♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
อะไรนะ! ถ้าไม่แต่งงานภายในเก้าสิบวัน

เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!



ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย

แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า

เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...



นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป

เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า

ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ

แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ

กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง



โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน

เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง



ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ

โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ

อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ

และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง

หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด


เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์

จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ

เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย



ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย

ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ

(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )

ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

www.facebook.com/SirinFC
Tags: โนแอล โมนา ขิมคราม รอยตะวัน สลัดโสด

ตอน: ตอนที่ ๕ (ครึ่งแรก)

เพียงบังเอิญพบกันที่หน้าห้องถ่ายเอกสารในช่วงสายวันรุ่งขึ้น แสงดาวก็เปิดฉากแขวะเธอตามเคย “เมื่อวานหายไปไหนมาคะคุณโมนา ป่วยหรือเปล่า หน้าตาซี้ดซีด แหม เสียดายนะคะ เลยอดพบเจ้านายคนใหม่เลย”

“คุณแสงดาวนี่เก่งนะคะ ทำตัวเป็นมลภาวะทางเสียงและสายตาได้เสมอต้นเสมอปลายอย่างน่าชื่นชมจริงๆ” โมนาแกล้งปรบมือเปาะแปะประชด ไม่สนใจคำถาม

“รู้ไหมคะ ซีอีโอคนใหม่ล้อหล่อ แต่เอ๊ะ ข้อมูลนี้คงไม่มีประโยชน์กับคุณ เพราะ...” แสงดาวยังคงมุ่งเน้นสู่ประเด็นที่ต้องการตอกย้ำ ดวงตาหวานคมปรายมองเธอตั้งแต่ศีรษะจดเท้าขึ้นลง ก่อนจะยิ้มเยาะโดยไม่เอ่ยสิ่งใดอีก

“พอดีลียองจ้างดิฉันมาทำงานน่ะค่ะ ไม่ใช่มาหาผะ...เอ๊ย...หาแฟน” โมนาทำเสียงหวานเป็นพิเศษ “แต่ก็อย่างว่า ดิฉันเห็นคุณแสงดาวพยายามหามาตั้งหลายปียังไม่สำเร็จสักที ก็ไม่แปลกใจหรอกค่ะที่คุณต้องฉวยทุกโอกาสที่ผ่านหน้า เพราะเวลากระชั้นเข้ามาทุกทีแล้วนี่เนอะ รถไฟขบวนสุดท้ายแล่นผ่านไปหลายปีแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะมีหลงผ่านมาอีกหรือเปล่า”

“โมนา! จะพูดจะจาก็ให้มันรู้จักเด็กจักผู้ใหญ่บ้างนะ”

“แหม...ตอนแขวะฉันละทำแอ๊บแบ๊วยังกับสาวสิบห้าสิบหก พอโดนเหน็บกลับดันจะให้ฉันเคารพ ท่าทางคุณจะแก่แล้วจริงๆนะเนี่ย สะหมงสมองไปหมดละ เป็นอัลไซเมอร์หรือไงถึงลืมง้ายง่ายว่าเมื่อกี้ ‘ชื่นชม’ ฉันไว้ยังไงบ้างน่ะ” โมนายิ้มกวน แล้วหันไปทางพนักงานที่มาทำท่าลับๆล่อๆอยู่ไม่ห่าง “มีอะไรหรือเปล่า”

พิชญาจึงรีบรายงาน “คุณณรงค์ให้มาเชิญคุณโมนาค่ะ บอกว่าจะแนะนำให้รู้จักกับซีอีโอคนใหม่”

“ขอบใจ เดี๋ยวฉันไป” โมนาโบกมือไล่อีกฝ่าย แล้วหันมาทางแสงดาว “หมดเวลาคุยเรื่องไร้สาระแล้ว ขอตัวนะคะ” เอ่ยจบก็หมุนตัวเดินไปตามทางเพื่อมุ่งสู่ห้องทำงานซีอีโอทันที

แสงดาวก้าวตามมาไม่ห่าง ทั้งยังเปรย “ฉันจะไปให้กำลังใจค่ะ คิดว่าคุณอาจต้องการมันมากเป็นพิเศษ อย่าเป็นลมเป็นแล้งเวลาเจอคนหล่อๆเข้าล่ะ อายเขาตายเลย”

โมนากำมือแน่น รู้ดีว่าแสงดาวคงตั้งใจตามไปซ้ำเติมหากเธอถูกซีอีโอคนใหม่ตำหนิที่ขาดงานเมื่อวานมากกว่า ครั้นมาถึงส่วนของผู้บริหาร ณรงค์...ผู้จัดการฝ่ายบุคคลคอยอยู่แล้ว เมื่อเห็นเธอ ฝ่ายนั้นก็โล่งอก

“ผมนึกว่าคุณโมจะมาไม่ทันซะแล้ว” คนพูดอายุเกือบห้าสิบ อยู่กับบริษัทตั้งแต่เพิ่งก่อตั้ง จึงค่อนข้างวางตัวใหญ่โต ไม่ใส่ใจแม้ว่าตำแหน่งของตัวเองจะอยู่ในขั้นต่ำกว่าโมนาก็ตาม

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอา” แสงดาวทักทายณรงค์ ทั้งโชว์สนิทและพยายามแย่งซีนตามเคย

“คุณรงค์ไม่นัดก่อนนี่คะ มาบอกปุบปับแบบนี้ จะว่าไปมันก็ไม่ค่อยเหมาะหรอกนะคะ” โมนาไม่สนใจคู่แค้น แต่ตำหนิผู้อาวุโสตรงๆตามประสาคนปากตรงกับใจ

“ผมเช็กตารางนัด เห็นคุณโมว่างตรงกับเมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์ ก็เลยรีบจองตารางไว้ จะได้แนะนำให้รู้จักกันก่อน ไม่คิดนี่ครับว่าคุณโมจะไม่อยู่ที่ห้อง”

“เอาเถอะค่ะ ยังไงโมก็มาแล้วนี่” โมนายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “นัดไว้กี่โมงคะ”

วสันต์ซึ่งเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของซีอีโอซึ่งนั่งประจำตรงโต๊ะหน้าห้องรีบบอก “ถ้าพร้อมแล้วเชิญได้เลยครับ เมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์คอยอยู่แล้ว”

โมนายักไหล่ ก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานที่ณรงค์เปิดประตูรออยู่ทันที หญิงสาวเคยประชุมกับเจ้านายคนก่อนที่ห้องนี้นับครั้งไม่ถ้วน การเข้าพบซีอีโอคนใหม่ไม่ใช่เรื่องที่เธอหวั่นสักนิด เธอไม่กลัวฝรั่ง ทว่าส่วนที่ทำให้โมนาค่อนข้างกังวลเห็นจะเป็น...ผู้บริหารคนใหม่ช่างมาในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเสียเลย เธอไม่อยากให้เขารู้เห็นเรื่องวุ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เรื่องที่เธอยังตัดสินใจไม่ตกว่าจะกลบเกลื่อนหรือแก้ไขอย่างไรดี!

ห้องทำงานซีอีโอกว้างกว่าห้องเธอเกือบสามเท่า ภายในมีโต๊ะประชุมขนาดหกที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ ลึกเข้าไปเป็นบันไดสองขั้นยาวตลอดความกว้างของห้อง ยกพื้นขึ้นไปยังจุดวางโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ชิดผนังกระจกที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครได้ชัดเจน บัดนี้เก้าอี้หันหลังให้กับผู้มาใหม่ ดูท่าเจ้าของห้องจะเพลิดเพลินกับวิวเมืองกรุงพอสมควร

“เมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์ครับ ผมพาผู้อำนวยการฝ่ายการเงินมาแนะนำให้รู้จัก” ณรงค์เอ่ย

โมนาดึงสูทตึง ยืนเชิดหน้าวางมาดเคร่งขรึมเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับซีอีโอคนใหม่ ทว่าเมื่อเก้าอี้หมุนมาช้าๆและผู้ชายในชุดสูทสีดำตัดเย็บเข้ารูปเนี้ยบกริบลุกขึ้นยืน เพียงดวงตาสองคู่สบสานกัน บรรยากาศในห้องก็ราวกับกลายเป็นสุญญากาศไปในบัดดล

“โนแอล!”

“ลิซ่า!” ทั้งคู่พึมพำเสียงแทบดังไม่พ้นริมฝีปาก

โมนารีบเม้มปากระงับความตื่นเต้น ขณะยืนนิ่งคอยให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลแนะนำ

“เมอร์ซิเออร์โนแอล เดอแบร์มองต์ ซีอีโอคนใหม่ของลียองไทยแลนด์ แล้วนี่ก็ดอกเตอร์โมนา วิมาลิน ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินครับ”

โนแอลเดินอ้อมโต๊ะมายื่นมือให้หญิงสาวด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” โมนาเอ่ยเสียงเรียบ กลั้นยิ้มสุดความสามารถ

ชายหนุ่มหันไปทางณรงค์ “ขอบคุณที่พาคุณโมนามาแนะนำ คุณออกไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะคุยกับเธอเอง” เขาคอยจนเหลือกันตามลำพังในห้องแล้วจึงยิ้มกว้าง “ลิซ่า...ดีใจจังที่เราทำงานที่เดียวกัน”

“นี่คุณกลายมาเป็นซีอีโอของลียองได้ยังไงกันคะ แล้วที่คุณบอกว่าเมื่อวานมาประชุม แปลว่า...”

ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลละเอียดยาวระบ่าพยักเบาๆ “ถูกละ ผมมาประชุมที่นี่ มิน่า คุณณรงค์บอกว่า ผอ.การเงินลากิจ ผมยังนึกว่ายายผอ.นั่นจงใจหลบหน้าผมซะอีก ที่แท้ก็เพราะคุณนอนอยู่ที่ห้องผมต่างหาก”

โมนาขมวดคิ้วและเขม้นตามองเขาอย่างจับสังเกต “แน่ใจนะคะว่าคุณไม่รู้มาก่อนว่าฉันทำงานที่นี่จริงๆน่ะ”

“คุณคิดว่าไงล่ะ” เขาถามยิ้มๆ สีหน้ามีเลศนัยล้อเลียน

และนั่นทำให้โมนาสังหรณ์ใจขึ้นมาวูบหนึ่งว่า บางทีโนแอลอาจไม่ใช่ชายหนุ่มเจ้าสำราญดังท่าทีภายนอก เมื่อวานเขาคะยั้นคะยอให้เธอออกกำลังกายจนเหนื่อยแทบตาย แถมยังชักจูงขึ้นไปที่ห้องสวีตด้วย แม้จะดูเหมือนไม่ได้คิดร้าย แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเจตนาดีจริงๆ เขาอาจรู้อยู่แล้วว่าเธอทำงานที่นี่ และจงใจหาทางเข้าตีสนิทด้วยวิธีการแปลกๆ เพื่อ...

โมนากลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ แค่คิดว่าอาจมีคนรู้ ‘เรื่องนั้น’ ก็เริ่มร้อนใจเสียแล้ว!

หญิงสาวลบรอยยิ้มออกจากใบหน้า ย้อนถามอย่างเย็นชาแทน “ไม่ทราบสิคะ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย ไม่รู้แม้กระทั่งฉันต้องเรียกคุณว่าเมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์หรือ...”

“ไม่เอาน่าลิซ่า คุณก็รู้ว่าผมล้อเล่น ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณทำงานที่นี่ อย่าทำท่าเหมือนโกรธผมอย่างนี้สิ สำหรับคุณ ผมคือโนแอลยังไงล่ะ”

“คุณเป็นเจ้านายโดยตรงของฉัน ฉันคงไม่กล้าเรียกคุณตีเสมออย่างนั้นหรอกค่ะ” โมนาขยับออกห่างวางระยะกับเขาโดยอัตโนมัติ “คุณมีอะไรจะสั่งไหมคะ”

“ลิซ่า...” เขาเรียกเสียงอ่อน

“ถ้าไม่มี ฉันขอตัวกลับไปทำงานต่อนะคะ” หญิงสาวก้มศีรษะนิดๆ แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของซีอีโอหนุ่มรูปหล่ออย่างรวดเร็ว

เพียงผลักประตูไม้ออกมา โมนาก็ตวัดค้อนใส่แสงดาวที่ทำรีรอไม่รู้ไม่ชี้อยู่ไม่ห่าง ท่าทางคงไม่รามือง่ายๆ โอย...เจ็บใจ! ทำไมโนแอลต้องเป็นซีอีโอของลียองด้วย นี่ถ้าเขาไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ เธออาจขอร้องโนแอลมาเล่นสวมรอยแผลงๆแกล้งคนแถวนี้สักหน่อย ให้แสงดาวและพนักงานใจร้ายทั้งหลายอิจฉาจนขนตาไหม้ไปเลย!

“อ้าว! ถูกเมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์เอ็ดหรือคะ หน้าคว่ำเป็นภควัมเชียว” แสงดาวยิ้มเย้ย

“ลิซ่า!” เสียงโนแอลดังตามหลังพร้อมกับเจ้าตัวโผล่ออกมาจากประตู

เจ้าของชื่อหันไปเผชิญหน้ากับเขาด้วยสีหน้าไม่ยี่หระใดๆ สายตาสองคู่จ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

แต่แล้วแสงดาวก็หัวเราะขัดจังหวะ เจ้าหล่อนใช้ภาษาอังกฤษด้วยความจงใจ “เมอร์ซิเออร์เดอแบร์มองต์เข้าใจผิดแล้วค่ะ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินเธอชื่อโมนาต่างหาก”

“ขอบคุณที่บอกครับ แต่ผมยังไม่ได้ถามเลยนะ” โนแอลหันไปบอกฝ่ายนั้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ จากนั้นเอื้อมมือมาดึงชายเสื้อสูทของโมนาเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “เข้ามาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนนะครับ ได้โปรด”

โมนายืนนิ่ง เห็นจากปลายหางตาว่ากำลังถูกจับตามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลายคนถึงกับอ้าปากค้างที่โนแอลมีท่าทางงอนง้อเธอแปลกๆ ทั้งเธอยังเมินใส่เขาด้วย เรื่องที่เธอถูกแฟนชัชวินบุกมาอาละวาดยังเป็นที่ฮือฮาลือกันกระหึ่มบริษัท ยิ่งเมื่อวานเธอลางาน คนนินทาก็ยิ่งใส่สีตีไข่กันว่าเธออกหักยับเยินนอนเลียแผลใจอยู่บ้าน ไม่กล้ามาเจอหน้าชัชวินเพราะกลัวถูกบอกเลิก มาวันนี้เธอก็มีเรื่องใหม่ให้ผู้คนจินตนาการกันอีกแล้ว

“ฉันมีงานต้องทำ ขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ” โมนาดึงเสื้อจากอุ้งมือเขา แล้วย่ำเท้าตึงๆจากไป

“ลิซ่า...มาคุยกันก่อนน่า” ชายหนุ่มก้าวเร็วๆตามหลังมา

หญิงสาวเดินได้แค่สองก้าวก็หยุดเมื่อนึกการแก้เกมสนุกๆได้ โมนาสะบัดหน้าผ่านโนแอลที่ยืนอยู่ไม่ห่าง แล้วหันไปทางแสงดาวซึ่งยังคงมองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจ หญิงสาวจงใจเอ่ยด้วยภาษาไทยเพราะไม่อยากให้โนแอลเข้าใจ “สงสัยพ่อรูปหล่อของคุณแสงดาวจะชอบของแปลกนะคะ ดูสิ...เจอกันแป๊บเดียวถึงกับละเมอเดินตามฉันมาเลย จะว่าไปโลกนี้ก็มีความยุติธรรมอยู่เหมือนกันนะ ว่าไหมคะคุณแสงดาว” โมนาแกล้งยิ้มกริ่มวางท่าอารมณ์ดี ทว่าเมื่อตวัดตามองผ่านโนแอล เธอก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความฉงน เพราะเขากำลัง...กลั้นยิ้ม!

โมนาปัดความสงสัยทิ้ง เดินอ้อยอิ่งกลับไปที่ห้องทำงาน ทั้งที่หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความสะใจ รู้ดีว่าสายตาหลายคู่มองตามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

“ลิซ่า...หลบหน้าผมไปเถอะ ยังไงผมก็จะต้องให้คุณฟังคำอธิบายจากผมให้ได้” โนแอลตะโกนไล่หลัง

โมนาเหลือบมองผ่านกระจกห้องทำงาน เห็นพนักงานทำท่าอยากนินทาสุดขีดแล้วก็แอบยิ้ม ตอนนี้จินตนาการของทุกคนคงกำลังปั่นป่วนเต็มที่แล้ว

แสงดาวมองตามหลังคู่กรณีด้วยความงุนงง แล้วจึงหันไปทางณรงค์ รำพันเสียงเบา “นี่มันอะไรกันคะคุณอา ดาวงงไปหมดแล้ว”

ณรงค์ยิ้มหยัน ดวงตามีร่องรอยหมิ่นแคลน “ถามผม แล้วคุณดาวจะให้ผมไปถามใครล่ะ”



เกือบสองชั่วโมงแล้วที่โมนาตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับเอกสารบนโต๊ะ แต่แล้วช่อกุหลาบขาวแซมเฟิร์นเขียวสดห่อกระดาษสาสีม่วงอ่อนผูกริบบิ้นขาวและม่วงก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

โมนามองตามช่อดอกไม้ไล่ขึ้นไปถึงเจ้าของมือแล้วเม้มปากแน่น เธอตวัดตาไปทางประตูห้อง ก็พบว่าบัดนี้มันถูกงับเข้าสนิท แถมม่านในห้องก็ถูกรูดปิดด้วย

“โมยังไม่หายโกรธผมอีกหรือ ผมขอโทษ ผมถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกจริงๆนะ เขาจงใจเข้ามาตีสนิท ชวนผมไปไหนมาไหนด้วย แล้วก็ถ่ายรูปไว้แบล็กเมล์ผม” ชัชวินดึงมือเธอไปรับช่อดอกไม้ “ผมสั่งไม่ให้เขามายุ่งกับคุณแล้ว เชื่อผมนะครับคนดี”

“ฉันจบดอกเตอร์นะคุณชัช ไม่ใช่อนุบาลสาม โอเคปะ” โมนาสะบัดมือออกจากการเกาะกุม ทั้งยังวางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี “ไม่มีผู้ชายสติดีที่ไหนทิ้งผู้หญิงสวยๆอย่างนั้นมาเลือกฉันหรอก”

“โม...อย่าดูถูกตัวเองสิ ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งว่าผมรักคุณ ผมไม่เคยสนใจเรื่องพวกนั้นเลย”

“ขอบคุณที่ย้ำอีกครั้ง แต่ฉันไม่เชื่อ”

ชัชวินย่างสามขุมเข้ามาใกล้หญิงสาว “ผมโกรธแล้วนะ ทำไมคุณถึงดื้ออย่างนี้ ฟังกันบ้างสิ”

“คิดว่าตัวเองโกรธเป็นคนเดียวเหรอ ฉันถูกผู้หญิงของคุณชี้หน้าด่าปาวๆจนคนเมาท์กันทั้งออฟฟิศ ฉันก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ” โมนาถอยหลัง ชี้มือไปที่ประตู “ไปซะคุณชัช จากนี้ไปเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันก็พอ อย่าบังอาจเข้ามาในห้องทำงานของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก”

“ทำไมพูดกับผมอย่างนี้ พูดเหมือนคนไม่มีเยื่อใยเลย” เขาพ้อด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“ไม่ต้องมาดราม่าแถวนี้ ฉันไม่อิน” โมนาเมินหน้าหนีไปทางอื่น ไม่สบตาคู่นั้นเพราะกลัวตัวเองใจอ่อน

“ที่ผ่านมาโมเคยรักผมบ้างไหม หรือแค่...”

“พอเลย!” โมนาตวาด ชิ้นิ้วสั่นระริกไปที่ประตู “ออกไป ฉันไม่อยากฟังคุณแก้ตัว คุณมันทุเรศ คบฉันเพราะหวังเงินทองของฉันใช่ไหม อยากได้เท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะเซ็นเช็คให้ แล้วออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว”

“คุณกำลังดูถูกความรักของผมอยู่นะ!” ชัชวินโวยหน้าเคร่ง

“ฉันดูไม่ผิดต่างหาก ฉันน่าจะรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายหล่อๆไม่มีวันชอบกระปุกตังฉ่ายหน้าเหมือนเต้าหู้เละๆหรอก เชิญคุณไปสรรหานางฟ้าสวยๆที่คู่ควรกับคุณมาควงเถอะ ปล่อยฉันไว้อย่างนี้แหละ อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย”

“ต้องให้ผมพูดอีกกี่ครั้งนะโม ว่าผมรักคุณ” เขาย่างสามขุมเข้ามาใกล้

“ไม่ต้องพูดอีกเลยดีกว่า เพราะฉันไม่เชื่อคุณ” โมนาเชิดหน้าสบตาอีกฝ่ายด้วยแววตาท้าทาย

พลันชัชวินก็ตวัดมือรอบเอว ดึงเธอเข้าไปกอด พึมพำเสียงพร่า “โม...เชื่อผมนะ ผมรักคุณจริงๆ”

โมนาตกตะลึงตัวแข็ง เกิดมาจนจะสามสิบรอมร่อ แต่นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เธอถูกเพศตรงข้ามกอดในเชิงเสน่หา หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก ปรามเสียงแข็ง “คุณชัช อย่ามาทำรุ่มร่ามแถวนี้นะ ฉันไม่ชอบ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น โมนารีบผลักชัชวินออกห่างและหันไปมอง แล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เพราะบานประตูห้องเปิดแง้มโดยมีผู้ชายตัวโตยืนอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งเท้าวงกบ ขณะอีกข้างแตะอยู่ที่ประตู

“ผมเคาะเรียกตั้งหลายครั้งไม่ได้ยินเสียงตอบรับ นึกว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่า ก็เลยถือวิสาสะเปิดเข้ามาเลย ขอโทษด้วยที่มารบกวนเวลาส่วนตัว” โนแอลเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ

“เอ่อ...” โมนาตะกุกตะกัก นึกไม่ออกว่าจะอธิบายอย่างไรดี “คือ...”

ในที่สุดหญิงสาวจึงตัดสินใจหาข้ออ้างลอยๆโพล่งออกไปแก้เก้อ “คุณชัชกลับไปทำงานก่อนเถอะค่ะ ส่วนเรื่องที่จะขออนุมัติค่าใช้จ่ายรอบพิเศษ คุณเอาเอกสารมาฝากไว้ละกัน แล้วฉันจะพิจารณาอีกที”

“ตกลงครับ” ชัชวินก้มศีรษะนิดๆ น้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางประตูด้วยท่าทางไม่เต็มใจ

โนแอลผลักประตูเปิดกว้าง ก้าวเข้ามาในห้อง คอยจนผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านหน้าเขาไปแล้ว ซีอีโอคนใหม่จึงงับประตูปิดอีกครั้ง มายืนหน้าโต๊ะโมนา ปลดกระดุมเสื้อสูทแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ พลางชี้ช่อดอกไม้บนโต๊ะ “ดีกันแล้วหรือ”

“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของดิฉัน”

“ลิซ่า...อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงงี่เง่า ขอร้องเหอะ คุณไม่พอใจอะไรก็พูดมาตรงๆ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

“ฉันชื่อโมนา”

“นั่นแหละ จะอะไรก็ช่าง เมื่อวานคุณน่ารักกว่านี้ ผมไม่เข้าใจ คุณน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอที่เราทำงานที่เดียวกัน จากนี้ไปจะได้ไม่มีแต่คนใจร้ายในที่ทำงานยังไงล่ะ”

โมนากลอกตาไปมา เธอไม่ได้โกรธที่เขาเป็นซีอีโอของลียอง แต่รู้สึกเหมือนวางตัวไม่ถูกต่างหาก เพราะสถานะระหว่างกันกลายเป็นเรื่องอิหลักอิเหลื่ออย่างน่าขัน “ทำไมคุณไม่บอกฉันสักคำว่าคุณจะมาเป็นซีอีโอที่ลียอง”

“เมื่อวานคุณก็ไม่บอกผมเหมือนกันว่าคุณเป็นพนักงานที่นี่” เขาย้อนเสียงเรียบ

ความคิดที่จะเถียงต่อปลิวหายไปจากใจโมนาทันที

“เอ่อ...จริงด้วย” คงขี้อวดน่าดูถ้ารีบแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ว่าทำงานที่ไหน และตำแหน่งอะไร เมื่อรู้ตัวว่าผิด โมนาก็ไม่ตะแบง “ฉันขอโทษที่ผลีผลามตัดสินคุณเกินไป”

“คุณคิดว่าผมรู้อยู่แล้วว่าคุณทำงานที่ลียอง และผมจงใจปกปิดความจริงเรื่องที่จะมาเป็นซีอีโอที่นี่เหรอ”

โมนาคอตก “ฉันรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่า แต่เมื่อกี้ตอนคุณล้อเล่น ฉันเชื่อไปแล้วนี่นา ขอโทษด้วย”

ชายหนุ่มอมยิ้ม ส่ายหน้านิดๆ “ให้อภัยก็ได้ รู้หรือเปล่า...ทีแรกผมก็ตกใจนะ แต่วินาทีถัดไปผมกลับดีใจมากกว่า ผมไม่ต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าแล้ว อย่างน้อยผมก็มีคุณเป็นเพื่อนตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย”

โมนาสะดุ้ง เพิ่งนึกได้ ตายแล้ว! เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่จะผ่านมาแล้วผ่านไป แต่เขา...กลายเป็นเจ้านายของเธอ นี่เธอบอกอะไรเขาไปบ้างเนี่ย ทั้งเรื่องชัชวิน เรื่องเพื่อนร่วมงาน เรื่อง...อาถรรพ์ซุ้มเล็บมือนาง!

หญิงสาวเอนพิงพนักอย่างหมดแรง เสียงจ๋อยสุดๆ “ฉันบอกความลับของตัวเองกับคุณทุกเรื่องเลย”

“ไม่เป็นไร ผมเก็บความลับได้” โนแอลยิ้มกว้าง

เจ้าของห้องสูดหายใจเข้าลึกเหมือนต้องการความแน่ใจว่าไม่ได้กำลังฝัน “คุณเป็นซีอีโอจริงๆเหรอเนี่ยโนแอล คุณประสบความสำเร็จเร็วมากเลยนะ ฉันเห็นส่วนมากก็ต้องสี่สิบทั้งนั้นถึงจะขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงขนาดนี้ได้”

“ผมรู้ว่าทางลัดอยู่ตรงไหน ทำไมต้องเดินทางตรงล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มกว้าง สีหน้ามีร่องรอยภาคภูมิ เขาโน้มตัวมาเคาะปลายนิ้วที่พวงแก้มเธออย่างล้อเลียน “เราดีกันแล้ว งั้นกลางวันนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ”

“ฉันไม่ใช่เด็กนะ แหย่ฉันอยู่ได้” โมนาปัดมือเขาออกพลางยู่หน้า “คุณไม่กลัวคนมองเหรอ”

“เมื่อวานผมก็ไปกินข้าวกับคุณ มันไม่ต่างกันหรอก”

“ตอนนั้นไม่มีใครรู้จักเรา แต่นี่...พนักงานทั้งบริษัทรู้จักคุณ รู้จักฉัน”

“คุณอายไหมที่ต้องไปกินข้าวกับผม”

“ไปกับคนหล่ออย่างคุณ ใครเขาอายกันเล่า แต่คุณน่ะต้องไปกับคนขี้เหร่...”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นปรามทันที “ถ้าคุณพูดว่าตัวเองขี้เหร่อีกครั้ง ผมจะหักเงินเดือนคุณ”

โมนาเม้มปากแน่นกลั้นเสียงหัวเราะ กระนั้นมุมปากก็ยังยกขึ้นอยู่ดี “ฉันมีให้หักเยอะ”

“นั่นแหละ...มีเยอะแค่ไหนก็จะหักจนหมดเลย คอยดู” โนแอลคาดโทษจบก็ลุกขึ้นยืน มือกลัดกระดุมเสื้อสูทเข้าที่ “เที่ยงผมจะแวะมารับนะ”

“ไปเจอกันที่หน้าลิฟต์ก็ได้ค่ะ”

“คุณเคยบอกว่าที่นี่มีแต่คนใจร้าย แล้วผมจะปล่อยคุณเดินฝ่าคนพวกนั้นไปที่ลิฟต์ตามลำพังได้ไง เดี๋ยวผมมารับน่ะดีแล้ว” ชายหนุ่มยักคิ้วนิดๆ แววตาเจ้าเล่ห์

“ก็ได้ค่ะ” โมนาเดินไปเปิดประตูกว้าง แล้วยืนคอย ...

โนแอลก้าวออกมานอกห้อง แต่แล้วกลับหมุนตัวมายืนเท้าสองมือลงบนบานประตู กักหญิงสาวไว้ตรงกลาง พลางเอ่ยเสียงดังราวกับรู้ว่าพนักงานทั้งแผนกกำลังเงี่ยหูรอฟังอยู่ “ผมดีใจ...ที่คุณไม่โกรธผมแล้ว”

โมนาหน้าตื่น ถามด้วยสายตาว่าเขามีเหตุผลใดจึงทำตัวสนิทสนมกันออกสื่อเช่นนี้ และเพียงเห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์นั้น เธอก็ยกมุมปากขึ้นรับมุกทันที “คุณขอโทษฉันแล้วนี่คะ ขืนยังโกรธอีก ฉันคงเป็นผู้หญิงที่แย่เต็มที”

โนแอลเชยคางเธอขึ้น แต้มยิ้ม “ผมชอบเวลาคุณทำหน้าแบบนี้จัง ผมไปทำงานก่อนนะ เที่ยงนี้เจอกันครับ” แล้วคนตัวสูงในชุดสูทสีดำสุดเท่ก็หันหลังก้าวไปตามทางเดินเพื่อกลับไปยังห้องทำงานส่วนตัว

โมนากวาดตามองรอบๆ เห็นสายตาของพนักงานทุกคู่มองมาที่เธอด้วยอาการสนใจใคร่รู้ หญิงสาวไม่เอ่ยสักคำ แต่หมุนตัวกลับเข้าไปห้องโดยเปิดประตูค้างไว้ ผู้อำนวยการสาวเอียงหูฟังเสียงหึ่งๆที่ดังลอดมาให้ได้ยินเบาๆพลางอมยิ้ม เธอรู้ว่าการนินทาเริ่มขึ้นแล้ว และแน่นอนว่าคราวนี้ต้องไม่ใช่ด้วยน้ำเสียงสมเพช แต่เป็น...ริษยา!


(จบครึ่งแรก)



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ต.ค. 2556, 10:37:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ต.ค. 2556, 10:37:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1829





<< ตอนที่ ๔ (จบตอน)   ตอนที่ ๕ (จบตอน) >>
maybelittledevil 22 ต.ค. 2556, 11:20:30 น.
5555555555555 ตามอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกนะคะ แต่ตอนนี้ต้องมาให้กำลังคนเขียนหน้าบ้านแล้วค่ะ เพราะมันฮามาก เจ้าเล่ห์ทั้งคู่เลย น่ารักดีค่ะ


ปรางขวัญ 22 ต.ค. 2556, 11:30:31 น.
เยี่ยมเลย เริ่มเชียร์โนแอลให้เป็นแฟนกับโมนาแล้วนะคะ น่ารักจัง


นปารมี 22 ต.ค. 2556, 11:45:17 น.
มาลงยั่วน้ำลายกันชัดๆนะจ๊ะคุณน้อง 23 เจอกัน ใช่ป่ะ


Zephyr 22 ต.ค. 2556, 15:58:11 น.
ฮ่าๆๆๆๆ โนแอลๆๆๆๆๆๆ
เอาคนนี้เป็นพระเอกได้มั้ย
ได้ข่าว อีกสองยังไม่เปิดตัว????
ยังไม่อยากปันใจ ตอนนี้ฟินกะลิซ่า โนแอล มากกกกกกกกกกกกกก


รักเร่ 22 ต.ค. 2556, 19:36:08 น.
คู่นี้น่ารักดีจัง


Pat 22 ต.ค. 2556, 19:51:01 น.
มาเร็วยาวสะใจเลยตอนนี้. เอ โมนามีปัญหาอะไรซ่อนอยู่นะเดี๋ยวจะกระทบความสัมพันธ์อันดีหรือเปล่า


konhin 22 ต.ค. 2556, 20:24:35 น.
ฮามากๆ โนเอลต้องฟังออกแน่ๆ


OhLaLa 22 ต.ค. 2556, 22:46:07 น.
ชอบมากมายาววววๆ อ่านจุใจ โนแอลกับโมนาคู่นี้เคมีตรงกัน แค่โนแอลเราก็ฟินแล้วค่ะ 55


นักอ่านเหนียวหนึบ 23 ต.ค. 2556, 01:08:56 น.
555 ขออำภัยไรเตอร์จิๆ เลย
เค้าแอบอ่านชื่อพระนาง สับสนไปนิด เพี้ยนไปเป็น โมแนล กะโนอา 5555
แหม ชื่อคล้องจองกันแบบนี้ เข้ากั๊นนนเข้ากัน
จะมีอัลไลมาป่วนอีกมั้ยน้าา
แอบเหวอ มิคิดว่ายัยป้าแสงดาว ชีจิเป็นแม่สาวทึนทึก อูยยย ออฟฟิศนี้ช่างน่าสงสาร ทรัพยากรชายคงน้อยเต็มที จิงๆ สินะ


ree 23 ต.ค. 2556, 04:20:15 น.
ซีอีโอทำเป็นเล่น สุดท้ายน่าจะตกหลุมรักยัยกระปุกตั้งฉ่ายจริงๆ


ketza 5 ธ.ค. 2556, 09:29:26 น.
จิ้นคู่นี้คร๊า..... คุงโนแอลจะน่ารักเกินไปแระ >////<


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account