ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี

ตอน: บทที่ 15 คนในฝัน

๒๐

คนในฝัน





อาโนและเลไอพาชลันธรเดินมายังใต้ต้นไม้ใหญ่อีกด้านของตลาด ก่อนที่ชายหนุ่มจะถามขึ้นพร้อมกับความประหลาดใจที่พลุ่งพล่านอยู่ข้างใน

“เจ้ารู้จักพี่ธศิญาด้วยเหรอ”

“จริงๆฉันไม่เคยเจอเธอหรอกค่ะ แต่ฉันฝันถึงเรื่องราวของเธอจนคิดว่าเธอน่าจะมีตัวตนจริง และต้องการความช่วยเหลือจากฉัน” จากนั้นหญิงสาวก็เล่าให้สองพี่น้องฟังทั้งหมดว่าในความฝันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้ววินาทีนั้นเอง แสงสว่างก็วาบเข้ามาในหัวเมื่อนึกขึ้นได้ “พวกคุณ” ดวงตากลมโตเป็นประกายเจิดจ้า ฉายแววยินดีปนตื่นเต้น

“อะไร พวกข้าทำไม” เลไอถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

“พวกคุณคืออาโนกับเลไอคนเดียวกันกับในฝันของฉัน และที่นี่ก็คือหมู่บ้านโกพันที่คุณธศิญากับคุณชวาลีมาพักระหว่างหนีออกจากคฤหาสน์”

“ใช่! พี่สองคนนั้นไปพักที่บ้านของพวกเรา” อาโนรู้สึกว่ายิ่งคุยกันก็ยิ่งได้พบเรื่องไม่น่าเชื่อ

“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เลไอหยิกแขนตัวเองเพื่อให้รู้ว่าไม่ได้กำลังฝันไป

“ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณสองคนจริงๆ” ชลันธรเอ่ยอย่างดีใจ เมื่อจิ๊กซอว์หลายชิ้นเริ่มต่อกันกลายเป็นภาพชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นภาพที่สมบูรณ์ เมื่อยังมีอีกหลายเรื่องต้องค้นหาคำตอบ

“เป็นไปได้ยังไงที่เจ้าจะฝันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยเจอธศิญา ชวาลี และพวกข้าสองคนมาก่อน” อาโนถามต่อพลางขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ทุกอย่างอาจถูกกำหนดไว้แล้วก็ได้นะคะ” เธอเชื่ออย่างยิ่งว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คนเราจะมาเจอกัน แต่เป็นเรื่องของโชคชะตาที่เคยเกี่ยวพันกันทั้งในทางดีและไม่ดี

อาโนและเลไอพยักหน้าช้าๆ ชลันธรไม่ได้โกหกแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เธอคงไม่สามารถเล่าเรื่องของลูกสาวผู้ปกครองเขตราศิได้ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องเมื่อครั้งยังเด็กที่เขาและน้องสาวเคยให้ความช่วยเหลือพี่ธศิญากับพี่ชวาลี

“พี่สองคนนั้นมาพักที่บ้านของข้ากับน้อง แต่ยังไม่ทันพ้นคืนแรก ทหารของเขตราศิก็จับตัวพวกเขากลับไป ส่วนเรื่องราวต่อจากนั้น ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างที่รู้ว่าหมู่บ้านโกพันอยู่ในป่าลึก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก พวกเราไม่ค่อยรู้ข่าวหรอกว่าในเมืองมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง” ชายหนุ่มผมยาวระบ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหดหู่

“พวกข้าสงสารพี่ธศิญากับพี่ชวาลีมาก แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะทหารมีอาวุธ แล้วพวกข้าก็ยังเด็ก จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยี่สิบห้าปีแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขาอีกเลย” เลไอเล่าแล้วก็น้ำตาซึมเมื่อนึกถึงเพื่อนเก่า

ชลันธรระบายลมหายใจเบาๆเมื่อฟังจบ ชีวิตของลูกสาวผู้ว่าการที่ใครหลายคนอาจมองว่าสมบูรณ์แบบ แต่แท้จริงน่าสงสารจับใจ และยิ่งรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เธอก็ยิ่งแน่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จู่ๆจะฝันถึงธศิญา

“พี่ธศิญาอาจโดนจับแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อแม่เลือกให้ และตอนนี้คงไม่มีความสุขเลย” ดวงตาของเลไอฉายแววเวทนาจับใจ

“ฉันต้องตามหาคุณธศิญาให้พบ” ชลันธรบอกด้วยแววตามุ่งมั่นแรงกล้า

“เจ้าจะไปตามหาที่ไหน” อาโนถาม

“นั่นสิ” เลไอเองก็อยากรู้เช่นกันว่าเพื่อนเก่าของตนเป็นอย่างไรบ้าง

“เธอแต่งงานกับคุณดุริยะ ลูกชายของอดีตผู้ว่าการเขตปาณษา เพราะฉะนั้นคุณธศิญาก็น่าจะอยู่ที่คฤหาสน์ของผู้ว่าการ” เธอไม่รู้ว่าทำไมต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ รู้แต่ว่าจะปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆไม่ได้

ขณะนั้นใบหน้าคมของจิณลีก็ลอยเข้ามาในความคิด เธอควรจะกลับไปหาเขาก่อนที่จะเดินทางไปยังคฤหาสน์ผู้ว่าการเขตปาณษา จริงสิ เขาเองเป็นคนที่นั่น อาจรู้เรื่องธศิญามากกว่าอาโนกับเลไอ เขาน่าจะช่วยเหลือเธอได้ไม่น้อย



จิณลีดึงสายบังเหียนม้าสีขาวตัวใหญ่ให้หยุดวิ่งเมื่อมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ชายหนุ่มลงจากหลังม้าและปล่อยคีรีไว้ด้านนอกโดยไม่มัดเช่นเคย ก่อนเดินตรงไปยังบ้านไม้สองชั้นหลังขนาดกลางที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเงาไม้ใหญ่ร่มครึ้ม และไม่จำเป็นต้องเคาะประตู เสียงจากข้างในก็ดังขึ้น

“เข้ามา” น้ำเสียงแหบต่ำนั้นเต็มไปด้วยอำนาจ

มือหนาผลักประตูบานใหญ่เบาๆ บรรยากาศภายในชั้นล่างของบ้านค่อนข้างทึบทึมเนื่องจากหน้าต่างทุกบานปิดสนิท มีเพียงแสงสลัวรางจากตะเกียงเจ้าพายุส่องพอให้มองเห็นชายชราผมขาวยาวถึงกลางหลังในชุดสีเข้มที่กำลังหลับตานั่งทำสมาธิอยู่หน้าแท่นซึ่งเต็มไปด้วยรูปปั้นบูชามากมาย

จิณลีนั่งลงบนพื้นที่ปูลาดด้วยพรมสีดำ โดยทิ้งระยะห่างจากผู้อาวุโสเล็กน้อย รอจนท่านลืมตาขึ้น

“ว่ายังไงจิณลี” ผู้เฒ่าตโมนุทถามเหลนชายด้วยใบหน้าเรียบสงบ ดวงตาเหี่ยวย่นของท่านเจือไปด้วยแววของความรักและเอื้อเอ็นดู

“ผมมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือจากท่านทวด” เมื่อชายชราพยักหน้าอนุญาต จิณลีจึงเข้าเรื่อง

พอเหลนชายเล่าจบ ผู้เฒ่าตโมนุทก็เอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “กำไลหงส์ทิวาอยู่กับชลันธรงั้นรึ” ท่านขมวดคิ้วเข้าหากัน ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากปรากฏขึ้นตามวัย กำไลเพชรเก่าแก่ที่เขาตามหามาเนิ่นนาน มาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ได้ยังไงกัน

“เธอบอกว่าได้มาจากร้านอัญมณีเก่าๆแห่งนึงที่โลกของเธอ และกำไลหงส์ทิวาพาเธอข้ามมิติมาที่นี่ครับ”

“เธอต้องมีอะไรพิเศษ” ชายชราหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด

“นั่นสิครับ กำไลหงส์ทิวาราคาแพงจนประเมินค่าไม่ได้ก็จริง แต่มันเป็นแค่กำไลธรรมดาที่ไม่มีพลังอะไร ทำไมพออยู่กับชลันธรแล้วกลับสามารถเป็นสื่อพาเธอข้ามมิติมาได้ ไม่น่าเชื่อ”

“กำไลหงส์ทิวาก็ไม่ใช่กำไลธรรมดาเสียทีเดียวหรอก เจ้าลืมไปแล้วรึ” เมื่อปู่ทวดถาม ผู้เป็นเหลนก็นึกออกทันที

“ท่านทวดคิดว่าเกี่ยวกับสิ่งนั้นเหรอครับ” คิ้วหนาเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่รึ แต่ยังไงก็สรุปตอนนี้ไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าเธอกลับมาเมื่อไหร่ เจ้าต้องหาทางเอากำไลวงนั้นกลับมาให้ได้” สีหน้าของท่านจริงจังขึ้น

“ครับท่านทวด” จิณลีรับคำหนักแน่นก่อนบอก “ผมอยากรู้ว่าตอนนี้ชลันธรอยู่ที่ไหน ยังอยู่ที่บ้านของเธอ…หรือว่ากลับมาภูทิวาแล้ว แต่อาจไปอยู่ในที่ที่เธอไม่รู้จัก” น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย

“ถ้าอยากรู้ว่าชลันธรอยู่ที่ไหน ทวดก็จะช่วยเจ้า” ผู้อาวุโสกล่าวจบก็หลับตาลงด้วยท่าทางสงบนิ่ง เพียงอึดใจท่านก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง “ชลันธรอยู่ที่หมู่บ้านแถวชายแดนเขตราศิ”

“ราศิเหรอครับ”

“ใช่ เธอปลอดภัย มีคนช่วยเหลืออย่างดี เจ้าไม่ต้องห่วง” ผู้เฒ่าตโมนุทเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา ท่านยินดีใช้พลังช่วยเหลือเสมอ ไม่ว่าเหลนต้องการอะไร ขอเพียงให้เหลนแท้ๆคนเดียวของท่านที่เหลืออยู่มีความสุขเท่านั้น

“ขอบคุณครับท่านทวด” จิณลีค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพรักผู้อาวุโส



อาโนและเลไอขี่ม้ามาส่งชลันธรในเขตป่าปาณษาหลังจากพาหญิงสาวกลับไปรับประทานอาหารเที่ยงที่บ้าน ตอนนี้หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อและกางเกงสีเข้มรัดกุม ผมสีดำยาวถูกรวบเก็บเป็นมวยเรียบร้อยเพื่อความคล่องแคล่ว

“ขอโทษจริงๆที่พวกข้าไปส่งเจ้าถึงในเมืองไม่ได้” เลไอบอกอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ นี่ก็ใกล้เขตเมืองปาณษามากแล้ว” ด้วยความที่ชายหนุ่มและหญิงสาวไม่ใช่คนของภูทิวา หากลักลอบเข้าไปในประเทศอาจโดนทหารจับได้ จึงส่งได้เพียงเท่านี้ ทว่าสองพี่น้องก็เตรียมเสบียงให้ชลันธรจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งมีดพกเอาไว้ป้องกันตัวระหว่างเดินทาง

“ขอให้โชคดีนะ” อาโนอวยพร

“ขอบคุณอาโนกับเลไออีกครั้งนะคะ ฉันดีใจที่ได้รู้จักคนดีๆแบบพวกคุณ” ชลันธรรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกิน เพราะตั้งแต่มาที่ภูทิวา นอกจากจิณลีแล้ว อาโนและเลไอที่เพิ่งเจอกันก็ยังอุตส่าห์เข้ามาช่วยเหลือเธอยามยากลำบาก เธอจะเก็บน้ำใจของพวกเขาไว้ในความทรงจำตลอดไป

หลังจากล่ำลากันเสร็จ ชลันธรก็ออกเดินทางทันทีพร้อมกับแผนที่วาดด้วยลายมือบอกเส้นทางจากหมู่บ้านโกพันถึงเขตปาณษาซึ่งสองพี่น้องมอบให้ เส้นทางการเดินป่าครั้งนี้ แม้จะไม่ได้สบาย แต่ก็ไม่ได้ลำบากสำหรับเธอ เพราะอีกห้ากิโลเมตรก็จะเข้าเขตเมืองปาณษาแล้ว ดังนั้นเส้นทางจึงไม่ได้อันตรายเหมือนในป่าลึก จะถึงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความอดทนของเธอเท่านั้น แต่จะยากอะไร ในเมื่อยอดภูปีราที่ระยะทางไกลกว่านี้เธอยังพิชิตมาแล้ว

ทว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆลมแรงก็พัดเข้ามาปะทะร่างระหง พายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นพร้อมกับท้องฟ้าสดใสที่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เปลือกตาของชลันธรหนักอึ้งขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ กระเป๋าเดินทางเลื่อนหลุดจากมือ สุดท้ายร่างระหงก็ค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อประคองตัวไม่ไหว ก่อนสติจะหลุดลอยหายไปในที่สุด!



เมื่อหญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ชลันธรปรับสายตาอยู่ครู่ ก่อนจะหันไปมองทางซ้ายและขวา แล้วก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความประหลาดใจ เมื่อพบว่ามันคือห้องนอนเธอที่บ้านของจิณลี และตอนนี้ก็เป็นเวลาสามทุ่ม ซึ่งดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว

เสียงประตูที่เปิดเข้ามาทำให้หญิงสาวตวัดสายตาไปมองทันที และพบเจ้าของร่างสูงสง่าคุ้นตาในชุดเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามา

“ฟื้นแล้วเหรอเอลลา” เขาถามพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในป่า จู่ๆก็มีพายุก่อตัวขึ้น จากนั้นก็รู้สึกง่วง แม้พยายามฝืนเท่าไรก็ไม่เป็นผล

จิณลีส่ายหน้าไปมา “ผมไม่รู้เหมือนกันครับ อยู่ดีๆคุณก็กลับมาอยู่ในห้องนอน แถมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ผมเลยปล่อยให้นอนพักต่อตามสบาย” ดวงตาของจิณลีเปล่งประกายพราวลึกล้ำ “ผมดีใจมากๆรู้ไหมที่เราสองคนได้กลับมาพบกันอีกครั้ง” ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้อย่างทะนุถนอมและห่วงใย น้ำเสียงที่เอ่ยเต็มไปด้วยความยินดี

ไออุ่นจากสัมผัสละมุนละไมอุ่นซ่านไปจนถึงหัวใจ ชลันธรรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ มือหนากระชับแน่นขึ้นราวกับจะไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนได้อีก ดวงตาคมเรียวสีเข้มแสนมีเสน่ห์นั้นไม่มีทีท่าว่าจะละไปทางอื่น จนหญิงสาวต้องหลบตาเสียเองด้วยความขัดเขิน

“พี่มิราล่ะคะ” เธอเปลี่ยนเรื่อง พลางคิดว่าตนเองคงกลับมาที่นี่ได้เพราะอำนาจของกำไลหงส์ทิวา

“อยู่ข้างล่างครับ”

“แล้ว…” ชลันธรมองหากระเป๋าเดินทาง

จิณลีบอกโดยไม่ต้องถาม “ผมเอาไปเก็บไว้ในตู้เก็บของให้แล้ว” เขามองไปยังตู้ไม้สีขาวเตี้ยๆข้างตู้เสื้อผ้า พลางหันกลับมาสบตาคนบนเตียง “ทุกอย่างยังอยู่ครบ ไม่ต้องห่วง”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างซาบซึ้ง

“ท่าทางคุณเพลียๆ เดี๋ยวผมให้พี่มิราต้มซุปไก่ให้ คุณดื่มแล้วจะได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า” เขาปล่อยมือบางให้เป็นอิสระและลุกขึ้นจากเก้าอี้ ขณะกำลังจะเดินออกจากห้องก็หันกลับมาบอกราวเพิ่งนึกขึ้นได้ “เรื่องกำไลหงส์ทิวาที่คุณจะเล่าให้ผมฟัง ไว้ค่อยเล่าพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ วันนี้พักผ่อนก่อนดีกว่า”

ชลันธรพยักหน้าให้เขา เมื่อเจ้าของแผ่นหลังหนาเดินออกจากห้องไปแล้ว รอยยิ้มบางๆก็ผุดขึ้นบนใบหน้าหวานใสพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่ถักทอขึ้นในหัวใจ



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2556, 10:52:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2556, 10:52:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1239





<< บทที่ 14 ความจริงที่ซุกซ่อนอยู่   บทที่ 16 ปริศนาของธศิญา >>
ketza 27 ธ.ค. 2556, 10:53:26 น.
จิณคุงมาแบ้ววววววว >////<


บุลินทร 27 ธ.ค. 2556, 11:01:34 น.
ฮ่าๆๆๆๆ มาแว้วครับ


บุลินทร 27 ธ.ค. 2556, 11:01:39 น.
คุณ ketza
วันพุธไม่ได้มาาา เค้าลืมมม คุณเกตซ่าพาตามารกับคุณอัทธ์มาตามหาจิณลีเลย ฮ่าๆๆๆ วันนี้ลันกลับมาหาจิณลีแล้วนะครับ ความลับก็น่าจะใกล้เปิดเผยแล้วละ รออีกนิดครับ

คุณ yimyum
มาโผล่เจอคนในฝันพอดีเลยครับ วันนี้น้องยิ้มๆไปเที่ยวหรือยังเนี่ย จะได้มาอ่านนิยายมั้ยนะ

คุณ ริญจน์ธร
อาจจะพาไปโผล่โลกอนาคตด้วยนะ อิอิ

คุณ lovemuay
ตอนนี้เดาออกหรือยังเอ่ย แต่ถ้ายังไม่ออก ตอนหน้าได้รู้กันครับ

คุณ อสิตา
ใช่แว้ว เอาอันอีดิทมาลงเบย เพราะมันไม่เหมือนก่อนอีดิท ฮ่าๆๆ

คุณ goldensun
กำไลยังมาโผล่ยุคเดิมครับ เพราะเป็นยุคที่เกิดเรื่องเกี่ยวกับกำไล ตอนหน้าเดี๋ยวจะมีเฉลยปมแรกแล้วครับ เวลาผ่านมายี่สิบห้าปีแล้วครับ ยังเป็นปัจจุบันของจิณลีอยู่ เพราะเรื่องธศิญาผ่านมานานแล้วครับ

คุณ patok
ท่านปู่ของจิณลีก็รู้นะครับ อิอิ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ
ฮ่าๆๆๆ ไม่ได้ว่าอะไรน้า ตอนนี้มีคนที่เคยเกี่ยวข้องกับธศิญาออกมาแล้วนะครับ ส่วนตัวธศิญาจะมาเมื่อไหร่ต้องรออีกนิด ส่วนลียามารอลุ้นให้ฟื้นเร็วๆกันครับ

คุณ ดวงมาลย์
พี่จุ๊บยังไม่มีเวลาอ่านใช่ม้าย ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราแลกกันตอนเป็นเล่ม


ป.ล.ชดเชยที่วันพุธหายไป เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้อีกหนึ่งตอนนะครับ


lovemuay 27 ธ.ค. 2556, 11:22:23 น.
ยังเดาไม่ออกค่ะ แหะๆ ปูเสื่อรอตอยหน้าละกัน


อสิตา 27 ธ.ค. 2556, 14:03:55 น.
=v= ความรู้สึกที่ถักทอ... ชอบจังนะอะไรถักๆเนี่ย


ริญจน์ธร 27 ธ.ค. 2556, 20:18:36 น.
55555 ขำคอมเม้นบน


yimyum 27 ธ.ค. 2556, 20:54:58 น.
อ่านค่า แต่วันนี้มีเลี้ยงที่โรงเรียนก็เลยลืมนิยายไปสนิทเลย แฮะๆ
ปล. ว้าว ?!? ความรู้สึกถักทอ


yimyum 27 ธ.ค. 2556, 21:04:09 น.
เย้!!!พรุ่งนี้ลงใหม่


konhin 27 ธ.ค. 2556, 21:50:25 น.
ใครเป็นพระเอกกันแน่เนี่ยย


patok 27 ธ.ค. 2556, 23:08:19 น.
ถ้าจิณลีต้องเอากำไลไปให้คุณทวด แล้วชลันธรก็ไม่ได้กลับบ้านสิคะ หวังว่าจิณลีคงไม่เห็นแก่ตัวนะ


Zephyr 28 ธ.ค. 2556, 08:29:13 น.
เอ่ยยยย จินนี่เริ่มมีลับลมคมใน
พายุนั่นฝีมือนายอ้ะเป่า
หลอกพาพายุมา เพื่อเอากำไลไปรึป่ะ
จินนี่ไม่น่าไว้ใจแย้วววววว
25 ปี มายก้อดดดดด คุณธศิญาต้องเป็นป้าไปแล้วสินะ
กลายเป็นปุ๋ยไปแล้วป่าว คงไม่ใช่มั้ย บรื๋ออออออออ


ฤดูฝัน 28 ธ.ค. 2556, 16:56:54 น.
มีทวดของจิณลีเพิ่มมาอีกหนึ่ง มันยังไงกันละเนี่ย
ส่วนยัยลันเริ่มหวั่นไหวแล้วชิมิ เค้ารู้นะ 5555555

ใกล้วางแผงยังคะ อยากอ่านทีเดียวรวดเลย


ดวงมาลย์ 28 ธ.ค. 2556, 18:24:22 น.
โอเชจ้า


goldensun 29 ธ.ค. 2556, 10:30:24 น.
กำไลมีผลกับคนบางคนสิ ทวดจิณลีจะมีบทบาทยังไง จะเอากำไลไปทำไม ใครพาลันมาบ้านจิณลี
หรือเพราะทวดจิณลี รอตอนต่อไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account