ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๗ (ครึ่งแรก)

หลังการประชุมที่กินเวลาเกือบสามชั่วโมงจบลง พรนางฟ้าก็บอกลาลูกค้าแล้วสะพายกระเป๋าคอมพิวเตอร์ขึ้นบ่า จากนั้นจึงเรียกลิฟต์ลงมายังด้านล่างสุดของอาคารสำนักงานด้วยความเคยชิน กลิ่นแรกที่โชยมาเตะจมูกทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็คือกาแฟ!

หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาเห็นว่าเลยเวลาพักเที่ยงมาโขแล้ว จึงตัดสินใจเข้าไปสั่งกาแฟและหาที่นั่งพักก่อนกลับออฟฟิศ โลโก้ที่ติดอยู่บนแก้วพลาสติกใสทำให้เธอนึกถึงใครบางคนขึ้นมา ใคร…คนที่เคยโอดกาเหว่าที่เธอไม่เลี้ยงกาแฟยี่ห้อหรูไปกว่ากาแฟอาโกที่ตลาดนัดจตุจักร!

มือไวเท่าความคิด พรนางฟ้าหยิบโทรศัพท์มือถือมากดเรียกเลขหมายของใครคนที่ว่าทันที “ฉันเองนะ” เธอไม่ทักทายดื้อๆ ด้วยมั่นใจว่าชื่อของตัวเองต้องแสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่ายแน่นอน

“มีอะไรให้รับใช้ขอรับคุณนาย” คิรินทร์ทำเสียงนอบน้อมเกินเหตุ

พรนางฟ้ากลั้นยิ้มแทบแย่เมื่อรู้ว่าถูกประชด “ฉันติดเลี้ยงกาแฟคุณอยู่แก้วนึง ตอนนี้ฉันอยู่ที่... ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่มาแวะส่งคุณบ่อยๆน่ะ มาไหม ฉันเลี้ยงกาแฟคุณเอง” พรนางฟ้าระบุชื่อร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และชวนด้วยการเอาของกินมาล่อ

หลังจากวางสายหญิงสาวก็มองโทรศัพท์ด้วยอาการฉงน เป็นครั้งแรกที่หยุดถามตัวเองว่าเธอนึกถึงผู้ชายคนนี้บ่อยเกินไปหรือเปล่า บางทีนี่อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่เธอควรระวังหัวใจตัวเองก็เป็นได้!

ไม่รู้ว่าจิตรกรหนุ่มใจง่ายจริงๆ หรือเขากำลังอยากจะเปลี่ยนอิริยาบถอยู่พอดี พรนางฟ้าจึงพบว่าไม่ถึงสิบนาทีถัดมา เขาก็โผล่มาสมทบกับเธอที่จุดนัดหมาย

เจ้ามือส่งบัตรพลาสติกให้เขาอย่างกระตือรือร้น “คุณไปซื้อกาแฟก่อนสิ เอาบัตรสมาชิกของฉันไป เดี๋ยวพนักงานหักเงินจากบัตรฉันอัตโนมัติเองแหละ”

ชายหนุ่มทำท่าจะปฏิเสธในชั้นแรก แต่สุดท้ายก็รับบัตรไปอย่างว่าง่าย คิรินทร์สั่งกาแฟและขนมอบสองชิ้น แต่แทนที่จะส่งบัตรในมือให้แคชเชียร์ เขากลับมองซ้ายขวาให้มั่นใจว่าพรนางฟ้าไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วดึงธนบัตรจากกระเป๋าสตางค์ตนเองชำระค่าอาหาร

เมื่อกลับมาที่โต๊ะพร้อมกาแฟ เห็นหญิงสาวหยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นมากางและเริ่มต้นทำงาน ความหงุดหงิดขัดใจก็แล่นขึ้นทันที จนเผลอกระแทกถาดใส่เครื่องดื่มลงบนโต๊ะแรงกว่าปกติเล็กน้อย “อะไรเนี่ย ชวนผมมานั่งดูคุณทำงานเหรอ” น้ำเสียงเขากร้าวนิดๆ

พรนางฟ้าตวัดสายตาส่งยิ้มมาให้เขาจากด้านหลังของจอคอมพิวเตอร์ คำพูดที่เปล่งออกมามีแววงอนง้อนิดๆโดยไม่รู้ตัว “ขอทำนิดเดียวเองน่า เมื่อกี้เพิ่งประชุมมา ฉันกลัวลืม”

คิรินทร์วางแก้วกาแฟร้อนและจานขนมเรียบร้อยแล้ว จึงเอื้อมมือไปงับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเธอปิดลงอย่างถือวิสาสะ “คนความจำดีอย่างคุณไม่ลืมง่ายๆหรอก นี่มันเวลาพัก หาอะไรทำให้สมกับที่เป็นช่วงพักดีกว่า” เขาว่าพลางหันไปมองรอบกาย จนสะดุดตากับชั้นวางหนังสือไม่ไกลนัก

“เดี๋ยวผมมา” คิรินทร์ลุกขึ้นไปหยิบสมุดขนาดเท่าหนังสือพิมพ์ฉบับเล็ก หน้าปกวาดการ์ตูนที่มีแจกฟรีสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการมาส่งให้หญิงสาว “เล่นเกมกันเถอะ”

พรนางฟ้ากอดอกนิ่ง ทั้งฉุนทั้งฉิวที่ผู้ชายคนนี้บังอาจมาวุ่นวายเจ้ากี้เจ้าการกับเธอ แต่เมื่อเห็นสีหน้าภูมิใจนำเสนอของคิรินทร์ ก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่าเขาเอาหนังสืออะไรมาบอกว่า ‘เหมาะกับช่วงพัก’

เธอสอดคอมพิวเตอร์เก็บใส่กระเป๋า แล้วเปิดนิตยสารเล่มบางตรงหน้าช้าๆ ทำให้เห็นว่ามันเป็นสมุดภาพสำหรับเด็กเล็ก มีทั้งเกมนับตัวเลข เติมคำศัพท์ในช่องว่าง หรือแม้กระทั่งการระบายสี ติดสติ๊กเกอร์ ดวงตากลมโตตวัดมองอีกฝ่ายผ่านแว่นตากลมใหญ่อย่างเคืองๆ “สมุดวาดภาพของเด็กเล่นเนี่ยนะ”

คิรินทร์ไม่ตอบ แต่พลิกหาหน้าการ์ตูนที่เป็นภาพจิ๊กซอว์ มีบางช่องแหว่งหายไป แล้วอุทานมีชัย “นี่ไง...เกมตัวต่อละกัน” เขาเปิดหาแผ่นสติ๊กเกอร์และดึงรูปลอกที่เป็นตัวต่อการ์ตูนออกมาส่งให้ ‘ผู้อำนวยการสาว’ ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ด้วยความคล่องแคล่วคุ้นเคย “อ้ะ...ผมให้คุณแปะคนแรก”

พรนางฟ้าเหลือบตามองอย่างปั้นปึ่ง แต่ก็ช้ากว่าคนยิ้มหน้าเป็นที่เอาสติ๊กเกอร์ด้านกาวเหนียวมาแหมะบนหลังมือเธอ หญิงสาววางท่าไม่เต็มใจ จำต้องดึงรูปลอกไปติดในสมุดตรงช่องที่ว่างเปล่า ทว่าเพราะความเป็นสตรีทำให้พิถีพิถันจัดวางตำแหน่งของรูปให้รอยต่อสนิทแนบกับภาพเดิมที่มีอยู่อย่างอดไม่ได้ เวลาหลายวินาทีที่ตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับงานฝีมือ เป็นเหตุให้หญิงสาวค่อย...ผ่อนคลาย เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด สติ๊กเกอร์แผ่นใหม่ก็ถูกส่งมาแปะที่มือ

“เก่งนี่ รอยต่อของรูปเดิมกับที่คุณติดลงไปเนียนกริ๊บเลย เอ้า! ผมให้อีกรูป”

ท่าทีของพรนางฟ้าละมุนละไมยิ่งขึ้น เธอประณีตแปะภาพ โดยมีผู้ชายอีกคนคอยส่งสติ๊กเกอร์ให้ไม่ขาด เพียงชั่วครู่ เกมลับสมองของเด็กวัยไม่เกินห้าขวบก็สำเร็จด้วยฝีมือมหาบัณฑิตจากต่างประเทศ! พรนางฟ้าเลื่อนสมุดไปอวดคนตรงข้ามด้วยความภูมิใจ ยอตัวเองเต็มปากเต็มคำ “ฉันเคยนึกว่าตัวเองไม่มีฝีมือทางศิลปะเสียอีก เพิ่งรู้วันนี้เองว่าเข้าใจผิดมาโดยตลอดนะเนี่ย”

คิรินทร์อยากหัวเราะเป็นภาษาต่างดาวนัก! แค่ติดสติ๊กเกอร์แนบเนียน ผู้หญิงคนนี้ยกตัวเองเป็นคนมีฝีมือทางศิลปะเลยเหรอเนี่ย แต่เขาก็ได้แค่คิด เพราะพรนางฟ้ากำลังอารมณ์ดี ไม่ควรกวนน้ำให้ขุ่นเด็ดขาด ชายหนุ่มรีบพลิกไปหน้าอื่นให้เธอเล่นเกมต่อ แม้จะเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ แต่หัวจิตหัวใจของเด็กน้อยที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวคนทุกคนก็ดูพร้อมจะออกมาเต้นเร่าแสดงตัวตนทุกคราวที่เผลออยู่เสมอ

จากที่เหนียมอายและรู้สึกว่ามันไม่ประเทืองปัญญาที่ทำอะไรแบบนี้ พรนางฟ้าก็กลับเพลิดเพลินกับการย้อนวัยคืนไปเป็นเด็กหญิงเล็กๆอย่างสนุกสนาน และยิ่งถูกใจยิ่งขึ้นเมื่อคนตรงข้ามเล่นสนุกไปกับเธอโดยไม่มีวี่แววตำหนิสักนิด

เมื่อเห็นคิรินทร์รื้อกล่องสีไม้ออกมาเพื่อเตรียมระบายสี พรนางฟ้าจึงแบมือไปตรงหน้าทันควัน “ขอบ้างสิ ฉันอยากระบายสี”

คนใจกว้างเลื่อนกล่องไปตรงหน้าหญิงสาวเหมือนเด็กแบ่งของเล่นให้เพื่อนสนิท แล้วเขาก็ก้มลงไปสนใจกับการระบายสีตัวการ์ตูนในสมุดของตนเองบ้าง

พรนางฟ้ายื่นหน้าไปดูภาพที่มีสีเปื้อนอยู่เป็นแห่งๆตามรอยขอบของเส้นถูกเว้นไว้แล้วกระหยิ่ม “คุณระบายห่วยมาก ไม่เห็นชิดขอบเลย สีก็ขาดๆเกินๆ นี่น่ะเหรอจิตรกร สู้ฉันก็ไม่ได้ เดี๋ยวคอยดูนะ รับรองว่าฉันต้องทำสวยกว่าคุณแน่ๆ”แล้วคน ‘เก่งกว่าจิตรกร’ ก็ขะมักเขม้นลงสีภาพการ์ตูนของตัวเองอย่างตั้งใจ

คิรินทร์ทิ้งเวลาคอยชั่วครู่แล้วจึงวางมือ เขาทอดสายตามองผู้หญิงเก่งที่กำลังก้มหน้าก้มตาฝนสีลงบนกระดาษด้วยความเอ็นดู ถ้อยคำของรังสฤษฏ์ดังสะท้อนในใจ และนั่นทำให้เขาต้องถามตัวเองอย่างจริงจังว่า

รู้สึกกับผู้หญิงคนนี้มากกว่าแค่ความเป็นเพื่อนธรรมดาจริงหรือ...

เส้นผมสีดำสนิทที่หล่นลงมาปรกหน้าตาทำให้เขาแทบไม่เห็นหน้าเธอเลย ชายหนุ่มลืมกระทั่งหยุดชั่งใจแม้สักเสี้ยววินาที เขาเอื้อมมือไปจับผมทัดหูให้เธออย่างเผลอไผล รอยยิ้มนุ่มนวลแต้มบนใบหน้าเมื่อเธอเงยขึ้นเลิกคิ้วนิดๆ มองเขาด้วยสายตาบอกความฉงน

“ผมกลัวคุณจะตาเหล่น่ะ” น้ำเสียงห้าวอุบอิบแก้ตัว รีบเสหยิบดินสอสีมาถือแก้เก้อ

เมื่อหญิงสาวก้มลงสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้ง คิรินทร์จึงผ่อนลมหายใจ ส่ายหน้าระอาตัวเอง ท่าจะเป็นเอามากแฮะเรา!

เมื่อพรนางฟ้าส่งภาพที่ระบายสีแล้วมาอวดเขาอย่างภูมิใจ คิรินทร์จึงสบโอกาสสลัดความรู้สึกแปลกๆออกจากใจ เขารีบหาเรื่องใหม่แหย่เธอโดยใช้นิ้วปาดหยดน้ำจากข้างแก้วกาแฟเย็นมาลูบลงบนภาพระบายสีของตน จากนั้นใช้ทิชชูซับน้ำส่วนเกิน เพียงเท่านี้ผลงานของเขาก็กลายเป็นภาพสีน้ำแบบง่ายๆที่งดงามแล้ว

คนมองตาโต “เฮ้ย! ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ไหน! ขอฉันลองบ้าง”

พรนางฟ้าทำตามกรรมวิธีที่มีคนสาธิตให้ดูเมื่อครู่ ทว่าภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็เป็นเหตุให้หญิงสาวแทบกรี๊ด “ตายแล้ว! ทำไมสีมันเปื้อนปนกันหมดอย่างนี้ล่ะ โธ่! เลอะหมดเลย”

“เวลาระบายสี คุณต้องเว้นที่ให้มันบ้างสิ เล่นลงสีชิดขอบเส้นทั้งหมด พอโดนน้ำ เม็ดสีมันก็แตกตัวขึ้นมาตีกันแย่น่ะสิ” ผู้รู้จริงอธิบาย

เธอเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเหตุใดตอนอีกฝ่ายระบายสี เขาจึงเว้นช่วงขอบไว้ให้เธอเย้ยเยาะ นี่กระมังที่โบราณว่า ‘หัวเราะทีหลังดังกว่า’

“คุณอุบไต๋ไว้ไม่ยอมบอกฉันนี่นา แย่ที่สุด” พรนางฟ้าหน้าบูด มองภาพ‘เละๆ’ ของตัวเองสลับกับผลงาน ‘สวยๆ’ ของคิรินทร์ด้วยความไม่พอใจ เธอนิ่งคิดนิดเดียวก่อนจะคว้ารูปของตนสลับกับสมุดการ์ตูนของชายหนุ่ม “คุณเจตนาแกล้งฉันให้ระบายสีไม่สวย เพราะฉะนั้นคุณต้องเอา ‘หลักฐานความไม่สมบูรณ์แบบ’ ชิ้นนี้ไปทำลายซะ ทุกสิ่งที่ฉันทำต้องได้ผลลัพธ์เป็นความเพอร์เฟ็กต์อย่างเดียวเท่านั้น ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่าคนเก่งอย่างฉันไม่มีปัญญาระบายสีรูปสวยๆน่ะ เข้าใจไหม”

คิรินทร์หัวเราะก้อง “แต่ไอ้ที่อยู่ในมือคุณมันเป็นฝีมือของผมนะ คุณจะเอาไปทำอะไร”

ดวงหน้าเคร่งขรึมเป็นนิจเบื้องหลังแว่นสายตาส่ายนิดๆ ขณะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า “นี่มันผลงานของฉันต่างหากล่ะ” จบคำ พรนางฟ้าก็หยิบดินสอสีดำมาลงชื่อที่มุมด้านหนึ่งของภาพ “เห็นไหม...ลายเซ็นของฉันชัดๆอย่างนี้ จะเป็นผลงานของคุณได้ยังไง” คนพูดยิ้มมีชัย

เจ้าของผลงานตัวจริงอ้าปากค้าง “คุณทำอะไรเฉโกแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย!”

“มากกว่านี้ก็ทำได้ย่ะ” พรนางฟ้าลอยหน้าล้อเลียน และสะใจยิ่งขึ้นเมื่อชายหนุ่มทำท่าถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างสิ้นท่า

“เวลาต้องการอะไร คุณต้องทำให้ได้ตามนั้นทุกครั้งใช่ไหมฮึ”

“รู้ได้ยังไงน่ะ เก่งนะเนี่ย!” คำพูดเหมือนชม แต่...น้ำเสียงบอกชัดว่าล้อเลียน

คิรินทร์หน้าคว่ำ พลางมือเรียวคล้ามก็ดึงสมุดอันมีภาพระบายสีสุดห่วยของหญิงสาวไปถือไว้เองอย่างงอนๆ เป็นผลให้คนมองยิ่งหัวเราะขันด้วยความพอใจ


/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /

ปล่อยซีนน่ารักๆออกมาให้คนอ่านตายใจกันก่อน

อีกไม่กี่ตอน จะเจอจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องแล้วนะคะ

ช่วงนี้...เก็บเกี่ยวความน่ารักของคุณพี่คิรินทร์ไว้เยอะๆกันเถิดหมู่เฮา อิอิ



อ้อ...ใครอยากได้หนังสือชุด ความลับของผีเสื้อ แบบยกชุด

ตามไปเล่นเกมที่เพจ บ.ก.ดวงกมล ได้เลยค่ะ

search ชื่อ บ.ก.ดวงกมล โลด

แจกแบบยกชุดทั้ง 3 เล่มเลยนะเออ ขอบอกกกกกก



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ต.ค. 2556, 06:13:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ต.ค. 2556, 06:13:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1383





<< ตอนที่ ๑๖ (จบตอน)   ตอนที่ ๑๗ (จบตอน) >>
wind 8 ต.ค. 2556, 06:40:40 น.
นางเอกนิสัยเหมือนเกรซเลย น่าเป็นห่วง


lovemuay 8 ต.ค. 2556, 07:17:11 น.
ดูเผินๆอยู่น่ารักดี แต่ถ้าสังเกตดีๆ แบบนี้ก็ไม่ต่างจากที่เกรซเคยทำเลย จริงมั๊ย?


OhLaLa 8 ต.ค. 2556, 09:08:37 น.
แพนเริ่มเปลี่ยนไปแบบที่เธอเคยไม่ชอบโดยไม่รู้ตัว


ketza 8 ต.ค. 2556, 09:11:25 น.
คุณสิริณขา ผีเสื้ออีกสองสีเค้า "ชะลั๊นลาลาล่า" กันไปแว้ว เหลือสีเพลิงแล้วนะคะ 5555....ฟิ้ววววว.....


Sukhumvit66 8 ต.ค. 2556, 10:37:37 น.
น่ารักจริง ๆ ด้วยละ


จิรารัตน์ 8 ต.ค. 2556, 11:24:13 น.
แอร๊ยยยยยยยย คุณนางเอกทำมั๊ย ทำไมนิสัยคล้ายเกรซล่ะ เซ็นต์ชื่อตัวเองเฉยอ่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 8 ต.ค. 2556, 12:54:08 น.
อร๊ายยยย แอบร้ายนิดๆ น่ารักหน่อยๆ
ว่าแล้วก็รีบไป เพจ บ.ก. ดวงกมล ฟิ้ววว


ree 8 ต.ค. 2556, 13:39:17 น.
หวังว่าจะทำอย่างงี้กับคิรินทร์คนเดียว
ประมาณว่าสนิทกันจริง


พันธุ์แตงกวา 8 ต.ค. 2556, 16:40:04 น.
อ้าย! จะมีจุดเปลี่ยนอะไรคะลุ้นๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account