ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี

ตอน: บทที่ 18 ความฝันที่หายไป

สวัสดีปีใหม่นักอ่านทุกท่านครับ วันนี้เอานิยายมาลงเป็นของขวัญปีใหม่พอดีเลย และขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาตลอดปีเลยนะครับ





๑๘

ความฝันที่หายไป





ชลันธรผวาตื่นขึ้นในตอนเช้าตรู่และพบว่าวิญญาณของธศิญาหายไปแล้ว ภายในห้องมีเพียงเธอนอนอยู่บนเตียงพร้อมกำไลหงส์ทิวาที่สวมอยู่บนข้อมือขวา

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในความฝัน ใบหน้าหวานรูปไข่ก็ฉายแววสลดหดหู่ เพราะพิษของความรักแท้ๆทำให้ชีวิตบริสุทธิ์ต้องจากไป ทำไมดุริยะถึงได้รักธศิญามากขนาดนั้น มากเสียจนน่าขนลุก!

แล้วป่านนี้ชวาลีจะยังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายไปแล้ว หวังว่าความฝันในครั้งต่อไปจะช่วยไขปริศนานี้ให้เธอได้รับรู้ด้วยเถอะ ชลันธรลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปยังตู้เก็บของ ถอดกำไลหงส์ทิวาออกและใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง แล้วปิดตู้ให้เรียบร้อย

เธอยืนทอดถอนใจอยู่ตรงนั้น ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนว่าเรื่องธศิญาเป็นความจริง แล้วแบบนี้เธอจะยังเชื่อใจจิณลีได้ไหม หญิงสาวพยายามหาคำตอบที่ดีที่สุดให้ตัวเอง

ทันทีที่ออกจากห้องนอน กลิ่นหอมหวนของนมและเครื่องเทศก็ลอยมาเตะจมูกชลันธร ตอนนี้พี่สาวของจิณลีคงเข้าครัว และเป็นดังคาดเมื่อเธอเห็นมิรากำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่

“อ้าว ชลันธร” เจ้าตัวร้องทัก

“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ” ชลันธรเสนอตัวตามสุภาษิตที่ว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย

“อื้ม เอาสิ พี่กำลังทำคัตตะ พอดีเลย เธอก็จะได้เรียนวิธีทำด้วย” พี่สาวของจิณลีพยักหน้าชวนอย่างกระตือรือร้น

แม้จะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่ถ้ามีพี่เลี้ยงคอยสอน ชลันธรก็คิดว่าตัวเองพอทำได้ จึงเข้าไปช่วยมิราทำคัตตะและอาหารเช้าอื่นๆ

“จิณลีดูแลม้าอยู่ด้านนอกโน่นแน่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นราวกับรู้ว่าชลันธรกำลังอยากรู้เรื่องนี้

ชลันธรค้อมศีรษะน้อยๆแสดงท่าทีรับรู้และยิ้มบางๆ ก่อนจะช่วยมิราทำอาหารต่อจนเสร็จเรียบร้อย

ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารตอนเก้าโมงกว่าๆ หลังจากเริ่มทานไประยะหนึ่ง จิณลีก็เอ่ยถามขึ้น

“เอลลา ผมอยากจะเห็นกำไลหงส์ทิวาชัดๆได้ไหมครับ มันเป็นเครื่องประดับที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย” เจ้าของใบหน้าคมยิ้มบางๆขณะพูด

“ได้สิคะ” ชลันธรตอบทันที ดวงตาเป็นประกายอย่างมีแผนการซ่อนอยู่ลึกๆ

“กำไลอะไรเหรอจ๊ะ” มิราถามอย่างสนใจตามประสาผู้หญิง

“กำไลเพชรเก่าแก่ค่ะ กำไลวงนี้ละที่พาฉันข้ามมาภูทิวา” หญิงสาวตอบ

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ เธอจึงขึ้นไปบนบ้านและนำกำไลหงส์ทิวาลงมายังห้องนั่งเล่น ซึ่งสองพี่น้องนั่งรอชมความงดงามของมันอยู่

ชลันธรส่งกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมสีม่วงเข้มให้จิณลี ชายหนุ่มเปิดดูและพิจารณารายละเอียดส่วนต่างๆที่แสนงดงามอ่อนช้อยของกำไลอยู่พักหนึ่ง จึงส่งมันให้พี่สาวดูต่อ

ดวงตาของมิราเป็นประกายตื่นเต้น เธอจับกำไลพลิกไปมา มองเพชรเม็ดเล็กๆล้อแสงไฟวิบวับอย่างชอบใจ แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็อุทานขึ้นด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย!” เธอรีบส่งกำไลคืนให้น้องชาย

“เป็นอะไรคะพี่มิรา” ชลันธรถามไถ่อย่างห่วงใยพลางมองมือของอีกฝ่าย

“สงสัยเมื่อกี้เหลี่ยมของเพชรจะแทงนิ้วพี่เข้าน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” เจ้าตัวยิ้มกว้างอย่างขอบคุณในความเป็นห่วง เธอหันไปหาน้องชายก่อนเอ่ย “ขอพี่ดูอีกรอบได้ไหม”

จิณลียื่นกำไลหงส์ทิวาให้พี่สาว ดวงตาคมเรียวเป็นประกายแวววาวราวกับสมใจกับอะไรบางอย่าง

“ชลันธรรู้ตำนานเรื่องธศิญากับชวาลีด้วยนะครับ” เจ้าของเสียงทุ้มมีอำนาจบอก

“จริงเรอะ ไปรู้มาจากไหน” มิรานิ่วหน้าอย่างประหลาดใจ

“ฉันฝันน่ะค่ะ ฝันเป็นเรื่องเป็นราว และรู้สึกว่าคนในฝันมีตัวตนจริงๆ” หญิงสาวลอบมองเสี้ยวหน้าคมของจิณลี แต่ก็เห็นว่าดูยิ้มแย้มเป็นปกติ

“ไม่มีหรอก เป็นแค่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมานั่นละ” มิราช่วยยืนยันอีกแรง

“ผมบอกเธอไปแล้วเหมือนกันครับ” จิณลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ

หลังชมความงามของกำไลและคุยเรื่องสัพเพเหระพักใหญ่ ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงจิณลีและชลันธร เพราะมิราเข้าไปซื้อของในเมือง

“คุณจิณลีคะ ฉันอยากไปชมคฤหาสน์ของผู้ว่าการเขตปาณษา คุณจะสะดวกหรือเปล่าคะ” ชลันธรตัดสินใจเอ่ยขึ้นหลังชั่งใจมาครู่หนึ่ง

“ผมสะดวกอยู่แล้ว แต่ทางคฤหาสน์จะสะดวกหรือเปล่านี่สิครับ ได้ยินมาว่าไม่ค่อยอนุญาตให้คนนอกเข้าไป” ชายหนุ่มตอบพร้อมหรี่ตาลงเล็กน้อย “ทำไมคุณอยากไปที่นั่นล่ะ”

“ได้ยินว่าคฤหาสน์ของผู้ว่าการสวยมาก เป็นสิ่งที่คนมาปาณษาต้องไปเห็นน่ะค่ะ ฉันเลยอยากไปบ้าง” ชลันธรอ้างเหตุผลขึ้นมาลอยๆ

“ถ้าจะไปจริงๆ คงมีโอกาสเห็นแค่นอกรั้วละครับ” ท่าทางเขาเหมือนอยากให้เธอเปลี่ยนใจ

“เห็นแค่นั้นก็ยังดีค่ะ” ขั้นแรกเธอขอแค่ไปถึงคฤหาสน์ก่อน ขั้นต่อไปจะเอายังไงค่อยคิดระหว่างทางอีกทีแล้วกัน

“อย่าบอกนะเอลลา ว่าคุณยังติดใจเรื่องคุณธศิญาจนอยากจะพิสูจน์” เจ้าของบ้านหนุ่มย่นคิ้วหนาเข้าหากัน

“เปล่าค่ะ คุณบอกว่ามันเป็นแค่ตำนานไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมฉันต้องไม่เชื่อคุณด้วย หรือว่า…มันคือเรื่องจริง” หญิงสาวแกล้งถามกลับบ้าง เผื่อว่าเขาจะเผยพิรุธออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีความน่าสงสัยเล็ดลอดให้เห็นเลยสักนิด

“ถ้าคุณอยากไป ผมก็จะพาไป แต่ขอเวลาอีกสักสามวันแล้วกันครับ ผมต้องส่งภาพให้ร้านขายรูปของรติก่อน หลังจากนั้นผมถึงจะว่างยาว” จิณลีตอบตกลงด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่มจนยากจะเดาออก



คืนนั้นชลันธรเข้านอนตามเวลาปกติ เธอพยายามจะติดต่อธศิญาอีกครั้งโดยการสวมกำไลหงส์ทิวา แต่ไม่มีวี่แววว่าวิญญาณของลูกสาวผู้ว่าการเขตราศิจะปรากฏตัวขึ้น และเมื่อหัวถึงหมอนแล้ว หญิงสาวก็ไม่ฝันถึงเรื่องราวของธศิญาเช่นกัน จนผ่านมาสามคืนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

เช้าวันใหม่ ระหว่างแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน ชลันธรก็คิดหาเหตุผลไปเรื่อยเปื่อย เกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมเธอถึงไม่ฝันอีกเลย หรือว่าธศิญาต้องการให้รู้เรื่องราวเพียงเท่านั้น และให้เธอค้นหาคำตอบที่เหลือด้วยตัวเอง

ก๊อกๆๆ

หญิงสาวสะดุ้งหลุดจากความคิด คงมีใครขึ้นมาตามเธอลงไปกินข้าวเช้าหลังจากที่ขึ้นมาแต่งตัวนานผิดปกติ เจ้าของร่างเพรียวระหงมองตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อเช็กความเรียบร้อยโดยเร็ว จากนั้นจึงเดินไปเปิดประตู

“ฉันกำลังจะลงไปพอดีเลยค่ะ” เธอบอกคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านนอก

จิณลีพยักหน้ารับเบาๆ พลางเดินนำลงไปด้านล่าง เช้านี้ชายหนุ่มจะพาเธอออกเดินทางไปยังคฤหาสน์ของผู้ว่าการเขตปาณษา ชลันธรจึงอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีเข้ม ผมยาวสีดำขลับรวบเก็บเรียบร้อย

ระหว่างอยู่บนโต๊ะอาหาร จิณลีก็ถามหญิงสาวว่า “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะครับ อย่างที่ผมบอกว่าจากที่นี่ไปคฤหาสน์ผู้ว่าการไม่ใช่ใกล้ๆ อาจจะใช้เวลาเดินทางประมาณสองวัน”

“แน่ค่ะ ถ้าฉันไม่ได้เห็นคฤหาสน์ผู้ว่าการ คงรู้สึกเหมือนยังมาไม่ถึงปาณษา” แววตาของหญิงสาวมั่นคงยิ่งนัก

“พี่เตรียมยาที่อาจจะต้องใช้ระหว่างเดินทางไว้ให้แล้ว อย่าลืมเอาขึ้นรถไปด้วยล่ะ” มิราเอ่ยด้วยความห่วงใย “ส่วนเสบียงเวลาฉุกเฉินพี่ก็เตรียมให้แล้วเหมือนกัน เผื่อไม่มีอาหารขาย”

ชลันธรค้อมศีรษะขอบคุณพลางคิดว่าเส้นทางไปคฤหาสน์ผู้ว่าการลำบากขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมมิราถึงได้เตรียมของให้ครบครันเช่นนี้ ส่วนจิณลีก็ดูท่าว่าอยากให้เธอล้มเลิกความตั้งใจเหลือเกิน

หลังจากอิ่มท้องแล้ว หญิงสาวก็เดินตามเจ้าบ้านหนุ่มออกไปขึ้นรถเก๋งสีครีมคันเก่าซึ่งจอดอยู่ใต้ถุนเรือนเก็บของยกสูงข้างคอกม้า โดยมีชายหนุ่มช่วยถือกระเป๋าเดินทางให้

คีรีและเมฆามองเธอกับจิณลีราวอยากติดตามไปด้วย ชายหนุ่มหันไปบอกมันว่าครั้งนี้เดินทางไกลจึงต้องใช้รถ ม้าสีเทาเหมือนจะเข้าใจ มีเพียงม้าสีขาวตัวใหญ่ที่มองชลันธรและจิณลีอย่างอ้อนวอน

“คีรีกำลังบอกว่าไม่อยากให้คุณไปนะ จะไปจริงเหรอเอลลา” ชายหนุ่มหันมาเอ่ยทีเล่นทีจริง

“ไม่เห็นคีรีพูดอะไรสักคำเลยค่ะ ขึ้นรถดีกว่า ฉันอยากออกเดินทางแล้วละ” เธอตัดบท เพราะรู้ว่าเป็นอีกครั้งที่เขากำลังพยายามทำให้ลังเล

เวลาต่อมา จิณลีก็ขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าไปตามเส้นทางในป่า เมื่อออกสู่ถนนใหญ่ สองข้างทางก็แปรเปลี่ยนเป็นบ้านเรือนที่สร้างจากปูนมีเถาไม้เลื้อยเกี่ยวกระหวัดเหมือนบ้านของจิณลี บ้านแต่ละหลังตั้งสลับกับพื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติเป็นช่วงๆ มีรถราวิ่งผ่านไปมาไม่หนาตานัก

หญิงสาวนั่งชมวิวนอกหน้าต่างของเส้นทางที่ผ่านไปอย่างเพลิดเพลิน พลางคิดว่าเท่าที่ดูก็ไม่เห็นจะอันตรายเหมือนที่จิณลีบอกเลยสักนิด

“กว่าจะถึงคฤหาสน์ของผู้ว่าการ เราต้องใช้เวลาเดินทางสองวันเลยเหรอคะ” ชลันธรไปถามคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วยความสงสัย

“ใช่ครับ เรายังต้องเดินทางทางเรือ แล้วก็เดินเท้าต่ออีก คฤหาสน์หลังนั้นไม่ได้ตั้งอยู่ในที่ชุมชน แต่อยู่ในป่า เพราะผู้ว่าการชอบความสงบ” ชายหนุ่มตอบโดยที่สายตายังจดจ่ออยู่กับหนทางเบื้องหน้า

“แปลกจังนะคะ ฉันนึกว่าชนชั้นปกครองส่วนใหญ่จะชอบความหรูหราสะดวกสบายมากกว่าความสันโดษเสียอีก” หญิงสาวยิ้มบางๆ

“บางทีความจริงก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดเสมอไปหรอกครับ” เจ้าของใบหน้าคมหันมามองและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่ม

ชลันธรพยายามตีความคำพูดของเขาที่ดูเหมือนจะซ่อนปริศนาเอาไว้ในนั้น แต่ก็ไม่เข้าใจความหมายของมันอยู่ดี



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ม.ค. 2557, 15:39:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ม.ค. 2557, 15:40:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1300





<< บทที่ 17 โศกนาฏกรรมรัก   บทที่ 19 เหตุผล >>
ketza 1 ม.ค. 2557, 15:43:10 น.
มาครบแบ๊ววววว


บุลินทร 1 ม.ค. 2557, 15:51:40 น.


บุลินทร 1 ม.ค. 2557, 15:51:44 น.
คุณ yimyum
กลับมาจากภูเก็ตรึยังนี่น้องยิ้ม ปีใหม่ฉลองเต็มที่เลยใช่มั้ย

คุณ konhin
มาตามล่าหาความจริงกันต่อครับ

คุณ ริญจน์ธร
เฉลยปมแรกแล้ววววว่าธศิญาเป็นยังไงในปัจจุบัน

คุณ อสิตา
อสิก็เมนต์มั่วเหมือนกันนั่นแหละ ฉากปลุกปล้ำมันอยู่ตอนท้ายต่างหาก แสยะ

คุณ ketza
อสิมั่วครับ อย่าไปเชื่อ ฮ่าๆๆๆ

คุณ Zephyr
เฟอร์ไม่ได้หื่นขนาดนั้น แต่หื่นขนาดนี้รึ จิณลีคงกู้คะแนนไม่ได้อีกพักนึงเลย ตอนนี้ก็ยังไม่มีฉากทำคะแนนเบย ทั้งรักทั้งชังดุริยะเหรอเนี่ย

คุณ lovemuay
นั่นสิครับ ธศิญาโดนบังคับให้ไปเจอความทรมานแท้ๆ

คุณ nako
ติดตามเส้นทางชีวิตของดุริยะต่อนะครับ

คุณ patok
ทายาทกำไลจะเหมือนทายาทอสูรมั้ยนี่ อิอิ


yimyum 1 ม.ค. 2557, 16:05:44 น.
ยังไม่กลับเลย..


Zephyr 1 ม.ค. 2557, 16:34:45 น.
มี่จะทรมานคนอ่านด้วยความอยากรู้ไปอีกนานใช่มะ
คนนั้นคนนี้ปริศนาเยอะไปหมด ญาติกันมั่วซั่ว
จินนี่ก้อมีเลศนัย ยายลียาก็ทำท่าจะมีปม ยายป้าในป่านั่นก็แค้นจัง
ปู่ๆๆแก่ๆของจินนี่ก้ิอมีลับลมนะ พี่มิรา แกล้งถูกบาดเพื่อสับกำไลสินะ
ธศิญาแย่แล้วๆๆๆๆๆ มี่ตั้งชื่อเม้นยากนะเนี่ย ต้องยกชิฟท์ตั้งสามครั้งอ่ะ


ketza 1 ม.ค. 2557, 17:45:17 น.
เดาทางไม่ถูก... ตกลงจิณลีนี่ยังไง บอกใบ้อย่างเดียวเบย 555...


lovemuay 1 ม.ค. 2557, 17:49:38 น.
แอบสลับกำไลไปแล้วแน่เลย


yimyum 1 ม.ค. 2557, 19:31:17 น.
ชักงงๆๆมากขึ้นแล้วนะเนี่ยเมื่อปมแรกฉาย...
ตกลงว่าจิณลีนี้เป็นพระเอกจริงป่ะง่ะ???


konhin 1 ม.ค. 2557, 21:13:27 น.
สับเปลี่ยนกำไลไปแล้วหรือนี่


นักอ่านเหนียวหนึบ 2 ม.ค. 2557, 01:50:55 น.
อ๊ะ กระบวนการนักต้มตุ๋นเน่!!!!!
แย่ละๆๆ เป็นพระเอก มาทำตัวเป็นผู้ร้ายซะเองเสียเครดิตนะฮ้าาา
แบบนี้ ตอนหลังๆ นี่ต้องทำดี ทำหวานคืนอย่างเยอะๆ เลยนะ มะงั้นเสียบทหมด!!!


goldensun 2 ม.ค. 2557, 02:33:46 น.
กำไลก็โดนสลับไปเรียบร้อย อย่างนี้ลันก็กลับบ้านไม่ได้สิ จิณลีจะหลอกลันเรื่องธศิญาไปทำไม ปู่เอากำไลไปทำอะไรกัน
แล้วทำไมต้องสามวันถึงจะพาไปได้ รอจัดฉากใช่มั้ยเนี่ย


patok 2 ม.ค. 2557, 09:40:43 น.
จิณลี ทำไมเป็นคนแบบนี้่อ่ะคะ :(


ริญจน์ธร 2 ม.ค. 2557, 10:23:30 น.
ตอนนี้คะแนนจิณลีตกต่ำ ต้องรีบทำคะแนนต่อนะ เดี๋ยวจะแพ้หนุ่มๆคนอื่น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account