ร้อยรักพรางตะวัน (Just To Love You)
ชีวิตและจิตใจของฉันเหมือนดั่ง..ตุ๊กตาแก้ว..
เปราะบาง..อ่อนแอแตกหักง่าย..
แต่มันจะยังอยู่ได้..ถ้ายังมีใครบางคนอยู่เคียงข้าง’
(อรณี)
‘หัวใจของผม..มีไว้เพื่อเธอ..
ดวงอาทิตย์เฉิดฉายที่ปลายฟ้า
ดวงนั้น..คงไม่มีวันตกลงมาถึงผม..’
(ภาณุ)
‘คนอย่างฉัน..ไม่เคยต้องง้อใคร..
ถึงจะวีน..เหวี่ยง..แรง..ร้าย..
แต่ยังไง..ฉันก็ยังรักเขา..’
(ชลดา)
‘ถ้าเลือกได้..สักครั้งในชีวิต
ผมไม่ต้องการ..อะไรเลย
นอกจากเธอ..ผู้เป็นดั่งรอยยิ้มของผม’
(ชัชพล)
เปราะบาง..อ่อนแอแตกหักง่าย..
แต่มันจะยังอยู่ได้..ถ้ายังมีใครบางคนอยู่เคียงข้าง’
(อรณี)
‘หัวใจของผม..มีไว้เพื่อเธอ..
ดวงอาทิตย์เฉิดฉายที่ปลายฟ้า
ดวงนั้น..คงไม่มีวันตกลงมาถึงผม..’
(ภาณุ)
‘คนอย่างฉัน..ไม่เคยต้องง้อใคร..
ถึงจะวีน..เหวี่ยง..แรง..ร้าย..
แต่ยังไง..ฉันก็ยังรักเขา..’
(ชลดา)
‘ถ้าเลือกได้..สักครั้งในชีวิต
ผมไม่ต้องการ..อะไรเลย
นอกจากเธอ..ผู้เป็นดั่งรอยยิ้มของผม’
(ชัชพล)
Tags: ร้อยรักพรางตะวัน,รักซึ้งๆ,รักโรแมนติก
ตอน: บทที่ 1 ความสวยงามคือสิ่งสำคัญในชีวิต..?
Status : 1 : ความสวยงามคือสิ่งสำคัญในชีวิต..?
เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องดังระงมกึกก้องไปทั่วทั้งป่าทึบ แข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแว่วพร้อมกับกับแสงริบหรี่ของไฟหน้ารถที่สะท้อนขึ้นลงวูบวาบตามแรงสั่นสะเทือนของพื้นถนนดินแดงขรุขระ สายฟ้าแลบแปลบปลาบและเสียงฟ้าร้องครวญครืน หญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์วิ่งหนีแสงริบหรี่ของไฟหน้ารถที่แล่นเข้ามาใกล้ทุกขณะ..ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนต้องถอดรองเท้าส้นสูงสีขาวที่เลอะไปด้วยดินโคลนทิ้งแล้ววิ่งด้วยสองเท้าเปลือยเปล่าที่เลอะเต็มไปด้วยเศษดินโคลน
ดวงหน้านวลใสซีดขาวราวกระดาษด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเท้าสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้เสียหลักจนเสียการทรงตัวทรุดลงไปกองกับพื้น ครั้งเหลียวมองตามเสียงที่ตามไล่หลังให้ยิ่งตกใจสุดขีดพยายามรวบรวมพละกำลังลุกขึ้นแต่ก็ได้แต่พยายามเมื่อพบว่ารถคันนั้นแล่นมาหยุดลงตรงหน้าในระยะประชิด แล้วใครบางคนก็ก้าวลงมาจากรถคันนั้น...
“นังตัวดี!! จะหนีไปไหน กลับไปกับกับฉันเดี๋ยวนี้!!”
“ไม่!!! ฉันไม่ไปกับแก..ไอ้โรคจิต!!”
ร่างหนาของชายหนุ่มที่ดูวัยใกล้เคียงกับหล่อน แต่อุดมไปด้วยหนวดเครารกรุงรัง เมื่อได้ฟังคำตวาดก็กระโจนเข้าหาหมายจะเข้าไปฉุดกระชากลากถูคนสวยที่ขมุกขมอมไปทั้งตัวเพื่อให้กลับไปด้วยกัน แต่แล้วเท้าข้างหนึ่งของเขากลับสะดุดเข้ากับปลายเท้าของหล่อนจนถึงกับล้มคว่ำคะมำหงายไม่เป็นท่าลงไปทับทั้งร่างของหญิงสาวที่พยายามถอยหนีจนร่างบอบบางถึงกับหงายหลังพังพาบไปกับพื้นถึงกับร้องโอดโอยออกมาเสียงดัง
“โอ๊ย!! จะบ้ารึไง ฉันเจ็บนะ”
“เทค!!!”
เสียงทรงอำนาจดังแทรกขึ้นมากลางครัน ชายหนุ่มหลังจอมอนิเตอร์ลุกขึ้นมาเท้าสะเอวตะโกนฝ่าสายฝนที่ยังคงโปรยปรายเป็นระยะ ส่งผลให้ทุกการทำงานหยุดเคลื่อนไหวในทันที พร้อมเสียงบ่นพึมพำไล่หลังเป็นระยะ
“เอฟเฟ็คหยุดได้แล้ว!! จะโปรยฝนให้เปลืองงบประมาณทำไม พวกนี้นี่คิดเองไม่เป็นน่ารำคาญจริงๆ”
สิ้นเสียงประกาศิต สายฝนที่โปรยปรายเมื่อครู่ก็หยุดลงโดยอัตโนมัติ พร้อมเสียงเอฟเฟ็คฟ้าร้องครวญครางเมื่อครู่ก็หยุดตามกันแทบไม่ทัน ส่งผลให้ป่าทั้งป่าเงียบกริบมีเพียงสภาพฉ่ำน้ำจากสายฝนปลอมและเสียงแมลงกลางคืนร้องขานรับกันเบาๆเท่านั้น
‘ชัชพล’ ผู้กำกับหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี ดีกรีผู้กำกับยอดเยี่ยมสองปีซ้อนจากเวทีประกวดระดับชาติก้าวเดินรวดเร็วเข้าหา ‘ศรุต’ นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่วัยยี่สิบสี่ปีอย่างเอาเรื่อง ชายหนุ่มร่างหนาสมส่วนบึกบึนสมชายถึงกับหน้าเสียไปทันใด มองหญิงสาวที่ยังคงกองอยู่กับพื้นสลับผู้กำกับหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา สีหน้ายิ่งตื่นกลัวเข้าไปใหญ่
“คุณ!! ทำอะไรของคุณทำไมไม่ระวังเลยวะ เสื้อผ้าหน้าผมนักแสดงหญิงต้องเซ็ทใหม่หมด ดูสิหัวหูเลอะโคลนขนาดนั้นคิดดูว่าเสียหายขนาดไหน นี่ยังไม่นับว่าคิวนางเอกวันนี้เหลืออีกกี่นาทีเลยนะ คุณก็รู้ว่านางเอกดังอย่างอรณีน่ะคิวทองขนาดไหน พลาดง่ายๆแบบนี้ได้ไง”
‘อรณี’ นักแสดงสาวสวยชื่อดังที่บัดนี้มอมอย่างกับลูกหมาตกน้ำ สะบัดมือออกจากการยึดเหนี่ยวของนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่ช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ทันทีที่ผู้กำกับหนุ่มเข้ามาถึงตัวแล้วช่วยประคองให้ทรงตัวลุกยืนได้ พอตั้งสติได้หญิงสาวก็ใส่เป็นชุดไม่ยั้งทันที
“อรบอกแล้วใช่มั๊ยคุณชัช ว่าให้ใช้นักแสดงที่มืออาชีพกว่านี้ รู้มั๊ยว่าอรเสียเวลาขนาดไหน นี่ก็ยกเลิกงานอีเวนท์ไปงานนึงเพื่อเทคิวให้แล้วนะ ยังทำไม่ได้อีกน่ารำคาญ วันนี้อรไม่ถ่ายแล้ว”
อรณีตวาดเสียงดังลั่นสายตาสอดส่องหาผู้จัดการส่วนตัว ที่หายไปในช่วงเวลาสำคัญ พอไม่เจอตัวยิ่งหงุดหงิดหนักพาลจ้องหน้าศรุตอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ จนชัชพลถึงกับกุมขมับกับปัญหาที่จัดการได้ยากเพราะเกรงใจนางเอกคิวทอง
“คุณชัช พรุ่งนี้อรไม่มากองนะ มีงาน แล้วก็นาย..ไปซ้อมมาใหม่ล่ะ ถ้าให้เวลาแล้วไม่ดีขึ้นนายโดนแน่ อ้อ..หนวดเหนิดถอดออกไปเลยไปซกมก ราญสายตามาก”
อรณีลากเสียงคำสุดท้ายอย่างรำคาญพร้อมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคาดโทษนักแสดงหนุ่มรุ่นน้องที่กลัวจนหน้าซีดพร้อมทั้งแกะหนวดเคราปลอมไปพลางระล่ำระลักขอโทษหล่อนไปพลาง
“ผะ..ผม..ขอโทษครับคุณอร ผู้กำกับครับ..ผม” ศรุตก้มหน้าสำนึกผิด ชัชพลเห็นดังนั้นจึงไล่ศรุตให้กลับไปก่อนแล้วจัดการเคลียร์กับอรณีเป็นการส่วนตัว
“วันนี้คุณก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะนะ..อร เดี๋ยวผมสั่งเลิกกองก่อน อย่าอารมณ์เสียนักเลยเสียบรรยากาศหมด เราต้องทำงานร่วมกันอีกนานกว่าจะจบเรื่อง นั่นไง ผู้จัดการคุณกระหืดกระหอบมาแล้ว สงสัยรู้ข่าวแล้ว”
ชัชพลถือโอกาสที่อรณีเผลอมองไปทางผู้จัดการส่วนตัว แอบจับมือบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจจนหล่อนถึงกับชะงักไปในความมือเร็ว หางตาตวัดมองมือหนาที่บีบแน่นไม่ปล่อยของคนที่ขยับเข้ามาใกล้ทั้งที่คนในกองเริ่มหันมาให้ความสนใจ บ้างจับกลุ่มนินทากันสนุกปาก จน ‘แสงสุรีย์’ ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของอรณี เห็นท่าทางไม่ดีถึงกับหน้าตาตื่นวิ่งตรงเข้ามายังจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ต้องรีบเข้ามากันอรณีกับชัชพลให้ออกห่างจากกัน
“นี่วันนี้มีอะไรทำไมเลิกกองเร็วนักละคะน้องอร โทษทีนะเจ้มาสายไปหน่อย มัวแต่ไปหาซื้อขนมฝากคุณชัชกับทีมงานน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ คุณชัช”
‘แสงสุรีย์’ สาวไทยเชื้อสายจีนท่าทางเจ้าระเบียบวัยใกล้เคียงกับชัชพล เอ่ยขอโทษแล้วปรายตามองอรณีเล็กน้อย เพราะรู้นิสัยขี้วีนของหล่อนดีหลังจากได้รับการฝากฝังจากรินลดาผู้จัดการคนเก่าที่ลาออกเพราะแต่งงานไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ทั้งที่รู้กิตติศัพท์แต่ค่าตอบแทนก้อนโตในแต่ละเดือนที่ได้รับทำให้หล่อนต้องตัดสินใจทิ้งเด็กปั้นปลายแถวมาคว้าตำแหน่งผู้จัดการดาราดังอย่างอรณีแทน และหล่อนก็ทำหน้าที่นี้ได้ค่อนข้างดีไม่มีที่ติเสียด้วย
“เจ้รู้มั๊ย วันนี้ที่เจ้แคนเซิลงานเดินแบบของพี่โอ้ให้อร เพื่อเคลียร์ฉากนี้ให้พี่ชัช เพราะเห็นแก่ว่าต้องเอาไปตัดทีเซอร์ ที่จริงก็ไม่อยากหรอกนะ แต่ไอ้เด็กบ้านั่นมันทำอรเสียอารมณ์สุดๆ รู้งี้ไม่ยกเลิกหรอก”
อรณีขมวดคิ้วย่น บ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อสายตามองเลยไปสบกับศรุตที่กำลังเปิดประตูรถยนต์ส่วนตัวจะขับออกไป สีหน้าชายหนุ่มไม่ค่อยสู้ดีนัก ส่งผลให้แสงสุรีย์ถึงกับตีเพียะเข้าให้ที่แขนอรณีเบาๆ
“โอ๊ย!! อะไรเนี่ยเจ้ ตีอรทำไม” อรณีหน้านิ่วหนัก เขม้นมองแสงสุรีย์อย่างเอาเรื่อง
“ก็ไม่ให้ตีได้ยังไง เด็กมันเสียความมั่นใจหมด ตัวเองไม่เคยเป็นเด็กใหม่รึไง ทำไมไม่ใจเย็นๆให้โอกาสเด็กมันบ้าง ถือว่าช่วยๆกันน่า”
ผู้จัดการสาวใหญ่พยายามยกแม่น้ำทั้งสี่ทั้งห้าสายมาช่วยพูด แต่มีหรือคนอย่างอรณีจะรับฟัง ดวงตากลมโตเขม็งมองรถของนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ไปจนลับตาก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความหงุดหงิด
“เออ แล้วเจ้น่ะ ไปแค่ซึ้อขนมแค่นั้นเหรอ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไม่เคยคิดจะมาสนใจดูแลกันเลยนะเห็นมั๊ย ดูอรสิ มอมเป็นลูกหมาตกโคลนอย่างนี้ หมดกัน”
อรณีก้มมองสภาพตนเองในชุดขาวบริสุทธ์ที่ตอนนี้เกรอะกรังไปด้วยเศษดินโคลนที่กำลังเริ่มแห้งอย่างหงุดหงิดมากขึ้นไปกว่าเดิม แสงสุรีย์กอดอกมองการกระทำของอรณีอย่างรำคาญนิดๆ แล้วแสยะยิ้มมุมปากอย่างหมั่นไส้ แต่คำพูดต่อมากลับหวานและแข็งกร้าวในที
“ก็ไปอาบน้ำสิ ยืนบ่นอยู่ได้ ห้องน้ำก็มี คุณผู้กำกับใหญ่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้คุณนางเอกคนดังแล้วนี่ ยังจะมาบ่นอะไรเร็วๆเข้า เค้าเก็บกองกันหมดแล้ว อยากอยู่รั้งท้ายที่นี่รึไง”
แสงสุรีย์รุนหลังอรณีให้เดินไปยังห้องอาบน้ำบนแคมพ์ปิ้งคาร์ที่ทีมงานสั่งมาเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่อรณีโดยเฉพาะ หญิงสาวหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดีเมื่อมองไปรอบๆ ผู้คนในกองขะมักเขม้นทำงานเก็บของอย่างเหน็ดเหนื่อย หล่อนอดรู้สึกผิดนิดๆไม่ได้ แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วก็หยุดเดินกะทันหัน จนแสงสุรีย์ที่เดินตามหลังไปนัดคิวงานเช้ากับหล่อนเกือบชนเข้าให้
“นี่ แล้วหยุดเดินทำไม เร็วๆเข้า เจ้ไปส่งหน้ารถ”
แสงสุรีย์เสียงเข้มอย่างข่มอารมณ์ อยู่กับอรณีหล่อนต้องใช้ความอดทนร้อยแปดพันเก้ากับคนนิสัยแบบนี้ แต่แล้วสีหน้าออดอ้อนราวกับเด็กๆ ของอรณีก็ทำให้หล่อนได้แต่ปลง
“หิวจัง..มีไรกินบ้าง ขอกินก่อนได้มั๊ย ถ่ายมาหลายฉาก ทั้งวิ่งหนีสารพัด เหนื่อยเสียพลังงานเยอะเลย เจ้ กินก่อนแล้วค่อยอาบนะ จะได้สดชื่น”
อรณีเบนทิศทางเดินจากแคมพ์ปิ้งคาร์ไปยังรถตู้ส่วนตัวสีดำติดฟิล์มทึบจนมองข้างในไม่เห็นซึ่งจอดอยู่อีกทางหนึ่ง ก่อนจะเปิดท้ายรถค้นหาอาหาร ขนมนมเนย ที่ผู้จัดการคนเก่งจัดหาเตรียมมาให้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ถึงกับต้องเบ้หน้าร้องโอย เมื่อจู่ๆมือดีก็ตีเข้าให้บนหลังมือเนียนของหล่อนจนต้องหดมือหนีแทบไม่ทัน
“นี่แน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย ขนมปังเอาคืนมา ของตัวเป็นสลัดบร็อคโคลี่ร้านท็อปโฟร์ เจ้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปซื้อไกลๆมาให้เลยมาช้านี่แหละ กับน้ำส้มคั้นแช่เย็นๆในลัง อย่างอื่นห้าม นั่นของทีมงานไม่ได้ซื้อมาให้”
“ใจร้าย ก็มันเบื่อนี่ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนเมนูอื่นบ้าง พิซซ่ามั่งไรมั่งงี้ก็ได้ เจ้คิดดูนะ ของขึ้นชื่อร้านท็อปโฟร์สี่อย่างอร่อยๆทั้งนั้น ทั้งพิซซ่าเอย เพนเน่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์เอย พาสต้ากุ้งไวน์ขาวเอย ไหนจะแซนวิซชีสย่างเอย ไม่ได้กินซักอย่างนึง ”
อรณีบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็รับกล่องสลัดกับน้ำส้มมาไว้ถือไว้อย่างจำใจก่อนจะจัดการทั้งสองอย่างด้วยความหิวโหย แสงสุรีย์ได้แต่มองอย่างระอา นึกสงสารเล็กน้อยแต่เพื่อความสวยงามสม่ำเสมอซึ่งส่งผลต่ออาชีพทำให้หล่อนต้องใจแข็งเข้าไว้
“รีบๆกินเข้า แล้วไปอาบน้ำ เสื้อผ้าเจ้เตรียมไว้ในกระเป๋านั่นแล้ว เอาเข้าไปเปลี่ยนด้วยล่ะ พรุ่งนี้มีบรีฟงานละครเรื่องใหม่ เดี๋ยวเจ้เอาขนมไปฝากทีมงานก่อน”
“จ้ะ เสร็จแล้วอรจะรีบไปอาบน้ำเลย รีบๆไปสิจ้ะ”
อรณีโบกมือไล่ คนโดนไล่ส่ายหน้าเบาๆงงเล็กน้อยตามอารมณ์ดาราสาวไม่ทัน พอเดินลับสายตาไป หญิงสาวก็ล้วงหยิบขนมปังเนยก้อนโตออกมาจัดการอย่างสบายอารมณ์หลังจากแอบซ่อนมันไว้ตรงซอกรถตู้
“ยังกับลักกินขโมยกินเลยฉัน ..เฮ้อ”
ทันทีที่จัดการกับอาหารและขนมที่แอบหยิบจากถุงจนหมดไม่เหลือหลักฐาน จึงเดินลับหายขึ้นไปยังบ้านรถเพื่อจัดการกับสภาพโทรมของตนเองเสียที ผ่านไปสักพักหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพเรียบร้อยและสำรวจหน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางออกจนใบหน้านวลใสปราศจากเครื่องสำอางให้ระคายเคืองผิวอย่างที่ไม่ชอบใจแล้ว จึงเปิดประตูห้องน้ำออกมาอย่างสบายอารมณ์ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบใครบางคนยืนแอบซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่งของประตู
“เป็นไงจ้ะ บริการพิเศษเฉพาะสำหรับน้องอรคนเดียว” เป็นชัชพลที่โผล่ออกมาขวางทางเดินคับแคบ หญิงสาวทั้งตกใจและขุ่นเคือง แต่ก็ตอบคำถามเขาอย่างใจเย็น
“ก็ดีค่ะ แต่คราวหลังไม่ต้องนะคะ อรไม่ชอบที่ใครๆก็เข้าใจว่าอรเรื่องมากขอเจ้ารถนี่มาไว้ใช้ส่วนตัว ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยคะ”
อรณีเอ่ยอย่างใจเย็นในสถานการณ์หมิ่นเหม่ พร้อมทั้งเหลียวซ้ายแลขวาหาทางหนีทีไล่ถ้าชัชพลจะทำอะไรรุ่มร่าม แต่บรรยากาศภายในรถที่สลัวเพราะไฟทางเดินสีเหลืองถูกเปิดไว้เพียงแค่ดวงเดียวทำให้ภายในไม่สว่างนัก ไหนจะผ้าม่านที่ปิดแทบจะมิดชิดทุกช่องหน้าต่างอีก หญิงสาวรู้สึกใจคอไม่ดีเล็กน้อยแต่ก็ทำใจดีสู้เสือ
“ก็ที่นี่มันเป็นป่านี่จ้ะ จะหาโรงแรมที่ไหนให้น้องอรได้พักผ่อน แล้วยังฉากเลอะเทอะแบบนี้ พี่ไม่อยากเห็นอรลำบากเลย สักนิดก็ไม่อยากให้น้องอรคนสวยของพี่ต้องรำคาญใจ”
มือหนาเผลอไผลลูบแก้มนวลใสของคนตรงหน้าอย่างลืมตัว เขาหลงรักอรณีตั้งแต่แรกเห็น หญิงสาวแสนสวยตรงหน้าที่เคยมาแคสติ้งกับเขาตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆ ที่เขาเคยให้ความช่วยเหลือเล็กๆโดยที่หล่อนอาจจะจำไม่ได้ แต่เขาจำได้เสมอแต่ติดที่บางอย่างที่เขาไม่อาจแสดงตัวต่อหล่อนได้
“อย่าค่ะ..ไม่เหมาะที่ผู้กำกับจะทำท่าทีอย่างนี้กับนักแสดงหญิงของตัวนะคะ อรไม่ชอบคำครหาช่วยหลีกทางด้วยค่ะ อรจะกลับ ป่านนี้เจ้แสงรอแล้ว พี่ชัชก็รู้ใช่มั๊ยคะถ้าผู้จัดการจอมดุของอรมาเห็นจะว่ายังไง อรไม่อยากหูชาค่ะ”
อรณีผลักวงแขนหนาที่ยกขึ้นท้าวประตูขวางหน้าหล่อนให้พ้นออกจากเส้นทางแล้วรีบเบี่ยงตัวออกมาแต่ยังไม่ทันได้ออกไปจากสถานการณ์คับขัน ชัชพลก็คว้าเอวหล่อนไว้จากทางด้านหลังแล้วกอดกระชับแน่น
“อ๊ะ!! ปล่อยค่ะ จะทำอะไรพี่ชัช ปล่อยอรนะคะ ปล่อย!!”
อรณีดิ้นขลุกขลัก แต่ชัชพลกลับกระชับอ้อมกอดแน่นพร้อมซุกหน้าเข้าหาซอกคอขาวหอมกรุ่นนั้นนิ่งนานเพียงเท่านั้น ไม่ได้รุกล้ำอย่างที่อรณีหวาดหวั่นจนหญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆจากเขาที่ซบอยู่ที่หลังไหล่ของหล่อน
“ขออยู่อย่างนี้สักครู่ได้มั๊ย”
ชัชพลเสียงสั่นแปลก จนหล่อนหน้านิ่วคิ้วขมวดกลั้นใจถามออกไปทั้งที่มือเรียวกำลังพยายามแกะมือหนาที่โอบเอวของหล่อนออกเบาๆไม่ให้เขารู้ตัว
“เป็นอะไรคะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า ปรึกษาอรได้อรยินดีรับฟัง แต่ช่วยปล่อยก่อนเถอะค่ะ เกิดใครมาเห็นเข้ามันจะไม่งาม อรไม่อยากเป็นขี้ปากพวกชอบนินทา”
“งั้นคืนนี้ไปดินเนอร์กันนะ ร้านเดิมที่อรชอบดีมั๊ยจ้ะ พี่จะจองห้องวีไอพีไว้แล้วอรค่อยตามไปทีหลัง..ดีมั๊ย”
ชัชพลปล่อยอรณีที่พยายามเบี่ยงตัวเองออกจากสถานการณ์คับขันแล้วเดินนำมาหน้าประตูรถสีหน้าตระหนกของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกใจเสียเล็กน้อยยิ่งได้ฟังคำพูดต่อมาชัชพลถึงกับหน้าเสียไปใหญ่
“คืนนี้อรไม่ว่างค่ะพรุ่งนี้มีบรีฟงาน มะรืนฟิตติ้งละคร หลังจากนั้นมีถ่ายแบบนอกสถานที่ไม่มีคิวว่างสำหรับดินเนอร์เลย คงกินได้แต่ข้าวกองถ่ายแหละ คุณชัชคงต้องชวนคนอื่นแล้วล่ะค่ะ”
ไม่ทันให้ชัชพลอิดออดหรืองอนง้อใด เสียงข้อความจากโปรแกรมไลน์ของโทรศัพท์มือถือราคาแพงระยับที่เพิ่งจะเปิดเครื่องก็เรียกความสนใจให้อรณีได้ชะงัด หญิงสาวละความสนใจจากชายที่ตามลงมาและพยายามจะรั้งตัวหล่อนไว้ด้วยการคว้าหัวไหล่นวลเนียนภายใต้เสื้อยืดรัดรูปสีขาวนั้นไว้ แต่หล่อนสะบัดหนีในทันทีพร้อมก้าวยาวๆ ไปให้พ้นจากจุดลับตาคนป้องกันสายตาแพรวพราวทั้งจากของทีมงานและอาจจะมีนักข่าวที่มารอสัมภาษณ์ปะปนอยู่ด้วย แล้วก้มดูข้อความในมือถือที่ส่งมาจากใครบางคน
..รีบกลับนะ..มีของอร่อยให้ชิม..
คำสั้นๆ ที่ส่งผ่านเป็นข้อความปรากฏแก่สายตาเรียกรอยยิ้มบางให้จนต้องยิ้มออกมาลืมสนใจทุกสิ่งรอบกาย มือขาวเรียวบาง รีบกดส่งตอบข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว
..หิวจัง T___T..
..นึกแล้ว..รีบมานะจะรอ..
..วันนี้วันเกิดนี่..รีบแน่นอน รอก่อนนะ..
..อืมมมม..คิดถึง...
แค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้รอยยิ้มบางนั้นกว้างกว่าเดิมจนแสงสุรีย์ที่เดินหน้าหงิกมาตามหลังจากคุยกับทีมงานเรื่องเหตุการณ์วันนี้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วนึกโมโหนางเอกเอาแต่ใจตงิดๆ จนต้องรีบมาตามเพื่อจะกลับไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง พอมาเห็นอรณียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็ให้ยิ่งนึกสงสัยจะเข้ามาก็กลัวว่าจะขัดใจหล่อน เลยต้องหนีไปสั่งคนขับรถส่วนตัวของอรณีให้เครื่องรถแล้วเร่งเสียงดังกระหึ่มรอคอยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
สวัสดีค่ะ มีเรื่องใหม่มาลงค่ะ
ส่วนสัญญารักข้ามฟ้าที่ยังลงค้างไว้ ขอรีไรท์ก่อนค่อยลงตอนต่อนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ ^____^
เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องดังระงมกึกก้องไปทั่วทั้งป่าทึบ แข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแว่วพร้อมกับกับแสงริบหรี่ของไฟหน้ารถที่สะท้อนขึ้นลงวูบวาบตามแรงสั่นสะเทือนของพื้นถนนดินแดงขรุขระ สายฟ้าแลบแปลบปลาบและเสียงฟ้าร้องครวญครืน หญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์วิ่งหนีแสงริบหรี่ของไฟหน้ารถที่แล่นเข้ามาใกล้ทุกขณะ..ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนต้องถอดรองเท้าส้นสูงสีขาวที่เลอะไปด้วยดินโคลนทิ้งแล้ววิ่งด้วยสองเท้าเปลือยเปล่าที่เลอะเต็มไปด้วยเศษดินโคลน
ดวงหน้านวลใสซีดขาวราวกระดาษด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเท้าสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้เสียหลักจนเสียการทรงตัวทรุดลงไปกองกับพื้น ครั้งเหลียวมองตามเสียงที่ตามไล่หลังให้ยิ่งตกใจสุดขีดพยายามรวบรวมพละกำลังลุกขึ้นแต่ก็ได้แต่พยายามเมื่อพบว่ารถคันนั้นแล่นมาหยุดลงตรงหน้าในระยะประชิด แล้วใครบางคนก็ก้าวลงมาจากรถคันนั้น...
“นังตัวดี!! จะหนีไปไหน กลับไปกับกับฉันเดี๋ยวนี้!!”
“ไม่!!! ฉันไม่ไปกับแก..ไอ้โรคจิต!!”
ร่างหนาของชายหนุ่มที่ดูวัยใกล้เคียงกับหล่อน แต่อุดมไปด้วยหนวดเครารกรุงรัง เมื่อได้ฟังคำตวาดก็กระโจนเข้าหาหมายจะเข้าไปฉุดกระชากลากถูคนสวยที่ขมุกขมอมไปทั้งตัวเพื่อให้กลับไปด้วยกัน แต่แล้วเท้าข้างหนึ่งของเขากลับสะดุดเข้ากับปลายเท้าของหล่อนจนถึงกับล้มคว่ำคะมำหงายไม่เป็นท่าลงไปทับทั้งร่างของหญิงสาวที่พยายามถอยหนีจนร่างบอบบางถึงกับหงายหลังพังพาบไปกับพื้นถึงกับร้องโอดโอยออกมาเสียงดัง
“โอ๊ย!! จะบ้ารึไง ฉันเจ็บนะ”
“เทค!!!”
เสียงทรงอำนาจดังแทรกขึ้นมากลางครัน ชายหนุ่มหลังจอมอนิเตอร์ลุกขึ้นมาเท้าสะเอวตะโกนฝ่าสายฝนที่ยังคงโปรยปรายเป็นระยะ ส่งผลให้ทุกการทำงานหยุดเคลื่อนไหวในทันที พร้อมเสียงบ่นพึมพำไล่หลังเป็นระยะ
“เอฟเฟ็คหยุดได้แล้ว!! จะโปรยฝนให้เปลืองงบประมาณทำไม พวกนี้นี่คิดเองไม่เป็นน่ารำคาญจริงๆ”
สิ้นเสียงประกาศิต สายฝนที่โปรยปรายเมื่อครู่ก็หยุดลงโดยอัตโนมัติ พร้อมเสียงเอฟเฟ็คฟ้าร้องครวญครางเมื่อครู่ก็หยุดตามกันแทบไม่ทัน ส่งผลให้ป่าทั้งป่าเงียบกริบมีเพียงสภาพฉ่ำน้ำจากสายฝนปลอมและเสียงแมลงกลางคืนร้องขานรับกันเบาๆเท่านั้น
‘ชัชพล’ ผู้กำกับหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี ดีกรีผู้กำกับยอดเยี่ยมสองปีซ้อนจากเวทีประกวดระดับชาติก้าวเดินรวดเร็วเข้าหา ‘ศรุต’ นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่วัยยี่สิบสี่ปีอย่างเอาเรื่อง ชายหนุ่มร่างหนาสมส่วนบึกบึนสมชายถึงกับหน้าเสียไปทันใด มองหญิงสาวที่ยังคงกองอยู่กับพื้นสลับผู้กำกับหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา สีหน้ายิ่งตื่นกลัวเข้าไปใหญ่
“คุณ!! ทำอะไรของคุณทำไมไม่ระวังเลยวะ เสื้อผ้าหน้าผมนักแสดงหญิงต้องเซ็ทใหม่หมด ดูสิหัวหูเลอะโคลนขนาดนั้นคิดดูว่าเสียหายขนาดไหน นี่ยังไม่นับว่าคิวนางเอกวันนี้เหลืออีกกี่นาทีเลยนะ คุณก็รู้ว่านางเอกดังอย่างอรณีน่ะคิวทองขนาดไหน พลาดง่ายๆแบบนี้ได้ไง”
‘อรณี’ นักแสดงสาวสวยชื่อดังที่บัดนี้มอมอย่างกับลูกหมาตกน้ำ สะบัดมือออกจากการยึดเหนี่ยวของนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่ช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ทันทีที่ผู้กำกับหนุ่มเข้ามาถึงตัวแล้วช่วยประคองให้ทรงตัวลุกยืนได้ พอตั้งสติได้หญิงสาวก็ใส่เป็นชุดไม่ยั้งทันที
“อรบอกแล้วใช่มั๊ยคุณชัช ว่าให้ใช้นักแสดงที่มืออาชีพกว่านี้ รู้มั๊ยว่าอรเสียเวลาขนาดไหน นี่ก็ยกเลิกงานอีเวนท์ไปงานนึงเพื่อเทคิวให้แล้วนะ ยังทำไม่ได้อีกน่ารำคาญ วันนี้อรไม่ถ่ายแล้ว”
อรณีตวาดเสียงดังลั่นสายตาสอดส่องหาผู้จัดการส่วนตัว ที่หายไปในช่วงเวลาสำคัญ พอไม่เจอตัวยิ่งหงุดหงิดหนักพาลจ้องหน้าศรุตอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ จนชัชพลถึงกับกุมขมับกับปัญหาที่จัดการได้ยากเพราะเกรงใจนางเอกคิวทอง
“คุณชัช พรุ่งนี้อรไม่มากองนะ มีงาน แล้วก็นาย..ไปซ้อมมาใหม่ล่ะ ถ้าให้เวลาแล้วไม่ดีขึ้นนายโดนแน่ อ้อ..หนวดเหนิดถอดออกไปเลยไปซกมก ราญสายตามาก”
อรณีลากเสียงคำสุดท้ายอย่างรำคาญพร้อมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคาดโทษนักแสดงหนุ่มรุ่นน้องที่กลัวจนหน้าซีดพร้อมทั้งแกะหนวดเคราปลอมไปพลางระล่ำระลักขอโทษหล่อนไปพลาง
“ผะ..ผม..ขอโทษครับคุณอร ผู้กำกับครับ..ผม” ศรุตก้มหน้าสำนึกผิด ชัชพลเห็นดังนั้นจึงไล่ศรุตให้กลับไปก่อนแล้วจัดการเคลียร์กับอรณีเป็นการส่วนตัว
“วันนี้คุณก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะนะ..อร เดี๋ยวผมสั่งเลิกกองก่อน อย่าอารมณ์เสียนักเลยเสียบรรยากาศหมด เราต้องทำงานร่วมกันอีกนานกว่าจะจบเรื่อง นั่นไง ผู้จัดการคุณกระหืดกระหอบมาแล้ว สงสัยรู้ข่าวแล้ว”
ชัชพลถือโอกาสที่อรณีเผลอมองไปทางผู้จัดการส่วนตัว แอบจับมือบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจจนหล่อนถึงกับชะงักไปในความมือเร็ว หางตาตวัดมองมือหนาที่บีบแน่นไม่ปล่อยของคนที่ขยับเข้ามาใกล้ทั้งที่คนในกองเริ่มหันมาให้ความสนใจ บ้างจับกลุ่มนินทากันสนุกปาก จน ‘แสงสุรีย์’ ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของอรณี เห็นท่าทางไม่ดีถึงกับหน้าตาตื่นวิ่งตรงเข้ามายังจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ต้องรีบเข้ามากันอรณีกับชัชพลให้ออกห่างจากกัน
“นี่วันนี้มีอะไรทำไมเลิกกองเร็วนักละคะน้องอร โทษทีนะเจ้มาสายไปหน่อย มัวแต่ไปหาซื้อขนมฝากคุณชัชกับทีมงานน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ คุณชัช”
‘แสงสุรีย์’ สาวไทยเชื้อสายจีนท่าทางเจ้าระเบียบวัยใกล้เคียงกับชัชพล เอ่ยขอโทษแล้วปรายตามองอรณีเล็กน้อย เพราะรู้นิสัยขี้วีนของหล่อนดีหลังจากได้รับการฝากฝังจากรินลดาผู้จัดการคนเก่าที่ลาออกเพราะแต่งงานไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ทั้งที่รู้กิตติศัพท์แต่ค่าตอบแทนก้อนโตในแต่ละเดือนที่ได้รับทำให้หล่อนต้องตัดสินใจทิ้งเด็กปั้นปลายแถวมาคว้าตำแหน่งผู้จัดการดาราดังอย่างอรณีแทน และหล่อนก็ทำหน้าที่นี้ได้ค่อนข้างดีไม่มีที่ติเสียด้วย
“เจ้รู้มั๊ย วันนี้ที่เจ้แคนเซิลงานเดินแบบของพี่โอ้ให้อร เพื่อเคลียร์ฉากนี้ให้พี่ชัช เพราะเห็นแก่ว่าต้องเอาไปตัดทีเซอร์ ที่จริงก็ไม่อยากหรอกนะ แต่ไอ้เด็กบ้านั่นมันทำอรเสียอารมณ์สุดๆ รู้งี้ไม่ยกเลิกหรอก”
อรณีขมวดคิ้วย่น บ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อสายตามองเลยไปสบกับศรุตที่กำลังเปิดประตูรถยนต์ส่วนตัวจะขับออกไป สีหน้าชายหนุ่มไม่ค่อยสู้ดีนัก ส่งผลให้แสงสุรีย์ถึงกับตีเพียะเข้าให้ที่แขนอรณีเบาๆ
“โอ๊ย!! อะไรเนี่ยเจ้ ตีอรทำไม” อรณีหน้านิ่วหนัก เขม้นมองแสงสุรีย์อย่างเอาเรื่อง
“ก็ไม่ให้ตีได้ยังไง เด็กมันเสียความมั่นใจหมด ตัวเองไม่เคยเป็นเด็กใหม่รึไง ทำไมไม่ใจเย็นๆให้โอกาสเด็กมันบ้าง ถือว่าช่วยๆกันน่า”
ผู้จัดการสาวใหญ่พยายามยกแม่น้ำทั้งสี่ทั้งห้าสายมาช่วยพูด แต่มีหรือคนอย่างอรณีจะรับฟัง ดวงตากลมโตเขม็งมองรถของนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ไปจนลับตาก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความหงุดหงิด
“เออ แล้วเจ้น่ะ ไปแค่ซึ้อขนมแค่นั้นเหรอ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไม่เคยคิดจะมาสนใจดูแลกันเลยนะเห็นมั๊ย ดูอรสิ มอมเป็นลูกหมาตกโคลนอย่างนี้ หมดกัน”
อรณีก้มมองสภาพตนเองในชุดขาวบริสุทธ์ที่ตอนนี้เกรอะกรังไปด้วยเศษดินโคลนที่กำลังเริ่มแห้งอย่างหงุดหงิดมากขึ้นไปกว่าเดิม แสงสุรีย์กอดอกมองการกระทำของอรณีอย่างรำคาญนิดๆ แล้วแสยะยิ้มมุมปากอย่างหมั่นไส้ แต่คำพูดต่อมากลับหวานและแข็งกร้าวในที
“ก็ไปอาบน้ำสิ ยืนบ่นอยู่ได้ ห้องน้ำก็มี คุณผู้กำกับใหญ่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้คุณนางเอกคนดังแล้วนี่ ยังจะมาบ่นอะไรเร็วๆเข้า เค้าเก็บกองกันหมดแล้ว อยากอยู่รั้งท้ายที่นี่รึไง”
แสงสุรีย์รุนหลังอรณีให้เดินไปยังห้องอาบน้ำบนแคมพ์ปิ้งคาร์ที่ทีมงานสั่งมาเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่อรณีโดยเฉพาะ หญิงสาวหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดีเมื่อมองไปรอบๆ ผู้คนในกองขะมักเขม้นทำงานเก็บของอย่างเหน็ดเหนื่อย หล่อนอดรู้สึกผิดนิดๆไม่ได้ แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วก็หยุดเดินกะทันหัน จนแสงสุรีย์ที่เดินตามหลังไปนัดคิวงานเช้ากับหล่อนเกือบชนเข้าให้
“นี่ แล้วหยุดเดินทำไม เร็วๆเข้า เจ้ไปส่งหน้ารถ”
แสงสุรีย์เสียงเข้มอย่างข่มอารมณ์ อยู่กับอรณีหล่อนต้องใช้ความอดทนร้อยแปดพันเก้ากับคนนิสัยแบบนี้ แต่แล้วสีหน้าออดอ้อนราวกับเด็กๆ ของอรณีก็ทำให้หล่อนได้แต่ปลง
“หิวจัง..มีไรกินบ้าง ขอกินก่อนได้มั๊ย ถ่ายมาหลายฉาก ทั้งวิ่งหนีสารพัด เหนื่อยเสียพลังงานเยอะเลย เจ้ กินก่อนแล้วค่อยอาบนะ จะได้สดชื่น”
อรณีเบนทิศทางเดินจากแคมพ์ปิ้งคาร์ไปยังรถตู้ส่วนตัวสีดำติดฟิล์มทึบจนมองข้างในไม่เห็นซึ่งจอดอยู่อีกทางหนึ่ง ก่อนจะเปิดท้ายรถค้นหาอาหาร ขนมนมเนย ที่ผู้จัดการคนเก่งจัดหาเตรียมมาให้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ถึงกับต้องเบ้หน้าร้องโอย เมื่อจู่ๆมือดีก็ตีเข้าให้บนหลังมือเนียนของหล่อนจนต้องหดมือหนีแทบไม่ทัน
“นี่แน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย ขนมปังเอาคืนมา ของตัวเป็นสลัดบร็อคโคลี่ร้านท็อปโฟร์ เจ้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปซื้อไกลๆมาให้เลยมาช้านี่แหละ กับน้ำส้มคั้นแช่เย็นๆในลัง อย่างอื่นห้าม นั่นของทีมงานไม่ได้ซื้อมาให้”
“ใจร้าย ก็มันเบื่อนี่ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนเมนูอื่นบ้าง พิซซ่ามั่งไรมั่งงี้ก็ได้ เจ้คิดดูนะ ของขึ้นชื่อร้านท็อปโฟร์สี่อย่างอร่อยๆทั้งนั้น ทั้งพิซซ่าเอย เพนเน่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์เอย พาสต้ากุ้งไวน์ขาวเอย ไหนจะแซนวิซชีสย่างเอย ไม่ได้กินซักอย่างนึง ”
อรณีบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็รับกล่องสลัดกับน้ำส้มมาไว้ถือไว้อย่างจำใจก่อนจะจัดการทั้งสองอย่างด้วยความหิวโหย แสงสุรีย์ได้แต่มองอย่างระอา นึกสงสารเล็กน้อยแต่เพื่อความสวยงามสม่ำเสมอซึ่งส่งผลต่ออาชีพทำให้หล่อนต้องใจแข็งเข้าไว้
“รีบๆกินเข้า แล้วไปอาบน้ำ เสื้อผ้าเจ้เตรียมไว้ในกระเป๋านั่นแล้ว เอาเข้าไปเปลี่ยนด้วยล่ะ พรุ่งนี้มีบรีฟงานละครเรื่องใหม่ เดี๋ยวเจ้เอาขนมไปฝากทีมงานก่อน”
“จ้ะ เสร็จแล้วอรจะรีบไปอาบน้ำเลย รีบๆไปสิจ้ะ”
อรณีโบกมือไล่ คนโดนไล่ส่ายหน้าเบาๆงงเล็กน้อยตามอารมณ์ดาราสาวไม่ทัน พอเดินลับสายตาไป หญิงสาวก็ล้วงหยิบขนมปังเนยก้อนโตออกมาจัดการอย่างสบายอารมณ์หลังจากแอบซ่อนมันไว้ตรงซอกรถตู้
“ยังกับลักกินขโมยกินเลยฉัน ..เฮ้อ”
ทันทีที่จัดการกับอาหารและขนมที่แอบหยิบจากถุงจนหมดไม่เหลือหลักฐาน จึงเดินลับหายขึ้นไปยังบ้านรถเพื่อจัดการกับสภาพโทรมของตนเองเสียที ผ่านไปสักพักหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพเรียบร้อยและสำรวจหน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางออกจนใบหน้านวลใสปราศจากเครื่องสำอางให้ระคายเคืองผิวอย่างที่ไม่ชอบใจแล้ว จึงเปิดประตูห้องน้ำออกมาอย่างสบายอารมณ์ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบใครบางคนยืนแอบซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่งของประตู
“เป็นไงจ้ะ บริการพิเศษเฉพาะสำหรับน้องอรคนเดียว” เป็นชัชพลที่โผล่ออกมาขวางทางเดินคับแคบ หญิงสาวทั้งตกใจและขุ่นเคือง แต่ก็ตอบคำถามเขาอย่างใจเย็น
“ก็ดีค่ะ แต่คราวหลังไม่ต้องนะคะ อรไม่ชอบที่ใครๆก็เข้าใจว่าอรเรื่องมากขอเจ้ารถนี่มาไว้ใช้ส่วนตัว ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยคะ”
อรณีเอ่ยอย่างใจเย็นในสถานการณ์หมิ่นเหม่ พร้อมทั้งเหลียวซ้ายแลขวาหาทางหนีทีไล่ถ้าชัชพลจะทำอะไรรุ่มร่าม แต่บรรยากาศภายในรถที่สลัวเพราะไฟทางเดินสีเหลืองถูกเปิดไว้เพียงแค่ดวงเดียวทำให้ภายในไม่สว่างนัก ไหนจะผ้าม่านที่ปิดแทบจะมิดชิดทุกช่องหน้าต่างอีก หญิงสาวรู้สึกใจคอไม่ดีเล็กน้อยแต่ก็ทำใจดีสู้เสือ
“ก็ที่นี่มันเป็นป่านี่จ้ะ จะหาโรงแรมที่ไหนให้น้องอรได้พักผ่อน แล้วยังฉากเลอะเทอะแบบนี้ พี่ไม่อยากเห็นอรลำบากเลย สักนิดก็ไม่อยากให้น้องอรคนสวยของพี่ต้องรำคาญใจ”
มือหนาเผลอไผลลูบแก้มนวลใสของคนตรงหน้าอย่างลืมตัว เขาหลงรักอรณีตั้งแต่แรกเห็น หญิงสาวแสนสวยตรงหน้าที่เคยมาแคสติ้งกับเขาตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆ ที่เขาเคยให้ความช่วยเหลือเล็กๆโดยที่หล่อนอาจจะจำไม่ได้ แต่เขาจำได้เสมอแต่ติดที่บางอย่างที่เขาไม่อาจแสดงตัวต่อหล่อนได้
“อย่าค่ะ..ไม่เหมาะที่ผู้กำกับจะทำท่าทีอย่างนี้กับนักแสดงหญิงของตัวนะคะ อรไม่ชอบคำครหาช่วยหลีกทางด้วยค่ะ อรจะกลับ ป่านนี้เจ้แสงรอแล้ว พี่ชัชก็รู้ใช่มั๊ยคะถ้าผู้จัดการจอมดุของอรมาเห็นจะว่ายังไง อรไม่อยากหูชาค่ะ”
อรณีผลักวงแขนหนาที่ยกขึ้นท้าวประตูขวางหน้าหล่อนให้พ้นออกจากเส้นทางแล้วรีบเบี่ยงตัวออกมาแต่ยังไม่ทันได้ออกไปจากสถานการณ์คับขัน ชัชพลก็คว้าเอวหล่อนไว้จากทางด้านหลังแล้วกอดกระชับแน่น
“อ๊ะ!! ปล่อยค่ะ จะทำอะไรพี่ชัช ปล่อยอรนะคะ ปล่อย!!”
อรณีดิ้นขลุกขลัก แต่ชัชพลกลับกระชับอ้อมกอดแน่นพร้อมซุกหน้าเข้าหาซอกคอขาวหอมกรุ่นนั้นนิ่งนานเพียงเท่านั้น ไม่ได้รุกล้ำอย่างที่อรณีหวาดหวั่นจนหญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆจากเขาที่ซบอยู่ที่หลังไหล่ของหล่อน
“ขออยู่อย่างนี้สักครู่ได้มั๊ย”
ชัชพลเสียงสั่นแปลก จนหล่อนหน้านิ่วคิ้วขมวดกลั้นใจถามออกไปทั้งที่มือเรียวกำลังพยายามแกะมือหนาที่โอบเอวของหล่อนออกเบาๆไม่ให้เขารู้ตัว
“เป็นอะไรคะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า ปรึกษาอรได้อรยินดีรับฟัง แต่ช่วยปล่อยก่อนเถอะค่ะ เกิดใครมาเห็นเข้ามันจะไม่งาม อรไม่อยากเป็นขี้ปากพวกชอบนินทา”
“งั้นคืนนี้ไปดินเนอร์กันนะ ร้านเดิมที่อรชอบดีมั๊ยจ้ะ พี่จะจองห้องวีไอพีไว้แล้วอรค่อยตามไปทีหลัง..ดีมั๊ย”
ชัชพลปล่อยอรณีที่พยายามเบี่ยงตัวเองออกจากสถานการณ์คับขันแล้วเดินนำมาหน้าประตูรถสีหน้าตระหนกของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกใจเสียเล็กน้อยยิ่งได้ฟังคำพูดต่อมาชัชพลถึงกับหน้าเสียไปใหญ่
“คืนนี้อรไม่ว่างค่ะพรุ่งนี้มีบรีฟงาน มะรืนฟิตติ้งละคร หลังจากนั้นมีถ่ายแบบนอกสถานที่ไม่มีคิวว่างสำหรับดินเนอร์เลย คงกินได้แต่ข้าวกองถ่ายแหละ คุณชัชคงต้องชวนคนอื่นแล้วล่ะค่ะ”
ไม่ทันให้ชัชพลอิดออดหรืองอนง้อใด เสียงข้อความจากโปรแกรมไลน์ของโทรศัพท์มือถือราคาแพงระยับที่เพิ่งจะเปิดเครื่องก็เรียกความสนใจให้อรณีได้ชะงัด หญิงสาวละความสนใจจากชายที่ตามลงมาและพยายามจะรั้งตัวหล่อนไว้ด้วยการคว้าหัวไหล่นวลเนียนภายใต้เสื้อยืดรัดรูปสีขาวนั้นไว้ แต่หล่อนสะบัดหนีในทันทีพร้อมก้าวยาวๆ ไปให้พ้นจากจุดลับตาคนป้องกันสายตาแพรวพราวทั้งจากของทีมงานและอาจจะมีนักข่าวที่มารอสัมภาษณ์ปะปนอยู่ด้วย แล้วก้มดูข้อความในมือถือที่ส่งมาจากใครบางคน
..รีบกลับนะ..มีของอร่อยให้ชิม..
คำสั้นๆ ที่ส่งผ่านเป็นข้อความปรากฏแก่สายตาเรียกรอยยิ้มบางให้จนต้องยิ้มออกมาลืมสนใจทุกสิ่งรอบกาย มือขาวเรียวบาง รีบกดส่งตอบข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว
..หิวจัง T___T..
..นึกแล้ว..รีบมานะจะรอ..
..วันนี้วันเกิดนี่..รีบแน่นอน รอก่อนนะ..
..อืมมมม..คิดถึง...
แค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้รอยยิ้มบางนั้นกว้างกว่าเดิมจนแสงสุรีย์ที่เดินหน้าหงิกมาตามหลังจากคุยกับทีมงานเรื่องเหตุการณ์วันนี้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วนึกโมโหนางเอกเอาแต่ใจตงิดๆ จนต้องรีบมาตามเพื่อจะกลับไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง พอมาเห็นอรณียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็ให้ยิ่งนึกสงสัยจะเข้ามาก็กลัวว่าจะขัดใจหล่อน เลยต้องหนีไปสั่งคนขับรถส่วนตัวของอรณีให้เครื่องรถแล้วเร่งเสียงดังกระหึ่มรอคอยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
สวัสดีค่ะ มีเรื่องใหม่มาลงค่ะ
ส่วนสัญญารักข้ามฟ้าที่ยังลงค้างไว้ ขอรีไรท์ก่อนค่อยลงตอนต่อนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ ^____^
lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2557, 17:36:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2557, 16:38:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1679
บทที่ 2 จะผิดไหม..หากหัวใจต้องการไออุ่น >> |
ปริยาธร 24 เม.ย. 2557, 10:21:05 น.
มาตามให้กำลังใจเรื่องใหม่ค่า
มาตามให้กำลังใจเรื่องใหม่ค่า
lovereason 24 เม.ย. 2557, 13:18:53 น.
ขอบคุณมากๆค่า พี่นุ้ย ^___^
ขอบคุณมากๆค่า พี่นุ้ย ^___^