เกมรักกับดักพิศวาส (สนพ.มายเลิฟ)

Tags: นิยายรัก,นายแบบ

ตอน: ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

“ตอนนี้แกกับบุษเป็นยังไงบ้าง”

อโรชาถามน้องชายระหว่างที่ทาอาหารเย็นด้วยกัน ปกติแล้วจะทานกันครบพร้อมหน้าพร้อมตาสามพี่น้องเว้นแต่มีใครติดงานกลับบ้านช้าเท่านั้น อย่างวันนี้อริสราติดงานจึงทานอาหารเย็นกันแค่สองคนเท่านั้น

“ก็เรื่อยๆ ครับ พี่ซีถามทำไม”

คนเป็นน้องยังตอบไปทานไปไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร เห็นแล้วอโรชาก็รู้สึกหงุดหงิด น้ำเสียงที่ถามออกไปจึงค่อนข้างขุ่น

“เรื่อยๆ แล้วมันคืบหน้าบ้างหรือเปล่า จะจีบเขาโทร.หาเขาบ้างไหม”

“ก็โทร. คุยกันปกติแหละครับ”

อริญชย์บอกเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้ขยายความไปถึงว่าบางครั้งโทร.ไปบุษบันก็ไม่รับสาย และที่ว่าคุยกันปกติก็ปกติจริงๆ ไม่มีเกินเลยแถมคุยแต่ละครั้งเต็มที่ก็ไม่เกินสิบนาที

“พี่ว่าเราน่าจะรุกมากกว่านี้ได้แล้วนะ หาเวลาไปรับไปส่งด้วยจะยิ่งดี เพราะยัยบุษน่ะไม่ชอบขับรถไปทำงานอยู่แล้ว”

“เอาไว้ก่อนแล้วกันพี่ ช่วงนี้พี่ก็รู้ว่างานผมค่อนข้างยุ่ง”

“แล้วจะยุ่งไปถึงเมื่อไหร่”

“สักระยะ”

“งั้นก็รีบๆ เคลียร์งานให้เลิกยุ่งเร็วๆ แล้วกัน ไม่อย่างนั้นยัยบุษของแกโดนคนอื่นคาบไปกินแน่นอน” ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ในใจก็ไม่มั่นใจหรอกว่าบุษบันจะยังไม่โดนนายแบบหนุ่มสุดหล่ออย่างบอลด์วินงาบไปแล้ว

“นี่ผมมีคู่แข่งเหรอครับ” คราวนี้อริญชย์วางช้อนเงยหน้ามาถามพี่สาวอย่างสนใจจริงจังบ้าง

“เรื่องคู่แข่งแกก็มีมาเรื่อยๆ น่ะแหละ แต่บุษก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจใครเป็นพิเศษพี่เลยไม่ได้เป็นกังวลอะไร แต่ตอนนี้มันต่างกัน คู่แข่งตัวจริงของแกปรากฏตัวมาแล้ว”

“ใครครับ”

“นายแบบลูกครึ่งสุดหล่อบอลด์วิน”

“ใคร ผมไม่เห็นจะรู้จัก”

อริญชย์ถามพลางขมวดคิ้ว อโรชาเห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ ไม่แปลกหรอกที่น้องชายของเธอที่ไม่ได้สนใจแฟชั่นหรือเรื่องราวข่าวสารบันเทิงจะไม่รู้จักนายแบบสุดหล่อคนนี้

“เดี๋ยวพี่มา”

อโรชาลุกจากเก้าอี้เดินไปยังห้องนั่งเล่นที่มีหนังสือเกี่ยวกับแฟชั่นหลายเล่ม แล้วหยิบเล่มที่บอลด์วินขึ้นปกกลับมายื่นให้น้องชาย

“คนนี้”

“คนที่ขึ้นปก”

“ใช่”

อริญชย์กวาดสายตามองคู่แข่งหัวใจตัวฉกาจอย่างละเอียดถี่ถ้วน เปิดดูภาพข้างในที่มีเพิ่มของบอลด์วินทุกภาพ แม้แต่เขาที่เป็นผู้ชายยังปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนในภาพนี้มีเสน่ห์ ผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่าบางภาพเรียบแปล้ บางภาพถูกทำให้ยุ่งเหยิงแต่โดยรวมแล้วก็ยังทำให้ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ ไหนจะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เชิญชวนหยอกเย้าให้สาวๆ หลงใหลได้ไม่ยาก

แต่งาน ‘ยาก’ มันตกมาอยู่ที่เขาเสียแล้วสิ แม้จะมั่นใจตัวเองว่าเป็นคนหน้าตาดีพอตัว แต่ถ้าเทียบกับผู้ชายในภาพเขารู้ตัวเองดีว่าเสียเปรียบอยู่หลายขุม

“แต่พี่เคยบอกว่าบุษเขาไม่สนในพวกนายแบบ” ชายหนุ่มพยามยามหาข้อโต้แย้งเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

“ก็ใช่ แต่กับนายแบบคนอื่นไม่ใช่คนนี้…”

อโชชาอ้าปากอยากจะพูดอยากจะบอกอะไรน้องชายให้มากกว่านี้ แต่ตัดสินเงียบไว้ก่อนดีกว่า ขืนบอกไปได้เป็นการตัดกำลังใจกันเปล่าๆ

“บุษชอบผู้ชายคนนี้”

“พี่เองก็ยังไม่รู้ แต่ที่รู้คือสองคนนี้คุยท่าทางสนิทสนมบ่อยๆ ครั้ง”

“เขาอาจจะคุยเรื่องทั่วไปก็ได้” ยังมาไม่เลิกปลอบใจตัวเอง

“อ๋อ เหรอ…แกจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ ได้กินแห้วเมื่อไหร่อย่ามาโทษพี่ก็แล้วกัน…อิ่มแล้วใช่ไหมพี่จะได้เก็บโต๊ะ”

“พี่มีอะไรจะบอกผมมากกว่านี้หรือเปล่า”

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น” ถามไปมือก็เก็บโต๊ะไปไม่แม้แต่จะหันมาสนใจน้องชายที่ยังนั่งมองภาพบอลด์วินเป็นระยะๆ

“ไม่รู้สิ ผมแค่รู้สึกว่าพี่เหมือนกำลังจะบอกบางอย่างกับผมอ้อมๆ” อโรชาหันมายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเอาจานไปไว้ที่อ่างรอล้าง แล้วเดินกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดโต๊ะ

“เอาเป็นว่าระหว่างการคุยกันระหว่างสองคนนี้ไม่ใช่แค่คุยกันธรรมดามันมีอะไรพิเศษมากกว่านั้น แต่ตอนนี้อะไรๆ มันอาจจะยังไม่ถลำลึก ถ้ามีคนไปฉุดรั้งยัยบุษไม่ให้ตกหลุมพรางเอาไว้ด้วยความรักทั้งหมดที่พี่ว่ามันต้องได้ผล”

“ผมว่าผมควรโทร.หาบุษ”

“เป็นความคิดที่ดี”

อริญชย์ยิ้มให้พี่สาวอย่างขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปนอกบ้านหาบรรยากาศดีๆ เหมาะๆ ในสวนเพื่อคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงที่ตนรัก

ระหว่างรอสายอริญชย์ก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ไม้ภายในสวนหน้าบ้าน และทันทีที่มีการกดรับสายชายหนุ่มก็เปิดยิ้มกว้างไม่ตองรอให้อีกฝ่ายทักเขารีบทักก่อน

“สวัสดีครับบุษ”

“สวัสดีครับ แต่ขอโทษทีครับที่ผมไม่ใช่บุษ”

ปลายเสียงบอกเสียงคล้ายกับกระเซ้าเล่น ทำให้อริญชย์ขมวดคิ้วดึงโทรศัพท์ออกจากหูมาดูอีกครั้งว่าตัวเองต่อสายผิดเบอร์หรือเปล่า แต่เปล่าเลยชื่อบุษบันยังโชว์หราหน้าจอ

“ผมไม่แน่ใจว่าโทร.ผิดหรือเปล่านี่ใช่เบอร์ของบุษไหมครับ” ถึงอย่างนั้นก็ถามเพื่อความแน่ใจเผื่อคลื่นโทรศัพท์มันพันกัน

“ใช่ครับ แต่ตอนนี้บุษเข้าห้องน้ำอยู่ไม่สะดวกรับสาย”

“คุณเป็นใคร” เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้โทร.ผิดอริญชย์ก็ถามอีกฝ่ายเสียงขุ่น

“แล้วคุณล่ะเป็นใคร” บอลด์วินก็ใช่จะยอมตอบง่ายๆ เขาถามกลับเสียงขุ่นเข้มไม่แพ้กัน

“ผมเป็น…ผู้ชายที่สนิทที่สุดของบุษ”

อริญชย์ละคำว่าเพื่อนเอาไว้เพื่อเกทับอีกฝ่าย คิดว่าจะได้ผลแต่เสียงหัวเราะเยาะที่ดังมาตามสายทำให้เขาหน้าตึง

“ถ้าคุณสนิที่สุดผมคงสนิทยกกำลังสองมั้งเพราะว่า…” ทว่ายังไม่ได้จะบอกฐานะข่มขวัญคู่แข่งเจ้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาขัดเสียก่อน

“คุณวินซ์!”

บุษบันเดินเข้าไปแย่งโทรศัพท์ของตัวเองมาถึงไว้แล้วถลึงตาใส่อย่างคาดโทษ ก่อนจะหันมาคุยกับคนในสาย

“สวัสดีค่ะบุษค่ะ”

“บุษ”

“อ้าว ซันเองหรอกเหรอ โทร.มามีอะไรหรือเปล่า”

“มี ผู้ชายที่รับสายเป็นใคร” เสียงเข้มๆ ติดจะเครียดของอริญชย์ทำให้บุษบันหันไปมองคนนั่งหน้ายิ้มแป้นแล่นไม่ทุกข์ร้อนนิดหนึ่ง

“เอ่อ…เพื่อนน่ะ” สินคำว่า ‘เพื่อน’ คนเป็น ‘เพื่อน’ ก็เดินมาขโมยหอมแก้ม ‘เพื่อน’ ฟอดใหญ่

“คุณวินซ์!”

บอลด์วินทำตาโตแล้วยักไหล่ แล้วเดินเข้าห้องนอนของเธอหน้าตาเฉย เดือดร้อนที่เธอจะต้องตามเข้าไปลากเขากลับมานั่งโซฟาที่ห้องรับแขกตามเดิม

“มีอะไรกันหรือเปล่า” อริญชย์ถามอย่างเป็นห่วง

“ปะ…เปล่า นายมีอะไรหรือเปล่า”

“ยังไม่กลับห้องอีกเหรอ”

“ตอนนี้ก็อยู่ห้อง”

ตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่หารู้ไม่ว่าคนปลายสายนั้นกำลังแข็งเป็นหิน เพราะไม่คิดว่าบุษบันจะอยู่กับผู้ชายตามลำพังในห้อง

“กับไอ้ผู้ชายคนนั้นเนี่ยนะ”

เสียงถามห้วนๆ ของอริญชย์ทำให้บุษบันรู้ตัวว่าตัวเองพลาดเสียแล้ว แม้จะไม่ได้แคร์ความรู้สึกของอริญชย์มากมายแต่เธอยังไม่อยากให้ใครรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับบอลด์วิน

“เขาแค่มาส่งและกำลังจะกลับ”

“ผมไม่ไว้ใจมัน ผมจะไปหาบุษเดี๋ยวนี้” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มยังหุนหันจะเดินเข้าบ้านไปหยิบกุญแจรถ แต่บุษบันกลับเบรกเอาไว้เสียก่อน

“นายจะบ้าเหรอจะมาทำไม”

“ก็ผมเป็นห่วง”

“ไม่ต้องห่วง ฉันเพิ่งไล่เขากลับไปเมื่อกี้นี่เอง” คนโดยไล่กลับบ้านเลิกคิ้วมองแล้วหัวเราะในลำคอ บุษบันหันไปถลึงตาห้ามไม่ให้เขาเสียงดัง

“บุษต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีกนะ บุษก็รู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับบุษอย่าทำให้เราห่วงและหวงมากไปกว่านี้เลย” ได้ทีก็ทำเสียงออดอ้อน แต่นอกจากบุษบันจะไม่รู้สึกอินังขังขอบกับน้ำเสียงนั้นแล้ว ยังปรามชายหนุ่มกลับไปอีกว่า

“เราก็เคยบอกนายแล้วนะซันว่าระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นได้มากกว่านี้หรอก และขอบใจที่เป็นห่วง แต่เราโตแล้วจะทำอะไรเราตัดสินใจเองได้ แค่นี้นะ”

ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ทักท้วง บุษบันตัดสายพร้อมกับถอนหายใจ ทั้งรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นกับอริญชย์แต่ในคราวเดียวกันนั้นมันก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย

แต่ตอนนี้เธอมีคนที่ต้องเล่นงานให้หนักที่บังอาจมาละเมิดความเป็นส่วนตัวด้วยการถือวิสาสะรับโทรศัพท์ของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต

“คุณกล้าดียังไม่รับโทรศัพท์ฉันโดยพลการ”

“ผมก็แค่หนวกหูเห็นมันดังไม่ยอมหยุดเสียที” แก้ตัวอย่างไม่รู้สึกว่าตัวเองจะผิด

“แต่มันเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์” บุษบันบอกเสียงเขียวแสดงถึงความไม่ชอบใจที่เขามาละเมิดความเป็นส่วนตัวของตัวเอง

“จะอะไรกันนักหนาคุณ เพื่อนผมยังรับโทรศัพท์ให้ผมบ่อยๆ”

“ก็นั่นมันเพื่อนคุณ”

“แล้วผมไม่ใช่เพื่อนคุณหรือไง” เพื่อนในหลายๆ ความหมาย แต่อย่างน้อยมันก็เพื่อนเหมือนกันนั่นแหละ

แต่คำถามนั้นก็ทำให้บุษบันอึ้งไปเล็กน้อย

“กะ…ก็เพื่อน แต่ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทถึงขนาดจะมารับโทรศัพท์ของฉันได้”

“อ๋อ ต้องสนิทมากอย่างผู้ชายคนเมื่อครู่ใช่ไหมถึงจะรับโทรศัพท์แทนคุณได้” บอลด์วินบอกเสียงหงุดหงิด

“ซันไม่เกี่ยว เพราะฉันไม่นิยมให้เพื่อนรับโทรศัพท์แทน”

“โอเค เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นก็หันไปเปิดโทรทัศน์ดูหน้าตาเฉยไม่มีทีท่าว่าจะกลับง่ายๆ

“ฉันจะอาบน้ำนอน” บุษบันไล่ทางอ้อม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวต้องการสื่อ แถมยังเข้าใจไปอีกทางด้วยถึงได้หันมามองเธอตาพราวระยับและยิ้มเจ้าชู้ใส่

“ดีเลยครับ ไปกัน”

“หยุด…” บุษบันรีบถลาเข้าไปยืนดักหน้าและผลักอกกว้างของบอลด์วินที่ทำท่าจะไปอาบน้ำนอนพร้อมกับเธอ

“ฉันหมายถึงฉันคนเดียว คุณไม่เกี่ยว”

“อ้าว แล้วก็ไม่บอกนึกว่าชวน เฮ้อ…หลงดีใจเก้อเลยเรา” แสร้งทำหน้าหงอย แต่มีหรือบุษบันจะหลงกล

“ฉันไล่ไม่ได้ชวน คุณกลับบ้านได้แล้ว”

“ขอค้างไม่ได้เหรอ” ยังไม่วายทำหน้าออดอ้อน เห็นแล้วคนโดนอ้อนก็อดที่จะใจเต้นแรงและหน้าแดงไม่ได้

“ไม่ได้ ฉันให้คุณมาเพราะคุณบอกว่าแค่มาทำอาหารทานแล้วก็กลับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อค่ำนะคะมันอร่อยมาก”

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอครับ” เขายังอ้อนไม่เลิก

“ไม่ได้ค่ะ”

บุษบันยิ้มใส่ตาสีน้ำตาเข้มของคนที่ทำสีหน้าผิดหวังไหล่ลู่คอตกดูหน้าสงสารแต่บุษบันก็ใจแข็งพอที่จะดันเขาให้หมุนตัวเดินไปที่ประตู

“ก็ได้ๆ ครับ ใจร้ายจัง เอาไว้พรุ่งนี้ผมมาหาคุณที่นี่อีกได้ไหม”

“ไม่แน่ใจค่ะ พรุ่งนี้คิดว่าเลิกงานดึกค่ะ”

“มะรืนนี้ละ”

“นี่คุณตกกระป๋องไม่มีงานหรือไงคะ” บุษบันกอดอกยืนพิงขอบประตูถามชายหนุ่มที่ยืนทำหน้ายุ่งเสียงกลั้วหัวเราะ

“มีแต่ไม่เยอะ ก็บอกแล้วไงว่าผมจะวางมือ ผมไม่รับงานเพื่อและจะเคลียร์งานเก่าที่รับมาแล้วให้หมด เลยว่าง เอาไว้ผมโทร.หาคุณแล้วกันนะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ”

ชายหนุ่มบอกก่อนจะก้มลงมาจูบราตรีสวัสดิ์บุษบันอย่างดูดดื่มอยู่นานสองนาน ก่อนจะผละออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชวนใจละลาย

บุษบันมองตามร่างสูงแล้วรีบปิดประตู และเดินเข้าห้องไปทิ้งตัวบนเตียงพลางลูบริมฝีปากที่ยังรู้สึกถึงรสจูบแสนหวานอย่างเผลอไผล ถ้าเมื่อครู่ชายหนุ่มไม่เป็นฝ่ายหยุดมีหวังได้เลยเถิดมากกว่าจูบราตรีสวัสดิ์แน่อย่างเธอมีหรือจะต้านทานเสน่ห์อันเหลือร้ายของเขาไหว

****************************************************************************************

มีคนถามมาอีกแล้วว่าตกลงใครเป็นพระเอก มาถึงตอนนี้คงรู้แล้วเนาะว่านายแบบหนุ่มรูปหล่อของเรานี่เอง อิอิอิ >///<
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)
เกศมณี
08/01/57



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2557, 19:12:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2557, 19:12:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1653





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account