลูกมากกว่า” เขาย้อนเรียบๆ “อีกอย่างแม่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่ระดมทุนสร้างห้องสมุดสักแห่ง มันไม่ถึงขนาดต้องอุท้งอุทิศตัวกันขนาดนั้นหรอก คนที่พร้อมให้ความร่วมมือก็มีอยู่แล้ว”

“เล็ก...” มารดาเรียกเขาด้วยน้ำเสียงปรามๆ

ศิรายักไหล่ “ก็ผมพูดความจริง จริงอยู่ว่าแม่ต้องเหนื่อยเพื่อห้องสมุดนี้ แต่มันไม่ได้มากขนาดที่คุณสุภัทรชาพูด ผมฟังแล้วขัดหู เหมือนพยายามยกยอกันเกินจริงอย่างนั้นแหละ”

ดวงหน้างามเผือดลงนิดๆ

ศิราไม่รอช้า รีบฉวยโอกาสนั้นชิ่งหนีทันที “คุณสุภัทรชาอยากกราบแม่ผม งั้นก็เชิญตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อน” เขาเอ่ยแล้วไม่รอคำตอบ แต่หันไปทางมารดา

ท่านไม่เปิดโอกาสให้เขาพูด แต่ชิงถามก่อน “ไหนพี่ชายเราบอกว่าวันนี้จะมา แม่ยังไม่เห็นเลยนะ”

“เดี๋ยวก็คงมาครับ ถ้าเจอตัว ผมจะบอกให้นะว่าแม่ถามหาอยู่ ขอตัวก่อนนะครับแม่” ศิราผละไปยังอีกมุมหนึ่งของงาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่สุภาพสตรีซึ่งยืนสนทนากับหนุ่มใหญ่ชาวไต้หวันอย่างออกรสด้วยภาษาอังกฤษโขมง แต่ยังไม่ทันไปถึงที่หมาย เขาก็พบใครบางคนเข้าก่อน ศิราปรี่เข้าไปหาชายหนุ่มผู้นั้นพร้อมกับทำความเคารพรวดเร็ว

“สวัสดีครับท่านทูต เดี๋ยวนี้สง่าราศีดีจริงๆนะเนี่ย” ศิราเย้าด้วยสรรพนามล้อเลียน ขณะกวาดตามองคู่สนทนาที่แต่งกายด้วยเสื้อโปโลสีฟ้าอ่อนเข้าคู่กับสแล็คสีเข้ม

“แค่ผู้ช่วยท่านรัฐมนตรีว่าการฯเท่านั้น ไม่ได้เป็นทูตเทิดอะไรขนาดนั้น เล็กเรียกพี่อย่างเดิมดีกว่า”

“เป็นยังไงฮะงานใหม่ เจ้านายใหม่โอเคไหม” ศิราชวนคุย

“คงต้องปรับตัวอีกพอสมควรกว่าจะเข้าที่เข้าทาง ทำงานรู้ใจกันเหมือนเจ้านายคนเก่า”

“อยากให้พ่อมาได้ยินจริงๆ จะได้เลิกห่วงสักที เห็นบ่นถึงพี่ภูตลอด”

“จริงหรือ กลัวว่าได้ยินแล้วจะยิ่งห่วงมากกว่าเดิมน่ะสิ”

ศิราหัวเราะ “ถ้าไม่อยากให้พ่อห่วง ก็ใจอ่อนยอมมาทำงานกับผมสักทีสิ”

“โอ๊ย! งานโรงแรมเนี่ยนะ ขอลาขาด ไม่ถนัด ว่าแต่...” ผู้ช่วยท่านรัฐมนตรีหมุนซ้ายขวาคล้ายกำลังมองหาใครบางคน

“ถ้ากำลังหาแม่ ท่านอยู่ทางโน้น” เขาบุ้ยปากไปทางที่เพิ่งจากมา “แต่ถ้าอยากพบเอ็ม เธอคุยกับเจ้านายเก่าอยู่ข้างซุ้มไอศกรีมฮะ”

“เอาเป็นว่าฝากทักทายคุณเอ็มก็พอ ตอนนี้อยากไปกราบคุณหญิงก่อน วันก่อนโทร.มาบ่นยกใหญ่ว่าไม่ยอมบอกล่วงหน้าก่อนแวะไปที่บ้าน คลาดกันนิดเดียว วันนี้เลยตั้งใจเอาหน้ามาให้เจอ”

“ฮะ งั้นตามสบาย ไว้วันไหนว่างๆแวะไปนั่งคุยยาวๆที่บ้านบ้างนะ พ่อจะได้ไม่เหงา”

ภูผายิ้ม “เอาเป็นว่าจะพยายามละกัน”

ศิรามองตามจนชายหนุ่มแยกไปหามารดาแล้วจึงถอนหายใจเบาๆ หากบิดารู้ว่าภูผามาร่วมงานด้วย อดีตรัฐมนตรีคีรี ศิวกรณ์ ต้องบ่นเป็นหมีกินผึ้งที่พลาดโอกาสเจอกับ ‘คนโปรด’ แน่นอน

“เอ็ม...ทิ้งผมเลยนะ” ศิราบ่นทันทีที่มาสมทบกับอันดามัน

หญิงสาวรีบหันมาแนะนำอดีตเจ้านายและคนรักให้รู้จักกัน ศิราทักทายอีกฝ่ายด้วยท่าทีเป็นมิตร และภาคภูมิยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินแฟรงคลินเอ่ยถึงผู้หญิงของเขาด้วยน้ำเสียงชื่นชม

“ผมเคยสงสัยมาตลอดว่าผู้ชายแบบไหนถึงจะหยุดอันดามันได้ แต่พอพบคุณ ผมก็รู้ทันทีเลยว่าคงไม่มีใครเหมาะกับเธอไปมากกว่านี้แล้ว รู้ตัวไหมคุณศิรา แม่เสือสาวคนนี้กลายเป็นลูกแมวเซื่องๆได้เพียงแค่มีคุณอยู่ใกล้ๆ ผมว่ามีแต่คนที่เกิดมาคู่กันเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงโลกของอีกคนได้ขนาดนี้”

“หาว่าฉันเป็นแมวนี่ดูถูกกันอย่างร้ายกาจเลยนะคะ” อันดามันตวัดค้อน “ฉันเป็นเสือที่เอาหนังแมวมาคลุมพรางตัวไว้ต่างหาก”

ผู้ชายทั้งสองคนหันไปพยักยิ้มให้กัน ศิราเหลือบมองคนข้างกายด้วยสายตารักใคร่เมื่อเอ่ย “พูดกันตามตรงผมชอบโหมดแม่เสือของเธอมากกว่านะครับ เวลาเห็นเธอสวมบทลูกแมวน้อยทีไร มันชวนให้หวั่นใจว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในรอยยิ้มนั้นทุกที”

บทสนทนาเปลี่ยนจากเรื่องโน้นมาเรื่องนี้ ทั้งสามเพลิดเพลินกับการชิงไหวชิงพริบกันจนแทบไม่รู้เวลา กระทั่งคนในงานเริ่มบางตาแล้ว อันดามันจึงสังเกตเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งหลบมุมทำหน้าเบื่อโลกอยู่ลำพัง

“คนที่หน้าบึ้งอยู่ข้างชั้นหนังสือนั่นใช่คุณใหญ่ไหมคะคุณเล็ก ทำไมไปนั่งคนเดียวอย่างนั้นล่ะ”

“นั่นสิ เดี๋ยวผมขอตัวสักครู่นะ จะไปลากมาร่วมวงด้วย” ศิราหายไปพักเดียวก็กลับมาพร้อมกับผู้ชายตัวสูงแต่งกายง่ายๆด้วยเสื้อยืดสีเข้มกับยีนสีซีด เขาแนะนำอีกฝ่ายให้รู้จักกับแฟรงคลินง่ายๆ

“นี่พี่ชายผมครับ คิรินทร์ ศิวกรณ์ หรือจะเรียกเขาว่าคีก็ได้”



สุภัทรชาตาโตเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังมุ่งตรงมายังที่ที่เธอสนทนากับคุณหญิงธารารินอยู่ “สวัสดีครับ” ภูผากราบที่บ่าสตรีสูงวัยอย่างนอบน้อม

“ภูมาซะทีนะลูก แม่นึกว่าจะเบี้ยวซะแล้ว” ธารารินลูบหลังลูบไหล่ผู้มาใหม่ด้วยความเอ็นดู

“ขืนผมบังอาจทำอย่างนั้น คงต้องถูกใครแถวนี้งอนแน่เลย” เขาเย้าปนหัวเราะ

“ก็คงมีภูคนเดียวแหละที่ง้อแม่ คนอื่นเขาปล่อยให้แม่งอนตลอดเลย” ธารารินทำเสียงกระเง้ากระงอดเมื่อเอ่ยถึงผู้ที่ไม่อยู่ ณ ที่นั้น ก่อนนึกได้ จึงหันมาทางหญิงสาวอีกคน “อ้าว เกือบลืมแนะนำ รู้จักกันหรือยังจ๊ะ นี่หนูเกรซ กับ...”

“คุณภูผา เราเคยเจอกันแล้วค่ะคุณป้า” สุภัทรชารีบส่งมือไปให้อีกฝ่ายจับ ขณะดวงตาตวัดมองเขาอย่างมีจริตจะก้าน

“ยินดีที่มีโอกาสได้พบกันอีกครั้งครับคุณเกรซ” ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม เห็นชัดว่าเต็มใจรับไมตรีจากเธอ

“หนูเกรซเป็นลูกสาวของบ้านนาริยะสกุล ตอนอยู่ที่กระทรวงภูน่าจะเคยพบและประสานงานกับคุณแม่ของหนูเกรซมั้ง” ธารารินให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้สุภัทรชายิ่งพอใจกับคุณสมบัติของเขา เมื่อกี้คุณหญิงธารารินสั่งศิราว่าหากเจอ ‘พี่ชาย’ ให้บอกเขามาทักทายท่านด้วย จากนั้นศิราก็เดินไปหาผู้ชายคนนี้ แล้วอีกไม่นานภูผาก็เข้ามาหาคุณหญิง ดูจากรูปการณ์แล้วก็แปลได้ประการเดียว...ภูผาคือบุตรชายคนโตของบ้านศิวกรณ์!

หญิงสาวยิ้มครึ้มๆ เริ่มคลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยอ่านผ่านตาในข่าวสังคมเมื่อหลายปีก่อนว่า ท่านรัฐมนตรีคีรีกับคุณหญิงธารารินมีบุตรชายสองคน คนโตเป็นทูตชื่อเหมือนพ่อ ส่วนคนเล็กรับช่วงบริหารโรงแรมชื่อเหมือนแม่ นี่ไงล่ะ...คีรีกับภูผา ธารารินกับศิรา ครั้งก่อนที่พบกัน ใครสักคนในกลุ่มก็แนะนำว่าภูผาเป็นทูต ทุกอย่างลงล็อกกันเหลือเชื่อ ผู้ชายคนนี้คือทายาทคนโตของบ้านศิวกรณ์แน่นอน!

เมื่อเทียบกับท่านทูตหนุ่ม ทายาทตระกูลศิวกรณ์ เจ้าของทรัพย์สินมหาศาลของโรงแรมในเครือคีรีธารากรุ๊ปแล้ว พัทธ์ธนัยกลายเป็นผู้ชายธรรมดาไปเลย

สุภัทรชาโปรยยิ้มเพิ่มขึ้นอีกนิด พร้อมกับยื่นมือไปให้อีกฝ่ายสัมผัสตามมารยาท “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะคุณภูผา”

แค่เห็นรอยยิ้มของเขาและแรงบีบกระชับที่อุ้งมือเธอ สุภัทรชาก็หมายมาดในใจด้วยความรื่นรมย์...

ต้องผู้ชายแบบนี้แหละ ถึงจะคู่ควรเป็นคนข้างกายของไฮโซสาวสวยอย่างสุภัทรชา นาริยะสกุล ทั้งรูปร่าง หน้าตา ฐานะ ชาติตระกูล แล้วก็หน้าที่การงาน สมบูรณ์แบบที่สุด! เธอต้องคว้าผู้ชายคนนี้มาเป็นแฟนให้ได้เลย...คอยดู!

เมื่อคุณหญิงธารารินแยกไปทักทายกับเพื่อนฝูง หญิงสาวจึงใช้โอกาสนั้นอย่างคุ้มค่า นอกจากจะทอดสะพานให้อีกฝ่ายก้าวข้ามมาง่ายๆแล้ว เธอยังปีนขึ้นจากสะพานฝั่งของตัวเองด้วยเช่นกัน จะได้ไปเจอกันที่กลางทางเร็วขึ้นอย่างไรล่ะ!



//////////////////////////////////////////////////////////////


เพื่อนนักอ่านที่รักขา...

ขอบคุณทุกๆ "ชอบ" ที่กดให้กับ ใต้ปีกรักสีเพลิง ทุกตอนนะคะ

เนื่องจากระยะหลัง...คนกดน้อยลง

เลยชักไม่แน่ใจ ว่าไม่ชอบกันหรือไร

เอาแบบนี้ดีกว่า...หากไล้ค์ถึง 20 ไล้ค์

สิริณจะมาลงตอนถัดไปให้ในวันรุ่งขึ้น

แบบนี้ดีไหมคะ แอบวัดเรตติ้งกันไปด้วยเลย :D

หนึ่งคลิกของเพื่อนๆ

จะได้ช่วยให้สิริณรู้ด้วยว่ายังมีคนติดตามอ่านกันอยู่เน้อ ^^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2556, 00:00:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2556, 00:00:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1501





<< ตอนที่ ๑๑ (ครึ่งแรก)   ตอนที่ ๑๒ (ครึ่งแรก) >>
ariesleo 19 ก.ย. 2556, 00:58:06 น.
รออ่านอยู่จ้า


Sukhumvit66 19 ก.ย. 2556, 02:50:04 น.
ถ้ามีสิทธิ์กดโหวตได้หลาย ๆ ครั้ง จะกดให้ครบ ยี่สิบเลยค่ะ พรุ่งนี้จะได้อ่านตอนต่อไป อิอิ

^_____________^


พันธุ์แตงกวา 19 ก.ย. 2556, 05:53:49 น.
แหม ถ้ามีบิ๊กโหวตจะจัดไปครั้งละยี่สิบเลย อยากจะเห็นยายเกรซรู้ว่าคุณใหญ่เป็นใครเร็วๆจัง


sirynth 19 ก.ย. 2556, 11:11:02 น.
Grace is in for a shock, I wish Pan would cool down for a bit, she's moving way too fast & it's gonna bite her in the butt pretty soon.


goldensun 19 ก.ย. 2556, 14:55:04 น.
มาเพิ่มไลค์ให้อีกหนึ่งค่ะ สะใจจริงๆ ที่เกรซเข้าใจผิด ชอบที่คุณเล็กตอกกลับด้วยค่ะ


จิรารัตน์ 19 ก.ย. 2556, 15:08:02 น.
เกรซเอ๊ย


นักอ่านเหนียวหนึบ 19 ก.ย. 2556, 20:48:41 น.
รีบมากระแทกปุ่มไลค์อย่างไวๆ เลยคะ
ไรเตอร์อย่างอลลล ไปเลยน้าาา
ถึงคนจะไลค์น้อยลง แต่ความชื่นชมไม่ได้ลดลงตามไลค์นะจ้ะ
รักซำเหมออ่ะ


nako 19 ก.ย. 2556, 22:07:48 น.
รอตอนต่อไปอยู่จ้า อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account