อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ

Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด

ตอน: กลับมาพร้อมกับความเจ็บช้ำ

“คุณแม่ไม่ต้องไปก็ได้มั้งครับ ผมส่งนิ่มแล้วจะเข้าออฟฟิศเลย…เอ่อ! ครับๆ เดี๋ยวผมจะวกไปรับแค่นี้ก่อนนะครับ”

อีกครั้งที่วิโรจน์เถียงไม่ชนะแม่จึงต้องย้อนกลับบ้านเพื่อรับแม่กับเมีย จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมารับลูกไปส่งแล้วคุยในเรื่องที่ค้างคาใจเขามาหลายวัน แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดเสีย สองพ่อลูกไม่ผูกพันต่างนั่งเงียบกระทั่งถึงคฤหาสน์ที่มียุพาพรกับเสาวรสยืนรออยู่พร้อมถุงใบโตที่เด็กรับใช้หิ้วไปยัดใส่กระโปรงหลังไว้

“แกไม่เห็นต้องลำบากขับไปรับแม่นิ่มเลยนี่ แม่สั่งนายเพิ่มไว้แล้ว” ขึ้นรถได้ก็ตำหนิลูกเป็นเรื่องแรก

“ผมเห็นคุณแม่ยังไม่ลงมาเลยไม่อยากกวน อีกอย่างผมก็คิดว่าจะรีบเข้าออฟฟิศเลยมีงานค้างอยู่หลายอย่าง” ลูกรีบแก้ตัวทันควัน แต่แม่กลับไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย

“ถ้าแกไม่อยากจะกวนฉันจริงๆ แกจะต้องไม่สร้างเรื่องจนทุกคนต้องมาเดือดร้อนกันหมดอย่างนี้ ทีหลังแกไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แม่กับเมียแกจะคิดให้เอง เพราะปล่อยให้แกคิดปล่อยให้แกทำตามใจมานาน ถึงต้องเสียทุกอย่างและนั่งให้ไอ้นั่นถอนหงอกอยู่นี่ไง” วิโรจน์เถียงไม่ออกอีกแล้วจึงเลือกที่จะเงียบ และก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีกเลยกระทั่งถึงจุดหมาย

“ยัยมิวส่งเสื้อผ้ามาให้หลายชุด เดี๋ยวเข้าบ้านแล้วเอาไปลองนะแม่นิ่ม ฉันกับแม่รสจะได้ช่วยดูว่าใส่ตัวไหนได้บ้าง ตาโรจน์ก็ช่วยหิ้วกระเป๋าไปส่งแม่ด้วย เข้าออฟฟิศช้าหน่อยนายนั่นคงไม่ไล่ออกล่ะมั้ง”

ยุพาพรสั่งเสียงห้วนแล้วลงจากรถทันที ทั้งหลานและลูกต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมานอกจากทำตามคำด้วยการเดินไปหาบ้านหลังน้อย โดยไม่มีใครสนใจจะเงยขึ้นไปมองตรงหน้าต่างของคฤหาสน์เลยว่ามีสายตาดุดันจับจ้องดูคนทั้งสี่อยู่ เพราะอยากจะรู้ว่าตราบาปที่เขาประทับไปบนเรือนร่างคุณหนูมิวนั้น

สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้คู่อริได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังเห็นสีหน้าท่าทางทุกคนเป็นปกติอยู่ หรือจะเป็นพวกเก็บอารมณ์เก่ง หรือคนพวกนี้ไม่รู้สึกหรือสาอะไรเลย จะเป็นไปได้ยังไงกัน หรือว่าแผนประหัดประหารของเขามันยังไม่หนักพอ คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวขณะเดินลงมาตามบันไดแล้วตรงไปหารถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะต้องเข้าประชุมจึงรอเยาะเย้ยคู่อริไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร เวลาเขายังมีเหลือถมเถ

“แล้วเรื่องระหว่างเธอกับนายนั่นล่ะ เป็นยังไงบ้าง มีวี่แววว่ามันจะหลงเสน่ห์เธอบ้างหรือยัง หรือมัวแต่หนิมอายหรือทำตัวเป็นนางพิกุลทองอยู่ จะพูดจะจาอะไรออกมาแต่ละทีก็กลัวดอกพิกุลจะร่วง”

ยุพาพรที่กำลังนั่งดูสะใภ้เลือกชุดให้อยู่บนห้องรีบซักทันที กัณหาเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา นอกจากรับชุดเดินเข้าไปลองในห้องน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็ออกมาหยุดยืนให้ย่าดู ทำเอาทุกคนถึงกับนิ่งงันพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่งโดยเฉพาะวิโรจน์ เมื่อชุดโชว์เนื้อหนังเผยให้เห็นรอยช้ำตามผิวขาวแทบจะทั่วตัวลูก

เสาวรสเกือบจะหลุดปากถามออกมา แต่หยุดไว้ได้ทันเมื่อแม่สามีสะกิดแขนก่อน แล้วตีหน้าปกติจ้องมองชุดที่หลานใส่ประหนึ่งไม่เห็นอะไร แล้วสั่งให้หอบชุดไม่ต่ำกว่าสิบเข้าไปลองอีก ซึ่งแต่ละชุดล้วนแล้วโชว์เนื้อหนังอย่างเปิดเผยทั้งสิ้น กัณหาไม่คิดจะใส่อยู่แล้ว

“เธอผิวขาวและสูงพอๆ กับยัยมิวใส่ชุดไหนก็สวย แปลว่าคงจะใส่ได้หมดนั่นล่ะ งั้นก็เก็บเข้าตู้เลย เอาไว้ใส่ตอนนายนั่นมาหาเพราะมันเซ็กซี่น่ามอง ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วไม่ชอบก็ให้มันรู้ไป เรากลับกันดีกว่าแม่รส พ่อโรจน์จะได้ไปทำงานสักที เห็นนั่งหงุดหงิดอยู่นานแล้ว”

กัณหาไม่คิดจะลงไปส่งใครนอกจากนั่งมองชุดที่ไม่คิดว่าจะหยิบขึ้นมาใส่ด้วยหัวใจเจ็บปวดยิ่ง กับการเฉยเมยของพ่อและย่าในรอยช้ำตามร่างกาย เพราะถ้าเปลี่ยนเป็นยายได้เห็นคงไม่นิ่งเฉยแบบนี้แน่ อย่างน้อยๆ ก็คงจะต้องหายามาทาให้ แต่จะไปหวังอะไรจากคนที่ไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาล่ะ

ที่มีค่าต่อพวกเขาก็เพียงแค่ต้องการให้มารับเคราะห์แทนคุณหนูมิวเท่านั้น ต่อให้เจ็บปางตายก็คงไม่ได้รับการเหลียวแลจากใครเลย แค่นี้น้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจก็พาลจะไหลออกมาจนต้องรีบหักห้ามเอาไว้ แล้วหันไปหางานที่ค้างอยู่เพราะมีแผนจะทำให้เสร็จวันนี้ จึงนั่งปักหลักกับหน้าจอกระทั่งเย็นย่ำ

แต่แล้วก็พบกับความประหลาดใจอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน เมื่อมองผ่านกระจกใสออกไปเห็นพ่อเดินคู่มากับหญิงสาวอายุไม่น่าจะเกินสามสิบ จะเดาว่าเป็นคุณหนูมิวก็ดูจะแก่เกินไป แต่กัณหาก็ไม่สนใจจะหาคำตอบ นอกจากเดินไปเปิดประตูให้เท่านั้น

“พ่อซื้อยามาให้ แล้วก็หาคนมาช่วยทาข้างหลังให้ด้วย นิ่มยุ่งอยู่หรือเปล่า”

กัณหาไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากเดินนำไปนั่งที่ชุดรับแขก หลอดยาในมือวิโรจน์ถูกยื่นให้กับสาวข้างกายเมื่อเดาเอาว่าที่ลูกเงียบนั่นหมายถึงยินยอมให้ช่วย ความสงสารแล่นมาจุกอกอีกครั้ง จนหัวใจผู้พ่อเต้นรัวและเร็ว เมื่อผิวกายภายใต้ร่มผ้าของลูกต่างเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำอยู่เต็มไปหมด

ประสบการณ์เรื่องผู้หญิงทำให้รู้ดีว่าแต่ละรอยได้มายังไง ลูกจะเจ็บกายเจ็บใจมากแค่ไหนกับการต้องมาเป็นแพะรับบาปอยู่ตอนนี้ และแม้คนเป็นแพะจะน้อยใจพ่อสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นแววตาของผู้พ่อที่แสดงออกมาว่าห่วงใย ก็ค่อยทำให้หัวใจชุ่มชื้นขึ้นมาได้บ้างถึงจะน้อยนิดถ้าเทียบกับความเสียอกเสียใจที่ถูกทอดทิ้งก็ตามที

“ไปรอที่รถก่อนนะ ผมขอคุยอะไรกับลูกก่อน”

วิโรจน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มไปหาหญิงสาวขณะส่งกุญแจรถให้เมื่อทุกริ้วรอยถูกยาป้ายเกือบหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงในจุดซ่อนเร้นที่เจ้าตัวจะต้องจัดการเองหลังรับหลอดยามาถือไว้ แล้วรอให้พ่อคุยในเรื่องที่เกริ่นมาตั้งแต่วันก่อน วิโรจน์ขยับไปนั่งข้างๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงของคนที่เสียใจจริงๆ

“พ่อขอโทษนะที่ทำให้นิ่มต้องมาเจอกับสภาพแบบนี้ พ่อไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะใจร้ายกับลูกอย่างนี้ แต่ถึงรู้พ่อก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะเราเป็นรองทุกทางทุกประตู”

“ใครไปทำอะไรเขาไว้คะ เขาถึงได้เกลียดพวกเรานัก”

นี่คือคำถามที่ค้างคาใจมาตั้งแต่แรกหลังรู้จากปากย่าว่าจะให้มาทำงานแลกชีวิตยาย แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามถึงความจริง หรืออีกนัยก็คือเธอไม่สนใจจะถามเพราะห่วงอาการป่วยของยาย อีกทั้งยังเสียอกเสียใจที่จะต้องพลัดพรากจากคนรัก แต่ตอนนี้จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องรู้ อย่างน้อยจะได้เข้าใจเห็นใจในการกระทำอันโหดร้ายของเขาบ้างว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่

“สิบกว่าปีก่อนเกิดอุบัติเหตุพ่อขับรถชนพ่อเขาตาย เขาโกรธมากสู้คดีอยู่นานเพื่อจะเอาพ่อเข้าคุกให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพ่อไม่มีเจตนาจะฆ่าใคร ซึ่งพ่อพยายามจะอธิบายให้เขาเข้าใจหลายครั้งแล้ว แต่เขาไม่ฟังท่าเดียว พ่อกับย่าก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ปล่อยเรื่องให้เลยตามเลย”

ผู้พ่อเลือกที่จะไม่ลงลึกถึงรายละเอียด ส่วนคนเป็นลูกก็ไม่อยากเซ้าซี้เมื่ออ่านออกว่าพ่อคงไม่ใคร่อยากจะพูดถึงมันนัก จึงหันหาถามข้อส่งสัยอื่น ซึ่งสำคัญกับตัวเองกว่าข้อแรกมาก

“แล้วลูกสาวพ่อไปทำอะไรให้เขาเหรอคะ เขาถึงได้เกลียดได้ด่าว่าคำหยาบๆ สารพัด”

“เอ่อ! คือเมื่อก่อนเขาเช่าห้องแถวของย่าที่อยู่ใกล้บ้านเราเหมือนกับคนเช่าอื่นๆ ที่มีลูกมีหลานวิ่งเล่นไปทั่ว ยัยมิวก็ออกมาเล่นด้วย ความซนของเด็กๆ ก็เกิดเรื่องจนได้ เพราะน้องสาวเขาพลัดตกน้ำที่บึงแถวๆ นั้น เขาแจ้งตำรวจว่ายัยมิวผลักน้องเขา ตำรวจสอบปากคำยัยมิวบอกว่าไม่ได้ทำ เด็กคนอื่นๆ ก็บอกแบบเดียวกัน เขากับแม่ไม่ยอมฟ้องจะเอาผิดให้ได้

พ่อกับย่าก็สู้คดี จนเกิดทะเลาะกันลุกลามใหญ่โต เขาแพ้และหายไปหลายปี กลับมาอีกทีก็อย่างที่นิ่มเห็น พ่อก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธเกลียดพ่อ เกลียดคุณย่าและเกลียดยัยมิวมากมายขนาดนี้ แต่พ่อว่านิ่มอย่าไปสนใจมากเลยนะกับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ยิ่งนิ่มรู้น้อยเท่าไหร่ก็จะเป็นผลดีกับนิ่มมากเท่านั้น”

“ผลดีแบบที่นิ่มกำลังเจออยู่นี้ หรือมันจะมีผลดีมากกว่านี้คะ ช่วยตอบนิ่มทีค่ะ นิ่มจะได้รู้ว่าชีวิตอีกสองปีจะต้องเจอกับอะไรบ้าง” มันยากยิ่งที่จะห้ามใจไม่ให้ประชด เพราะอาการเจ็บช้ำกายและใจรุมเร้าเหลือกำลัง

“พ่อเองก็ตอบแน่ชัดไม่ได้ เลยเดาใจเดาทางเขาไม่ถูก ว่าการที่เขายอมลดหนี้ก้อนใหญ่ให้เราเพื่อแลกกับการได้ลูกสาวพ่อมาอยู่ด้วยจะมีผลตามมายังไงบ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พ่ออยากจะเตือนนิ่มนั่นก็คือ ตลอดเวลาที่นิ่มอยู่กับเขาที่นี่ ไม่ว่าเขาจะทำให้นิ่มเจ็บช้ำกายหรือใจสักแค่ไหน นิ่มต้องอดทนและอย่าแสดงออกให้เขารู้ว่านิ่มกำลังเสียใจ นิ่มจะต้องไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น เพราะเขาจะได้ใจและคิดหาวิธีมาทำร้ายนิ่มอีก และเมื่อไหร่ก็ตามที่นิ่มเสียใจเขาก็คิดว่าพ่อกับย่าหรือแม้แต่เสาวรสจะต้องเสียใจตามไปด้วย”

“ทำไมคะ ทำไมเขาถึงอยากจะเห็นเราเสียใจด้วย เราเคยทำให้เขาเสียใจมาก่อนอย่างนั้นเหรอคะ”

“เอ่อ! เขาก็คงจะแค้นจากเรื่องพ่อกับน้องเขาล่ะมั้ง พ่อก็ไม่รู้แน่ชัดหรอกนะนิ่ม แต่เท่าที่พ่อแนะนำนิ่มได้ตอนนี้ก็คือ หนึ่งนิ่มต้องไม่เสียใจให้เขาเห็นไม่ว่ากรณีใดๆ สองคือตลอดเวลาที่นิ่มอยู่ใกล้ชิดเขานิ่มจะต้องไม่เผลอใจรักเขาเด็ดขาด”

มาถึงตอนนี้คนเป็นลูกอยากจะหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ ‘รัก’ อย่างนั้นเหรอ ‘ไม่มีทาง’ ‘ไม่มีวัน’ หรือถ้ามีก็จะมีแต่คำว่า ‘เกลียด กลียด กลียด’ เท่านั้น

“พ่อซื้อนี่มาให้นิ่มด้วย”

วิโรจน์ดึงแผงยาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ ทำเอาลูกจ้องมองด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยเห็นไม่เข้าใจว่ามันเป็นยาอะไร แต่ก็ยื่นมือไปรับมาดูอยู่ดี

“และคำแนะนำข้อสุดท้ายของพ่อก็คือนิ่มจะต้องกินยานี่ทุกคืนเวลาเดิมห้ามลืมเด็ดขาด เพราะถ้าลืมจะต้องมีปัญหาตามมาอีกมากมาย และคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือนิ่มเอง เพราะฉะนั้นอย่าลืมคำของพ่อเรื่องนี้สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นชีวิตที่เหลือของนิ่มจะต้องหาความสุขไม่ได้อีก จำคำพ่อไว้นะนิ่ม”

มาถึงตอนนี้แม้จะขาดประสบการณ์อยู่มากและไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าที่พ่อให้มาคือ ‘ยาคุมกำเนิด’ ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงต้องย้ำนักย้ำหนา เพราะเท่าที่ได้อยู่กับเขามา กัณหารู้ดีว่าเขาระวังเรื่องนี้จะแย่ จึงมองไม่เห็นทางที่เขาจะโง่มากพอที่จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่เขาเกลียดเข้ากระดูดำ

“นิ่มฟังพ่ออยู่หรือเปล่า” วิโรจน์เริ่มไม่แน่ใจในความนิ่งเงียบของลูกเข้าให้แล้ว

“ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา พ่อเคยคิดที่จะตามหานิ่มกับแม่หรือเปล่าคะ พ่อเคยห่วงเราสองคนว่าจะไปอยู่ที่ไหนไปลำบากยังไงบ้างไหมคะ หรืออย่างน้อยๆ พ่อเคยมีเราสองคนหลงเหลืออยู่ในความทรงจำบ้างไหมคะ”

ไม่ตั้งใจจะเอ่ยคำถามนี้ออกมาเลย แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ หัวใจมันเรียกร้องอยากจะได้คำตอบ จนไม่อาจเก็บงำเอาไว้ได้ และมันก็ทำให้พ่อไม่เอาไหนอย่างวิโรจน์ถึงกับอึ้งไปเกือบนาที ถ้าเป็นกับคนอื่น เช่นแม่หรือเมีย หรือลูกสาวอีกคนหรือกับลูกชายคนเดียว เขาคงจะรีบตอบแบบเอาอกเอาใจออกไปทันที แต่สำหรับลูกคนนี้กลับทำให้เขาโกหกไม่ได้

“พ่อยอมรับว่าพ่อมันแย่ ไม่มีความรับผิดชอบ แถมยังเห็นแก่ตัวด้วยการหาความสุขใส่ตัวคนเดียวโดยไม่คิดถึงใครเลย จนต้องเจอกับปัญหาแสนสาหัสจนแก้ไม่ตก แต่ตอนนี้พ่อกล้าบอกได้เลยว่า พ่อสงสารนิ่ม พ่อรู้สึกผิดที่ทอดทิ้งนิ่มกับแม่ให้ลำบาก ถ้าย้อนเวลาได้พ่อจะไม่มีวันทำเรื่องชั่วๆ เป็นอันขาด และถ้าพ่อมีปัญญาหาเงินมาซื้อทุกอย่างกลับไปให้คุณย่าได้ พ่อจะรีบทำ เพราะพ่ออยากเห็นนิ่มมีอิสระภาพ อยากเห็นนิ่มกลับไปหายายหาน้องหาคนรัก และต่อไปพ่อจะทำทุกอย่างเพื่อให้นิ่มกับแม่มีความสุข เพื่อชดเชยกับสิ่งเลวๆ ที่พ่อทำไว้”

“พ่อ!”

ลูกเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่บ่งบอกว่ารู้สึกผิดของพ่อ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าคำพูดเหล่านี้ออกมาจากใจพ่อมากน้อยแค่ไหน แต่อะไรบางอย่างบอกให้รู้ว่าพ่อไม่ได้โกหก แล้วมือบางของลูกก็ถูกผู้พ่อเอื้อมไปกุมไว้ อีกมือก็ยกขึ้นลูบศีรษะลูกไปมาด้วยความรู้สึกรักและสงสารกว่าครั้งไหนๆ นับตั้งแต่ได้เห็นหน้าลูก

แล้วเขาก็ค่อยๆ ดึงลูกเข้ามากอดไว้ โดยคนเป็นลูกเองก็ไม่ได้ขัดขืดใดๆ แม้จะไม่เคยคาดฝันว่าจะมีโอกาสได้รับไออุ่นจากอกพ่อผู้ให้กำเนิดเลยก็ตาม แต่ลูกที่ขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่มาตั้งแต่เกิดก็เป็นสุขใจไม่น้อยที่ได้อยู่ในอ้อมกอดพ่อ

“พ่อขอโทษนะลูก ขอโทษในทุกเรื่องทุกอย่างที่ทำกับนิ่ม พ่อสัญญาว่าจะรีบหาทางแก้ไข และรีบหาทางช่วยนิ่มให้ได้อิสรภาพก่อนสองปี พ่อสัญญา สัญญาด้วยชีวิต ขอเพียงให้นิ่มอดทนและทำตามคำแนะนำของพ่อไว้ให้ดี ไม่นานเราจะหลุดพ้นจากปัญหานี้ไปด้วยกัน”

“ค่ะพ่อ”

แม้ไม่รู้ว่าพ่อจะทำตามสัญญาได้ยังไงวิธีไหนหรือเมื่อไหร่ กว่าจะได้เงินเกือบสองร้อยล้านมาซื้อบริษัทกับบ้านหลังใหญ่ของพ่อกลับคืนได้ แต่ลูกก็ตอบรับเพื่อให้พ่อสบายใจ แล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจไหลรินออกมาอยู่กับอกพ่อนานหลายนาที

“พ่อดีใจที่นิ่มเชื่อพ่อ อ้อ! เกือบลืม” วิโรจน์ละวงแขนออกแล้วล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมานับเงินสี่หมื่นบาทแล้วส่งให้ลูก

“นี่เงินเดือนของนิ่ม พ่อต้องกลับก่อนล่ะ เดี๋ยวถ้านายนั่นมาเจอเข้าจะเป็นเรื่อง เพราะว่าพ่อไม่ได้ขอไว้ก่อน ถ้าพ่อว่างพ่อจะมาดูนิ่มบ่อยๆ จะเอายามาให้ด้วย หรือถ้าพ่อไม่ว่างมานิ่มรู้นะว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหน”

“ค่ะ”

กัณหาไหว้พ่อด้วยความขอบคุณหลังจากรับเงินมากำไว้ อีกมือก็รีบยกขึ้นไปปาดน้ำตาออกจากแก้มขณะลุกไปส่งพ่อที่กำลังจะเดินถึงประตูแล้ว วิโรจน์จึงยกแขนโอบไหล่ลูกระหว่างเดินตามทางเล็กๆ แต่ไปได้ไม่กี่ก้าว เมื่อเจ้าของบ้านหนุ่มยืนกอดอกจ้องมองมาหา

วิโรจน์เดาได้ไม่ยากว่าเขาคงมายืนอยู่นานแล้ว และนานพอที่จะมองผ่านกระจกเข้าไปเห็นเขากับลูกนั่งกอดกันร้องไห้อยู่เป็นแน่ เพิ่งจะเตือนลูกอยู่แท้ๆ แต่ตัวเองดันเป็นต้นเหตุทำให้เขาเห็นได้ เคราะห์ยังดีที่เสียงไม่เล็ดลอดออกมาถึงหูเขา ไม่งั้นคงได้พังกันหมด

“ส่งพ่อแค่นี้ก็พอนะ กลับไปพักผ่อนเถอะไว้วันหลังพ่อจะมาหาใหม่”

และวิโรจน์ก็รู้ดีว่าตัวเองละเมิดกฏเหล็กของเขา จึงต้องรีบทำให้ลูกหลุดพ้นจากรัศมีเสียงเหน็บแนมหรือด่าทอจากเขาที่จะถูกพ่นออกมาในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าเป็นแน่ กัณหาทำตามคำพ่อด้วยการหันหลังกลับ เพราะเกลียดคนตรงหน้าจนไม่อยากจะมองให้เสียตาด้วยซ้ำ

“ผมเข้าใจว่าภาษาคนของผมชัดเจนมากพอว่ากฏการมาหานางบำเรอผม คุณจะต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าไอ้คนที่ไม่ใช่คนและฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเท่านั้นที่จะทำผิดกฏ ไม่ทราบว่าคุณสองพ่อลูกจัดอยู่ประเภทไหนระหว่างเป็นคนที่เข้าใจภาษาคน หรือเป็นคนที่ไม่ใช่คน”

แต่ก็ยังไปไม่ไกลมากพอที่จะหลุดพ้นรัศมีเสียงของเขาที่เปล่งออกมาอย่างชัดเจนและดังประหนึ่งอยากให้เธอได้ยิน และเมื่อเขาอยากให้ได้ยินนัก กัณหาก็เลือกที่จะยืนหันหลังฟังให้รู้แล้วรู้รอดไป ส่วนวิโรจน์ที่รู้ว่าตัวเองผิดเต็มประตูก็พยายามควบคุมสติอารมณ์เอาไว้ และอธิบายให้เขารับรู้ด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่ม

“ผมขอโทษที่ไม่ได้ขอคุณก่อน พอดียัยมิวลืมเอายามาจากบ้าน ผมเลยรีบซื้อมาให้แล้วก็พาคนมาทายาให้ด้วยเพราะยัยมิวอยู่คนเดียวคงจะดูแลตัวเองได้ไม่ทั่วถึง”

“อ้อ!!! ยาทาไอ้ตราบาปที่ผมประทับให้น่ะเหรอ แล้วเป็นยังไงล่ะเห็นแล้วพวกคุณมีความสุขมากมั้ย ร้องห่มร้องไห้ใส่กันหมดน้ำตาไปกี่ปี๊บล่ะ ยกแรกนี่แค่เบสิคๆ นะ ต่อไปก็จะเป็นระดับอินเตอร์มิเดียสแล้วก็เลื่อนเป็นระดับแอดว้านซ์ เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตากันให้เยอะๆ เถอะ รับรองผมจัดให้ไม่ผิดหวังแน่”

กัณหาตัดสินใจที่จะไม่ฟังต่อด้วยการเดินกลับเข้าบ้าน วิโรจน์เองก็อยากจะหนีไปเต็มทีเพราะไม่อยากฟังเขาพร่ามไม่หยุด แต่ก็ยังพยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ดีไม่น้อยด้วยการเอ่ยเสียงเรียบนุ่มออกไป

“ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอกลับบ้านก่อนนะ จะได้รีบไปทำรายงานที่คุณสั่ง” ชาครีย์มองตาขวางก่อนจะส่งคำเหยียดหยามทิ้งท้าย

“เอาเป็นว่าครั้งนี้ผมจะทำบุญให้หมาจนตรอกด้วยการทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน แต่อย่าให้มีอีกนะ ถ้าคุณไม่เชื่อและตั้งใจจะฝืนกฏผมเมื่อไหร่ คุณนั่นล่ะจะเสียใจและเสียทุกอย่างเปล่าๆ รวมทั้งความสาวของลูกคุณด้วย”

ผู้พ่อรีบเดินหนีเมื่อประโยคนี้กระทบหู ส่วนคนลูกนั้นกลับหยุดยืนแล้วหันกลับไปมองใบหน้าและท่าทางที่สะใจของเขาอย่างชิงชังที่สุด ก่อนจะรีบวิ่งหนีขึ้นห้องนอนล็อคประตูไว้แล้วคว้าผ้าเช็ดเข้าห้องน้ำ แม้จะเพิ่งทายามาไม่นานก็ตาม แต่เพราะความที่อยากจะเอาน้ำเย็นๆ ช่วยดับอุณหภูมิในกายและใจให้ลดลง จึงเลือกที่จะไม่แคร์ใดๆ

“ไม่เจอกันแค่สองคืนถึงขนาดรีบขึ้นมาล้างตัวรอเลยเหรอ!!”

ร่างที่มีเพียงผ้าขนหนูพันไว้ทันได้แค่เดินจากประตูห้องน้ำไม่กี่ก้าว เสียงประชดประชันของเขาที่ยืนเอาหลังพิงผนังหน้าห้องน้ำก็ส่งมา แต่กัณหาไม่ตอบโต้นอกจากรีบเปิดตู้หาชุดนอนมาใส่ด้วยท่าที่สงบนิ่งเท่านั้น และนั่นยิ่งทำให้เขาเดือดดาลขึ้นมาเมื่อวาจาทำให้เจ้าหล่อนเจ็บไม่ได้ จึงเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

“คุณก็รู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีก็ต้องนอนแบให้ผมอยู่ดี แล้วจะใส่ชุดพวกนี้ทำไมไม่ทราบ หรือถ้าอยากจะปิดจริงๆ ก็ช่วยหาไอ้ที่มันหนาๆ กว่านี้หน่อยก็ได้ ไม่ใช่เอาบางชนิดมองปราดเดียวก็เห็นไปถึงไส้ในแล้ว หรือว่านี่จะเป็นวิธีล่อผู้ชายที่แม่กับย่าของคุณเสี้ยมสอนมา ความจริงไม่ต้องก็ได้อย่างผมแค่คลำดูไม่มีหางก็นอนด้วยได้แล้วล่ะ”

“คุณหิวจนถึงขนาดจะยอมลดตัวลงมาสมสู่กับหมาจนตรอกฉันเลยเหรอ แล้วอย่างนี้คุณเองก็คงจะมีสภาพไม่แตกต่างจากฉันหรอกมั้ง เพราะหมามันก็ย่อมสมสู่กับหมาด้วยกันเท่านั้น”

แม้ตั้งใจจะไม่ตอบโต้ แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ และนั่นก็ยิ่งทำให้เขาโกรธหนักขึ้นอีกจนคว้าสองไหล่มาบีบแน่นแล้วเขย่าไปมาจนแผ่นหลังกระแทกฝาตู้พร้อมกับส่งคำประชดประชันเสียงหนักๆ ไปหา

“กลับไปบ้านแค่สองวันสันดานเดิมๆ คุณหนูมิวก็โผล่มาเลยนะ นึกว่าจะถ่างดีสงบปากสงบคำไปได้ตลอดรอดฝั่ง ที่แท้หมาจนตรอกพอได้กลับคอกไปหาฝูงกลับออกมาอีกทีก็กัดไม่เลี้ยง และจะบอกให้ว่าถ้าผมเป็นหมา ก็เป็นหมาดีมีราคา ใครๆ ก็อยากจะซื้อหาเอาไปอยู่ด้วย ไม่เหมือนหมาลอบกัดอย่างพวกคุณ ที่แม้แต่เศษอาหารเน่าๆ ก็ไม่มีใครอยากจะโยนให้กิน เพราะเขารู้ว่าหมาพวกนี้พอกินอิ่มมีเรี่ยวแรงแล้วมันก็พร้อมจะขย่ำผู้มีพระคุณกลับไงล่ะ เพราะสันดานพวกคุณมันก็ไม่ต่างจากหมาลอบกัดดีๆ นี่เอง”

“หมาลอบกัด! ฉันชักจะไม่แน่ใจซะแล้วว่าใครกันแน่ที่เหมาะสมกับคำนี้ ใครกันแน่ที่เปลี่ยนชื่อมาซื้อหุ้นซื้อบ้านจนพ่อฉันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคน ที่แท้ก็คือพวกหมาลอบกัด”

ปากบางไม่ยอมหยุดให้เขาว่าฝ่ายเดียวอีกแล้ว จึงตอบโต้เท่าที่ตัวเองจะพอรู้เรื่องราวคร่าวๆ จากปากย่าครั้งก่อน และนั่นทำให้ชาครีย์โกรธหนักขึ้นอีก

“อยากให้ผมเป็นหมานักใช่มั้ย! ได้!!! ทีนี้ก็เตรียมตัวรับการสมสู่จากหมาตัวนี้ก็แล้วกัน”

อีกครั้งที่ชุดบางๆ ถูกกระชากอย่างแรงจนขาดออกจากกันด้วยความโกรธ แล้วเขาก็ก้มลงไปจูบอย่างรุนแรงประหนึ่งจะสั่งสอนไม่ให้กล้ามาเถียงเขาอีกก็ไม่ปาน และอีกครั้งที่กัณหาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีปกป้องตัวเอง และอีกครั้งที่พ่ายแพ้เพราะความเป็นสตรีเพศ

บทรักที่รุนแรงเหมือนวันก่อนจึงถูกเขาบรรเลงขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หญิงสาวไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญให้เขาเห็นแม้แต่นิดเดียว กระทั่งสายของวันถัดมาน้ำตาถึงได้รินไหลออกมาหยดลงไปหาวิหคที่มือนุ่มบรรจงพับใส่ขวดโหลถึงสี่ตัว และปรารถนาอยากจะพับอีกสักร้อยสักพันตัว เพื่อจะได้หลุดพ้นจากบ้านนี้เร็วๆ



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ย. 2556, 08:12:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ย. 2556, 08:12:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1293





<< ของกำนัลวันกลับบ้าน ๒   แผนทรมานคู่แค้น >>
alecigor 21 ก.ย. 2556, 09:29:23 น.
จะโหดไปไหนนักหนา


sonakshi 21 ก.ย. 2556, 10:52:01 น.
พ่อนางเอกเลวมาก พระเอกก็เลว อย่าให้อภัยเชียว


กันเกราธัญญรัตน์วรนัน 27 ก.ย. 2556, 19:52:38 น.
โหดได้โล่ห์ค่ะ

สองพ่อเลวพอกัน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account