สิเน่หา...ยอดดวงใจ
260 ปี มันช่างนานแสนนานเหลือเกินกับการต้องรอคอยพบเจอะเจอหญิงสาวอันเป็นนิมิตรหมายในห้วงอันคลั่งแค้นแสนสะสมมานานเป็นร้อยๆ ปีคริสต์ศักราช

แนะนำตัวละคร

ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ บุรุษมหาเศรษฐีเก่าแก่ลึกลับตระกูลหนึ่งของรัสเซีย ทรัพย์สินที่มีไว้ครอบครองมีค่ามากกว่าเมืองหนึ่งๆ ของรัสเซียเลยทีเดียว

ในอดีตชื่อ Anna Mikhailov

ปัจจุบันชื่อ อันนา วรเวช สาวน้อยวัยยี่สิบสองปี ที่ต้องมาจมปลักทนทุกข์ เมื่อกำลังเดินทางมายังเมืองมอสโกแห่งรัสเซียแล่นสู่คฤหาสน์วาติดิน ใน ฐานะ ภรรยาของดานิล วาดิตินวัยหกสิบปี อันนาเข้าใจว่า ดานิลคือชายชรา ก้าวแรกที่เข้ามาได้พบเขา อันนาก็ต้องตกใจ ไหนจากบ้านของเธอบอกว่า ดานิล วาดิติน อายุหกสิบปีแล้ว คนที่เธอเห็นตรงหน้ากลับเป็นชายหนุ่มเรือนร่างกำยำหล่อเหลาไร้ที่ติ แต่ดวงตาคู่คมกริบที่จ้องมองเธอนั้นกลับน่ากลัวเหลือเกิน คำแรกที่ดานิลเอ่ยกับอันนา คือ คำสั่ง เป็นคำสั่งที่อันนาแทบมึนงุนงง ไม่เข้าใจเสียจริงๆ เขาต้องการให้เธอค้นหาหัวใจของเขาที่หายไป...

Tags: รักโรแมนติกพาฝัน,ซึ้งกินใจ,สิเน่หา...ยอดดวงใจ

ตอน: บทที่ 9 สิเน่หารัญจวน...

บทที่ 9 สิเน่หารัญจวน...

ชีวิตของอันนา วนเวียนอยู่ในคฤหาสน์วาดิตินแค่ไม่กี่แห่ง เพราะดานิลไม่อยากให้เธอออกไปไหนตามลพังอีกแล้ว แถมยังต้องเจอรังสีคุกคามจนทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง ห้องสมุดออกจะกว้างนะ แต่ว่าทำไมหญิงสาวกลับรู้สึกว่ามันคับแคบลงชอบกล ก่อนจะเหลือบไปมองร่างบุรุษผู้ช่วยของเธอในวันนี้อย่างหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก เธออยากให้เจ้าแมวเรเวนมาเป็นผู้ช่วยมากกว่า เพราะดูๆ แล้ว เกิดความสบายใจขึ้นเยอะเลย

“เจ้าคิดจะอ่านพวกนี้ จนหมดเลยหรือไง อันนา” จู่ๆ เสียงทุ้มแกมดุดันได้เอ่ยร้องถาม หลังจากนอนเหยียดตัวยาวๆ บนโซฟาใหญ่ เพื่อดูอันนาค้นหาแหล่งที่ซ่อนหัวใจของเขา ในกองหนังสือมหึมา

“เอ่อ...ค่ะ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน” แม้จะสะดุ้งกับน้ำเสียงที่มิสเตอร์ดานิลถาม ถ้าให้เขาช่วยมีหวังพาเธอจับไข้ตัวร้อนจี๋อีกแน่ๆ ครั้งที่แล้วเขาใจร้ายและโหดมาก ปล่อยให้เธอยืนอยู่ปากเหวทะเลดำอันเย็นยะเยือก เกือบเอาชีวิตไม่รอด

“หึๆ เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าวันนี้ผู้ช่วยของเจ้าเป็นใคร หือ!”

“เอ่อ...ขอผู้ช่วยเป็นเจ้าแมวลายเสือเหมือนเดิมได้ไหมคะ” อันนารีบเอ่ยต่อรอง อย่างกลัวๆ ในใจ

“ไม่ได้! เจ้าเรเวนมันชอบพาออกนอกลู่ นอกทางจนเกินไป” นอกสายตาของเขาด้วย เพราะทำให้เขาต้องวิ่งแล่น ตามหาจนเหนื่อยแทบหมดแรงเลยนั่นสิ

อันนาหน้างำ ด้วยความไม่พอใจ เพราะเขากำลังกักเกณฑ์ชีวิตของเธอ ร่างบางหันหลังหนีอย่างไหลสั่นเบาๆ เธอไม่รู้ว่าจะตามหัวใจของเขาได้ที่ไหน สมองของเธอแทบคิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น แม้แต่ความทรงจำก็ยังไม่มีเลย เอ๊ะ...ใช่แล้วความทรงจำ...มีเพียงสิ่งนี้แหละ ที่จะช่วยให้เธอตามหาหัวใจของมิสเตอร์ดานิลได้ จงนึกสิ...จงจำได้...อันนาพยายามพึมพำพูดอยู่ในใจ และหลับตาพริ้มลงอยู่คนเดียว โดยไม่รู้ตัวว่ามีบุรุษร่างใหญ่เดินเข้ามาหาอย่างชิดใกล้...ดานิลเป่าลมหายใจใส่หน้าผากของหญิงสาวเบาๆ เรือนร่างบางก็ค่อยๆ เอนอ่อนล้ม...วงแขนแกร่งรับเอาไว้ และช้อนอุ้มร่างบางมาไว้โซฟาที่เขาได้นอนเล่นๆ สบายๆ เมื่อสักครู่...

“หึๆ เจ้าอยากได้ความทรงจำ ก็ไม่บอก” ดานิลสรุป...เพราะอ่านใจของเธอได้เสมอๆ นิ้วมือหนาไล่สัมผัสใบหน้าหญิงสาวอย่างหลงใหลเต็มประดา...ก่อนจะมาแตะหยุดที่ริมฝีปากบาง ซึ่งกำลังพึมพำราวกับละเมอๆ หลับฝัน...ดานิลโน้มตัวลงมาใกล้ๆ ใบหน้านวล แล้วแอบลักจุมพิตเบาๆ ด้วยแรงรอยอัคคีปรารถนาที่แผดเผาผลาญในร่างกายตนเอง



‘สองเดือนหลังจากที่อันนา มิคาโรฟวา ได้เห็นดานิลชายหนุ่มอันที่กลับมาแล้ว มาร์ตินนี่แห่งริคออน ก็วางแผนใหม่ด้วยการเป่าประกาศไปทั่วๆ ว่า การที่ดานิลกลับมา คือ ปีศาจร้าย เพราะเขาเห็นดานิลตายแล้วต่างหาก หลักฐานก็มียืนยัน ด้วยแหวนของดานิล ทำให้ที่ประชุมดินแดนรอฟเวย์ เชื่อในสิ่งที่หัวหน้าเผ่าริคออนเอ่ยบอกเกือบทั้งหมด แม้ว่าอันนา หัวหน้าผู้พิทักษ์ พยายามคัดค้าน แต่สุดท้ายเธอกลับต้องออกตามล่าชายอันเป็นที่รัก...

‘นั่นดานิลใช่ไหม ได้โปรดที่รัก ช่วยตอบข้าเถอะ’ แสงริบหรี่แห่งความมืดมิดกลางความหนาวหิมะ พาเธอตามรอยชายหนุ่มที่ถูกหาว่าเป็นปีศาจร้าย และเป็นภัยต่อดินแดนรอฟเวย์ ดานิลพยายามปกปิดใบหน้าตนในเสื้อคลุมแสนสกปรก ราวคนจรจัด...แต่ทว่าเท้าแกร่งกับก้าวเดินออกไปห่างๆ อย่างไม่กลัว...ศรธนูทรงพลังของหญิงสาว

‘อย่าไปนะ ข้าบอกว่าอย่าไป…’ อันนาร้องบอกด้วยเสียงสั่นคลอ ทั้งหยาดน้ำตา เธอทรมานมาก ตลอดสองเดือนที่ได้ออกตามล่าเขา และพยายามโต้งแย่งในที่ประชุมดินแดนรอฟเวย์ และการปรากฏตัวของดานิล ทำให้อันนาดีใจมาก ปนความเจ็บปวด เมื่อหน้าที่ภารกิจค้ำคอของเธอเอาไว้เช่นกัน

หญิงสาววิ่งก้าวตามหลังดานิลมาเรื่อยๆ ก่อนจะตกไปอยู่ในหลุมพรางของเขา เท้าเล็กเดินย้ำเข้ามาในกระท่อมโกโรโกโส หันไปรอบๆ พบว่าสถานที่แห่งนี้ เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน หรือว่าเธอกำลังตกอยู่ในวังวนแห่งปีศาจ!

‘ข้า...คิดถึงเจ้า’ เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว พอพลิกหันกลับมา ดันมีเพียงอากาศว่างเปล่า...ดานิลหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ที่หญิงสาวจับทิศทางพลางกายของเขาไม่ได้สักเดียว

‘เจ้าทรยศหัวใจของข้า’ อันนาหายใจไม่ทั่วท้อง...เหมือนตกอยู่ภายใต้ปิศาจร้าย มองไปทางไหนมีเพียงแต่ความสับสนเต็มไปหมด

‘ข้าไม่ได้ทรยศ...ดานิล...ได้โปรดออกเผชิญหน้าข้าเถอะ’

ชายหนุ่มเหยียดยิ้มอยู่ในความมืด เพราะหัวใจที่แตกสลายย่อมรักษาหายยากอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสัญญาอันหลอกลวง

‘แววตาของเจ้า ตอนนี้ มองว่าข้า คือ ปีศาจ อย่างที่พวกเขากล่าวหา’ อันนาถึงกับสะอึกรามมีก้อนเนื้อในลำคอระหง ยิ่งเธอมองไม่เห็นเขา ก็ยิ่งมีความรู้สึกเชื่อในบริบทต่างๆ นานา ที่ดานิลกำลังกระทำ อันนาปลดอาวุธประจำตัว แล้วโยนมันทิ้งออกไปห่างๆ กาย แล้วยกมือขึ้นราวกับยอมจำนง ดานิลเห็นกระทำของนางแทบหัวเราะในลำคอ

‘อยู่นิ่งๆ ข้าอยากสำรวจ...ว่ามีอาวุธซ่อนที่ใดหรือไม่’ อันนาได้ยินแทบขนลุกซู่ เพราะเขากระซิบบอก ทั้งสวมกอดจากด้านหลัง ความหนาวในนี้แทบยะเยือกถึงกระดูก แต่เขากลับกำลังสร้างความรัญจวนราวเปลวเพลิง มือหนากำลังสำรวจ เริ่มด้วยรวบสวมกอดเอวคดแห่งสิเน่หา และก็ได้กริชเล่มเล็กหนึ่งอัน เขายกให้นางดู ก่อนโยนมันทิ้งไปไกลๆ แล้วลงโทษด้วยการสูดดมซอกคอเรียวระหงหนึ่งที เรียกเสียงฮึดฮัดไม่พอใจจากฝ่ายหญิง ดานิลเริ่มทำงานต่อด้วยปลดสายเสื้อคลุมยาวของนางออกช้าๆ

‘หมดแล้ว ข้าไม่มีอาวุธแล้ว’ อันนารีบบอก เพราะกระแสเลือดเนื้อในกายมันเต้นจนหายใจอย่างขัดๆ

‘ข้าไม่เชื่อ...’ ดานิลกัดกรามพูดอย่างเจ็บปวด เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจนาง มันพังทลายไปแล้วเช่นกัน มือหนาเลื่อนมายังเนินอกอวบอิ่ม แสนเพลิดเพลินภิรมย์หัวใจ

‘อยะ...’ อันนาร้องห้ามด้วยเสียงเพียงนิดน้อย ทว่ามีดแฉกดาวคมๆ ที่ซ่อนเอาไว้ ก็เผยให้เห็นเต็มสองดวงตาของเธอ

‘คนโป้ปด’ ดานิลเลือดขึ้นหน้า ดวงตาแดงก่ำราวกับพิโรธ จนน้ำตาของหญิงสาวไหลอาบแก้มนวล เพราะรู้ตัวว่าทำให้เขาหมดความเชื่อใจ แม้จะรักชายหนุ่มยิ่งกว่าสิ่งใด

‘ข้าขอโทษ...ฮือๆ’ อันนาผู้เข้มแข็ง ได้อ่อนแอลงทันใด เมื่อเขาหมดศรัทธารักในตัวเธอแล้ว ดานิลเกิดใจหลุดลอยกับคำสารภาพผิดของนาง

‘ดานิลที่รักได้โปรด...ลงโทษข้าเถอะ ข้าทำให้เจ้าต้องเสียใจ’ อันนายอมรับจากดวงใจ ก่อนหมุนพลิกมาเผชิญหน้ากับหนุ่มคนรัก ที่สภาพตัวแข็งนิ่ง ใบหน้าเขารกรุงรังไปด้วยหนวดเคราเขียวครึ้ม มือเล็กยื่นมาแต่โอบให้หน้าชายแห่งหัวใจ แต่ทว่าหัวใจของกลับถวิลหาปานชีวา ริมฝีปากเล็กเอื้อมมาจุมพิต ยอมรับโทษทัณฑ์แห่งกามรมย์ของเขา ยังดีกว่าปล่อยให้หายตัวไปจากดินแดนนี้ ดานิลสนองตอบริมฝีปากเล็กคนโป้ปดมดเท็จ เพราะหัวใจต้องการนางยิ่งกว่าหญิงใดๆ ทั้งคู่แลกสิเน่หาให้กันและกัน จนลืมภาระหน้าที่และสถานะตนเองในเวลานี้

ความหนาวเย็นแห่งแดนหิมาลัยไม่สามารถช่วยเหลือทั้งคู่ดับไฟร้อนพิศวาสในกายได้ ร่างบางถูกช้อนอุ้มขึ้นก่อนมาทิ้งลงที่นอนแสนเก่ารกๆ ชายหนุ่มชิมเนื้อนวลอย่างละมุนละไม อาภรณ์ในเรือนร่างบางค่อยๆ ถูกทยอยปลดออกที่ละชิ้น ที่ละชิ้น ไม่รู้ว่าความยั่วยวนที่มีในมาดของหญิงทะนงตน พยายามทอดส่งมาถึง จนทำให้ดานิลฮึกเหิมมากเป็นทวียิ่งชีวัน

‘อย่ามาเสียใจภายหลังนะ ว่าตกเป็นผู้หญิงของปีศาจร้าย!’ ดานิลเตือน แต่ร่างของเขาก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ถ้าจะหยุดไม่คงเป็นไม่ได้ เสื้อคลุมหนาแสนสกปรก ถูกถอดทิ้งรวมไปถึงเสื้อด้านใน และเป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้ยลโฉมเนื้อกำยำของชายอันที่รัก เธอพอใจมาก ในที่สุดบทบรรเลงเสียงแห่งปรารถนาก็ค่อยๆ เริ่มจุดประสานกันขึ้น จนลืมไปว่าทั้งคู่ได้อยู่บนโลกใบนี้ เนิ่นนานนับหลายชั่วยาม

เช้ารุ่งขึ้นอันนาใช้ชีวิตกับดานิลในกระท่อมหลังนี้ ราวกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง จนเวลาผ่านเดินไปเป็นสัปดาห์ และยาวนานเป็นเดือน ความระแคะระคายในแดนรอฟเวย์ ก็เกิดขึ้นเช่นกัน โดยมาร์ตินนี่ ได้เริ่มออกตามหาอันนา มิคาโรฟวา เพราะหัวหน้าผู้พิทักษ์ทิ้งภารกิจและงานหน้าที่ของตนไปดื้อๆ แน่นอนว่าหญิงสาวนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เสียงควบม้าหลายสิบตัวดังไปทุกหน ทุกแห่ง เพื่อออกตามหาหัวหน้าผู้พิทักษ์แห่งดินแดน ดานิลหน้าขรึมจัด เพราะรู้ว่านี้ต้องมาถึง การครอบครองนางเอาไว้กับตัวเอง มีแต่ความหายนะมาเยือนอย่างแน่นอน ดานิลออกมาซ่อนตัวดูลาดราว คณะทหารม้าแห่งกองกำลังผู้พิทักษ์ งานนี้ อันนาที่รักของข้า ย่อมรู้ไม่ได้เด็ดขาด...

‘เพื่อนของข้า โปรดช่วยข้าที...’ ดานิลพึมพำกล่าวท่องคำอะไรสักอย่าง ไม่นานเกินเพลาหนึ่ง ร่างสัตว์ร้ายแห่งรัตติกาลก็โผล่ออกมาจากดินแดนแห่งความหนาว ราวสิบกว่าตัว

‘หมาป่า!’ เสียงเหล่าบรรดาทหารผู้พิทักษ์แตกตื่นอย่างยิ่ง เพราะอาวุธที่มีอยู่ในมือ มิอาจจะตั้งหลักต่อสู้ กับหมาป่าฝูงใหญ่ได้หมดภายในคืนเดียว ดานิลหัวเราะเยาะอย่างสะใจที่สุด ก่อนจะเผยดวงตาคมแกร่งแดงฉานราวกับไม่ใช่มนุษย์

มาร์ตินนี่แห่งริคออน ถึงกับหัวเสีย เมื่อเหล่าบรรดาทหารผู้พิทักษ์กลับมาที่พักอย่างสะบักสะบอม

‘ทหารกล้าแห่งรอฟเวย์ มีปัญหาแค่นี้หรือ...’ บรรดาเหล่าทหารแทบอยากจะพุ่งใส่ หัวหน้าเผ่าริคออน ถ้าไม่ติดว่ามัน คือ คำสั่งจากคณะปกครองแดนรอฟเวย์

‘หึๆ’ มาร์ตินนี่หัวเราะในลำคอ ด้วยอำนาจที่เหนือกว่าใครๆ...ก่อนจะออกไปตามหาอันนา มิคาโรฟวา โดยเพียงลำพัง ทำให้ทหารผู้พิทักษ์หลายคนถึงกับเอ่ยแช่งตามหลังมาร์ตินนี่ไปอย่างเบาๆ



สายธารอันใสสะอาดยาวสุดลูกตา ทว่าเพลานี้มันกลับกลายเป็นแผ่นพื้นน้ำแข็งเย็นลบหลายสิบองศา หญิงสาวถอนหายใจทิ้งเบาๆ แล้วค่อยเริ่มลงมือต้นน้ำร้อน...ความหนาวไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของเธอ ณ ห้วงเวลานี้ แต่เธอกำลังมีความสุขกับวิถีชาวบ้านป่าเมืองเถื่อน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ คือ คำตอบที่ชัดเจนมากอย่างยิ่ง

แซ่ดๆ มีเสียงประหลาดหนึ่ง ดังแทรกเข้ามารบกวนความสุขของอันนา มิคาโรฟวา ด้วยการถูกฝึกมาให้รับรู้อย่างว่องไว จึงหันไปหาตามเสียงดังกล่าว...

‘เสียงอะไรกัน’ เสียงหวานพึมพำด้วยสงสัย ก่อนคิดว่า บางทีดานิลชายคนรัก อาจจะเล่นซ่อนหา รอยยิ้มหวานบนใบหน้านวลพอใจมาก และออกก้าวเดินตามเสียงนั้นไป เรื่อยๆ โดนหารู้ไม่ว่า...แท้จริงแล้ว นางกำลังจะออกนอกวงอาณาเขตของผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจร้ายแห่งดินแดน

มาร์ตินนี่ ควบม้าเร็วตลอดทั้งวัน ไปทุกหน ทุกแห่งในแดนแห่งความหนาว เพื่อตามหาอันนา มิคาโรฟวา สุดกำลังที่มีอยู่ แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะหาตัวไปอยู่ที่ไหนกันนะ และไม่คิดว่าเสียงฝีเท้าของม้า จะให้นางโผล่ออกมาหาเขาเอง มาร์ตินนี่ถึงกับหยุดม้าตัวโปรดแทบไม่ทันการณ์ เพราะตรงหน้ามีสิ่งชีวิตโผล่มาอย่างกะทันหัน

‘ว้ายๆ’ เสียงอุทานที่เป็นผู้หญิง และล้มลงไปกองกับผิวพื้นความหนาวเย็น มาร์ตินนี่แทบหัวใจกระตุก เพราะเป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ...

‘อันนา’ มาร์ตินนี่ตะโกนร้องอย่างดีใจ รีบลงจากหลังม้า เพื่อมาช่วยหญิงสาวผู้พิทักษ์แห่งรอฟเวย์

‘มาร์ตินนี่’ อันนาตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่แถวนี้ ถ้าเจอดานิล มีหวังได้ฆ่ากันตายไปข้างหนึ่งแน่ๆ

‘จู่ๆ เจ้าหายตัวไปไหน รู้หรือไม่ว่า คณะปกครองแดนรอฟเวย์ ได้ออกคำสั่ง ประกาศตามหาเจ้าไปทั่วทุกแห่ง’ มาร์ตินนี่รีบชี้แจ้ง

‘อะไรนะ!’ อันนาตกใจ เพราะลืมนึกถึงหน้าที่การงาน อันที่ได้รับผิดชอบ นี่เธอกำลังทิ้งกองกำลังผู้พิทักษ์ดินแดนเอาไว้ด้านหลัง อย่างงั้นเหรอ...

‘ที่ผ่านมาไม่ว่าเจ้าไปอยู่กับใคร...แต่เวลานี้ เจ้าต้องกลับกับข้า รีบไปรายงานตัว ไม่อย่างงั้น เรื่องจะใหญ่โตกว่านี้แน่!’ มาร์ตินนี่พยายามจับพิรุธ หญิงสาว เนื่องด้วยเสื้ออาภรณ์ที่สวมใส่ราวกับชาวบ้านธรรมดา แสดงว่าเธอต้องอาศัยอยู่กับใครสักคนหนึ่ง บางทีอาจจะเป็นไอ้ปีศาจดานิล...

‘เอ่อ...ข้าแค่หลงป่าน่ะ ดีใจที่เจอเจ้าเหมือนกัน ช่วยพาข้ากลับดินแดนเถอะ ข้าจะไปพูดกับคณะปกครองดินแดนด้วยตนเอง’ อันนา...ได้หัวใจกล้าแกร่งคืนมา เธอไม่น่าหลงเริงภิรมย์ไปกับความสุขอันชั่วคราวเหล่านั้นเลย...แม้มันจะแสนหวานอิ่มเอมหัวใจมากแค่ไหนก็ตาม

ร่างหญิงสาว กำลังควบขึ้นหลังม้าพร้อมกับมาร์ตินนี่ และไม่ยอมแลหันกลับมามองเส้นทางด้านหลัง เมื่อยังมีอีกหนึ่งชายหนุ่มมองดูทั้งคู่ด้วยสายตาตัดเพ้อ...และเจ็บปวดหัวใจ

‘ผู้หญิงทรยศ ไม่ว่าข้าจะรั้งให้มาอยู่ด้วย...สุดท้ายเจ้าก็เลือกมัน....เลือกมาร์ตินนี่แห่งริคออน’ ดานิลกัดกรามแน่น นัยน์ตาแกร่งแดงฉานราวกับสีเลือด พร้อมทั้งหยาดน้ำตาไหลร่วงอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว

ภาพแห่งห้วงอดีตอันไกลโพ้นดึงความรู้สึกจิตใต้สำนึกของมิสเตอร์ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ ด้วยคราบหยดน้ำตานั่น และมันยังเปรอะเปื้อนอาบเต็มแก้มอันรูปงามของบุรุษ หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างชายหนุ่ม สะดุ้งเฮือกสุดดวงใจ เมื่อกระแสห้วงเวลาดึงกลับมายังปัจจุบัน ทว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าของเธอมันสะเทือนยิ่งกว่าอะไร มือเล็กเริ่มทำงาน ผลักร่างหนาออกไปให้พ้นกาย สร้างความเจ็บปวดให้ฝ่ายชายเจ็บระทมเพิ่มอยู่อย่างไม่น้อย

“กล้าผลักไสข้า ขนาดนี้เลยหรืออันนา” แต่ทว่าคำพูดของดานิล ยังตกอยู่ในห้วงอดีตแสนบอบช้ำ หญิงสาวไม่กล้าเอ่ยคำพูดใดๆ เพราะการกระทำของเธอ ไม่สิ เพราะการกระทำของอันนา มิคาโรฟวา สร้างบาดแผลอันยิ่งใหญ่ให้ดานิลนัก

“หึๆ” ดานิลหัวเราะเยาะหยัน แค่มือเล็กๆ ผลักไสเขาไปไกลไม่ได้หรอก จมูกโด่งเป็นสันหนาเริ่มเข้ามาวนเวียนบริเวณใบหน้าของหญิงสาวอีกครั้ง สร้างอารมณ์เคืองแค้นแสนสวาทอย่างสมใจในแก่ชายหนุ่มอมตะนัก

“เหมือนเจ้า กำลังรู้ตัวว่า...ได้กระทำกับหัวใจของข้าเอาไว้ เจ็บปวดมากแค่ไหน” ดานิล พยายามจับเอามือบางข้างหนึ่ง มาทาบไว้กลางหน้าอกแกร่งของเขา หญิงสาวแทบเบือนหน้าหนีและหลับตาพริ้มสนิท ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เพราะหัวใจของเธอก็เจ็บ...

‘แกล้งหลับ เพื่อหลีกหนี ความจริงสินะ อันนา...คนทรยศ’ ดานิลสบถในใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะพยายามยันตัวลุกขึ้นยืน แม้ร่างกายจะโหยหาหญิงสาว จนห้ามอารมณ์สิเน่หาเอาไว้ไม่มิดชิด...ทว่าอีกใจหนึ่ง ดานิลไม่อยากมีความสัมพันธ์กับเธอในเรือนร่างกายนี้

“พักผ่อนเถอะ เจ้าเดินทางมาไกลมากแล้ว” เสียงทุ้มที่บอกให้อันนาได้ยินนั้น ช่างดูอ่อนโยน ผิดกับภาพดวงตาสีแดงฉานที่เธอได้เห็น เมื่อเข้าไปอยู่ในห้วงอดีต...หยาดน้ำตาของหญิงสาวไหลอาบน้ำอีกหนึ่งวัน...แต่มันไม่เท่ากับที่ได้เห็นน้ำตาของบุรุษเจ้าของคฤหาสน์วาดิติน

‘หัวใจของเขา...อยู่ที่ไหนกันนะ....ทำไมอันนา มิคาโรฟวา ถึงได้ใจร้ายกับมิสเตอร์ดานิล คนนี้นัก’ อันนาพยายามครุ่นคิด...ก่อนที่แสงนิทราจะพาจมดิ่งลงไปหลับใหล



ดานิล ปิดประตูห้องสมุดอย่างเบามือที่สุด เมื่อก้าวพ้นออกมาแล้ว เขาก็ได้เจอกับ บอดี้การ์ดประจำตัว ซึ่งยืนนิ่งอย่างเคร่งเครียด

“ท่านครับ...ผมพบแหล่งกกดานของนายมาร์ตินนี่แล้วครับ” ได้ยินการรายงาน ดานิลถึงกับพอใจมาก ดวงตาแกร่งเพิ่งเปื้อนน้ำตามาหมาดๆ กำลังจะได้ชำระความแค้นอันสะสมที่เกิดขึ้น เมื่อสองร้อยหกสิบปีที่ผ่านมาเนิ่นนาน

“เยี่ยมมาก วอนก้า ไปจัดการไอ้เด็กจอมโอ้อวดเก่งนั้นซะ”

“ครับ” วอนก้า รับคำสั่งจากเจ้านาย...ส่วนดานิลก็ไม่คิดจะปล่อยให้ครอบครัวของนายมาร์ตินนี่ เดินลอยนวลในเมืองมอสโกได้อีกต่อไปเช่นกัน


โปรดติดตาม ตอนต่อไป

บทที่ 10 หัวใจที่หลุดมือ




Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2557, 13:07:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2557, 13:07:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1609





<< บทที่ 8 มือที่ไม่อยากสัมผัส   บทที่ 10 หัวใจที่หลุดมือ... >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account