กลิ่นรัก...อบอวลหัวใจ
หญิงสาวผู้มาดมั่นเลือกการงานมากว่าเรื่องรักใคร่ๆหรือต้องมาข้องแวะเกี่ยวหัวใจให้ชายคนไหน
กับชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังพันใจกับผู้หญิงใดๆ ทั้งคู่จะมาบรรจบรักกันได้เช่นไร
โปรดคอยติดตามนะคะ

แนะนำตัวละคร

พระเอก
นายธารานนท์ เตชโชติ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ รวมทั้งเจ้าของโรงแรมรีสอร์ทในเครือมากมายล้นฟ้า แต่ไร้คู่ครองเคียงข้าง เมื่อไม่เคยเจอผู้หญิงที่จะทำให้อิ่มเอมทั้งชีวิตโดยไม่รู้สึกเบื่อ หญิงสาวคู่ครองสักคนของเขาคงจะไม่มีในโลกนี้ แต่เมื่อได้มาทำงานในต่างจังหวัดและพื้นที่อำเภอท้องถิ่นเล็กๆ แห่งหนึ่ง โดย ได้พบกับส.ส. นรินศาสาวมั่นแสนสวย แต่ไม่ไร้สมอง ทั้งเก่งเอาตัวรอดโดยไม่ต้องขอความช่วยจาก ใครๆก็ได้ ทำให้ชายหนุ่มเพลินเพลิดไปกับเธอ ไม่ว่าเธอจะมาพบเจอเขาด้วยอย่างความบังเอิญหรือในสถานที่ไม่คาดถึงก็ตามทุกครั้ง แต่หัวใจของเขากลับอบอุ่นร้อนทั้งโหยหา มีแต่ความคิดถึงให้เธอทั้งกลางวันและกลางคืนที่นอนหลับฝัน รวมทั้งยังเข้าไปเจออุปสรรคด้านการเมืองการทำของเธอ ซึ่งชายหนุ่มนั้น ทั้งแสนชิงชังอาชีพการเมืองของพ่อผู้ให้กำเนิดนัก

นิสัย : การพูดทั้งจริงจังอย่างมาก ทั้งพูดเล่นกับคนที่ถูกชะตา เจ้าชู้ไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนๆเลย แต่จริงๆแล้ว ส่วนมากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายชอบวิ่งเข้าหา เขาจึงต้องตอบรับบรรดาผู้หญิงเหล่านั้น ในใจลึกๆ เขากำลังต้องการผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่ชอบเขาเพียงแค่เงินตราอันมหาศาลของเขา ด้านการทำงานไม่มีที่ติและเขาต้องทำให้จนสำเร็จ แม้ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะต้องล้มละลายเขาก็ไม่สนใจ

นางเอก
นางสาว นรินศา อัณณ์ศญา หญิงสาวผู้มีใจรักในบ้านเกิดของตนเองยิ่งชีวิต อยากให้บ้านเกิดของตนเองมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามแบบประเพณีวิถีชีวิตดั่งเดิมในรัชสมัยๆที่ผ่านๆมา จึง ขอก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของราษฎร และประชาชน เพื่อนำความสุขมาสู่บ้านเกิดของตนเอง แต่อุปสรรค์มากมายทั้งภายในไม่ลงรอยกับนักการเมืองในพรรค ทั้งภายนอกด้านการมีเส้นสายที่คอยจะคดโกงกินแผ่นดิน กว่าจะเปลี่ยนความคิดให้รู้จัก คำว่า “สามัคคี” อีกครั้ง มันคงทำให้เธอใช้ความรู้และสามารถ ทั้งหัวใจยิ่งชีวิต บนเส้นทางวิถีดำเนินชีวิตปัจจุบันที่มีเล่ห์เหลี่ยมชักจูงหวาดล้อมมากมาย รวมทั้งบนเส้นทางแห่งความรักที่ก่อเกิดโดยไม่รู้ตัว เพราะความอวดดีอวดเก่งของชายหนุ่มเจ้าของรีสร์อทคนใหม่ ที่มีหัวใจแบบคนโกง เจ้าชู้ จนครบทุกรูปแบบเป็นผู้ชายที่หญิงสาวแสนเกลียดนัก และจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายพันธุ์นี้เด็ดขาด

นิสัย : สาวมั่น ผู้มีอุดมการณ์ของตนเองสูง การพูดจาจะนิ่งหนักแน่น จะอ่อนหวานเฉพาะคนเป็นพ่อกับแม่และเพื่อนสาวคนสนิทเท่านั้น

แล้วกลิ่นรักที่คุกรุ่นหมองหม่น ในใจของชายหนุ่มธารานนท์กับท่ามกลางธรรมชาติท้องทุ่งนาแสนอันจะใกล้กลับคืนมาให้สมบรูณ์อีกครั้ง...ด้วยหัวใจอันรักยิ่งแห่งบ้านเกิดของหญิงสาวนรินศานี้จะจบลงได้เช่น ไร ในเวลาไม่ช้านี้ ตะวันที่รอทอแสงรุ่งอรุณให้สดใสกำลังจะพิสูจน์ความรักของทั้งคู่...
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานแหวว,หวานน่ารัก,แนวรักสบายๆ

ตอน: บทที่ 11 มนต์กลิ่นรัก...



ลูกสาวจระเข้......อิมเมจเป๊ะสุดเลย ฮ่าๆ
ขอขอบคุณแหล่งภาพ :
http://campus.sanook.com/gallery/gallery/1097134/343703/

บทที่ 11 มนต์กลิ่นรัก...

วันรุ่งขึ้นมาเยือน หน้าที่พลขับรถประจำท่านส.ส.สาวคนเก่ง ยังตกเป็นของชายหนุ่มธารานนท์เช่นเดิม แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะต้องนอนฝันร้าย หวังว่าเช้านี้คงไม่เจอเรื่องร้ายๆ เข้าให้อีกนะ ชายหนุ่มบีบแตรรถหนึ่งหนและเลี้ยวเข้า ณ บ้านอัณณ์ศญา ด้วยอาการหายใจอึดอัดที่สุด พอรถคันโตมาจอดที่หน้าขั้นบันไดบ้านเพียงไม่กี่นาที รูปร่างบางสมส่วนที่ชายหนุ่มฝันถึงทุกคืน ก็เดินออกมาพอดิบพอดี ให้เขาได้เชยชม จนต้องตาโต ร้องว่า

"ตัวอะไรกันเนี่ย!" ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยลุคซ์ แม่สาวร็อกเกอร์แสนเท่ห์ทรงเสน่ห์ อันชวนเซ็กซี่ไปในตัวพร้อมกัน ธารานนท์ตะลึงกับการแต่งตัวของสาวจ้าว ผู้เป็นถึงท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัด นรินศาไม่รอให้ชายหนุ่มลงมาเปิดรถให้หรอก เธอเดินไวฉับๆ มาด้านฝั่งข้างคนขับ เปิดประตูแล้วนั่งลงเบาะรถชายหนุ่มเสร็จสรรพโดยปริยาย

"ออกรถได้แล้ว!" พร้อมคำสั่ง...เป็นการทักทายที่ไม่น่าฟังแต่เช้าเลย

"ห๊ะ...เอ่อ...ครับ" ธารานนท์สะดุ้งเสียงหวานห้วนๆ ของหญิงสาว ก่อนจะแตะคันเร่งขับรถออกจากรั้วบ้านไปอย่างเรียบร้อย ด้วยความมึนหัวสมองที่สุด

"ดูสิ คุณๆ ลูกสาวของเรากำลังแผลงฤทธิ์อะไรอีกล่ะเนี่ย แล้วแต่งตัวไอ้ลุคซ์นั่นอีก แม่จำได้ว่าวันนี้จะต้องไปหาแม่เฒ่าบ้านภูไท ไม่ใช่หรือไงคะ" คุณหญิงนริศรากุมขมับ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นเลยทีเดียว เนื่องจากคนเป็นลูกสาวท่าน จะต้องไปเทียบเชื้อเชิญคนเฒ่าคนแก่มาร่วมงานประจำปีของจังหวัด ชาวบ้านในจังหวัดต่างก็รู้ว่าแม่เฒ่าบ้านภูไท จะออกจากบ้านเรือนหรือหมู่บ้าน มาอวยพรให้ลูกหลานแห่งเมืองริมโขง มันยากเย็นแสนเข็นนัก ด้วยเหตุผล ก็คือว่า แม่เฒ่าภูไท ท่านชรามากแล้ว

"อืมๆ ผมก็เห็นน่า...ปวดหัวไม่แพ้คุณเลยแหละ ลูกสาวเอาแต่ใจเหมือนใครก็ไม่รู้" คราวนี้พ่อศาสตรา หันมาโทษให้ฝ่ายภรรยา เพราะว่าไอ้ลุคซ์แต่งตัวร็อกเกอร์ของลูกสาวแบบนี้ ลางๆ มันฟ้องว่า มักจะเป็นหายนะเสมอๆ

"เอ๊ะ...พ่อศาสตรานิ กำลังว่าแม่งั้นเหรอ" แม่นริศราก็งอนเข้าให้เสียแล้วสิ เพราะนิสัยลูกสาวแท้จริงแล้วได้มาจากคนเป็นแม่ครึ่ง และพ่อครึ่งหนึ่งต่างหากล่ะ

"เปล่าครับ แค่ผมเอ่ย...เทียบดู" พ่อศาสตราก็ตอบกลับด้วยสีหน้าแสนเซ็งๆ วันนี้ ท่านก็เดาการปรากฏตัวของลูกสาวไม่ออกเหมือนกัน

"เชอะ!" เจอแม่นริศราสะบัดหน้างอนใส่ เดินจ้ำก้นหนีเข้าบ้านไปดื้อๆ ฝ่ายสามีก็ไม่ตามไปง้อหรอกนะ เพราะจะต้องเอาสมองมาครุ่นคิด เพื่อหาแผนสำรองงานต่อไป เนื่องจากว่า ลูกสาวของพวกท่าน กำลังเล่นต่อต้านอย่างรุนแรงมาก



หันมาด้านสองหนุ่มสาว ที่ออกจากรั้วบ้านคอรบครัวอัณณ์ศญามานานแล้ว รถคันโตของธารานนท์แล่นเข้าถนนสายหลักของจังหวัดได้สักระยะ และแทบขับรถไปอย่างเงียบๆ ไม่กล้ากระดิกสายตาเหลือบมองแม่สาวร็อกเกอร์โหด แต่หน้าหวานชะมัดเลย

"วันนี้ ฉันไม่เข้าสำนักงาน"

"ครับ" ธารานนท์ขานรับอัตโนมัติด้วยความหวาดเกร็งๆ รังสีที่แผ่มา แล้วก็ต้องร้องแปลกใจ เมื่อคิดทวนคำถามของฝ่ายหญิง

"เอ๊ะ ไม่ไปทำงานหรือครับ"

"อืมๆ"

"แหมจะชวนผมไปเดต ก็ไม่บอกนะครับ" ธารานนท์เผลอเล่นมุกจีบของตนเองอย่างลืมตัว

"ฝันไปเถอะ ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก" เจอนรินศาตอกกลับ ชายหนุ่มหุบยิ้ม วิมานความฝันทันที

"อ้าว แล้วจะให้ผมไปส่งที่ไหนล่ะ ถ้าจะให้ไปส่งบ้านคู่ขาเตียงนอน ผมไม่ไปส่งนะ มันเคืองหัวใจ" สุดท้ายปากของชายหนุ่มก็ดันชวนหาเรื่องอีกจนได้ เพราะว่าภาพ ผู้ชายที่ขับรถมาส่งท่านนรินศา เมื่อวาน ยังคงติดตา จนเขาต้องเอาไปฝัน...และกลายเป็นฝันร้ายในรอบชีวิตเชียวแหละ

"นี่นาย กำลังพูดจาไม่เข้าหู" นรินศาเกิดอาการเคืองๆ ยิ่งมาในลุคซ์สาวร็อกเกอร์ล่ะก็...เธอเอาเรื่องถึงที่สุดแน่!

"ผมว่า ท่านต่างหากพูดจาไม่เข้าหูผมนะ พูดจาหวานๆ เพราะๆ กับผมเป็นไหมครับ ถ้าไม่ได้อยากออกเดต แล้วจะให้ผมไปส่งที่ไหนหรือครับ" ธารานนท์กำลังได้เปรียบ เพราะว่าแม่สาวร็อคเกอร์หน้าหวาน วันนี้ไม่ทำตัวขี้เก็กแฮะ แต่มาด้วยมาดนักเลงเต็มขั้นเชียวแหละ

"ธุระ" วาจาหวานห้วนเสียจริ๊ง จริง...แม่คุณ...ธารานนท์สบถในใจ ทว่าชายหนุ่มก็ยังไม่รู้ตัวเลย ว่ากำลังเล่นกับตัวอะไรอยู่กันแน่!

"หือ! ช่วยพูดใหม่อีกทีสิครับ ว่าอยากจะไปไหน ถ้าบอกไม่ไพเราะหูผมล่ะก็ ผมจะเลี้ยวเข้าโรงแรม ให้เป็นข่าวนะ!" ธารานนท์ได้ที ก็เอาใหญ่อย่างไม่เกรงกลัวลูกจระเข้ใดๆ

"ว่าไงนะ! นายธารานนท์" แม้จะเจอสายตาอันดุๆ ของท่าน ส.ส. สาวคนเก่ง แต่ว่า เมื่อไม่ได้ไปทำงาน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่วันหยุด แล้วเธออยากจะไปที่ไหนล่ะ ธารานนท์คิดและไม่ตอบหญิงสาว เขาเอามือกดเครื่องนำทางจีพีเอส ค้นหาโรงแรมบริเวณใกล้ๆ ถนนสายนี้ เนื่องจากว่า ก็คนมันหิวข้าวน่ะ ขอแวะทานมื้อเช้าสักหน่อยไม่ได้หรือไงครับ นรินศาทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจนัก ก่อนจะรีบบอกออกไปว่า

"ไปศูนย์วัฒนธรรมบ้านชาวภูไทค่ะ"

เธอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะกดเครื่องค้นหาเส้นทางตามที่หญิงสาวบอก นรินศาจะเก็บบัญชีนี้เอาไว้จัดการทีหลัง เพราะว่าธุระในวันนี้ของเธอสำคัญกว่า ด้านธารานนท์เผลอยิ้มน้อยใหญ่ กับการได้เห็นแม่สาวร็อกเกอร์ หน้าหวานทำแก้มป่องด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เขาขับรถอย่างสบายๆ



เสียงเอะอะดังลั่น ยามตะวันขึ้นช่วงสายๆ บ้านไม้หลังใหญ่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งสวน ท้องนากว้างไพศาล แต่ทว่ากลับแห้งแล้งร้างการบำรุงดูแลเอาใจใส่ ทั้งๆ ที่เลี้ยงลูกน้องชายฉกรรจ์เอาไว้เป็นสิบมือ คอยรับลองใช้สอยได้ตลอดเวลาก็ตาม

"ไอ้หมอนี่ มันเป็นใครวะ บังอาจมายุ่งกับแม่นิดของข้า!" นายกำพล หน้าแดงโกรธเกรี้ยว และอารมณ์เหวี่ยงอย่างรุนแรง กับรูปถ่ายในโทรศัพท์ของลูกน้อง ที่ส่งมาให้ดูเต็มๆ ดวงตา มิน่าช่วงนี้แม่นิดสุดสวยของเขา ถึงไม่มาหา และมาให้ตนนอนกอดอย่างชุ่มฉ่ำ อิ่มเอมหัวใจเลย ที่แท้แม่นิดของนายกำพล กำลังไปติดพันกับชายอื่นอยู่นั่นเอง

"เจ้าของรีสร์อทแมกไม้กอหญ้าคนใหม่ครับ ลูกพี่ หล่อมาก ขาวจ๊วกๆ" จบคำพูดของลูกน้อง ก็เจอลูกพี่ถีบหน้าอกเข้าให้ไปหนึ่งทีเต็มแรง เพราะคำว่าขาวจ๊วกๆ

"บักห่ามึง กูดำ กูรู้เว้ย ไอ้หมอนั่นมันขาวยังกับเกย์ แม่นิดสุดสวยของกูอยากแดกได้ไงว่ะ"

"เบื่อของดำๆ ของลูกพี่แล้วมั้งครับ" ลูกน้องตอบตามที่ตนเองคิดได้

"บักเวร มึงอยากตายคาปืนกู แต่เช้าแทนเหล้ามึงใช่มั้ย!" คนเป็นลูกพี่ก็เดือดจนอยากจะยิงลั่นมือ เพื่อหาที่ระบายอารมณ์ร้อนกล้า...อันเกิดมาจากความหึงแม่นิดสุดสวาทแห่งหัวใจ

"อะ...อย่าครับ ลูกพี่ ปากผมมันหมาเอง อย่ายิงผมทิ้งนะ" ลูกน้องคนดั่งกล่าวกลัวจนหน้าซีด...

"ถ้าไม่อยากให้กู เปรี้ยงหัวกบาลมึง รีบขยับตีนเน่าๆ พวกมึง ไปจัดการให้กูหายแค้นใจสิเว้ย อัดบักหมอนี่จนหดหัวหนีกลับเมืองกรุงไปเลย มันจะได้รู้เอาไว้ว่า แม่นิดสุดสวย คือ ของๆ กู!" นายกำพลโมโหตาเหลือกใส่คนเป็นลูกน้อง

"ครับๆ ลูกพี่ บักน้อยผู้นี้ จะจัดให้เต็มอัตราตามสภาพเลยครับ"

"เอ่อ...กูจะรอดูผลงาน ถ้ากูพอใจ กูจ่ายทริปหนักๆ พิเศษ ให้พวกมึงแน่" เจอคำว่าจ่ายเงินหนัก พวกลูกน้องทั้งหลายของนายกำพล แทบกรูวิ่งสมัครใจเหลือล้น ไปทำหน้าที่คนละไม้คนละมือ



ศูนย์วัฒนธรรมบ้านชาวภูไท เป็นแหล่งเผยแพร่เกี่ยวกับประวัติของชาวผู้ไทในภาคอีสาน และจังหวัดนี้ คือ ถิ่นลูกหลานของชาวเผ่าภูไททั้งนั้น ทางจังหวัดจึงมีโครงการหรือพิธีต่างๆ ให้บุคคลรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความเป็นมาของชาติพันธุและบรรพบุรุษบ้านเกิดเมืองนอนตนเองเอาไว้

ธารานนท์เดินสำรวจศูนย์วัฒนธรรมบ้านชาวภูไท ไปเรื่อยๆ มีกลิ่นอายแห่งชนเผ่าอีสานในสมัยก่อนปะปนความปัจจุบัน ทั้งวิธีชีวิตและการแต่งกาย แบบนุ่งผ้าซิ่น นุ่งกางเกงขาก๊วย ตามมาด้วยผ้าพันเอว ก่อนจะสะดุดตากับประเพณีการแต่งงานหรือประเพณีกินดองของชาวภูไท เพียงอ่านป้ายภาพที่ติดไว้กับผนังในห้องศูนย์วัฒนธรรม ชายหนุ่มก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

'ประเพณีการเฆี่ยนเขย' โอ้พระเจ้า...ธารานนท์อุทานในใจ ถ้าเขาเผลอลงทำสักข้อ มีหวังโดนเฆี่ยนแน่ๆ ชายหนุ่มเผลอคิดไปเองว่าจะได้เป็นลูกเขยชาวภูไท และนึกไปถึงท่านศาสตรา พ่อจระเข้แห่งบ้านอัณณ์ศญา ชายหนุ่มยืนอ่านทั้งหมด 14 ข้อ อยู่นาน แล้วก็มีคนเดินมาเฉลย

"มันเป็นคำสอนของผู้ใหญ่ชาวผู้ไทน่ะครับ น่าสนใจไหมครับ" ธารานนท์หันไปหาเสียงที่แทรกเข้ามาในโสตประสาทรับรู้ของเขา

"ผมชื่อ ทัศน์กมล ครับ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วัฒนธรรมบ้านชาวภูไท สอบถามข้อมูลได้นะครับ คุณผู้ชาย..."

"ผมธารานนท์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ธารานนท์กล่าวทำความรู้จักกับเจ้าหน้าที่หนุ่มใบหล่อเข้มคมผิวคล้ำ ที่สวมเสื้อพื้นเมืองสีครามกับกางเกงทำงาน หนุ่มเมืองกรุงยิ้มแห้งๆ และไม่กล้าถามอะไรๆ ที่เกี่ยวกับการเป็นลูกเขยของชาวภูไทหรอก

"คุณธารานนท์มากับคุณนรินศา ใช่ไหมครับ" ทัศน์กมล ถามและอมยิ้มเล็กน้อย เพราะเดาไปว่าชายหนุ่มคนนี้ คงจะเป็นแฟนกับคุณนรินศาแน่ๆ ใครๆ ก็รู้ไปทั่วจังหวัดว่าหญิงสาวจีบยากมากแค่ไหน ชายหนุ่มที่มาข้องแวะด้วย คงจะเข้าถึงหัวใจของท่านส.ส.สาวคนเก่ง ได้ นายคนนี้คงเป็นคนแรกล่ะมั้ง

"อ้อ...ครับๆ ผมมากับเธอ" ธารานนท์พูดได้แค่นั้น ก็พบร่างแม่สาวจระเข้ร็อกเกอร์เดินหน้านิ่งๆ มาหาตนเอง

"คุณทัศน์กมลค่ะ" แหมๆ ทำไมเวลาอยู่กับชายหนุ่มคนอื่น เธอถึงได้พูดจาซะหวานเชียววะ ทีกับเขานะ ดันพูดห้วนๆ ธารานนท์ออกอาการบ่นให้อยู่ในใจ

"ขอบคุณ สำหรับแผนที่ค่ะ"

"ครับ ว่าแต่คุณกอหญ้า ไม่ได้มาด้วยหรือครับ"

"อย่าให้มาด้วยเลยค่ะ ปีที่แล้วนะ ยัยนั่น ทำตัวป่วนแม่เฒ่า จนโดนดุตั้งหลายครั้ง กว่าพวกเราจะกลับบ้านค่ะ" นรินศาพูดถึงวีรกรรมของเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อปีที่แล้วระหว่างไปส่งจดหมายเทียบเชิญแม่เฒ่าในหมู่บ้านชาวภูไท

"อ้อครับ ปีนี้ เลยจะพาหนุ่มคนนี้ไปหาแม่เฒ่าแทนสินะครับ คุณนริน" ทัศน์กมล พูดแกมแซวๆ ท่าน ส.ส. สาวเล็กน้อย เพราะเห็นเป็นโสดอยู่ตั้งนาน มีหนุ่มอยากจะมาจีบเยอะแยะ เพราะหญิงสาวเป็นคนเก่ง มีอุดมการณ์และเพียบพร้อมไปทุกๆ ด้าน เสียดายที่ลูกชายของทัศน์กมล อายุเพียงแค่เจ็ดขวบ

"ค่ะ" นรินศาประหยัดคำพูด เพราะไม่ต้องการอธิบายใดๆ ธารานนท์เลยยิ้มแก้มปริ เพราะบทสนทนาดังกล่าวพาดพิงถึงเขา ก่อนที่จะพากันกล่าวลาเจ้าหน้าที่ของที่นี่ แล้วรีบขับรถเดินทางไปยังหมู่บ้านของแม่เฒ่า และไม่ทันสังเกตว่ามีกลุ่มมอเตอร์ไซด์หลายคันแวะเข้ามาจอดที่ศูนย์ธรรมแห่งนี้

"พี่น้อย ดู...รถคันนั่น" นายหมากหนึ่งในลูกน้องนายกำพล วันนี้ถูกเรียกตัวมาช่วยเหลือลูกพี่โดยเฉพาะๆ นายหมากจำรถเจ้าของรีสอร์อทแมกไม้กอหญ้าคนใหม่ได้

"รถใครวะ ไอ้หมาก...กูนัด มึงมาคุยงานของพี่กำพลนะเว้ย"

"รถของคุณนนท์น่ะ มาทำอะไรแถวนี้ฟะ" นายหมากชี้บอก

"หือ ไอ้เจ้าของแมกไม้กอหญ้าหรือวะ"

"ใช่ครับ พี่น้อย" นายหมากยืนยัน

"หึๆ งั้นงานของมึง ต้องเริ่มเดี๋ยวนี้แล้วแหละ ไอ้หมาก..." หนุ่มนักเลงที่ชื่อน้อย ฉายแววตาลุกวาบ เพราะลูกพี่ใหญ่นายกำพลได้สั่งงานเอาไว้ให้นั้น ตอนนี้กำลังจะได้สะสาง



"พอจะอ่านแผนที่ได้ไหม พวกเราจะต้องไปที่หมู่บ้านนี้" พอขึ้นรถมา เสียงหวานแข็งๆ ก็เอ่ยพูดกับเขา

"ได้ครับ ว่าแต่บอกผมหน่อยได้ไหม เราจะไปที่นั่นกัน ทำไม เอ...หรือว่า ธุระ ที่ท่านว่า...คือ พาผมไปเปิดตัว หึๆ" ชายหนุ่มพูดเองอย่างเสร็จสรรพ แล้วก็ขบขำเบาๆ เพราะนรินศา เป็นคนยอมรับเขา ต่อหน้าคนอื่นว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร

"ไปธุระ แล้วก็ไม่ได้พาใครไปเปิดตัวด้วย นายอย่าหวังเลย" นริศนาพูดดักทางเอาไว้ก่อน ธารานนท์หยักไหล่ตอบ อย่างอารมณ์ดีที่สุด เพราะอะไรไม่รู้ แล้วไอ้ประเพณีการเฆี่ยนเขยชาวภูไท จู่ๆ มันก็หายออกไปจากหัวสมองของเขาหมดแล้ว ทำให้ธารานนท์ขับรถราวกับต้องมนต์กลิ่นอายทิวทัศน์รอบนอกที่เต็มไปด้วยท้องทุ่งนาและล้อมรอบภูเขาป่าไม้สีเขียวสวยงาม




โปรดติดตามตอนต่อไป
บทที่ 12 หลงเสน่ห์ขวัญใจ


Aricha Talk : ขอกล่าวทักทายว่า...สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน
เพราะ อริฌาหายหัว ไปนานมากๆ
และนักอ่านหลายท่านที่ติดตาม คงลืมนิยายอริฌาไปแล้วแน่ๆ
ขอโทษ ที่หายหัวไปอีกเช่นเคย
จะพยายามเขียนนิยายต่อนะคะ (เริ่มไส้แห้งอ่ะ 555)






Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 มิ.ย. 2557, 14:57:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มิ.ย. 2557, 14:57:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1326





<< บทที่ 10 มัดเอาไว้เลยดีกว่า....   บทที่ 12 หลงเสน่ห์ขวัญใจ... >>
lovemuay 7 มิ.ย. 2557, 18:04:39 น.
หายไปนานจริงๆค่ะ +55


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account