จุดชนวนรัก อุบัติเหตุเลิฟ
บางครั้งเราทุกคนก็ต้องยอมรับความจริงในเรื่องของหัวใจ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่เราต้องการเสมอไป ฉันเคยคิดว่ารัก ‘พี่เกล’ แต่ฉันกลับได้รู้จักความรักจริงๆ ในวันที่สายไปกับคนที่ได้ตายจากไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกความในใจให้เขารู้ด้วยซ้ำ และวันนี้ฉันมีโอกาสจะไปหาเขาแม้ว่าหัวใจของเขาจะนิ่งสงบไปแล้วก็ตามแต่ฉันก็ร้อนใจเหลือเกินที่จะไป ไม่อยากจะช้าสักวินาทีเดียว
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทที่ 15

บทที่ 15
แต่พอฉันมาถึงบ้านเซท ยังไม่ทันได้ลงจากรถเสียงมือถือก็ดังขึ้นซะก่อน ฉันกดรับสายยังไม่ได้พูดแม้แต่ ฮัลโหลด้วยซ้ำ คนปลายทางก็กรอกเสียงเข้ามาอย่างหัวเสีย
(แกอยู่ที่ไหน)
"ฉันกลับออกมาแล้ว"
(ฉันรู้แล้วย่ะว่าแกออกจากงานมาแล้วตาก็ไม่ได้บอดว่าแกสามารถ ทำให้นักร้องกระโดดลงจากเวทีเพื่อมาอุ้มแกออกจากงาน แต่ที่ฉันอยากรู้คือ ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนกันแน่) ยัยหญิงยังแเหวใส่ฉันไม่เลิก
"ก็ต้องอยู่บ้านฉันสิ"
(แกมีบ้านกับเขาด้วยเหรอ) เออย่ะ! ฉันผิดเอง
"โธ่ !ไม่ว่าจะใต้สะพานหรือบนรถไฟฟ้าถ้าฉันหลับได้ก็เหมาๆ รวมเรียกว่าบ้านได้ทั้งนั้นละ"
(อย่ามาเฉไฉ เพราะตอนนี้ฉันอยู่ที่หอแก)
อยู่ที่หอช้านนนนน เฮ้ย! ทำไงดีอ่ะฉันจะมีหน้าบอกยัยนั่นว่ายังไง พอหันหน้ามาขอความช่วยเหลืออีตาเซทก็เอาแต่ฟังเงียบๆ แถมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อีกต่างหาก ประมาณว่าเรื่องของเธอก็จัดการไปสิ แง ใจร้าย จะช่วยเหลือ ทีมเวิร์กกันบ้างไม่มีเลย
(บอกมา)
แล้วในที่สุดฉันก็เลยต้องบอกที่อยู่ใหม่ให้ยัยหญิงจนได้ และยัยนั้นก็ยืนยันว่าจะมาหาฉันที่นี้เดี๋ยวนี้ ห้ามก็ไม่ฟังบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันที่มหาลัยแล้วค่อยเม้าตอนนั้นก็ไม่ได้ ตีลังกายันท่าเดียวว่าจะมาให้เห็นกับตาคาหนังคาเขา สรุปว่าเป็นเพื่อนฉันหรือว่าเป็นแฟนกับฉันกันแน่ถึงพูดอย่างกับฉันแอบมาอยู่กับกิ๊กไปได้
แต่นั่นก็ยังไม่สำคัญเท่ากับว่าเจ้าของบ้านเขาจะยอมมั้ย แค่มาอาศัยก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้วนี้จะมีเพื่อนมาบ้านแถมดึกๆ ดื่นๆ อีก เขายิ่งรักสงบอยู่ด้วย
"นายคงได้ยินหมดแล้ว"
"อืม"
"คือฉันหมายถึงว่านายจะว่ามั้ย ถ้าเพื่อนฉันจะมาหาที่นี่"
ประโยคหลังฉันพูดเบาจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ
"แล้วฉันจะไปว่าทำไม ยัยบื่อ!"
เซทขยี้ผมฉันเบาๆ อย่างเอ็นดูเหมือนกับกำลังปลอบใจฉัน ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย แต่ฉันเครียดหนิ บ้านก็ไม่ใช่ของตัวเองสักหน่อยแค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
"ฉันต้องชอบด้วยซ้ำอยู่ๆ ก็มีผู้หญิงมาหาที่บ้าน*_*"
เซททำท่าคึกคักขึ้นมา นัยน์ตามีประกายระยิบระยับ จนฉันถึงกับหมั่นไส้ มองค้อนไปหนึ่งที
หน็อย…ดูทำหน้าทำตาเข้า
"เขามาหาฉันจ๊ะ" ลากเสียงต่ำสุดๆ
"ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นด้วยละ"
"ยังไง?"
"อืม! คล้ายๆ กับจะหึง^^"
"บ้า! ทำไมฉันต้องคิดแบบนั้นด้วย"
"จะไปรู้เธอได้ไง…" เซทว่าพลางขยับเข้ามาใกล้จนจมูกของเขาแทบจะชนกับแก้มของฉัน ดีนะที่ฉันหลบทัน "เธอก็ลองถามตัวเองดูสิ ถ้ารู้เมื่อไหร่มาบอกฉันได้ทุกเมื่อ^^"
ฮึ่ย! ถามทำไมไม่เห็นอยากจะรู้สักนิด!

23.32 น.
ฮ้าวววว *O* ง่วงจังเลย เมื่อไหร่ยัยหญิงจะมาสักทีเนี่ย รอจนซีรีส์เกาหลีจบไปตอนหนึ่งแล้วนะ น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบเลยพานให้ตาจะหลับเข้าไปใหญ่ อิจฉาก็แต่คนข้างๆ นั่งอ่านนิตยาสารอะไรก็ไม่รู้มีแต่รูปรถ สบายใจเฉิบ ไม่เห็นมีอาการง่วงเลยสักนิด ใช่เซ่! ก็นายมันไปอาบน้ำมาแล้วนี่ตาก็เลยสว่าง แต่จะว่าไปเวลาเซทแต่งตัวธรรมดาๆ แบบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นก็ดูน่ารักไปอีกแบบ ว่าแต่หล่อน่ารักขนาดนี้ทำไมไม่เห็นมีแฟน หรือว่าจะแอบซุกไว้ที่อื่น แต่พอคิดไปคิดมา คงไม่ใช้แบบนั้นหรอกมั้งถ้ามีก็ต้องมีกริ๊งกร๊างมาบ้างสิ แต่นี่วันๆ ไม่เห็นคุยกับใครเป็นพิเศษจะมีก็แต่เรื่องงานทั้งนั้น
ถามดูดีมั้ย สมองซีกขวา
จะบ้าเหรอเรื่องส่วนตัวเขาย่ะ สมองซีกซ้าย
มันก็จริงอย่างที่น้องหมองมันคิด ว่าแต่ทำไมฉันต้องไปสนใจว่าเขาจะคบใครกิ๊กกับคนไหนด้วยเล่าไม่เห็นน่าสนใจสักนิด (เนอะ)
ปรี๊ม!!
โอ๊ะ! สงสัยมาแล้ว
"เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูก่อนนะ"
"ว่าไงนะ"
"ก็จะไปเปิดประตูไง รายนั้นยิ่งขาวีนอยู่ ขืนไปเปิดช้าเดี๋ยวเกิดพังประตูบ้านนายขึ้นมาอย่ามาโทษว่าเป็นเพื่อนฉันไม่ได้นะฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรอกประตูอะไรเคลือบทองมีที่ไหนเขาทำกันบ้าง"
"ไปทำไมนั่งรอนี่แหละ คนใช้เดินสวนสนามกันให้เกลื่อนเดี๋ยวเขาก็เปิดให้เองแหละ ใครกล้าไม่เปิดฉันจะได้ส่งกลับไปอยู่กับคุณนายแปดที่บ้านใหญ่ให้หมด"
"ใครอะ ชื่อแปลกจัง"
"ไม่ใช่ชื่อแต่เธอเป็นภรรยาคนที่แปดของป๊าฉันเอง ก็เลยเรียกว่าคุณนายแปด เพิ่งดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน"
โหย! เมียคนที่แปด
"แต่เหวี่ยงสุดๆ สาวๆ พวกเนี้ยโดนไล่ออกกันรายชั่วโมง ฉันคิดได้กลัวเธออยู่ที่นี่แล้วจะเหงาก็เลยจ้างต่อมาทำงานกับฉัน แต่บางคนก็ขอมาเองยังไม่ทันโดนไล่ออกด้วยซ้ำ"
"ขี้วีนขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ก็อย่างที่เล่านั่นแหละ"
"คงสวยน่าดู"
"ก็งั้นๆ ลองไม่แต่งหน้าฉันว่าเธอสวยกว่าอีก"
อ๊ายยยยยย >///< ของแบบนี้มันแน่อยู่แล้ว เถียงสักคำมั้ยละว่าไม่สวย ไม่อยากจะคุยฉันน่ะเกือบจะเป็นดาวมหาลัยกับเขาแล้วด้วย ถ้าไม่ติดว่าการเดินโชว์ตัวรอบสุดท้ายยัยหญิงตัวแสบมาขัดขาฉันไว้เสียก่อน จนฉันต้องล้มหน้าคว่ำคะมำหงายตกเวทีไปกองรวมกับก้อนขี้หมาสามก้อนแถมมีน้ำเหนียวๆ ด้วย อี๊! แต่ฉันก็ไม่เสียใจหรอกเพราะเหตุการณ์วันนั้นฉันกลับได้เพื่อนเลิฟมาหนึ่งคน ฮึ! ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าใคร
"เชิญด้านนี้ค่ะ"
เสียงสาวใช้เชื้อเชิญแขกให้เข้ามาข้างในฉันจึงมั่นใจว่าเป็นยัยหญิงแน่นอน แต่พอหันไปฉันก็แทบช็อก กลางอากาศ เธอไม่ได้มาคนเดียวแต่กลับพาใครอีกคนมาด้วย
เฮือกกกกก >O<
"พี่เกล!"
แล้วโลกทั้งโลกก็หยุดหมุน นาฬิกาทุกเรือนแทบจะหยุดเดิน ฉันได้แต่มองคนตรงหน้าตาค้างพูดอะไรไม่ออกนอกจากอุทานชื่อเขาอย่างตกใจ
"ไปกับพี่เรามีเรื่องต้องคุยกัน!"
พี่เกลพุ่งเข้ามาแล้วฉุดกระชากให้ฉันไปกับเขา แต่ไปได้แค่ไม่กี่ก้าวจู่ๆ ก็มีอีกมือมาคว้าแขนอีกข้างของฉันไว้พี่เกลหยุดชะงักทันที ก่อนจะหันกลับไปมองด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขารู้สึกโกรธแค่ไหน แต่เซทกลับมองกลับมาด้วยสายตาที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาก็ไม่ยอมเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากเขาแค่นั้น ฉันก็ได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงกลางระหว่างสองคนนั้น แต่ก็ไม่กล้าที่จะสบตากับใครเลยโดยเฉพาะพี่เกล
"ปล่อย!"
พี่เกลพูดด้วยน้ำเสียงดุดันพลางยื่นมืออีกข้างไปปัดมือของเซทออก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือฉันอยู่ดี
"คนที่สมควรปล่อยคือนายต่างหาก เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน"
จบประโยคนั้นฉันที่อึ้งอยู่แล้วก็ถึงกับตาค้างอึ้งกิมกี่เข้าไปอีก พี่เกลไม่ยอมแน่ๆ เพราะตลอดชีวิตของเขา เขาคิดว่าฉันเป็นสมบัติของเขาคนเดียวใครหน้าไหนก็ห้ามแตะต้อง แล้วเซทเล่นพูดแสดงความเป็นเจ้าของขนาดนี้ คราวซวยได้มาเยือนนายแน่ แล้วมันก็จริงๆ ซะด้วย เพราะพี่เกลปล่อยมือฉันทันทีแล้วกระโจนใส่เซทตามด้วยเสียงดังพลั่กๆ ของมัดที่กระทบเข้าที่ใบหน้าเซท จนเขาถึงกับเซไป แต่พี่เกลก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้ตั้งตัวพี่เกลพุ่งเข้าใส่เซทอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งจนทั้งคู่ล้มกลิ้งไปนอนกองรวมกันอยู่กับพื้น เสียงเอะอะโวยวายของทั้งสองคนทำเอาสาวใช้ในบ้านวิ่งกรูกันเข้ามาดูด้วยความตกใจ บางคนถึงกับร้องกรี๊ดหน้าเสียกันไปก็มี แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง
"ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉันไม่ใช่แก แล้วก็จะเป็นตลอดไปด้วย"
พี่เกลว่าพลางชกซ้ำอีกครั้งจนเซทถึงกับปากแตก แต่เซทก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่นาน เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีพลิกตัวเองขึ้นมาแทนที่พี่เกลก่อนจะปล่อยหมัดหนักๆ ไปยังพี่เกลแค่หมัดเดียวพี่เกลก็หน้าโย้ไปอีกทางหนึ่งจนเลือดไหลทะลักออกมาจากริมฝีปากของเขา
"เธอไม่ใช่ของแกมาตั้งนานแล้ว ไอ้โง่!"
คราวนี้เซทปล่อยหมัดรัวอย่างคนคลุ้มคลั่งในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน จนพี่เกลแทบจะลืมตาไม่ขึ้น แต่ถึงจะเจ็บขนาดไหนเขาก็ยังไม่ยอมแพ้
"ของฉันโว๊ย! เธอเป็นของฉัน"
"ไอ้บ้าเอ๊ย! ฉันบอกไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิวะ"
ทั้งสองชกต่อยกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ด้วยความเป็นห่วงฉันก็เลยเข้าไปดึงเซทจากทางด้านหลังแต่ก็ถูกเขาปัดกระเด็นจนล้มลงกับพื้น
พลั่ก!
"ยัยเป๋! "
พอเซทรู้ตัวว่าผลักฉันล้มเขาก็ผละออกจากพี่เกลทันที แล้วรีบมาดูฉันแต่ในจังหวะนั้นเองพี่เกลก็ได้โอกาสกระโดดถีบเซท จนเขาเสียหลักล้มลงพี่เกลเลยตามเข้าไปจะกระทืบซ้ำแต่เซทหมุนตัวหลบเท้าพี่เกลได้ทันเสียก่อน พี่เกลเลยพยายามจะเตะที่สีข้างของเซท แต่คราวนี้เขาไม่หลบเขากลับใช้เท้าอีกข้างสกัดขาพี่เกลให้ล้มลงตามกันไป หลังจากนั้นเซทก็เข้าไปปิดบัญชีด้วยการกระหน่ำต่อยพี่เกลจนเขาหน้าหงายเงิบ เลือดมากมายไหลทะลักออกมาทั้งทางปาก และจมูกภาพที่เห็นเล่นเอาฉันแทบทนดูไม่ได้ แม้ว่าจะต้องถูกเซทสะบัดให้ล้มอีกกี่ครั้งฉันก็ต้องเข้าไปหยุดเขาให้ได้ ฉันพยายามลุกขึ้นมาแล้วเข้าไปห้ามเซทอีกครั้ง คราวนี้ฉันกอดเขาจากทางด้านหลังไว้แน่นด้วยกำลังทั้งหมดที่มีพลางตะโกนเสียงดั่งลั่น…
"พอแล้ว! พอได้แล้วเซท"
แต่เซทก็ยังไม่ยอมหยุด เขาสะบัดฉันออกแล้วหันไปชกพี่เกลเหมือนคนบ้าเลือดที่หยุดไม่ได้ ฉันมองพี่เกล ที่กำลังจะแน่นิ่งไปด้วยความตกใจถึงขีดสุด กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปทำให้ฉันหันรีหันขวางจนสายตาไปสะดุดเข้าที่แจกัน แล้วนาทีนั้นฉันแทบไม่คิดอะไรอีกเลยนอกจากจะช่วยพี่เกลให้ได้
ฉันง้างมือที่ถือแจกันแล้วฟาดเข้าที่ศีรษะของเซทจนแจกันแตกดังเผล้งกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้น แล้วน้ำสีแดงก็ไหลอาบลงมาเป็นทางจากศีรษะของเขา ฉันช็อกตาค้างมองเซทสลับกลับมือตัวเองที่ตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเลือดเช่นกันคงถูกเศษแก้วจากแจกันที่แตกบาดมือ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดคงเป็นเพราะความตกใจ เซทเองก็ไม่ต่างจากฉันเขาถึงกับชะงัก หมัดยังลอยค้างอยู่กลางอากาศ ริมฝีปากเม้มสนิทนัยน์ตาแดงกล่ำด้วยความโกรธจนแทบจะฆ่าคนได้เลย
ทำยังไงดีฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขาขนาดนี้นะ ฉันรีบเข้าไปจับมือเขาไว้ด้วยความห่วงใยปนความรู้สึกผิด
"ฉะ…ฉันขอโทษ!"
แต่เขากลับสะบัดมือฉันออก ฉันนิ่งไปรู้สึกเหมือนขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาเขาคงเกลียดคงโกรธฉันแน่ๆ ที่ฉันปกป้องผู้ชายอีกคนด้วยการทำร้ายเขา แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ ตอนนั้นฉันตกใจแล้วก็กลัวไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง
ไม่มีคำพูดใดๆ แม้แต่คำกล่าวโทษหลุดออกมาจากริมฝีปากที่ยังคงเม้มสนิทนั้นเลย ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกชาดิกไปหมดไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะเข้าไปดูแผลว่าเขาเป็นอะไรมากมั้ยแต่เขาคงไม่ต้องการหรอกเขาคงไม่อยากที่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้เขาเมินหน้าหนีจากฉันก่อนจะพ่นลมหายใจเหมือนเป็นการระงับสติอารมณ์ไม่ให้พุ่งพล่านไปมากกว่านี้ แล้วเขาก็ก้าวเดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วไม่นานเสียงสตาร์ทรถก็ดั่งขึ้นก่อนจะพุ่งออกไปนอกบ้านด้วยความเร็วสูง
ฉันจึงได้แต่ยืนบื่อนิ่งสนิทอยู่ตรงนี้ ถามตัวเองซ้ำๆ ว่าเขาจะเป็นอะไรมากมั้ย ขนาดแจกันยังแตกละเอียดแล้วเขาละแผลเก่าที่เป็นก็เพราะฉันยังไม่ทันหาย ฉันก็สร้างแผลใหม่ให้เขาอีก ฉันตอบแทนน้ำใจเขาที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอดด้วยการทำร้ายเขาแบบนี้เหรอ
"พี่เกล! เป็นยังไงบ้างคะ"
เสียงหญิงร้องขึ้นด้วยความตกใจ ทำให้ฉันได้สติกลับมาฉันเกือบลืมไปแล้วว่ายัยหญิงยังยืนอยู่ตรงนี้ และพี่เกลก็กำลังเจ็บหนัก เธอกูรีกูจรรีบเข้าไปประคองพี่เกลที่นิ่งไป ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและเลือด ฉันใจหายวาบรีบตามเข้าไปช่วยเธอประคองพี่เกลแต่ก็ถูกเธอผลักออกมาซะก่อน
"…!" นี่มันอะไรกัน!
"คนอย่างแกมันมีอะไรดีหนักหนาทุกคนถึงต้องเจ็บตัวเพราะแกกันขนาดนี้ ฉันเกลียดแกได้ยินมั้ยยัยขมิ้น เกลียดๆๆ"
น้ำเสียงคาดโทษจากเพื่อนของตัวเอง ทำเอาฉันอึ้งไปจนพูดไม่ออก
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ…



lovezombie
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.พ. 2557, 13:58:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.พ. 2557, 13:58:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 899





<< บทที่ 14   บทที่ 16 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account