หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทส่งท้าย



บทส่งท้าย

เธอไม่น่าหลงเชื่อข้อความลึกลับที่ส่งมาทางอีเมล์นั่นเลย

บอกว่าจะทำให้ความรักสมปรารถนา ผู้ชายที่แอบรักจะหันมา เพียงทำตามขั้นตอนที่แนะนำ... แค่อ่านก็ต้องรู้แล้วสิว่าเป็นข้อความขยะ พวกขายสินค้า โฆษณาชวนเชื่อ แต่นี่เธอกลับหลงเชื่อ หลงทำตาม ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ รู้ไปถึงไหน คงได้อายไปถึงนั่น

หญิงร่างอวบที่สวมเสื้อยืดสีสดกับกางเกงผ้าร่มขาสั้นสำหรับอยู่บ้าน ระบายความกระดากที่อัดแน่นอยู่ในใจลงกับผ้ากองใหญ่ในกะละมัง เธอลองแล้ว ลองปฏิบัติตามคำแนะนำ แล้วเป็นไง ผ่านไปเกือบอาทิตย์ ทุกอย่างก็ยังเป็นปกติ

การบอกเจ้านายว่าเธอจะลาออกไปเรียนต่อ ช่างเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลาเสียเหลือเกิน ในเมื่อเธอไม่มีแผนสำหรับปริญญาอีกใบเลยสักนิด แล้วจะทำอย่างไร หากเขาอนุมัติให้เธอไปเพื่อการศึกษาจริงๆ คนอย่างนั้นยิ่งเห็นเรื่องเรียนเป็นสำคัญอยู่ด้วย เธอต้องบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วแน่ๆ ที่บอกเขาไปอย่างนั้น

“พี่มุก!!!”

เสียงที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง เธอเงยหน้ามองอีกฝ่าย แต่เพราะไม่ได้ใส่แว่นทำให้ต้องหยีตาเพื่อให้เห็นชัดขึ้น

“เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกนะ”

“ไปไหน ไหนบอกว่าวันนี้จะอยู่ช่วยพี่ทำความสะอาดบ้าน”

“ไม่ว่างแล้ว นัดสาวไว้”

“สาวที่ไหน” เธอถามทันที ก่อนนึกขึ้นได้ “น้องฝึกงานที่เคยเล่าให้ฟังนะเหรอ”

“ใช่ สาวชวนไปขายงานที่ตลาดนัดศิลปะ ผมก็เลยจะไปช่วย” เขาตอบเสียงใส อย่างไม่ใยดีรัศมีหม่นหมองของพี่สาว มุกมาลาแอบทำหน้าเศร้า แต่สุดท้ายก็อวยพรออกไป

“โชคดีนะ ขอให้ขายดี ฝากอุดหนุนของที่น้องเขาขายด้วยก็แล้วกัน”

“ได้พี่ ผมไปแล้วนะ” เอ่ยจบ ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตลายทหารกับกางเกงยีนส์ขาดๆ ก็เดินผิวปากออกไป มุกมาลาได้แต่นั่งถอนหายใจ ช่วยไม่ได้เมื่อความห่อเหี่ยวจะจู่โจมเข้ามา

อย่างเธอคงไม่มีวาสนาจะสัมผัสความรู้สึกแบบนั้น เธออกหักมาจนชิน ก็ต้องอยู่คนเดียวให้ชิน อีกหน่อยถ้าน้องชายแต่งงานไป เธอก็คงไม่มีใครอีกแล้ว รีบฝึกตัวเองตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า ยังไงก็ควรยินดีที่เขามีความรักไม่ใช่มานั่งหดหู่ หญิงสาวพยายามให้กำลังใจตัวเอง ก่อนเช็ดมือที่เปียกน้ำกับกางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลงเปลี่ยนบรรยากาศ

‘โอ้ความรักที่ซ่อนในดวงจิต

ตามเฝ้าสะกิดให้เราระทมอุรา

วันคืนล่วงไป ใจยิ่งใฝ่หา

อยากพบและเห็นหน้า ทุกเวลาจนหมองไหม้…’

ฟังแล้วก็สะท้อนใจ เพลงที่เซฟไว้มีเป็นร้อย ทำไมต้องสุ่มเล่นเพลงนี้ด้วย ทำนองเนิบช้ากับคำร้องแสนเศร้ายิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของคนอกหัก ถ้าเธอฟังต่อไปคงได้ใช้น้ำตาซักผ้าเป็นแน่ หญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์มาหวังเปลี่ยนเพลง แต่เสียงใครคนหนึ่งกับดังขึ้น

“คุณมุกไม่ชอบฟังเพลงนี้เหรอครับ”

ทันทีที่ได้ยิน กิริยาที่ทำอยู่ถึงกับชะงักค้าง เหมือนหูฝาด แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ นิ่งอยู่นานก่อนค่อยๆ หันไป แม้จะตั้งสติได้แล้วแต่ก็ยังตกใจกับการปรากฏตัวของเขา

“คุณหนึ่ง!?! มาได้ยังไงคะเนี่ย”

“ขับรถมาครับ เจอท็อปที่หน้าบ้าน บอกว่าคุณซักผ้าอยู่ ผมเลยถือวิสาสะเข้ามา” เขาตอบอย่างเป็นทางการ แต่อาการประหม่า ขณะที่เธอลุกขึ้น ทั้งที่ยังมึนงงไม่หาย

“มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

“พอดีผม เออ... มีนัดแถวนี้ แล้วพอดีว่า เออ... คนที่ผมนัดเขา เออ...เลื่อนนัด ผมก็เลย เออ...” หลังจาก ‘เออ’ จนเหมือนเด็กเอ๋อ ชายหนุ่มแว่นหนาก็รู้สึกว่าตัวเองคงไม่เหมาะกับการโกหก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “คุณมุกไม่ชอบเพลง ‘ซ่อนรัก’ ของคุณสุเทพเหรอครับ”

“ซ่อนรัก? อ๋อ เพลงเมื่อกี้นี้เหรอคะ ก็...ชอบค่ะ แต่ว่า…”

“ผมมีอีกเพลงอยากให้คุณฟัง ของคุณสุเทพเหมือนกัน สักครู่นะครับ” เขาเอ่ยอย่างกระตือรือร้นโดยไม่รอให้เธอพูดจบ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาเพลงที่ต้องการ มุกมาลาคิดว่าเขาคงตื่นเต้นที่เจอคนคอเดียวกันเลยไม่ได้คิดอะไร ยืนฟังเสียงเครื่องเป่าทองเหลืองบรรเลงอินโทรอยู่เกือบ 20 วินาที คิ้วบางก็ขมวดเข้าหากันด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ถูกขับกล่อมออกมา

เนื้อหาในเพลงนี้.... นี่มัน...

‘ฉันเองก็รู้ ว่าเธอรักฉัน สายตาคู่นั้นคือหน้าต่างหัวใจ

ไม่คิดจำนัล ก็รู้กันได้ เพราะตาของเธอ เผลอบอกความนัย

ถึงแม้ว่าเธอ จะซ่อนจะเร้น ครั้งเดียวที่เห็น เหมือนเช่นอ่านหัวใจ

เสียงหัวใจเต้น ซ่อนเร้นไม่ได้ เพราะในหัวใจฉันก็เต้นเหมือนเธอ...”

เปิดถึงตรงนี้เขาก็กดหยุดชั่วคราว ก่อนดันแว่นตาให้รับกับสันจมูกแล้วจ้องมาที่เธอ

“คุณมุกชอบเพลงนี้ไหมครับ”

มุกมาลาไม่อาจหาคำตอบได้ในทันที เพราะไม่เข้าใจในเจตนาของเขา

“เพลงนี้ชื่อ ‘เธอก็รู้’... ผมคิดว่าคุณมุกจะรู้เสียอีก”

“คะ? คุณหนึ่งกำลังหมายถึงอะไรกันแน่”

“ท่อนต่อไปเขาร้องว่า...ใจเราตรงกันอย่างนี้ จงทอดไมตรีให้หายละเมอ...คุณมุกคิดว่าอย่างไรล่ะครับ”

เอากับเขาสิ นี่เขากำลังจะสื่ออะไรกันแน่ มาถามว่าเธอคิดอะไร ใจที่เข้าข้างตัวเองก็ต้องคิดว่าเขากำลังบอกรัก แต่ใจอีกฝ่ายก็เตือนเธออยู่ นั่นมันเป็นแค่ความคิดของเธอ มันจะเป็นจริงได้อย่างไร เธออาจละเมอเพ้อพกไปเองก็ได้

“เดี๋ยวก่อนนะคะ มุกก็มีเพลงอยากให้คุณหนึ่งฟังเหมือนกัน ฟังแล้วคุณหนึ่งช่วยบอกมุกนะคะ ว่าคุณหนึ่งคิดยังไง” เธอก้มหน้าหาเพลงในมือถือ ไม่นานก็ยื่นลำโพงไปจ่อหูอีกฝ่าย

‘เพียงคำเดียวที่ปรารถนา อยากฟังให้ชื่นอุรา ใจพะว้าพะวัง

นานเท่านานพี่คอยจะฟัง คำนี้คำเดียวที่หวัง จะฟังจากปากดวงใจ’

แค่นี้แล้วเธอก็นิ่งไป ความในใจถูกเปิดเผยออกไปมากจนกระดากที่จะสู้หน้า หากว่าเขามีใจ ช่วยพูดออกมาเถอะ ‘เพียงคำเดียว’ ที่เธอรอคอย

“ผมไม่ถนัดที่จะพูด...” เขาว่าสั้นๆ ท่าทางอึดอัดจนเธอใจเสีย หญิงสาวเกือบเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นอยู่แล้วเชียว ถ้าหากว่าบทเพลงใหม่ที่เขาก้มหน้าหาอยู่ครู่จะไม่ดังขึ้นมาเสียก่อน

“สุดที่รักเอย คำนี้ผมเพิ่งเคยจะเอ่ยกับคุณ โปรดได้เห็นใจการุณย์เพราะรักคุณท่วมท้นอุรา

สุดที่รักเอย คำนี้ผมเพิ่งเคยจะเอ่ยออกมา โปรดได้เห็นใจเมตตา รักคุณดอกหนาจึงกล้าเผยวจี...”

คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงของนักร้องต้นฉบับ แต่คนตรงหน้า ก็ยังเอื้อนเอ่ยบทเพลงนี้ออกมาเองด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน ไม่ใช่เพลง... แต่เสียงร้องของเขา หญิงสาวจึงไม่รู้จะตกตะลึงกับความหมาย หรือลูกคอของเขาก่อนดีกว่า

“คุณมุก อย่าจ้องผมอย่างนั้นสิครับ ผม...” เขาเกาหัว ทั้งหน้าทั้งหูแดงก่ำ เธอนิ่งงันอยู่ครู่ ก่อนจะรีบร้อนเอ่ย

“คุณหนึ่งรอมุกเดี๋ยวเดียวนะคะ เดี๋ยวมุกมา” เธอว่าแล้ววิ่งหายเข้าไปในบ้าน อึดใจเดียวดังว่าจริงๆ เธอก็กลับมาพร้อมกับแว่นตาที่อยู่บนดั้ง

“คุณหนึ่งร้องเพลงเมื่อกี้... ให้มุกเหรอคะ”

ชายหนุ่มยิ้มเขินอาย ก่อนจะตอบ “เผื่อคุณไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร...” เขาโน้มหน้ามาใกล้เพื่อให้เธอได้ยินชัดๆ “สุดที่รักนะครับ”

หญิงสาวซ่อนยิ้มต่อไปไม่ได้อีกแล้ว หัวใจพองโตราวกับลูกโป่งที่อัดลมเต็มเปี่ยม พร้อมจะล่องลอยขึ้นฟ้า แต่ว่าเพื่อความมั่นใจ เธอจึงถาม

“คุณหนึ่งไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมคะ.... มุกไม่ได้กำลังฝันอยู่ใช่ไหม”

“ถ้าคุณไม่แน่ใจ ผมควรทำอะไรที่มากกว่านี้ไหมครับ เช่น...เอิ่ม...หอมแก้ม หรือว่าจุมพิตที่มือ ผมไม่เคยบอกรักใคร เลยไม่รู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้ต้องทำยังไง”

“แค่นี้ก็พอค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว...แต่พอบอกได้ไหมคะ ตั้งแต่เมื่อไร ที่คุณ...รู้สึก”

“ก็...อาจจะตั้งนานแล้ว แต่พอคุณมุกบอกว่าจะลาออก ผมก็เลย... ตอนแรกก็แค่ใจหาย แต่เมื่อคิดว่าจะไม่มีคุณอยู่ใกล้ๆ ผมก็เริ่มทนไม่ได้ ผม...”

“พอแล้วค่ะ พอแค่นี้ก่อน มุก...ใจเต้นแรงมาก เหมือนจะระเบิดได้ ขอมุกทำใจหน่อยนะคะ”

“ได้ครับ ถ้ายังไง ทำใจได้แล้ว ช่วยโทรมาบอกผมด้วยนะครับ ผมก็ขอไป...เอิ่ม ข้างนอกสักครู่” เขาบอกด้วยเสียงติดขัดเพราะความเก้อเขินที่มีอยู่มาก มุกมาลาเข้าใจดี เธอจึงพยักหน้า

“โอเคค่ะ”

แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายไปหามุมสงบของตัวเอง ทำเอาคนที่แอบดูอยู่ที่ช่องประตูได้แต่ถอนหายใจ

คิดว่าต้องเปิดเพลงเก่าให้หมดกรุก่อนถึงจะเข้าใจกัน อุตส่าห์ลุ้นตั้งนาน แทนที่จะกอดกันสักหน่อย กลับเป็นอย่างนี้ไปซะได้ ชายหนุ่มมาดเซอร์ส่ายหน้า ก่อนจะค่อยๆ ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

ยังไงก็ต้องถือว่าแผนนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี



“จริงเหรอ... ดีจังเลยนะ เข้าใจกันแล้ว... ไม่เป็นไรจ๊ะ ไม่เป็นไร พี่เต็มใจ ไว้คราวหน้าถึงตาท็อปบ้างนะ… มีเตรียมไว้แล้วเหมือนกัน รับรองถูกใจแน่ๆ.... จ้า... ขอบใจนะจ๊ะ... บ๊ายบาย”

วางหูไปแล้วแต่รอยยิ้มยังประดับอยู่ทั่วไปหน้ารูปหัวใจ คนที่มองเห็นอยู่ไกลๆ เลยต้องปรี่มาใกล้ แล้วถามเสียงเข้มทันที

“คุยกับใคร”

เหนือฟ้าเงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า ชายหนุ่มที่อุ้มลูกของเธออยู่กำลังจ้องหน้าเธอเขม็ง ตอนแรกก็กะจะเล่าข่าวดีที่ทำนุทัพเพิ่งโทรมาบอกหรอกนะ แต่พอนึกได้ว่าเมื่อคืนเขากลับบ้านเกือบตีสอง แม้จะเป็นเหตุผลที่ยืนยันได้ว่าไปกินเลี้ยงกับลูกค้า แต่เธอคิดว่าก็ควรมีบทลงโทษสักหน่อย

“พี่หนึ่งจำคุณคิมได้ไหม... เขาโทรมาชวนรุ้งออกไปทานข้าว ทำยังไงดีละ รุ้งอยากไปกับเขาเสียด้วยสิ” เธอตอบเสียงยั่ว รอดูปฏิกิริยาเขาจะทำอย่างไร แต่เขากลับตอบอย่างไม่เสียเวลาคิด ทำเอาคนที่คิดว่าตัวเองเป็นต่อถึงกับอ้าปากค้าง

“ก็ไปสิ”

นี่หรือ ที่เคยบอกว่ารักว่าห่วง ใช่สิ... เธอมันแก่แล้วนี่ อ้วนด้วย เขาเลยเลิกหวงหากเธอจะไปไหนกับใคร

“ก็ดี งั้นรุ้งไปแต่งตัวก่อนนะ” เธอว่าแล้วลุกหนี ซึ่งสามีก็ยังไม่ง้อ ปล่อยให้เธอเดินตะบึงตะบอนขึ้นบันไดไป ทั้งที่ไม่รู้จะออกไปไหน แต่เธอก็บรรจงแต่งตัวให้สวยที่สุด... มาถึงขนาดนี้จะหันหลังกลับไปบอกว่าไม่ไปแล้ว ก็เสียฟอร์มแย่ ดังนั้นคุณแม่มือใหม่จึงกลับลงมาอีกครั้งในเดรสสั้นสีดำมันเลื่อมเว้าลึกที่ด้านหลัง ลองดูสิว่าคุณพ่อจะทำหน้าอย่างไร แต่แล้วก็เป็นเธอที่ต้องประหลาดใจเมื่อไม่เห็นใครเลยในห้องเลี้ยงเด็ก

ทำกันอย่างนี้มันเกินไปแล้ว เหนือฟ้าคิดก่อนกระแทกส้นเท้าไปที่ประตู ตั้งใจจะตรงไปยังรถที่จอดอยู่ในโรงเก็บใกล้ๆ แต่แล้วก็ต้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อใครบางคนฉวยเข้าที่ข้อมือแล้วกึ่งลากกึ่งดึงให้ไปด้วยกัน

“พี่หนึ่ง!!! จะทำอะไรเนี่ย”

ไม่มีเสียงตอบจากร่างสูงในเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีน้ำตาลที่ไม่รู้ไปเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อไร พอเธอแกล้งสะดีดสะดิ้งไม่พอใจ เขาก็ช้อนตัวเธอขึ้นไว้ในอ้อมแขน พอถึงรถก็สั่งเสียงดุ

“เปิดประตู”

“ไม่ พี่หนึ่งจะทำอะไร ไหนบอกว่ารุ้งจะไปไหนก็ไป แล้วมาทำอย่างนี้ทำไม”

“เปิดประตู” เขาสั่งคำเดิม เหนือฟ้าฮึดฮัดขัดใจ แต่สุดท้ายก็ถามใหม่

“ไม่ บอกมาก่อนว่าจะเอายังไง วันนี้จะมาไม้ไหน รุ้งจะได้รับมือถูก”

“ถามพี่เหรอ... ขนาดนี้แล้ว พิศาลกำกับก็แล้วกัน ไม่เปิดมีจูบ”

“บ้า สโลแกนเขาต้องตบจูบต่างหาก” เธอว่า แต่ในใจกำลังวางแผนที่จะขัดขืนอีกสักหน่อย เพื่อให้สมใจผู้กำกับ แต่เขากลับเอ่ยเสียงสั่น

“เอาเถอะรุ้ง จะเปิดก่อน หรือตบก่อน ก็รีบๆ ทำสักอย่างเถอะ แขนพี่ล้าไปหมดแล้ว อุ้มลูกมาทั้งวัน ถ้ารุ้งไม่เปิดพี่จะปล่อยแล้วนะ”

แล้วเขาก็ทำตามอย่างที่พูด ปล่อยเธอให้ลงมามองค้อนไปสองวงใหญ่ เขาเหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร จึงรีบเอ่ย “รุ้งไม่ได้ตัวหนักหรอก แต่พี่อ่อนแอเอง อย่างอนนะคะคนดี ขึ้นรถกันดีกว่า เดี๋ยวพี่จะพาไปทานข้าวที่บางปู”

“ทำไมต้องบางปู”

“ก็รุ้งแต่งตัวแบบนี้ พี่ก็คิดว่าอยากไปเต้นลีลาศ” ทันทีที่เอ่ยจบ คราวนี้ไม่ได้ค้อนด้วยหน้า แต่เป็นกำปั้นที่ทุบลงมา ชินชนะไม่เสียเวลารีบจับมือทั้งสองข้างที่ประทุษร้ายเขาไพล่ไปด้านหลัง ก่อนจะดันตัวเธอให้เข้ามาหา

“เลิกใช้มุกคุณคิมได้แล้วนะ พี่รู้ตั้งนานแล้วว่าคือขิม แล้วก็อย่าคิดว่าพี่ไม่หึงอีก เพราะพี่ขี้หึงมาก” เขาลากเสียงเข้มก่อนประกบริมฝีปากร้อนแรงให้สมมาดพระเอกซาดิสต์ แต่กลัวว่าใครจะออกมาเห็นเลยถอนจุมพิตออกอย่างรวดเร็ว

“ค่อยต่อกันคืนนี้ดีกว่า” เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไปกินข้าวกันดีกว่า พี่หิวแล้ว”

“อ้าว แล้วตาหนูล่ะคะ ไม่พาไปด้วยเหรอ”

“ตาหนูต้องเข้าใจ พ่อแม่ก็ต้องมีเวลากุ๊กกิ๊กกันบ้าง ไม่อย่างนั้นจะหาน้องมาให้ได้ยังไง แล้วที่สำคัญ อยู่กันทั้งย่าทั้งยาย เราต่างหากจะแทรกเข้าไปไม่ได้ ไปเถอะ ไปบางปูกัน” เขาเอ่ยแล้วเปิดประตูให้ เหนือฟ้าเลยให้รางวัลด้วยการจุ๊บแก้มเบาๆ ไปหนึ่งที... หลังจากนั้นไม่นาน รถก็ทะยานออกไปข้างหน้า

โดยไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ แต่พวกเขาก็พร้อมตั้งนานแล้วสำหรับเส้นทางนี้



--------------------จบบริบูรณ์--------------------------


ติดตามข่าวสารได้จากทางเฟสบุ๊ค ปลายสี นะ นะคะ

ไว้มีโอกาสคงได้พบกันอีก ขอบคุณมากสำหรับการติดตามค้าาา


กราบงามๆ หนึ่งที ขอให้มีความสุขกับการอ่านค้าา



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ต.ค. 2556, 00:30:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ต.ค. 2556, 00:30:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1916





<< บทที่ สามสิบห้า : รุ้งงาม (ลบ)   
ปลายสี 7 ต.ค. 2556, 00:52:03 น.
ตอบคอมเม้นท์ค้าาา

พี่แตงกวา : ขอบคุณมากนะคะสำหรับการติดตามและให้กำลังใจกันมาตลอด หวังว่าจะมีเป็นเล่มให้ครอบครองนะคะ ><

คุณ ree : ขอบคุณมากค้าาา

คุณ ใบบัวน่ารัก : พี่หนึ่งใจร้อนไปหน่อยค้าา 5555

คุณ sukhumvitt66 : บ้านที่มีเด็กน้อยบรรยากาศสดใสจริงๆ เลยนะคะ ^^

คุณ ปริยาธร : ขอบคุณมากค้า

คุณ Ohlala : กระโดดขาคู่ข้ามไปหลายเดือนเลยค้าา ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

คุณ เดิมเดิม : ขอบคุณเหมือนกันที่ติดตาม+คอมเม้นท์ให้กำลังใจกันนะคะ

คุณ ดังปัณณ์ : ขอโทษจริงนะคะช่วงนี้ไม่ได้เข้าไปอ่านนิยายเลย ไม่ว่างงงงงจริงๆ เดี๋ยวประมาณอาทิตย์นี้น่าจะมีเวลา ได้ติดตามกันต่อไปนะคะ ขอบคุณมากๆ คะที่เป็นกำลังใจให้กันมาอย่างยาวนาน อิอิ

คุณ Pat : คนอ่านมีความสุขคนแต่งก็ดีใจค่ะ

คุณ ภาวิน : หวานได้แค่นี้เองค่ะ 555555

คุณ glodensun : ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามกัน ^^


บทส่งท้ายของจริง เจอกันใหม่โอกาสหน้า ถ้าหากว่าถ้ามีโอกาส ได้เห็นนามปากกา ปลายสีอีกเมื่อไร อย่าลืมตามมาเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมนะคะ


ปลายสีรักทุกคนค่ะ 555555 จุ๊บ


ree 7 ต.ค. 2556, 01:19:56 น.
โดนบอกรักตอนนั่งซักผ้าเนี่ย ฮากระจายเลย แถมแว่นก็ไม่ได้ใส่อีกต่างหาก


OhLaLa 7 ต.ค. 2556, 01:19:57 น.
แจ๋วหลบ จบแล้ว แอบใจหายนะคะ จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ ไฟท์ติ้ง!!!


ใบบัวน่ารัก 7 ต.ค. 2556, 07:28:36 น.
รักก็บอกไป
เล่นต่อเพลง โอ้ยคลาสสิกมากกก
อีกคู่ รักมากหึงมาก มีลูกตั้งทีมฟุตบอลไหม


ภาวิน 7 ต.ค. 2556, 08:21:43 น.
จบได้น่ารักดี


ปริยาธร 7 ต.ค. 2556, 08:23:52 น.
เข้ามากดให้หนึ่งไลค์ค่า รอเรื่องต่อไปนะคะ


Pat 7 ต.ค. 2556, 09:49:05 น.
บอกรักด้วยภาษาเพลง (เก่า) น่ารักน่าเขินแทนเลย คู่พี่หนึ่งก็ไม่น้อยหน้ากันสักนิด จบได้น่ารักมากค่ะ


ดังปัณณ์ 7 ต.ค. 2556, 09:53:21 น.
555+ เพลงในนั้นน่ะ เพลงในนั้น ชื่อนี้ป่าว เพียงคำเดียว แหมๆๆๆๆ หนูมุกนี่ 555+ คุณหนึ่งนี่ก็นะ แต่คู่เอกเรานี่แหมมมมมมมมม หวานซ้าาาาาา น้ำตาลพุ่งปรู๊ดๆๆๆๆเลย รอต่อนะคะคุณปลายวี มะไหร่เรื่องหใม่จะมา

อะแหะ ขอบคุณที่คิดถึงกัน จุ๊บๆๆๆ


Sukhumvit66 7 ต.ค. 2556, 10:30:50 น.
เย้ เย้ เหมือนวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน



งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานหน้าพบกันใหม่ ฮิ้วววว


นักอ่านเหนียวหนึบ 7 ต.ค. 2556, 14:16:01 น.
ดีมจกับไรเตอร์ด้วยค่า ที่พาทุกคนฝ่าฝันมาจนจบได้อย่างสวยงาม เสียดายยอย่างเดียว ไม่ได้ไปมุดมุ้งหนูรุ้งกะพี่หนึ่งเบยยย อิอิ


พันธุ์แตงกวา 7 ต.ค. 2556, 16:49:33 น.
ปลื้มปริ่มดีใจกับคุณมุกจังเลย เย้ๆๆ
ปูเสื่อรอเรื่องต่อไปด้วยใจจดจ่อ^^


goldensun 7 ต.ค. 2556, 19:04:22 น.
กว่าคุณหนึ่งจะตามมาบอกรัก เล่นเอาบทส่งท้ายเลยนะคะ ทำเอามุกเกือบถอดใจไปแล้ว บอกรักด้วยเพลง แถมเขินเก่งกันทั้งคู่ แล้วเมื่อไหร่จะได้แต่งคะ
ส่วนรุ้งกับพี่หนึ่ง ขี้งอนกับขี้หึง ลูกดกแน่ ขอบคุณค่ะ อ่านไปยิ้มไป น่ารักจัง รอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account