หงส์ซ่อนลาย
เธอจะทำยังไง ในเมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าพี่ชายเธอ คือคนรักของเธอเอง
Tags: มาเฟีย ตบจุบ รักโรแมนติก ดรา่่มา

ตอน: บทที่ 5 งานเต้นรำที่ไม่อาจทนฝืน (สนพ.เลิฟอีส)

งานเต้นรำที่ไม่อาจทนฝืน

“คุณจีนาสั่งอาหารได้เลยครับ ผมสั่งน้ำผลไม้เอาเป็นน้ำส้มคั้นให้กับคุณแล้ว”

“บรั่นดีดีกว่าค่ะ” เธอยิ้ม

“บรั่นดี” เขาเลิกคิ้ว “ผมคิดว่าคุณจะชอบน้ำผลไม้ซะอีก”

“นี่เป็นการนัดระหว่างเราสองคน อะไรที่ฉันไม่ชอบก็บอกอย่างนั้น ดีกว่าที่เราจะรู้กันทีหลังไม่ใช่หรือคะ บางทีฉันอาจไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิดก็ได้”

เสียงหัวเราะดังออกมาจากปากของเขา

“ดีเสียอีกครับ พูดตรง ๆ อย่างนี้ผมชอบ เอาล่ะ...ดีเหมือนกัน พูดกันตรง ๆ แบบนี้แหละเปิดอกคุยกัน ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันที่จะรู้ทีหลังว่าคุณไม่ชอบหรือชอบอะไรบ้าง คุณนี่แตกต่างไปจากพวกผู้หญิงที่ผมเคยพบเจอมานะ ทุกคนค่อนข้างพออกพอใจกับการที่ผมหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาให้เธอ แต่คุณ...กลับไม่ยินดียินร้าย ถามจริง ๆ เถอะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนแสดงความรู้สึกต่อคุณบ้างหรือไง”

เอนริโกหรี่ตามองเธอช้า ๆ

“เคยสิคะ มากเสียจนฉันจำไม่ไหวด้วยซ้ำไป”

“งั้นทำไม...”

“เพราะฉันแตกต่างไปจากผู้หญิงที่ผู้ชายพวกนั้นเคยเจอ ฉันเป็นหญิงสาวเอาแต่ใจ และเห็นพวกผู้ชายทุกคนโรแมนติกเหมือนกันหมดน่ะสิคะ บอกตามตรงถ้าฉันจะเป็นโสดก็เพราะลักษณะแบบนี้แหละ ไม่เคยงอนง้อใคร"

จีนายิ้มปราย ดวงตาสุกสกาวเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า เส้นผมของเธอรวบเกล้าไว้บนหลังศีรษะด้านหลัง มีปอยเส้นผมน้อย ๆ ระลงมาตามใบหน้า จมูกโด่งริมฝีปากอิ่มสวยราวกับดอกกุหลาบ ผิวขาวนวลเนียน เอนริโกมองดูเธอด้วยสายตาเปล่งประกาย ตามความคิดเขาไม่ใช่ว่าเธอไม่มีผู้ชายให้เลือก แต่เธอไม่เลือกเขามากกว่า

“แต่ถ้าเป็นผม....คุณจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า” เขาถือแก้วขึ้นมาจิบช้า ๆ นัยน์ตาเจ้าชู้

เธอยิ้มบาง ๆ ไม่ตอบว่าอะไร

“คุณจีนา...คุณสวย...และมีเสน่ห์เหลือเกิน ผมชอบคุณ”

เมื่อเธอพูดตามตรง เขาก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน

“ขอบคุณค่ะ”

อีกฝ่ายกลับยิ้มด้วยท่าทีเฉยชา ราวกับเขาเป็นอากาศธาตุก็ไม่ปาน ไม่นานนักโต๊ะของเธอก็เต็มไปด้วยอาหารที่จัดวางจนเต็มโต๊ะ พร้อมด้วยบรั่นดีที่รินใส่แก้ว จีนากินอาหารพออิ่มและยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม เอนริโกตบฝ่ามือเบา ๆ แล้วไวโอลินก็บรรเลงเพลงหวานซึ้งเบา ๆ เขาลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับผายมือออก เธอชำเลืองมองหน้าเขา แล้วเห็นรอยยิ้มบนเรียวปาก

“เชิญเต้นรำกับผมนะครับ” เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ

“ฉันไม่ชอบความโรแมนติก...เรานัดกันมาดินเนอร์ไม่ใช่หรือคะ”

“คิดซะว่าเป็นการให้เกียรติผม เพลงเดียวเท่านั้น” เขายังไม่ลดละ

“ก็ได้ค่ะ แต่แค่เพลงเดียวเท่านั้น”

จีนาวางมือลงบนฝ่ามือหนา เขาโอบช่วงเอวบางของเธอและรวบกระชับร่างบางเข้าไปชิดลำตัวของเขาเสียจนชิด หน้าตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายกับ Davidoff Cool water เป็นน้ำหอมที่หอมและมีเสน่ห์สุดลึกล้ำ แต่สำหรับเธอมันชวนปวดหัวอย่างไรบอกไม่ถูก จีนาพยายามภาวนาให้เพลงนี้จบเร็ว ๆ แต่มือหนาที่ลูบไล้แผ่นหลังและรวบร่างบางให้เข้าใกล้ ดูมันจะค้านกันอย่างไรชอบกล

“จีนา...คุณสวย...และเสน่ห์มาก จนผมไม่อยากปล่อยมือเลยคืนนี้” เสียงของเขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ริมหู

ใบหน้าสวยคมยิ้ม พลางปรายตามองคู่เต้น

“คุณไม่อยากปล่อยเลยหรือคะ”

“ใช่....ผมไม่อยากปล่อย”

เอนริโกลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างหลงใหล เพลงวอร์ลที่บรรเลงอย่างแผ่วเบา ช่วยให้ใบหน้าสวยคมลึกซึ้งและแววตาของเธอเปล่งประกายราวกับแสงดาว เธอผู้นี้มีเสน่ห์และสวยมาก มากกว่าผู้หญิงคนใดที่เขาเคยพบมา จนกระทั่งฝ่ามือที่โอบเอวบางของเธอดึงเข้ามาหาลำตัวช้า ๆ เรียวปากสีกุหลาบของเธออยู่ใกล้แค่เอื้อม...และเขาก็โน้มเรียวปากลงไปหาพร้อมกับรั้งร่างบางเข้าไปใกล้

“ถ้างั้นคุณเองก็นับว่าเป็นคนแรก ที่ได้เต้นรำกับฉัน”

นัยน์ตาของเขาทอประกายวาววับ

“แปลว่า...” เขายิ้ม

“และ....” จีนามองเขาพร้อมกับถอยห่างออกมา “เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้แตะต้องฉัน...”

ขาดคำ เอนริโกก็ชะงักกึก เมื่อปลายคางของเขากระทบกับอะไรบางอย่าง ปืนสั้นในมือเธอหันปลายกระบอกจ่อที่คางของเขา ทำเอาชายหนุ่มหน้าซีดเผือด ผละมือออกจากเอวบางทันที เธอยิ้มน้อย ๆ ปรายตาคมกริบจ้องมองเขา ไม่มีใครรู้ว่าเธอซ่อนปืนเอาไว้ตรงไหน แต่เธอชักออกมาจ่อปลายคางของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มลงมาแตะริมฝีปากสีกุหลาบของเธอแค่เอื้อม

...และเธอก็ไม่ชอบเสียด้วย

“จีนา นี่มันอะไรกัน” เขากลืนน้ำลายลงคอ บังคับเสียงไม่ให้สั่น

“บอกแล้วไงคะ ว่าฉันไม่ชอบความโรแมนติก ยิ่งไม่ชอบถ้าหากว่าผู้ชายคู่เต้นรำทำท่าเจ้าชู้โดยการมาแต๊ะอั๋งฉัน ฉันยิ่งไม่ชอบใหญ่”

เขาถอนหายใจยาว สองมือผละออกจากร่างเธอ ถอยห่างออกไป

“เอาล่ะ ผมขอโทษจีนา ผมไม่มีเจตนาจะให้คุณเข้าใจผิดอย่างนี้” เขาพยายามขอโทษ

จีนายิ้มบาง ๆ นัยน์ตาเป็นประกาย

“คุณพกปืนมาข้างนอก เวลาดินเนอร์ระหว่างเราด้วยหรือ” น้ำเสียงของเขาขุ่นมัว

“ฉันพกไปทุกที่ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับผู้ชายสองต่อสอง”

“โอเค ผมขอโทษ คุณแตกต่างไปจากผู้หญิงที่ผมเคยเจอ...คุณสวยสง่า น่าค้นหา แต่ผมไม่เข้าใจเลย เวลาที่ผมอยู่ใกล้คุณหรือใคร ๆ ก็ตาม มันเหมือนมีระยะห่างเหมือนมีกำแพงกั้นระหว่างเราทั้งสอง มันเพราะอะไรกัน” เอนริโกถามตรง ๆ

“เพราะฉันยังไม่เจอคนที่ถูกใจ คุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ ช่างเอาอกเอาใจ...แต่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณยังยิงปืนไม่แม่นยำไปกว่าฉัน หรือปกป้องฉันได้ยามที่ฉันมีภัย เมื่อนั้นคุณก็ยังไม่แตกต่างไปจากผู้ชายที่ฉันเคยเจอ ขอบคุณนะคะสำหรับมื้อค่ำในคืนนี้ และหวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก”

เธอหมุนตัวกลับทำท่าจะผละออกไป

“เดี๋ยวก่อน คุณคิดว่าจะไปได้ทั้ง ๆ ทิ้งผมเอาไว้อย่างนี้น่ะหรือ” น้ำเสียงของเขาขุ่นมัว

“ไม่เคยมีใครห้ามฉันได้ ถ้าฉันจะไป” เรียวปากสีกุหลาบยิ้ม “ลาก่อนค่ะ”

จีนาเดินออกไปโดยมีกิลโดเดินตามไปด้วย เอนริโกถอนหายใจยาว สายตาขุ่นมัว เขาเป็นถึงลูกนักการเมืองใหญ่ ผู้หญิงทุกคนล้วนแต่อยากเข้าใกล้เขาทั้งสิ้น ไม่ว่าดารา นักแสดง แต่ว่าไม่เคยมีใครปฏิเสธเขาอย่างที่จีนาทำมาก่อน ชายหนุ่มแทบจะอยากล้มโต๊ะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว น้องสาวของแก็งค์มาเฟียมาลโซ สวยและเย่อหยิ่ง เขาอยากจะรู้นักว่าในอนาคตเธอจะเจอคนที่ใช่หรือเปล่า

“โธ่เว้ย..!?” เอนริโกสบถพึมพำ


หญิงสาวเดินออกมาตรงระเบียง โดยมีกิลโดเดินตามอยู่ห่าง ๆ แสงไปสลัวและพนักงานต้อนรับก้มศีรษะให้ ดวงตาคมสวยกับเรียวปากสีกุหลาบเม้มปากแน่น เธออยากจะกลับบ้านโดยเร็วและไม่อยากจะอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย แต่ขณะที่เธอเดินจะลงลิฟต์ไป หูทั้งสองข้างก็ได้ยินเสียงดังกังวานแว่วมาจากห้องภายในโรงแรมหรือภัตตาคารหรูห้องที่ติดกับเอนริโก

“จะกลับแล้วหรือ ไม่อยู่ต่ออีกหน่อย” เสียงนั้นยิ้ม ๆ

เธอเหลียวมองไปทางเขา และเห็นชายหนุ่มร่างสูงอยู่ภายใต้ชุดเสื้อสูทสีดำดูแตกต่างไปจากผู้ชายที่เธอเคยเห็นตอนสวมเพียงเสื้อสูทกางเกงขายาว ใบหน้าคมสันนั้นมองมาที่เธอดวงตาเป็นประกายราวกับรัตติกาล จมูกโด่งริมฝีปากบาง เส้นผมที่เคยปรกลงมาบัดนี้มันเสยขึ้นแนบติดแผ่นหลัง กางเกงแสล็ครองเท้าหนังของเขาราบเรียบไปกับพื้น ที่ข้อมือสวมนาฬิกาเธอไม่รู้ว่าเขาสวมยี่ห้ออะไร แต่ที่รู้แน่ก็คือมันราคาแพงมากทีเดียว ชายหนุ่มยิ้มให้เธอช่วงไหล่กว้างบึกบึน สายตาคมกริบมองไปยังข้าง ๆ ไม่เห็นมีใครเลยสักคน

....นี่แปลว่าเขาอาจจะซื้อภัตตาคารภายในห้องนี้ไว้แล้ว เพราะไม่มีใครนอกจากเขาเพียงคนเดียว

“กิลโด รออยู่ที่นี่แหละ”

“คุณจีนา...”

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันกลับมา” เธอเน้นย้ำทุกถ้อยคำ

จีนาเดินเข้าไปหาเขา แสงสว่างจากโคมไฟระย้า สาดส่องใบหน้าคมสันที่มีนัยน์ตาทอประกายและรอยยิ้มบาง ๆ บนเรียวปากที่เหมือนผู้หญิง เธอชะลอฝีเท้าลงห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว ดวงตาคมกริบของเธอมองเขา ดูท่าทางเขาตอนนี้ดูแตกต่างไปจากที่เธอเคยเห็น

“คุณตามฉันมาหรือ” ประโยคที่เธอถามเอาซึ่ง ๆ หน้า

“อะไรทำให้คุณคิดอย่างนั้น”

“ฉันมาที่นี่ก็เจอคุณ เมื่อกี้หูฉันไม่ได้ฝาดในคำชวนของคุณไม่ใช่หรือ” เธอมองเขานัยน์ตาเป็นประกาย “คุณคงจะไม่ได้ซื้อภัตตาคารไว้สำหรับนั่งกินคนเดียวหรอก”

“บางวัน...ผมก็นั่งกินคนเดียวโดยไม่ได้เชิญใคร”

เธอมองหน้าเขาตรง ๆ

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม...คุณทำงานอะไรกันแน่ คำว่านักธุรกิจกระจอก ๆ คงไม่มีปัญญามาซื้อภัตตาคารทั้งชั้น และใส่นาฬิการาคาแพง สวมเสื้อสูทดี ๆ แบบนี้ได้”

ดวงตาคมกริบมองเขาอย่างจับผิด

“คุณ....เป็นใครกันแน่”

“มันสำคัญด้วยหรือ”

“สำคัญสิ เพราะว่าฉันอยากรู้” เธอตอบหน้าตาเฉย

ใบหน้าคมสันมีรอยยิ้มน้อย ๆ จมูกโด่งเรียวปากเป็นสันบางเฉียบราวกับผู้หญิง ผิวสีแทนไม่ขาวเหมือนผู้หญิง จีนามองเห็นนัยน์ตาของเขาพราวระยับเหมือนกับรัตติกาล รู้สึกว่าการที่เธอจะสอบถามเอาความจริงกับเขาผู้นี้เห็นจะยาก เพราะว่าวาเลนติโนรู้เท่าทันเธอไปทุกอย่าง สำหรับหญิงสาวเขาคนนี้เต็มไปด้วยปริศนาที่เธอไม่อาจรู้ และถึงเขาจะตอบออกมา....ร่างบางก็ไม่แน่ใจ ว่ามันจะเป็นความจริงทุกครั้ง....

“ผมทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะมีใครสนใจทำกัน”

“ธุรกิจอะไร” เธอไม่ยอมลดละ

“มันสำคัญนักหรือในการที่คุณจะทำตัวเหมือนตำรวจสอบสวน เค้นหาเอาความจริงจากผม ในเมื่อผมยังไม่ได้ทำอะไรผิด” เขายิ้มบาง ๆ

เธอคอแข็ง ไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อ

“เอาล่ะ ฉันจะไม่ถามอะไรคุณอีก” เธอเอ่ยพลางเดินเข้าไปใกล้ “ว่าแต่...คุณมาที่นี่นานหรือยัง”

“นานจนพอเห็นคุณเข้าไปเมื่อสักครู่ มันเป็นการดีแล้วหรือที่คุณจะออกมาก่อนทั้ง ๆ ที่หมอนั่นถูกทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียว” รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏที่ริมฝีปาก

“คุณรู้หรือว่าเขาเป็นใคร ?”

“มีใครบ้างจะไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เอนริโกเป็นชายที่ดูดีและมีเสน่ห์เชียวล่ะ”

วาเลนติโนผายมือให้นั่งบนเก้าอี้ จีนาจึงยอมนั่งลงพูดคุยกับเขา

“ผู้ชายโรแมนติก ไม่ใช่รสนิยมฉัน” เธอเอ่ยหน้าตาย “ถ้าเพียงแต่ใช้ตำแหน่ง รูปร่างหน้าตา และความโรแมนติก ที่ไหน ๆ ก็มี คนมาจีบฉันก็มีอีกตั้งเยอะแยะ แล้วคุณจะเอาอะไรมาหว่านล้อมฉัน ทำไมฉันถึงต้องนั่งคู่กับเขาด้วย”

“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

ดวงตาของเธอทอประกายราวกับแสงดาว ใบหน้าหวนสวยคม เรียวปากสีดอกกุหลาบแดงระเรื่อเหยียดยิ้ม ใบหน้ารูปไข่มีปอยผมระหน้าผาก ไหล่ขาวละเอียดไร้รอยมลทินใด ๆ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องรู้จักกับผู้ชายคนไหน แต่เดี๋ยวนี้การที่เธออยากรู้จักกับวาเลนติโน ผู้ชายผู้เงียบขรึม สุขุม เป็นสิ่งที่ท้าทาย....

“ผู้ชายที่ฉันปรารถนา....คือผู้ชายที่สามารถปกป้องผู้หญิงได้ และจะต้องยิงปืนแม่นกว่าฉัน อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ ฉันน่ะยิงปืนแม่นเหมือนจับวาง ฉันดูแลตัวเองได้...และไม่จำเป็นต้องงอนง้อใคร”

“ผู้หญิงเป็นเพศที่ยากเกินกว่าจะเข้าถึง”

“หมายความว่ายังไง”

“ในโลกนี้พระเจ้าได้สร้างผู้หญิงและผู้ชาย และได้สร้างผู้หญิงให้มีลักษณะอ่อนหวาน เรียบร้อย เป็นเพศที่บอบบางและต้องคอยตามผู้ชาย และท่านได้สร้างผู้ชายให้มีลักษณะเข้มแข็ง ชอบเอาชนะ และคอยเป็นผู้นำ แต่คุณล่ะเป็นอย่างไหน ประเภทชอบเอาชนะ คอยเป็นผู้นำ ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าสร้างคุณให้มีรูปร่างบอบบางน่ะหรือ”

คำพูดของเขาทำเอาจีนากำมือแน่น ไม่เคยมีใครอวดดีกับเธออย่างนี้มาก่อนเลย

...นี่หมายความว่า เธออ่อนแอกว่าผู้ชายอย่างนั้นเหรอ

“คุณหมายความว่ายังไง” เธอพยายามควบคุมอารมณ์ไว้เต็มที่ “รูปร่างมันเกี่ยวอะไรด้วย”

เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังมาจากวาเลนติโนเบา ๆ

“เอาล่ะครับ ถ้าเทียบระหว่างคุณกับผม คุณมองเห็นความแตกต่างอย่างไรบ้าง...คุณเป็นคนสวย สวยมากด้วย รูปร่างก็บอบบางสวมกระโปรง ผิวก็ขาวผ่อง ส่วนผมเป็นผู้ชายร่างสูง รูปร่างบึกบึนลำแขนเมื่อเทียบกับคุณแล้ว บอกได้เลยว่ามันเทียบกันไม่ได้เลย”

ฝ่ามือหนาจับแขนเธอเอาไว้ไปเทียบกับลำแขนของตัวเอง ทำเอาเธอเม้มปากแน่น สะบัดมือออกทันที

“รูปร่างหน้าตาไม่เกี่ยว”

“ผมเพียงแต่พูดถึงหลักความเป็นจริงเท่านั้น”

ใบหน้าคมสันมองเธอ ริมฝีปากมีรอยยิ้มบาง ๆ

“มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เรื่องความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ถ้าผมทำให้คุณโกรธผมก็ขอโทษด้วย”

“แปลว่าคุณไม่ยอมรับในตัวฉัน” เธอยอกย้อน “คุณเห็นฉันเป็นผู้หญิงที่ด้อยกว่าผู้ชาย”

“ผมไม่อาจปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้...”

“ถ้าอย่างนั้น” จีนามองเขานัยน์ตาวาววับ “ถ้าอย่างนี้ล่ะเป็นยังไง”

ขาดคำ เธอลุกขึ้นเดินตรงไปหาเขา แล้วก็ชักปากกระบอกปืนขึ้นมาจ่อปากกระบอกปืนไปที่ขมับของเขา พร้อมกับรอยยิ้มหยัน ดวงตาคมกริบเป็นประกายสุกใส ใบหน้าสวยหวานคิดเล่น ๆ ว่าลองเขาถูกผู้หญิงที่ตัวเองคิดว่าบอบบางและอ่อนแอ จ่อปืนยิงศีรษะของตัวเอง วาเลนติโนจะทำยังไง

ใบหน้าคมสันไม่แสดงอาการใด ๆ รอยยิ้มบนเรียวปากก็ยังปรากฏอยู่ เขาไม่หน้าซีดหรือมีอาการสั่นสะเทือนเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามสายตาของเขาที่จ้องมองเธออยู่ก็เหมือนมีรอยยิ้มน้อย ๆ ซ่อนอยู่

“ลองบอกออกมาซิ ว่าฉันยังอ่อนแอ หรือบอบบางอยู่อีกหรือเปล่า”

วาเลนติโนเพียงแต่ซ่อนยิ้มไม่ตอบว่าอะไร จนเธอชักเริ่มขุ่น

“ไม่แน่นะ บางทีฉันอาจทำนิ้วลั่นยิงปืนใส่คุณก็เป็นได้”

“คุณอยากจะรู้คำตอบของผมหรือ”

“ใช่ ฉันอยากรู้”

“เพื่ออะไรล่ะ”

“เพราะฉันอยากรู้ถึงความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย” เธอซ่อนยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย

บัดนั้น เขาก็ยกมือขึ้นปัดปากกระบอกปืนของเธอให้เงยขึ้นด้วยความเร็วชนิดที่เธอเองก็คาดไม่ถึง แล้วก่อนที่เธอจะทำอะไรถูก วาเลนติโนก็เอียงตัววูบเข้ามายังด้านหลังเธอ แล้วมือแข็งแรงอบอุ่นของเขาก็รวบตัวเธอเอาไว้แน่น จับทั้งแขนของเธอทั้งสองข้างรวบกับเอวบาง ปืนร่วงหล่นบนพื้น จีนาตกใจจนบอกไม่ถูก วาเลนติโนเคยเอาชนะเธอด้วยศิลปะการต่อสู้มาก่อนแล้วเธอก็พลาดได้ แก้มของเธอแดงจัดพยายามจะขัดขืน ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดแน่นขึ้นราวกับปลอกเหล็ก จนเธอขยับตัวไม่ได้

“นาย...!?” เธอกระซิบเสียงแหบพร่า

“นี่ไงล่ะ ความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ไม่ว่าคุณจะทำยังไงเรี่ยวแรงก็สู้ผู้ชายอย่างผมไม่ได้หรอก” เสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอของอีกฝ่าย

จีนาทั้งเจ็บใจและละอายอย่างบอกไม่ถูก

“ปล่อยฉันนะ แบบนี้มันขี้โกงกันนี่นา”

“ขี้โกงยังไง หรือจะให้ผมรอให้คุณยิงสมองผมเสียก่อนแล้วค่อยเจรจาหรือ”

จีนาพยายามจะดิ้นรน แต่ปลอกแขนที่โอบรอบเอวไว้กับฝ่ามือหนายังจับไว้ที่มือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่คลอเคลียอยู่ที่ด้านหลัง เขาจูบเธอตั้งแต่เส้นผม ลำคอ ตลอดจนเรียวแก้มด้านข้าง ยิ่งเธอถอยห่างเขาก็ยิ่งแกล้งเธอ สัมผัสนุ่มละมุนนั้นกลับทำให้เธอหมดแรง มือไม้อ่อนไปหมด จีนาหันไปทางซ้ายเขาก็คลอเคลียริมฝีปากมาทางแก้มทางด้านซ้าย เธอไม่เคยต้องอับอายและเจ็บใจขนาดนี้มาก่อน

“ทีนี้รู้หรือยังล่ะ ว่าคุณเป็นผู้หญิงและผมก็เป็นผู้ชาย”

**********************





เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2557, 10:06:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2557, 10:06:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1181





<< บทที่ 4 ไม่ชอบผู้ชายโรแมนติก (สนพ.เลิฟอีส)    บทที่ 6 ความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (สนพ.เลิฟอีส) >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 30 เม.ย. 2557, 10:38:02 น.
รู้ชัดละค้าาาา วาดลนติโน่ อร๊ายๆๆๆ


เบลินญา 30 เม.ย. 2557, 13:29:18 น.
หลอกให้ลุ้นมานานใช่มั้ยล่ะคะ


Zephyr 30 เม.ย. 2557, 19:46:07 น.
เหอๆๆๆ อวดดีไปเถ้อ
สู้วาเลนไม่ได้หรอกๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account