เพลิงดอกรัก by แสนดี

Tags: เจ้าพ่ออ่าง,มาเฟีย,แสนดี,เพลิงดอกรัก,

ตอน: บทที่ 13

นรีกานต์ยืนกอดอกพิงมอเตอร์ไซค์ด้วยท่าทีไม่สบายใจและยังสับสน มีศักดิ์ยืนทำหน้าเครียดอยู่ไม่ห่าง เนื่องจากกลัวโดนเจ้านายดุ ที่นำความยุ่งยากมาให้ แต่เขาก็ทัดทานแรงหึงของดวงนุชไม่ได้จริงๆ

‘นายไม่พาฉันตามเจ้านายของนายไป ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น แล้วก็จะกรี๊ดๆอยู่ตรงนี้ด้วย’

กอปรกับเขาเองก็เป็นห่วงเจ้านายด้วย แม้จะมีเพทายอยู่แล้ว แต่การมีเขาอยู่ด้วยก็จะดีต่อการปกป้องเจ้านายรวมทั้งนรีกานต์ได้ดีกว่า เขาจึงตัดสินใจตามมาที่นี่ และที่ตามมาถูกเพราะก่อนหน้านี้ วโรตม์ได้บอกที่อยู่ของนรีกานต์ให้เขาทราบแล้ว เนื่องจากอาจจำเป็นต้องส่งเขามาคุ้มกันหล่อนสลับกับเพทายนั่นเอง

ห่างออกไปประมาณสิบก้าว วโรตม์กับดวงนุชกำลังยืนคุยกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด

“โอ เค นีน่าทำความเข้าใจได้นะคะ เรื่องที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ลอบยิงคุณ เขาเห็นหน้าคนร้าย คุณจำเป็นต้องปกป้องเขา แต่ทำไมต้องพาเขาไปอยู่ที่บ้านคุณด้วย” หลังจากชายหนุ่มอธิบายที่มาที่ไปแล้ว นางแบบสาวก็ยิงคำถามต่อทันทีด้วยน้ำเสียงหวาดระแวงเต็มขั้น

"เพราะผมมั่นใจว่าที่นั่น นรีกานต์จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไงล่ะ หรือคุณจะให้เขาไปอยู่ที่คอนโดของผมล่ะ" เขาย้อนถามตรงๆ

ดวงนุชเงียบไปอย่างใช้ความคิด ถ้าอยู่ที่คอนโดของเขา โอกาสที่ทั้งคู่จะใกล้ชิดกันนั้นมีมากกว่า ที่บ้านยังมีมารดาของเขาให้ต้องเกรงใจอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม นางแบบสาวก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี

"ทำไมไม่ให้ตำรวจเขาดูแลคะ"

"ผมดูแลเองสบายใจและมั่นใจกว่า" วโรตม์ตอบตามตรง

"สบายใจกว่าหรือได้ใกล้ชิดกว่ากันแน่คะ พายุ" ดวงนุชโพล่งสิ่งที่คิด มองหน้าเขาด้วยความไม่ไว้ใจแม้สักนิด “นีน่ารู้ว่างานของคุณ สิ่งที่คุณเป็นล้วนเรียกผู้หญิงให้วิ่งเข้าหา แต่คุณบอกว่าผู้หญิงเหล่านั้นเป็นแค่ทางผ่าน ถึงนีน่าจะเจ็บปวด แต่ก็คิดว่าคงเปลี่ยนคุณไม่ได้ ฉะนั้นการยอมรับสิ่งที่คุณเป็นน่าจะดีที่สุด ทั้งที่คนอย่างนีน่าไม่จำเป็นต้องยอมต้องทนถึงขนาดนี้ นีน่าเคยขอ...ว่าอย่าให้นีน่าเห็น แต่นี่...ไม่ใช่แค่เห็น แต่คุณจะพาเขาไปอยู่ที่บ้าน”

วโรตม์ขบกรามแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ

“นีน่า...คือผมไม่ใช่...” คล้ายเขาอยากจะบอกอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจ ถอนหายใจยาวๆครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยเสียงกังวานทรงพลังตามแบบฉบับ “ตอนนี้ผมยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ขอให้คุณมั่นใจ นับตั้งแต่ได้เจอและรู้จักคุณ อสูรแห่งราตรีก็ได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเพื่อคุณหลายอย่าง บางอย่างทำได้ แต่บางอย่างยังทำได้ไม่ดี และตราบจนนาทีนี้ เขาก็ยังรักคุณอยู่ และคุณเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต”

ดวงนุชฟังแล้วก็ให้สับสน หล่อนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรดีต่อประโยคยาวๆชวนอบอุ่นตื้นตันนั่น ใช่ หล่อนควรจะอบอุ่น ควรจะตื้นตัน แต่แปลกที่หัวใจกลับว่างโหวง กลับรู้สึกว่าเขาอยู่ห่างออกไป อสูรแห่งราตรีที่เขาเอ่ยมาคล้ายไม่ใช่เขาเองกระนั้น

“นีน่า...”

“นี่คุณกำลังพยายามให้นีน่ายอมรับการตัดสินใจของคุณอยู่ใช่ไหมคะ ให้นีน่ายอมให้คุณพาผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในบ้าน...โธ่ แล้วคำพูดของคุณเมื่อกี้มันจะมีความหมายอะไร” นางแบบสาวส่ายหน้าไปมา ความเจ็บปวดแล่นพล่านเต็มหัวใจ

“ผมขอโทษ”

น้ำตาของดวงนุชทะลักเมื่อได้ยินคำนั้น เพราะมันมีความหมายว่า อย่างไรเสีย เขาก็จะยังทำตามความตั้งใจเดิมของเขานั่นละ

“นีน่ารู้แล้วว่า ทำไมคุณถึงเชียร์ให้นีน่าไปบวชนัก” หญิงสาวกล่าวเสียงปนสะอื้น ก่อนจะหมุนตัววิ่งเร็วๆ ไปขึ้นรถ วโรตม์รีบหันไปพยักหน้าเรียกศักดิ์ให้รีบตามไปขับรถให้ ไม่นาน รถคันนั้นก็แล่นจากไป วโรตม์มองตามด้วยสีหน้าหนักใจ ก่อนเดินกลับไปหานรีกานต์

“คุณวโรตม์คะ ฉันว่า...”

“คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น วันหนึ่ง นีน่าจะเข้าใจ”

“ฉันเป็นคุณนีน่า ฉันจะไม่มีวันเข้าใจในสิ่งที่คุณทำวันนี้เด็ดขาด...เอาอย่างนี้ไหมคะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก่อนดีกว่า”

“คุณจะต้องอยู่ในสายตาผมตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่จะเป็นไป” พูดจบเขาก็ก้าวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทเครื่อง แล้วหันมาพยักหน้าให้หล่อนขึ้นบ้าง นรีกานต์นึกอยากปฏิเสธให้เด็ดขาด แล้วทำอย่างที่ตัวเองอยากทำ แต่ทำไมหล่อนไม่กล้าก็ไม่รู้





ไปถึงบ้านของวโรตม์ นรีกานต์ก็ได้พบภาพอย่างที่คิดเอาไว้ อารวรรณกับอรสายืนรอรับหล่อนอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้าน แฝดพี่สีหน้ายิ้มแย้มยินดี แต่แฝดน้องแสดงออกชัดถึงความไม่พอใจ

“หนูกานต์ ขวัญเอยขวัญมานะ ลูก” อารวรรณเดินเข้ามาสวมกอดหล่อน พลางลูบหลังลูบไหล่ปลอบขวัญ “มาอยู่ที่นี่ดีแล้ว ป้ารับรองความปลอดภัยจ้ะ”

“ขอบคุณค่ะ คุณป้า” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะหันไปไหว้อรสาด้วย ซึ่งฝ่ายนั้นก็รับไหว้แบบแกนๆ

“มาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนเถอะจ้ะ พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกัน” จากนั้นอารวรรณก็หันไปเรียกคนรับใช้ให้มาพาหล่อนไปที่ห้องนอน นรีกานต์เดินตามไปเงียบๆ

“เมื่อกี้นีน่าโทรฯหาน้า...” ยังไม่ทันลับร่างนรีกานต์ดีด้วยซ้ำ อรสาก็เอ่ยขึ้น

“ครับ”

“ทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอ ทำเหมือนไม่แคร์ ไม่ให้เกียรติเขาเลยอะ เขาเป็นแฟนของ...”

“วันหนึ่งนีน่าก็จะรู้ว่าทำไมผมต้องทำแบบนี้ เหมือนที่ทุกคนก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร” เจ้าของร่างสูงเอ่ยขัดขึ้น โดยเน้นเสียงหนักตอนท้าย และทำท่าจะผละจากไป แต่อีกฝ่ายไม่ยอม

“ถ้าเป็นน้านะ เมื่อก้าวมายืนตรงนี้แล้ว น้าจะทำให้ดีที่สุด ถ้าจำเป็นต้องละทิ้งเรื่องหัวใจ น้าก็จะละ เพื่อหน้าที่”

ชายหนุ่มหันไปเผชิญหน้าคนพูดตรงๆ วูบหนึ่งมีความน้อยใจวาบผ่านเข้ามาในดวงตาสีสนิมเหล็ก ก่อนจะจางหายกลายเป็นความเฉยชาดังเดิม

“แต่ผมจะให้หัวใจเดินไปพร้อมหน้าที่ หวังว่าน้าสาจะเข้าใจนะครับ” พูดจบ เขาก็เดินออกไปทางหน้าบ้าน เลี้ยวลับไปทางด้านหลัง เพื่อไปยังบ้านหลังเล็กซึ่งยังคงเปิดไฟสว่างคล้ายรอเขาอยู่ ปล่อยให้อรสายืนทำหน้าขบคิดกับคำพูดนั้น

“หมายความว่ายังไงน่ะ พี่วรรณ ลูกชายพี่จะบอกอะไรสาคะ”

“ก็ตามนั้นแหละ มันก็จริงนะ ทำไมหัวใจจะเดินไปพร้อมหน้าที่ไม่ได้ล่ะ” แฝดพี่พูดไปยิ้มไป

“นี่พี่กำลังจะบอกว่า เขากำลังคิดจริงจังกับแม่พยาบาลหน้าจืดคนนั้นงั้นเหรอคะ เฮ้ย เพิ่งเจอเขาได้ไม่ถึงอาทิตย์เนี่ยนะ มันเว่อร์ไปหน่อยหรือเปล่า” พอคิดคำตอบออก แฝดน้องก็โวยวายตาเหลือก

“เคยได้ยินคำว่า รักไม่ต้องการเวลาหรือเปล่าจ๊ะ”

“พี่วรรณทำให้สาขนลุก” เจ้าตัวว่าพลางห่อไหล่ทำท่าเหมือนกลัวจริงๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้จริงจัง “แต่น้องอยากให้เขาทำหน้าที่ให้สำเร็จก่อน ขืนหัวใจเข้ามายุ่งตอนนี้ น้องว่าเรื่องมันจะยิ่งยุ่งมากกว่า”

“สาเอ๊ย พี่ถามจริงๆเถอะ เธอเคยนึกถึงจิตใจของหลานคนนี้บ้างหรือเปล่า เท่าที่เขาทำให้เราทุกวันนี้ เราก็เอาเปรียบเขามากแล้วนะ”

“เพราะน้องคิดถึงจิตใจเขาไงคะ ถึงต้องเตือนเขาอยู่เสมอว่าให้เขาทำสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นเร็วๆ เพื่อที่เขาจะได้ใช้ชีวิตในแบบของเขาได้เร็วๆ และน้องก็เห็นว่า การมีผู้หญิงอีกคนเข้ามา จะทำให้เรื่องยิ่งยาก”

“แต่พี่เชื่อว่าลูกจะจัดการได้ พี่มั่นใจ” คนเป็นแม่ประกาศอย่างเชื่อมั่น แต่อรสายังคงคิดและรู้สึกตามแบบของตน หากเธอก็ไม่แย้งพี่สาว ได้แต่ครุ่นคิดอะไรของตนไปเงียบๆ




ดวงนุชต้องกลับไปเอารถที่โรงแรม เพราะตอนขามา หล่อนนั่งรถของวโรตม์มา

“ความจริง ผมไปส่งคุณนีน่าที่บ้าน แล้วพรุ่งนี้คุณค่อยกลับมาเอารถก็ได้นะครับ” ศักดิ์เอ่ยอย่างเป็นห่วง เพราะกลัวนางแบบสาวไม่มีสติในการขับรถ

“ฉันยังไหว” หญิงสาวตอบสั้นๆ “ถามจริงๆเถอะ เจ้านายของเราเป็นคนยังไงกันแน่ นายศักดิ์ บางทีฉันก็เหมือนไม่รู้จักเขาเลย ยิ่งหลังจากกลับจากการพักฟื้น เขาก็เปลี่ยนไปมาก”

“ถ้าคุณนีน่าหมายถึงคุณพายุละก็ ท่านไม่ได้เปลี่ยนไปเลยครับ ผมยืนยันได้ว่า ท่านยังรักคุณนีน่าคนเดียวเหมือนเดิม”

“แหม สอนกันมาดีจังเลยนะ” หล่อนประชดและไม่เชื่อถือคำพูดนั้นเท่าใดนัก

“ผมพูดตามที่เห็นและรู้สึกครับ ส่วนเรื่องของคุณนรีกานต์ เจ้านายเคยบอกว่า คุณนรีกานต์ถือเป็นผู้มีบุญคุณคนหนึ่ง และเธอก็เป็นคนดีมาก เจ้านายไม่อยากให้คนดีๆต้องเป็นอะไรเพราะเจ้านายน่ะครับ”

“หวังว่านี่คงไม่ใช่แผนหลอกให้ฉันตายใจ กลายเป็นยายโง่ที่โดนคนรักสวมเขานะ”

“ผมยืนยันครับ”

อย่างไรก็ตาม ดวงนุชรู้สึกดีขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หล่อนเชื่อสัญชาตญาณผู้หญิงในตัวเองมากกว่าอะไรทั้งหมด

ไม่นาน รถก็จอดลงหน้าโรงแรม นางแบบสาวขยับตัว พลางบอก

“ฉันจะเข้าไปดื่มต่อ นายกลับไปได้เลย”

“คุณพายุรู้คงเป็นห่วง กลับไปพักไม่ดีกว่าหรือครับ” ศักดิ์ไม่เห็นด้วย

“คิดว่าฉันจะนอนหลับหรือไง”

ศักดิ์ไม่มีทางเลือก เขาวิ่งลงไปเปิดประตูให้หล่อน จากนั้นจึงขับรถจากไป

ดวงนุชเดินกดโทรศัพท์หารายชื่อเพื่อนที่จะคิดว่าจะมาหาหล่อนได้ในตอนนี้ หล่อนต้องการเพื่อน ต้องการที่ปรึกษา หล่อนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้จริงๆ

ระหว่างนั้นเอง ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งก็เดินสวนมาในลักษณะผู้ชายหิ้วปีกผู้หญิงซึ่งท่าทางเมาหนัก สีหน้าผู้ชายเต็มไปด้วยความหนักใจ

ธีรพลกับหญิงสาวหน้าหวานนั่นเอง!

“คุณนุช” ธีรพลอุทานอย่างดีใจเมื่อเงยหน้ามาเห็นหล่อน “โชคดีจริงๆที่เจอคุณ”

“ย้ายที่สวดมนต์เหรอคะ ท่านมรรคทายก” แม้ยังอยู่ในอารมณ์เศร้าแต่ดวงนุชอดแซวเขาไม่ได้ หล่อนไม่นึกว่าจะได้เจอเขาในสถานที่อย่างนี้เลยจริงๆ

“อย่าเพิ่งแซวผมเลย ช่วยผมหน่อยเถอะ ยายเมย์เมามาก ผมไม่รู้จะทำยังไง” สีหน้าแววตาของเขาบ่งบอกอย่างนั้นจริงๆ

“คุณก็พาเขากลับไปที่ห้อง จัดการถอดเสื้อผ้าเขาออกให้หมด แล้วก็เช็ดตัวให้เขา แค่นี้เอง ยากตรงไหนคะ” หญิงสาวเน้นตรงคำว่าแก้ผ้า แล้วก็ได้ผล ท่านมรรคทายกปากตะไกรสะดุ้งไปนิดหน่อย ก่อนยิ้มแห้งๆ

“ฟังดูง่ายนะครับ แต่ผม...ไม่เคยทำ”

“ต้องหัดทำไว้ค่ะ ท่าน คิดจะคบกับสาวนักเที่ยว ท่านต้องหัดไว้ให้คล่อง”

“แฟนคุณคงถนัดเรื่องพวกนี้สิ” เขาย้อนหล่อนกลับมา

ดวงนุชชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าแฟน แต่หล่อนก็ตัดออกไปอย่างรวดเร็ว “ตกลงคุณจะให้ฉันช่วยอะไร”

“ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณมากเกินไป ไปส่งยายเมย์เป็นเพื่อนผมหน่อย คือยายเมย์แกพักหอพักสตรีน่ะครับ ผมเข้าไม่ได้”

“อ้าว ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอคะ”

“เปล่า ผมยังไม่มีบ้าน” ชายหนุ่มตอบไปตามความจริง แต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วละ ว่าถ้าหากเก็บเงินได้มากกว่านี้ เขาคงดาวน์บ้านสักหลังแล้วให้น้องสาวมาอยู่เสียด้วยกัน

“แล้วคุณปล่อยให้แฟนเมาขนาดนี้ได้ยังไงน่ะ” ดวงนุชบ่นอุบ แต่ก็ยอมเดินเข้าไปช่วยเขาพยุงสาวหน้าหวานโดยดี

“เวลาผู้หญิงดื้อ อะไรก็ห้ามไม่อยู่หรอกครับ เมย์เป็นคนดื้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว” เขาทำเสียงระอาให้ดวงนุชมองค้อน

“ผู้ชายไม่เรียนรู้วิธีทำให้เราหยุดดื้อต่างหาก แต่จะว่าไป คุณก็เป็นแฟนที่ดีนะเนี่ย ตามใจแฟน ไม่ค่อยกล้าหือ อนาคตต้องเป็นสามีที่ดีอยู่ในโอวาทภรรยาแน่นอน”

“แต่คนแบบผมก็น่าเบื่อ ไม่เร้าใจ...พวกผู้หญิงคงไม่ชอบเท่าไหร่ ไม่เหมือนพวกแบดบอย”

ไม่รู้ดวงนุชคิดไปเองหรือเปล่าว่าเขากำลังเหน็บหล่อนอยู่กลายๆ แต่พอหันไปมองหล่อนก็ไม่พบความรู้สึกอะไรบนใบหน้านั้น นอกจากความเคร่งขรึมและความหนักใจต่อสถานการณ์ตรงหน้าเท่านั้น

“เอาน่า คนเราไม่เหมือนกัน ดอกไม้บางดอกเติบโตกับดินร่วน บางดอกเติบโตกับดินเหนียว...แต่อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็ยังบานกับดินเหนียวอย่างคุณนะ”

ชายหนุ่มไม่เอ่ยอะไรอีก นอกจากตั้งหน้าตั้งพาน้องสาวไปถึงรถให้เร็วที่สุด

“ตกลง คุณจะไปช่วยผมใช่ไหม” หลังจากพยายามยัดร่างน้องสาวเข้าไปในรถของตนซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว อาจารย์หนุ่มก็หันมาทางนางแบบสาวที่ยืนหอบน้อยๆจากการออกแรงเมื่อครู่

“ขนาดมีคุณช่วย ฉันยังหายใจแทบไม่ทัน แล้วฉันจะแบกแฟนคุณขึ้นบันไดคนเดียวไหวเหรอ”

ธีรพลชะงักไปอย่างนึกได้ “จริงสิ ถ้าอย่างนั้นก็ไปอพาร์ตเมนต์ผมก็แล้วกัน”

ดวงนุชพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ดีค่ะ งั้นฉันคงไม่ต้องไปช่วยแล้วละ คุณก็จัดการตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน”

“แต่ผมอยากให้คุณไป” เขารีบเอ่ยเมื่อเห็นหล่อนขยับตัว นางแบบสาวหันกลับมามองเขาเพื่อรอฟังเหตุผล “ร้องไห้ให้ผมเห็นคนเดียวน่าจะดีกว่าให้คนนับร้อยเห็นนะ อย่างน้อยผมก็ไม่เอาเรื่องของคุณไปบอกนักข่าวแน่นอน”

(จบบทที่ 13)

ทักท้ายค่ะ

คุณHibara...ซวยนิดหน่อยค่ะ อิอิ

น้องโอ๋...เป็นไงบ้าง พี่เอาใจช่วยนะคะ

นักอ่านเหนียวหนึบ...ช่ายค่า นางน่าสงสารอยู่ไม่น้อย อิอิ

อ้อม...๕๕๕๕๕ ตามต่อๆ

คุณ sonakshi...ดังโครมทีเดียวค่ะ อิอิ

คุณ nasa...ยืนยันว่าอสูรราตรียังรักนีน่าค่ะ อิอิ

คุณKonhin...ชนกันแล้วค่า

คุณSukhumvit66...อ๊า อ๊า



วิรัตต์ยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ย. 2556, 09:41:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ย. 2556, 09:41:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1690





<< บทที่ 12   บทที่ 16 >>
Hibara 30 ก.ย. 2556, 10:25:19 น.
ยีนส์ฝาแฝดครอบครัวนี้นี่ยีนส์เด่นนะคะ อิอิ. เข้าใจถูกมั้ยน้อ


ตุ๊งแช่ 30 ก.ย. 2556, 11:05:06 น.
คุณน้าสา ชีจะแรงตลอดใช่ไหม เอิ่ม เริ่มสงกะสัยทั้งชือและบุคลิก เอาใครเป็นไอดอลขาาาาาา


sonakshi 30 ก.ย. 2556, 11:30:32 น.
ดูเหมือนว่ายัยคุณน้าจะต้องมีแผนแกล้งนางเอกแน่นอน


winbkin 30 ก.ย. 2556, 12:39:26 น.
แฝดพี่แฝดน้อง สวมรอยแทนกันชิมิ คำพูดฟังทะแม่งๆ เหมือนเป็นคนละคนเลย


ผักหวาน 30 ก.ย. 2556, 13:42:53 น.
มรรคทายกกับสาวชอบแบดบอย ท่าทางจะลงเอยกันด้วยดี


ดังปัณณ์ 30 ก.ย. 2556, 15:56:17 น.
แวะมาต๊ะคอมเม้นท์คร้าพี่แก้ววววววววววววววววววววว อยากอ่าน อยากอ่าน อยากอ่าน งึมงำๆๆๆ หนอนคืนชีพ


นักอ่านเหนียวหนึบ 30 ก.ย. 2556, 19:30:47 น.
โว๊ะ!!!! นายพายุ ช่วงนี้คงเป็นขาลงของนายสินะ มรรคทายกมาแรงขนาดนี้ จะแซงล้ำโค้งมั้ยน้าาา อิอิ ลุ้นๆๆๆ
เค้าขอฟันธงว่าพระเอกตอนนี้กับคนก่อนหน้าเป็นคนละคนกันชัวร์!!! 555


konhin 30 ก.ย. 2556, 19:51:45 น.
คุณพี่ที่ไปพักรักษาตัวให้คุณฝาแฝดมาทำหน้าที่แทนใช่มั้ยคะ ไม่ก็ลูกน้าสาที่เป็นคนเจ็บเอ้า แต่แหม น้าสาแอบเห็นแก่ตัวไปป่ะ คนเราความรักมันบังคับกันไม่ได้


ดังปัณณ์ 30 ก.ย. 2556, 20:57:07 น.
แง้วววววววววววววว ไม่เหมือนคนเดิมนี่แหละ ฮือๆๆๆ พี่แก้ววางยา กระซิกๆๆๆๆ งานนี้ถ้ามีแฝดพี่แฝดน้อง อิทั่นมัคนายกของหนูก็แห้วอ่ะสิค้า ว่าแต่เสี่ยขาเสี่ย ตอนแรกเกือบเกลียดเสี่ยแล้วอ่า ทำไมเสี่ยหลายใจ ตอนนี้ ต๊ะไว้ก่อน ถ้าเกิดเสี่ยไม่มีแฝดล่ะก็....หนูนุช ปล่อยเสี่ยให้แม่ชีเหอะ


nasa 30 ก.ย. 2556, 23:39:22 น.
รู้สึกว่าคนเขียนจะย้ำคำว่าอสูรราตรีแปลกๆ เหมือนไม่ได้พูดถึงเจ้าพ่อคนเดียวกัน เอ เค้าเป็นแฝดสลับหน้าที่กันรึเปล่า


Sukhumvit66 1 ต.ค. 2556, 12:15:04 น.
ต้องเป็นแฝดแน่ๆ อิชันฟันเฟิร์ม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account