คืนรักร้อนซ่อนเสน่หา
บทนำ
คืนที่อากาศเย็นฉ่ำ และฝนกำลังตกลงมาปรอยๆ คนที่กำลังมีความรักคงรู้สึกว่าสายฝนนั้นช่างเย็นราวกับน้ำทิพย์ที่ทำให้หัวใจที่อับเฉาได้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แต่คนที่กำลังจะเสียของรักไปคงมองสายฝนที่ตกลงมาเหมือนน้ำตาจากฟ้า ความรักที่สุกงอมช่างหอมหวาน แต่บางครั้งความรักอันหอมหวานก็แปรเปลี่ยนเป็นความขื่นขมระทมทุกข์ จนในที่สุดก็กลับกลายกลายเป็นความแค้นและถ้าภายในหัวใจดวงเดียวแต่เกิดทั้งความรักฝังใจและความแค้นที่แน่นอกทางออกของมันคืออะไร...
เจ้าของใบหน้าสวยเก๋รับกับเรือนร่างงดงามได้สัดส่วน หากเปรียบเรือนร่างของเธอว่าราวกับนางแบบก็คงไม่เกินไปนัก แก้วกรรณิกาใช้หลังมือปาดน้ำตาหยดสุดท้ายทิ้งไปก่อนจะเชิดใบหน้าสวยขึ้น
“ยังไม่รีบลงไปจัดการให้มันจบๆ ไปซะที ไหนแกบอกว่าเห็นแม่ดีกว่าผู้ชายไม่ใช่เหรอ”
“คุณแม่คะ แต่...”
“เอาเถอะ แกไม่ไปแม่ก็จะไม่บังคับแกแล้ว แต่แกก็เตรียมนิมนต์พระที่วัดมาสวดศพแม่ได้เลย” ประตูรถยนต์คันหรูสีดำมันปลาบถูกเปิดออกและเมื่อประตูถูกปิดลง คุณหญิงมณีไฮโซคนดังถึงกับยิ้มออกมาอย่างสะใจและมองตามร่างบางระหงในชุดแสกเข้ารูปแบบทันสมัยไปไม่ให้คลาดสายตา
“ทำเลตรงนี้เหมาะจะดูละครฉากเศร้าเสียจริง ” ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ลึกๆ รู้สึกสะใจจนอยากจะปรบมือดังๆความเกลียด ความรัก ปะปนกันอย่างแน่นอกสายตาของนางจับจ้องไปที่บุตรสาว
แก้วกรรณิกามีใบหน้ารูปไข่ที่มีองค์ประกอบงดงามโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นคิ้วโค้งได้รูป เหมาะเจาะกับดวงตากลมโตที่เหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา จมูกสวยได้รูปริมฝีปากที่สวยอวบอิ่มชนิดหาตัวจับยากรวมแล้วเป็นความสวยที่ลงตัวที่สุด
ส่วนผมนั้นนิ่มสลวยยาวตรงคืนนี้มันถูกรวบไว้สูงเป็นหางม้าทำให้ลำคอดูระหงยิ่งขึ้นแก้วกรรณิกาบุคลิกของเธอคือสาวสวยมั่น เธอกางร่มบางใสที่หยิบติดมือลงมาจากรถเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมาปรอยๆ พอสายตามองเห็นเป้าหมายก็เร่งก้าวฉับๆ ตรงเข้าไปหา ทั้งที่ภายในใจอยากจะวิ่งเข้าไปซบอกเขาและกอดร่ำไห้แต่สิ่งที่แสดงออกไปเป็นไปในทางตรงกันข้ามเธอหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะบอกถึงสาเหตุที่เรียกเขาออกมาพบ
ผู้ชายใบหน้าหล่อคมเข้มแต่มีผิวขาวสะอาดมีเคราเขียวครึ้มบางๆ รูปร่างสูงอกผายไหล่ผึ่งยืนรอใครบางคนที่นัดเอาไว้อย่างไม่แสดงออกถึงอาการใดๆมานานนับชั่วโมงแต่เมื่อได้พบหน้ากันแล้วฟังในสิ่งที่เธอกำลังเล่าแม้หน้าตาจะไม่แสดงออกแต่ภายในใจกำลังเดือดปุดๆ ราวกับลาวาที่กำลังปะทุรอการระเบิดครั้งใหญ่
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดไม่ได้ออกมาจากความคิดของคุณใช่ไหม”
“ก็ตามที่บอก โครงการรักของเราคงต้องพับเก็บ เพราะยังไงฉันก็จะแต่งงานกับคุณธนกฤต” เธอยืนยันอย่างมั่นใจด้วยรอยยิ้มกว้างแต่ภายในอกตรมและเจ็บปวดที่สุด
“ไหนคุณเคยบอกว่าคุณหมดรักนายธนกฤตไปนานแล้ว รอแต่วันจะถอนหมั้น”
“ก็ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่ารักมันกินไม่ได้ แต่ถ้าอยากสุขสบายก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมซึ่งคนนั้นไม่ใช่คุณ” แก้วกรรณิกาไหวไหล่และเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างไม่ยี่หระ
ว่านนทีเผยยิ้มหยัน แววตาบ่งบอกว่าไม่เชื่อความคิดและสิ่งที่ทำทั้งหมดนี้จะมาจากความคิดของแก้วกรรณิกา
“ยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าคุณคิดแบบนี้จริงๆ เกิดอะไรขึ้นบอกผมมาตามตรงดีกว่า” น้ำเสียงคาดคั้น
“คุณคิดว่าคุณเองมีดีอะไร คุณเป็นใคร ทำงานอะไร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันยังไม่เคยรู้มองไปข้างหน้าฉันเห็นแต่ความมืดเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนสวยและฉลาดอย่างฉันขอคิดใหม่ทำใหม่ ฉันไม่อยากเอาเวลามาเสียโดยเปล่าประโยชน์”เธอตอบฉะฉานไม่มีท่าทางแสดงออกว่าเสียใจ
“แก้วกรรณิกาผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเมื่อถึงเวลาผมจะบอกคุณเอง รับรองว่าคุณจะได้รู้ทั้งหมดที่คุณอยากรู้” งานของเขาทั้งเสี่ยงภัยและเป็นความลับเขาไม่อยากดึงเธอมาเกี่ยวข้องไม่ต้องการให้เธอเป็นเป้าหมายของใครศัตรูของเขาเยอะพอๆกับเพื่อน
“ก็เพราะคุณเป็นเสียแบบนี้ทำตัวลึกลับจนน่าสงสัย เราคบกันได้พักหนึ่งแล้วฉันยังไม่รู้ว่าคุณทำงานอะไร บางทีคุณอาจเป็นเอเยนต์ขายยาบ้ารายใหญ่ก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะฉะนั้นฉันเสียเวลาไปมากแล้วเราจบกันแค่นี้จะดีกว่า” ทั้งหมดที่พูดมาไม่ใช่อย่างใจคิดมันเป็นข้ออ้างให้เขาตัดใจจากเธอไป
“บอกมาเสียดีๆ ว่าใครบังคับให้คุณมาพูดกับผมแบบนี้ บอกมา”น้ำเสียงตะคอก โกรธไม่เก็บอาการ เขามองไปที่รถหรูที่เธอเดินลงมา “ใครอยู่ไหนนั้นคุณหญิงแม่ของคุณหรือเปล่า”
แก้วกรรณิกาไม่ตอบ
“ผมว่าแล้วคุณหญิงแม่ของคุณใช่ไหมที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” แก้วกรรณิกาก็ยังไม่ตอบ ว่านนทีจึงถามย้ำไปย้ำมาสองมือวางบนไหล่บางของเธอและเขย่า
“ตอบผม ผมสั่งให้คุณตอบเดี๋ยวนี้”
“คุณแม่แค่แนะนำว่าผู้ชายแบบไหนถึงคู่ควรกับฉัน ส่วนการตัดสินใจทั้งหมดมาจากความคิดฉันเอง เอามือหยาบๆ ที่ทำงานหนักๆ ออกไปจากไหล่ฉันเถอะเดี๋ยวเสื้อตัวละห้าพันของฉันมันจะติดกลิ่นสาบความจนไปด้วย เหม็นน่ะ แล้วกลัวจะซักไม่ออก” แก้วกรรณิกาเบ้ปากอย่างรังเกียจ
เขากระชับไหล่เธอและบีบแน่น“เกิดบ้าอะไรขึ้นมาวันก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้”
“ ฉันเจ็บนะคุณว่านนที ผู้ชายบ้า ชอบใช้ความรุนแรง” เธอตวาดแหวรู้ว่าเขาโกรธจัดในเมื่อคุยกันไปถึงเรื่องแต่งงานแล้วแต่จู่ๆเธอมาบอกเลิกเขาแบบนี้
เมื่อหลายวันก่อนเขากับเธอยังดูหวานชื่นเขายังพาเธอไปกินข้าวและดูหนังจากนั้นยังคุยกันว่าเธอจะพาเขาไปรู้จักกับครอบครัวของเธอซึ่งว่านนทีเองก็กำลังจะตัดสินใจส่งคุณหญิงพัชชามารดาแท้ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของท่านไปทาบทามแก้วกรรณิกามาเป็นว่าที่ศรีสะใภ้เช่นกัน เขากำลังจะบอกเรื่องนี้กับเธอว่าเขาเป็นใครแต่มาได้ยินข่าวร้ายเสียก่อน
ใบหน้าสวยของแก้วกรรณิกาเชิดขึ้นอย่างถือตัว
“ไม่มีใครที่จะบังคับแก้วกรรณิกาคนนี้ได้คุณเองก็รู้”
“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไปเองว่าคุณมีใจให้ และคิดว่าเรารักกัน ”
“ใช่! คุณคิดไปเอง ที่ผ่านมาฉันแค่เหงา คนมันกำลังเหงา” แก้วกรรณิกาสะบัดมือออก
“ถ้านี่คือการอำ ผมก็ชักไม่สนุกด้วย” สีหน้าเคร่งเครียด
“นี่คือความจริงแต่ที่ผ่านมาคือความฝันดอกฟ้าไม่ก้มลงมาคลุกคลีกับหมาวัดนานหรอกนะตื่นได้แล้ว”แววตาของเธอเหยียดหยามเสื้อผ้าที่เขาใส่แต่ในใจเธอกลับไม่คิดเช่นนั้น
“แก้วกรรณิกาคุณเป็นบ้าอะไร”
“มองตาผม”เข้าสั่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้
“ไม่” เธอเลี่ยงการสบตา
“ผมสั่งให้มอง ผมอยากรู้ว่าคุณคิดแบบที่พูดจริงๆ เหรอ ตอบมา ตอบมาคุณคิดแบบนั้นใช่ไหม” สองแขนแข็งแรงเขย่าร่างบางแค่นี้ก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บบริเวณหัวไหล่ และหัวสั่นหัวคลอน
มือเรียวเล็กตบสุดแรงเกิดที่โหนกแก้มด้านซ้ายของว่านนทีเสียงเนื้อกระแทกกันดังสนั่น
“ไอ้คนบ้า ฉันเจ็บนะ จะอะไรกันนักหนาก็คุณมันเป็นคนมาทีหลัง คุณก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันมีคู่หมั้นอยู่ก่อนแล้ว ก็ยังมารักฉันเองช่วยไม่ได้ โง่เองนี่ ถ้าเข้าใจผิดไปว่าที่ผ่านมาฉันมีใจให้ล่ะก็คุณคิดผิดถนัด ก็ฉันมันสวย แม่ก็รวย เพราะฉะนั้นฉันเลือกได้และคุณคือตัวเลือกที่ฉันตัดทิ้งไป”
ความเจ็บที่เธอตบหน้าเขามันเล็กน้อยถ้าเทียบกับความเจ็บที่หัวใจเมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเป็นแค่ทางเลือกให้คุณเหรอ” สายตาที่มองเธอราวกับแววตาสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บปางตาย
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
ความโมโหทำให้ว่านนทีลืมตัวรั้งร่างบางเข้ามาประชิดแนบอกและจูบสั่งสอนแรงๆ เพื่อจะได้ย้ำความทรงจำเมื่อหลายวันก่อนเธอยังแทบจะหลอมละลายเมื่อเขาปรนเปรอเธอด้วยจูบหวานล้ำแต่วันนี้ดูเธอทำท่าทำทางเข้าสิ
“ปล่อยฉัน ฉันเกลียดรสชาติจูบอันกักขฬะไร้รสนิยม ไม่มีความเป็นผู้ดีของคุณจริงๆ” ประโยคที่แสลงหูทำให้เขาดึงร่างบางมาประกบจูบแรงๆ อีกครั้งเพื่อลงโทษคนอวดดี ไม่มีความหอมหวาน นุ่มนวลแทรกอยู่
คุณหญิงมณีพยายามจะมองแต่มองไม่ถนัดเพราะอยู่ในระยะไกล “ช่วงนี้หูตาไม่ค่อยดี ลืมพกแว่นตามาจึงมองนอะไรไม่ถนัดเลย
“ปล่อยฉันนะไอ้คนบ้า” ว่านนทีไม่รู้ว่าในรถคุณหญิงมณีกำลังนั่งชมผลงานของตนเองอยู่
เจ้าของร่างบางร่ำไห้ทั้งโกรธ ทั้งรัก ทั้งอยากให้เขาและตัวเธอเองตัดใจจากกันได้เพราะรู้ว่าถ้าฝืนรักกันต่อไปก็มีแต่ความทรมา แก้วกรรณิการู้สึกว่าริมฝีปากของเธอเจ็บระบมไปหมดจากการกระทำของเขา แต่เมื่อเธอสะอื้นเขาก็ผละออกจากเธอทันที กิริยาปนรักเกลียด
“แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณเห็นผมเป็นแค่คนคั่นเวลาอย่างนั้นล่ะสิ” แก้วกรรณิกานิ่งเงียบ
“ผมถามว่าใช่ไหมแค่ที่คั่นเวลา” ว่านนทีตะคอกถาม
“ตอบมาสิ ตอบผม” ใบหน้าสวยเก๋ของแก้วกรรณิกาเชิดขึ้นและปรากฏรอยยิ้มหยันก่อนจะตอบว่า
“ที่คั่นเวลาอาจจะมีค่ามากกว่าคุณด้วยซ้ำไป คุณคิดว่าฉันจะจริงจังด้วยถึงขั้นจะแต่งงานเลยเหรอคะ สเปคของฉันนอกจากหล่ออย่างเดียวคงไม่พอหรอกนะ ต้องรวยเท่าเทียมกันหรือมากกว่าเข้าใจไว้ซะด้วย” สายตาที่ว่านนทีมองกลับมา ทำให้แก้วกรรณิกาอยากหายตัวไปจากตรงนี้ มันเป็นสายตาสมเพช
“ผมให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกทีนะแก้วกรรณิกาเมื่อครู่ผมจะถือว่าหูฝาดไป”
“จะให้พูดกี่ครั้งฉันก็ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาฉันไม่เคยรักคุณเลย เหนือสิ่งอื่นใดฉันเลือกผู้ชายจากยอดเงินในบัญชีมากกว่าความดีที่กินไม่ได้ ทีนี้กระจ่างหรือยังล่ะ”
“หิวเงินมากขนาดนั้นเชียวเหรอ ผมมันตาบอดไปที่มองคุณเป็นนางฟ้ามาตลอด แต่ที่ผ่านมามันก็แค่มารยา” คำต่อว่าของเขาเรียกน้ำตาของแก้วกรรณิกาให้รื้นขึ้นมาจนเอ่อแทบจะล้นออกมาจากเบ้าตาแต่เธอพยายามฝืนเอาไว้
“ฉันแค่ทนเสียงเห่ารบเร้าของหมาวัดมันไม่ไหว เลยนึกสนุกโน้มตัวลงมาจากฟ้าเพื่อทักทายหยอกเล่นกับมัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฉันก็รู้ว่าดอกฟ้ากับหมาวัดมันไปกันไม่ได้จะมีก็แค่ในนิยายเรื่องจริงมันไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เคมีมันไม่ตรงกัน”
ว่านนทีรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าถูกตบหน้า นี่เธอกล้าเปรียบเทียบเขากับหมาวัดเชียวหรือ หากเธอรู้ว่าเขาเป็นใครแก้วกรรณิกาจะรู้ว่าที่แท้เธอมันก็แค่ดอกไม้ดอกหนึ่งที่เขาคิดจะเด็ดมาชื่นชมความงามเมื่อไรก็ได้เช่นกัน
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงคิดว่าคุณเป็นดอกฟ้า แต่ณเวลานี้ดอกตำแยยังมีราคามากกว่าผู้หญิงหิวเงินแบบคุณเลย” แก้วกรรณิกาไหวไหล่และยิ้มเยาะอย่างไม่ยี่หระต่อคำผรุสวาท
“แต่ยังไงซะฉันก็ขอขอบคุณที่หมาวัดอย่างคุณดูแลฉันเป็นอย่างดีแล้วต่อจากนี้ก็ทางใครทางมัน”
“ถึงผมเป็นคนดี แต่ผู้หญิงอย่างคุณคงชอบคนเลวมากกว่าถึงได้เลือกจะแต่งงานกับนายธนกฤตคนนั้นทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเลวแค่ไหน แต่ถ้าชอบคนเลวก็ขอให้อยู่กับคนเลวอย่างมีความสุขแล้วกัน” เขาหันหลังให้แต่ไม่ได้แปลว่าเรื่องนี้จะจบ
เพื่อที่จะจากกันได้อย่างถาวรแก้วกรรณิกาจำเป็นต้องตอกย้ำขึ้นไปอีก
“ไม่เคยได้ยินเหรอคะผู้หญิงส่วนมากเขาก็พ่ายให้ผู้ชายเลวๆ กันทั้งนั้นก็เพราะผู้ชายเลว มันมีอะไรให้น่าค้นหาและตื่นเต้นมีชีวิตชีวาดีกว่าผู้ชายดีๆ ที่ชีวิตไม่ค่อยจะมีสีสัน” ว่านนทีมองหน้าเธอ ด้วยแววตาหยัน
“ถ้าชอบผู้ชายเลวนักสักวันผมจะจัดให้ เอาเลวกับคุณให้สาแก่ใจไปเลย ใครจะไปคิดว่าคุณหนูแก้วกรรณิกาจะมีรสนิยมแบบนี้ อาจจะมีของสมนาคุณเพิ่มเติมให้ทั้งความเถื่อน เลว และซาดิสม์เผื่อจะทำให้คุณติดใจได้บ้าง” แก้วกรรณิกายิ้มหน้าระรื่นทั้งๆ ที่ภายในใจกำลังกลืนน้ำตา ถ้าเธอชอบแบบนั้นจริงๆ ก็คงบ้าแล้ว
“เลว และ เถื่อนแค่นั้นอาจได้แค่ความถึงใจ แต่ยังไม่พอเพราะจะเป็นสเปคในใจขฉัน สิ่งสำคัญ ต้องรวยด้วยค่ะซึ่งจะว่าไปทุกข้อก็เหมือนคุณธนกฤตเขาเป๊ะเลย หล่อ รวย เลว เริดค่ะ” เจ้าของใบหน้าสวยแสร้งยั่ว สายตาที่ว่านนทีเคยมองเธอด้วยความรักปานจะกลืนกินแปรเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความขยะแขยง
“น่าสมเพช”
จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถและไม่ได้หันกลับมามองอีกเลย จึงไม่เห็นว่าเจ้าของใบหน้าสวยเชิดหยิ่งเมื่อครู่นั้นในเวลานี้สองแก้มถูกอาบไปด้วยน้ำตาเป็นทางยาว
“คุณว่านนที ฉะ ฉะ ฉันไม่ได้อยากให้เราลงเอยกันแบบนี้สักนิดหากฉันเลือกได้” คำพูดนั้นแผ่วเบาจนเขาไม่ได้ยิน
หญิงสูงวัยแต่ยังคงงดงามมองผ่านออกมาจากรถเบนซ์สีดำมันปลาบพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินแยกกันไปคนละทิศทาง แล้วในที่สุดลูกสาวคนสวยก็ต้องยอมทำตามใจเธอ คุณหญิงมณียกความดีความชอบให้ตัวเอง หากนางไม่เอาเรื่องความตายมาขู่แก้วกรรณิกาคงไม่ยอมเลิกกับผู้ชายไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างนายว่านนที
คุณหญิงมณีลดกระจกรถลงเมื่อเห็นแก้วกรรณิกาเดินกลับมาใกล้รถแต่สายตายังอาลัยอาวรณ์หันกลับไปมองรถของว่านนทีที่ขับออกไปแล้ว
นางจึงตวาดแหว“ยัยแก้วเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถสักทีสิยะ จะยืนอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนากับผู้ชายบ้านๆ แบบนั้น รีบขึ้นรถมาได้แล้วนะแถวนี้มันถิ่นของพวกกระจอกอยู่นานๆ แล้วฉันคันเนื้อคันตัว”
“ทราบแล้วค่ะคุณแม่” ร่างบางกำลังพาตัวเองกลับขึ้นไปบนรถแต่ทำหัวใจหายไปพร้อมกับผู้ชายที่ชื่อว่านนที แม้จะบอกตัวเองให้ลืมเขาไป แต่ก็ไม่วายเหลียวหลังกลับไปมองอีก เธอจะจดจำว่านนที ผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอเอาไว้แม้เขาจะเกลียดเธอสักปานใดก็ตาม แม้ตัวของเธออาจจะต้องตกเป็นของใคร แต่ใจของเธอจะเป็นของเขาตลอดกาล แต่เสียงแหวจากคุณหญิงแม่ทำให้คนสวยต้องสะดุ้ง
“ยังอีก ยังช้าอีกนี่ยัยแก้ว ขึ้นรถเดี๋ยวนี้นะฝนมันกำลังลงเม็ดใหญ่ จะยืนทำตัวเป็นนางเอกมิวสิกอีกนานไหมยะ” เจ้าของหน้าสวยหุ่นแบบบางจึงต้องรีบกลับขึ้นรถตามคำสั่ง
“แกสัญญากับแม่แล้วนะว่าจะไม่ยุ่งกับมันอีก เห็นธาตุแท้ของมันหรือยังมันเลวขนาดไหน ฉันเห็นนะว่ามันทำอะไรกับแกบ้างอย่าลืมสิคนแก่สายตายาว” แต่ที่จริงคุณเห็นมองไม่ค่อยเห็นอะไร แก้วกรรณิกาเงียบ น้ำตาร่วงหล่นบนฝ่ามือแต่คนที่เรียกตัวเองว่าแม่ตรงหน้าไม่ได้มีแววเมตตาสงสาร กลับสะใจที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปจากชีวิตลูกสาวของนางได้
“แก้วทำตามคุณแม่สั่งทุกอย่างแล้ว คุณแม่ยังต้องการอะไรอีกเหรอคะ”
“หลักฐานว่าแกจะไม่ได้ทำแค่ตบตาแม่ลับหลังแอบไปคบหา แอบไปกินตับกับมันลับๆอีก”
“แก้วกับคุณว่านนทียังไม่ได้....”
“หุบปากห้ามเถียงแม่ ฉันไม่มีทางเชื่อหรอกว่าแกจะไม่กลับไปหามันอีกชัดไหม แต่ถ้าแกไม่อยากเห็นฉันต้องตายเพราะเส้นโลหิตในสมองแตกด้วยเรื่องของแกแล้วล่ะก็ คงรู้นะว่าจะต้องพูดอะไรในคลิปที่ฉันกำลังจะถ่ายต่อไปนี้ แล้วคลิปนี้จะถือว่าเป็นคำสัญญาของแกที่มีต่อแม่เข้าใจไหม”
“ไม่เห็นจะต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะคุณแม่ แค่ที่แก้วทำให้คุณแม่เห็นมันยังไม่พออีกเหรอคะ แก้วยอมขว้างหัวใจตัวเองทิ้งไป”
“ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแกจะไม่เก็บมันขึ้นมา”คุณหญิงมณีมีสีหน้าโกรธจัด เนื้อตัวสั่นกำมือแน่น ก่อนที่นางจะตาค้างหอบแรงๆ เมื่อถูกขัดใจ อาการแบบนี้กำเริบหนักเฉพาะช่วงนี้
“แกไม่ยอมทำเหรอ แกจะขัดใจแม่ใช่ไหมยัยแก้ว แกยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่ไหม” ร่างของคุณหญิงเกร็งกระตุกราวกับกำลังจะชัก
“คุณแม่ คุณแม่ใจเย็นสิคะอย่าเพิ่งโมโห คุณแม่เองก็รู้ความเครียดมันเป็นผลร้ายกับโรคของคุณแม่”
“ฉันขอสัญญาที่เป็นหลักฐานไม่ใช่คำพูดลอยลม แค่นี้แกทำให้แม่ไม่ได้เหรอนังลูกทรพี”
“คุณแม่ แก้วทำขนาดนี้แล้วคุณแม่ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ทำไมต้องบีบแก้วมากขนาดนี้”
คุณหญิงแสร้งทำตาค้างและกระตุกราวกับคนกำลังชักอีกครั้งหนักกว่าเดิม
แก้วกรรณิกาปาดน้ำตาที่กำลังนองหน้า
คุณแม่!
“ตกลงค่ะคุณแม่ ถ้ามันจะทำให้คุณแม่สบายใจ ก็ชีวิตนี้ของหนูมันเป็นของคุณแม่อยู่แล้วนี่คะ” แก้วกรรณิกาตระหนักดีมาตลอด แม้คุณหญิงมณีจะไม่เคยพูดให้ได้ยินก็ตามแต่เธอก็รู้มาด้วยความบังเอิญ
คุณหญิงมณีอารมณ์ดีขึ้นถนัดตา“แม่ก็แค่จะถ่ายเก็บไว้ให้แกดูหากวันไหนแกผิดสัญญากับแม่ แม่จะได้เปิดมันให้แกดู ก็เท่านั้น”
เจ้าของใบหน้าสวยทันสมัยเชิดหน้าขึ้นและมองไปทางกล้องจากโทรศัพท์มือถือรุ่นที่หรูและไฮเทคที่สุดในยุคนี้
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายที่ชื่อว่านนที ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย จะเป็นอะไรต่อไปนี้ แก้วกรรณิกาคนนี้ก็จะไม่สนใจไยดี และจะไม่มีวันชายตาลงไปมองผู้ชายที่ชื่อว่านนทีอีกต่อไป ใครจะเอาเขาไปฆ่าไปแกงที่ไหนก็ตามสบายเพราะเขาเป็นแค่รอยด่างของชีวิตฉันเท่านั้น”
เมื่อแก้วกรรณิกาพูดจบคุณหญิงมณีก็กดปุ่มหยุดบันทึกคลิปวีดีโอพร้อมกระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก
“ก็แค่นี้เอง นี่ถือเป็นสัญญาของแกที่ให้ไว้กับแม่แล้วนะยัยแก้ว ต้องแบบนี้สิลูกรักของแม่ ยุคนี้มันยุคไฮเทคจะสัญญาปากเปล่ากันได้อย่างไร จริงไหม”
เลี้ยงมาตั้งแต่แบะเบาะจะว่าไม่รักเลยก็ไม่เชิงแต่จะให้รักเหมือนประหนึ่งเลือดในอกก็คงไม่ใช่ ความรักที่คุณหญิงมณีมีให้แก้วกรรณิกาจึงเป็นทั้งรักทั้งชัง


Tags: ว่านนที แก้วกรรณิกา ปางอุ๋ง คืนรักร้อนซ่อนเสน่หา

ตอน: บทนำ

ไม่ได้แวะมานาน จำกันได้ไหมคะ แวะไปทักทายขอแอดกันบ้างนะคะ แวะไปงานหนังสือกันหรือยังคะไปมาเมื่อวานเก็บบรรยากาศมาฝาก
https://www.facebook.com/chananchida.thumprasert


บทนำ

คืนที่อากาศเย็นฉ่ำ และฝนกำลังตกลงมาปรอยๆ คนที่กำลังมีความรักคงรู้สึกว่าสายฝนนั้นช่างเย็นราวกับน้ำทิพย์ที่ทำให้หัวใจที่อับเฉาได้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แต่คนที่กำลังจะเสียของรักไปคงมองสายฝนที่ตกลงมาเหมือนน้ำตาจากฟ้า ความรักที่สุกงอมช่างหอมหวาน แต่บางครั้งความรักอันหอมหวานก็แปรเปลี่ยนเป็นความขื่นขมระทมทุกข์ จนในที่สุดก็กลับกลายกลายเป็นความแค้นและถ้าภายในหัวใจดวงเดียวแต่เกิดทั้งความรักฝังใจและความแค้นที่แน่นอกทางออกของมันคืออะไร...


เจ้าของใบหน้าสวยเก๋รับกับเรือนร่างงดงามได้สัดส่วน หากเปรียบเรือนร่างของเธอว่าราวกับนางแบบก็คงไม่เกินไปนัก แก้วกรรณิกาใช้หลังมือปาดน้ำตาหยดสุดท้ายทิ้งไปก่อนจะเชิดใบหน้าสวยขึ้น

“ยังไม่รีบลงไปจัดการให้มันจบๆ ไปซะที ไหนแกบอกว่าเห็นแม่ดีกว่าผู้ชายไม่ใช่เหรอ”

“คุณแม่คะ แต่...”

“เอาเถอะ แกไม่ไปแม่ก็จะไม่บังคับแกแล้ว แต่แกก็เตรียมนิมนต์พระที่วัดมาสวดศพแม่ได้เลย” ประตูรถยนต์คันหรูสีดำมันปลาบถูกเปิดออกและเมื่อประตูถูกปิดลง คุณหญิงมณีไฮโซคนดังถึงกับยิ้มออกมาอย่างสะใจและมองตามร่างบางระหงในชุดแสกเข้ารูปแบบทันสมัยไปไม่ให้คลาดสายตา

“ทำเลตรงนี้เหมาะจะดูละครฉากเศร้าเสียจริง ” ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ลึกๆ รู้สึกสะใจจนอยากจะปรบมือดังๆความเกลียด ความรัก ปะปนกันอย่างแน่นอกสายตาของนางจับจ้องไปที่บุตรสาว

แก้วกรรณิกามีใบหน้ารูปไข่ที่มีองค์ประกอบงดงามโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นคิ้วโค้งได้รูป เหมาะเจาะกับดวงตากลมโตที่เหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา จมูกสวยได้รูปริมฝีปากที่สวยอวบอิ่มชนิดหาตัวจับยากรวมแล้วเป็นความสวยที่ลงตัวที่สุด

ส่วนผมนั้นนิ่มสลวยยาวตรงคืนนี้มันถูกรวบไว้สูงเป็นหางม้าทำให้ลำคอดูระหงยิ่งขึ้นแก้วกรรณิกาบุคลิกของเธอคือสาวสวยมั่น เธอกางร่มบางใสที่หยิบติดมือลงมาจากรถเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมาปรอยๆ พอสายตามองเห็นเป้าหมายก็เร่งก้าวฉับๆ ตรงเข้าไปหา ทั้งที่ภายในใจอยากจะวิ่งเข้าไปซบอกเขาและกอดร่ำไห้แต่สิ่งที่แสดงออกไปเป็นไปในทางตรงกันข้ามเธอหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะบอกถึงสาเหตุที่เรียกเขาออกมาพบ

ผู้ชายใบหน้าหล่อคมเข้มแต่มีผิวขาวสะอาดมีเคราเขียวครึ้มบางๆ รูปร่างสูงอกผายไหล่ผึ่งยืนรอใครบางคนที่นัดเอาไว้อย่างไม่แสดงออกถึงอาการใดๆมานานนับชั่วโมงแต่เมื่อได้พบหน้ากันแล้วฟังในสิ่งที่เธอกำลังเล่าแม้หน้าตาจะไม่แสดงออกแต่ภายในใจกำลังเดือดปุดๆ ราวกับลาวาที่กำลังปะทุรอการระเบิดครั้งใหญ่

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดไม่ได้ออกมาจากความคิดของคุณใช่ไหม”

“ก็ตามที่บอก โครงการรักของเราคงต้องพับเก็บ เพราะยังไงฉันก็จะแต่งงานกับคุณธนกฤต” เธอยืนยันอย่างมั่นใจด้วยรอยยิ้มกว้างแต่ภายในอกตรมและเจ็บปวดที่สุด

“ไหนคุณเคยบอกว่าคุณหมดรักนายธนกฤตไปนานแล้ว รอแต่วันจะถอนหมั้น”

“ก็ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่ารักมันกินไม่ได้ แต่ถ้าอยากสุขสบายก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมซึ่งคนนั้นไม่ใช่คุณ” แก้วกรรณิกาไหวไหล่และเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างไม่ยี่หระ

ว่านนทีเผยยิ้มหยัน แววตาบ่งบอกว่าไม่เชื่อความคิดและสิ่งที่ทำทั้งหมดนี้จะมาจากความคิดของแก้วกรรณิกา

“ยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าคุณคิดแบบนี้จริงๆ เกิดอะไรขึ้นบอกผมมาตามตรงดีกว่า” น้ำเสียงคาดคั้น

“คุณคิดว่าคุณเองมีดีอะไร คุณเป็นใคร ทำงานอะไร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันยังไม่เคยรู้มองไปข้างหน้าฉันเห็นแต่ความมืดเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนสวยและฉลาดอย่างฉันขอคิดใหม่ทำใหม่ ฉันไม่อยากเอาเวลามาเสียโดยเปล่าประโยชน์”เธอตอบฉะฉานไม่มีท่าทางแสดงออกว่าเสียใจ

“แก้วกรรณิกาผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเมื่อถึงเวลาผมจะบอกคุณเอง รับรองว่าคุณจะได้รู้ทั้งหมดที่คุณอยากรู้” งานของเขาทั้งเสี่ยงภัยและเป็นความลับเขาไม่อยากดึงเธอมาเกี่ยวข้องไม่ต้องการให้เธอเป็นเป้าหมายของใครศัตรูของเขาเยอะพอๆกับเพื่อน

“ก็เพราะคุณเป็นเสียแบบนี้ทำตัวลึกลับจนน่าสงสัย เราคบกันได้พักหนึ่งแล้วฉันยังไม่รู้ว่าคุณทำงานอะไร บางทีคุณอาจเป็นเอเยนต์ขายยาบ้ารายใหญ่ก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะฉะนั้นฉันเสียเวลาไปมากแล้วเราจบกันแค่นี้จะดีกว่า” ทั้งหมดที่พูดมาไม่ใช่อย่างใจคิดมันเป็นข้ออ้างให้เขาตัดใจจากเธอไป

“บอกมาเสียดีๆ ว่าใครบังคับให้คุณมาพูดกับผมแบบนี้ บอกมา”น้ำเสียงตะคอก โกรธไม่เก็บอาการ เขามองไปที่รถหรูที่เธอเดินลงมา “ใครอยู่ไหนนั้นคุณหญิงแม่ของคุณหรือเปล่า”

แก้วกรรณิกาไม่ตอบ

“ผมว่าแล้วคุณหญิงแม่ของคุณใช่ไหมที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” แก้วกรรณิกาก็ยังไม่ตอบ ว่านนทีจึงถามย้ำไปย้ำมาสองมือวางบนไหล่บางของเธอและเขย่า

“ตอบผม ผมสั่งให้คุณตอบเดี๋ยวนี้”

“คุณแม่แค่แนะนำว่าผู้ชายแบบไหนถึงคู่ควรกับฉัน ส่วนการตัดสินใจทั้งหมดมาจากความคิดฉันเอง เอามือหยาบๆ ที่ทำงานหนักๆ ออกไปจากไหล่ฉันเถอะเดี๋ยวเสื้อตัวละห้าพันของฉันมันจะติดกลิ่นสาบความจนไปด้วย เหม็นน่ะ แล้วกลัวจะซักไม่ออก” แก้วกรรณิกาเบ้ปากอย่างรังเกียจ

เขากระชับไหล่เธอและบีบแน่น“เกิดบ้าอะไรขึ้นมาวันก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้”

“ ฉันเจ็บนะคุณว่านนที ผู้ชายบ้า ชอบใช้ความรุนแรง” เธอตวาดแหวรู้ว่าเขาโกรธจัดในเมื่อคุยกันไปถึงเรื่องแต่งงานแล้วแต่จู่ๆเธอมาบอกเลิกเขาแบบนี้

เมื่อหลายวันก่อนเขากับเธอยังดูหวานชื่นเขายังพาเธอไปกินข้าวและดูหนังจากนั้นยังคุยกันว่าเธอจะพาเขาไปรู้จักกับครอบครัวของเธอซึ่งว่านนทีเองก็กำลังจะตัดสินใจส่งคุณหญิงพัชชามารดาแท้ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของท่านไปทาบทามแก้วกรรณิกามาเป็นว่าที่ศรีสะใภ้เช่นกัน เขากำลังจะบอกเรื่องนี้กับเธอว่าเขาเป็นใครแต่มาได้ยินข่าวร้ายเสียก่อน

ใบหน้าสวยของแก้วกรรณิกาเชิดขึ้นอย่างถือตัว

“ไม่มีใครที่จะบังคับแก้วกรรณิกาคนนี้ได้คุณเองก็รู้”

“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไปเองว่าคุณมีใจให้ และคิดว่าเรารักกัน ”

“ใช่! คุณคิดไปเอง ที่ผ่านมาฉันแค่เหงา คนมันกำลังเหงา” แก้วกรรณิกาสะบัดมือออก

“ถ้านี่คือการอำ ผมก็ชักไม่สนุกด้วย” สีหน้าเคร่งเครียด

“นี่คือความจริงแต่ที่ผ่านมาคือความฝันดอกฟ้าไม่ก้มลงมาคลุกคลีกับหมาวัดนานหรอกนะตื่นได้แล้ว”แววตาของเธอเหยียดหยามเสื้อผ้าที่เขาใส่แต่ในใจเธอกลับไม่คิดเช่นนั้น

“แก้วกรรณิกาคุณเป็นบ้าอะไร”

“มองตาผม”เข้าสั่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้

“ไม่” เธอเลี่ยงการสบตา

“ผมสั่งให้มอง ผมอยากรู้ว่าคุณคิดแบบที่พูดจริงๆ เหรอ ตอบมา ตอบมาคุณคิดแบบนั้นใช่ไหม” สองแขนแข็งแรงเขย่าร่างบางแค่นี้ก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บบริเวณหัวไหล่ และหัวสั่นหัวคลอน

มือเรียวเล็กตบสุดแรงเกิดที่โหนกแก้มด้านซ้ายของว่านนทีเสียงเนื้อกระแทกกันดังสนั่น

“ไอ้คนบ้า ฉันเจ็บนะ จะอะไรกันนักหนาก็คุณมันเป็นคนมาทีหลัง คุณก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันมีคู่หมั้นอยู่ก่อนแล้ว ก็ยังมารักฉันเองช่วยไม่ได้ โง่เองนี่ ถ้าเข้าใจผิดไปว่าที่ผ่านมาฉันมีใจให้ล่ะก็คุณคิดผิดถนัด ก็ฉันมันสวย แม่ก็รวย เพราะฉะนั้นฉันเลือกได้และคุณคือตัวเลือกที่ฉันตัดทิ้งไป”

ความเจ็บที่เธอตบหน้าเขามันเล็กน้อยถ้าเทียบกับความเจ็บที่หัวใจเมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเป็นแค่ทางเลือกให้คุณเหรอ” สายตาที่มองเธอราวกับแววตาสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บปางตาย

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

ความโมโหทำให้ว่านนทีลืมตัวรั้งร่างบางเข้ามาประชิดแนบอกและจูบสั่งสอนแรงๆ เพื่อจะได้ย้ำความทรงจำเมื่อหลายวันก่อนเธอยังแทบจะหลอมละลายเมื่อเขาปรนเปรอเธอด้วยจูบหวานล้ำแต่วันนี้ดูเธอทำท่าทำทางเข้าสิ

“ปล่อยฉัน ฉันเกลียดรสชาติจูบอันกักขฬะไร้รสนิยม ไม่มีความเป็นผู้ดีของคุณจริงๆ” ประโยคที่แสลงหูทำให้เขาดึงร่างบางมาประกบจูบแรงๆ อีกครั้งเพื่อลงโทษคนอวดดี ไม่มีความหอมหวาน นุ่มนวลแทรกอยู่

คุณหญิงมณีพยายามจะมองแต่มองไม่ถนัดเพราะอยู่ในระยะไกล “ช่วงนี้หูตาไม่ค่อยดี ลืมพกแว่นตามาจึงมองนอะไรไม่ถนัดเลย
“ปล่อยฉันนะไอ้คนบ้า” ว่านนทีไม่รู้ว่าในรถคุณหญิงมณีกำลังนั่งชมผลงานของตนเองอยู่

เจ้าของร่างบางร่ำไห้ทั้งโกรธ ทั้งรัก ทั้งอยากให้เขาและตัวเธอเองตัดใจจากกันได้เพราะรู้ว่าถ้าฝืนรักกันต่อไปก็มีแต่ความทรมา แก้วกรรณิการู้สึกว่าริมฝีปากของเธอเจ็บระบมไปหมดจากการกระทำของเขา แต่เมื่อเธอสะอื้นเขาก็ผละออกจากเธอทันที กิริยาปนรักเกลียด

“แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณเห็นผมเป็นแค่คนคั่นเวลาอย่างนั้นล่ะสิ” แก้วกรรณิกานิ่งเงียบ

“ผมถามว่าใช่ไหมแค่ที่คั่นเวลา” ว่านนทีตะคอกถาม

“ตอบมาสิ ตอบผม” ใบหน้าสวยเก๋ของแก้วกรรณิกาเชิดขึ้นและปรากฏรอยยิ้มหยันก่อนจะตอบว่า

“ที่คั่นเวลาอาจจะมีค่ามากกว่าคุณด้วยซ้ำไป คุณคิดว่าฉันจะจริงจังด้วยถึงขั้นจะแต่งงานเลยเหรอคะ สเปคของฉันนอกจากหล่ออย่างเดียวคงไม่พอหรอกนะ ต้องรวยเท่าเทียมกันหรือมากกว่าเข้าใจไว้ซะด้วย” สายตาที่ว่านนทีมองกลับมา ทำให้แก้วกรรณิกาอยากหายตัวไปจากตรงนี้ มันเป็นสายตาสมเพช

“ผมให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกทีนะแก้วกรรณิกาเมื่อครู่ผมจะถือว่าหูฝาดไป”

“จะให้พูดกี่ครั้งฉันก็ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาฉันไม่เคยรักคุณเลย เหนือสิ่งอื่นใดฉันเลือกผู้ชายจากยอดเงินในบัญชีมากกว่าความดีที่กินไม่ได้ ทีนี้กระจ่างหรือยังล่ะ”

“หิวเงินมากขนาดนั้นเชียวเหรอ ผมมันตาบอดไปที่มองคุณเป็นนางฟ้ามาตลอด แต่ที่ผ่านมามันก็แค่มารยา” คำต่อว่าของเขาเรียกน้ำตาของแก้วกรรณิกาให้รื้นขึ้นมาจนเอ่อแทบจะล้นออกมาจากเบ้าตาแต่เธอพยายามฝืนเอาไว้

“ฉันแค่ทนเสียงเห่ารบเร้าของหมาวัดมันไม่ไหว เลยนึกสนุกโน้มตัวลงมาจากฟ้าเพื่อทักทายหยอกเล่นกับมัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฉันก็รู้ว่าดอกฟ้ากับหมาวัดมันไปกันไม่ได้จะมีก็แค่ในนิยายเรื่องจริงมันไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เคมีมันไม่ตรงกัน”
ว่านนทีรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าถูกตบหน้า นี่เธอกล้าเปรียบเทียบเขากับหมาวัดเชียวหรือ หากเธอรู้ว่าเขาเป็นใครแก้วกรรณิกาจะรู้ว่าที่แท้เธอมันก็แค่ดอกไม้ดอกหนึ่งที่เขาคิดจะเด็ดมาชื่นชมความงามเมื่อไรก็ได้เช่นกัน
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงคิดว่าคุณเป็นดอกฟ้า แต่ณเวลานี้ดอกตำแยยังมีราคามากกว่าผู้หญิงหิวเงินแบบคุณเลย” แก้วกรรณิกาไหวไหล่และยิ้มเยาะอย่างไม่ยี่หระต่อคำผรุสวาท
“แต่ยังไงซะฉันก็ขอขอบคุณที่หมาวัดอย่างคุณดูแลฉันเป็นอย่างดีแล้วต่อจากนี้ก็ทางใครทางมัน”
“ถึงผมเป็นคนดี แต่ผู้หญิงอย่างคุณคงชอบคนเลวมากกว่าถึงได้เลือกจะแต่งงานกับนายธนกฤตคนนั้นทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเลวแค่ไหน แต่ถ้าชอบคนเลวก็ขอให้อยู่กับคนเลวอย่างมีความสุขแล้วกัน” เขาหันหลังให้แต่ไม่ได้แปลว่าเรื่องนี้จะจบ
เพื่อที่จะจากกันได้อย่างถาวรแก้วกรรณิกาจำเป็นต้องตอกย้ำขึ้นไปอีก
“ไม่เคยได้ยินเหรอคะผู้หญิงส่วนมากเขาก็พ่ายให้ผู้ชายเลวๆ กันทั้งนั้นก็เพราะผู้ชายเลว มันมีอะไรให้น่าค้นหาและตื่นเต้นมีชีวิตชีวาดีกว่าผู้ชายดีๆ ที่ชีวิตไม่ค่อยจะมีสีสัน” ว่านนทีมองหน้าเธอ ด้วยแววตาหยัน
“ถ้าชอบผู้ชายเลวนักสักวันผมจะจัดให้ เอาเลวกับคุณให้สาแก่ใจไปเลย ใครจะไปคิดว่าคุณหนูแก้วกรรณิกาจะมีรสนิยมแบบนี้ อาจจะมีของสมนาคุณเพิ่มเติมให้ทั้งความเถื่อน เลว และซาดิสม์เผื่อจะทำให้คุณติดใจได้บ้าง” แก้วกรรณิกายิ้มหน้าระรื่นทั้งๆ ที่ภายในใจกำลังกลืนน้ำตา ถ้าเธอชอบแบบนั้นจริงๆ ก็คงบ้าแล้ว

“เลว และ เถื่อนแค่นั้นอาจได้แค่ความถึงใจ แต่ยังไม่พอเพราะจะเป็นสเปคในใจขฉัน สิ่งสำคัญ ต้องรวยด้วยค่ะซึ่งจะว่าไปทุกข้อก็เหมือนคุณธนกฤตเขาเป๊ะเลย หล่อ รวย เลว เริดค่ะ” เจ้าของใบหน้าสวยแสร้งยั่ว สายตาที่ว่านนทีเคยมองเธอด้วยความรักปานจะกลืนกินแปรเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความขยะแขยง

“น่าสมเพช”

จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถและไม่ได้หันกลับมามองอีกเลย จึงไม่เห็นว่าเจ้าของใบหน้าสวยเชิดหยิ่งเมื่อครู่นั้นในเวลานี้สองแก้มถูกอาบไปด้วยน้ำตาเป็นทางยาว

“คุณว่านนที ฉะ ฉะ ฉันไม่ได้อยากให้เราลงเอยกันแบบนี้สักนิดหากฉันเลือกได้” คำพูดนั้นแผ่วเบาจนเขาไม่ได้ยิน

หญิงสูงวัยแต่ยังคงงดงามมองผ่านออกมาจากรถเบนซ์สีดำมันปลาบพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินแยกกันไปคนละทิศทาง แล้วในที่สุดลูกสาวคนสวยก็ต้องยอมทำตามใจเธอ คุณหญิงมณียกความดีความชอบให้ตัวเอง หากนางไม่เอาเรื่องความตายมาขู่แก้วกรรณิกาคงไม่ยอมเลิกกับผู้ชายไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างนายว่านนที

คุณหญิงมณีลดกระจกรถลงเมื่อเห็นแก้วกรรณิกาเดินกลับมาใกล้รถแต่สายตายังอาลัยอาวรณ์หันกลับไปมองรถของว่านนทีที่ขับออกไปแล้ว

นางจึงตวาดแหว“ยัยแก้วเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถสักทีสิยะ จะยืนอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนากับผู้ชายบ้านๆ แบบนั้น รีบขึ้นรถมาได้แล้วนะแถวนี้มันถิ่นของพวกกระจอกอยู่นานๆ แล้วฉันคันเนื้อคันตัว”

“ทราบแล้วค่ะคุณแม่” ร่างบางกำลังพาตัวเองกลับขึ้นไปบนรถแต่ทำหัวใจหายไปพร้อมกับผู้ชายที่ชื่อว่านนที แม้จะบอกตัวเองให้ลืมเขาไป แต่ก็ไม่วายเหลียวหลังกลับไปมองอีก เธอจะจดจำว่านนที ผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอเอาไว้แม้เขาจะเกลียดเธอสักปานใดก็ตาม แม้ตัวของเธออาจจะต้องตกเป็นของใคร แต่ใจของเธอจะเป็นของเขาตลอดกาล แต่เสียงแหวจากคุณหญิงแม่ทำให้คนสวยต้องสะดุ้ง

“ยังอีก ยังช้าอีกนี่ยัยแก้ว ขึ้นรถเดี๋ยวนี้นะฝนมันกำลังลงเม็ดใหญ่ จะยืนทำตัวเป็นนางเอกมิวสิกอีกนานไหมยะ” เจ้าของหน้าสวยหุ่นแบบบางจึงต้องรีบกลับขึ้นรถตามคำสั่ง

“แกสัญญากับแม่แล้วนะว่าจะไม่ยุ่งกับมันอีก เห็นธาตุแท้ของมันหรือยังมันเลวขนาดไหน ฉันเห็นนะว่ามันทำอะไรกับแกบ้างอย่าลืมสิคนแก่สายตายาว” แต่ที่จริงคุณเห็นมองไม่ค่อยเห็นอะไร แก้วกรรณิกาเงียบ น้ำตาร่วงหล่นบนฝ่ามือแต่คนที่เรียกตัวเองว่าแม่ตรงหน้าไม่ได้มีแววเมตตาสงสาร กลับสะใจที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปจากชีวิตลูกสาวของนางได้

“แก้วทำตามคุณแม่สั่งทุกอย่างแล้ว คุณแม่ยังต้องการอะไรอีกเหรอคะ”

“หลักฐานว่าแกจะไม่ได้ทำแค่ตบตาแม่ลับหลังแอบไปคบหา แอบไปกินตับกับมันลับๆอีก”

“แก้วกับคุณว่านนทียังไม่ได้....”

“หุบปากห้ามเถียงแม่ ฉันไม่มีทางเชื่อหรอกว่าแกจะไม่กลับไปหามันอีกชัดไหม แต่ถ้าแกไม่อยากเห็นฉันต้องตายเพราะเส้นโลหิตในสมองแตกด้วยเรื่องของแกแล้วล่ะก็ คงรู้นะว่าจะต้องพูดอะไรในคลิปที่ฉันกำลังจะถ่ายต่อไปนี้ แล้วคลิปนี้จะถือว่าเป็นคำสัญญาของแกที่มีต่อแม่เข้าใจไหม”

“ไม่เห็นจะต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะคุณแม่ แค่ที่แก้วทำให้คุณแม่เห็นมันยังไม่พออีกเหรอคะ แก้วยอมขว้างหัวใจตัวเองทิ้งไป”

“ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแกจะไม่เก็บมันขึ้นมา”คุณหญิงมณีมีสีหน้าโกรธจัด เนื้อตัวสั่นกำมือแน่น ก่อนที่นางจะตาค้างหอบแรงๆ เมื่อถูกขัดใจ อาการแบบนี้กำเริบหนักเฉพาะช่วงนี้

“แกไม่ยอมทำเหรอ แกจะขัดใจแม่ใช่ไหมยัยแก้ว แกยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่ไหม” ร่างของคุณหญิงเกร็งกระตุกราวกับกำลังจะชัก

“คุณแม่ คุณแม่ใจเย็นสิคะอย่าเพิ่งโมโห คุณแม่เองก็รู้ความเครียดมันเป็นผลร้ายกับโรคของคุณแม่”

“ฉันขอสัญญาที่เป็นหลักฐานไม่ใช่คำพูดลอยลม แค่นี้แกทำให้แม่ไม่ได้เหรอนังลูกทรพี”

“คุณแม่ แก้วทำขนาดนี้แล้วคุณแม่ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ทำไมต้องบีบแก้วมากขนาดนี้”

คุณหญิงแสร้งทำตาค้างและกระตุกราวกับคนกำลังชักอีกครั้งหนักกว่าเดิม

แก้วกรรณิกาปาดน้ำตาที่กำลังนองหน้า

คุณแม่!

“ตกลงค่ะคุณแม่ ถ้ามันจะทำให้คุณแม่สบายใจ ก็ชีวิตนี้ของหนูมันเป็นของคุณแม่อยู่แล้วนี่คะ” แก้วกรรณิกาตระหนักดีมาตลอด แม้คุณหญิงมณีจะไม่เคยพูดให้ได้ยินก็ตามแต่เธอก็รู้มาด้วยความบังเอิญ

คุณหญิงมณีอารมณ์ดีขึ้นถนัดตา“แม่ก็แค่จะถ่ายเก็บไว้ให้แกดูหากวันไหนแกผิดสัญญากับแม่ แม่จะได้เปิดมันให้แกดู ก็เท่านั้น”

เจ้าของใบหน้าสวยทันสมัยเชิดหน้าขึ้นและมองไปทางกล้องจากโทรศัพท์มือถือรุ่นที่หรูและไฮเทคที่สุดในยุคนี้

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายที่ชื่อว่านนที ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย จะเป็นอะไรต่อไปนี้ แก้วกรรณิกาคนนี้ก็จะไม่สนใจไยดี และจะไม่มีวันชายตาลงไปมองผู้ชายที่ชื่อว่านนทีอีกต่อไป ใครจะเอาเขาไปฆ่าไปแกงที่ไหนก็ตามสบายเพราะเขาเป็นแค่รอยด่างของชีวิตฉันเท่านั้น”

เมื่อแก้วกรรณิกาพูดจบคุณหญิงมณีก็กดปุ่มหยุดบันทึกคลิปวีดีโอพร้อมกระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก

“ก็แค่นี้เอง นี่ถือเป็นสัญญาของแกที่ให้ไว้กับแม่แล้วนะยัยแก้ว ต้องแบบนี้สิลูกรักของแม่ ยุคนี้มันยุคไฮเทคจะสัญญาปากเปล่ากันได้อย่างไร จริงไหม”

เลี้ยงมาตั้งแต่แบะเบาะจะว่าไม่รักเลยก็ไม่เชิงแต่จะให้รักเหมือนประหนึ่งเลือดในอกก็คงไม่ใช่ ความรักที่คุณหญิงมณีมีให้แก้วกรรณิกาจึงเป็นทั้งรักทั้งชัง





อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ต.ค. 2556, 18:14:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ต.ค. 2556, 18:14:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1503





   ตอนที่ 1 >>
อัปสรา 20 ต.ค. 2556, 18:16:32 น.
ฝากด้วยนะคะแวะไปทักกันบ้างนะคะ ไม่ได้มาที่นี่นานลืมกันยัง
https://www.facebook.com/chananchida.thumprasert


Zephyr 20 ต.ค. 2556, 18:41:59 น.
เฮ้อ สะเทือนใจ แม่แบบนี้ก็มีด้วย
ไม่ใช่แม่ลูกแท้ๆแหงๆ
ไปเอาลูกศัตรูมาเลี้ยงรึไงนะ
แม่เป็นไฮเปอร์เวน แน่ๆอ่ะ


อัปสรา 20 ต.ค. 2556, 19:38:48 น.
ลูกแท้หรือลูกเทียมนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account