ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๒ (ครึ่งแรก)

ห้างสรรพสินค้าในช่วงสายวันหยุดค่อนข้างพลุกพล่าน รังสฤษฏ์ดูนาฬิกาเห็นว่าใกล้ถึงเวลานัดแล้ว จึงไปยังร้านกาแฟชื่อดัง สั่งกาแฟและขนมอบมานั่งรับประทาน พลางอ่านหนังสือที่พกติดมือมาระหว่างรอ

แล้วเงาที่มาบังแสงไฟก็เรียกให้เขาหันไป ชายหนุ่มแต้มยิ้มบางๆ พร้อมกับขยับแว่นด้วยความเคยชิน “อ้าว...คุณแพน สวัสดีครับ” เขาเหลียวมองด้านหลังของหญิงสาวโดยอัตโนมัติเผื่อว่าจะเจอเพื่อนสนิทของสตรีตรงหน้า ทั้งที่บอกให้ตัวเองตัดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เพราะหัวใจเป็นอวัยวะที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของสมอง เขาจึงพบว่าการห้ามใจนั้น...มันยากเพียงไร

“แพนมาคนเดียวค่ะ” ดูเถิด...ใครๆก็อ่านเขาออกราวกับหนังสือที่ไม่มีความซับซ้อน

“นั่งด้วยกันไหมครับ” เขาชวน การเกาะเกี่ยวสายใยใดๆก็ตามกับสุภัทรชาไว้ ล้วนแต่พาความชื่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้มาให้เขาเสมอ

หญิงสาวชั่งใจชั่วครู่ แล้วจึงพยักหน้า “ก็ดีค่ะ ถ้าคุณฤทธิ์ว่าไม่รบกวนนะคะ คุณฤทธิ์มานั่งอ่านหนังสือที่ห้างแบบนี้ จะมีสมาธิหรือคะ รอบตัวหนวกหูออก”

“ผมนัดเพื่อนไว้น่ะครับ เลยพกหนังสือมานั่งอ่านระหว่างคอย แล้วคุณแพนล่ะครับ”

“นี่เป็นวันนัดเพื่อนแห่งชาติหรือเปล่าเนี่ย แพนก็นัดเพื่อนไว้เหมือนกันค่ะ แพนจะมาซื้อของ เลยขอให้เขามาช่วยเลือก” พรนางฟ้าตอบพลางพิจารณาผู้ชายตรงหน้า แล้วจู่ๆก็นึกอยากยิ้มด้วยความขบขัน เมื่อระลึกได้ว่าเธอรู้สึกคล้ายตัวเองกำลังนั่งมอง...คู่แฝด!

แว่นสายตากรอบทองที่รังสฤษฏ์สวมรูปทรงคล้ายแว่นใหญ่กลมกรอบหนาที่เธอใช้ ผมสีดำสนิททรงเรียบร้อยแทบไม่มีอะไรสะดุดตาคน ไม่ต่างจากผมเรียบตรงปล่อยเคลียหลังของเธอสักนิด

หญิงสาวเบือนหน้าไปด้านอื่น พร้อมกับนึกสงสัย “คนอื่นที่เดินผ่านไปมา เขาจะคิดว่าเรากับคุณฤทธิ์เป็นอะไรกันนะ”

“คุณแพนว่าอะไรนะครับ” ดวงตาเบื้องหลังกระจกใสตวัดมาทันควัน

“เอ้อ...ไม่มีอะไรค่ะ” เธอรีบเสชี้หนังสือในมือรังสฤษฏ์ “แพนกำลังสงสัยว่าหนังสือที่คุณฤทธิ์อ่านอยู่ท่าทางน่าสนุก”

ชายหนุ่มเลื่อนหนังสือมาให้เธอดูชื่อชัดๆ “เล่นหุ้นตามเซียน ของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรการ ครับ เคยได้ยินชื่อไหม” เมื่อเห็นหญิงสาวส่ายหน้า เขาจึงเล่าต่อ “ดอกเตอร์นิเวศน์เป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าในตลาดหลักทรัพย์ครับ เปรียบไปก็คล้ายๆวอร์เรน บัฟเฟต ของเมืองไทย ว่าแต่คุณแพนลงทุนในหุ้นบ้างไหมครับ”

“ม่ายเลยค่ะ” เธอลากเสียงยาว “แพนไม่ได้ศึกษาจริงจังน่ะค่ะ ก็เลยกลัวสูญเงิน อีกอย่างงานที่ทำก็แทบไม่มีเวลาเหลือแล้ว คุณฤทธิ์เล่นหุ้นด้วยหรือคะ”

“ไม่เชิงครับ แต่ที่ต้องศึกษา ก็เพราะนอกจากงานที่บริษัทแล้ว ผมเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ด้านการเงินด้วยน่ะครับ บางทีก็ต้องมองลู่ทางว่าจะเอาเงินลูกค้าไปลงทุนในส่วนไหนดี ผมได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากผลกำไรที่ลูกค้าได้รับน่ะครับ”

“มีอาชีพแบบนี้ด้วยเหรอคะ แพนไม่เคยรู้เลย ลูกค้าของคุณฤทธิ์คงต้องรวยมากเลยสิคะ ถึงขนาดต้องมีผู้จัดการผลประโยชน์เนี่ย”

“ผมทำให้แต่คนสนิทๆไม่กี่คนหรอกครับ แต่ส่วนใหญ่คือพวกขี้เกียจมากกว่า คิดอะไรไม่ออกก็เอาเงินไปกองทิ้งในแบงก์ ผมเห็นแล้วทนดูไม่ได้ เลยเอามาจัดการให้เอง ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายด้วย”

“แล้วสนุกไหมคะ” พรนางฟ้าพบว่าผู้ชายเฉิ่มเชยคนนี้คุยสนุก! และสิ่งที่ออกจากปากเขาก็น่าสนใจ เธอเพลิดเพลินกับการตั้งคำถามและพูดคุยกับเขาจนเกือบลืมเวลาเลยทีเดียว

เวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่อาจทราบ ทั้งรังสฤษฏ์และพรนางฟ้าพบว่าความเพลิดเพลินค่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของฝ่ายชายดังขึ้น ชายหนุ่มจึงรับสายโดยมีร่องรอยผ่อนคลายแทรกอยู่ในประโยค “ผมอยู่ที่ร้านแล้ว พี่แวะมาได้เลย” เขาพูดคุยอีกสองสามคำแล้ววางสาย หันมาบอกคู่สนทนา “เพื่อนผมมาซะที เอ...คุณแพนก็รู้จักนี่นา พี่คีไงฮะ”

“อ้าว! ตกลงคุณคีมีนัดกับคุณฤทธิ์หรือคะ เอ...แล้วทำไมยังมานัดกับเราซ้อนอีกเนี่ย” พรนางฟ้าเผลอสตินิดเดียว คำพูดนั้นก็โพล่งออกมา

“คุณแพนก็นัดกับพี่คีเหมือนกันหรือครับ”

“แพนก็ยังงงๆอยู่นี่ละค่ะ ถ้าเขานัดคุณฤทธิ์แล้ว จะมานัดแพนด้วยทำไม”

แล้วคำตอบก็เดินเข้ามาสมทบอย่างรวดเร็ว แม้หนวดเคราจะรกเต็มหน้าเหมือนทุกครั้ง แถมเสื้อผ้าก็เก่าซอมซ่อ แต่ขณะก้าวเข้ามาสมทบกับสองหนุ่มสาว ใบหน้าเขาแจ่มใสสดชื่นยิ่งนัก

“ไงนายฤทธิ์ สวัสดีครับคุณแพน” ตอนท้ายเขายักคิ้ว ส่งยิ้มมีเลศนัยให้เธอ

“นี่มันเที่ยงกว่าแล้วนะ ทำไมไม่มามันซะตอนเย็นไปเลยล่ะ นัดฉันไว้สิบโมงแท้ๆ”

“ผมติดธุระ อย่าโกรธเลยน่า” เขาทำเสียงออดประนีประนอม “อีกอย่างคุณก็มีนายฤทธิ์เป็นเพื่อนคุยแล้ว จะมาบ่นผมทำไม”

“โฉเกตลอด” พรนางฟ้าบ่นแล้วนึกได้ หันไปทางเพื่อนร่วมโต๊ะที่คุยกันมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว “คุณคีนัดคุณกี่โมงคะ”

“สิบโมงครับ” รังสฤษฏ์ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

และพรนางฟ้าก็ปะติดปะต่อเรื่องได้รวดเร็ว “อี๋...อย่าบอกนะว่าอีตานี่คิดจะจับคู่เรากับคุณฤทธิ์น่ะ”

เพียงสิ้นประโยค ผู้ชายสองคนก็มีปฏิกิริยาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รังสฤษฏ์หน้าแดง ดูเงอะงะ วางตัวไม่ถูก

“เฮ้ย! คิดมากไปหรือเปล่าน่ะคุณ” คิรินทร์เบ้หน้าเป่าลมจากปากพรูคล้ายหงุดหงิดไม่ได้ดังใจ

“โกหก!” พรนางฟ้าเสียงเขียว “ก็รู้อยู่แล้วว่าคุณฤทธิ์ชอบเกรซหัวปักหัวปำจนหน้ามืดตามัวขนาดนั้น บ้าไปแล้วหรือไงถึงคิดว่าเขาจะเปลี่ยนใจมาชอบคนอย่างฉันได้น่ะ”

ถ้อยคำนั้นมิได้เกินจริงสักนิด ทว่าคนที่ ‘หัวปักหัวปำจนหน้ามืดตามัว’ ก็อับอายจนแทบไม่อยากอยู่ตรงนั้นอีกแม้แต่วินาทีเดียว

“พอดีผมเพิ่งนึกได้ว่านัดเพื่อนไว้ คงต้องขอตัวก่อนนะพี่คี แล้วพบกันใหม่ครับคุณแพน” รังสฤษฎ์ตัดบทแล้วลุกขึ้นคว้าหนังสือเดินลิ่วๆหนีไปโดยไม่รอให้ใครปราม

พรนางฟ้าหน้าตื่น ยกมือกุมขมับหนักใจ “โอย...ตายแล้ว! คุณฤทธิ์ต้องโกรธเราแน่ๆเลย”

คิรินทร์ถอนใจ อยากเขกหัวตัวเองนักที่หวังดีเกินไป จนกลายมาเป็นอย่างนี้ “ฤทธิ์มันไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ไม่ต้องกังวลไปหรอก”

“คุณก็พูดได้สิ! เขาโกรธฉันนี่ ไม่ได้โกรธคุณ” พรนางฟ้าตวาดแหว “ตอนคุยกับเขาตามลำพัง ฉันอุตส่าห์ห้ามตัวเองได้ดิบดี ไม่แฉเรื่องเกรซให้เขาฟังสักคำ แต่คุณมาถึงแค่ห้านาทีเองมั้ง ก็ทำให้ฉันปรี๊ดจนลืมตัว พูดเรื่องแสลงใจเขาจนได้ โธ่ๆๆๆ”

“มองโลกในแง่ดี คุณทักตรงๆแบบนั้นอาจทำให้ฤทธิ์มีแรงฮึดและพยายามตัดใจจนสำเร็จก็ได้” คิรินทร์ปลอบ แล้วเปลี่ยนเรื่องแทน “ผมหิวแล้ว ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า คุณยังติดเลี้ยงข้าวผมอยู่มื้อนึงนา ลืมหรือยัง”

“ตลกรับประทานอีกละ เจอหน้าก็ทวงหนี้เชียว” พรนางฟ้าบ่นไม่จริงจังนัก ค้อนปะหลับปะเหลือก เป็นผลให้คนมองหัวเราะร่วนถูกใจ

“เลี้ยงผมวันนี้เลยดีไหม” เขามองรอบๆแล้วบ่นอย่างคนเจ้าเล่ห์ “แต่ร้านนี้ดูไม่มีสกุลรุนชาติเท่าไหร่เลย เอาไว้ก่อนดีกว่า ผมอยากให้คุณเลี้ยงอาหารหรูๆมากกว่า จะได้คุ้มๆ”

พรนางฟ้าส่ายหน้าระอาคนงก “รูปฉันปากเบี้ยวนั่น แค่เลี้ยงหมูปิ้งยังไม่คุ้มเลย”

“ใครว่าล่ะ รูปนั้นเป็นความผิดพลาดเดียวของคิรินทร์ คุณไม่คิดเหรอว่าในอนาคตข้างหน้ามันจะมีราคายิ่งกว่ารูปที่ผมวาดสวยๆซะอีก เพราะมันเป็นของชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น”

“โห...ฝันเฟื่องไปปะเนี่ย” พรนางฟ้าประชดทันควัน ก่อนนึกได้ “ว้าย! อันนั้นฉันคิดนะ ลืมตัวพูดออกมาอีกแล้ว”

“คนเราควรมีความฝันบ้างนะคุณแพน” เขาคงชินกับความในใจร้ายกาจของเธอแล้ว เพราะคิรินทร์ไม่โกรธ ทั้งยังปรามราวกับมิได้เพิ่งถูกกระแนะกระแหนมาหยกๆ เขาส่ายหน้าเมื่อนึกได้ “คุณพูดความจริงจนนายฤทธิ์หนีกลับไปแล้ว คราวนี้ใครจะขนของกลับให้ล่ะเนี่ย โธ่...อุตส่าห์ชวนนายนั่นมาพร้อมโฟร์วีลคันใหญ่แท้ๆ”

“ฉันก็มีรถของฉันมาย่ะ หรือถ้าขนกลับไม่ได้ จ้างเขาไปส่งก็ได้”

“ไม่รู้ละ ไม่มีราชรถกลับฟรีแล้ว เดี๋ยวผมต้องขอติดรถคุณไปลงที่สถานีรถไฟฟ้าอย่างเคยละนะ”

“โน...ไม่ต้องมาตลกเลย หน้าห้างนี้ก็มีรถไฟฟ้าย่ะ” พรนางฟ้าจิกตาค้อนอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ “หัดหามุกใหม่มาใช้บ้างนะ เล่นมุกเดิมซ้ำซากไม่มีพัฒนาการบ้างเลย”

คิรินทร์ไม่เคยเจอผู้หญิงที่จริงจังกับทุกเรื่อง ไม่สนใจเรื่องล้อเล่นแบบนี้เลย เขาจึงอดขันไม่ได้กับกิริยาค้อนจนตาแทบพลัดของเธอ “เอ้า! ค้อนเข้าไป เดี๋ยวก็ปวดตาหรอก” ถ้าไม่ใช่เพราะเคยพบเธอในลักษณาการที่อ่อนแอมาก่อน เขาคงเชื่อภาพลักษณ์แข็งๆที่เธอวาดขึ้นหลอกตาผู้คนรอบกายแล้ว

น่าเห็นใจ...คนที่ถูกกดอยู่ใต้อำนาจของเพื่อนมาโดยตลอด เมื่อมาถึงจุดระเบิด พรนางฟ้าจึงกลายเป็นคนปากร้ายอย่างเหลือเชื่อ

น่าเสียดาย...เธอไขว่คว้าทำทุกสิ่งเพื่อตำแหน่งใหญ่โต ทว่าเมื่อสมหวัง แทนที่จะได้รับการยอมรับ เธอกลับยิ่งโดดเดี่ยวเข้าไปใหญ่ แค่คิดว่าใครสักคนต้องเผชิญกับสภาวะเช่นนี้ คิรินทร์ก็สงสารแล้ว!

จิตใจอันอ่อนโยนทำให้เขาออกปาก “เอาอย่างนี้ เรารีบไปซื้อของกันเถอะ ผมอาสาเป็นแรงงานให้เอง คุณเลี้ยงกาแฟผมแก้วเดียวก็พอ เห็นไหม...คราวนี้มุกใหม่แล้วนะ”

“แค่กาแฟจริงนะ” สีหน้าเธอแจ่มใสขึ้น และนั่นทำให้คนมองยิ่งสะท้อนใจ

“ถ้าได้ข้าวเหนียวหมูปิ้งอีกสักหน่อย ก็ยิ่งแจ่มไปเลยขอรับคุณนาย” คิรินทร์แกล้งเรียกร้อง กะว่าเธอต้องโวยวายแน่ๆ แต่เขาก็คาดผิด

“ก็ได้ แล้วถ้าคุณยังไม่อิ่ม ฉันแถมน้ำเต้าหู้ให้ด้วย” พรนางฟ้าหยิบสมุดมาส่งให้ชายหนุ่ม “ก็อย่างที่ขอแรงไว้ ฉันเพิ่งย้ายมาอยู่คอนโด อยากได้โซฟาชุดใหม่ไปวางข้างหน้าต่างไว้นั่งทำงาน ชุดโซฟาเดิมที่ติดมากับห้องมันวางเข้าในช่องว่างพอดีอยู่แล้ว ก็เลยไม่อยากย้าย แต่ตรงนั้นมันมืด นั่งทำงานนานๆแล้วปวดตา ฉันวัดพื้นที่มาแล้ว ตรงที่จะวางโซฟาใหม่ขนาดเท่าที่จดมานี่แหละ งบประมาณ...พอไหม”

คิรินทร์สอบถามลักษณะของเฟอร์นิเจอร์หลายๆชิ้น และดูรูปห้องที่หญิงสาวถ่ายมาให้พิจารณาประกอบ เพื่อหาแนวทางในการเลือกของชิ้นใหม่ให้เข้ากัน เมื่อได้แนวความคิดคร่าวๆแล้ว จึงนำหน้าหญิงสาวไปยังร้านเฟอร์นิเจอร์ที่มีข้าวของประหลาดแปลกตาเต็มพื้นที่ เขาพาพรนางฟ้าลุยเข้าไปด้านในสุด วาดรูปสิ่งที่ต้องการส่งให้เจ้าของร้าน เจรจากันครู่ใหญ่ ก่อนบอก “คุณจ่ายมัดจำ แล้ววาดแผนที่คอนโดให้เขาสิ ผมนัดให้เขาไปส่งตอนบ่ายสี่โมง เดี๋ยวออกจากนี่แล้วไปจตุจักรกัน กลับไปคอนโดคุณรอรับของตอนสี่โมงทันถมเถ”

พรนางฟ้าอ้าปากค้าง แค่นึกภาพตามก็ไม่โสภาแล้ว “อย่าว่าแต่ต้องไปตะลุยสถานที่จริงเลย แค่คิดว่าต้องไปเจออากาศร้อนๆ หน้าตาคงทรุดโทรม สภาพแย่หนักอย่างไม่ต้องจินตนาการแหงๆ ซื้อที่ห้างไม่ได้เหรอ”

“ของเหมือนกัน แต่ถ้าซื้อที่นี่ราคาแพงกว่ากันตั้งสองสามเท่า เปลือง”

“ช่างมันเถอะ จะแพงกว่ากันอีกสักเท่าไหร่เชียว ยังไงก็ยังอยู่ในงบไม่ใช่เหรอ”

“ถ้าคุณไปซื้อหมอนกับเบาะที่จตุจักร จะลดค่าใช้จ่ายได้อีกราวสี่พัน รวมแล้วเฟอร์นิเจอร์ใหม่ชิ้นนี้ราคาไม่ถึงหมื่นเลยนะ!” เขาบอกตัวเลขที่คนฟังตื่นเต้น เธอเกือบเอ่ยปากชมแล้ว ถ้าเขาไม่เสริมต่อว่า “ส่วนที่เหลือจากงบ พอซื้อภาพเขียนของผมได้ตั้งหลายภาพนะคุณ!”

คนฟังกรี๊ดสนั่นร้องโวยวายด้วยถ้อยคำเดิมเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน “ฉันบอกเป็นร้อยครั้งแล้ว ว่าต่อให้รูปของคุณสวยแค่ไหน แต่ฉันคงทำใจควักกระเป๋าเพื่อซื้อภาพวาดแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ”

คิรินทร์ยักไหล่ บอกชัดว่าแทบไม่ใส่ใจฟังคำตอบที่เขาเดาได้อยู่แล้ว ชายหนุ่มทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ตั้งคำถาม “คุณจอดรถไว้ไหนล่ะ นำไปสิ เดี๋ยวเราจะได้ไปจตุจักรกัน”





/////////////////////////////////////////////////////////

มาตามสัญญาค่ะ
ไล้ค์ครบ 20 ก็ลงตอนต่อไปให้อ่านกันเล้ยยยยย ^_^

ไม่เพียงเท่านั้น
เนื่องจากสิริณพบความรั่วของตัวเองในตอนที่แล้ว (ตอนที่ ๑๑ ฉากสุดท้าย)
จึงอยากมาท้าทายเพื่อนนักอ่านค่ะ
ใครหาเจอว่าจุดหลุด ของสิริณอยู่ตรงไหน
คนแรกที่ตอบถูก รับหนังสือจากสิริณ 1 เล่มไปเลย
เลือกได้เลยค่ะว่ายังไม่มีเล่มไหน อยากได้เล่มไหน
จัดปายยยยย :D

นอกจากนี้...อยากชวนไปอ่านนิยายเรื่องใหม่ด้วยเลยค่ะ
♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
จะเริ่มลงตอนแรกให้อ่านวันจันทร์ที่ 23 นะค้า

อัพให้อ่านกันวันละสองเรื่องอย่างนี้
โปรดแบ่งหัวใจมารักเค้าด้วยน้าาาาาาาาาา :D



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2556, 00:53:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2556, 01:09:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1491





<< ตอนที่ ๑๑ (จบตอน)   ตอนที่ ๑๒ (จบตอน) >>
พันธุ์แตงกวา 20 ก.ย. 2556, 07:21:58 น.
ขอบคุณมากค๊า มาเร็วทันใจ


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 20 ก.ย. 2556, 09:49:15 น.
สนุกดีค่ะ แต่แพน กรี๊ด ตลอดเลยนีะ


nonny 20 ก.ย. 2556, 12:31:44 น.
คีรีกับภูผาไหมค่ะ ผิดที่ลูกชายคนเล็กชื่อคีรา แปลว่าสายน้ำเหมือนแม่ แต่คีรีแปลว่าภูเขาเหมือนพ่อ ไม่งั้นลูกชายทั้งสองจะชื่อเหมือนพ่อค่ะ ^^ สรุปพิมพ์ผิดที่ชื่อคีรีค่ะต้องพิมพ์เป็นคีรา ถูกต้องไหมค่ะ


nonny 20 ก.ย. 2556, 12:36:40 น.
โก๊ะแล้วอ่ะ ถูกแล้วอ่ะ พ่อชื่อคีรีกับภูผา แทม่ชื่อธารารินกับคีรา ปล่อยไก่ตัวใหญ่ม๊ากกกก


Chii 20 ก.ย. 2556, 12:51:46 น.
เอ่อ.. รู้สึกว่าตอนที่แล้วอ่ะค่ะ คุณเกรซเธอ "ส่งมือ" ให้คุณภูผาจับ สองรอบนะคะ ^^
....สุภัทรชารีบส่งมือไปให้อีกฝ่ายจับ... รอบนึง
....สุภัทรชาโปรยยิ้มเพิ่มขึ้นอีกนิด พร้อมกับยื่นมือไปให้อีกฝ่ายสัมผัสตามมารยาท....

ถ้าถูกก็ขอรางวัลด้วยนะคะ


จิรารัตน์ 20 ก.ย. 2556, 15:14:35 น.
พ่อสื่อหน้าแตกยับ

ผู้เขียนรั่วตรงไหนไม่รู้ค่ะ รู้แต่ "เธอยังปีนขึ้นจากสะพานฝั่งตัวเองด้วยเช่นกัน" คิดว่าไม่น่าใช้คำว่า "ปีน" นะคะ น่าจะใช้คำว่า "เดิน" มากกว่า เพราะ "เธอยังเดินข้ามจากสะพานฝั่งตัวเองด้วยเช่นกัน" น่าจะดีกว่า ไหมค่ะ?


นักอ่านเหนียวหนึบ 20 ก.ย. 2556, 20:28:30 น.
555 มีคนช่วยไรเตอร์หาที่ผิดได้เยอะเลยยย
เค้าขอไม่ช่วยน้า เพราะเค้าหายังไงก็ไม่รู้สึกผิด 555 ขออ่านเนียนๆ ชิลๆ ไปเรื่อยแบบบนี้ละกัล


Sukhumvit66 20 ก.ย. 2556, 21:33:16 น.
หาไม่เจอจ้า ซื้อเลยแล้วกันนะคะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account